การกลับมาของวิญญาณผู้ตาย โดย ชัยคฺมุฟตีย์ อะลีย์ ญุมอะฮฺ By: Muftee Date: มี.ค. 14, 2010, 06:02 AM
วิญญาณของผู้ตายจะกลับมายังครอบครอบของเขาในวันพฤหัสบดี จริงหรือ ?? โดย ชัยคฺ อะลีย์ ญุมอะฮฺ มุฟตีย์ใหญ่แห่งอียิปต์
คำถาม : จริงหรือไม่ที่วิญญาณของผู้ตายนั้นจะคิดถึงครอบครัวของตนเองและจะกลับมาเยี่ยมครอบครัวของเขาในทุกๆ วันพฤหัสบดี ??
คำตอบ : เรื่องราวในลักษณะเช่นนี้ไม่ถูกกล่าวถึงในอัลกุรอานและไม่มีรายงานมาจากอัลหะดิษ ว่า วิญญาณผู้ตายจะกลับมาวนเวียนเยี่ยมเยียนบ้านของตนเองหลังจากที่ตนได้ตายจากไป อัลลอฮฺทรงตรัสว่า..
ومن ورآئهم برزخ إلى يوم يبعثون
“และเบื้องหน้าของพวกเขานั้นมีโลกบัรซัค จนกระถึงวันที่พวกเขาจะถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมา” (ซูเราะฮฺ อัล-มุอฺมินูน : 100)
ซึ่งตรงนี้แสดงให้เห้นว่าวิญญาณนั้นจะถูกยกขึ้นไปยังพระผู้อภิบาลของพวกเขาแล้ว และจะไปอยู่ในโลกบัรซัคจนกระทั่งวันกิยามะฮฺและจะไม่กลับออกไปไหนทั้งนั้น นอกจากด้วยกับการยินยอมจากพระองค์อัลลอฮฺเท่านั้น
ดู فتاوى البيت المسلم โดย ชัยคฺ อะลีย์ ญุมอะฮฺ มุฟตีย์ใหญ่แห่งอียิปต์ หน้าที่ 178
Re: การกลับมาของวิญญาณผู้ตาย โดย ชัยคฺมุฟตีย์ อะลีย์ ญุมอะฮฺ By: nada-yoru Date: มี.ค. 14, 2010, 07:51 AM
salam
ญะซากัลลอฮุคอยรอนค่ะ
วัสลามค่ะ
Re: การกลับมาของวิญญาณผู้ตาย โดย ชัยคฺมุฟตีย์ อะลีย์ ญุมอะฮฺ By: ฮุ้นปวยเอี๊ยง Date: มี.ค. 14, 2010, 10:00 AM
ผมค่อนข้างสับสนกับอากีดะห์ตัวเองแล้วครับ กลับ หรือ ไม่กลับ กันแน่
http://www.alisuasaming.com/qa/index.php?topic=39.0
Re: การกลับมาของวิญญาณผู้ตาย โดย ชัยคฺมุฟตีย์ อะลีย์ ญุมอะฮฺ By: Muftee Date: มี.ค. 15, 2010, 12:22 AM
ความจริงทั้งในสิ่งที่ท่าน อาจารย์ อะลีย์ เสือสมิง ตอบไป ก็ไม่ได้ขัดกับที่ มุฟตีย์อะลีย์ ญุมอะฮฺ ตอบไปเลย...ความจริงในเรื่องแบบนี้ไม่ได้มีมาในอัล-กุรอานและหะดิษเลย และท่านอาจารย์ อะลีย์ ก็บอกแล้วว่าเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องคุรอฟาตเป็นเรื่องราวที่เสียหาย ไม่มีความน่าเชื่อถือเลย...และส่วนใหญ่ก็เป็นแค่เรื่องเอี๊ยะติมาล (คาดว่าน่าจะเป็นแบบนั้นแบบนี้) เท่านั้น เรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเอี๊ยะติกอด ซึ่งเป็นเรื่องของหลักการยึดมั่นและอีกทั้งเป็นเรื่องฆัยบียะฮฺ (เรื่องราวที่เร้นลับ) ดังนั้น จึงต้องอาศัยหลักฐานที่เศาะเฮี๊ยะมารองรับ หรือไม่ก็ปล่อยไปเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ ที่เราไม่ต้องเข้าไปก้าวก่าย

Re: การกลับมาของวิญญาณผู้ตาย โดย ชัยคฺมุฟตีย์ อะลีย์ ญุมอะฮฺ By: Almujahid Date: มี.ค. 15, 2010, 04:17 PM
แล้วคนที่เชื่อเขาไปเอาจากไหนหรอ
แต่ที่แน่ๆพวกบาเรลวีจะมีความเชื่อแบบนี้ ใน3จวก็ยังมีอีกที่เชื่อผิดๆแบบนี้
Re: การกลับมาของวิญญาณผู้ตาย โดย ชัยคฺมุฟตีย์ อะลีย์ ญุมอะฮฺ By: Muftee Date: มี.ค. 15, 2010, 05:14 PM
แล้วคนที่เชื่อเขาไปเอาจากไหนหรอ
แต่ที่แน่ๆพวกบาเรลวีจะมีความเชื่อแบบนี้ ใน3จวก็ยังมีอีกที่เชื่อผิดๆแบบนี้
เอามาจากไหนนะหรอ ครับ...ก็อย่างที่อาจารย์ อะลีย์ เสือสมิง บอกในลิ้งค์ด้านบน นะแหละครับ....
