salam
โรคเก๊าท์ (Gout)โรคของคนเริ่มสูงอายุ
โรคเกาต์
เป็นข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดจากการมีกรดยูริก(Uric acid)มากในร่างกายแล้วไปสะสมอยู่ตามข้อหรือกระดูกอ่อน กรดยูริกเกิดขึ้นในร่างกายได้ 2 ช่องทาง
ช่องทางแรกคือ เกิดจากการเผาผลาญสารอาหารที่มี เพียวรีน(Purine)มากเกินไป
และ ช่องทางที่สอง เกิดจากการสลายตัวของเซลล์ในร่างกายของคนที่มีอายุมากขึ้น
ดังนั้นคนที่สูงอายุจึงมีโอกาสเป็นโรคเกาต์กันได้ทุกคน
โรคนี้ พบบ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เพราะฮอร์โมนเพศหญิงคือ เอสโตรเจนนั้นคอยควบคุมระดับกรดยูริกเอาไว้
ถ้าผู้หญิงเป็นเกาต์ก็มักเป็นหลังหมดประจำเดือนแล้ว ผู้หญิงคนไหนเริ่มเป็นเกาต์ โปรดทราบว่าท่านแก่แล้ว
อาการ
มักมีอาการเกิดขึ้นทันทีทันใด ไม่มีการเตือนมาก่อน เริ่มปวดข้อตอนเช้า ปวดมากตอนสาย พอตกเย็นปวดมากจนเดินไม่ได้
มักจะเริ่มที่ข้อเล็ก ๆ โดยเฉพาะข้อนิ้วหัวแม่เท้าก่อน แต่จะเป็นข้อไหนก่อนก็ได้เหมือนกัน ที่สำคัญคือจะมีอาการที่เป็นลักษณะ
ครบถ้วนของการอักเสบ คือ ปวด บวม แดงและร้อน อาการปวดข้ออย่างเดียวไม่สนับสนุนการเป็นโรคเกาต์ ถ้าไม่บวม แดงและร้อน
ถึงแม้จะไม่รักษา อาการปวดแบบทรมานก็อาจหายไปได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
แต่ถ้ารักษา ก็หายอย่างเร็วเหมือนตอนเริ่มเป็น แล้วจะเข้าสู่ระยะพัก
เมื่อเข้าสู่ระยะพัก อาการจะสงบเหมือนไม่เคยเป็นอะไรเลย แต่แล้วก็อาจกำเริบขึ้นใหม่ เมื่อดื่มสุรา(สุราเป็นของหมักดองและทำให้เซลล์เสื่อมสลาย)หรือรับประทานของแสลง
อาการแทรกซ้อน
ถ้ากรดยูริกมาก จะผสมกับโซเดียม เกิดเป็นเกลือ โซเดียมยูเรต ไปตกผลึกอยู่ตามข้อ ตามเส้นเอ็น คลำได้เป็นตุ่มเป็นก้อน
เรียกว่า ปุ่มเกาต์ (Gout trophies) ถ้าไปสะสมอยู่ที่ทางเดินปัสสาวะ ทำให้เป็นนิ่วในไต เป็นนิ่วชนิดที่มองไม่เห็นด้วยรังสีเอกซ์
(คือถ่ายX-Rayแล้วมองไม่เห็น) ถ้าสะสมมาก ๆ อาจถึงขั้นไตวายได้
การวินิจฉัย
วินิจฉัยได้จากอาการ คือ ปวดข้อฉับพลัน บวม แดง ร้อน โดยเฉพาะข้อเล็ก ๆ ที่พบบ่อยคือ ข้อนิ้วหัวแม่เท้า ถ้าตรวจเลือด
จะพบกรดยูริกสูงในเลือด แต่ถ้าตรวจพบกรดยูริกสูงในเลือดเพียงอย่างเดียว โดยไม่ปวดข้อ ไม่ถือเป็นโรคเกาต์
การรักษา
