Re: การไม่ได้ละหมาดวันศุกร์(ที่มีคุตะบะและ2รอกาอัตเลย)..ผิดไหม By: คนอยากรู้ Date: ก.ค. 10, 2007, 10:46 AM
สำหรับ..ตัวอย่างคำอ้างนั้น ผมจะนำมาบอกต่อครับ
อิงชาอัลเลาะตาอา
Re: การไม่ได้ละหมาดวันศุกร์(ที่มีคุตะบะและ2รอกาอัตเลย)..ผิดไหม By: คนอยากรู้ Date: ก.ค. 11, 2007, 12:21 PM
พี่น้องครับ
การอ้างว่าจำเป็นต้องละหมาดญุมอัตวันศุกร์(มีคุตบะและละหมาด2รอกาอัต)นั้นดูจะฟังไม่ขึ้น..ด้วยเหตุผลที่ว่า ถูกบังคับจากผู้มีอำนาจของสำนักคณะกรรมการจุฬา หรือกกอ จว.ก็ตาม หรือหากไม่ทำเช่นนั้น ก็จะถูกยึดทะเบียนมัสยิดและก็ต้องเป็นมัสยิดเถือ่นซึ่งทางการจะเพ่งเล็งเป็นพิเศษ และจะไม่ได้รับความช่วยเหลือ..จากทางรัฐบาลของกระทรวงศึกษาธิการ ข้ออ้างต่างๆนั้นดูจะไม่เพียงพอในการที่เราทำอีบาดัตแบบเพื่อเกรงกลัวสิ่งอื่น และละเลยความถูกต้องกับเงื่อนไขที่วางไว้ ทั้งๆที่อ้ามั้ลอิบาดัตที่เราถวายให้พระผู้สร้างนั้น มันต้องพิถีพิถันและชัดเจนด้วยกฏเกณท์ของมัน
อิบาดัตทุกอย่างในการเป็นอิสลามนั้น ย่อมมีความสมบูรณ์เสมอ...ไมว่า รูกนอิสลาม และรูกนอิหม่าน...
รูกนอิสลาม ที่เริ่มจาก การกล่าวปฏิญาณตนนั้นต้องมีเงื่อนไขของมันเช่นกัน
ไม่ใช่วัดกันตรงที่ฝีปาก แต่จิตใจและร่างกายนั้นมันจะต้องสอดคล้องด้วยคำกล่าว..ด้วย... หลังจากนั้นต้องเรียนรู้วิธีละหมาดและการสำรวมในการละหมาด ความมีสมาธิและต้องพร้อมทั้ง3วิชาการ
ในขณะละหมาดนั้น เราต้องรู้จักถึงผู้ที่เราจะเคารพ(เตาฮีด) ต้องมีการปฏิบัติท่าทางต่างๆนั้นเราจะต้องทำอย่างถูกต้องตามหลักชารัตของมัน(ฟิกฮ์) ต้องมีจิตใจที่ยำเกรงและแน่วแน่มีสมาธิตลอดเวลาที่เฝ้าเข้า (ตะซะวุฟ)....ฉนั้นเหตุผลและข้ออ้างเพียงที่ว่ายังไงๆก็ต้องทำละหมาดญุมอัตวันศุกร์เพราะที่ไหนและใครๆในโลกเขาทำกันนั้น..
ขอตอบว่า..นั้นคือการเข้าใจที่ผิดๆ ของผู้ที่เร่งรีบในการกระทำละหมาดวันศุกร์ด้วยการไม่รู้จักกฏเกณท์ของมัน..และเหตุผลที่อ้างว่า..การละหมาดวันศุกร์ ที่ว่านั้น ที่ไหนเขาก็ทำกันทั้งนั้น ถ้าเขา พูดอย่างนี้ ก็เป็นเสมือนว่า การละหมาดนี้นั้น เปรียบเช่น แฟชั่น ว่าที่ไหนๆเขาก็ทำกัน...อย่างนั้นหรือ......