Re: การกลับมาของวิญญาณผู้ตาย โดย ชัยคฺมุฟตีย์ อะลีย์ ญุมอะฮฺ By: Goddut Date: มี.ค. 15, 2010, 10:11 PM
บางอุลามะ ได้กล่าวไว้ว่า
"บรรดามนุษย์ทั้งหลาย จะมีญินประจำตัวของเขาอยู่"
อธิบายได้ว่าการปรากฎณ์กายของพวกเขา ครั้งที่พวกเขานั้นอยู่ในอะลัมบัรซัก
สิ่งเหล่านั้น อาจจะมีเหตุได้ว่า การที่พวกเขานั้นมีสิทธิที่ออกมานั้น ในบางทีอาจจะมาจากญินเหล่านั้นจำแลงร่างมา...
วัลลอฮฺอลัม
วัสลาม...
Re: การกลับมาของวิญญาณผู้ตาย โดย ชัยคฺมุฟตีย์ อะลีย์ ญุมอะฮฺ By: ฮุ้นปวยเอี๊ยง Date: มี.ค. 16, 2010, 11:41 PM
ผมได้ถามคำถามนี้จากคนจบอูซูลอัซฮัรเป็นบังคนหนึ่งที่แวะเวียนในนี้ ผมถามว่าบังตามคำฟัตวาเชคอาลีญุมอะฮ์ไหมเกี่ยวกับคำถามนี้ แกตอบว่าแกเชื่อคำพูดอีหม่ามซายูตีว่าวิญญาณกลับ
Re: การกลับมาของวิญญาณผู้ตาย โดย ชัยคฺมุฟตีย์ อะลีย์ ญุมอะฮฺ By: Muftee Date: มี.ค. 17, 2010, 02:19 AM
ผมได้ถามคำถามนี้จากคนจบอูซูลอัซฮัรเป็นบังคนหนึ่งที่แวะเวียนในนี้ ผมถามว่าบังตามคำฟัตวาเชคอาลีญุมอะฮ์ไหมเกี่ยวกับคำถามนี้ แกตอบว่าแกเชื่อคำพูดอีหม่ามซายูตีว่าวิญญาณกลับ
อิมามซายูตีย์ พูดไว้ว่าอย่างไร ในตำราเล่มไหนหรอครับ ช่วยให้บังคนนั้นบอกมาด้วย 
Re: การกลับมาของวิญญาณผู้ตาย โดย ชัยคฺมุฟตีย์ อะลีย์ ญุมอะฮฺ By: Almujahid Date: มี.ค. 17, 2010, 04:21 PM
ผมได้ถามคำถามนี้จากคนจบอูซูลอัซฮัรเป็นบังคนหนึ่งที่แวะเวียนในนี้ ผมถามว่าบังตามคำฟัตวาเชคอาลีญุมอะฮ์ไหมเกี่ยวกับคำถามนี้ แกตอบว่าแกเชื่อคำพูดอีหม่ามซายูตีว่าวิญญาณกลับ
อยากทราบเช่นกันครับ
อิมามซายูตีย์ พูดไว้ว่าอย่างไร ในตำราเล่มไหนหรอครับ ช่วยให้บังคนนั้นบอกมาด้วย 
Re: การกลับมาของวิญญาณผู้ตาย โดย ชัยคฺมุฟตีย์ อะลีย์ ญุมอะฮฺ By: Hakeem Date: มี.ค. 17, 2010, 09:50 PM
อิมามซายูตีย์ พูดไว้ว่าอย่างไร ในตำราเล่มไหนหรอครับ ช่วยให้บังคนนั้นบอกมาด้วย
[/b]
ใช่ตรงนี้หรือปล่าวครับ..ที่ต้องการ
بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ ،،، وَبعْدُ ؛
ทำไมชอบอ่านในวันศุกร์หรือคืนวันศุกร์ เพราะท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "วันที่เลิศที่สุด ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นนั้น คือวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันนบอาดัมถูกสร้าง ถูกนำเข้าสรวงสวรรค์และถูกนำออกจากสวรรค์" รายงานโดยมุสลิม และเป็นที่ทราบดีว่าวันศุกร์มีความประเสริญมากกว่าวันอื่น ๆ ดังนั้นตอนกลางคืนของวันศุกร์ก็เช่นเดียวกัน เพราะกลางคืนย่อมตามความประเสริฐของกลางวัน
อนึ่ง การเจาะจงวันหรือคืนในการทำความดีงามหนึ่ง ๆ นั้นเป็นสิ่งที่ศาสนาอนุญาตให้กระทำได้
ท่านอิบนุอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุมา ได้กล่าวว่า
كَانَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَأْتِي مَسْجِدَ قُبَاءٍ كُلَّ سَبْتٍ مَاشِيًا وَرَاكِبًا وَكَانَ عَبْدُ اللَّهِ بْنُ عُمَرَ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُمَا يَفْعَلُهُ
"ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้มาที่มัสยิดกุบาอฺทุกวันเสาร์โดยการเดินและขี่พาหนะ และอับดุลเลาะฮ์ อิบนุ อุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุมา ได้กระทำสิ่งดังกล่าว" รายงานโดยบุคอรี (1118)
ท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ ฮะญัร ได้อธิบายฮะดีษนี้ไว้ในหนังสือ ฟัตฮุลบารีย์ของท่านความว่า
وَفِي هَذَا اَلْحَدِيثِ عَلَى اِخْتِلَاف طُرُقِهِ دَلَالَة عَلَى جَوَاز تَخْصِيص بَعْضِ اَلْأَيَّامِ بِبَعْضِ اَلْأَعْمَالِ اَلصَّالِحَةِ وَالْمُدَاوَمَةِ عَلَى ذَلِكَ
"และในฮะดีษนี้ ทั้งที่มีสายรายงานที่แตกต่างกัน ก็บ่งชี้ถึงว่า อนุญาตให้เจาะจงบางวันได้สำหรับการปฏิบัติอะมัลที่ดีงามและทำมันให้เป็นประจำต่อสิ่งดังกล่าวได้"
ดังนั้น การอ่านอัลกุรอาน เช่น ยาซีนย่อมเป็นสิ่งที่ดีงาม ก็อนุญาตให้เจาะจงวันหรือคืนที่เราสะดวกจะกระทำได้
รายงานจากท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "ผู้ใดอ่านยาซีนในค่ำคืนใดคืนหนึ่ง เขาจะถูกอภัยโทษให้ และผู้ใดที่อ่านซูเราะฮ์อัดดุคอนในคืนวันศุกร์ เขาจะถูกอภัยโทษให้"
ฮะดิษนี้ท่านอิบนุเญาซีย์ กล่าวว่า "ในฮะดิษนี้มี มุฮัมมัด บิน ซะการียา ซึ่งเขากุฮะดิษ" และท่านอิมามอัสสะยูฏีย์ โต้คัดค้านว่า "ฮะดิษนี้มีสายรายงานมากมายจาก อบูฮุร๊อยเราะฮ์ ซึ่งสายรายงานบางส่วนนั้น อยู่บนเงื่อนไขที่ซอฮิห์ ที่ท่านอัตติรมีซีย์ได้นำเสนอรายงาน และท่านอัลบัยฮะกีย์ได้นำเสนอรายงานไว้ใน หนังสือชะอฺบุนอีหม่านไว้หลายสายรายงานด้วยกัน" (ดู หนังสือ อันนุกัตอัลบะดีอาต หน้า 58 - 59 ของท่านอิมามอัสสะยูฏีย์)
ท่านอิมามชาฟีอีย์(ร.ฏ.) ได้กล่าวไว้ในหนังสืออัลอุม ว่า "ได้รับทราบถึงเราว่า แท้จริงดุอาอ์จะถูกตอบรับ(เป็นพิเศษ) ในห้าคืน คือ คืนวันศุกร์ คืนอีดอัฏฮา คืนอีดฟิตร์ คืนแรกของเดือนระญับ และคืนนิสฟูชะอฺบาน" ดู 2 /264
เป็นที่ทราบกันดีว่า ยาซีนนั้น พี่น้องจะถนัดอ่านกันมาก และเป็นซูเราะฮ์ไม่ยาวมากนัก แต่เราก็จะพบว่าพี่น้องที่อ่านยาซีนไม่ได้นั้น ผู้รู้จะแนะนำให้อ่าน กุลฮุวัลลอฮ์ ทดแทน เพื่อเป็นความสะดวกแก่เขาในการทำอิบาดะฮ์
ท่านอิบนุอับบาสรายงานว่า ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "หรือว่าคนใดจากพวกท่านไม่มีความสามารถอ่านเศษหนึ่งส่วนสามของอัลกุรอานในค่ำคืนหนึ่ง? บรรดาซอฮาบะฮ์กล่าวถามว่า เขาจะอ่านเศษหนึ่งส่วนสามจากอัลกุรอานได้อย่างไร? ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "กุลฮุวัลลอฮุอะฮัด" เท่ากับเศษหนึ่งส่วนสามของอัลกุรอาน" รายงานโดยมุสลิม
ส่วนซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟีนั้น เป็นซูเราะฮ์ที่ยาว คนเอาวามส่วนมากอ่านไม่ค่อยชำนาญ แต่สำหรับผู้ที่อ่านอัลกุรอานได้ถูกต้องและมีความชำนาญ ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะอ่านซูเราะฮ์ อัลกะฮ์ฟีในวันศุกร์ เพราะมีฮะดิษซอฮิห์ได้ระบุไว้ว่า
