กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
Pages: 123
Re: มีเรื่องอยากจะถามมากมาย.... By: นารีย๊ะ Date: พ.ย. 30, 2010, 08:41 AM
ถามอีกแล้วนะ คนที่เป็นลักเพศแต่ยังละหมาดและไม่ก่อบาปอื่นได้อีกเลยเขายังเป็นมุสลิมอยู่หรือเปล่า ::)คณะกรรมการมัสยิดมีสิทธิ์ที่จะห้ามเขาจากการเข้าร่วมปฏิบัติศาสนกิจหรือไม่ ::)ถ้ามิสิทธิ์เหตุไดคนที่กินเหล้าเมายาถึงไม่ถูกห้ามหล่ะ( พูดถึงมัสยิดแถวบ้าน) loveit:
Re: มีเรื่องอยากจะถามมากมาย.... By: Beechern Date: พ.ย. 30, 2010, 09:06 AM
ถามอีกแล้วนะ คนที่เป็นลักเพศแต่ยังละหมาดและไม่ก่อบาปอื่นได้อีกเลยเขายังเป็นมุสลิมอยู่หรือเปล่า ::)คณะกรรมการมัสยิดมีสิทธิ์ที่จะห้ามเขาจากการเข้าร่วมปฏิบัติศาสนกิจหรือไม่ ::)ถ้ามิสิทธิ์เหตุไดคนที่กินเหล้าเมายาถึงไม่ถูกห้ามหล่ะ( พูดถึงมัสยิดแถวบ้าน) loveit:

รอฟังความคิดเห็น ...

สำหรับผม ไม่มีสิ่งมีชีวิตใหนที่น่าเกลียด เท่ากับพวกลักเพศที่ไปแปลงเพศเสริมนมอีกแล้ว (เป็นความคิดเห็นส่วนตัว)
แต่ถ้ายังไม่ได้แปลงเพศไม่ได้เสริมนม ยังดูน่ารักไปอีกแบบ (เพื่อนผมก็ออกท่าทางไม่แมน ประมาณแต๋วหน่อยๆ แต่หัวใจนั้นเป็นผู้ชายเต็มร้อย)
Re: มีเรื่องอยากจะถามมากมาย.... By: hiddenmin Date: พ.ย. 30, 2010, 10:10 AM

อยากรู้ทำไมชอบถามเรื่องหุก่มพี่น้องตกศาสนาจัง....
Re: มีเรื่องอยากจะถามมากมาย.... By: Rachyds Date: พ.ย. 30, 2010, 12:53 PM
 :salam:

ซูเราะฮ ฏอฮา
  14. “แท้จริงข้าคืออัลลอฮฺ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากข้า ดังนั้นเจ้าจงเคารพภักดีต่อข้าและจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด เพื่อรำลึกถึงข้า 


  ซุเราะฮ อัล-อันอาม
162. จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่า แท้จริงการละหมาดของฉัน และการอิบาดะฮ์  ของฉัน และการมีชีวิตของฉัน และการตายของฉันนั้นเพื่ออัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลกเท่านั้น 
163. ไม่มีภาคีใด ๆ แก่พระองค์ และด้วยสิ่งนั้นแหละข้าพระองค์ถูกใช้ และข้าพระองค์คือคนแรกในหมู่ผู้สวามิภักดิ์ทั้งหลาย 

  ซุเราะฮอัล-อังกาบุต
45. เจ้าจงอ่านสิ่งที่ถูกวะฮีย์แก่เจ้าจากคัมภีร์(*1*)และจงดำรงการละหมาด (เพราะ) แท้จริงการละหมาด(*2*)นั้นจะยับยั้งการทำลามกและความชั่วและการรำลึกถึงอัลลอฮ์นั้น(*3*)ยิ่งใหญ่มาก และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ 

(1)  คือจงอ่านคัมภีร์อัลกุรอานเถิดมุฮัมมัดที่พระเจ้าของเจ้าได้ประทานให้แก่เจ้า และจงแสวงหาความใกล้ชิดพระองค์ด้วยการอ่านมัน และทบทวนมัน เพราะในคัมภีร์นั้นมีบทเกี่ยวกับมารยาทที่ดีงาม
(2)  คือการละหมาดที่ถูกต้องทุกประการทั้งรูปแบบและการถ่อมตนจะช่วยยับยั้งการกระทำที่แลวร้ายได้
(3)  การรำลึกถึงอัลลอฮ์นั้นยิ่งใหญ่กว่าทุก ๆ สิ่งในโลกนี้ คือรำลึกถึงพระองค์ในเวลาละหมาด เวลาซื้อขาย และทุก ๆ เวลาในกิจการของท่าน 