จะเห็นว่า เมื่อเอาเหตุผลข้างต้นมาอ้างนั้น ทำไมไม่คิดบ้างหรือว่า การทำอีบาดัตด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นนั้น พระองค์ทรงไม่ต้องการ และการที่ฝ่าฝืนทำด้วยไม่อยู่ในเงื่อนไขและองค์ประกอบด้วยแล้วยิ่งหนักไปอีกหลายเท่า การอีบาดัตนั้นต้องครบกฏเกนท์ที่วางไว้จึงสามารถปฏิบัติ..มัสหับชาฟีอีนั้นเป็นมัสหับที่มีความละเอียดอ่อนและปราณีตมาก ไม่เหมือนมัสหับอื่นที่ไม่ระบุเงื่อนไขหรือคุณสมบัติของผู้ทำละหมาดวันศุกร์ ซึ่งเป็นที่รู้ว่า เพียงอ้างจำนวนคน 4 หรือ12คนก็ถือว่าทำได้แล้ว ไม่คำรึงว่าคุณสมบัติ ของผู้ที่ร่วมละหมาดนั้นจะเป็นคนเอาวามหรือญาเฮลอย่างไร อ่านฟาตหะหรือละหมาดถูกไหม ปัจจุบันนี้เราไม่คำนึงถึงข้อนี้ เรามักจะกลัวอำนาจอื่นมากกว่าอำนาจของอัลลออ์...ผู้ณุ้ที่มักง่ายและชั่วๆก็มีมาก ไม่เคยมองมะมูมว่าเคยที่มาสนใจศึกษาการละหมาดบ้างหรือไม่ ต่างคนต่างอยู่..แล้วเราคิดหกรือว่าการที่เราละหมาดแต่ละศุกร์นั้นอัลลออ์จะรับอิบาดัตของเรา.....การฝ่าฝืนกระทำทั้งๆที่ไม่ได้ตามเงื่อนไขนั้น กลายเป็นอิบาดัตเพื่อตอบสนองผู้อื่น ที่ไม่ใช่อัลลออ์ นี่คืออิบาดัตที่มีชีริก เพราะเอาเหตุผลอื่นมาเคียงกับพระองค์
หรืออ้างว่า ก็สมัยปู ย่า ตา ยายเขาก็ทำมาแบบนี้ และเราก็ทำมาตามคนรุ่นก่อน..
ตรงนี้ขอบอกว่า..มันฟังไม่ขึ้น..สมัยปู่ย่า เรานั้นถ้าเราจะคิดแยกแยะเหตุผลนั้นมีมากมาย
เช่น เขาเหล่านั้นเป็กลุ่มชนที่เรียนรู้และศึกษาจริง และสามารกเป็นอิม่ามกันได้....เพราะเขาต่างมีความรู้ที่อยู่ในระดับเดียวกัน...
และเป็นไปได้ว่า ในสมัยนั้นการเข้าใจในเรื่องกฏเกณท์ศาสนานั้นยังไม่เป็นที่เข้าใจแบบประจักเหมือนปัจจุบันนี้..
ฉนั้นเ หตุผลที่อ้างนั้นฟังไม่ขึ้น..
...
พี่น้องครับ อย่าลืมว่า
สิ่งที่ทำให้ญุมอัตใช้ได้นั้น ก็คือ กฏเกณท์การละหมาดญุมอะที่สมบูรณ์เท่านั้น..และหากไม่ครบเงื่อนไขหรือกฏเกณท์นั้น ละหมาดญุมอัตที่เราทำกันทุกวันศุกร์นั้น ก็ใช้ไม่ได้....ในโอกาสต่อไป ผมจะมาคุยถึงจำนวนและคุณสมบัติของผู้ทำละหมาดวันศุกร์...
