กิจกรรมบนเวทียังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เด็ก ๆ ต่างกุลีกุจอแย่งที่นั่งหน้าเวที เพื่อรอชมการแสดง
ในขณะนั้นเองเด็กชายวัยประมาณ 4 ขวบคนหนึ่งนั่งร้องไห้เงียบ ๆ ถ้าไม่สังเกตจากน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นทางบนใบหน้าของเด็กน้อยแล้ว ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าเด็กน้อยกำลังร้องไห้
เด็กคนนี้มองตรงไปยังหน้าต่างของอาคารใหม่ชั้นเดียวที่กำลังก่อสร้างโดยไม่กระพริบตา น้ำตายังคงไหลไม่หยุด
ฟาดีลาห์เป็นคนเดียวที่สังเกตเห็น ร่างกายไวกว่าความคิด เด็กน้อยคนนั้นนั่งอยู่บนตักของเธอแล้วตอนนี้
ไม่มีคำพูดใด ๆ ระหว่างฟาดีลาห์กับเด็กน้อย เธอเห็นดวงตาของเด็กน้อยยังคงจับจ้องอยู่ที่ประตูที่เปิดทิ้งไว้ของอาคารหลังนั้น
ฟาดีลาห์จึงเอามือลูบหน้าของเด็กน้อย ก่อนสวมกอดเด็กน้อยเงียบ ๆ สักพัก
ไม่มีน้ำตาบนใบหน้าของเด็กน้อยแล้ว ฟาดีลาห์จึงถามเด็กน้อยว่า "อยากกลับบ้านไหม?" เด็กน้อยคนนั้นพยักหน้า
ฟาดีลาห์จึงถามต่อว่า "หนูมากับใคร? อุมมีมาด้วยรึเปล่า?" เด็กน้อยส่ายหน้าแทนคำตอบ
"ก๊ะไปส่งที่บ้านนะ ถ้าถึงบ้านแล้วก็สะกิดก๊ะนะ เพราะก๊ะไม่รู้จักทาง"ฟาดีลาห์พูดต่อ
กิจกรรมบนเวทียังคงดำเนินต่อไป ทั้งฟาดีลาห์และเด็กน้อยไม่มีใครสนใจเสียงที่ดังผ่านไมค์นั้นเลย
ฟาดีลาห์อุ้มเด็กน้อยวิ่งขึ้นรถด้วยความเป็นห่วง สองข้างทางมืดสนิท มีเพียงแสงไฟหน้ารถจักรยานยนต์เท่านั้นที่ส่องสว่าง
มีต่อ...
Re: Body langguage สื่อรักภาษากาย By: JawhaR Date: มิ.ย. 10, 2010, 09:17 PM
ปูโตโต้รอ...
Re: Body langguage สื่อรักภาษากาย By: little cat Date: มิ.ย. 10, 2010, 11:37 PM
ปูโตโต้รอ...
