เรามารู้เท่าทันลัทธิบริโภคนิยมกันเถอะ By: tatcha_jah ~♪ Date: ต.ค. 23, 2010, 01:51 PM
ได้อ่านกระทู้ของ หัวข้อ: ระวังเราจะกินหมูโดยไม่ได้ตั้งใจ
ทำให้รู้สึกว่า บรรษัทข้ามชาตินี้มันมีอิทธิพลเสียจริงๆ
เลยคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เรา พี่น้องมุสลิมจะต่อสู้กับสายพานทุนนิยมซักที
เมื่อวานนี้ดิฉันไปสยาม หน้าพารากอนมีคนต่อคิวแถวยาวมาก
ดิฉันไม่ทราบว่าเขาต่อแถวอะไรกัน....
ต่อมาเพิ่งรู้ว่าตอนนี้มีโดนัมยี่ห้อใหม่ "โดนัท krispy kreme" แสนอร่อย สัญชาติอเมริกา
จากเหตุการณ์ข้างต้นแสดงให้เราเห็นอะไรบ้าง
"โดนัท krispy kreme" เป็นตัวแทนของความอร่อย
หรือเป็นตัวแทนของความทันสมัย...ความมีรสนิยมกันแน่

ผู้ที่บริโภค ตั้งใจ
บริโภคที่โดนัทหรือตั้งใจ
ที่จะเสพสัญญะที่บรรษัทข้ามชาติสื่อกันแน่ !!
ที่นี้เรามาดู
ลัทธิบริโภคนิยมคืออะไร บริโภคนิยมคือ นิยมการบริโภค วัฒนธรรมที่เน้นวัตถุนิยม การเชื่อว่าหากเรามีสิ่งนั้นสิ่งนี้แล้วเราจะมีความสุข เชื่อว่ายิ่งซื้อมากยิ่งมีความสุขมาก
ยิ่งจับจ่ายมากยิ่งมีความสุขมาก
เห็นง่ายๆจากการที่บรรษัทข้ามชาติออกโฆษณาโน้มน้าวประชาชน เปลี่ยน
สินค้าให้กลายเป็น
สัญญะเช่น นมตราหมีเพื่อความห่วงใย
น้ำสกัดลูกพรุนเพื่อความสวยงาม
m150พลังของคนรุ่นใหม่
ถามว่ามันเกี่ยวข้องกันไหมระหว่างนมกับความห่วงใย
ไม่!!!
มันไม่เกี่ยวข้องเลย...แต่ทุกวันนี้เวลาไปเยี่ยมคนป่วยทำไมต้องให้นมตราหมี
นั้นก็เพราะสัญญะที่บรรษัทข้ามชาติกำลังโน้มน้าวความคิดเราให้คล้อยตาม
มันพยายามสอดแทรกให้สินค้าพวกนี้เป็นเรื่องปกติเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน
เช่นอาหารฟาสฟู๊ด ดิฉันจะยกตัวอย่าง แมคโดนอลล์

เพื่อนๆทราบหรือไม่ค่ะ ว่าที่อเมริกา แมคโดนอลล์คืออาหารของคนจน...อาหารของกรรมกร
เขาจะรีบซื้อรีบกินแล้วรีบไป...เพราะฉะนั้นร้านค้าของเขาก็จะมีแค่เก้าอี้ไม่กี่ตัว
แต่เมื่ออาหารฟาสฟู๊ดชนิดนี้เข้ามาเมืองไทย
แมคโดนอลล์กลับกลายเป็นสัญญะของความทันสมัย
ผู้บริโภคกลับเสพความเป็นตะวันตก ความมีรสนิยมจากการทานอาหารฟาสฟู๊ด
เพื่อนๆสังเกตว่าร้านแมคโดนอลล์จากเดิมเป็นร้านซื้อแล้วรีบกลับ กลายเป็นร้านอาหารนั่งแช่ แล้วติดกระจกเพื่อผู้บริโภคจะได้โชว์ให้เห็นสัญญะ
เพื่อนๆอาจถามว่าความนิยมแบบนี้ก่อให้เกิดผลสียอะไรละ
มากมายค่ะ...
