หะดีษ" สร้างครอบครัวคุณธรรม สู่สังคมอุดมสุข By: taufik Date: ก.พ. 16, 2011, 03:07 PM
11.ครอบครัวมุสลิมต้องมีเมตตาต่อมนุษย์
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : مَنْ لاَ يَرْحَمِ النَّاسَ لاَ يَرْحَمْهُ اللهُ
( رواه أحمد والبخارى ومسلم والترمذي )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า ผู้ใดไม่มีความเมตตาต่อมนุษย์ เขาก็จะไม่ได้รับความเมตตาจากอัลลอฮฺ"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.ท่านนบี สอนให้เรามีเมตตา เห็นใจ และทำความดีต่อเพื่อนมนุษย์
2.อัลลอฮฺทรงมีความเมตตาเสมอโดยเฉพาะต่อผู้ที่มีความศรัทธาและเชื่อฟังอัลลอฮฺ
3.บุคคลใดที่ไม่มีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแล้วเขาก็จะไม่ได้รับความเมตตาจากอัลลอฮฺเช่นกัน
12.ครอบครัวมุสลิมภรรยาต้องศอลิหะฮฺ
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : الدُّنْيَا مَتَاعٌ وَخَيْرُ مَتَاعِ الدُّنْيَا الْمَرْأَةُ الصَّالِحَةُ
(رواه مسلم )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า โลกนี้คือปัจจัยแห่งความสุขและปัจจัยแห่งความสุขที่ดีที่สุดในโลกนี้คือสตรีที่มีคุณธรรม"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.นบี ได้ประกาศว่าโลกนี้เป็นสิ่งอำนวยประโยชน์ชั่วคราว ซึ่งแน่นอนอะคีเราะฮฺนั้นเป็นสิ่งอำนวยประโยชน์ที่ถาวรชั่วนิรันดร
2.สิ่งอำนวยประโยชน์ในโลกนี้มีทั้งที่ดี ที่ดีที่สุดและที่ไม่ดี สำหรับสิ่งอำนวยประโยชน์ที่ดีที่สุดคือสตรีมุสลิมะฮฺที่มีคุณธรรม
3.มุสลิมะฮฺจะต้องพยายามแสวงหาความประเสริฐให้แก่ตัวเองด้วยการเสริมคุณธรรมในชีวิต
13.ครอบครัวมุสลิมภรรยาต้องคอยช่วยเหลือสามีในเรื่องอาคีเราะฮฺ
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : لِيتَّخِذَ أَحَدُكُمْ قَلْبًا شَاكِرًا وَلِسَانًا ذَاكِرًا وَزَوْجَةً مُؤْمِنَةً تُعِيْنُهُ عَلَى أَمْرِ الآخِرَةِ
( صَحِيْحُ الْجَامِع : 2176 )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า คนหนึ่งจากพวกท่านจงแสวงหา (สิ่งเหล่านี้ให้เป็นของเขา คือ ) หัวใจที่เปี่ยมด้วยขอบคุณอัลลอฮฺ ลิ้นที่ขยันกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ และภรรยาที่คอยช่วยเหลือเขาเพื่อประโยชน์ในโลกอะคีเราะฮฺ"
ข้อคิดจากหะดีษ
สามประการที่มุสลิมจำต้องเสริมสร้างและแสวงหาเพื่อให้เป็นของตัวเองอย่างสมบูรณ์
1.เสริมสร้างจิตใจเปี่ยมด้วยความซาบซึ้ง สำนึกในความโปรดปรานของอัลลอฮฺด้วยการขอบคุณพระองค์
2. ลิ้นที่เปี่ยมด้วยรำลึกต่ออัลลอฮอย่างสม่ำเสมอ
3.ภรรยาคุณธรรมมีความศรัทธาที่บริสุทธ์ พร้อมช่วยเหลือและร่วมมือกับสามีในการปฎิบัติสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอาคีเราะฮฺ
4.สามประการที่นบีได้แนะนำให้แก่เรานั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างปัจเจกบุคคลและครอบครัวคุณธรรมสู่ความภาสุขในวันอาคีเราะฮฺ
14.ครอบครัวมุสลิมต้องรับผิดชอบในหน้าที่
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : كُلُّكُمْ رَاعٍ وَكُلُّكُمْ مَسْؤُوْلٌ عَنْ رَعِيَّتِهِ وَالأَمِيْرُ رَاعٍ وَالرَّجُلُ رَاعٍ عَلَى أَهْلِ بَيْتِهِ وَالْمَرْأَةُ رَاعِيَةٌ عَلَى بَيْتِ زَوْجِهَا وَوَلَدِهِ فَكُلُّكُمْ رَاعٍ وَكُلُّكُمْ مَسْؤُوْلٌ عَنْ رَعِِ