ในระยะเฉียบพลัน (1)ให้การรักษาด้วยยาแก้ปวด จำพวกยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น อินโดเมธาซิน(Indomethacin)
ไอบูโปรเฟน(Ibuprofen) พิร็อกซิแคม(Piroxicam) การ์บาเพนติน(Garbapentin) หรือพรีกาบาลิน(Pregabalin)
2 ตัวหลังนี้ค่อนข้างจะเป็นยาที่มีราคาสูง
ยาเกือบทุกตัวมีผลต่อกรดในกระเพาะอาหาร อาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ ต้องรับประทานหลังอาหารทันที
หรือถ้าปวดมาก ๆ ก็อาจต้องเริ่มด้วยยาชนิดฉีดก่อน แล้วเปลี่ยนเป็นยากินเมื่ออาการดีขึ้นแล้ว
(2)เสริมด้วยยาลดกรดยูริก ยาลดกรดยูริกนั้นต้องกินนานและต่อเนื่อง ข้อเสียของยาชนิดนี้ ถ้าแพ้มักจะรุนแรง
การป้องกัน
กรดยูริกเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งจากการสลายตัวของเซลล์ที่หมดอายุและสารอาหารที่มีเพียวรีนมาก เซลล์ที่หมดอายุนั้นไม่สามารถควบคุมได้
แต่สารอาหารที่มีเพียวรีนมากสามารถควบคุมได้โดยการลดอาหารบางประเภท อย่างที่รู้กันดีอยู่ คือ อาหารหมักดอง ยอดผัก เมล็ดแตงกวา
เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ใหญ่ทุกชนิด โดยเฉพาะสัตว์ปีก จากการศึกษาพบว่า อาหารที่กินแล้วให้สารเพียวรีน(ที่เผาผลาญแล้วกลายเป็นกรดยูริกมาก ๆ )
ได้แก่อาหารต่อไปนี้ตามลำดับ คือ
1.หัวใจไก่ 2.ไข่ปลา 3.ตับไก่ 4.มันสมองวัว 5.กึ๋นไก่ 6.หอย 7.เซ่งจี้(ไตหมู) 8.ห่าน 9.ตับหมู 10.น้ำต้มกระดูก 11.ปลาดุก
12.ยีสต์ 13.เนื้อไก่, เป็ด 14.ซุปก้อน 15.กุ้งชีแฮ้ 16.น้ำซุปต่าง ๆ 17.น้ำสกัดเนื้อ 18.ปลาไส้ตัน 19.ถั่วดำ 20.ปลาขนาดเล็ก
21.ถั่วแดง 22.เห็ด 23.ถั่วเขียว 24.กระถิน 25.ถั่วเหลือง 26.ตับอ่อน 27.ชะอม 28.ปลาอินทรีย์ 29.กะปิ 30.ปลาซาร์ดีนกระป๋อง
จากประสบการรักษาพบว่า สาเหตุที่ทำให้เกาต์กำเริบได้บ่อยก็คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
ถือเป็นวาสนาของมุสลิมที่ เครื่องดื่มนี้เป็นที่ต้องห้าม มีหะดีษระบุว่า
" ได้มีผู้นำเหยือก 2 ใบมาให้ท่านนะบียฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ที่อีลิยาอ์(บัยตุลมักดิส)บรรจุสุราและน้ำผึ้ง ในคืนอิสรออุ์
ท่านได้มองไปยังเหยือกทั้งสอง และหยิบเอาเหยือกน้ำนม ญิบรีลได้กล่าวว่า อัลหัมดุลิลลาฮฺ ผู้ทรงชี้ทางอันบริสุทธิ์แก่ท่าน
