กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ มลายู
Pages: 1
‘มะโย่ง’ มาจาก Mak Hyang ส่วน ‘(ผี)แถน’ มาจาก Tuhan (ตูฮัน) By: Hantu Date: มิ.ย. 28, 2010, 08:57 AM
จากความสำนึกหรือโลกทัศน์เกี่ยวกับจักรวาลของชนชาติไท-ลาว นับแต่อดีต พวกเขามีชีวิตผูกพันอยู่กับความเชื่อเรื่อง ‘ปู่แถน’ หรือ ‘ผีแถน’ ในฐานะเฉกเช่นพระเจ้าผู้สร้างโลก พวกมลายู-อินโดนีเซียน (มาลาโย-โพลีนีเซียน) ก็มีโลกทัศน์ที่ไม่ต่างกัน แม้ภายหลังคนมลายู-ชวาหันไปนับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนมากตั้งแต่ราวกลางพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา พวกเขาหันมานับถือ อัลเลาะห์ (Allah) ซึ่งเป็นพระเจ้าองค์เดียวในศาสนาใหม่ (ศาสนาอิสลาม) แต่ก็ยังคงเรียกพระเจ้าของพวกเขาว่า ตูฮัน (Tuhan) ควบคู่กับ อัลเลาะห์ เสมอมา

          ในโลกมลายูนั้นดูเหมือนชาวมลายูมุสลิมจะเรียกพระเจ้าว่า ตูฮัน (แถน) เป็นส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ นี่คงเป็นเพราะความสำนึกหรือโลกทัศน์เกี่ยวกับจักรวาลและความเชื่อโดยเฉพาะของคนมลายูในสมัยที่บรรพชนของคนไท-อินโดนีเซียนยังร่วมพ่อหรือร่วมแม่กันอยู่ ยังหาได้เสื่อมคลายไปตามกาลเวลาไม่

          โปรดดูวิธีการคลี่คลายของคำว่า tuhan (ตูฮัน) กลายเป็นคำว่า แถน ดังนี้:

          *tuhaŋ > thε:ŋ (แถง), thε:n (แถน)

          ในที่นี้คำว่า แถน หมายถึง ‘เทวดา’ ดังนั้นคำว่า tuhan จึงเท่ากับ ‘เทวดาผู้เป็นใหญ่ซึ่งอยู่บนฟากฟ้า’ หรือ แถนหลวง นั่นเอง

          น่าสังเกตว่า คำว่า tuhan (แถน ‘ผีฟ้า’) อาจถูกสร้างขึ้นมาด้วยการสลับพยางค์กับคำว่า hantu (ฮันตู ‘ผี’) คือ hantu ≠ tuhan

          ตามหลักภาษาศาสตร์เรียกการสลับพยางค์เช่นนี้ว่า metathesis ยกตัวอย่างคำอื่นในภาษาชวาโบราณเช่น hudip (ไทคือ ‘ดิบ’ เช่นผีดิบ -ผีคนที่ยังเป็นคนเป็นๆ อยู่) ได้เกิดการสลับพยางค์หน้า-หลังเป็น hidup – ‘มีชีวิต’ ในภาษาชวา-มลายูปัจจุบัน

          โปรดดูพยางค์แรกของคำว่า hantu (ผีทั่วไป) และพยางค์หลังของคำว่า tuhan (แถน) เห็นได้ว่าเกี่ยวข้องกับคำที่มีความหมายว่า ‘ผี’ (หมายถึง ‘เทวดา’ ในภาษาตระกูลไท)

          hantu (พยางค์ที่เน้นดำ) กระจายเป็นคำในภาษาไทมากมายอาทิ หัง (เช่น ผีกะหัง), หง, ห่ง, โหง (โหงพราย, ผีตายโหง) ซึ่งหมายถึง ‘ผี’ หรือ ‘วิญญาณ’ ในภาษาไทรุ่นหลัง

          ส่วนคำว่า ผี ก็น่าจะเป็นคำที่คลี่คลายมาจากคำว่า pari (ปารี) หรือ pari-pari ในภาษามลายู-อินโดนีเซียนหมายถึง ‘เทวดา’ ต่อมาในภาษามลายูหมายถึง ผีชนิดหนึ่ง และอาจหมายถึง วิญญาณของหญิงงาม (นางฟ้า) หรือ นางไม้ โปรดดูลักษณะการคลี่คลายทางภาษาศาสตร์ดังนี้

          pari > p(ar)i > phi: (ผี); โดย /r/ หาย และ /p/>/ph/ (shift)