( رواه البخارى ومسلم )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า ท่านทั้งหลายมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบและท่านทั้งหลายจะถูกสอบสวนเกี่ยวกับการ ปฎิบัติหน้าที่ของท่าน ผู้นำมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ สามีมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อครอบครัวในบ้านของเขาและภรรยามีหน้าที่ต้อง รับผิดชอบในบ้านของสามีและลูกๆของเขา ดังนั้นท่านทั้งหลายมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบและท่านทั้งหลายจะถูกสอบสวน เกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่ของท่าน"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.ท่านนบี ได้ระบุว่ามุสลิมทุกคนถูกกำหนดให้มีหน้าที่และต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่
2.อามีรซึ่งเป็นผู้นำในระดับสูงมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบมากกว่าคนอื่น สามีซึ่งเป็นผู้นำในระดับครอบครัวมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อครอบครัว และภรรยาซึ่งเป็นผู้จัดการในบ้านของสามีมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบดูแลความ เรียบร้อยในบ้านโดยเฉพาะเอาใจใส่ และอบรมลูกๆให้เป็นคนดี มีคุณธรรม
3. การปฎิบัติหน้าที่ต้องปฎิบัติด้วยความสุจริตใจ และมีความรับผิดชอบ
4.ทุกๆ หน้าที่ต้องรับผิดชอบนั้นจะถูกประเมินและสอบสวนในวันอะคีเราะฮฺ ผู้ใดที่ปฎิบัติอย่างดี เขาจะได้รับการตอบแทนที่ดี และผู้ใดที่ละเว้น หรือบกพร่องต่อหน้าที่เขาจะต้องรับโทษอย่างเหมาะสม
15.ครอบครัวมุสลิมภรรยาต้องภัคดีต่ออัลลอฮฺ เชื่อฟังสามี
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : إِذَا صَلَّتْ الْمَرْأَةُ خَمْسَهَا وَصَامَتْ شَهْرَهَا وَحَفِظَتْ فَرْجَهَا وَأَطَاعَتْ زَوْجَهَا، قِيْلَ لَهَا: ادْخُلِيْ الْجَنَّةَ مِنْ أَيِّ أَبْوَابِ الْجَنَّةِ شِئْتِ
( صحيح الجامع : 660 )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า เมื่อสตรีได้ทำการละหมาด 5 เวลา ) ต่อวัน ) ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน รักษาอวัยวะเพศของนาง ( ด้วยการห่างไกลจากการผิดประเวณี) และเชื่อฟังสามีของนาง นางก็จะถูกเชื้อเชิญว่า จงเข้าสวรรค์ทางประตูใดก็ได้ตามที่นางปรารถนา"
ข้อคิดจากหะดีษ
กิจวัตรสำคัญของภรรยาที่ศอลิหะฮฺมีคุณธรรมคือ
1. ภักดีต่ออัลลอฮฺด้วยการละหมาด 5 เวลาต่อวัน และถือศีลอดในเดือนเราะมะฏอน เป็นต้น
2. รักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเองจากการกระทำในสิ่งก่อให้เกิดความเสียหายโดยเฉพาะรักษาอวัยวะเพศของพวกนางจากสิ่งที่ต้องห้าม
3. รักษาสิทธิสามีซึ่งส่วนหนึ่งคือการเชื่อฟังสามี
4. ภรรยาที่มีคุณธรรมย่อมจะได้รับความโปรดปรานจากอัลลอฮฺด้วยการตอบแทนที่สมกับความดีงามที่ได้กระทำไว้ต่อพระองค์ ต่อตัวเองและต่อสามี
16.ครอบครัวมุสลิมต้องปฎิบัติตามไม่ฝ่าฝืนอัลลอฮฺ
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : لاَ طَاعَةَ لِمَن لَمْ يُطِعِ اللهَ
( صحيح الجامع : 7521 )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า ไม่เป็นที่อนุญาตให้เชื่อฟังผู้ที่ไม่เชื่อฟังอัลลอฮฺ"
ข้อคิดจากหะดีษ
1. การเชื่อฟังและปฎิบัติตามผู้นำในครอบครัวและสังคมเป็นหลักสำคัญในอิสลาม
2. งื่อ นไขสำคัญของการเชื่อฟังและปฎิบัติตามคนหนึ่งคนใดคือผู้นั้นจะต้องไม่เป็นผู้ ที่ฝ่าฝื่นคำสอนของอัลลอฮฺ หรือ ในสิ่งที่อัลลอฮฺทรงไม่อนุญาต
3. อิสลามเสริมสร้างครอบครัวและสังคมให้มีจิตสำนึกและยึดมั่นในคุณธรรมเพื่อได้มาซึ่งความผาสุข
17.ครอบครัวมุสลิมภรรยาต้องไม่เป็นผู้ที่เลวร้าย
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : يَا عَائِشةُ لاَ تَكُوْنِيْ فَاحِشَةً
