เมื่อมนุษย์และสิ่งทั้งหลายในโลกผุดเกิดมาด้วยการมีผู้สร้างผู้ทำ แม้แต่สิ่งเดียวที่มีการตั้งต้นเริ่มเป็นองค์ของมันขึ้นมาแล้ว ย่อมต้องมีผู้ทำ ผู้สร้างและส่วนประกอบขึ้นทั้งสิ้น แต่พระเจ้าก็มาสวมรอยพูดเอาเองเสียเช่นนี้ น่าจะเข้าใจว่าพระเจ้าอยู่ที่ไหน? ไม่ได้มาสร้างมาทำไว้สักอย่างเดียว กลับมาคุยเอาเป็นของพระองค์ไปเสียฉิบ จะน่าเชื่อได้อย่างไรกัน?
Re: พระเจ้าคุยโต By: Beechern Date: ต.ค. 18, 2010, 05:08 PM
ไม่เข้าใจครับ ขอที่ชัดเจนหน่อย
Re: พระเจ้าคุยโต By: ILHAM Date: ต.ค. 18, 2010, 05:32 PM
นั่นสิ
Re: พระเจ้าคุยโต By: hiddenmin Date: ต.ค. 18, 2010, 08:09 PM
อะไรของก๊ะเขา
Re: พระเจ้าคุยโต By: sakeenah Date: ต.ค. 18, 2010, 10:11 PM
เมื่อทุกอย่างได้ผ่านสายตาเราไปแล้วก็มองเห็นได้ว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้เรียกชื่อว่ากระไรและมีเจ้าของชื่อเป็นที่รับอยู่ทุกเรื่อง นามกับรูปนั้นๆ จึงเป็นสิ่งซึ่งแยกกันไม่ออกเมื่อมีรูปอยู่ที่ไหน ก็มีชื่อติดขึ้นมาทีเดียว และนามกับรูปที่เป็นเจ้าของนามนั้นเป็นคนละส่วน
เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านพบนั้นมีเจ้าของเป็นผู้สร้างผู้ทำ แล้วพระเจ้าก็มาสวมรอยพูด แล้วกล่าวไว้แต่ฝ่ายเดียวว่าพระองค์เป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง เช่นนี้ย่อมเหลือวิสัยที่มนุษย์ในพิภพนี้จะเชื่อได้ บ้านช่อง เครื่องเรือนก็ดี เครื่องยนต์กลไกก็ดี ตลอดจนมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายเหล่านั้นย่อมมีผู้ประกอบ ผู้สร้างและผู้ทำมันขึ้นมาทั้งสิ้น ต้นไม้ก็มีผู้ปลูกและพรวนดินรดน้ำ จะหาสิ่งใดมิได้ที่จะมีขึ้นเองโดยมิได้พึ่งพาอาศัยกับอะไรหรือมิได้อาศัยสิ่งประกอบใดๆ หากจะมองให้ไกลออกไปในป่าหรือต้นหญ้าที่รกรุงรัง แม้แต่จะกวาดล้างมันสักเท่าใดก็ไม่ตาย มันก็ยังฟื้นคืนกลับมาอย่างเดิม จึงทำให้เกิดทฤษฎีและเป็นกฎได้แล้วว่า มันเกิดขึ้นเอง เพราะไม่เห็นใครเป็นผู้สร้างผู้ทำหรือเป็นผู้ประกอบมันขึ้นมาเลย การกล่าวโดยที่สายตาไม่เห็นผู้สร้างผู้ประกอบว่ามันเกิดขึ้นเอง จะเป็นโดยธรรมชาติหรือเกิดขึ้นเองตามส่วนประกอบต่างๆ นั้น ตามสายตาที่มองเห็น หรือตามสังเกตการแล้ว ย่อมเห็นเป็นเช่นนั้นจริงๆ ซึ่งเนื่องมาแต่หลักการค้นคว้าหาข้อเท็จจริงของสิ่งนั้นๆ ยังไม่ละเอียดพอจึงนับได้ว่ากฎที่บัญญัติขึ้น หรือการพูดกันของมนุษย์ และกฎซึ่งบัญญัติขึ้นมาโดยพระเจ้านั้นย่อมมีความจริงด้วยกันทั้งคู่ แต่ต่างกันเพียงว่า กฎของมนุษย์ตั้งขึ้นมาจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว ส่วนกฎของพระเจ้านั้นตั้งขึ้นมาจากสิ่งซึ่งพ้นวิสัยของมนุษย์ เหตุนี้แหละที่เรารวมเรียกว่า พระเจ้าคุยโต คือคุยเอาเสียจนหมดสิ้น จากสิ่งต่างๆในโลก และสิ่งต่างๆที่มนุษย์ได้ประกอบมันขึ้นมา พระเจ้าก็อ้างว่ามนุษย์เป็นผู้สร้างผู้ทำทั้งสิ้น ดังนี้ผู้ที่ไม่เข้าใจซึ้งในหลักวิชา จึงเกิดถกเถียงกันได้ง่าย
