กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ หลักการยึดมั่น ( อัล-อะกีดะห์ )
Pages: 1
เชื่อเรื่องความฝันบาปไหม By: tatcha_jah ~♪ Date: มิ.ย. 13, 2010, 01:12 PM
 
salam

ไม่ทราบว่าถ้าเชื่อเรื่องความฝันผิดไหมค่ะ

เชื่อว่าเวลาฝันแล้วไม่บอกใครเรื่องที่ฝันจะกลายเป็นจริง

แต่ถ้าฝันแล้วเล่าให้คนอื่นฟังเรื่องในความฝันก็จะไม่เกิด

เพราะฉะนั้นดิฉันจึงเล่าความฝันให้คนอื่นฟังถ้าเป็นฝันร้าย

แต่ถ้าเป็นฝันดีดิฉันก็จะไม่บอกใคร

เหตุผลที่เชื่อเรื่องนี้เพราะเหตุการแบบนี้มักเกิดขึ้นกับตัวดิฉันบ่อยครั้ง

ไม่ทราบว่าบาปไหม

เพราะดิฉันก็ทราบมาว่าในอัลกรุอานก็มีเรื่องความเชื่อเกี่ยววกับความฝันด้วย




Re: เชื่อเรื่องความฝันบาปไหม By: Deeneeyah Date: มิ.ย. 13, 2010, 04:32 PM
 salam

الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد...؛

ในภาษาอาหรับมีคำ ว่า  อัรรุอฺยะฮฺ  (اَلرُّؤيَةُ)  คือการมองเห็นที่เกี่ยวกับประสาทสัมผัสทางตา  และคำว่า  อัรฺรุอฺยา  (اَلرُّؤيا)  หมายถึงสิ่งที่คนนอนหลับมองเห็นในขณะหลับ  ซึ่งก็คือ  ความฝันนั่นเอง  นักวิชาการแบ่งความฝันออกเป็น  2  ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1)  ความฝันที่มาจากอัลลอฮฺ  (ซ.บ.)  -الرؤيامن الله-   
2)  ความฝันที่มาจากชัยฏอน  (الحُلْمُ مِن الشيطان)


สังเกตได้ว่า ถ้าเป็นความฝันประเภทแรก  จะใช้คำว่า  (الرُّؤيا)  แต่ถ้าเป็นความฝันประเภทที่สอง  จะใช้คำว่า  (الحُلْمُ)  มีรูปพหูพจน์ว่า  อะหฺลามฺ  (أَحْلاَمٌ)  ความฝันที่เป็นเรื่องจริง  (الرؤياالصادقة)  เป็นสภาพแรกที่เกิดขึ้นกับท่านนบี  (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)  ในเรื่องวะฮีย์  ท่านนบี  (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)  จะไม่เห็นความฝันใดนอกจากมันจะปรากฏเยี่ยงแสงอรุณเบิกฟ้า  (บุคอรี-มุสลิม)


และความฝันของผู้ศรัทธานั้นเป็นส่วนหนึ่งจาก  46  ส่วนของการเป็นนบี  นักวิชาการบางท่านแบ่งความฝันออกเป็น  3  ชนิด  คือ
1) ฝันดี  (الرؤياالصالحة)  เป็นข่าวดีจากพระองค์อัลลอฮฺ  (ซ.บ.)
2) ความฝันอันเกิดจากการสร้างความเศร้าหม่นหมองของชัยฏอน
3) ความฝันอันเกิดจากความครุ่นคิดในใจของบุคคล


และผู้ใดฝันเห็น สิ่งที่ตนไม่พึงปรารถนา  ก็ให้ผู้นั้นลุกขึ้นและทำละหมาดโดยไม่ต้องเล่าให้ผู้ใดรับทราบ  (มุสลิม)  และคนที่ปฏิเสธตลอดจนคนฟาซิก  (คนชั่ว)  ก็อาจจะเห็นความฝันที่เป็นจริงได้เช่นกัน  ฝันร้ายนั้นมาจากชัยฏอนเป็นความฝันที่ชัยฏอนใช้สร้างความหวาดกลัวหรือความ โศกเศร้าให้เกิดขึ้นกับผู้ที่ฝันนั้น  ผู้ใดฝันร้ายก็ขอให้ความคุ้มครองต่อพระองค์อัลลอฮฺ  (ซ.บ.)  ให้ถ่มน้ำลายทางด้านซ้ายและปกปิดความฝันนั้น  โดยท่านนบี  (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)  ได้สัญญาว่าหากทำเช่นนั้นแล้ว  ความฝันนั้นก็จะไม่ส่งผลอันใด


