เรามาอธิบายความหมายคำว่า"ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"กันเถิด By: นูรุ้ลอิสลาม Date: มิ.ย. 07, 2007, 12:26 PM
อัสลามุอะลัยกุ้มวะเราะห์มะตุลลอฮ์วะบะร่อกาตุฮ์
لا إله إلا اللهถ้อยคำอันงดงามนี้ มีความหมาย มีคุณค่า ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ขอเชิญชวนพี่น้องที่มีความรู้เกี่ยวกับถ้อยคำอันงดงามนี้ เสวนาอธิบายได้ทั้งในเชิงตัฟซีร เชิงเตาฮีด เชิงตะเซาวุฟ และเชิงไวยากรณ์ กันได้เลยครับ มีให้พี่น้องเล็งเห็นของความสำคัญของถ้อยคำนี้
Re: เรามาอธิบายความหมายคำว่า"ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"กันเถิด By: นูรุ้ลอิสลาม Date: มิ.ย. 09, 2007, 07:22 PM
ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ (ซ.ล.) กล่าวว่า
"ผู้ใดที่สุดท้ายคำพูดของเขา ด้วยคำว่า "ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์" เขาจะได้เข้าสวรรค์" หะดิษซอฮิห์
Re: เรามาอธิบายความหมายคำว่า"ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"กันเถิด By: musalmarn Date: มิ.ย. 12, 2007, 11:19 AM
ฉันจะยึดมั่นอยู่กับ
ลาอิลา ฮะ อิลลัลลอฮ ตลอดอายุขัยของฉัน
ฉันจะใช้เวลาว่างของฉันไปกับ
ลาอิลา ฮะ อิลลัลลอฮ ฉันจะนำเอา
ลาอิลา ฮะ อิลลัลลอฮ ไปกับฉันด้วยในหลุมฝังศพ
ฉันจะพบกับพระผู้อภิบาลของฉันด้วย
ลาอิลา ฮะ อิลลัลลอฮ อามีน...
Re: เรามาอธิบายความหมายคำว่า"ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"กันเถิด By: บุคคลธรรมดา Date: มิ.ย. 12, 2007, 12:06 PM
เกิดมาเพื่อคำๆ นี้

Re: เรามาอธิบายความหมายคำว่า"ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"กันเถิด By: salamah Date: มิ.ย. 12, 2007, 01:34 PM
อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ์........ที่ในชีวิตนี้ได้เกิดมาเป็นบ่าวของพระองค์อัลเลาะฮ์และเป็นส่วนหนึ่งของประชาชาติมุสลิม........ลาอิลาฮะอิลลั้ลลอฮ์
ตอบตรงประเด็นหรือเปล่าคะนี่.........
Re: เรามาอธิบายความหมายคำว่า"ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"กันเถิด By: قطوف من أزاهير النور Date: มิ.ย. 12, 2007, 09:32 PM
ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ
แปลว่าไม่มีพระเจ้าใด ๆ เว้นแต่อัลลอฮฺ
แต่ความหมายว่ากัน 3 ปีก็ไม่จบ

หมายความว่า
ที่พระอาทิตย์ขึ้นก็อัลลอฮฺ
ที่พระจันทร์ทำหน้าที่ก็เพราะพระองค์
ที่โลกยังคงโคจรถูกทิศก็ด้วยพระเมตตา
ที่ ฯลฯ
และสุดท้ายที่หัวยังคงเต้นอยุ่ ก็เพราะพระองค์ เพื่อพระองค์ อินชาอัลลอฮฺ