"ผู้ใดที่อ่านซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟีในวันศุกร์ รัศมีจะแผ่คลุมแก่เขาในระหว่างสองวันศุกร์" รายงานโดยติรมีซีย์ ฮะดิษซอฮิห์
ดังนั้น การอ่านซูเราะฮ์ยาซีนกับซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟีย์ มิใช่บ่งชี้ว่าอ่านซูเราะฮ์ยาซีนวันศุกร์เป็นบิดอะฮ์ลุ่มหลงตกนรกส่วนซูเราะฮ์กะฮ์ฟีย์นั้นเป็นซุนนะฮ์โดยห้ามอ่านซูเราะฮ์อื่น เพราะการอ่านซูเราะฮ์ยาซีนและอัลกะฮ์ฟีล้วนมีหลักซุนนะฮ์มารับรอง แต่ทว่าเป็นความแตกต่างในเรื่องของความดีเลิศ ดังนั้น หากพิจารณาถึงในแง่การอ่านอัลกุรอาน แน่นอนว่าการอ่านซูเราะฮ์กะฮ์ฟีในวันศุกร์ย่อมดีเลิศกว่าการอ่านยาซีน แต่หากคนเอาวามทั่วไปอ่านกะฮ์ฟีไม่ได้หรือไม่ค่อยชำนาญ แน่นอนว่า การอ่านซูเราะฮ์ยาซีนย่อมดีเลิศสำหรับตัวเขายิ่งกว่าการไม่ได้อ่านอัลกุรอานเลย
ส่วนเรื่องวิญญาณของญาติ ๆ มาวนเวียนเพื่อมาดูแลความทุกข์สุขของญาติ ๆ พี่น้องที่มีชีวิตอยู่นั้น ไม่พบหลักฐานแน่ชัด แต่การอ่านอัลกุรอานและซิกรุลลอฮ์แล้วขอดุอาอ์ให้แก่มัยยิดนั้น ให้กระทำได้ โดยไม่ได้วางเงื่อนไขว่าต้องทำวันศุกร์หรือไม่ใช่วันอื่น ๆ จากวันศุกร์ แต่หากจะทำวันศุกร์ก็ไม่ผิดอันใด
ท่านอิมามมาลิก บิน อะนัส กล่าวว่า "ได้ทราบมาถึงฉันว่า แท้จริงวิญญาณของบรรดามุอ์มินนั้น จะถูกปล่อย(ให้เป็นอิสระ) ซึ่งวิญญาณจะไปสถานที่ใดก็ได้ตามต้องการ" ซึ่งอิมามอัศศะยูฏีย์ ได้กล่าวบันทึกไว้ในหนังสือ ฟัตวาของท่าน ที่ชื่อ อัลหาวีย์ ลิลฟะตาวา และหนังสือ อัรรั๊วะห์ ของท่านอิบนุก๊อยยิม ท่านอิมามชาฟีอีย์(ร.ฏ.) ได้กล่าวไว้ในหนังสืออัลอุม ว่า "ได้รับทราบถึงเราว่า แท้จริงดุอาอ์จะถูกตอบรับ(เป็นพิเศษ) ในห้าคืน คือ คืนวันศุกร์ คืนอีดอัฏฮา คืนอีดฟิตร์ คืนแรกของเดือนระญับ และคืนนิสฟูชะอฺบาน" ดู 2 /264
ท่านอิมาม อันนะวาวีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ เราเฏาะฮ์ อัตตอลิบีน ว่า "ได้รับทราบถึงเราว่า แท้จริงดุอาอ์จะถูกตอบรับ(เป็นพิเศษ) ในห้าคืน คือ คืนวันศุกร์ คืออีดอัฏฮา คืนอีดฟิตร์ คือแรกของเดือนระญับ และคืนนิสฟูชะอฺบาน และและอิมามชาฟิอีย์(ร.ฏ.) กล่าวว่า "ข้าพเจ้ารัก(ที่จะให้กระทำ)กับทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าได้รายงานเกี่ยวกับบรรดาคืนเหล่านี้ โดยที่ไม่ใช่เป็นฟัรดู" ดู 2/75
การได้รับผลบุญ ไม่ใช่หมายถึงวิญญาณของพ่อแม่ต้องเดินทางกลับมาเยื่ยมเพื่อมารับผล การที่บิดามารดาผู้ล่วงลับไปแล้วหรือพี่น้องมุสลิมที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น พวกเขาจะได้รับผลบุญที่คนเป็นได้มอบ(ฮะดียะอ์)ให้ โดยที่คนตายอยู่ในกุบูร และบรรดาผู้ล่วงลับไปแล้ว ก็สามารถรับรู้สถานะภาพและพฤติกรรมของคนเป็นได้ โดยสิ่งดังกล่าวจะถูกนำเสนอให้พวกเขาได้รับทราบ
ท่านอิมาม อัสศะยูฏีย์ (ร่อฮิมะฮุลลอฮ์) ได้กล่าวไว้ในหนังสือฟัตวาของท่านว่า