Re: การไม่ได้ละหมาดวันศุกร์(ที่มีคุตะบะและ2รอกาอัตเลย)..ผิดไหม By: Ronnachai Date: ก.ค. 11, 2007, 05:37 PM
สลามถึง คนอยากรู้ ผมสาว่าอีบังเป็นศิษย์เกาะยาว
ที่บังแหลงเรื่องวันศุกร์นี้ ได้ข้อมูลมาจากไหน
หมายถึงความโร้ สาว่าตีเป็นเกาะยาว บังเป็นศิษย์ปะหลังแอ หม้ายเหล้า
เพราะว่า เท่าเท่ผมโหร่มา ในประเทศไทย ไม่ทำวันศุกร์ 2 เท่
คือ เกาะยาว กับ ปอเนาะแถวกระบี่
เพราะแกเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับปะหลังแอ
.......ถ้าว่าไปเกาะยาวก็ ฝากสลามให้ ครูดุด ครูอิด ชายหลี ปะไบด้วยหนอ
วาอาลัยกุมุสสลาม
Re: การไม่ได้ละหมาดวันศุกร์(ที่มีคุตะบะและ2รอกาอัตเลย)..ผิดไหม By: คนอยากรู้ Date: ก.ค. 13, 2007, 09:50 AM
รับสลามครับ คุณรนชัย..
ผมเองไม่ได้เป็นศิษย์ที่นั้นนะครับ...แต่มีเพื่อแถวนั้นนะครับ...
.......ข้อมูลนั้นเพื่อๆเขาให้มาอีกทีนะครับ...ก็นำมาเผยแพร่ให้พี่น้องเรารับทราบกันนะครับ จะได้ไม่ฮุกมและเข้าใจผิดต่อกัน...
Re: การไม่ได้ละหมาดวันศุกร์(ที่มีคุตะบะและ2รอกาอัตเลย)..ผิดไหม By: คนอยากรู้ Date: ก.ค. 13, 2007, 12:39 PM
อีม่ามฆอซาลีย์กล่าวว่า..การอิบาดะที่ร่วมกับความรู้เป็นสิ่งจำเป็นหากไม่เช่นนั้นแล้ว(อิบาดัต)นั้นคือฝุ่นดินที่ถูกให้ปลิวไปตามลม..
นีคืออุลามะหนึ่งที่มีความรู้ที่ดีเลิศท่านเป็นผู้เคร่งครัดในเรื่อง การทำอิบาดัตอย่างมาก และทำอย่างไรที่อัลลออ์รับผลงานของเรา..ทัศนะที่ท่านเลือกคือทัศนะอีม่ามชาฟีอี ท่านได้อ้างหะดิสของท่านนบีในครั้งที่ท่านได้อิสเราะเมียะรอจที่ว่า..
.......เขา(อัลลอฮ์)ให้ฉันเห็นได้เห็นในคืนเมียะรอจกับนรก แล้วฉันก็เห็นคนส่วนมากจากคนที่ยากจน...ซอฮาบะก็ถามท่านนบีว่า..โอ้ ท่านร้อซุ้ล (พวกยากจน)จากทรัพย์สินหรือ ท่านนบีกล่าวว่า..ไม่ใช่ แต่ว่า(ยากจน) ขากความรู้ แล้วผู้ใดไม่ศึกษาหาความรู้กฎเกณท์ของบรรดาการอิบาดัตจะไม่เกิดประโยชน์ใดกับเขา และการดำรงด้วยหลักการ..ที่แท้จริง(การอีบาดัต)ดังเช่นที่ควรเป็น และถ้าหากว่า แท้จริงผู้ชายคนหนึ่งเขากราบไหว้อัลลอฮ์ เหมือนดั่งการอีบาดัตของมาลาอีกัต(โดยไม่กินไม่ดื่มไม่นอนฯลฯ) โดยไม่มีความรู้ แน่นอน เขาผู้นั้นเป้นคนหนึ่งจากบรรดาผู้ขาดทุน...
..เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้ที่ร่วมทำละหมาดญุมอัตวันศุกร์ด้วยองค์ประกอบของมะมูมที่ไม่มีความรู้ ทั้ง40คนนั้น ก็เท่ากับว่า ไม่มีประโยชน์ใดๆ....และถ้าหากหมู่บ้านหนึ่งยึดเอาจำนวนคน40คน มาอ้างในการทำละหมใดญุมอัตวันศุกร์ ว่าครบตามเงื่อนไขแล้ว..ตรงนี้ขอชีแจงว่า ท่านกำลังเข้าใจผิด.....