 

ﻮﻋﻦﺍﺒﻲﻫﺮﻴﺮﺓﺮﺿﻲﺍﷲﻋﻧﻪﻗﺎﻝﺴﻌﺖﺮﺴﻮﻝﺍﷲ﴿ﺺ﴾ﻴﻘﻮﻝارايتم لوان نهرابباب احدكم يغ تسل منه كل يوم خمس مرات هل يبق من درنه شيءقالو لايبتى من درنه شيء قال ﻔﺬلك مثل الصلوات الخمس يمحوالله بهن الخطايا

จากท่าน อบูฮุรัยเราะฮ(ร.ด) กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านรอซูลลุลลอฮ(ซ,ล) ได้กล่าวว่า  พวกท่านมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ถ้าหากว่ามีแม่น้ำสายหนึ่งอยู่หน้าบ้านคนใดคนหนึ่งในบรรดาพวกท่าน และเขานั้นได้อาบน้ำในแม่น้ำนั้นทุกวัน วันละห้าเวลา สิ่งสกปรกยังหลงเหลืออีกเหรอ? เหล่าบรรดาซอฮาบัต ตอบว่า “ไม่ครับ” แล้วท่านรอซูลได้กล่าวต่ออีกว่า “ด้วยเหตุดังนั้นแหละ อุปมาดังละหมาด ห้าเวลานั้น อัลลอฮ(ซ.บ)จะลบล้างความผผิดของเขา” (บาปเล็กที่คนนั้นมีต่ออัลลอฮ ซ.บ)     (จากบุคอรีและมุสลิม)

 
-การละหมาดคืออีบาดัตที่บ่าวของพระองค์พึงมีต่อพระผู้อภิบาลเจ้า อัลลอฮ(ซ.บ) และถือว่าเป็นอาม้าลอีบาดัตที่สำคัญที่สุดในบรรดาอาม้าลต่างๆ ถ้าหากบุคคลหนึ่งบุคคลหนึ่งบุคคลใดละทิ้งละหมาด หมายความว่าผู้นั้นห่างไกลจากอัลลอฮ ซึ่งเมื่อเขาเฉยเมย ก็หมายความว่าเขาต้องมีภาระในการสอบสวนในวันกิยามัต แต่เมื่อไรที่เขายังอยู่บนพื้นฐานของครอบครัวอิสลาม และยังมิได้ มุรตัด หรือปฏิเสธต่ออัลลอฮ (ซ.บ) ไม่ว่าทั้งร่างกายและจิตใจ เขาก็ยังมีสิทธิในความเป็นอิสลาม
-การทำมักเซียต ในกรณีที่เป็นบาปเล็ก เขาสามารถที่จะลบล้างด้วยการทำละหมาด (ดังเช่นอัลกุรอ่านและอัลฮะดิษได้กล่าวใว้)แต่ถ้าหากมักเซียตนั้นคือบาปใหญ่ และมิใด้ตอบัต เขาผู้นั้นจะถูกลัคนัต จากอัลลอฮ(ซ.บ) ที่ใหนเมื่อไหร่ วัลลอฮอัคลาม นั่นคือหน้าที่ของอัลลอฮ(ซ.บ)
-การที่เขาขาดละหมาด ห้าเวลา แต่ใจของเขายังนึกที่จะละหมาดวันศุกร์ แสดงว่าบุคคลนั้น ยังมีจิตหรือสามัญสำนึกหรือเกรงกลัวต่ออัลลอฮ(ซ.บ) แม้นอาทิตย์ละครั้ง ซึ่งก็ยังดีกว่าขาดแล้วขาดเลย ซึ่งก็นั่นแหละมันอยู่ที่พระองค์จะทรงดลจิตดลใจให้เขาได้รับทางนำ(ฮิดายัต)
-เมื่อเขาขาดละหมาดและพร้อมด้วยทำมักเซียต เขานั้นคือมัคโลกที่อาจกล่าวได้ว่า ต้อยตำที่สุด เพราะปศุสัตว์ ถึงแม้นไม่มีมันสมองเหมือนมนุษย์และจะไม่ถูกสอบสวน แต่พวกมันนั้นมีวิธิการทำอีบาดัตต่ออัลลอฮเสมอโดยที่มนุษย์ไม่ทราบถึงการทำอีบาดัตของพวกมันเป็นเช่นไร

ยอมรับครับสำหรับคำถามนี้ถึงแม้นจะเป็นคำถามที่สั้นแต่จริงๆแล้วยากที่สรรหาคำตอบ  วัลลอฮอาคลัม


 

Re: มีเรื่องอยากจะถามมากมาย.... By: ILHAM Date: พ.ย. 30, 2010, 06:02 PM

อยากรู้ทำไมชอบถามเรื่องหุก่มพี่น้องตกศาสนาจัง....