และความฝันที่เป็นเท็จ  (الرؤياالباطلة)  มี  7  ประเภท
1) ฝันที่เกิดจากการครุ่นคิดในใจ,  ฟุ้งซ่าน,  เศร้าหมอง,  วาดหวังและฝันมั่วแบบสับสน  (الأضغاثُ)
2) ฝันเปียก  (الحُلْمُ)  ที่จำต้องอาบน้ำยกหะดัส
3) การเตือนหรือขู่ให้กลัวจากชัยฏอน
4) ความฝันที่พวกนักไสยศาสตร์ทั้งญินและมนุษย์ทำให้ผู้นอนหลับฝันเห็น
5) ฝันเท็จไร้สาระ  ซึ่งชัยฏอนทำให้ผู้นอนหลับฝันเห็น
6) ความฝันที่เกิดโดยนิสัยหรือธาตุแท้ของผู้ฝัน
7) ความฝันที่เป็นความเจ็บปวดรวดร้าว  (الوجَع) คือการที่ผู้นั้นฝันเห็นเรื่องราวฝังใจที่อาจจะผ่านพ้นเวลามานานนับสิบปี


ส่วน ฝันที่เป็นจริง  (الرؤياالحق)  มี  5  ประเภท

1) ฝันที่เป็นความสัจจริง  (الرؤياالصادقة)  ความฝันประเภทนี้เป็นส่วนหนึ่งจากความเป็นนบี  (النبوة)  เช่นความฝันที่พระองค์อัลลอฮฺ  (ซ.บ.)  ให้ท่านนบี  (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)  ฝันเห็นว่าท่านและเหล่าสาวกได้เข้าสู่นครมักกะฮฺโดยปลอดภัยและ ฏอว๊าฟรอบบัยติลลาฮฺ  เชือดสัตว์และโกนศีรษะและขลิบผมเมื่อครั้งที่ท่านนบี  (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)  เดินทางถึงอัลหุดัยบียะฮฺ  ดังปรากฏในอายะฮฺที่ว่า  (لقدصدق الله رسوله الرؤيابالحق)  หรือการฝันของท่านนบีอิบรอฮีม  (อ.ล.)  ว่าท่านจะเชือดบุตรชายของท่าน  (يابُنَىَّ إنى أرى فى المَنَامِ أنى أذبَحُكَ)  เป็นต้น

2) ความฝันที่ดี  (الرؤياالصالحة)  เป็นการแจงข่าวดีจากอัลลอฮฺ  (ซ.บ.)

3) ความฝันที่ม่าลักแห่งความฝันทำให้ผู้นอนหลับฝันเห็น  ซึ่งม่าลักท่านนีมีชื่อว่า  ซิดดีกูนฺ

4) ฝันเป็นนัย  (الرؤياالمرموزة)

5) ฝันประจักษ์พยานคือดีกลายเป็นร้าย  ร้ายกลายเป็นดี  เช่น  คนหนึ่งฝันเห็นว่าตนกำลังตีกลองในมัสญิด  คนๆ นั้นจะสำนึกผิดจากสิ่งที่ไม่ดีและจะกลายเป็นผู้มีชื่อเสียง  หรือคนหนึ่งฝันเห็นว่าตนกำลังอ่านอัลกุรอ่านในห้องอาบน้ำหรือกำลังเต้นรำ  คนๆ นั้นจะเป็นคนที่ผู้คนรู้จักในทางเสื่อมเสีย  เป็นต้น