( مسلم )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า โอ้ อาอิซะฮฺ เธออย่าเป็นผู้หญิง ( ภรรยา ) ที่เลวทราม"
ข้อคิดจากหะดีษ
1. นบี ต้องการให้ภรรยามีคุณธรรม มีกริยามารยาทที่ดีงาม มีศักดิ์ศรีสมกับภรรยาของผู้นำประชาชาติมุสลิมและแม่ของบรรดามุมินีน
2. คำตักเตือนของนบี อันนี้เป็นคำตักเตือนที่ครอบคลุมถึงบรรดาภรรยาคนมุสลิมทุกคนด้วย
3. คำว่า ฟาหิชะฮฺ หมายถึง การกระทำ คำพูดและมารยาทที่เลวทราม
4. ภรรยาที่มีคุณธรรมต้องไม่ใช้คำพูดที่หยาบคาย ไม่กระทำสิ่งที่เลวทรามและปราศจากมารยาทที่น่าเกลียดในตัวเธอ
18.ครอบครัวมุสลิมต้องรักษาจริธรรมคุณธรรมภายในบ้าน
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : وَلاَ تَأْذَنُ فِى بَيْتِهِ إِلاَّ بِإِذْنِهِ
( البخارى )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า และภรรยาจะต้องไม่อนุญาตให้(คนหนึ่งคนใด)เข้าในบ้านของสามีเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้เป็นสามีก่อน"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.ภรรยาตามหน้าที่ต้องอยู่ภายใต้การปกครองของสามีจะกระทำสิ่งใดตามอำเภอใจไม่ได้
2.ภรรยาที่มีคุณธรรมต้องรักษาเกียรติยศและศักดิ์ศรีของสามีโดยไม่อนุญาตให้คนอื่นเข้าในบ้านของสามีหากยังไม่ไดรับอนุญาตจากผู้เป็นสามี
3.อิสลามมีมาตรการอย่างรัดคุมในการป้องกันจากการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสี่อมในด้านจริธรรมคุณธรรม
4.สามีภรรยาต้องเข้าใจบทบาทและหน้าที่ของแต่ละคนเพื่อสร้างครอบครัวคุณธรรมสู่สังคมอุดมสุข
19.ครอบครัวมุสลิมต้องร่วมมือในการภักดีต่ออัลลอฮฺ
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : إِذَا اسْتَأْذَنَتْ امْرَأَةُ أَحَدِكُمْ إِلَى الْمَسْجِدِ فَلاَ يَمْنَعُهَا
(رواه البخارى ومسلم )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า เมื่อภรรยาของสามีคนหนึ่งคนใดของพวกท่านได้ขออนุญาตไปมัสญิด ก็จงอย่าห้ามนาง"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.เป็นที่อนุมัติสำหรับสตรี หรือ ภรรยาที่จะออกไปมัสญิด
2.สามีไม่ควรห้ามเมื่อภรรยาขออนุญาตไปมัสญิดเพื่อทำอิบาดะฮฺโดยเฉพาะละหมาดญะมาอะฮฺเมื่อไม่มีสาเหตุใดที่ต้องห้าม
3.สามีภรรยาต้องร่วมช่วยกันสร้างคุณธรรมในครอบครัวด้วยการภักดีต่ออัลลอฮฺและมีความตั้งใจอันสูงส่งที่จะแสวงหาความประเสริฐยังสม่ำเสมอ
20.ครอบครัวมุสลิมต้องมองโลกในแง่ดีเสมอ
قَالَ رَسُوْلُ الله : لاَ يَفْرَكْ مُؤْمِنٌ مُؤْمِنَةً إِنْ كَرِهَ مِنْهَا خَلْقًا رَضِيَ مِنْهَا آخَرَ
( رواه مسلم )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า ชายผู้ศรัทธาคนหนึ่งจะต้องไม่รังเกียจหญิงผู้ศรัทธา ถ้าหากว่าเขาไม่พอใจในนิสัยอย่างหนึ่งที่ไม่ดีในตัวเธอ ย่อมพอใจกับนิสัยที่ดีอีกอย่างหนึ่งในตัวเธอ"
ข้อคิดจากหะดีษ
1. มนุษย์ย่อมไม่มีใครปลอดจากข้อบกพร่องในแง่ต่างๆ เช่นเดียวกับ สตรี หรือภรรยาผู้มีศรัทธาย่อมจะต้องมิไร้คุณลักษณะที่ดีไปเสียทุกคน
2. กฎเกณฑ์อย่างหนึ่งที่สามารถมาประยุกต์ใช้ได้ในทุกๆกรณีในการคบค้าสมาคมกับคนอื่นคือควรมองภาพในแง่บวก มิใช่มองในแง่ลบเสมอ
3. ภรรยาต้องพยายามสร้างบุคลิกภาพและจริยธรรมอิสลามอย่างสมบูรณ์ที่สุดให้แก่ตัวเองและสามีต้องพยายามเข้าใจภรรยาเสมอ
21.ครอบครัวมุสลิมสามีต้องเป็นผู้ที่ประเสริฐที่สุด
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : خَيْرُكُمْ خَيْرُكُمْ لأَِهْلِهِ وَأَنَا خَيْرُكُمْ لأَِهْلِيْ
(صحيح الجامع : 3266)