Re: เรามาอธิบายความหมายคำว่า"ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"กันเถิด By: คนเดินดิน Date: มิ.ย. 13, 2007, 10:27 AM
;) ;) ;)
คนต่างศาสนาเค้าก็มีพระเจ้าของเขา
แต่พระเจ้าที่จะเสมอเหมือนกับพระเจ้าของเรานั้นไม่มี
และพระเจ้าที่แท้จริงมีเพียงหนึ่งเดียว
ขออนุญาตปู่อัลพรีเซ้นส์สโลแกนของปู่หน่อยนะคะ
อัลลอฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง

หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง
Re: เรามาอธิบายความหมายคำว่า"ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"กันเถิด By: isma-il Date: มิ.ย. 14, 2007, 09:47 AM
อยากให้ท่านผู้ช่วยอธิบาย
ในกาลีเมาะห์ "ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์" ที่มีผู้กล่าวว่า มี ปฏิเสธ (นาฟี) และยอมรับ (อิสบาบ)
คืออย่างไร
Re: เรามาอธิบายความหมายคำว่า"ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"กันเถิด By: isma-il Date: มิ.ย. 15, 2007, 10:28 AM
หลักการซิกร์ (การกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ) การกล่าวซิกร์ จัดเป็นหลักปฏิบัติที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการสวมคิรเกาะฮฺ (สวมเสื้อผ้าเก่า ๆ ที่มีรอยปะ) ในอัลกุรอานชี้ชัดแล้วว่า การรำลึกถึงอัลลอฮฺเป็นรัศมีโดยแท้และประเสริฐสุด ซึ่งโองการต่าง ๆ ของอัลกุรอานได้กล่าวไว้ว่า
فَاذْكُرُونِى أَذْكُرْكُمْ واشْكُرُوا لِى وَلاَ تَكْفُرُوْنِ
ความว่า: ?เจ้าทั้งหลายจงรำลึกถึงฉัน ฉันจะรำลึกถึงพวกเจ้า? (2 : 152)
الَّذِيْنَ ءَامَنُوا وَتَطْمَئِنُّ قُلُوبُهُمْ بِذِكْرِ اللهِ أَلاَ بِذِكْرِ اللهِ تَطْمَئِنُّ القُلُوبُ
ความว่า: ?บรรดาผู้ศรัทธา และบรรดาผู้ที่จิตใจของพวกเขาสงบนิ่งด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮฺ มิใช่ด้วยรำลึกถึงอัลลอฮฺดอกหรือที่ทำให้จิตใจสงบได้? (13 : 28)
ในหะดีษอัล-กุดซีย์ มีรายงานมาโดยท่านอีหม่ามบุคอรีย์และอีหม่ามมุสลิมว่า... ?อัลลอฮฺทรงตรัสว่า ?ขณะที่บ่าวรำลึกถึงฉันต่อหน้าสาธารณชน ฉันจะรำลึกถึงเขาต่อหน้าสาธารณชนที่ดีกว่ากลุ่มนั้นอีก หากเขาเข้าหาฉันหนึ่งคืบฉันจะเข้าหาเขาหนึ่งศอก หากเขาเข้าหาฉันหนึ่งศอกฉันจะเข้าหาเขาหนึ่งวา หากเขาเดินมาหาฉันฉันจักเร่งฝีเท้าไปหาเขา? (บุคอรีย์และมุสลิมและฮาซันบันนา 1975 : 7)
ท่านฮากีมได้คัดจากหะดีษที่รายงานโดยท่านบัรร๊ออฺ ซึ่งเป็นหะดีษมัรฟุฮฺ (โดยรายงานมาว่า) ?ผู้ใดที่กล่าวว่า ?ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ ไม่มีการตั้งภาคีใด ๆ ต่อพระองค์ พระองค์ทรงอำนาจ พระองค์ทรงครอบครองการสรรเสริญและพระองค์ทรงปรีชาเหนือทุกสิ่ง? โดยกล่าวสิบครั้ง เขาเสมือนได้ปลดปล่อยทาสหนึ่งคน? (ยะลาลุดดีนซุยูตีย์ ม.ป.ป. : 10 ? 11)