"ถูกรายงานจากมุฮัมมัด บิน วาเซี๊ยะอ์ เขากล่าวว่า ได้ทราบถึงฉันว่า แท้จริงบรรดาผู้ตายสามารถรู้ได้ถึงบรรดาผู้ที่ไปเยี่ยมเยือน(กุบูร)ของพวกเขาในวันศุกร์ และวันก่อนจากนั้น(คืนวันศุกร์ค่ำลง)และวันหลังจากนั้น(คืนวันเสาร์ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น) , ได้รายงานจากท่านอัฏฏ่อห์ฮาก ซึ่งเขากล่าวว่า ผู้ใดที่เยี่ยมกุบูรใน(คืน)วันเสาร์ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้น ผู้ตายก็จะรู้ถึงการเยี่ยมเยือนของเขา จึงถูกตั้งคำถามขึ้นว่า ดังกล่าวมันเป็นอย่างไรหรือ? ท่านอัฏฏ่อห์ฮากกล่าวว่า เพราะมันอยู่ในตำแหน่งของวันศุกร์"
ท่านอิมามอะห์มัดได้รายงานไว้ในหนังสือมุสนัดของท่าน จากท่านอะนัสบินมาลิก ว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "บรรดาอะมัลของพวกท่าน จะถูกนำเสนอแก่บรรดาเครือญาติของพวกท่าน และพวกพร้องของพวกท่านจากบรรดาผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ดังนั้น หากมันเป็นความดีงาม พวกเขาจะปลื้มปิติยินดี และหากไม่เช่นนั้น พวกเขาก็จะกล่าวว่า โอ้ อัลเลาะฮ์ พระองค์โปรดอย่าให้พวกเขาตาย จนกระทั่งพระองค์ทรงชี้นำพวกเขา เสมือนกับที่พระองค์ทรงชี้นำต่อพวกเราด้วยเถิด" (หะดิษนี้ซอฮิห์ - แม้ว่าอัลบานีย์(ร.ฮ.)เองเคยฮุกุมว่าหะดิษนี้ฏออีฟ แต่เขาได้ยกเลิกทัศนะดังกล่าวแล้ว ดู อัซซัลซิละฮ์ อัซซ่อฮิฮะห์ ของ อัลบานีย์ เล่ม 6 หน้า 605)
ท่านอัตติรมีซีย์ อัลหะกีม ได้กล่าวรายงานไว้ใหนหนังสือ นะวาดิร อัลอุซูล จากหะดิษของอับดุลฆ่อฟูร บิน อับดุลอะซีซ จากบิดาของเขา จากปู่ของเขา ว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "บรรดาอะมัลจะถูกนำเสนอต่ออัลเลาะฮ์ในวันจันทร์และวันพฤหัสบดีและบรรดาอะมัลจะถูกนำเสนอแก่บรรดานบีและบรรดาบิดามารดา ในวันศุกร์ ดังนั้น พวกเขาจะมีความปิติยินดี ด้วยบรรดาความดีงามต่าง ๆ ของที่มีชีวิตอยู่ ใบหน้าของพวกเขาจะมีสีขาวและเปล่งประกาย ดังนั้น พวกท่านจงยำเกรงต่ออัลเลาะฮ์ และพวกท่านจงอย่าสร้างความเดือนร้อนกับบรรดาผู้ตาย" ดู หนังสือ อัลฮาวีย์ ลิลฟาตาวา ของท่านอิมามอัศศะยูฏีย์ เล่ม 2 หน้า 206 ดารุลฟิกร์
จากสิ่งดังกล่าว จึงไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกที่พี่น้องมุสลิมจะอิจญฺฮาดขยันมั่นเพียรกระทำอิบาดะฮ์และซิกรุลลอฮ์ต่าง ๆ แล้วมอบฮะดียะฮ์ผลบุญแก่ผุ้ล่วงลับไปแล้วในวันศุกร์และอื่นจากวันศุกร์
อาจจะมีบางคนกล่าวว่า "เวลาทานข้าวคืนวันศุกร์ อย่าเอามือไปแตะข้าวในหม้อ อย่าตักข้าวจนเกลี้ยงหม้อ เพราะวิญญาณของญาติๆจะมาทานด้วย และห้ามปิดหม้อให้มิดชิด?" แท้จริง ความเชื่อเช่นนี้ ไม่มีที่มาจากหลักฐานของศาสนา เราต้องช่วยกันตักเตือนให้คนชราอาวุโสที่ที่มีความเชื่อเช่นนี้อยู่ให้ทราบว่า ความเชื่อนี้ไม่มีหลักการของศาสนา เพราะคนเอาวามทั่วไปในยุคก่อนนั้น ไม่ค่อยมีความรู้มากนัก เราต้องชี้แจงแบบนิ่มนวล ค่อยเป็นค่อยไป และมีฮิกมะฮ์
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ
...