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า ผู้ที่ประเสริฐที่สุดในหมู่พวกท่านได้แก่บุคคลที่ปฎิบัติทำดีที่สุดต่อครอบ ครัวของเขาและฉันเป็นผู้ปฎิบัติทำดีที่สุดต่อครอบครัวของฉันในหมู่พวกท่าน"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.นบี ได้ทำแบบอย่างที่ดีในการปฎิบัติต่อครอบครัว พร้อมกล่าวยกย่องผู้ที่ปฎิบัติดีต่อครอบครัวของเขา
2.การ ทำดีต่อครอบครัวหมายถึงการปฏิบัติตามที่กฎหมายอิสลามกำหนดไว้ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่บกพร่องและไม่ละเลยต่อหน้าที่เว้นแต่ที่เกินความสามารถที่จะปฏิบัติได้
3.สามีต้องพยายามเรียนรู้และเอาแบบอย่างจากนบีเกี่ยวกับบทบาทของท่านต่อครอบครัว
22.ครอบครัวมุสลิมต้องมีจริธรรมที่งดงามที่สุด
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : أَكْمَلُ الْمُؤْمِنِيْنَ إِيْمَانًا أَحْسَنُهُمْ خُلُقًا
( صحيح الجامع :1230 )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า บรรดามุอฺมินที่มีความศรัทธาที่สมบูรณ์ที่สุด คือ บุคคลที่มีมารยาทดีที่สุดในหมู่พวกเขา"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.อิสลามให้ความสำคัญกับความสมบูณ์ของอีหม่านและความดีงามของจริธรรม
2.การมีจรรยามารยาทที่ดีงามสามารถยกระดับอีหม่านให้อยู่ในความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
3.บุคคล ครอบครัวที่ประเสริฐที่สุดคือผู้ที่มีทั้งอีหม่านและจริยธรรม คุณธรรมอยู่ในตัว
23.ครอบครัวมุสลิมต้องสุภาพ อ่อนโยน นุ่มนวล
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : إِذَا أَرَادَ اللهُ بِأَهْلِ بَيْتٍ خَيْرًا أَدْخَلَ عَلَيْهِمْ الرِّفْقَ
( صحيح الجامع : 303 )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า เมื่ออัลลอฮฺทรงประสงค์ความดีให้แก่ครอบครัวหนึ่งครอบครัวใด พระองค์จะทรงให้พวกเขามีความประพฤติดี สุภาพอ่อนโยน"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.เป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮฺที่จะทรงประสงค์ให้แก่ครอบครัวหนึ่งครอบครัวใดได้รับความดีและประทานคุณลักษณะความดีงาม
2.เอกลักษณ์สำคัญของครอบครัวคุณธรรมและอุดมสุขคือครอบครัวที่มีคุณลักษณะละมุนละม่อม นุ่มนวล
3.สามีภรรยาต้องแสวงหาความดีให้แก่ครอบครัวด้วยการพึ่งอัลลอฮฺและต้องประดับประดาจริธรรมอันงดงามโดยเฉพาะความสุภาพ อ่อนโยน
24.ครอบครัวมุสลิมต้องรู้จักให้ให้เกียรติแขกผู้เยี่ยม
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : مَنْ كَانَ يُؤْمِنُ باللهِ وَالْيَوْمِ الآخِرِ فَلْيُكْرِمْ ضَيْفَهُ
( متفق عليه)
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า บุคคลใดก็ตามที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันอะคิเราะฮฺเขาจงให้เกียรติแก่แขกของเขา"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.ความสำคัญของการศรัทธาต่ออัลลอฮฺและต่อวันอะคีเราะฮฺ
2.อิสลามสอนศรัทธาชนให้มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่นด้วยการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
3.การให้เกียรติแก่แขกผู้มาเยี่ยมเป็นสัญญาณหนึ่งแห่งความศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันอะคีเราะฮฺ
4.การไม่เอาใจใส่ต่อแขกผู้มาเยี่ยมเป็นสัญญาณแห่งความบกพร่องในอีหม่าน
25.ครอบครัวมุสลิมต้องเอาใจใส่กับเพื่อนบ้าน
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : لَيْسَ الْمُؤْمِنُ بِالَّذِىْ يَشْبَعُ وَجَارُهُ جَائِعٌ إِلَى جَنْبِه
