salam
เชิญร่วมเสวนาเก่ียวกับการแบ่งมรดก
Re: การแบ่งมรดกคือปัญหา By: มาลิกกุ๊กกิ๊ก Date: ก.ค. 16, 2010, 01:53 PM
พี่น้องช่วยตรวจหน่อยว่าแบ่งถูกป่าวคับ
Re: การแบ่งมรดกคือปัญหา By: anti-bid'ah Date: ก.ค. 16, 2010, 01:56 PM
R= Residue = ส่วนที่เหลือ
Re: การแบ่งมรดกคือปัญหา By: มาลิกกุ๊กกิ๊ก Date: ก.ค. 16, 2010, 01:59 PM
อยากทราบว่า คำว่า "ความรู้ครึ่งหนึ่งของนบี คือเรื่องแบ่งมรดก" คำนี้เป็นหะดีษ หรือว่าอะไรครับ
ใครรรู้ช่วยบอกหน่อย
Re: การแบ่งมรดกคือปัญหา By: ILHAM Date: ก.ค. 16, 2010, 06:03 PM
อยากทราบว่า คำว่า "ความรู้ครึ่งหนึ่งของนบี คือเรื่องแบ่งมรดก" คำนี้เป็นหะดีษ หรือว่าอะไรครับ
ใครรรู้ช่วยบอกหน่อย
เคยได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้นเหมือนกัน
Re: การแบ่งมรดกคือปัญหา By: ILHAM Date: ก.ค. 16, 2010, 06:05 PM
สาว่าอันนี้มีปัญหานิดหน่อยนะ
มันต้องเป็นเป็น12
ลูกสาวกิน6
หลานสาวกินคนละ1
เหลือ4 เอาเข้าบัยตุลมาล
Re: การแบ่งมรดกคือปัญหา By: مرونة الشريعة Date: ก.ค. 16, 2010, 07:05 PM
พี่น้องช่วยตรวจหน่อยว่าแบ่งถูกป่าวคับ
salam
[size=12pt]มัสอะละห์ 2 พลาดนิดนึงคับ ( คือ ลูกสาวได้ 7 ลูกชายต้องได้ 14 ไม่ใช่ 21 คับ)[/size]
Re: การแบ่งมรดกคือปัญหา By: مرونة الشريعة Date: ก.ค. 16, 2010, 07:28 PM
อยากทราบว่า คำว่า "ความรู้ครึ่งหนึ่งของนบี คือเรื่องแบ่งมรดก" คำนี้เป็นหะดีษ หรือว่าอะไรครับ
ใครรรู้ช่วยบอกหน่อย
salam
ท่าน นบี มูฮำหมัด ซ.ล ทรงกล่าวว่า ( ท่านทั้งหลายจงศึกษาวิชามรดก และท่านทั้งหลายก็จงสอนวิชามรดกนั้น แท้จริงมันเป็นครึ่ง หนึ่งของวิชา
ความรู้ และมันก็เป็นวิชาแรกที่จะถูกลืม และมันก็จะเป็นวิชาแรกที่ประชาชาติของฉันนั้นจะทะเลาะเบาะแว้ง
กัน) رواه ابن ماجه والدارقطنى عن أبي هريرة رضى الله عنه ดู نيل الأوطار للإمام الشوكانى เล่ม 6 หน้า 53/54
ดังนั้น คำว่า "ความรู้ครึ่งหนึ่งของนบี คือเรื่องแบ่งมรดก คำนี้เป็นหะดีษ ครับ.
...วัลลอฮ์ อะลา วะอะลัม..