ถ้าแม้นท่านหยิบเหยือกสุรา ประชากรของท่านต้องหลงผิดและพินาศ" บันทึกโดยบุคอรียฺและมุสลิม
มุสลิมคนไหนยังไม่ได้ฟังประวัตินะบียฺตอนนี้ หลงไปดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้า นอกจากจะหะรอมแล้ว
ระวังโรคเกาต์กำเริบบ่อย ๆ แล้วจะมาหาว่าบังหมัดไม่เตือนไม่ได้นะครับ
วัสสลาม
Re: โรคเก๊าท์ (Gout)โรคของคนเริ่มสูงอายุ By: hiddenmin Date: ก.พ. 22, 2010, 07:26 PM
11.ปลาดุก
13.เนื้อไก
18.ปลาไส้ตัน
20.ปลาขนาดเล็ก
30.ปลาซาร์ดีนกระป๋อง
^
^
กินบ่อยๆ ทั้งนั้น แล้วข้อ 18กับ20 รวมไปถึงดูบูกับน้ำปลาด้วยหรือเปล่า
แถมนิดนึง
5. ซูเราะฮฺ อัล-มาอิดะฮฺ (Al-Maidah)
90. ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! ที่จริงสุราและการพนันและแท่นหินสำหรับเชือดสัตว์บูชายัญ(*1*) และการเสี่ยงติ้ว(*2*)นั้นเป็นสิ่งโสมมอันเกิดจากการกระทำของชัยฏอน(*3*) ดังนั้นพวกเจ้าจงห่างไกลจากมันเสียเพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความสำเร็จ
(1) เป็นแท่นหินที่ถูกวางไว้รอบ ๆ กะฮ์บะฮ์ โดยที่พวกมุชริกถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และทำการเคารพบูชากัน
(2) ได้อธิบายไว้แล้วในอายะฮ์ที่สามของซูเราะฮ์ อัล-มาอิดะฮ์ โปรดกลับไปดูใหม่
(3) หมายถึงการชี้นำของมัน แล้วมนุษย์ก็หลงเชื่อ
ปล.
เมื่อไหร่ของ เรา จะมีซักที จะได้ไม่ต้องไปก๊อปของเขา
Re: โรคเก๊าท์ (Gout)โรคของคนเริ่มสูงอายุ By: Bangmud Date: ก.พ. 22, 2010, 07:45 PM
salam
11.ปลาดุก
13.เนื้อไก
18.ปลาไส้ตัน
20.ปลาขนาดเล็ก
30.ปลาซาร์ดีนกระป๋อง
^
^
กินบ่อยๆ ทั้งนั้น แล้วข้อ 18กับ20 รวมไปถึงดูบูกับน้ำปลาด้วยหรือเปล่า
ปล.
เมื่อไหร่ของ เรา จะมีซักที จะได้ไม่ต้องไปก๊อปของเขา
1. น่าแปลกที่ น้ำปลา บูดู และกะปิ ต่างก็เป็น Fermented food เหมือนกัน แต่น้ำปลากับน้ำบูดู ไม่ค่อยมีเพียวรีน
ในขณะที่ กะปิ และ เนื้อปลาบูดู กลับมีเพียวรีนมากพอสมควร อายุขนาดสมาชิกในเวบนี้ส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีคนเป็นเกาต์ รอให้สูงวัยกว่านี้ สักใกล้ ๆ 50
อ้างถึง
เมื่อไหร่ของ เรา จะมีซักที จะได้ไม่ต้องไปก๊อปของเขา
2. เมื่อเอยก็เมื่อนั้น ท่านแอดมิน เริ่ม ก็มีคนร่วมด้วยมากมายแน่นอน
วัสสลาม
