กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
Pages: 12
การเอาน้ำมาเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ?? By: Muftee Date: ต.ค. 25, 2010, 07:54 AM
การเอาน้ำมาเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ??  โดย เชค อะลีย์ ญุมอะฮฺ  มุฟตีย์ใหญ่แห่งอียิปต์


ตอบ..

   จำเป็นบนผู้ที่กำลังทำการอาบน้ำละหมาดอยู่นั้น ให้เอาน้ำเช็ดไปที่ส่วนหนึ่งจากเส้นผมของเขา และตามด้วยการทำให้สมบูรณ์โดยการเอามือที่เปียกน้ำ มาเช็ดบนผ้าสารบันทั้งหมดอีกครั้ง เสมือนกับที่ท่านรสูล (ซ.ล.) ได้ทำไว้


ดู ตำรา الدين والحياة الفتاوى العصرية اليومية โดย เชค อะลีย์ ญุมอะฮฺ มุฟตีใหญ่แห่งอียิปต์ ในหมวดที่ว่าด้วยเรื่อง ความสะอาด หน้าที่ 13


Re: การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ?? By: Beechern Date: ต.ค. 25, 2010, 02:48 PM
เฉพาะผมใช่มั้ย เพราะว่าผมเป็นคนที่ไม่ชอบพกผ้าเช็ดหน้า และไม่ค่อยชอบเช็ดให้แห้งก่อนการละหมาด (ใช้เสื้อตัวเองซะส่วนใหญ่)
Re: การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ?? By: taufik Date: ต.ค. 25, 2010, 03:17 PM
ยังไงเนี่ย คุณบีเฉิน เข้าใจกระทู้ข้างบนว่าต้องเอาสัรบันเช็ดผมให้แห้งก่อนจะละหมาดหรอ
 
Re: การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ?? By: Beechern Date: ต.ค. 25, 2010, 04:07 PM
   จำเป็นบนผู้ที่ทำการอาบน้ำละหมาดในการที่จะเช็ดส่วนหนึ่งจากผมของเขาและตามด้วยการทำให้สมบูรณ์โดยการเช็ดบนผ้าสารบันอีกครั้ง เสมือนกับที่ท่านรสูล (ซ.ล.) ได้ทำไว้

จะให้คิดว่าไงละ  hihi:
Re: การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ?? By: taufik Date: ต.ค. 25, 2010, 04:50 PM
ผมเข้าใจว่าอย่างนี้ เมื่อถึงขั้นตอนการเช็ดผมในขณะอาบน้ำละหมาด ก็จะเป็นการอัฟดอล ถ้าหากว่าเราเช็ดสัรบัณด้วย (คือทำให้เปียก)

 
การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ??  โดย เชค อะลีย์ ญุมอะฮฺ  มุฟตีย์ใหญ่แห่งอียิปต์

เพราะมันคือในขณะงัย ไม่ใช่หลังอาบน้ำละหมาด

หรือว่าผมเข้าจัยผิดไป

Re: การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ?? By: ILHAM Date: ต.ค. 25, 2010, 05:16 PM
ผมเข้าใจว่าอย่างนี้ เมื่อถึงขั้นตอนการเช็ดผมในขณะอาบน้ำละหมาด ก็จะเป็นการอัฟดอล ถ้าหากว่าเราเช็ดสัรบัณด้วย (คือทำให้เปียก)

 
การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ??  โดย เชค อะลีย์ ญุมอะฮฺ  มุฟตีย์ใหญ่แห่งอียิปต์

เพราะมันคือในขณะงัย ไม่ใช่หลังอาบน้ำละหมาด

หรือว่าผมเข้าจัยผิดไป




เคยได้ทราบว่าสำหรับผู้ชายสุนนัตให้โกน  แต่สำหรับผู้หญิงสุนนัตให้ถอน
                    อันนี้ขอคำอธิบายเพิ่มเติมจากผู้รู้ด้วยครับ

ผมว่าคงไม่ต้องขอคำอธิบายแล้วล่ะคับ
ในเมื่อฟัตวาข้างบนก็ชัดเจนแล้วนี้
ว่าสุนัตให้โกน ทำแล้วได้บุญ
แล้วจะหาวิธีอื่นให้ต้องเจ็บกายทำไม


นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า
คนเรามีสิทธิผิดพลาดกันทั้งนั้น สิ่งที่เราเคยเรียนมา หากขัดกับคำฟัตวา ใช่ว่ามันผิดเสมอไป
Re: การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ?? By: salsabeela Date: ต.ค. 25, 2010, 09:50 PM


นิทานสนุกจัง smile:
Re: การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ?? By: As-Zaleek Date: ต.ค. 26, 2010, 06:34 AM
เฉพาะผมใช่มั้ย เพราะว่าผมเป็นคนที่ไม่ชอบพกผ้าเช็ดหน้า และไม่ค่อยชอบเช็ดให้แห้งก่อนการละหมาด (ใช้เสื้อตัวเองซะส่วนใหญ่)

ผมก็เช่นเดียวกัน  เพราะร่องรอยของอิบาดะฮ์(การอาบน้ำละหมาด) นั้นถือว่ามักโระฮ์ในการทำให้มันหายไป  ดังนั้นการอาบน้ำละหมาดแล้วเช็ดร่องรอยของน้ำละหมาดให้แห้ง  เป็นสิ่งไม่บังควรทำ
Re: การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ?? By: Beechern Date: ต.ค. 26, 2010, 08:52 AM
เฉพาะผมใช่มั้ย เพราะว่าผมเป็นคนที่ไม่ชอบพกผ้าเช็ดหน้า และไม่ค่อยชอบเช็ดให้แห้งก่อนการละหมาด (ใช้เสื้อตัวเองซะส่วนใหญ่)