และ ความฝันของสตรีที่มีรอบเดือนและผู้มีญุนุบถือว่าเป็นฝันที่ถูกต้องได้เพราะ พวกกาฟิรและมะญูซีย์ไม่อาบน้ำยกหะดัสและท่านนบียูซุฟ  (อ.ล.)  ก็อธิบายฝันให้แก่กษัตริย์อียิปต์ซึ่งเป็นกาฟิร  และฝันของเด็ก ๆ ก็ถูกต้องได้  เพราะนบียูซุฟ  (อ.ล.)  เคยฝันเห็นขณะมีอายุได้  7  ขวบแล้วเล่าให้นบียะอฺกู๊บ  (อ.ล.)  ฟัง  (สรุปความจากตำราตะอฺฏีรุ้ลอะนามฺ  ฟี  ตัฟซีร  อัลอะหฺลามของอันนาบุลิซีย์  บทนำ)


والله أعلم بالصواب

http://www.alisuasaming.com/index.php/qa?topic=1070.msg1754#msg1754

 ;D
Re: เชื่อเรื่องความฝันบาปไหม By: al-firdaus~* Date: มิ.ย. 13, 2010, 08:28 PM
ถ้าฝันว่ากำลังทำข้อสอบ แต่ปากกาหาย หาแทบตายก็ไม่เจอ
เจอแล้วดันทำข้อสอบไม่ทันเพื่อน
กากบาท เขียนมั่วไปหมด  เพื่อนเขาส่งหมดแล้ว เหลือแต่เราคนเดียวโดดเดี่ยว
บรรยากาศในฝันวิเวกวังเวง  หม่นหมองไปหมด
สะดุ้งตื่น  ยังคิดว่าเป็นจริง   งง สับสน   ต้องนั่งถามตัวเองว่า ใคร อะไร ที่ไหน
กว่าจะหายมึน ทำเอาช็อคได้เหมือนกัน
สันนิษฐานว่า  ชีวิตจริงคุณคงเครียดไปหน่อย
ตอนสะดุ้งตื่น ให้ขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ  ให้ถ่มน้ำลายทางด้านซ้าย
เหนื่อยนักก็พักบ้างนะค๊ะ  ;D



Re: เชื่อเรื่องความฝันบาปไหม By: Al Fatoni Date: มิ.ย. 14, 2010, 09:55 AM
เท่าที่รู้มานั้น มันจะตรงข้ามกับที่คุณ tatcha_jah ~♪ บอกข้างต้นเลยนะครับ คือว่า หากเราฝันดีให้บอกเล่ากัน แล้วขอดุอาอ์ให้เป็นตามฝันจริงๆ แต่หากฝันร้ายก็ให้เก็บไว้ แล้วขอดุอาอ์อย่าให้เป็นตามฝัน รู้สึกว่าจะหะดีษเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย แต่ไม่จำตัวบทอะครับ ใครจำ หรือมีอยู่ ช่วยมานำเสนอหน่อยนะครับ จซากัลลอฮุฅ็อยร็อน ล่วงหน้าครับ  happy2:- วัสสลาม
Re: เชื่อเรื่องความฝันบาปไหม By: คนเดินดิน Date: มิ.ย. 14, 2010, 11:07 AM

salam

เหตุผลที่เชื่อเรื่องนี้เพราะเหตุการแบบนี้มักเกิดขึ้นกับตัวดิฉันบ่อยครั้ง

ไม่ทราบว่าบาปไหม

เพราะดิฉันก็ทราบมาว่าในอัลกรุอานก็มีเรื่องความเชื่อเกี่ยววกับความฝันด้วย



วะอะลัยกุมุสสลามวะเราะห์มาตุลลอฮิวะบารอกาตุฮ์

      บาปหรือไม่นั้นรอคำตอบจากผู้รู้นะคะ 

ส่วนที่บอกว่าเชื่ออย่างนั้นเพราะมักจะเจอบ่อยครั้ง  อาจเป็นเพราะบททดสอบที่พระองค์ประสงค์จะทดสอบว่าคุณเชื่อในอำนาจแห่งฝันหรืออำนาจแห่งพระองค์ (ผู้ทรงเอกะ)