เมื่อพิจารณากฎของโลกที่มนุษย์ตั้งขึ้น หรือจากสิ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นมาแล้ว ทุกคนต้องยอมรับว่า นายช่างหรือผู้ประดิษฐ์นั้น เป็นผู้ทำสิ่งนั้นๆ การพูดหรือการพิจารณาเช่นนั้นเป็นความจริงทุกประการ (แต่ให้เข้าใจว่าศาสนาเรียกว่าฮู่ก่มซาเราะอ์และอาดีย์) เพราะเมื่อมองดูแล้วหาคนอื่นหรือผู้ทำที่ไหนอีกไม่ได้ ทางฝ่ายประเพณีจึงนิยมพูดกันว่า นาย ก. เป็นผู้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ หรือตามกฎแห่งวิทยาศาสตร์ว่า สิ่งนั้น สิ่งนี้ มีอำนาจบังคับให้เป็นไปเช่นนั้น ยกตัวอย่างเช่นไม้ขีดไฟกลักหนึ่งทุกคนย่อมจะทราบได้ดีว่า กลักไม้ขีดไฟนั้นเป็นสิ่งถูกประดิษฐ์ขึ้นจากมนุษย์ ด้วยส่วนประกอบจากวัตถุหลายอย่างรวมกัน เอามาประกอบขึ้นจนเป็นรู)ไม้ขีด แต่ไฟนั้นเป็นส่วนหนึ่งต่างหาก นอกจากสิ่งที่มนุษย์ประกอบขึ้น ซึ่งอาจเรียกได้ว่า ไฟนั้นมีขึ้นมาเองหรือว่าอัลเลาะฮ์ให้มีขึ้น แล้วแต่การสันทัดของผู้พูด (ควรเข้าใจคำจำกัดความของคำว่าไฟให้ถูกต้องด้วย คือ คำว่า ไฟ นั้นตัวมันมีลักษณะร้อน มีแสงสว่างและเผาอะไรไหม้เป็นต้น)
ก่อนที่จะรู้หลักธรรม คือ ฮู่กุ่มชัรอี อาดี และอักลี ควรตอบปัญหาเหล่านี้เสียก่อนคือ เมื่อหยิบไม้ขีดไฟกลักหนึ่งขึ้นมาดู พร้อมกับถามว่า ในไม้ขีดมีไฟหรือไม่ อาจมีผู้ตอบว่ามีไฟในไม้ขีดนั้น ตามฮู่ก่มชัรอี และอาดีว่าผิด เพราะจับกลักไม้ขีดดูไม่มีร้อน ไม่เห็นแสงสว่าง และเผาอะไรก็ไม่ไหม้ แต่เมื่อได้ใช้อาการทั้ง 5 พิสูจน์กลักไม้ขีดดูแล้ว เขาคงตอบใหม่ว่า ไม่มีไฟในไม้ขีด (ซึ่งเป็นความจริงเหมือนกัน เพราะตามที่สายตาเห็นนั้นไม่มีจริงๆ) ครั้งเอาดุ้นไม้ขีดขีดกับกลักก็จะปรากฏไฟร้อน มีแสงสว่าง และเผาอะไรได้เกิดขึ้น ไฟนี้มาจากไหน? มันมาอย่างไร? และเดิมมันอยู่ที่ไหน? หรือว่าเกิดไฟขึ้นจากการกระทบกัน ถ้าเช่นนั้นไม้ขีดที่มีความชื้นแฉะ เมื่อขีดกันแล้วคงไม่มีไฟ หรือการขีดในอากาศที่มีแต่คาบอนด์ แน่นอน การกระทำทั้งสองอย่างนี้ แม้จะขีดสักเท่าใดก็ย่อมจะไม่ปรากฏไฟขึ้น ทั้งนี้เพราะผิดฮู่กุ่มอาดีนั่นเอง ไฟก็ไม่อาจมีได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ผู้เคยใช้ไม้ขีดแล้วคงมีความเข้าใจว่า ในนั้นมีไฟเสมอแม้ว่าสายตาจะมองไม่เห็นก็ตาม ความเข้าใดดังกล่าวนี้แหละ เขาเรียกว่ามีความเชื่อ (มีอีหม่าน) อย่างแน่นอน โดยไม่มีข้อแม้หรือสงสัย นั่นคือเขาเข้าใจตามฮุ่กุ่มอักลี กล่าวคือ ไฟนั้นต้องมีแน่ในที่กลักไม้ขีด แม้ว่ามันจะไม่ปรากฏการณ์ให้เห็นก็ตาม และถึงแม้ว่าจะไม่มีไม้ขีดไฟ ก็อาจมีได้ ในที่ทั่วๆไป เช่น ที่เหล็กที่หิน ที่กระจกนูน และที่ไม้แห้งๆ เป็นต้น เมื่อเกิดปฏิกิริยากระทบกันหรือสัมผัสเบียดสีกัน พร้อมกับถูกส่วนสัดของฮู่ก่มอาดีแล้ว ย่อมจะมีไฟขึ้นทันที ดังนี้แหละย่อมแสดงให้เห็นว่า การเชื่อว่าอัลเลาะฮ์มีพร้อมกับเป็นผู้บันดาลทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ นับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคตกาล นั้นต้องเชื่อและพิสูจน์จากสิ่งที่เห็นไปสู่สิ่งที่ไม่เห็น ดังเช่นเชื่อว่าในไม้ขีดนั้นมีไฟ เป็นต้น ความเชื่อด้วยเหตุผลและหลักฐานเช่นนี้เรียกว่า เชื่ออย่างยะเก่น แม้แต่สายตาจะมองไม่เห็นก็ตาม แต่ก็สามารถชี้ให้เห็นว่า อะไรเป็น มัวะห์ดัส และอะไรเป็น กอดีม จึงจะนับว่าเขาผู้นั้นเป็นผู้รู้จักเจ้าโดยแท้จริง
เมื่อความเข้าใจได้ซาบซึมเช่นนี้แล้ว เราก็ย่อมสามารถมองเห็นในสิ่งต่างๆ พร้อมกับเกิดความเข้าใจ และความเชื่อได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ พระเจ้าเป็นผู้สร้างผู้บันดาลทั้งสิ้น โดยจะหาสิ่งใดนอกเหนือไปจากวงพลังงานของท่านแม้แต่น้อยก็หาได้ไม่ ทั้งนี้เนื่องมาแต่พระองค์เป็นผู้ทรงเอกภาพ (เตาเฮด) คือ เอกภาพในพระนาม (อัสมะอ์) เอกภาพในองค์ของท่าน (ซาต) เอกภาพในคุณลักษณะ (ซีฟัต) และเอกภาพในการกระทำต่างๆ (อัฟอาล) หากเราได้เข้าใจในเตาเฮดทั้ง 4 นี้โดยถูกต้องแล้ว เราก็จะทราบได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกย่อมมาจากอัลเลาะฮ์ทั้งสิ้น
Re: พระเจ้าคุยโต By: Al Fatoni Date: ต.ค. 19, 2010, 02:07 PM
ผมไม่ทราบจริงๆ ว่าความหมายของคำพูดที่คุณพูดนั้นต้องการสื่อถึงอะไร ผมอาจจะเข้าใจในบางประโยคเท่านั้น แต่ดูโดยรวมแล้ว คุณกำลังจะเอาอกีดะฮ์เข้าพูด ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับอัลลอฮฺด้วย ฉะนั้น จึงอยากให้คุณสื่อด้วยคำพูดง่ายๆ ชัดเจนกว่านี้ เพราะคนเอาวามที่เข้ามาอ่านในเว็บนี้มาเยอะพอสมควร ดังนั้น หากคำพูดที่ไม่ชัดเจนของคุณ ได้ถูกพวกเขาอ่านแล้ว แล้วเกิดการเข้าใจผิด แน่นอนครับ ผู้พูดก็จะต้องรับผิดชอบคำพูดนั้น ฉะนั้น อยากให้เกลาสำนวนให้ชัดเจน สื่อออกมาให้ชัดเจนกว่านี้นะครับ เพราะคนเอาวามและคนอื่น อาจจะไม่ได้รู้ลึกซึ้งอย่างที่ท่านเข้าใจก็เป็นได้ครับ ฉะนั้น อยากให้คำนึงถึงคนส่วนมากด้วยครับ - วัสสลามุอลัยกุม
Re: พระเจ้าคุยโต By: ILHAM Date: ต.ค. 19, 2010, 10:50 PM
ช้าไปแล้วล่ะ เขาโดนลบแล้ว
Re: พระเจ้าคุยโต By: hiddenmin Date: ต.ค. 19, 2010, 10:56 PM
ถ้าอยากใช้สิทธิโดนพาดพิง เข้ามาชี้แจง สมัครเข้ามาใหม่ก็ได้นะ
เดี๋ยวไม่เป็นพลเมืองที่ดีของรัฐ ไม่รับรู้เรื่องอะไร เป็นได้แค่ประชาชนทั่วไป
Re: พระเจ้าคุยโต By: Andalus Date: ต.ค. 19, 2010, 11:03 PM
เขาลบตัวเองหรือ?