 "ฉันว่า การได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆจะทำให้เราสนุกและโลกทัศน์กับการทำความรู้จักอัลลอฮเปิดกว้างมากขึ้นอีกด้วย"
อินชาอัลลอฮขยันอ่านได้แบบเต็มๆตามนี้เลยครับ
http://www.isranews.org/isranews/index.php?option=com_content&view=article&id=262:-1-&catid=11:2009-11-15-11-15-13&Itemid=3

http://www.isranews.org/isranews/index.php?option=com_content&view=article&id=293:-2-&catid=11:2009-11-15-11-15-13&Itemid=3
http://www.isranews.org/isranews/index.php?option=com_content&view=article&id=354:2010-05-26-05-32-07&catid=11:2009-11-15-11-15-13&Itemid=3
http://www.isranews.org/isranews/index.php?option=com_content&view=article&id=409:-4-&catid=11:2009-11-15-11-15-13&Itemid=3
Re: ‘มะโย่ง’ มาจาก Mak Hyang ส่วน ‘(ผี)แถน’ มาจาก Tuhan (ตูฮัน) By: มาลิกกุ๊กกิ๊ก Date: มิ.ย. 28, 2010, 12:20 PM
ความรู้ใหม่   THX
Re: ‘มะโย่ง’ มาจาก Mak Hyang ส่วน ‘(ผี)แถน’ มาจาก Tuhan (ตูฮัน) By: ILHAM Date: มิ.ย. 28, 2010, 10:24 PM
ตูฮัน ฮันตู
Re: ‘มะโย่ง’ มาจาก Mak Hyang ส่วน ‘(ผี)แถน’ มาจาก Tuhan (ตูฮัน) By: Hantu Date: มิ.ย. 29, 2010, 08:25 AM
คำว่า เหียม และ หม..ม (พยัญชนะและสระบางตัวขาดหายไป) อาจเป็นคำพวกเดียวกันซึ่งหมายถึง ‘กษัตริย์ผู้เป็นใหญ่’ (ตรงกับคำว่า ‘มหาราช’, ‘กษัตราธิราช’ หรือ ‘ผีฟ้า’) มากกว่าจะมีความหมายอย่างอื่น (ใน ‘ศัพทาธิบาย’ ให้ความหมายคำว่า เหียม ว่า เพราะเหตุ, มูลเหตุ, เพราะ, เหตุ) ยกเว้นคำนี้ที่ไปปรากฏในบริบทอื่นๆ  ปัจจุบันพระราชาธิบดีของมาเลเซียเรียกว่า ‘ยังดิ เปอรฺตวน อากง’ (Yang di-Pertuan Agong) และยังปรากฏในคำสวดวิงวอนพระเจ้าวันละห้าเวลาของชาวมุสลิมมาเลย์ (มาเลเซีย) และมุสลิมปักษ์ใต้ (ไทย) เรียกว่า ‘ซัมบะหฺยัง’ (sembahyang) แปลว่า ไหว้ (ยัง) หมายถึง ไหว้พระเจ้า (อัลเลาะห์) แต่ในสมัยโบราณตั้งแต่ก่อนสมัยศรีวิชัย คำว่า sembahyang เป็นได้ตั้งแต่การกราบไหว้เทวรูป พระพุทธรูป หรือไหว้ ผีบรรพบุรุษ ซึ่งเรียกว่า nenek moyang (เนเนะโมยัง)

          อนึ่ง คำว่า wayang (วายัง) หรือหนังตลุงของพวกมลายู-ชวามีวัตถุประสงค์ในการเล่นก็เพื่ออัญเชิญ ‘เงา’ (bayang = wayang) ในที่นี้หมายถึงดวงวิญญาณของบรรพบุรุษ (nenek moyang) มาแสดงธรรมหรือจริยธรรมในการดำเนินชีวิตแก่ลูกหลานเหลนลื่อด้วยเรื่องราวต่างๆ โดยผ่านรูปเงา (bayang) ของตน จะเห็นได้ว่า คำว่า bayang (เงา) เองมีความหมายที่แสดงถึงความเร้นลับ สิ่งเร้นลับ เงา วิญญาณหรือผี คำนี้คือคำว่า 'บัง' ในภาษาไทย โปรดดู