     ยิ่งเชื่ออย่างไรก็มักจะถูกทดสอบให้เจอกับสิ่งเหล่านั้น

วัลลอฮูอะอ์ลาวะอะอ์ลัม
Re: เชื่อเรื่องความฝันบาปไหม By: a d n a n Date: มิ.ย. 16, 2010, 04:12 PM

salam

ไม่ทราบว่าถ้าเชื่อเรื่องความฝันผิดไหมค่ะ

เชื่อว่าเวลาฝันแล้วไม่บอกใครเรื่องที่ฝันจะกลายเป็นจริง

แต่ถ้าฝันแล้วเล่าให้คนอื่นฟังเรื่องในความฝันก็จะไม่เกิด

เพราะฉะนั้นดิฉันจึงเล่าความฝันให้คนอื่นฟังถ้าเป็นฝันร้าย

แต่ถ้าเป็นฝันดีดิฉันก็จะไม่บอกใคร


เหตุผลที่เชื่อเรื่องนี้เพราะเหตุการแบบนี้มักเกิดขึ้นกับตัวดิฉันบ่อยครั้ง

ไม่ทราบว่าบาปไหม

เพราะดิฉันก็ทราบมาว่าในอัลกรุอานก็มีเรื่องความเชื่อเกี่ยววกับความฝันด้วย


มันตรงข้ามกันนะครับ เท่าที่ทราบมานะครับ -> ฝันร้ายไม่บอกต่อ ส่วนฝันดีมีซุนนะฮให้เล่าต่อครับ (แต่ไม่ใช่กับทุกคนนะครับ)

ความเชื่อใดที่ขัดกับแนวทางของท่านรอซูลลุลลอฮ (ศ็อลฯ) เมื่อเราทราบแล้ว เราต้องปฏิเสธครับ

ส่วนหนึ่งจาก หลักฐานที่เกี่ยวข้องมีดังนี้ครับ

ฝันดี

รายงานจาก อบู สะอีด อัลคุดรีย์ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าเขาได้ยินท่านเราะสูลุลลอฮฺ (ศ็อลฯ) กล่าวว่า :

« إِذَا رَأَى أَحَدُكُمُ الرُّؤْيَا يُحِبُّهَا ، فَإِنَّهَا مِنَ اللَّهِ ، فَلْيَحْمَدِ اللَّهَ عَلَيْهَا ، وَلْيُحَدِّثْ بِهَا»

ความว่า : “เมื่อพวกท่านคนใดฝันเห็นสิ่งที่เขาชอบซึ่งมันมาจากอัลลอฮฺก็จงกล่าวว่าขอบคุณต่ออัลลอฮฺในสิ่งนั้นและจงเล่ามันให้คนอื่นฟัง” (บุคอรี)

ฝันร้าย

ญาบิร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า :

جَاءَ رَجُلٌ إِلَى النَّبِىِّ صلى الله عليه وسلم فَقَالَ : يَا رَسُولَ اللَّهِ رَأَيْتُ فِى الْمَنَامِ كَأَنَّ رَأْسِى قُطِعَ. قَالَ فَضَحِكَ النَّبِىُّ صلى الله عليه وسلم وَقَالَ : «إِذَا لَعِبَ الشَّيْطَانُ بِأَحَدِكُمْ فِى مَنَامِهِ فَلاَ يُحَدِّثْ بِهِ النَّاسَ ».

ความว่า : มีชายคนหนึ่งมาหาท่านนบี (ศ็อลฯ) และกล่าวว่า “โอ้ ท่านเราะสูลุลลอฮฺ (ศ็อลฯ) ฉันฝันว่าศรีษะของฉันได้ถูกตัด”

เขาเล่าต่อว่า แล้วท่านนะบีก็หัวเราะและกล่าวว่า “เมื่อชัยฏอนหลอกหลอนผู้ใดในเวลานอนก็จงอย่าเล่ามันในคนอื่นฟัง”
(มุสลิม)

ฝันดี และฝันร้าย

รายงานจาก อบู เกาะตาดะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า ฉันได้ยินท่านนบี (ศ็อลฯ) กล่าวว่า :