ท่านอิบนุญารีรได้อ้างคำกล่าวของท่านเกาะตาดะฮฺในหนังสืออธิบาย (ตัฟซีฟ) อัลกุรอานของท่านว่า ?อัลลอฮฺทรงกำหนดให้ซิกร์ (รำลึก) ถึงพระองค์ขณะที่พวกท่านทั้งหลายกำลังวุ่นวายที่สุด แม้ขณะกำลังรบประดาบกันอยู่ก็ตาม? และท่านก็ยกโองการที่ว่า ?โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายเมื่อพวกท่านพบปะคนกลุ่มหนึ่ง พวกท่านพึงตั้งมั่นและจงรำลึกถึงอัลลอฮฺให้มาก ๆ เพื่อพวกเจ้าจักได้รับชัยชนะ? (ยะลาลุดดียซุยูตีย์ อะมาลุ้ลฟิกริฟีฟัดลิดซิกร์ ม.ป.ป. : 10 ? 11)
ที่มาของหลักฐานการกล่าวซิกร์ (กล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ)
ท่านอีหม่ามฮาฟิซญะลาลุดดีน อัซซะยูตีย์ ได้รายงานด้วยสายรายงานต่าง ๆ ว่า ?แท้จริงท่านอีหม่ามอาลีได้กล่าวว่า ฉันได้ตามท่านร่อซู้ล (ศ็อลฯ) โดยที่ฉันได้กล่าวแก่ท่านร่อซู้ลว่า ?โอ้ท่านศาสนทูต จงบอกฉันถึงวิธีการเข้าใกล้อัลลอฮฺที่ง่ายดายต่อบ่าวที่จะปฏิบัติ และเป็นแนวทางที่ประเสริฐสุด ณ ที่พระองค์อัลลอฮฺ และท่านร่อซู้ลก็ได้กล่าวว่า ?โอ้อาลีเอ๋ย ท่านจงดำรงไว้ซึ่งการรำลึกถึงพระองค์ทั้งโดยลับและโดยเปิดเผย? อาลีก็ได้กล่าวว่า ?ทุกคนก้ต้องทำแบบนี้ทั้งสิ้น แต่ว่าฉันต้องการให้ท่านนั้นเจาะจงแนะวิธีการอย่างหนึ่งให้กับฉันเป็นพิเศษ ท่านร่อซู้ลกล่าวว่า ?สิ่งที่ฉันและบรรดานบีต่าง ๆ ที่อยู่ก่อนฉันกล่าวคือ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? ถ้าแม้ว่าเอาฟากฟ้าทั้งเจ็ดชั้นและผืนแผ่นดินทั้งเจ็ดเอามาวางไว้บนตาชั่งข้างหนึ่ง และนำเอาคำว่า ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? มาวางไว้บนตาชั่งอีกข้างหนึ่ง ทั้งฟากฟ้าและผืนแผ่นดินก็ไม่อาจหนักเทียบเท่า ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? หลังจากนั้นท่านร่อซู้ลได้กล่าวว่า ?โอ้อาลี ! วันกิยามะฮฺ (วันสิ้นโลก) นั้นจะไม่เกิดขึ้นบนหน้าพื้นพิภพ ตราบใดที่ยังมีผู้กล่าว?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? และท่านอาลีก็กล่าวว่า ?ฉันจะทำการรำลึกถึงพระองค์อย่างไร? ท่านร่อซู้ลได้กล่าว لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ) 3 ครั้ง โดยที่ท่านปิดตาทั้งสองข้างและกล่าวเสียงดัง ท่านอาลีก็คอยฟังและหลังจากนั้นท่านอาลีก็ได้กล่าวตาม ท่านอัซซัดดาด บิน เอาฟฺ ได้กล่าวว่า ?พวกเราเคยอยู่ร่วมกับท่านร่อซู้ล ในขณะที่ท่านร่อซู้ลได้กล่าวว่า ?ในหมู่พวกท่านมีคนแปลกหน้าหรือไม่ (หมายถึงชาวคัมภีร์จากชาวยิวและชาวคริสต์) พวกเราได้กล่าวว่า ?