ปูทิวลิปก็ได้ 
Re: Body langguage สื่อรักภาษากาย By: as-satuly Date: มิ.ย. 11, 2010, 06:25 AM
ปูโตโต้รอ...ปูทิวลิปก็ได้
งั้นปูซาตินก็ได้
งั้น...ผมปูทะเล เพื่อรอต่อไปน่ะครับ
Re: Body langguage สื่อรักภาษากาย By: คนเดินดิน Date: มิ.ย. 12, 2010, 02:09 PM
พี่สาวของเด็กน้อยเดินออกมาจากบ้านพอดี ฟาดีลาห์จึงอุ้มเด็กน้อยไปให้พี่สาว "ทำไมกลับมากับพี่เค้า แล้วอุมมีหายไปไหน?" เสียงพี่สาวกล่าวถามเด็กน้อย
ฟาดีลาห์จึงตอบแทนเด็กน้อยที่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรว่า "ก๊ะถามน้องเค้าแล้วว่ามากับอุมมีหรือเปล่าแต่น้องเค้าส่ายหน้าก๊ะเลยพามาส่ง เดี๋ยวก๊ะกลับไปบอกอุมมีให้ก็ได้จ๊ะว่าเด็กน้อยกลับมาแล้ว"
ฟาดีลาห์บึ่งรถคู่ชีพกลับไปยังบริเวณหน้าเวที เธอมองหาอุมมีของเด็กน้อยสักพักก็เจออุมมีกำลังเดินหาเด็กน้อยอยู่พอดี จึงบอกกับอุมมีว่าเธอพาเด็กน้อยกลับไปส่งที่บ้านแล้ว และขอตัวกลับไป
ทำหน้าที่บริเวณหน้าเวทีต่อทั้งที่ไม่มีจิตใจจะสนกับกิจกรรมต่าง ๆ บนเวที หูของเธอไม่ได้ยินอะไรนอกจากเสียงลม และเธอก็เห็นว่ามีเด็ก ๆ กลุ่มหนึ่งกำลังเล่นบอลในห้องเจ้าปัญหาของเธอตอนนี้
ฟาดีลาห์เข้าไปบอกกับเด็ก ๆ ในห้องว่า "มืดมากแล้ว วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเข้ามาเล่นใหม่" เด็ก ๆ จึงทยอยกันออกไปจากห้อง เหลือฟาดีลาห์อยู่ในห้องนั้นเพียงลำพัง
ฟาดีลาห์เดินไปปิดหน้าต่างที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ความรู้สึกเย็นวาบแบบแปลก ๆ เกิดขึ้นข้างหลังของเธอ เธอรีบปิดหน้าต่างแล้วรีบปิดประตูออกไปจากห้องนั้น
ฟาดีลาห์ไม่คงไม่ติดใจอะไรเลยหากเหตุการณ์นี้ไม่เกิดขึ้นกับเธอในค่ำวันหนึ่งขณะที่เธอกำลังเพลินอยู่กับการฝึกท่องจำอัสมาอุลฮุซนาอยู่ในห้องพัก ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ ตีสองครึ่งโดยประมาณ
ฟาดีลาห์กำลังทิ้งตัวลงนอน ขณะที่เธอหลับตา(ซึ่งเธอมั่นใจว่าแค่หลับตาไม่ได้นอนหลับ) เธอเห็นภาพเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นหน้าห้องเจ้าปัญหาวันนั้น
เด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนมองมาที่เด็กน้อยที่ร้องไห้และนั่งอยู่บนตักของเธอ ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ถ้าความจำของยังไม่คลาดเคลื่อน เธอเชื่อว่าเธอไม่เคยเห็นเด็กคนนี้ ณ ที่แห่งนั้นมาก่อนเลย
ฟาดีลาห์สัมผัสได้ถึงความเศร้าบางอย่างในดวงตาของเด็กคนนั้น เธอไม่รู้หรอกว่าเด็กคนนั้นคืออะไรกันแน่
ภาพที่เด็กคนหนึ่งยืนมองมาทางฟาดีลาห์นั้นยังคงชัดเจนในมโนภาพของเธอ ฟาดีลาห์เหนียฮาดียะห์สิ่งต่าง ๆ ที่เธอได้ทำการซิกรุลลอฮ์ก่อนหน้านี้ให้กับเด็กคนนั้น และบอกกับเด็กคนนั้นว่า
"ก๊ะไม่รู้หรอกนะว่าเธอกำลังเศร้าด้วยเหตุใด แต่จงกลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเถิด เพราะพระองค์ทรงเมตตายิ่งกับบ่าวของพระองค์" และภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่
ก็หายไปจากมโนภาพของเธอ ฟาดีลาห์ลืมตาขึ้นทันที เธอไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยว่ามันคืออะไร
มีต่อ...