Re: การแบ่งมรดกคือปัญหา By: GeT Date: ก.ค. 16, 2010, 08:13 PM
สาว่าอันนี้มีปัญหานิดหน่อยนะ
มันต้องเป็นเป็น12
ลูกสาวกิน6
หลานสาวกินคนละ1
เหลือ4 เอาเข้าบัยตุลมาล
อัศลุลมัสอะละฮฺ คือ 6 ถูกต้องแล้ว
แต่ที่มีปัญหาคือ การแบ่งให้หลานสาว 2 ส่วน โดยที่เหลือเศษเพียงส่วนเดียว ซึ่งจริงๆแล้ว 1 ใน 6 ก็ต้องได้ 1 ส่วน ไม่ใช่ 2 และโดยกฎเกณท์แล้ว ผู้หญิงเมื่อรวมตัวกันแล้วสามารถรับมรดกได้ไม่เกิน 2 ใน 3 ของมรดกทั้งหมด หมายความว่า ในกรณีข้างต้น พวกเขาทั้งหมดรวมกันสามารถรับมรดกได้ เพียง 4 ส่วนเท่านั้น จาก 6 ส่วนที่เหลืออีก 2 ส่วน เป็นของพ่อในสองกรณี คือ 1 ใน 6 ในฐานะอัศหาบ อัลฟุรูฎ และอีก 1 ส่วน 6 ในฐานะมุอัศศิบ (ผู้ที่รับในส่วนที่เหลือ) ดังนั้น เมื่อบุตรีรับไปแล้วครึ่งหนึ่ง นั่นคือ 3 ส่วน ที่เหลือจึงรับได้เพียง 1 ส่วน 6 เท่านั้น ซึ่งรวมกันเป็น 4 ส่วน จึงจะได้ 2 ใน 3
ทีนี้ ผู้ที่ได้รับส่วนแบ่งมรดกเพียง 1 ส่วนมีถึงสองคนทำให้ไม่สามารถหารให้ลงตัว จึงจำเป็นต้องขยาย อัศลุลมัสอะละฮฺด้วยการนำ 2 ไปคูณกับ อัศลุลมัสอะละฮฺ นั่นคือ 6 จะได้อัศลุลมัสอะละฮิใหม่เป็น 12 หลังจากนั้นจึงแบ่งให่ได้ดังนี้ บุตรีได้ครึ่งหนึ่ง 2x3= 6 หลานสาวสองคนได้ 2x1=2 แบ่งกันคนละ 1 ส่วน ที่เหลืออีก 2x2=4 ก็เป็นของบิดา
Re: การแบ่งมรดกคือปัญหา By: มาลิกกุ๊กกิ๊ก Date: ก.ค. 16, 2010, 11:22 PM
ขอบคุณมากๆครับ
Re: การแบ่งมรดกคือปัญหา By: บาชีร Date: ก.ย. 15, 2010, 12:30 AM
ในหะดีษเขียนว่าครึ่งนึงของวิชาความรู้ ไม่ได้เขียนว่าครึ่งนึงของความรู้นบีนี่นา
อีกอย่างอุลามาอฺอธิบายว่า ครึ่งนึงของวิชาความรู้ที่ว่านี้หมายถึง
วิชามรดกอิสลามเป็นวิชาที่ใช้หลังความตาย
คือครึ่งนึงเป็นวิชาตอนมีชีวิต อีกครึ่งนึงมาใช้หลังความตาย
Re: การแบ่งมรดกคือปัญหา By: ILHAM Date: ก.ย. 15, 2010, 04:03 AM
ในหะดีษเขียนว่าครึ่งนึงของวิชาความรู้ ไม่ได้เขียนว่าครึ่งนึงของความรู้นบีนี่นา
อีกอย่างอุลามาอฺอธิบายว่า ครึ่งนึงของวิชาความรู้ที่ว่านี้หมายถึง
วิชามรดกอิสลามเป็นวิชาที่ใช้หลังความตาย
คือครึ่งนึงเป็นวิชาตอนมีชีวิต อีกครึ่งนึงมาใช้หลังความตาย
เป็นการตีความที่สมเหตุสมผลดีที่สุด
Re: การแบ่งมรดกคือปัญหา By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: ก.ย. 15, 2010, 08:37 AM
เห็นด้วยครับ