ไม่มีหรอกท่านร่อซู้ล? ดังนั้นท่านร่อซู้ลจึงใช้ให้เปิดประตู และท่านได้กล่าวว่า ?จงยกมือของพวกท่านและจงกล่าว لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? และพวกเราก็ได้กล่าวว่า ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? แท้จริงพระองค์อัลลอฮฺได้ส่งฉันมาด้วยกับคำ ๆ นี้ และพระองค์นั้นมิได้เป็นผู้ผิดสัญญา? พวกซูฟีได้ยึดถือว่าหลักฐานดังกล่าว เป็นหลักในการสอน لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ) ของท่านรอซู้ลต่ออัครสาวกของท่าน ท่านอามีร นัรยาร ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการซิกร์จากหะดีษดังกล่าวว่า ?เราสามารถที่จะเข้าใจดังเช่นที่ กุซัยรี่ ได้อธิบายว่า การซิกร์เป็นซัยฟุ้ลมุรีด (ดาบของศิษย์) ด้วยดาบนั้นศิษย์สามารถที่จะสู้รบกับศัตรูได้ และด้วยกับดาบนั้น ศิษย์สามารถที่จะป้องกันเภทภัยที่จะมาประสบกับเขา และการทดสอบได้ประสบกับจิตใจของเขานั้นจะวิตกกังวลและหวาดกลัว และการหันหน้าเข้าสู่องค์อัลลอฮฺ จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารังเกียจจะถูกขจัดไปในทันทีทันใด? (อามีร นัรยาร ตุรุกซูฟียะฮฺ ม.ป.ป.46)
ท่านซุลนูนมิซรี่ ได้กล่าวว่า ?ผู้ใดก็ตามที่รำลึกถึงพระองค์อัลลอฮฺ อย่างจริงจัง จนลืมทุกสิ่งทุกอย่าง พระองค์จะทรงรักษาสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นไว้ให้กับเขา และพระองค์จะให้สิ่งทดแทนแก่เขา (ริซาละฮฺกุซัยรียะฮฺ 466)
ท่าน ซะอฺรอนีย์ ได้กล่าวว่า ?ชาวอะฮฺลิลเฏาะรีก ((ที่สังกัดอยู่ในกลุ่มเฏาะรีเกาะฮฺ) ได้มีทัศนะร่วมกันว่า แน่แท้การซิกร์ (รำลึกถึงอัลลอฮฺ) นั้นเมื่อได้เกิดขึ้นและฝังแน่นในจิตใจ เมื่อมารร้าย (ชัยตอน) เข้าใกล้พวกมารร้ายก็จะถูกผลักดันออกไป พวกมารร้าย (ชัยตอน) ก็จะมารวมตัวกันและถามว่า ?เกิดอะไรขึ้น? และมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า ?แน่แท้มารร้าย (ชัยตอน) นั้น เมื่อเข้าใกล้ผู้ที่กล่าวซิกร์ มันจะถูกผลักดันออกมา? (ซะฮฺรอนีย์ อัล-อันวารกุดซียะฮฺ ฟีอะดาบิลอุบูดียะฮฺ ม.ป.ป.125)
ฟัคครุซรอซีร์ ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการซิกร์ว่า ?การซิกร์คือการชำระความมืดมนของหมู่มวลมนุษยชาติ และ ณ พระองค์เท่านั้น คือ จุดกำเนิดแห่งแสงสว่าง และไม่มีความผิดใด ๆ ที่เกิดขึ้นต่อพระองค์ ท่านผู้ทรงสูงสงยิ่งที่จะทำให้แสงสว่างแห่งพระผู้เป็นเจ้าเข้าถึงส่วนลึกแห่งหัวใจ ดังนั้นความืดมิดจะถูกการซิกร์นั้นกำจัดให้พ้นจากหัวใจ และวิญญาณ? (ฟัครุรรอซีย์ ละวาเมียะ ลากอเอี้ยอัล-บายานาต ม.ป.ป.2)
ท่านอีหม่าม กุซัยรี่ ได้กล่าวว่า ?การทำซิกร์นั้นเป็นด้านที่แข็งแรงที่สุดในหนทางที่จะบรรลุถึงพระองค์อัลลอฮฺ? (ริซาละฮฺกุซัยรียะฮฺ 212)