ไม่ว่าจะเป็นการเกษตรเชิงเดี่ยว
>>>
การปลูกกะหล่ำปลีที่ภูทับเบิกเมื่อผู้ผลิตต้องการขายและผู้บริโภคต้องการที่จะซื้อ จากเดิมที่ผลิตเพื่อพออยู่พอกิน...ต้องผลิตพืชชนิดเดียวในปริมาณมากๆ
เกษตกรต้องให้ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมีเพื่อตอบสนองผลผลิตให้ทันต่อความต้องการของประชาชน
ส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลาย
ปัญหาขยะ
ทุกวันนี้ประเทศไทยประสบปัญหาขยะล้นเมือง...ไม่มีที่กำจัดขยะ
สาเหตุก็มาจากลัทธินี้แหละค่ะ...เมื่อบริโภคมากขยะก็มากขึ้น
ความเสื่อมโทรมทางคุณธรรม
วัตถุนิยมส่งผลให้คนเห็นคุณค่าของวัตถุมากกกว่าคุณค่าทางด้านจิตใจ
ปัจจุบันนี้...คนต่างเชือว่าความสุขจะเกิดขึ้นได้ถ้าเรามีเงิน บ้าน รถ โทรศัพท์
ทำให้ต้องไขว่ขว้าทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เสพวัตถุโดยที่เราไม่รู้ตัว...เช่นค่านิยมการเป็นเมียฝรั่งของผู้หญิงอีสาน
หรือแม้แต่ค่านิยมการเรียนหนังสือที่ถูกปลูกฝังมาว่า เรียนสูงๆจะได้เป็นเจ้าคนนานยคน มีเงินมีทอง
นี้คือปัญหาบางประการที่ดิฉันยกประเด็นให้เพื่อนๆได้ฉุกคิดนะค่ะ
แต่ยังมีปัญาหาต่างๆอีกมากมายที่เกิดจากบริโภคนิยม เช่นตั้งแต่เรื่องพันธุวิศวกรรมหรือGMO รวมไปถึงการล่าอาณานิคมทางเศรษกิจ
เพราะฉะนั้นเรามาสังเกตสิ่งรอบๆตัวเราเถอะค่ะ ว่าเป็นผลพวงจากลัทธิบริโภคนิยมหรือป่าว
เช่น โทรศัพท์ก็ต้องBB กาแฟต้องสตาร์บัก รองเท้าต้องอาดิดาส กางเกงต้องลีวาย
เรากำลังเสพสัญญะอยู่หรือเปล่า

Re: เรามารู้เท่าทันลัทธิบริโภคนิยมกันเถอะ By: hiddenmin Date: ต.ค. 23, 2010, 01:59 PM
นศ สื่อสารมวลชนออกฤทธิ์แล้ว...
สัญญะ แปลว่าอะไรเหรอ??
ตรง 'การเกษตรเชิงเดี่ยว' รูปผิดรึเปล่า
Re: เรามารู้เท่าทันลัทธิบริโภคนิยมกันเถอะ By: tatcha_jah ~♪ Date: ต.ค. 23, 2010, 02:20 PM
สัญญะคือสัญลักษณ์ที่ผู้ผลิตต้องการสื่อและผู้บริโภคใช้มัน
ยกตัวอย่างเช่น BB ipnoneมีราคาแพงผู้ผลิตกำลังใช้สัญญะว่า ต้องมีตังค์เท่านั้นถึงจะมีปัญญาใช้ได้
แล้วการที่พี่ใช้BBพี่ก็กำลังเสพสัญญะนั้นว่า พี่มีตังค์ถึงได้มีบีบีใช้
การที่พี่เอาบีบีมาห้อยคอ หรือ มาแชตตอนที่อยู่บนรถไฟฟ้า ใต้ดิน พี่ก็กำลังแสดงสัญญะนั้นไงค่ะ
^^ >>> ยกตัวอย่างนะ พี่ไม่ได้ใช้บีบี อิอิ
ส่วนรูปการเกษตรเชิงเดี่ยว ไม่ผิดจ้าน้องมีน
เพราะประเทศไทยเราก็มีการเกษตรเชิงเดี่ยว เช่น
การปลูกกะหล่ำปลีทีภูทับเบิก เกตรกรเป็นชาวเขา เขาต้องลงทุนสูงเพื่อให้ได้กระกล่ำปลีปริมาณมากๆ
ถามว่าลงทุนจากอะไร จากนายหน้าค้าพันธุ์กะหล่ำปลี จากยาฆ่าแมลง จากปุ๋ยเคมี ลงทุนจากสุขภาพของเกษตรกรเอง จากทรัพยากรของแผ่นดิน
ผลผลิตที่ได้คือ ตอบสนองต่อความต้องการอันไม่มีที่สิ้นสุดของผู้บริโภค
http://www.youtube.com/watch?v=rtFFhODkyX4&feature=player_embedded#!
