กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ รอมะฎอน
Pages: 1
มันขนาดนั้นเลยหรือครับ By: Zaladin Date: ก.ย. 02, 2010, 02:52 PM
พอดีผมไปเจอมาในนะครับ  ว่าการให้สลามหลังละหมาดไม่สามารถทำได้


นี่คือคำตอบที่เจอ
อัสสลามุอะลัยกุมครับ

คำตอบ กรณีที่เรานมาซตะรอวีหฺเสร็จแล้ว ตามสุนนะฮฺนบีนั้นไม่มีการอ่านดุอาอ์ใดๆ จากนั้น หรือมีการกระทำอะไรเป็นพิเศษเลย ฉะนั้นการให้สลามเชิงขอมะอัฟ หรือให้สลามเฉยๆ ก็ไม่อนุญาตให้กระทำเช่นกัน เพราะไม่มีแบบมาจากท่านนบี และบรรดาเศาะหาบะฮฺเลยนั่นเองครับ. والله أعلم


แต่ผมเคยอ่านเจอฮาดิษประมาณ สัญญาณวันกียามะ อย่างหนึ่ง คือการที่บุคลเข้าไปละหมาดมัสยิด หลังจากนั้นเขาไม่ได้สลามกับคนที่อยู่ในนั้น

ประมาณนี้ แต่จำตัวบทไม่ได้
Re: มันขนาดนั้นเลยหรือครับ By: mustura^@^ Date: ก.ย. 02, 2010, 04:28 PM

คำตอบ กรณีที่เรานมาซตะรอวีหฺเสร็จแล้ว ตามสุนนะฮฺนบีนั้นไม่มีการอ่านดุอาอ์ใดๆ จากนั้น หรือมีการกระทำอะไรเป็นพิเศษเลย ฉะนั้นการให้สลามเชิงขอมะอัฟ หรือให้สลามเฉยๆ ก็ไม่อนุญาตให้กระทำเช่นกัน เพราะไม่มีแบบมาจากท่านนบี และบรรดาเศาะหาบะฮฺเลยนั่นเองครับ. والله أعلم


การที่มีคำตอบเช่นนี้เกิดขึ้น มันก็น่าจะเป็นสัญญานกียามัตอย่างที่คุณบอกแล้วมั้ง  ;D
Re: มันขนาดนั้นเลยหรือครับ By: multi Date: ก.ย. 03, 2010, 10:20 AM
คำตอบ มันคุ้นๆ อีกแล้วนะเหวยย
Re: มันขนาดนั้นเลยหรือครับ By: มาลิกกุ๊กกิ๊ก Date: ก.ย. 03, 2010, 03:00 PM
พอดีผมไปเจอมาในนะครับ  ว่าการให้สลามหลังละหมาดไม่สามารถทำได้


นี่คือคำตอบที่เจอ
อัสสลามุอะลัยกุมครับ

คำตอบ กรณีที่เรานมาซตะรอวีหฺเสร็จแล้ว ตามสุนนะฮฺนบีนั้นไม่มีการอ่านดุอาอ์ใดๆ

มันชั่งดีจริงๆเลย  ไม่บอกก็รู้ ว่าเขาคือใคร
Re: มันขนาดนั้นเลยหรือครับ By: GeT Date: ก.ย. 03, 2010, 06:21 PM
ความจริงถ้าเราไม่เห็นด้วยกับคำฟัตวาของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราก็ไม่ต้องตาม จบ
ที่จริงแล้ว คำฟัตวาของมุรีดดังกล่าวไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แม้แต่อิหม่ามนะวะวีย์ยังระบุว่า การจับมือสลามกันหลังละหมาดศุบหฺและอัศริเป็นการกระทำที่ไม่มีที่มาที่ไปเช่นกัน เช่นเดียวกับอิซซุดดีน บิน อับดุลสลาม อิบนุกหะญัร และท่านอื่นๆ
Re: มันขนาดนั้นเลยหรือครับ By: บาชีร Date: ก.ย. 03, 2010, 06:58 PM
อ้างอิงอีหม่ามนะวะีวีก็ขอให้อ้างให้หมดครับ

พูดแบบนี้อาจทำให้คนเข้าใจผิดว่า อิหม่ามนะวะวีมีทัศนะเหมือนมุรีด ที่บอกว่าไม่อนุญาิติให้กระทำ

ถ้าอ้างหมดแล้ว คนอ่านจะรู้ว่ากระทำได้ และนั้นแหละคือทัศนะของอีหม่ามนะวะวี

ขอให้มีอมานะฮฺเชิงวิชาการ อย่าทำให้คนเข้าใจผิด
Re: มันขนาดนั้นเลยหรือครับ By: GeT Date: ก.ย. 03, 2010, 07:56 PM
อ้างอิงอีหม่ามนะวะีวีก็ขอให้อ้างให้หมดครับ

พูดแบบนี้อาจทำให้คนเข้าใจผิดว่า อิหม่ามนะวะวีมีทัศนะเหมือนมุรีด ที่บอกว่าไม่อนุญาิติให้กระทำ