กดไลค์ๆๆๆ
Re: มีเรื่องอยากจะถามมากมาย.... By: นารีย๊ะ Date: ธ.ค. 08, 2010, 10:01 PM
ถามอีกแล้ว  loveit:เวลามีคนตายศาสนาอนุญาติให้เด็ก(ป.1 - ป.6 )ร่วมละหมาญานาซ๊ะได้หรือไม่เห็นส่วนมากเวลามีคนในตายครูที่โรงเรียนชอบนำเด็กมาร่วมละหมาด
Re: มีเรื่องอยากจะถามมากมาย.... By: almuminoon Date: ธ.ค. 08, 2010, 10:04 PM
ถามอีกแล้ว  loveit:เวลามีคนตายศาสนาอนุญาติให้เด็ก(ป.1 - ป.6 )ร่วมละหมาญานาซ๊ะได้หรือไม่เห็นส่วนมากเวลามีคนในตายครูที่โรงเรียนชอบนำเด็กมาร่วมละหมาด

ไม่มีปัญหาแต่ประการใด ที่จะให้เด็ก ปอหนึ่ง ถึงปอหก เข้าร่วมละหมาดด้วย

วัลลอฮฮุอะลัม
Re: มีเรื่องอยากจะถามมากมาย.... By: นารีย๊ะ Date: ธ.ค. 08, 2010, 10:14 PM
ที่ถามเพราะไม่รู้ และ เพราะเราอยากรู้แนวทางที่ถูกต้องตามหลักซุนนะฮ์  เพราะนบีสั่งว่าถ้าเราไม่รู้ให้ถามผู้ หวังว่าไม่มีใครสงสัยอีกนะ  วัสลาม
Re: มีเรื่องอยากจะถามมากมาย.... By: ILHAM Date: ธ.ค. 08, 2010, 11:42 PM
การที่เขาเอาเด็กไปละหมาด ก็เพื่อให้เด็กฝึกไว้ หากเด็กนั้นไม่อาเกลบาเละก็ถือซะว่าฝึกไป แต่ถ้าอาเกลบาเละแล้วก็ละหมาดจริงเลย
ละหมาดคนตายนั้นเป็นฟัรดูกีฟายัฮ ทำแค่คนเดียวก็ใช้ได้แล้ว เอาเด็กมาฝึกก็ไม่เสียหายหลาย แถมยังได้ข้าวสารกลับบ้านฝากแม่ได้อีก(ถ้าไม่ใช่มัสยิดวัฮบีนะ)
Re: มีเรื่องอยากจะถามมากมาย.... By: almuminoon Date: ธ.ค. 08, 2010, 11:49 PM
การที่เขาเอาเด็กไปละหมาด ก็เพื่อให้เด็กฝึกไว้ หากเด็กนั้นไม่อาเกลบาเละก็ถือซะว่าฝึกไป แต่ถ้าอาเกลบาเละแล้วก็ละหมาดจริงเลย
ละหมาดคนตายนั้นเป็นฟัรดูกีฟายัฮ ทำแค่คนเดียวก็ใช้ได้แล้ว เอาเด็กมาฝึกก็ไม่เสียหายหลาย แถมยังได้ข้าวสารกลับบ้านฝากแม่ได้อีก(ถ้าไม่ใช่มัสยิดวัฮบีนะ)

เอ๊ ละหมาดเพื่อเอาบุญหรือเอาข้าวสารหล่ะครับ

คุณอิลฮามอาจจะตอบว่า เอาบุญซิ

ใช่ไหม เฮอๆ
Re: มีเรื่องอยากจะถามมากมาย.... By: hiddenmin Date: ธ.ค. 08, 2010, 11:51 PM
เรื่องให้ฝึกเด็กๆ นั้นก็มีฮะดีษเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่
"พวกเจ้าจงใช้ให้ลูกหลานของเจ้าละหมาด เมื่อพวกเขาอายุเจ็ดขวบ และตีเขาเมื่อเขาอายุสิบขวบ และจงแยกพวกเขาจากการนอนด้วยกัน" คำแปลจากเว็บอิกเราะ
Re: มีเรื่องอยากจะถามมากมาย.... By: ILHAM Date: ธ.ค. 08, 2010, 11:54 PM
การที่เขาเอาเด็กไปละหมาด ก็เพื่อให้เด็กฝึกไว้ หากเด็กนั้นไม่อาเกลบาเละก็ถือซะว่าฝึกไป แต่ถ้าอาเกลบาเละแล้วก็ละหมาดจริงเลย
ละหมาดคนตายนั้นเป็นฟัรดูกีฟายัฮ ทำแค่คนเดียวก็ใช้ได้แล้ว เอาเด็กมาฝึกก็ไม่เสียหายหลาย แถมยังได้ข้าวสารกลับบ้านฝากแม่ได้อีก(ถ้าไม่ใช่มัสยิดวัฮบีนะ)