ลงวิดิโอไม่ได้อ่า
T_T
Re: เรามารู้เท่าทันลัทธิบริโภคนิยมกันเถอะ By: Andalus Date: ต.ค. 23, 2010, 07:27 PM
ต้องมีตังค์เท่านั้นถึงจะมีปัญญาใช้ได้
บางครั้งมีตังค์ยังใช่ไม่ได้ ต้องโง่ด้วยถึงจะใช่ได้ อิอิ
Re: เรามารู้เท่าทันลัทธิบริโภคนิยมกันเถอะ By: ILHAM Date: ต.ค. 23, 2010, 08:47 PM
เดี่ยวแปด
Re: เรามารู้เท่าทันลัทธิบริโภคนิยมกันเถอะ By: tatcha_jah ~♪ Date: ต.ค. 23, 2010, 11:20 PM
555
ใช่แร้วจ้าน้องeno
ว่าแต่
สังเกตดีๆ
เด็กคนนั้นอยากกินโดนัท
จริงๆหรือป่าวเนียะ
^^"
Re: เรามารู้เท่าทันลัทธิบริโภคนิยมกันเถอะ By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: ต.ค. 24, 2010, 10:46 AM
ยังงงๆกับสัญญะ
Re: เรามารู้เท่าทันลัทธิบริโภคนิยมกันเถอะ By: nada-yoru Date: พ.ย. 03, 2013, 03:59 PM
เป็นบทความที่ดีมากเลยทีเดียวค่ะ...
เพราะข้าน้อยเรียนจบด้านออกแบบมา ทำงานตรงนี้มา...
ทำให้รู้แนวคิดของผู้บริหาร...มันตรงกับที่เจ้าของกระทู้บอก...
ถามว่าทำไมต้องทำเช่นนั้น...ผู้บริหารเขาก็แค่ต้องการผลประโยชน์กำไร
เขาไม่ได้คิดเลยไปถึงว่า...ใครจะต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง...
หรือสังคมจะเสื่อมแค่ไหน...เขาแค่ต้องการให้โลกอยู่ในมือเขา
และเขาสามารถควบคุมมันได้ด้วยมือของเขาเอง...
เขาจึงต้องเฟ้นหากลยุทธต่างๆมานำเสนอ มาโฆษณา
ทัั้งๆที่บางครั้ง มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยกับตัวผลิตภัณฑ์ของเขา
แต่ที่มันเกี่ยวข้องก็คือ เกี่ยวข้องกับตัวเป้าหมายของเขา...
พี่ที่ทำงานยังงงเลยว่า ทำไมดีไซเนอร์ที่จบด้านออกแบบผลิตภัณฑ์
มาถึงไม่มี iphone ใช้ จะว่าไม่ชอบแบรนด์ก็ไม่ใช่
เพราะใช้คอมApple มาเป็น 10 ๆปี ตั้งแต่ที่มันยังไม่ดังระเบิด
อย่างที่เป็นอยู่ในยุคนี้...พ่ี่นึกว่าเธอเป็นสาวกของ Apple เสียอีก...
ก็เลยบอกพี่เขาว่า...เราใช้ apple มานานก็จริง ใช้มันตั้งแต่คนทั่วไป
ยังไม่รู้จัก ตั้งแต่สติ๊ป จ๊อบ ยังหาแนวทางการตลาดไม่สำเร็จ
ตั้งแต่ Apple ยังดิ่งลงสู่หุบเหวอยู่...แต่ที่เลือกใช้มันเพราะมันส่งเสริม
ในด้านที่เรากำลังเรียนอยู่ก็เท่านั้น...ไม่ได้สนเรื่องกระแสหรอกค่ะ...
ตอนนี้ก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้ iphone ก็เลยไม่ซื้อมาใช้
มันแพงด้วย ที่สำคัญ ทุกวันนี้ก็แค่โทรศัพท์กับไลน์...