ถ้าอ้างหมดแล้ว คนอ่านจะรู้ว่ากระทำได้ และนั้นแหละคือทัศนะของอีหม่ามนะวะวี

ขอให้มีอมานะฮฺเชิงวิชาการ อย่าทำให้คนเข้าใจผิด

ขอมาอัฟด้วย ไม่ได้คิดเบี่ยงเบนทัศนะของอิหม่ามนะวะวีย์ ที่กล่าวข้างบน แค่จับประเด็นตรงคำพูดของผู้ใหฟ้ฟัตวาที่ว่า ไม่้มีแบบอย่างจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ซึ่งอิหม่ามนะวะวีย์ก็กล่าวว่า لا أصل له เช่นกัน
ส่วนทัศนะของท่านต่อจากนั้นคือ ولكن لا بأس به แต่ถือว่ากระทำได้ (ไม่เป็นบิดอะฮฺ)... ประโยคนี้ใช่ไหมที่คุณบาชิรอยากให้เพิ่มเติม


คิดว่าทัศนะของอิหม่ามสุยูฏีย์ในชัรหฺอัลมุวัฏเฏาะต่อไปนี้น่าจะใกล้เคียงกับคำฟัตวาของมุรีดนะ
اعلم أن المصافحة سنة عند كل لقاء ومحلها أول الملاقاة ، فما اعتاده الناس بعد صلاة الصبح والعصر لا أصل له في الشرع ، بل تكون هذه المصافحة مكروهة لأنها ليست في محلها المشروع

พึงทราบว่า การจับมือกันนั้นเป็นสุนนะฮฺในทุกครั้งที่พบเจอกัน และเวลาจับมือกันนั้นคือแรกเริ่มพบกัน ส่วนการกระทำ (การจับมือกัน) ที่ผู้คนเคยชินกับมันหลังจากละหมาดศุบหฺและอัศริ เป็นสิ่งที่ไม่มีต้นตอจากบัญญัติอิสลาม ทว่า การจับมือดังกล่าวเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ (มักรูฮฺ) เพราะเป็นการจับมือกันมิได้อยู่ในช่วงเวลาหรือสถานที่ที่มีบัญยัติไว้

Re: มันขนาดนั้นเลยหรือครับ By: บาชีร Date: ก.ย. 03, 2010, 09:09 PM
ขอบคุณครับ


Re: มันขนาดนั้นเลยหรือครับ By: บาชีร Date: ก.ย. 03, 2010, 09:20 PM
ก็อยากจะเอามาลงให้ทัศนะต่างขออุลามาอฺทั้งอิซซุดดีนบินอับดิสลาม อิหม่ามนะวะีวีซึ่งอธิบายไว้ละเอียดและดีมาก และอื่นๆ

มันก็เยอะอยู่

แต่ไม่อยากเหนื่่อยนะสิ

เอาเป็นว่าให้รู้ว่าทำได้

ส่วนที่บอกว่าหะรอม ใช้อะไรเป็นหลักฐาน การอ้างว่านบีไม่ได้สลามจับมือทำหลังละหมาด ไม่ใช่หลักฐานที่บ่งบอกว่าหะรอม

สรุปว่าหากหลังละหมาดเรายังพึ่่่งเจอกัน หรือจะอำลากัน มันก็เข้าไปอยู่ในสุนนะฮฺอยู่แล้ว

แต่หากสลามกันแล้วละหมาดข้างๆกันแล้วจะนั้งคุยกันต่อ มันก็อยู่ในหุกุมที่มุบาฮฺครับ


Re: มันขนาดนั้นเลยหรือครับ By: al-kudawah Date: ก.ย. 04, 2010, 02:24 AM



การจับมือสลามหลังละหมาด

Re: มันขนาดนั้นเลยหรือครับ By: nada-yoru Date: ก.ย. 04, 2010, 10:40 AM



การจับมือสลามหลังละหมาด

อัสลามมุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุ

ญะซากัลลอฮุคอยรอนค่ะ สำหรับการนำเสนอและคำตอบที่ทำให้หายข้องใจ
เพราะไม่เคยทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อนเลยค่ะ...

^_______________^

วัสสลามค่ะ


Re: มันขนาดนั้นเลยหรือครับ By: ILHAM Date: ก.ย. 04, 2010, 10:33 PM
แสดงว่าแถวบ้านหลังละหมาดแล้วไม่สลามกันหรือ
Re: มันขนาดนั้นเลยหรือครับ By: As-Zaleek Date: ก.ย. 05, 2010, 04:34 AM
 salam

หลักอุศูลฟิกห์หรือหลักฟิกห์ที่จะนำมาวินิจฉัยฮุกุ่มมันต่างกัน  วะฮาบีย์จะให้หลักฟิกห์ที่ว่านบีไม่ได้ทำ  ก็ถือว่าฮะรอม  แต่อิม่ามอันนะวาวีย์ใช้หลักอุศูลุลฟิกห์หรือหลักฟิกห์ที่ว่า  มีหลักฐานอาม(หลักฐานแบบโดยรวมแบบกว้างๆ)มาระบุรับรองแล้วว่า การจับมือให้สลามมีซุนนะฮ์ระบุไว้

ดังนั้นวะฮาบีย์บอกและมีทัศนะว่าบิดอะฮ์ห้ามทำ  ก็เป็นฮุกุ่มที่ติดพันกับตัวของเขา  แต่เรายึดหลักการที่ว่ากระทำได้เราก็ทำไป  อัลเลาะฮ์มิได้สอบสวนหรอกว่า  พวกเจ้าจับมือสลามหลังละหมาดนั้นเป็นความผิดเพราะมีอีกกลุ่มบอกว่าบิดอะฮ์
Re: มันขนาดนั้นเลยหรือครับ By: ILHAM Date: ก.ย. 07, 2010, 04:48 AM
ด้วยเหตุนี้ วัฮบีจึงไร้ซึ่งวัฒนธรรม