ฉันใดก็ฉันนั้น การทำอีบาดัตที่ไม่เข้าใจในเรื่องเตาฮีดแต่เพียงเข้าใจในเรื่องการกระทำมันก็ไมม่มีค่าอะไร..
พี่น้องครับ...
.....อันดับแรกที่จำเป็นสำหรับตัวเรานั้นคือ จักต้องรู้จักกับผู้ที่เรากราบไหว้หรืออิบาดัตก่อน..เมื่อท่านรู้จักผู้ที่ท่านทำการนมัสการดีแล้วท่านจึงถือว่า สามารถนมัสการกราบไหว้ได้...แต่ถ้าท่านไม่รู้จักชื่อและคุณลักษณะของผู้ที่ถูกกราบไหว้..
ไม่รู้จักของที่เป็นวายิยให้กับพระองค์ สิ่งไหนพระองค์ห้าม-ใช้ แต่ยังดันทุรังทำนั้นก็แสดงว่า..เรา นั้นตั้งใจที่จะ..ฝ่าฝืน..
กระทำมัน ทั้งที่ไม่เข้าใจ .............นี้คือความสำคัญในภาคอูซุลลุดดีน....
....ต่อมา
Re: การไม่ได้ละหมาดวันศุกร์(ที่มีคุตะบะและ2รอกาอัตเลย)..ผิดไหม By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ก.ค. 13, 2007, 01:05 PM
ก็นำมาเผยแพร่ให้พี่น้องเรารับทราบกันนะครับ จะได้ไม่ฮุกมและเข้าใจผิดต่อกัน...
พวกเราทำเพียงเพื่อไม่ให้เข้าใจผิดต่อกันและไม่ฮุกุ่มกันและกัน ดังนั้นจงยืนหยัดมันต่อไปครับพี่น้อง
Re: การไม่ได้ละหมาดวันศุกร์(ที่มีคุตะบะและ2รอกาอัตเลย)..ผิดไหม By: Ronnachai Date: ก.ค. 18, 2007, 08:33 PM
ใช้ได้ๆ บังนุรุลอิสลาม
Re: การไม่ได้ละหมาดวันศุกร์(ที่มีคุตะบะและ2รอกาอัตเลย)..ผิดไหม By: คนอยากรู้ Date: ก.ค. 20, 2007, 04:09 PM
พี่น้องครับ......
ประการแรกที่จำเป็นบนมุสลิม คือเราต้องไม่ลืมว่า
..ต้องมีการรู้จักและเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างกับผู้ที่เป็นพระเจ้าของเราด้วยสิ่งที่มีการบอกกล่าวถึงคุณลักษณะในกิตาบุลลอฮ์กับผู้ที่กราบไหว้(อัลลอฮ์) เช่นเดียวกับผู้ที่จะเข้ารับอัลอิสลาม
...ประการแรกเขาต้องมีความศรัทธาและเข้าใจในพระเจ้าของเขาที่เขาจะภักดี..ไม่ใช่มาเข้ารับโดยเหตุผลอย่างอื่น..นี่คือความสำคัญของวิชาอุซุ้ลุดดีน และหากว่าเราไม่รู้จริงในผู้ที่เราเข้าเฝ้าหรือในการปฏิบัติศาสนกิจนั้นๆก็เท่ากับว่า..มันสูญเปล่า
ในขณะเดียวกันทั้งวิชาฟิกฮ์และอัลอิคลาสนั้นก็มีความจำเป็นเช่นกันแต่ต้องเรียงลำดับการรู้ให้ถูกต้อง.ในการทำอีบาดัตใดๆนั้นอย่างแรก