การอ่านยาซีนในคืนวันศุกร์และความเชื่อท่านอิมาม อัสศะยูฏีย์ (ร่อฮิมะฮุลลอฮ์) ได้กล่าวไว้ในหนังสือฟัตวาของท่านว่า
"
ถูกรายงานจากมุฮัมมัด บิน วาเซี๊ยะอ์ เขากล่าวว่า ได้ทราบถึงฉันว่า แท้จริงบรรดาผู้ตายสามารถรู้ได้ถึงบรรดาผู้ที่ไปเยี่ยมเยือน(กุบูร)ของพวกเขาในวันศุกร์ และวันก่อนจากนั้น(คืนวันศุกร์ค่ำลง)และวันหลังจากนั้น(คืนวันเสาร์ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น) , ได้รายงานจากท่านอัฏฏ่อห์ฮาก ซึ่งเขากล่าวว่า ผู้ใดที่เยี่ยมกุบูรใน(คืน)วันเสาร์ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้น ผู้ตายก็จะรู้ถึงการเยี่ยมเยือนของเขา จึงถูกตั้งคำถามขึ้นว่า ดังกล่าวมันเป็นอย่างไรหรือ? ท่านอัฏฏ่อห์ฮากกล่าวว่า เพราะมันอยู่ในตำแหน่งของวันศุกร์"ท่านอิมามอะห์มัดได้รายงานไว้ในหนังสือมุสนัดของท่าน จากท่านอะนัสบินมาลิก ว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "บรรดาอะมัลของพวกท่าน จะถูกนำเสนอแก่บรรดาเครือญาติของพวกท่าน และพวกพร้องของพวกท่านจากบรรดาผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ดังนั้น หากมันเป็นความดีงาม พวกเขาจะปลื้มปิติยินดี และหากไม่เช่นนั้น พวกเขาก็จะกล่าวว่า โอ้ อัลเลาะฮ์ พระองค์โปรดอย่าให้พวกเขาตาย จนกระทั่งพระองค์ทรงชี้นำพวกเขา เสมือนกับที่พระองค์ทรงชี้นำต่อพวกเราด้วยเถิด" (หะดิษนี้ซอฮิห์ - แม้ว่าอัลบานีย์(ร.ฮ.)เองเคยฮุกุมว่าหะดิษนี้ฏออีฟ แต่เขาได้ยกเลิกทัศนะดังกล่าวแล้ว ดู อัซซัลซิละฮ์ อัซซ่อฮิฮะห์ ของ อัลบานีย์ เล่ม 6 หน้า 605)
ท่านอัตติรมีซีย์ อัลหะกีม ได้กล่าวรายงานไว้ใหนหนังสือ นะวาดิร อัลอุซูล จากหะดิษของอับดุลฆ่อฟูร บิน อับดุลอะซีซ จากบิดาของเขา จากปู่ของเขา ว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "บรรดาอะมัลจะถูกนำเสนอต่ออัลเลาะฮ์ในวันจันทร์และวันพฤหัสบดีและบรรดาอะมัลจะถูกนำเสนอแก่บรรดานบี บรรดาบิดามารดา ในวันศุกร์ ดังนั้น พวกเขาจะมีความปิติยินดี ด้วยบรรดาความดีงามต่าง ๆ ของพวกเขา ใบหน้าของพวกเขาจะมีสีขาวและเปล่งประกาย ดังนั้น พวกท่านจงยำเกรงต่ออัลเลาะฮ์ และพวกท่านจงอย่าสร้างความเดือนร้อนกับบรรดาผู้ตาย" ดู หนังสือ อัลฮาวีย์ ลิลฟาตาวา ของท่านอิมามอัศศะยูฏีย์ เล่ม 2 หน้า 206 ดารุลฟิกร์