ผมก็เช่นเดียวกัน  เพราะร่องรอยของอิบาดะฮ์(การอาบน้ำละหมาด) นั้นถือว่ามักโระฮ์ในการทำให้มันหายไป  ดังนั้นการอาบน้ำละหมาดแล้วเช็ดร่องรอยของน้ำละหมาดให้แห้ง  เป็นสิ่งไม่บังควรทำ

เฮ้ย จิงดิ  ^^
Re: การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ?? By: As-Zaleek Date: ต.ค. 26, 2010, 10:07 AM
 :salam:

จริงครับ เพราะครูผมสอนมาเช่นนั้น  เนื่องจากร่องรอยของอิบาดะฮ์เราจะเอามันออกไปทำไม  ซึ่งไม่บังควรเลย
Re: การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ?? By: al-firdaus~* Date: ต.ค. 26, 2010, 10:12 AM
เสร็จจากเอาน้ำละหมาด ไม่เคยเช็ดเหมือนกันค่ะ yippy:
พอเราละหมาดเสร็จ ร่องรอยเหล่านั้น ก็แห้งไปเอง
ซ้ำแล้ว ทำให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดชื่นด้วยกับร่องรอยน้ำละหมาดเหล่านั้น mycool:
Re: การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ?? By: ILHAM Date: ต.ค. 26, 2010, 11:08 AM
เช็ดบ้างไม่เช็ดบ้าง
ที่ไม่เช็ดก็ตอนรีบๆกับตอนที่นึกได้ว่าไม่ควรเช็ด ส่วนที่เช็ดก็ตอนที่รู้สึกรำคาญกับหยดน้ำกับตอนฝนตกหนาวๆ
Re: การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ?? By: salsabeela Date: ต.ค. 26, 2010, 12:12 PM
เช็ดบ้างไม่เช็ดบ้าง
ที่ไม่เช็ดก็ตอนรีบๆกับตอนที่นึกได้ว่าไม่ควรเช็ด ส่วนที่เช็ดก็ตอนที่รู้สึกรำคาญกับหยดน้ำกับตอนฝนตกหนาวๆ

เหมือนกัน.......
             แต่ไม่เคยรู้ว่าการเช็ดเป็นมักโรฮฺ
Re: การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ?? By: ILHAM Date: ต.ค. 26, 2010, 12:26 PM
รู้ แต่ยังทำ
Re: การเช็ดบนผ้าสารบันในขณะอาบน้ำละหมาด หุก่มว่าอย่างไร ?? By: hiddenmin Date: ม.ค. 04, 2011, 09:38 PM

เห็นเนื้อหาใกล้เคียงกัน

เอามาจาก http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php/topic,4079.0.html


2.2 หากผู้อาบน้ำของมุสลิมะฮ์ที่มีผ้าคลุมผม  ก็ให้เอามือที่เปียกน้ำสอดเข้าไปเช็ดที่ขม่อมก่อนอย่างน้อยให้เปียกผมสามเส้น  ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว  หลังจากนั้นก็เอาน้ำเช็ดบนผ้าคลุมผม  เพื่อให้ดังกล่าวได้ผลบุญเหมือนกับการเช็ดทั้งหมดศีรษะในการอาบน้ำละหมาด นั่นเอง

ท่านอัลมุฆีเราะฮ์ บิน ชั๊วะบะฮ์  กล่าวว่า

‏أَنَّ النَّبِيَّ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏مَسَحَ عَلَى الْخُفَّيْنِ وَمُقَدَّمِ رَأْسِهِ وَعَلَى عِمَامَتِهِ

"แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ทำการเช็คสองรองเท้าหุ้มข้อ(คูฟ) และเช็ดขม่อมและบนผ้าโพกศีรษะ"  รายงานโดยมุสลิม (411)

ท่าน อิมามอันนะวาวีย์กล่าวอธิบายว่า  "สำหรับการเช็ดเสริมให้สมบูรณ์ที่ผ้าโพกศีรษะนั้น  ตามทัศนะของอิมามอัชชาฟิอีย์และปราชญ์กลุ่มหนึ่ง  ถือเป็นมุสตะฮับ(หรือสุนัต)  เพื่อให้มีความสะอาดทั่วศีรษะ  และไม่มีการแบ่งแยกใด ๆ ระหว่างการสวมผ้าโพกศีรษะขณะที่มีน้ำละหมาดหรือขณะที่ยังไม่มีน้ำละหมาด  และเช่นเดียวกัน  หากบนศีรษะของเขามีหมวกโดยเขาไม่ได้ถอดมันออก  ก็ให้เขาทำการเช็ดที่ขม่อมและมุสตะฮับให้เช็ดเสริมให้สมบูรณ์บนหมวกเพราะ เทียบเคียงกับผ้าโพกศีรษะ  และหากเขาจำกัดเพียงแค่เช็คที่ผ้าโพกศีรษะเท่านั้นโดยไม่ทำการเช็คที่ส่วนใด ของศีรษะ  ถือว่าใช้ไม่ได้โดยไม่มีการขัดแย้งใด ๆ   และนี้ก็คือมัซฮับของอิมามมาลิก , อิมามอบูฮะนีฟะฮ์ , และนักปราชญ์ส่วนมาก  - ขออัลเลาะฮ์ประทานความเมตตาต่อพวกเขา -  ส่วนมัซฮับอิมามอะห์มัดนั้น  อนุญาตให้จำกัดเพียงแค่เช็คผ้าโพกได้  และมีกลุ่มหนึ่งจากสะลัฟให้การเห็นพร้อง  วัลลอฮุอะลัม"  ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม : 2/176