          bayang> ba(ya)ng (‘เงา’) > bang โดยเสียง /y/ ถูกกลืนหายไป

          คำว่า ‘บัง’ (bang) ในภาษาไทยยังเกี่ยวกับศาสตร์เร้นลับต่างๆ เช่น ‘บังฟัน’ คือการใช้เวทมนตร์ไปทำร้ายผู้อื่น มักใช้ดาบไปฟันสิ่งที่สมมติแทนตัวผู้ที่ตนต้องการทำร้าย มีผลทำให้ผู้ที่ถูกสมมุติถูกฟันทำร้ายจริงๆ เหมือนที่สมมุติไว้ หรือคำว่า ‘บังไพร’ คือการเสกกิ่งไม้ถือบังตัวให้สัตว์ร้ายเห็นป่าไม่เห็นคน ใช้ในการคล้องช้างป่าในสมัยโบราณ เป็นต้น
การพัฒนาการทางภาษามันเชื่อมโยงต่อกับความเชื่อ ความศรัทธาของคนมลายู
ปัจจุบันยังมีคนมลายูอีกเยอะที่ยังอยู่ในความไม่รู้ ยังมีความเชื่อที่ผิดๆหลงเหลือให้เห็นในหลายๆหมู่บ้าน
มีการผสมผสานระหว่างศาสนาอิสลามกับประเพณีความเชื่อดั้งเดิม
เช่น การรักษาด้วยการทรงเจ้าเข้าผี(โดยการอ้างถึงตูฮัน) การมีเครื่องรางของขลัง(ชิ้นผ้าที่คลุมกะบะห์) เป็นต้น
แหลมมลายูก่อนการมาถึงของอิสลามก็คงไม่ต่างจาก "มักก๊ะห์"ยุคญาฮีลียะห์
เมื่อท่านรซูลลุลลอฮนำแสงสว่างจากอิสลามมาขับไล่ความมืดมนที่ปกคลุมโลกนี้ให้สลายหายไป
ทุกสิ่งสว่างจ้า ชัดเจน ไม่คลุมเคลือ
สิ่งสำคัญที่สุดที่ท่านรซูลลุลลอฮสอนไว้คือ ความรู้ต้องมาก่อนความศรัทธา
เมื่อความรู้มาทีหลังความศรัทธา นั้นคือที่มาของความต่างอิสลามในบ้านของเรา

วัลลอฮุอาลัม วัสลามูอาลัยกม



Re: ‘มะโย่ง’ มาจาก Mak Hyang ส่วน ‘(ผี)แถน’ มาจาก Tuhan (ตูฮัน) By: ILHAM Date: มิ.ย. 29, 2010, 08:54 PM
เขา่ว่าผ้าคลุมกะบะห์ ยิงไม่เข้าน่ะ


Re: ‘มะโย่ง’ มาจาก Mak Hyang ส่วน ‘(ผี)แถน’ มาจาก Tuhan (ตูฮัน) By: Hantu Date: มิ.ย. 30, 2010, 06:51 AM
เขา่ว่าผ้าคลุมกะบะห์ ยิงไม่เข้าน่ะ


เป็นคำพูดที่เหมือนกันเด๊ะกับเพื่อนนายูของฉันพูดแล้วเปิด
กระเป๋าตังค์หยิบเศษผ้าเล็กๆให้ฉันดู ตัดสลับไปที่เพื่อนซีแยของฉันโชว์พระเครื่องห้อยคอให้ฉันดูแล้วพูดว่า
"กูได้พระสมเด็จมาโว้ย รับรองเหนียวสุดๆ ยิงไม่ออกฟันไม่เข้า เป็นมรดกของตระกูลกูเลยนะนี่"
ตกลงเพื่อนนายูกับเพื่อนซีแยของฉันไม่ต่างกันเลยใช่ไม๊ครับ
วัสสลาม

Re: ‘มะโย่ง’ มาจาก Mak Hyang ส่วน ‘(ผี)แถน’ มาจาก Tuhan (ตูฮัน) By: ILHAM Date: มิ.ย. 30, 2010, 12:07 PM
ระหว่างการอมัต กับ เซเฮร ก็มีเส้นบางๆคั่นอยู่นะ
Re: ‘มะโย่ง’ มาจาก Mak Hyang ส่วน ‘(ผี)แถน’ มาจาก Tuhan (ตูฮัน) By: sufriyan Date: มิ.ย. 30, 2010, 08:34 PM
อ้างถึง
โปรดดูวิธีการคลี่คลายของคำว่า tuhan (ตูฮัน) กลายเป็นคำว่า แถน ดังนี้:

          *tuhaŋ > thε:ŋ (แถง), thε:n (แถน)

          ในที่นี้คำว่า แถน หมายถึง ‘เทวดา’ ดังนั้นคำว่า tuhan จึงเท่ากับ ‘เทวดาผู้เป็นใหญ่ซึ่งอยู่บนฟากฟ้า’ หรือ แถนหลวง นั่นเอง

          น่าสังเกตว่า คำว่า tuhan (แถน ‘ผีฟ้า’) อาจถูกสร้างขึ้นมาด้วยการสลับพยางค์กับคำว่า hantu (ฮันตู ‘ผี’) คือ hantu ≠ tuhan

ผมว่า hantu  น่าจะมาจาก hutan  ที่แปลว่า ป่า 

โปรดดูวิธีการคลี่คลาย ดังนี้

hantu  โดนผวน เป็น hutan เพราะคนส่วนใหญ่ กลัวความมืดของป่า  และมักจะถือว่าผี หรือความน่ากลัว มาจากป่า  เช่นคำว่าผีป่า หรือ ผีป่าซาตาน เป็นต้น

น่าัสังเกตว่า  คำว่า hantu ถุกนำมาผวน และสลับคำกัน จึงมี คำที่เหมือนกัน โดยประการฉะนี้
Re: ‘มะโย่ง’ มาจาก Mak Hyang ส่วน ‘(ผี)แถน’ มาจาก Tuhan (ตูฮัน) By: ILHAM Date: ก.ค. 01, 2010, 12:19 AM
ขนาดวิชานิรุกติศาสตร์ยังมีคีลาฟเลย