จากสิ่งดังกล่าว จึงไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกที่พี่น้องมุสลิมจะอิจญฺฮาดขยันมั่นเพียรกระทำอิบาดะฮ์และซิกรุลลอฮ์ต่าง ๆ แล้วมอบฮะดียะฮ์ผลบุญแก่ผุ้ล่วงลับไปแล้วในวันศุกร์และอื่นจากวันศุกร์
Re: การกลับมาของวิญญาณผู้ตาย โดย ชัยคฺมุฟตีย์ อะลีย์ ญุมอะฮฺ By: Muftee Date: มี.ค. 17, 2010, 10:57 PM
ส่วนเรื่องวิญญาณของญาติ ๆ มาวนเวียนเพื่อมาดูแลความทุกข์สุขของญาติ ๆ พี่น้องที่มีชีวิตอยู่นั้น ไม่พบหลักฐานแน่ชัด แต่การอ่านอัลกุรอานและซิกรุลลอฮ์แล้วขอดุอาอ์ให้แก่มัยยิดนั้น ให้กระทำได้ โดยไม่ได้วางเงื่อนไขว่าต้องทำวันศุกร์หรือไม่ใช่วันอื่น ๆ จากวันศุกร์ แต่หากจะทำวันศุกร์ก็ไม่ผิดอันใด
ท่านอิมามมาลิก บิน อะนัส กล่าวว่า "ได้ทราบมาถึงฉันว่า แท้จริงวิญญาณของบรรดามุอ์มินนั้น จะถูกปล่อย(ให้เป็นอิสระ) ซึ่งวิญญาณจะไปสถานที่ใดก็ได้ตามต้องการ" ซึ่งอิมามอัศศะยูฏีย์ ได้กล่าวบันทึกไว้ในหนังสือ ฟัตวาของท่าน ที่ชื่อ อัลหาวีย์ ลิลฟะตาวา และหนังสือ อัรรั๊วะห์ ของท่านอิบนุก๊อยยิม ท่านอิมามชาฟีอีย์(ร.ฏ.) ได้กล่าวไว้ในหนังสืออัลอุม ว่า "ได้รับทราบถึงเราว่า แท้จริงดุอาอ์จะถูกตอบรับ(เป็นพิเศษ) ในห้าคืน คือ คืนวันศุกร์ คืนอีดอัฏฮา คืนอีดฟิตร์ คืนแรกของเดือนระญับ และคืนนิสฟูชะอฺบาน" ดู 2 /264
ขอคุณ คุณ Hakeem มากครับ ที่ได้นำเสนอเกร็ดความรู้ในเรื่องนี้ ในตำราของ อิมามซูยูตีย์ เองท่านก็ไม่ได้กล่าวว่า "วิญญาณจะกลับมาวนเวียนที่บ้านของตนเอง" อย่างแน่ชัด เป็นเพียงแค่การอ้างคำกล่าวของ อิมามมาลิก เท่านั้น...และท่าน อิมามมาลิก เองก็แค่รายงานเรื่องนี้ต่อมาจากคนที่ท่านเคยได้ยินมาแค่นั้นเอง ซึ่งในเรื่องนี้ไม่มีใครย้ำอย่างแน่ชัดว่า วิญญาณจะกลับมาวนเวียนที่บ้านของตนเอง อย่างแน่นอน แม้แต่คนเดียว...