ท่านตุซตารีย์ ได้ถือหลักว่า ?การซิกร์นั้นเป็นการรำลึกอยู่เสมอว่าพระองค์อัลลอฮฺทรงเห็นท่าน ดังนั้นท่านก็จะเห็นพระองค์อยู่ใกล้ชิดกับตัวและหัวใจของท่าน และท่านจะต้องทำดีต่อพระองค์ทั้งด้านจิตใจและทุก ๆ อิริยาบทของท่าน? ท่านตุซตารีย์ได้แบ่ง ซิกร์เป็น 3 แบบคือ
1. การซิกร์ด้วยลิ้น
2. การซิกร์ด้วยหัวใจ
3. การซิกร์เฉพาะ เรียกว่า มูซิ้ล คือการซิกร์แบบติดต่อกันจะต้องมาร่วมกันทำเป็นหมู่คณะ
ซิกร์สองแบบแรกนั้น นับว่าเป็นแบบที่ขาดตอน หมายถึง ซิกร์ที่มิได้ทำติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน ส่วนซิกร์แบบที่สาม ถือเป็นชนิดพิเศษ กล่าวคือ มีการตั้งใจทำกันอย่างจริงจังภายใต้จิตใจที่มอบแด่พระองค์อัลลอฮฺอยู่ตลอดเวลา ซิกร์ที่มีต่ออัลลอฮฺอย่างจริงจังนั้น จะทำให้ทุกอณูของผู้กระทำแน่วแน่อยู่ ณ พระองค์อัลลอฮฺ เมื่อซูฟีอยู่ต่อหน้าพระองค์อัลลอฮฺ ทุกอณูของเขาจะอยู่ ณ พระองค์อัลลอฮฺทั้งหมด เขาจะไม่คิดถึงสิ่งอื่นใดนอกจากพระองค์ และเขาจะไม่หยุดทำการซิกร์จนกว่าพระองค์จะครอบครองจิตใจของเขา หลังจากที่เขาเสร็จสิ้นจากการทำซิกร์ ฉะนั้นความจริงก็จะประจักษ์แก่เขา ความผิดพลาดก็จะมลายสิ้นไป ลบล้างข้อบกพร่องต่าง ๆ และร่องรอยแห่งความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสิ่งอื่นให้ออกไปจากจิตใจของพวกเขา เพราะว่าจิตใจของเขาผูกพันอยู่กับอัลลอฮฺ จิตใจของเขาจึงว่างเปล่าจากทุกสิ่งทุกอย่างนอกจากพระองค์ และการทำซิกร์นั้นเป็นสื่อที่ทำให้จิตใจหลุดพ้นจากความมืดมน หรือด้วยสำนวนของนักปราชญ์ที่ว่า การซิกร์นั้นเป็นสื่อทำให้บุคคลหลุดพ้นจากเรื่องราวภายนอก หรือหลุดพ้นจากสิ่งที่เขาปรารถนา
อัซซิกร์ (การรำลึกถึงอัลลอฮฺ) มีสองด้าน คือ ด้านบวก คือการเข้าถึงสิ่งที่สำคัญยิ่งสูงสุดเพียงสิ่งเดียวคือพระองค์อัลลอฮฺ ด้านลบ คือ จิตใจนั้นจะว่างเปล่าจากทุกสิ่งที่มืดมน คือ ความอยาก ความต้องการ และอารมณ์ (อะฮฺหมัด มะฮฺมูด ซุบฮิ อัล-ฟัลซะฟะฮฺ อัล-อัคลากียะอฺฟีอัล-อิสลาม 1969 : 253)
โดย..อ.อุมาร มาดะมัน จากวิทยานิพนธ์เรื่องการศึกษาเปรียบเทียบความเชื่อและการปฏิบัติของกลุ่มเฏาะรีเกาะฮฺซูฟีในประเทศไทย
refer..--->
http://www.ridwanclub.com/subindex.php?page=content&id=123 (ออนไลน์) เว็บ ridwanclub.com
Re: เรามาอธิบายความหมายคำว่า"ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"กันเถิด By: isma-il Date: มิ.ย. 16, 2007, 12:25 PM