โทรศัพท์ธรรมดาทั่วไป ราคาไม่กี่พันก็มีความสามารถทำได้...
iphone ถูกสร้างมาเพื่อส่งเสริมพวกนักธุรกิจ หรือพูดง่ายๆก็คือ
ถูกสร้างมาเพื่อส่งเสริมการทำงานของพวกตลาดบน
อุปกรณ์และวัสดุที่นำมาใช้มันก็เลยค่อนข้างมีประสิทธิภาพสูง
ก็เลยแพง แต่ที่แพงกว่าค่าวัสดุที่นำมาผลิตก็คือ ตัวค่านิยมนี่แหล่ะ...
ค่าตัวนี้แหล่ะที่เป็นตัวแปรให้ผลิตภัณฑ์แพงได้อย่างที่เราคาดไม่ถึง
คนที่ทำหน้าที่ออกแบบและผลิตย่อมรู้ดีว่า...อะไรคือตัวแปรสำคัญ
สำหรับผลิตภัณฑ์หนึ่งๆ และเราจะไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของสิ่งนั้น...
เราจะใช้ทุกอย่างตามที่เราเห็นว่ามันเหมาะกับงานของเรา
เหมาะกับวิถีชีวิตของเราอย่างที่สุด ที่สำคัญ...
เราอาจจะไม่รู้เลยว่า...ที่เราต้องซื้อ iphone ราคาแพงๆนั้น
เพราะเราต้องเสียค่าภาษีฟุ่มเฟือยด้วย...
เนื่องจากผลิตภัณฑ์บางตัวจะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของฟุ่มเฟือย
ทั้งที่ราคาของมันตอนวางขายในประเทศผู้ผลิตไม่ได้สูงลิบ
แต่พอมาวางขายในเมืองไทย ราคากลับสูง เพราะเราต้องเสียค่า
ภาษีฟุ่มเฟือยดังกล่าวด้วยค่ะ...พวกเสื้อผ้าแบรนด์เนม นาฬิกา
น้ำห้อมแบรนด์เนมในบ้านเราจึงแพงหูฉี่...
ซึ่งพวกเรา นักออกแบบมักเรียกภาษีฟุ่มเฟือยนี้เล่นๆกันว่า
ภาษีค่าโง่นั่นเองค่ะ...ซึ่งบางครั้งเราก็ยอมโง่เพื่อให้ได้อะไรบางอย่าง
มาครอบครองเพียงเพื่อสนองความอยาก ความอยากที่ว่า
มันไม่ได้มีความจำเป็นต่อชีวิตมากมายเลย...แต่เพราะความอยากมีอยากได้
จากที่ไม่มีความจำเป็นต่อชีวิตก็เลยกลายเป็นความจำเป็นต่อลมหายใจเข้าออก
ของเราๆขึ้นมา...
และความอยากตัวนี้นี่แหล่ะค่ะที่เป็นประตูเปิดให้
นักธุรกิจมาค้ากำไรเอากับเราอย่างที่เราก็ไม่อาจรู้ได้ว่าทำไม เจ้าสิ่งนั้นสิ่งนี้ถึงได้แพงขนาดนี้นะ...
เรารู้แค่เพียงว่า...ถ้าเรามีเจ้าสิ่งนั้นสิ่งนี้แล้วล่ะก็...
เราจะกลายเป็นคนทันสมัย ไม่ตกยุคหรือหล่นยุค
และเราจะกลายเป็นคนมั่งมี เพราะคนมั่งมีต้องมีเจ้าสิ่งนี้
เอาไว้ครอบครอง...
ดังนั้น...หากพวกเราๆจะสังเกต
พวกนักออกแบบหรือพวกอาร์ตทั้งหลาย
มักกลายเป็นคนตกยุค ดูเชยและแต่งกายไม่เหมือน
ชาวบ้านชาวช่องได้ตลอดล่ะค่ะ...ไม่ใช่ว่าอยากสวนกระแส แต่เรารู้ว่า...กระแสพวกนี้มีมาแล้วก็มีไป...
คนที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ก็จะเลือกสิ่งนั้นให้กับตัวเอง
มากกว่าจะเดินตามกระแสน่ะค่ะ...
ซึ่งบางครั้งสิ่งที่เราชอบก็ไม่จำเป็นเลยว่า
จะตรงกับกระแสนิยมในตอนนั้น...
แต่เพราะเรารู้จักตัวเราเอง...
และเลือกจะเป็นตัวของตัวเอง...จนกลายเป็นพวก
ไม่แยแสโลกไปบ้างในสายตาบางคน...