..ต้องเชื่อมั่นและรู้จักผู้ที่เราจะทำการกราบไหว้ ถัดมาคือ วิธีหรือรูบแบปการ และถัดมอีกคือ..ความบริสุทธิ์ใจในการเข้าเฝ้า แต่ถ้าขาด อย่างหนึ่งอย่างใดถือว่าไม่สมมบูรณ์ เช่น มีแต่ความเชื่อและรู้จักกับในตัวของพระผู้เป็นเจ้า เป็นอย่างดี แต่ไม่มีวิธีการและรูปแบบ ให้เห็นถึงการกระทำ ก็ถือว่าไม่สมบูรณ์ และถ้ามีเฉพาะ รูปแบบ แต่ยังไม่มีการรู้จักและความเชื่อในคุณลักษษณะของพระเจ้า การกระทำของเขาก็ไม่มีค่าใดๆเลย แต่ถึงแม้ว่าเขาจะมีความเชื่อและรูปแบบการกระทำก็ตามแต่เขานั้นไม่บริสุทธิใจเช่นถูกบังคับ หรือฝืนใจหรือ เหตุผลอื่นๆ สิ่งที่เขากระทำก็ไร้ความหมายเช่นกัน
ฉะนั้นการอีบาดัตใดๆนั้นจำเป็นต้องมีเงื่อนไขของมัน
ท่านอีม่ามชาฟีอีนั้นนอกจากจะเชี่ยวชาญทางด้านวิชาฟิกฮ์แล้วท่านยังมีการอบรู้ในเรื่องการยึดมั่นอย่างรอบคอบและเป็นผู้ทีมีความละเอียดมากจากทั้ง4ท่าน
ในขณะเดียวกันเรื่องของการละหมาดญุมอัตในวันศุกร์นั้นท่านก็เอาหลักฐานที่ชัดเจนจากท่านนบีว่า
การละหมาดญุมอัตวันศุกร์นั้นจำเป็นต้องมี40คนเท่านั้น ในขณะเดียวกัน40คนตรงนี้ท่านยังบอกว่าเขานั้นสามารถที่จะทดแทนการเป็นอี่ม่ามกันได้ แม้หากว่า มีจำนวน100หรือมากกว่านั้น....หากว่า คนที่ไม่มีความรู้ในหลักการต่างๆหรือฯลฯ...........การเป็นอีม่ามนั้นก็ถือว่า ไม่ถึง40คน หรือ...ไม่ครบองค์ประกอบของมัน และถือว่าไม่เซาะ...ในการละหมาดนั้นเช่นกัน......
Re: การไม่ได้ละหมาดวันศุกร์(ที่มีคุตะบะและ2รอกาอัตเลย)..ผิดไหม By: คนอยากรู้ Date: ก.ค. 20, 2007, 04:15 PM
..ซึ่งตรงนี้ก็ชี้ให้เห็นว่า ..
แค่เหตุผลของจำนวนคนครบ 40คนนั้น..มันไม่สามารถทำให้ละหมาดวันศุกร์สมบูรณ์ได้ ถ้าหากว่าใน40คนนั้นไม่มีความรู้แค่เพียงคนเดียว..นี่คือสิ่งทีบรรดาผู้รู้ในทัศนะของท่านอีม่ามชาฟีอีอธิบายเอาไว้..
แต่ที่สิ่งทำให้สมบูรณ์คือ คนที่มีความรู้ในการละหมาดร่วมกันในครั้งนั้นเท่านั้น เพราะการกระทำอิบาดีตใดๆนั้นต้องทำด้วยความรู้เท่านั้น...ไม่ใช่...อยู่ที่จำนวคน......