ดังนั้น ในเรื่องอะกีดะฮฺ หรือในเรื่องโลกแห่งความเร้นลับ เมื่อไม่มีหลักฐานที่เศาะเฮี๊ยะฮฺยืนยันในเรื่องนั้นๆ อย่างแน่ชัด เราก็ไม่ควรปักใจเชื่ออย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่เราก็ไม่ปฏิเสธได้สะทีเดียวว่ามันจะเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะหากว่าอัลลอฮฺทรงประสงค์ที่จะให้วิญญาณกลับมาแล้ว แน่นอนสิ่งนั้นก็ย่อมเป็นไปได้ ดังนั้น จึงต้องรักษาชารีอะฮฺเอาไว้ก่อน .. ส่วนในกรณีนี้นั้น ต้องบอกได้แค่ว่าไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดที่มายืนยันในเรื่องนี้ ดังนั้น เราจึงไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายในกิจการงานของพระองค์....วัลลอฮุ ตะอาลา อะอฺลา วะอะอฺลัม 
Re: การกลับมาของวิญญาณผู้ตาย โดย ชัยคฺมุฟตีย์ อะลีย์ ญุมอะฮฺ By: ItQan Date: มี.ค. 17, 2010, 11:32 PM
วิญญาณจะไปอยู่ในโลกบัรซัคจนกระทั่งวันกิยามะฮฺและจะไม่กลับออกไปไหนทั้งนั้น นอกจากด้วยกับการยินยอมจากพระองค์อัลลอฮฺเท่านั้น
หากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ยินยอมให้วิญญาณออกมาได้ ก็ไม่มีผู้ใดห้ามพระองค์ได้เลย เพราะวิญญาณอยู่ในคำบัญชาของอัลลอฮ์และเป็นการงานของพระองค์เท่านั้น ส่วนวิญญาณจะออกมาวันนั้นวันนี้ คืนนั้นคืนนี้ ก็ต้องมีหลักฐานมาเจาะจงจ่ะ ดังนั้นวิญญาณจะมาหรือไม่มาก็ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่มีผลต่อลูกหลานที่มีชีวิตอยู่ แต่ที่สำคัญคืออัลลอฮ์จะให้วิญญาณรู้พฤติกรรมของลูกหลานที่มีชีวิตอยู่ , วิญญาณผู้ตายจะรู้สึกปีติยินดีหากลูกหลานมีพฤติกรรมที่ดี และผู้ตายก็จะขอดุอาให้แก่คนเป็นและ , และถ้าหากลูกหลานประพฤติไม่ดี พวกเขาก็จะเศร้าใจและผู้ตายก็ขอดุอาให้แก่คนเป็น , วัลลอฮุอะลัม
Re: การกลับมาของวิญญาณผู้ตาย โดย ชัยคฺมุฟตีย์ อะลีย์ ญุมอะฮฺ By: Muftee Date: มี.ค. 18, 2010, 12:26 AM
หากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ยินยอมให้วิญญาณออกมาได้ ก็ไม่มีผู้ใดห้ามพระองค์ได้เลย เพราะวิญญาณอยู่ในคำบัญชาของอัลลอฮ์และเป็นการงานของพระองค์เท่านั้น ส่วนวิญญาณจะออกมาวันนั้นวันนี้ คืนนั้นคืนนี้ ก็ต้องมีหลักฐานมาเจาะจงจ่ะ ดังนั้นวิญญาณจะมาหรือไม่มาก็ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่มีผลต่อลูกหลานที่มีชีวิตอยู่ แต่ที่สำคัญคืออัลลอฮ์จะให้วิญญาณรู้พฤติกรรมของลูกหลานที่มีชีวิตอยู่ , วิญญาณผู้ตายจะรู้สึกปีติยินดีหากลูกหลานมีพฤติกรรมที่ดี และผู้ตายก็จะขอดุอาให้แก่คนเป็นและ , และถ้าหากลูกหลานประพฤติไม่ดี พวกเขาก็จะเศร้าใจและผู้ตายก็ขอดุอาให้แก่คนเป็น , วัลลอฮุอะลัม
ถูกต้องครับ

Re: การกลับมาของวิญญาณผู้ตาย โดย ชัยคฺมุฟตีย์ อะลีย์ ญุมอะฮฺ By: Al Fatoni Date: มี.ค. 18, 2010, 10:46 AM
หากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ยินยอมให้วิญญาณออกมาได้ ก็ไม่มีผู้ใดห้ามพระองค์ได้เลย เพราะวิญญาณอยู่ในคำบัญชาของอัลลอฮ์และเป็นการงานของพระองค์เท่านั้น ส่วนวิญญาณจะออกมาวันนั้นวันนี้ คืนนั้นคืนนี้ ก็ต้องมีหลักฐานมาเจาะจงจ่ะ ดังนั้นวิญญาณจะมาหรือไม่มาก็ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่มีผลต่อลูกหลานที่มีชีวิตอยู่ แต่ที่สำคัญคืออัลลอฮ์จะให้วิญญาณรู้พฤติกรรมของลูกหลานที่มีชีวิตอยู่ , วิญญาณผู้ตายจะรู้สึกปีติยินดีหากลูกหลานมีพฤติกรรมที่ดี และผู้ตายก็จะขอดุอาให้แก่คนเป็นและ , และถ้าหากลูกหลานประพฤติไม่ดี พวกเขาก็จะเศร้าใจและผู้ตายก็ขอดุอาให้แก่คนเป็น , วัลลอฮุอะลัม
ถูกต้องครับ

เห็นด้วยอีกคนครับ เพราะสาระสำคัญไม่ได้อยู่วิญญาณผู้ตายจะมาได้หรือไม่ แต่ที่สำคัญคือ อยู่ที่ลูกหลานจะกระทำอะไรบ้างที่เป็นประโยชน์และเป็นที่ยินดีแก่ผู้ตาย เพราะผู้ตายจะรับรู้ถึงการกระทำของผู้เป็น โดยเฉพาะญาติพี่น้องของตน - วัลลอฮุอะอ์ลัม - วัสสลามุอลัยกุม