«الرُّؤْيَا الْحَسَنَةُ مِنَ اللَّهِ ، فَإِذَا رَأَى أَحَدُكُمْ مَا يُحِبُّ فَلاَ يُحَدِّثْ بِهِ إِلاَّ مَنْ يُحِبُّ ، وَإِذَا رَأَى مَا يَكْرَهُ فَلْيَتَعَوَّذْ بِاللَّهِ مِنْ شَرِّهَا ، وَمِنْ شَرِّ الشَّيْطَانِ وَلْيَتْفِلْ ثَلاَثًا وَلاَ يُحَدِّثْ بِهَا أَحَدًا فَإِنَّهَا لَنْ تَضُرَّهُ»

ความว่า : “การฝันดีนั้นมาจากอัลลอฮฺ ดังนั้น เมื่อพวกท่านคนใดฝันเห็นสิ่งที่เขาชอบก็จงอย่านำไปเล่านอกจากแก่ผู้ที่เขารัก

และ เมื่อเขาฝันร้ายก็จงขอหลีกเลี่ยงด้วยอัลลอฮฺจากความชั่วของมันและความชั่ว ของชัยฏอน และจงถ่มน้ำลายสามครั้ง และอย่านำไปเล่าให้ผู้ใดฟัง เพราะมันไม่มีทางจะทำอันตรายต่อเขาได้”
(บุคอรี)


Re: เชื่อเรื่องความฝันบาปไหม By: ILHAM Date: มิ.ย. 18, 2010, 07:20 PM
ฝันว่าพ่อของรุ่นน้องฝากให้ช่วยดูแลรุ่นน้องที่เพิ่งสอบติดเข้ามหาลัยด้วย ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นไม่รู้เลยนะว่าคนที่ติดเป็นใคร เป็นลูกของใคร
มารู้เอาในฝันว่าเป็นอุสตะที่เคยสอนวิชาตัสแระ พอถามลูกสาวเขาก็บอกว่าใช่จริงๆด้วย
Re: เชื่อเรื่องความฝันบาปไหม By: Demi_masa Date: มิ.ย. 18, 2010, 10:00 PM
ล่าสุดฝันว่าของในหอ (อพาร์ตเม้น) หาย
ตกเย็น หายทั้งกระเป๋าตั้ง แต่เน็ตบุก ยังอยู่
เดือดร้อนต้องไปแจ้งความ ทำบัตร เอทีเอ็มใหม่
บัตรประชาชนดันหมด  ต้องรอไปรับเดือนตุลา
Re: เชื่อเรื่องความฝันบาปไหม By: บาชีร Date: มิ.ย. 19, 2010, 05:43 AM
โดยส่วนใหญ่

การตัดสินใจในฝัน คือการตัดสินใจในตอนไม่ได้ฝัน


Re: เชื่อเรื่องความฝันบาปไหม By: nada-yoru Date: ก.ย. 22, 2013, 06:26 PM
เคยฝันเมื่อไม่นานมีนี้เกี่ยวกับรูปปั้น...

เพราะในฝันนั้น ฝันเห็นคนท่ีเรารักและเป็นห่วงเสียชีวิต
ถูกบรรจุในโลงศพ และศพนั้นถูกนำไปยังห้องที่เตรียมไว้
ในห้องนั้นเป็นห้องที่มีรูปปั้นมากมาย...

ในฝันหดหู่ และเศร้าสลด แล้วยังมีโอกาสได้ไปเดินดูอาณาจักร
ที่คนที่ตายได้สร้างเอาไว้ มันอลังการณ์มาก และเข้าใจเลยว่า
ทำไมใครๆถึงต้องมาร่วมงานศพของเขา