ดังนั้น ...เมื่อชุมชนใดที่เห็นว่า ในการละหมาดญุมอัตของคนในมูเก็มนั้น
แม้จะมีจำนวนคน40คน ก็ตามแต่ ผู้เป็นอีม่ามนั้นย่อมที่จะรู้ดีว่า มะมูมของเขานั้นเป็นอย่างไร และแต่ละคนมีความรู้เท่าเทียมกันหรือไม่ และมะมูมคนนั้นมีการเรียนรู้มาก่อนหรือไม่อย่างไร
ตรงนี้ผู้นำในกำปง(หมู่บ้าน)นั้นจักต้องรู้ดีถึงคุณสมบัติสัปบุรุษของเขา ว่า เมื่อองค์ประกอบไม่เข้าในเงื่อนไขการทำละหมาดวันศุกร์ เขาจะต้องทำอย่างไร และต้องละหมาดดุฮีรฺทดแทนแทนหรือไม่ ..แต่ถ้ายังฝืนกระทำเช่นบ้างทัศนะที่อาศัยเพียง
หลักฐานดออีฟกระทำ เช่น ทำได้แล้วแม้มีมะมูม 3คน หรือ12 คน ตรงนี้ ถือว่าฝืนกระทำในสิ่งที่ตนเองไม่รู้และเจตนาที่จะถวายอีบาดัตให้พระผู้เป็นเจ้า ทั้งๆที่ไม่ถูกต้องและไม่เซาะทำ แม้มัสหับชาฟีอีก็ตามถ้าหากที่ไหนอ้างว่าทำได้โดยอาศัยจำนวน40คนก็ตาม..แต่ไม่คำนึงถึงความรู้ของมะมูมเลย
ตรงนี้ก็ถือว่า
ไม่เศาะทำละหมาดญุมอัตวันศุกร์เช่นกัน ฉะนั้นเหตุผลที่อ้างว่า
ไม่เป็นไร ค่อยๆเรียนค่อยๆและทำเห็นที่อื่นๆเขาทำกันก็ทำ ก็ไม่น่าจะผิดแต่อย่างใดตาม..การคิดว่าได้ตามอารมณ์นั้นถือว่าขาดเหตุผลในหลักการของศาสนา.
Re: การไม่ได้ละหมาดวันศุกร์(ที่มีคุตะบะและ2รอกาอัตเลย)..ผิดไหม By: คนอยากรู้ Date: ก.ค. 20, 2007, 04:31 PM
พี่น้องครับ..ในมัสหับชาฟีอีครับ
จงอย่าได้ลืมว่าอย่าลืมว่า
บรรดากฎเกนท์ในการละหมาดญุมอัตนั้นเราต้องไม่มขาดข้อหนึ่งข้อใด และมีทั้งหมด7ข้อ..
1.ผู้นั้นจะต้องเป็นอิสลามที่สมบุรณ์
2.เขาจะต้องมีสิตปัญญาไม่โง่เขลาหรือไม่รู้
3.ต้องบรรลุศาสนาภาวะที่กำหนด
4.เป็นอิสรภาพ
5.เป็นผู้ชาย
6.ไม่ป่วยไข้
7.เป็นคนในหมู่บ้าน(ไม่เป็นผู้เดินทางหรือผู้ที่อพยพ)
ส่วนหลักฐานที่ว่าด้วยผู้ที่เป็น
อีม่ามนำละหมาดนั้น ผู้นำกับผู้ตามนั้นย่อมสามารถจะมีความรู้แลกเปลี่ยนกันได้..
ซึ่งมีหลักฐานดังนี้..
รายงานจาก อบีหุรอยเราะ ท่านร่อซู้ล กล่าวว่า
"
พวกเขาละหมาดนำพวกเจ้า หากเขาทำถูก พวกเจ้าก็ได้ผลบุญพวกเขาก็ได้ หากพวกเขาทำผิด พวกเจ้าก็ได้ผลบุญ"ท่านอะหมัด และอัลบุคอรี
และรายงานจาก..ซะลิน ท่านนบี(ซล) กล่าวว่า
"
อีหม่ามเป็นผู้ค้ำประกัน ถ้าเขาทำดีภาคผลก็ได้แก่เขา และพวกเขา( มะมูม)ด้วย หากเขาทำเสีย เขาเองก็ไม่ได้"ท่านอิบนุมาญะ
รายงานจาก ท่าน อิบนิมัสอู๊ด กล่าวว่า ท่านนบี(ซล) กล่าวว่า
"ผู้ที่จะนำคนละหมาดคือ ผู้ที่รู้คัมภีร์ของอัลลอฮฺมากที่สุดในหมู่พวกเขา ถ้าหากมีผู้รู้มีความรู้เท่าๆ กันหลายคน ก็ให้คนที่รู้ซุนนะ(แบบฉบับของนบี)ดีที่สุด ......และถ้าหากมีผู้รู้ซุนนะ(แบบฉบับของนบี)เท่ากันหลายคน ก็ให้คนที่อพยพมาก่อนในหมู่พวกเขา ...ถ้าหากมีผู้อพยพมาก่อนเท่ากันหลายคน ก็ให้ผู้ที่มีอายุมากกว่า..