(صحيح الجامع : 5382)
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า ไม่เป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริงสำหรับผู้ที่อิ่มเอิบ ในขณะเพื่อนบ้านของเขาหิวโหย"
ข้อคิดจากหะดีษ
1. อีหม่านที่สมบูรณ์จำเป็นต้องเสริมด้วยจริยธรรม คุณธรรมที่ดีงามอย่างสม่ำเสมอ
2.สาเหตุหนึ่งที่ทำให้อีหม่านไม่สมบูรณ์คือการไม่เอาใจใส่กับเพื่อนบ้าน
3. ผู้ศรัทธาที่ประเสริฐจะไม่ยอมให้เพื่อนบ้านของเขาอยู่ในความอดยากไม่มีกินในขณะเขานั้นนอนหลับค้างคืนด้วยท้องอิ่มเอิบ
26.ครอบครัวมุสลิมต้องมีความสัมพันธ์ดีกับเครือญาติ
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : لاَ يَدْخُلِ الْجَنَّةَ قَاطِعُ رَحِمٍ
( متفق عليه )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า ผู้ที่ตัดขาดความสัมพันธ์จากเครือญาติจะไม่ได้เข้าสวรรค์"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.อัลลอฮฺทรงได้เตรียมสวรรค์และนรกไว้แล้วสำหรับมนุษย์
2.มนุษย์มีทั้งคนที่มีสิทธิเข้าสวรรค์และผู้ที่ไม่มีสิทธิด้วยสาเหตุต่างๆ
3.สาเหตุหนึ่งที่ทำให้มนุษย์ไม่ได้เข้าสวรรค์คือละเว้นการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเครือญาติ
4. มุสลิมจะต้องไม่ตัดขาดจากเครือญาติจะด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม ยิ่งเครือญาติที่เป็นพ่อและแม่ พี่และน้อง
27.ครอบครัวมุสลิมต้องรู้ว่าการอดทนคือความสำเร็จ
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : النَّصْرُ مَعَ الصَّبْرِ وَالْفَرَجُ مَعَ الْكَرْبِ وَإِنَّ مَعَ الْعُسْرِ يُسْراً
( صحيح الجامع :6806)
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า ชัยชนะจะมากับความอดทนเสมอ ความบรรเทาทุกข์จะมากับความยากลำบากและความยากจะมาพร้อมๆกับความง่ายเสมอ"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.การใช้ชีวิตในโลกนี้เราอาจจะเผชิญปัญหาอุปสรรค์และความยากลำบากต่างๆนานาซึ่งเป็นกฎเกณฑ์และการทดสอบจากอัลลอฮฺ
2.ท่านนบี ได้ให้หลักการต่อสู้เพื่อเอาชนะอุปสรรค์ วิกฤต และความทุกข์ในชีวิตคือการใช้ความอดทน อดกลั้นและความมั่นใจต่อสัญญาของอัลลอฮฺ
3. ความสำเร็จ ความสงบสุข และความง่ายมักจะเกิดขึ้นพร้อมๆกับความยากลำบาก และความทุกข์เสมอ
28.ครอบครัวมุสลิมต้องสามัคคีกัน
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : لاَ تَخْتَلِفُوْا، فَإِنَّ مَنْ كَانَ قَبْلَكُمْ اخْتَلَفُوْا فَهَلَكُوْا
( رواه البخارى )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า พวกเจ้าอย่าขัดแย่งกัน แท้จริงชนรุ่นก่อนหน้านี้พวกเขาเคยขัดแย่งกันและพวกเขาได้พินาศไปแล้ว"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.อิสลามกำชับและส่งเสริมความสมัคคีและสมานฉันท์ในครอบครัวและสังคม
2.ความขัดแย่งกันเป็นสิ่งที่ห้ามในอิสลามเพราะจะนำมาซึ่งความแตกแยก ความเสียหาย และความหายนะแก่ประชาชาติ
3.ความหายนะและความพินาศเคยเกิดขึ้นกับชนรุ่นก่อนเนื่องจากความขัดแย่งกัน
4.มุสลิมต้องพยายามสร้างความเป็นเอกภาพ ปรองดองและหลีกเหลี่ยงความแตกแยก
29.ครอบครัวมุสลิมต้องพอเพียง
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : إِذَا نَظَرَ أَحَدُكُمْ إِلَى مَنْ فُضِّلَ عَلَيْهِ فِى الْمَالِ وَالْخَلْقِ فَلْيَنْظُرْ إِلَى مَنْ هُوَ أَسْفَلَ مِنْهُ