Re: Body langguage สื่อรักภาษากาย By: little cat Date: มิ.ย. 12, 2010, 08:29 PM
Re: Body langguage สื่อรักภาษากาย By: คนเดินดิน Date: มิ.ย. 14, 2010, 10:45 AM
ฟาดีลาห์บอกกับตัวเองเสมอว่าสิ่งที่เธอได้ประสบนั้นเป็นบททดสอบความศรัทธาอย่างหนึ่งจากอัลลอฮ์
เธอพยายามบอกกับตัวเอง ซ้ำ ๆ ว่าไม่มีอำนาจอื่นใดนอกเหนือจากอำนาจของพระองค์
ขณะที่เธอรอรับยาตามคิวที่คลินิกแห่งหนึ่งนั้น เธอสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาซีดเซียวจ้องมองมาทางเธอ
เธอจึงเดินเข้าไปทักด้วยการให้สลามพร้อมส่งยิ้มให้กับหญิงคนนั้น เธอชวนหญิงคนนั้นคุยได้ 2 - 3 ประโยค ก็บอกกับหญิงคนนั้นว่า
จะโกรธไหมถ้าจะขอ "กอด" หน่อยนะคะ หญิงคนนั้นยิ้มแทนการให้คำตอบ
เธอจึงสวมกอดหญิงคนนั้นประดุจดั่งการปลอบประโลม และขอความคุ้มครองจากอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาให้กับหญิงคนนี้ที่เธอกอดด้วย
เธอกอดอย่างนั้นสัก 2-3 นาที โดยที่ไม่พูดอะไร แล้วจึงคลายกอดแล้วมองหน้าหญิงคนนั้นอีกครั้ง ใบหน้าของเธอหายซีดอย่างน่าอัศจรรย์
หญิงคนนั้นส่งยิ้มให้กับเธอก่อนบอกว่า "ขอบใจมากนะหนู"
และอีกหลาย ๆ ครั้งที่เธอมักได้เจอกับสายตาและใบหน้าที่บ่งบอกถึงอาการบางอย่างที่พาให้หัวใจของคนที่มองเห็นรู้สึกหดหู่
ฟาดีลาห์เรียนรู้ว่า "การตั้งเจตนาที่ดี แล้วมอบหมายการงานให้อัลลอฮ์นั้นนอกจากเธอจะสัมผัสได้ถึงความเมตตาที่พระองค์มีให้กับเธอแล้วยังสามารถส่งผ่านไปยังผู้ที่หัวใจเขากำลังโหยหาได้เช่นกัน "
และสื่อง่าย ๆ ที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยเหล่านั้นได้ไม่ยาก คือการ "กอด(ด้วยความปรารถนาดี)" สื่อรักภาษากายที่ทำให้ฟาดีลาห์เป็นที่เอ็นดูของใครหลาย ๆ คน
...จบ...
วันนี้ คุณกอดคนที่คุณรักแล้วหรือยัง?
คำเตือน ควรขออนุญาตก่อนทำการกอดใครสักคนที่คุณไม่รู้จักและเขาคนนั้นก็ต้องเป็นคนที่ "ไม่ต้องห้ามสำหรับการสวมกอดนั้น"
และกอดให้ถูกกาลเทศะด้วยนะพี่น้อง
วัสสลาม
Re: Body langguage สื่อรักภาษากาย By: little cat Date: มิ.ย. 14, 2010, 05:13 PM
วันนี้ คุณกอดคนที่คุณรักแล้วหรือยัง?
คำเตือน ควรขออนุญาตก่อนทำการกอดใครสักคนที่คุณไม่รู้จักและเขาคนนั้นก็ต้องเป็นคนที่ "ไม่ต้องห้ามสำหรับการสวมกอดนั้น"
และกอดให้ถูกกาลเทศะด้วยนะพี่น้อง
วัสสลาม
Re: Body langguage สื่อรักภาษากาย By: JawhaR Date: มิ.ย. 19, 2010, 11:50 AM