Re: โรคเก๊าท์ (Gout)โรคของคนเริ่มสูงอายุ By: กอ-กล้วย Date: ก.พ. 23, 2010, 12:45 PM
วะอะลัยกุมุสสลามวะเราะฮฺมะตุลลอฮฺวะบะรอกาตุฮฺ
ญาซากัลลอฮุค็อยรอนคะบังหมัด จะได้พิถีพิถันในการรับประทานอาหารมากยิ่งขึ้น
มีข้อสงสัยคะ อันนี้ อาจจะนอกประเด็นคะ อยากทราบว่า "ยีสต์"
1. หมายถึงยีสต์ที่ใช้หมักขนมปัง หรือก้อนโรตีใช่มั้ยคะ ถ้าใช่ แสดงว่า อาหารดังกล่าวก็ควรหลีกเลี่ยงด้วย
2. ยีสต์ ช่วยให้การดูดซึมแคลเซียมของร่างกายดีขึ้นจริงหรอคะ แล้วมันไปช่วยในการดูดซึมอย่างไร
วัสสลามุอะลัยกุมวะเราะฮฺมะตุลลอฮฺวะบะรอกาตุฮฺ
Re: โรคเก๊าท์ (Gout)โรคของคนเริ่มสูงอายุ By: AUZULODEEN Date: ก.พ. 23, 2010, 01:57 PM
salam
ผมมีเพื่อนคนหนึ่งเค้าเจ็บหัวเข่ามากไปหหมอๆบอกว่าเป็นเก๊า หลังจากรักษาไปๆมาๆ กลายเป็นมะเร็ง จนหมอต้องตัดขาทิ้งเพราะมันเน่า ต่อมา3เดือนตายเลย
Re: โรคเก๊าท์ (Gout)โรคของคนเริ่มสูงอายุ By: Bangmud Date: ก.พ. 23, 2010, 03:24 PM
วะอะลัยกุมุสสลามวะเราะฮฺมะตุลลอฮฺวะบะรอกาตุฮฺ
ญาซากัลลอฮุค็อยรอนคะบังหมัด จะได้พิถีพิถันในการรับประทานอาหารมากยิ่งขึ้น
มีข้อสงสัยคะ อันนี้ อาจจะนอกประเด็นคะ อยากทราบว่า "ยีสต์"
1. หมายถึงยีสต์ที่ใช้หมักขนมปัง หรือก้อนโรตีใช่มั้ยคะ ถ้าใช่ แสดงว่า อาหารดังกล่าวก็ควรหลีกเลี่ยงด้วย
2. ยีสต์ ช่วยให้การดูดซึมแคลเซียมของร่างกายดีขึ้นจริงหรอคะ แล้วมันไปช่วยในการดูดซึมอย่างไร
วัสสลามุอะลัยกุมวะเราะฮฺมะตุลลอฮฺวะบะรอกาตุฮฺ
1.ใช่ครับ
2. ไม่รู้จริง ๆ ครับ จำได้แต่ว่า แคลเซียมดูดซึมดีในภาวะที่เป็นกรดและมีวิตามินดี และสัมพันธ์กับเกลือฟอสเฟต แต่สัมพันธ์ยังไงก็เลือน ๆ อีกเหมือนกัน
อ้างถึง
ผมมีเพื่อนคนหนึ่งเค้าเจ็บหัวเข่ามากไปหหมอๆบอกว่าเป็นเก๊า หลังจากรักษาไปๆมาๆ กลายเป็นมะเร็ง จนหมอต้องตัดขาทิ้งเพราะมันเน่า ต่อมา3เดือนตายเลย
เก๊าต์ มักไม่ค่อยเป็นกับข้อใหญ่ ๆ ครับ นอกจากเป็นมาก ๆ ดังนั้นถ้าปวดข้อใหญ่ ๆ นึกถึงเกาต์เป็นอันดับท้าย ๆ อาการที่น่าจะเป็นลักษณะเฉพาะของเกาต์ก็คือ ปวดฉับพลันมาก เริ่มปวดตอนเช้า ตอนสายข้อนั้นเกือบขยับไม่ได้ และถ้าให้ยาถูกโรค อาการก็หายเร็วมาก(แต่เป็นได้อีก)
อย่างที่กล่าวแล้ว ผู้หญิงไม่ค่อยเป็นโรคเกาต์ จนกว่าจะเข้าวัยทอง อยากกินอะไรก็กินเถอะครับ ถ้าหะลาลและหะหร่อย
วัสสลาม