เพราะเรามักถูกสอนให้เป็นผู้สร้างกระแส
มากกว่าเดินตามกระแส...
แต่อดยอมรับไม่ได้ว่า...ตัวเองนัั้นมายืนอยู่ตรงจุด
ที่ไม่ได้อยากอยู่ เพราะมันไม่ใช่แนวทางที่เราต้องการ
ให้เป็นไปเลย...เนื่องจากกระแสที่เขาอยากให้เราสร้างขึ้นมันเป็นกระแสในด้านลบ...จึงไม่อยากมีส่วนร่วม
กับการสร้างกระแสดังกล่าว...
อินชาอัลลอฮฺ...หากอัลลอฮฺประสงค์
ก็อยากจะช่วยให้สังคมเราดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
แม้จะทำได้แค่เพียงนิดก็ตาม...
ไม่อยากให้พี่น้องเราตกอยู่ในวังวนของค่านิยมผิดๆ
อย่างน้อยตอนศึกษาหาความรู้ก็อยากให้แน่ใจว่า
ตัวเองนั้นจะศึกษาเรื่องนั้นเรื่องนี้เพื่ออะไร
ไม่อยากให้คิดแค่เพียงว่า เรียนๆไปเถิด
เอาแค่ใบปริญญามาได้ก็พอแล้ว...
จบไปเดี๋ยวก็ได้งานทำเองแหล่ะ...
ทำงานไปเดี๋ยวก็รวยเองแหล่ะ...
พึงรู้เถิดว่า เรากำลังใช้เวลาให้หมดไปอย่างน่าเสียดาย
เวลาเป็นสิ่งมีค่า...มีค่ามากค่ะ...
ถ้าเราพยายามหาตัวเองว่าถนัดอะไรได้เร็วเมื่อไหร่
และรู้เป้าหมายตัวเองได้ชัดเจนเมื่อไหร่...
แน่นอนว่า เวลาที่เราจะมานั่งหายใจรดโลกไปวันๆนั้น
ก็จะมลายหายไปในทันที...
คนที่เรียนจบมาไม่ได้รวยทุกคน พอๆกับคนที่ทำงานหนักๆขยันทำงานตัวเป็นเกลียวก็ไม่ได้รวยกันทุกคน...
เป้าหมายของการเรียนกับการทำงานที่แท้จริง
มันไม่ใช่แค่ต้องการเป็นคนรวยนะคะ...
แต่มันมีมากกว่านั้น...
หากเราพยายามทำความเข้าใจมันจริงๆ...
บางทีเราอาจจะพบว่าเรามีความสามารถมากกว่า
การทำให้ตัวเองเป็นคนรวยเสียอีกก็ได้ค่ะ...
เพราะเคยบอกพ่อว่า...พ่อรู้มั้ยว่า...หนูค้นเจอทาง
ที่จะทำให้หนูรวยได้แล้วนะ...แต่มันมีเหตุผลอย่างมากมายที่หนูจะไม่เลือกเดินทางนั้น...
หวังว่าพ่อจะไม่ตำหนิหนู...ถ้าพ่อรู้ว่าหนูจะต้องสูญเสีย
อะไรไปบ้างหากหนูเลือกเดินทางสายนั้นขึ้นมาจริงๆ...
แต่ให้พ่อเชื่อเถิดว่า...หนูพยายามเลือกทางที่ดีที่สุด
เท่าที่จะเลือกได้ให้กับตัวเองเสมอ...
เพราะผู้หญิง(บางคน)เลือกจะแต่งงานกับคนรวย
เพียงเพื่อจะได้เป็นคนรวย(และเป็นการรวยทางลัดเสียด้วย)ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยตรากตรำทำงานหนักเพื่อที่
จะได้รวย...
บางคนเลือกแต่งงานกับคนที่มีชื่อเสียงเพื่อจะได้
เป็นผู้มีชื่อเสียงด้วย...
บางคนเลือกจะสบายด้วยการทำงานทุจริต
ทำแค่ไม่นานก็รวย มีเงินใช้จ่ายมากมาย...
ยังเคยพูดกับพ่อเลยว่า...หนูยังค้นไปไม่เจอเลยว่า
มีทางไหนบ้างที่จะร่ำรวยขึ้นมาอย่างรวดเร็วทันใจ
โดยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า
นอกจากว่าทางนัั้นคือทางของชัยตอน...
และด้วยกับการเอารัดเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน...
วัสลามค่ะ