( رواه البخارى )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า เมื่อคนหนึ่งจากพวกเจ้ามองเห็นคนที่มีทรัพย์สินและรูปร่างหน้าตาดีกว่าเขาก็จงให้มองดูผู้ที่ต่ำกว่าเขา"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.ในสังคมมีทั้งคนที่มีฐานะดีและรูปร่างตาหน้าตาดีและมีคนที่ด้อยกว่า
2.การที่นบี ได้แนะนำให้เรามองดูคนที่ต่ำกว่าเรานั้นก็เพื่อให้เกิดความสำนึกต่อความโปรด ปรานของอัลลอฮฺซึ่งเรานั้นยังดีกว่าคนอื่นและไม่อิจฉาต่อผู้ที่ดีกว่าเรา
3.ครอบ ครัวมุสลิมต้องสร้างจิตใจให้พึ่งพอใจในสิ่งที่ตนเองมีและรู้จักชุโกรกับสิ่ง อัลลอฮฺกำหนดให้โดยไม่รู้สึกอิจฉาคนอื่น พร้อมไม่ละความพยายามและใช้ความสามารถที่จะให้ดีกว่านั้น
30.ครอบครัวมุสลิมต้องรู้จักความร่ำรวยที่แท้จริง
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : لَيْسَ الْغِنَى عَنْ كَثْرَةِ الْعَرَضِ وَلَكِنَّ الْغِنَى غِنَى النَّفْسِ
(متفق عليه)
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า ความร่ำรวย ( ที่แท้จริง) ไม่ใช่เพราะมีทรัพย์สินที่มากมาย แต่ความร่ำรวย ( ที่แท้จริง) นั้นคือความร่ำรวยทางจิตใจ"
ข้อคิดจากหะดีษ
1. ท่านนบี ได้ให้ความเข้าใจเกี่ยวกับนิยามความร่ำรวยที่ถูกต้อง
2. ผู้ที่มีทรัพย์สินอันมากมายมักจะถือว่าเป็นคนร่ำรวย แต่ตามทัศนะของท่านนบี ยังไม่ถือเป็นคนร่ำรวยที่แท้จริง หากขาดความอารี ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
3. ผู้ที่ร่ำรวยที่สุดคือคนรวยด้วยน้ำใจ เห็นอกเห็นใจและเมตตาต่อคนอื่นถึงแม้ว่าเขาไม่ได้มีทรัพย์สินมากมายก็ตาม
อ้างอิงจาก
forward mail.
Re: หะดีษ" สร้างครอบครัวคุณธรรม สู่สังคมอุดมสุข By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: ก.พ. 16, 2011, 03:40 PM
ครับครอบครัวเป็นสุข
Re: หะดีษ" สร้างครอบครัวคุณธรรม สู่สังคมอุดมสุข By: taufik Date: ก.พ. 16, 2011, 03:54 PM
1.ครอบครัวมุสลิมมีความภูมิใจที่มีศาสนาอันสูงส่ง
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : { اَلإِسْلاَمُ يَعْلُوْ وَلاَ يُعْلَى }
( صحيح الجامع: 2778)
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า อิสลามนั้น ( เป็นศาสนาที่ ) สูงส่งไม่มีศาสนาใดเหนือกว่าอิสลาม"
ข้อคิดจากหะดีษ
1. ท่านนบี ได้กล่าวยกย่องศาสนาอิสลามว่าเป็นศาสนาที่สูงส่ง ไม่มีศาสนาใดเหนือกว่าอิสลาม
2. ความสูงส่งของอิสลามนั้นก็เนื่องมาจากอัลลอฮฺและพระองค์ทรงรับรองว่าเป็นศาสนาที่ดีและสมบูรณ์ที่สุด
3. มุสลิมทุกคนต้องมีความภูมิใจ และมีความซาบซึ้งในความโปรดปรานของอัลลอฮฺด้วยนิอฺมัตอัลอิสลามและ มุสลิมต้องเสียสละ ปกป้อง รักษาไว้ซึ่งความสูงส่งของอิสลามด้วยการยึดมั่นและปฎิบัติตามคำสอนของอิส ลามอย่างเคร่งครัด
2.ครอบครัวมุสลิมต้องตักเตือนกันและกัน
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : { الدِّيْنُ النَّصِيْحَةُ }
( صحيح الجامع 3416 )
ความว่า"ท่านรสูล ได้กล่าวว่า ศาสนา ( อิสลาม เป็นศาสนาที่ให้ ) มีการตักเตือนกันและกัน"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.คำว่านะศีหะฮฺหมายถึงความบริสุทธิ์ใจ หรือการตักเตือน
2.ท่านนบี ให้ ความหมายอย่างหนึ่งของศาสนาอิสลาม คือ ที่มีความบริสุทธิ์ใจ ที่มีคำสอนมุ่งเน้นในการให้ตักเตือนกันและกันเพื่อสร้างปัจเจกบุคคล ครอบครัวที่มีคุณธรรมและสังคมเปี่ยมด้วยสงบสุข
3.บุคคลใดไม่ยอมใช้นะศีหะฮฺแสดงว่าเขายังไม่เข้าใจอิสลามที่แท้จริง
3.ครอบครัวมุสลิมต้องยึดมั่นสุนนะฮฺนบี
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : { لَيْسَ مِنَّا مَنْ عَمِلَ بِسُنَّةِ غَيْرِنَا }