เอ๊ ละหมาดเพื่อเอาบุญหรือเอาข้าวสารหล่ะครับ

คุณอิลฮามอาจจะตอบว่า เอาบุญซิ

ใช่ไหม เฮอๆ

แน่นอนอยู่แล้วว่าละหมาดเอาบุญ แต่ว่า ข้าวสารเป็นผลพลอยได้ ถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่ว่าไม่ให้แล้วไม่ละหมาด
Re: มีเรื่องอยากจะถามมากมาย.... By: almuminoon Date: ธ.ค. 09, 2010, 12:05 AM
การที่เขาเอาเด็กไปละหมาด ก็เพื่อให้เด็กฝึกไว้ หากเด็กนั้นไม่อาเกลบาเละก็ถือซะว่าฝึกไป แต่ถ้าอาเกลบาเละแล้วก็ละหมาดจริงเลย
ละหมาดคนตายนั้นเป็นฟัรดูกีฟายัฮ ทำแค่คนเดียวก็ใช้ได้แล้ว เอาเด็กมาฝึกก็ไม่เสียหายหลาย แถมยังได้ข้าวสารกลับบ้านฝากแม่ได้อีก(ถ้าไม่ใช่มัสยิดวัฮบีนะ)

เอ๊ ละหมาดเพื่อเอาบุญหรือเอาข้าวสารหล่ะครับ

คุณอิลฮามอาจจะตอบว่า เอาบุญซิ

ใช่ไหม เฮอๆ

แน่นอนอยู่แล้วว่าละหมาดเอาบุญ แต่ว่า ข้าวสารเป็นผลพลอยได้ ถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่ว่าไม่ให้แล้วไม่ละหมาด

อัลฮัมดุลิลลาฮ ตอบได้เก่งจัง สมที่ไปเรียนถึง ธรรมะ สากกกกกกกกก เฮอๆ

อ้อ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ยามเฝ้าวะฮาบีเมื่อไหร่หรอ ไ่ม่ยักกะรู้เนี่ย เห็นคำว่า วะฮาบี ออกจากคำพูดคุณอิลฮามอยุ่เรื่อยเลย

เป็นห่วงจัง เดี่ยวไข้วะฮาบีขึ้นสมองนะครับ เพลาๆหน่อยก็ได้ อายคนอื่นเค้า เดี่ยวเค้ายกถ้วยให้เป็น ยามเฝ้า วะฮาบี ดีเด่นประจำปี

นอนก่อนนะ พักผ่อนบ้างหล่ะ เดี่ยวไม่มีใครมาเฝ้าวะฮาบีน๊าาาาาาา
Re: มีเรื่องอยากจะถามมากมาย.... By: ILHAM Date: ธ.ค. 09, 2010, 12:20 AM
ตามสบาย
Re: มีเรื่องอยากจะถามมากมาย.... By: ฮุ้นปวยเอี๊ยง Date: ธ.ค. 09, 2010, 06:33 AM

บังแดงพูดว่า ฉันเห็นนายสมชาย ครั้งหนึ่งเขากินหล้า ครั้งที่สองเขาซินา ครั้งที่สามหาหมอดู ครั้งที่สี่แทงบอล เป็นอยู่อย่างนี่เสมอ
 และมีอยู่ครั้งหนึ่งอยู่ดีๆมันนึกมาสุเหร่า มาละหมาด มัฆริบ ไอ้สมชายเนี่ยอิสลามอีกหรือป่าวครับ นายซอและห์ตอบว่าเขาคือ"อิสลาม"

มาดูคนระดับมุจตะฮิดเขาว่ากันอย่างไรหนอ ?

قال الإمام مالك :  صدر عنه ما يحتمل الكفر من تسعة وتسعين وجهًا ويحتمل الإيمان من وجه، حمل أمره على الإيمان

ท่านอิหม่ามาลิกกล่าวว่า : ปรากฏอย่างชัดเจนจากคนคนหนึ่งโดยปฏิบัติสิ่งที่แสดงว่าปฏิเสธศรัทธาถึง 99 หน
 และมีเพียงอยู่หนเดียวเท่านั้นที่เขาปฏิบัติสิ่งที่แสดงว่าอีหม่าน การหุก่มเขาผู้นั้น คือ "เขานั้นคือผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮ์"