Re: พระเจ้าคุยโต By: hiddenmin Date: ต.ค. 19, 2010, 11:16 PM
อันนี้ต้องถาม al-firdaus~*
เจ๊แกเข้ามายึดอำนาจ แล้วเอ็กซีคิวต์ฺจัดการความวุ่นวายต่างๆ
Re: พระเจ้าคุยโต By: Andalus Date: ต.ค. 19, 2010, 11:21 PM
เจ้เขาของจริง ระวังกันไว้นะทุกคน
Re: พระเจ้าคุยโต By: al-firdaus~* Date: ต.ค. 19, 2010, 11:29 PM
เว็บแห่งนี้ให้สิทธิ์ทุกท่าน ตราบใดที่ไม่ใช้คำพูดระราน หยาบคาย โดยเฉพาะเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว
สมควรที่จะพูดจาให้น่ารัก ควรที่จะมีเหตุผล ไม่ผลีผลามในการตัดสินใจ คนลักษณะนี้ ไม่สมควรจะให้เป็นผู้นำ เนื่องจากจะพากันลงเหวหมด
โดยเฉพาะสมาชิกของเราแล้วนะคะ ควรที่จะรอบคอบในการโพสต์ อย่าพยายามพูดกระทบกระทั่งสถาบันต่างๆ เป็นดีที่สุด
เชื่อว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ คงทำให้พวกเราได้ตระหนักกันเป็นอย่างดี
ที่จะบอกก็คือ เค้าไม่ได้ลบใครเรยน๊า
ยังอยากให้กลับมาต่อกระทู้นี้ให้จบด้วยซ้ำไป
Re: พระเจ้าคุยโต By: al-azhary Date: ต.ค. 20, 2010, 12:21 AM
เดี๋ยวนี้มีสมาชิกที่เข้ามาแล้ว ลบตนออกไปจากเว็ปน่ะครับ เพราะไม่ตรงตามเป้าหมายที่ตนเองต้องการ ส่วนสมาชิกที่ถูกทางทีมงานลบนั้นน้อยมากครับ
แต่สำหรับสมาชิกที่ถูกลบมากที่สุดคือสมาชิกที่เป็นวะฮาบี เพราะชอบกบถและฝืนกฏระเบียบของเว็ปเป็นนิจศีล แต่บางคนมาดีมีมารยาทและมีวิชาการแต่ต้องลบการเป็นสมาชิกไปเพราะเหตุผลบางอย่างที่ผมไม่อยากเอ่ยถึง ส่วนชีอะฮ์นั้นไม่ค่อยถูกลบในการเป็นสมาชิกแต่จะถูกลบกระทู้บ่อยเพราะพยายามที่จะเข้ามาโฆษณาเว็ปตนเอง ส่วนพ่ีน้องเฏาะรีเกาะฮ์ที่เข้ามาบางท่าน ก็ลบตนเองออกจากการเป็นสมาชิก แล้วสมาชิกคุณซากีนะฮ์ก็เข้ามา ซึ่งความจริงเขาถูกแบนไปทีหนึ่งแล้ว หลังจากนั้นก็เข้าสมัครสมาชิกใหม่ แล้วก็ลบตัวเองไปอีก คือผมรู้ว่าใครลบตนเองออกไปแล้วสมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ในนิคอื่น แต่ผมไม่ขอเอ่ยถึงครับ
ดังนั้นใครจะเข้ามาหรือออกไป ก็ถือว่าเป็นอิสระครับ เราไม่บังคับ แต่ขอว่าอย่าผิดกฏระเบียบครับ
วัสลาม
Re: พระเจ้าคุยโต By: ILHAM Date: ต.ค. 20, 2010, 01:05 AM
ถ้าเคยมีคดีโดนลบแล้วยังเข้ามาอีก แสดงว่ามีเจตนาไม่ดี
Re: พระเจ้าคุยโต By: ActionMask Date: ต.ค. 20, 2010, 06:10 AM
ปริศนาปลาทอง