( صحيح الجامع 5435 )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า ไม่ใช่คนในกลุ่มของพวกเรา ผู้ที่ปฏิบัติตามสุนนะฮฺ ( แนวทาง ) คนอื่นที่ไม่ใช่สุนนะฮฺของเรา"
ข้อคิดจากหะดีษ
1. ท่านนบี เตือนผู้ที่ยึดแนวทาง หรือ เอาวิถีชีวิตที่ไม่ใช่มาจากท่าน คนเหล่านั้นถือว่าเป็นคนที่ออกจากการเป็นสมาชิกประชาชาติของท่านเพราะเขาปฎิบัติที่ไม่ถูกต้องตามที่ท่านได้ทำแบบอย่างให้
2. สุนนะฮฺของนบี เป็นหลักการสำคัญของอิสลาม
3. ครอบครัวใดที่ประสงค์อยู่ในความถูกต้องจำเป็นต้องยึดมั่นและปฎิบัติตามแนวทางของนบี
4.ครอบครัวมุสลิมอยากเข้าสวรรค์อย่าตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : { مَنْ لَقِيَ اللهَ لاَ يُشْرِكُ بِهِ شَيْئًا دَخَلَ الْجَنَّةَ }
( البخارى )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า ผู้ใดที่จากโลกนี้ไปสู่อัลลอฮฺโดยไม่ตั้งภาคีต่อพระองค์กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย คนนั้นจะได้เข้าสวนสวรรค์"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.มนุษย์ทุกคนหลังจากโลกนี้แล้วต้องกลับไปสู่อัลลอฮฺพร้อมๆกับความเชื่อและอามัลต่างๆของเขา
2.ท่านนบี สอนให้เรายึดมั่นในเอกภาพของอัลลอฮฺและไม่ตั้งภาคีต่อพระองค์
3.บุคคลใดที่ยึดมั่นในในเอกภาพของอัลลอฮฺ และไม่ตั้งภาคีต่อพระองค์บุคคลนั้นย่อมได้รับประกันเข้าสวรรค์ด้วยความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ
4.คนมุอฺมินจำเป็นต้องรักษาไว้ซึ่งอีหม่านที่เปี่ยมด้วยบริสุทธิ์และหลีกเลี่ยง ระมัดระวังจากพิษภัยของการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ
5.ครอบครัวมุสลิมต้องไม่มีคุณลักษณะของมุนาฟิก
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : { أَيَةُ الْمُنَافِقِ ثَلاَثٌ ، إِذَا حَدَّثَ كَذِبَ،وَإِذَا وَعَدَ أَخْلَفَ، وَإِذَا اؤْتُمِنَ خَانَ }
( متفق عليه )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า เครื่องหมายของผู้กลับกลอกมีอยู่สามประการ คือ เมื่อเขาพูด เขาก็โกหก เมื่อเขาสัญญา เขาก็ผิดสัญญา และเมื่อเขาได้รับความไว้วางใจเขาก็บิดพลิ้ว"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.ท่านนบี ได้กล่าวถึงสามคุณลักษณะและพฤติกรรมของผู้ที่ถูกเรียกว่ามุนาฟิกหรือผู้กลับกลอก
2.การพูดโกหก การผิดสัญญา และการบิดพริ้ว หรือหลอกลวงเป็นคุณสมบัติสาคัญของมุนาฟิก
3.มุสลิม ทุกคนต้องพูดจริงตรงไปตรงมา ต้องปฎิบัติตามสัญญาและต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ได้รับมอบหมาย และต้องระมัดระวัง พร้อมหลีกเหลี่ยงความประพฤติที่ไม่พึ่งประสงค์ในอิสลาม
6.ครอบครัวมุสลิมต้องเรียนและสอนอัลกุรอาน
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : { خَيْرُكُمْ مَنْ تَعَلَّمَ الْقُرْآنَ وَعَلَّمَهُ }
( البخارى )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า ผู้ที่ดีที่สุดในหมู่พวกท่านคือผู้ที่เรียนและสอนอัลกุรอาน"
ข้อคิดจากหะดีษ
1. อัลกุรอานเป็นพระดำรัสของอัลลอฮฺที่ทรงประทานแก่นบี เป็นคัมภีร์แห่งชีวิตของมุสลิมที่สมบูรณ์ที่สุดและครอบคลุมในทุกๆด้าน
2. มุสลิมจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาเรียนรู้ อ่าน สอนอัลกุอานและปฎิบัติตามคำสอนในอัลกุรอาน ซึ่งเป็นธรรมนูญของเขาและเขาจะได้รับผลบุญอันมากมายจากอัลลอฮฺ
3. ความประเสริฐที่สุดสำหรับผู้ที่เอาใจใส่กับอัลกุรอาน
7. ครอบครัวมุสลิมต้องเป็นผู้สร้างคุณประโยชน์ให้มากที่สุด
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : { مَثَلُ الْمُؤْمِنِ مَثَلُ النَّخْلَةِ، مَا أَخَذْتَ مِنْهَا مِنْ شَيْءٍ نَفَعَكَ }