แต่ด้วยเพราะเราเป็นมุสลิม เมื่อได้ผ่านไปเห็นรูปปั้นนับร้อยที่วางเรียงราย
อยู่เหนือศีรษะ ตอนนั้นสันนิษฐานไปว่า เป็นรูปปั้นของบรรพบุรุษของเจ้าของสถานที่
ซึ่งก็คือคนตาย ซึ่งรูปปั้นนั้นถูกปั้นขึ้นมาเหมือนคนจริงๆยืนอยู่
มันดูงดงามไร้ที่ติ แต่มันไร้ชีวิตจิตใจ แต่เมื่อข้าน้อยเพ่งไปในรูปปั้น
ที่ข้าน้อยรู้สึกว่ามันขยับได้ขึ้นมา ข้าน้อยมองเห็นดวงตาของมันแหลมคม
จ้องมองมาที่ข้าน้อยอย่างเอาเรื่อง...และทันใดนั้นก็รู้สึกขนลุกขนพอง
ไม่ใช่ด้วยความกลัว แต่เพราะรู้สึกได้ว่า รูปปั้นที่ถูกปั้นขึ้นมานี้
เจ้าของตั้งใจปั้นเพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษของตนและหวังให้วิญญาณบรรพบุรุษ
มาสิงสถิตย์อยู่ในรูปปั้นนั้น เพื่อท่ีจะได้ปกปักษ์รักษาและปกป้องอาณาจักร
ของตนที่เหล่าบรรพบุรุษร่วมกันก่อสร้างมา..
แต่สิ่งที่ข้าน้อยเห็น มันไม่ใช่วิญญาณของบรรพบุรุษของเจ้าของสถานที่
ที่มาสิงสู่อยู่ในรูปปั้นนั้นเลย...แต่มันคือชัยตอน มารร้ายเป็นร้อยๆตัว
ตามจำนวนของรูปปั้นนั้นที่มาสิงสู่อยู่...และรูปปั้นนั้นกลายเป็นที่อยู่อันแสนสุข
ของชัยตอน...ตอนนั้น...ปฏิเสธสุดกู่จนอยากจะทำลายรูปปั้นเหล่านั้นให้หมดสิ้น
เพราะไม่อยากให้สถานที่แห่งนั้นถูกครอบงำไปด้วยอำนาจของชัยตอนนับร้อยตน
แต่ก็ทำไม่ได้ ไม่ใช่เพราะความกลัวชัยตอนพวกนั่นที่มองมายังข้าน้อย
ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ...ข้าน้อยประกาศกับพวกมันไปว่า
ฉันไม่กลัวพวกแกหรอก...คนอื่นเขาเคารพพวกแกด้วยเพราะเขาไม่รู้ว่า
แท้จริงสิ่งที่เขาเคารพอยู่คือพวกแกก็เท่านั้นเอง
เขาคิดว่าคือบรรพบุรุษอันเป็นที่รักและเคารพของพวกเขา...
เขาทำไปด้วยไม่รู้ และฉันจะทำให้เขารู้ให้ได้...เมื่อเขารู้
เขาจะทำลายสิ่งนี้ด้วยตัวของเขาเอง...

มันโกรธข้าน้อยมาก...และข้าน้อยยืนยันว่า...
ฉันจะไม่ทำลายมันโดยให้พวกเขาโกรธเคืองฉัน
เพราะพวกแกคงมีความสุขมากขึ้น
แต่ฉันจะทำให้เขารู้ความจริงในข้อนี้ พวกเขาจะได้เลิกเคารพในสิ่งผิดๆ
หากพวกเขารู้ พวกเขาจะต้องทำลายสิ่งนี้อย่างแน่นอน...

แต่ในใจนั้นเศร้าสลดตรงที่คนที่ตายไปนั้น เขาได้ตายไปท้ังๆที่ยังไม่รู้
ข้าน้อยมองงานศพนั้นด้วยความเศร้า อยากให้เขาฟื้นคืนชีพขึ้นมา
แล้วบอกเขาว่า

"คุณอย่าเพิ่งตายโดยที่ยังไม่รู้ความจริงในข้อนี้...ฉันจะบอกความจริง
ให้กับคุณในสิ่งที่ฉันเห็น...ว่าคุณและครอบครัวคุณ
กำลังปั้นรูปพวกนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นที่อยู่ของมารร้าย
และสถานที่แห่งนี้ถูกครอบงำด้วยอำนาจของมารร้ายมาโดยตลอด...
ฉันจะไม่ยอมให้เขาเอาศพของคุณไปทำพิธีที่มารร้ายอยากให้ทำ...
และจะไม่ยอมให้เขาเอาศพคุณไปเผา ศพคุณจะต้องได้รับการฝัง...
คุณต้องได้รู้ความจริงก่อนตาย...คุณต้องฟื้นขึ้นมาเพื่อรับรู้ความจริงในข้อนี้"