ท่านอัซซัดดาด บิน เอาฟฺ ได้กล่าวว่า ?พวกเราเคยอยู่ร่วมกับท่านร่อซู้ล ในขณะที่ท่านร่อซู้ลได้กล่าวว่า ?ในหมู่พวกท่านมีคนแปลกหน้าหรือไม่ (หมายถึงชาวคัมภีร์จากชาวยิวและชาวคริสต์) พวกเราได้กล่าวว่า ?ไม่มีหรอกท่านร่อซู้ล? ดังนั้นท่านร่อซู้ลจึงใช้ให้เปิดประตู และท่านได้กล่าวว่า ?จงยกมือของพวกท่านและจงกล่าว لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? และพวกเราก็ได้กล่าวว่า ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? แท้จริงพระองค์อัลลอฮฺได้ส่งฉันมาด้วยกับคำ ๆ นี้ และพระองค์นั้นมิได้เป็นผู้ผิดสัญญา? พวกซูฟีได้ยึดถือว่าหลักฐานดังกล่าว เป็นหลักในการสอน لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ) ของท่านรอซู้ลต่ออัครสาวกของท่าน
อยากเรียนถามผู้รู้ครับ สามารถอธิบายได้ใหมว่า ทำไมท่านรอซู้ล ซ๊อลอลลอฮุอลัยฮิวซัลลัม ถึงได้ถามอย่างนั้นและทำไมถึงให้
เปิดประตูหรือ
ปิดประตู
Re: เรามาอธิบายความหมายคำว่า"ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"กันเถิด By: al-azhary Date: ก.ค. 04, 2007, 06:59 AM
لا إله إلا الله
โปรดพิจารณากันครับ คำว่า ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ เป็นที่ภาษาอาหรับนั้น จะไม่มีพยัญชนะใดที่มี "จุด" เลยครับ นั่นแสดงให้เห็นว่า ลาอิลาฮิอิลลัลลอฮ์นั้น บริสุทธิ์ไม่มีชิริกใดมาเจอปนเลยครับ
ลาอิลาฮะอิลลัลลฮ์ หมายถึง ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะฮ์ พอเวลาเราทำการซิกรุลลอฮ์ด้วยลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์นั้น ก็พยายามกล่าวลาอิลาฮะอิลลัลลฮ์ โดยขจัดสิ่งอื่นในจิตใจออกไปให้หมด "นอกอัลเลาะฮ์" เท่านั้นที่นำมาอยู่ในหัวใจ นั่นแหละเขาเรียกว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใด(ที่เป็นมัคโลคอยู่ในหัวใจ)นอกจากอัลเลาะฮ์(เท่านั้น)
วัลลอฮุอะลัม
Re: เรามาอธิบายความหมายคำว่า"ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"กันเถิด By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: ก.ค. 04, 2007, 12:49 PM
ไม่มีประโยคไหนที่ทำให้รู้สึกสบายใจเท่าประโยคนี้อีกแล้ว
Re: เรามาอธิบายความหมายคำว่า"ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"กันเถิด By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ก.ค. 08, 2007, 11:50 AM
เป็นถ้อยคำที่กล่าวแล้วได้บุญอันมหาศาลแต่ช่วงเวลาของวันหนึ่งๆนั้นอารมณ์นัฟซูของเราไม่ต้องการให้กล่าว
Re: เรามาอธิบายความหมายคำว่า"ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์"กันเถิด By: tatcha_jah ~♪ Date: ก.ย. 26, 2010, 02:06 AM
ตอนนี้ละหมาดไม่ได้
รู้สึกไม่มีความสุขเลย
แต่พอได้ซิเกรแล้วก็รู้สึกดี
อบอุ่นหัวใจ
^^