( صحيح الجامع 5846 )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า มุอฺมินผู้ศรัทธาเปรียบเสมือนต้นอินทผาลัม สิ่งใดที่ท่านเอาจากมันมีประโยชน์แก่ท่าน"
ข้อคิดจากหะดีษ
1. ท่านนบี ได้เปรียบเทียบผู้ที่มีความศรัทธาเสมือนต้นอินทผาลัมที่มีรากฐานที่มั่นคง ลำต้นที่แข็งแรง มีใบที่ร่มเงา มีผลให้ได้เก็บเกี่ยว ซึ่งทุกอย่างให้คุณประโยชน์แก่มนุษย์อย่างมากหมาย
2. ผู้ศรัทธาต้องเป็นเสมือนต้นอินทผาลัม นั้นคือสร้างคุณประโยชน์แก่ผู้อื่นอย่างเต็มความสามารถ
3. ความประเสริฐของมุอฺมินคือมีอีหม่านที่มั่นคง มีอมัลศอและหฺและได้ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอ
8.ครอบครัวมุสลิมต้องแสวงหาความรักของอัลลอฮฺ ด้วยความอดทน
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : { إِذَا أَحَبَّ اللهُ قَوْمًا ابْتَلاَهُ }
(صحيح الجامع : 4013 )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า เมื่อใดอัลลอฮฺทรงรักพวกหนึ่ง พระองค์จะทรงทดสอบพวกเขา"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.อัลลอฮฺทรงมีคุณลักษณะที่สูงส่ง หนึ่งในคุณษณะนั้นความรักต่อบ่าวของพระองค์
2.กลุ่ม ใด ครอบครัวใดที่ได้รับความรักจากอัลลอฮฺ เขาเหล่านั้นอัลลอฮทรงทดสอบความเข้มแข็งของความศรัทธา ความจริงใจ และความอดกลั่นของพวกเขาต่อสิ่งที่พระองค์ทดสอบ
3.ความประเสริฐของผู้ที่ได้รับการทดสอบจากอัลลอฮฺ
9.ครอบครัวมุสลิมต้องให้สลามกันและกัน
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : {يَا بُنَيَّ إِذا دَخَلْتُمْ عَلَى أَهْلِكَ فَسَلِّمْ يَكُنْ بَرَكَةً عَلَيْكَ وَعَلَى أَهْلِكَ}
( رواه الترمذي وقال : حسن صحيح )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า โอ้ ลูกรักของฉัน เมื่อยามใดที่ลูกเข้าบ้านของครอบครัว จงกล่าวสลามเถิด เพื่อบะเราะกะฮฺ ( สิริมงคล ) จะตกเป็นของเจ้าและครอบครัวของเจ้า"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.สลามหมายถึงคำกล่าวขอพรต่ออัลลอฮฺเพื่อได้มาซึ่งความสันติสุขแก่ผู้ที่ถูกให้สลาม
2.ส่งเสริมการให้สลามระหว่างมุสลิมด้วยกันเนื่องจากสลามเป็นเอกลักณ์สำคัญในอิสลาม
3.ทุกครั้งที่จะเข้าพบครอบครัว หรือ เข้าบ้านควรให้สลามแก่พวกเขา หรือ ผู้อยู่ในบ้านก่อน
4.การให้สลามแก่ครอบครัวเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้ได้รับความบะเราะกะฮฺในชีวิตทั้งผู้ให้สลามและผู้รับสลาม
5.อิสลามต้องการให้ครอบครัวมุสลิมเป็นครอบครัวรักสันติ
10.ครอบครัวมุสลิมต้องปกปิดสิ่งที่น่าอับอาย
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : { وَمَنْ سَتَرَ مُسْلِمًا سَتَرَهُ اللهُ فِى يَوْمَ الْقِيَامَةِ}
( رواه البخارى )
ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า และผู้ใดเอื้อเฟื้อช่วยปกปิดสิ่งที่น่าอับอายของมุสลิมด้วยกัน แน่นอนพระองค์อัลลอฮฺจะทรงเกื้อหนุนปกปิดสิ่งที่น่าอับอายของเขาในวันโลก หน้า"
ข้อคิดจากหะดีษ
1.มุสลิมกับมุสลิมถือว่าเป็นพี่น้องกัน ต้องช่วยเหลือและต้องปกป้องซึ่งกันและกัน
2.มุสลิมที่มีคุณธรรมต้องรักษาและปิดบังสิ่งที่ทำให้เกิดความน่าอับอายแก่คนอื่น
3.ในวันอาคิเราะฮฺอัลลอฮฺทรงปกปิดความผิดของผู้ที่ปกปิดความผิดของมุสลิม
Re: หะดีษ" สร้างครอบครัวคุณธรรม สู่สังคมอุดมสุข By: เหรียญ 2 ด้าน Date: ก.พ. 16, 2011, 10:23 PM
ขอบคุณครับ
Re: หะดีษ" สร้างครอบครัวคุณธรรม สู่สังคมอุดมสุข By: nada-yoru Date: เม.ย. 07, 2015, 08:20 PM
ขุดค่ะขุด..^^