ในฝันเขาฟื้นขึ้นมาจริงๆค่ะ...และข้าน้อยก็ตื่นขึ้นมา

สิ่งแรกที่ทำคือ ตื่นขึ้นมาอาบน้ำชำระล้างร่างกายและอาบน้ำละหมาด
พร้อมกับขอดุอาฮฺให้อัลลอฮฺคุ้มครองพวกเขา เปิดฮิดายะฮฺให้เขาและพรรคพวก
ให้พวกเขาหลุดพ้นออกมาจากสภาพที่ข้าน้อยเห็นในฝัน
ให้พวกเขาได้เข้าใจศาสนาของพระองค์...และได้อยู่บนหนทางของพระองค์
ได้ตายในสภาพของผู้ศรัทธาที่รู้ความจริง...มิใช่ผู้ที่หลงผิด...

ตอนเล่าฝันให้พ่อฟัง พ่อบอกว่ามันคือข่าวดี...ไม่ใช่ฝันร้ายหรอก...
กาเฟรฺ แท้จริงแล้วคือ ผู้หลงผิด
ที่หลงผิดเพราะเขาไม่ได้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูก อะไรคือความจริง...
และสิ่งที่ลูกฝันนั่นคือความจริง ชัยตอนมันสิงสู่อยู่ในบรรดารูปปั้น
ที่ผู้คนก้มกราบสักการะ...หากเราจะทำลายมัน
เราต้องทำมันที่ใจคน ให้เขาได้รู้ความจริงเสียก่อน
แล้วเขาจะเลิกสนใจก้มกราบสิ่งเหล่านั้นไปเอง...
นั่นมันยิ่งกว่าการทุบทำลายรูปปั้นเป็นไหนๆ...

เพราะเราได้สร้างความเข้าใจให้กับพวกเขาที่กำลังหลงผิดอยู่
ให้เขาได้รู้ความจริง...เมื่อเขารู้ความจริงแล้ว และเขาเชื่อเช่นนั้น
เขาจะทำลายสิ่งที่เขาปั้นขึ้นมาด้วยมือและด้วยใจของเขาเอง...

หน้าที่เราก็คือ พยายามทำให้เขารู้ความจริง...

และพ่อยังบอกว่า...ลูกไม่สามารถล้มภูเขาแกร่งได้หรอก ลูกทำไม่ได้

ซึ่งข้าน้อยบอกพ่อไปว่า...

"หนูรู้ หนูทำไม่ได้ แต่หนูรู้ว่าอัลลอฮฺทำได้...พระองค์ทำได้...พระองค์มีอำนาจ
และหนูจะขอกับพระองค์...หากพระองค์ประสงค์...หนูจะได้ตามที่ขอ
แม้ภูเขาที่พ่อว่าจะแกร่งแค่ไหนก็ตาม มันก็ย่อมต้องหมอบราบคาบแก้ว
แก่อัลลอฮฺองค์เดียว"


ซึ่งความฝันที่เราคิดว่าเป็นฝันร้าย มันก็เป็นฝันดีๆได้
หากว่าในฝันนั้นได้สอนสั่งอะไรเราบางอย่าง...
และให้เราตระหนักในสิ่งใดให้จงมั่น...

ทุกวันนี้ก็ไม่เคยหมดหวังที่จะดึงให้ภูเขาแกร่งล้มลงมา...
และยังดุอาฮฺอยู่เช่นนี้ เพื่อให้ภูเขาแกร่งที่พ่อว่า
หมอบราบคาบแก้วแก่อัลลอฮฺแต่เพียงผู้เดียว...


เมื่อดุอาอฺคือ อาวุธของเรา...