และไม่ให้คนหนึ่งเป็นผู้นำละหมาด
เพราะมีอำนาจ และไม่ให้ใครนั่งในบ้านของเขาบนที่ที่เตรียมไว้เฉพาะตัวของเขาเอง (หมายถึงผู้ที่ไม่ได้เป็นคนในชุมชนั้น)........นอกจากจะได้รับ
อนุญาตจากเขาเสียก่อน
"อะหมัด มุสลิม สะอีดอิบนุมันศูร..
ดังนั้น..
...ผู้ที่อยู่ในระหว่างที่เดินทางนั้นหรือผู้ที่รอนแรม(เช่นเดียวกับผู้ที่มาทำธุระหรือมาศึกษาวิชาการต่างๆซึ่งเมื่อตกเย็นหรือค่ำแล้วกลับภูมิลำเนา)นั้นเขาไม่มีความจำป็นต้องร่วมละหมาดญุมอัติวันศุกร์(แต่ต้องละหมาดดุฮีร)ร่วมกับผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านหรือผู้ที่อาศัยหรือตั้งรกรากถินฐานบ้านเรือนที่นั้น...
ซึ่งชัดเจนว่า การกระทำอาม้าลใดนั้นจำเป็นต้องมี..ตัรตีบ (ลำดับ)ของมันคือ..ต้องมีความรู่ในการทำตามสิ่งนั้นด้วย...
ฉะนั้น.........ผู้ที่มีความรู้ที่ดีที่สุดในชุมชนนั้นย่อมจะตัดสินใจในการนั้นอย่างถูกต้อง....
สำหรับในกรณีของหลักฐานในการทำละหมาด..ญุมอัตวันศุกร์ที่มีบางทัศนะอื่นอ้างว่า...สามารถกระทำได้แค่เพียง3คน
เร่าขอกล่าวว่า ...นั้น..มันไม่เกี่ยวกันเลย เพราะจากหลักฐานข้างล่างนี้ เป็นหลักฐานที่มาของ เลือกอีหม่ามนำละหมาดทั่วๆไป รายงานจาก ท่านอบีสะอี๊ด กล่าวว่า ท่านนบี(ซล) กล่าวว่า
"
เมื่อพวกเจ้ามีด้วยกัน 3 คน ก็จงให้คนหนึ่งในพวกเขานำละหมาด และผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นอีหม่ามในหมู่พวกเจ้า เขาก็คือ ผู้ที่อัลกรุอานที่ดีที่สุด"ท่านอะหมัด ท่านมุสลิม ท่านนะซาอี
ดังนั้น ...จากเหตุผลที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ผู้ที่เป็นอีหม่ามได้นั้น ต้องมีองค์ประกอบทั้ง7เช่นดียวกัน ..นี้คือ...เราทุกคนต้องศึกษาและต้องเรียนรู้..
ไม่ใช่มุ่งที่จะทำแบบส่งเดชให้มันเสร็จแบบลวกๆโดยไม่มีการพิถีพิถันใดๆ....
Re: การไม่ได้ละหมาดวันศุกร์(ที่มีคุตะบะและ2รอกาอัตเลย)..ผิดไหม By: คนอยากรู้ Date: ก.ค. 22, 2007, 09:42 AM
;Dสลามครับพี่น้อง..
Re: การไม่ได้ละหมาดวันศุกร์(ที่มีคุตะบะและ2รอกาอัตเลย)..ผิดไหม By: คนอยากรู้ Date: ส.ค. 23, 2007, 04:58 PM
จริงๆ แล้ว เรื่องนี้ยังไงม่จบคับ พี่น้อง.............แต่ผมเองไม่ค่อยมีเวลามาเสนอต่อนะครับ..........ไม่เคยลืมหรอกครับว่า ผมทำอะไรเกะกะเรียราดไว้มาก......สักวันผมจะปัดเก็บให้มันน่าดูอีกครั้งครับอิๆๆ