Re: เชื่อเรื่องความฝันบาปไหม By: Muzarr Date: ก.ย. 28, 2013, 11:40 AM
อัสลามูอาลัยกุมคับ

ผมเคยเขียนเรื่องในบอร์ดไว้ว่า  รับอิสลามในความฝันคับ

ถูกต้องตามฮะดิษข้างบนที่ยกมาคับ  ฝันดีมาจากอัลลอฮ์และฝันร้ายมาจากซัยตอน

ความฝันนั้นเป็นสิ่งเร้นลับ อัลลอฮให้แต่ละคนรู้ไม่เหมือนกัน

บางทีคนที่ไม่ได้ฝันก้ไม่เข้าใจเกี่ยวกับที่เราฝัน อัลลอฮให้ สอน ตักเตือน แต่ละคนในฝันต่างกัน

ผมไม่กล้าตัดสินใจนะคับว่าบาปหรือไม่ แต่ผมเชื่อในเรื่องความฝัน แต่ไม่ใช่ทุกฝันนะคับ เพราะอย่างที่กล่าวบางฝันมาจากซัยตอน มันหลอกลวงเราได้

ส่วนฝันที่มาจากอัลลอฮนั้น อัลลอฮตักเตือนผมในความฝันบ่อย  เวลาที่อาม้าลผมแย่  บกพร่อง

ผมจะฝันอยู่เสมอว่า  ผมเรียนหนังสือ ผมจะลืมทำการบ้าน ไม่มีการบ้านส่ง  แก้สูตรคูณง่ายๆไม่ได้  คนอื่นมีส่ง  แต่ผมไม่มี 

ในฝันครูจะมองผม (เวลาดุอาว์ ผมขอเป็นนักเรียนของอัลลอฮ )  แต่ครูจะไม่ตีผม  แต่ถ้าวันไหนครูตีผม

 เช้าตื่นมาผมโดนลงโทษแน่คับ   การลงโทษของอัลลอฮนั้น คาดไม่ถึงอย่างยิ่ง และรู้ชัดเจนเลยว่าอัลลอฮลงโทษผม

เวลาผมละหมาดจิตใจวอกแวก  ละหมาดไม่นิ่ง  หรือหลงดุนยา

ผมจะฝันว่า  ยืนละหมาดแต่เหมือนคนเมา ยืนเซไปหน้าบ้างหลังบ้าง  เหมือนแผ่นดินไหว  (นี่แหละคับอาการของคนเมาดุนยา)

บางทีก้ฝันว่า วิ่งไปไม่ทันแถวละหมาด ต้องยืนอยู่แถวหลัง  ยิ่งเมื่อก่อนนั้นตอนผมติดดุนยา ไม่ละหมาด

ผมฝันว่ามีคนสะกิดผม ชวนผมไปละหมาด  แต่ผมไม่ไป อายที่จะละหมาด 

นี่แหละคับ ความฝันที่อัลลอฮเตือนและสอนผม

ช่วงรอมฏอนที่ผ่านมานี่ชัดเจน  อัลลอฮสอนผมในความฝัน ให้ผมทำดีกับแม่ เพระาผมอยู่กับแม่สองคน

แต่ตอนกลางวันผมทำให้แม่ร้องไห้  พอบ่ายวันนั้น ผมขับรถไปตลาด เจอตำรวจเรียกขอดูใบขับขี่

ผมรู้เลยอัลลอฮลงโทษผมแล้ว  อัลฮัมดูลิ้ลลา

ปกติผมเอาใบขับขี่ใส่ในหมวกละหมาด  เชื่อไหมคับ ผมหาไม่เจอ หาไงก้ไม่เจอ เสียค่าปรับไป 400

กลับบ้านจอดรถหาอีกรอบ  ใบขับขี่ก้ยังอยู่ในหมวก   นี่แหละคับความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ การลงโทษของพระองค์นั้นคาดไม่ถึง





 


 






Re: เชื่อเรื่องความฝันบาปไหม By: nada-yoru Date: ก.ย. 28, 2013, 04:20 PM

...การตอบแทนจากอัลลอฮฺก็คาดไม่ถึงเหมือนกันค่ะ...

แม้ในยามที่เราเดือดร้อนหรือถูกพระองค์ลงโทษ
หรือในยามที่เราได้รับการตอบแทนจากพระองค์
เราก็รำลึกถึงพระองค์...

นี่ก็คือ...ความยิ่งใหญ่ในความเมตตาจากพระองค์ค่ะ
ที่ทำให้จิตใจเราผูกพันธ์กับพระองค์ในทุกสภาพ
แม้แต่จะเป็นสภาพที่แตกต่างกันคนละขั้ว...