กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ มุมมุสลิมะฮ์
Pages: 12
Re: หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดา By: del_dangerous Date: ก.ย. 12, 2007, 08:15 PM
กับภรรยาไม่ต้องเอาปากไปจูบมือหรอกครับ เพราะมือมันจะมาหาปากเราเองหากเธอพิโรธ อิอิ  ;D

หุ หุ
สงสัยบังจะมีแล้วแน่เลย ;D ;D

และคงจะเคยโดนไปบ้างแล้ว ;D ;D

วัสลาม


Re: หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดา By: aswar Date: ก.ย. 13, 2007, 04:27 PM
โห ผมยังไม่มีหรอกครับ โสดสนิท ศิษย์ส่ายหน้า แต่ตอนสมัยเรียนสามัญโดนฝ่ามือกาฟิเราะฮ์มาเยอะ เพราะปากดี  ;D ตอนนั้นไม่สู้คนด้วย ถ้าเป็นตอนนี้ลองมาทำนะเขวี้ยงด้วยเบอร์โทรฯเลย หุหุ  ;D

Re: หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดา By: aswar Date: ก.ย. 13, 2007, 05:13 PM
อัสสลามุอะลัยกุม

เรื่องการจูบเท้านั้นมีรายงานที่บันทึกในสุนัน ท่านอิมาม อบู ดาวูด รอหิมะหุลลอฮ์ จากท่าน ซาเรียอ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะของอับดุลกอยซ์ กล่าวว่า

‏لما قدمنا ‏ ‏المدينة ‏ ‏فجعلنا ‏ ‏نتبادر ‏ ‏من رواحلنا فنقبل يد النبي ‏ ‏صلى الله عليه وسلم ‏ ‏ورجله

"ตอนที่เราได้มาถึงเมืองมะดีนะฮ์นั้น เราก็รีบลงจากหลังอูฐ แล้วมาจูบที่มือและเท้าของท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม..."

ท่านอบูดาวูด บันทึกไว้ใน กิตาบุลอะดับ เรื่องการจูบที่เท้า อัลบุคอรีย์ ในอัลอะดะบุล มุฟรอด อิบนุล อะอ์รอบีย์ใน อัลกุบัล อัลบะฆอวีย์ ในมัวอ์ญะมุศศอฮาบะฮ์ โดยสายนี้ท่านฮาฟิซ อิบนุ อับดิลบัร และอิบนุ หะญัร กล่าวว่าหะซัน ส่วนสายอื่นนั้นมีบันทึกอยู่ที่ อบู ยะอ์ลา อัฏฏอบรอนีย์ อัลบัยฮะกีย์ อัซซุรกอนีย์ บอกว่าเป็นสายสืบที่ดี

อัซซัยยิด อับดุลลอฮ์ อัลฆุมารีย์ กล่าวเกี่ยวกับหะดีษนี้ว่า "หะดีษนี้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาก้มลงไปหาเท้าของรอซูลเพื่อจูบเท้าทั้งสอง หากว่าการกระทำเยี่ยงนี้ถือเป็นการสุญูดอย่างที่พวกคาดเดาบางกลุ่มพูดแล้ว ท่านจะต้องห้ามพวกเขาอย่างแน่นอน อย่างที่ได้ห้ามคนอื่นไม่ให้สุญูดแก่ท่านแล้วกล่าวว่า "อย่าสุญูดให้แก่กัน"

อัซซัยยิด กล่าวอีกว่า "การจูบมือหรืออย่างอื่นเช่นหัว แก้ม เท้านั้นมุสตะหับใน 2 กรณีด้วยกัน
1. เพื่อให้ความสำคัญ และให้เกียรติแก่บุคคลอันเป็นไปโดยคุณสมบัติทางศาสนา เช่นมีความรู้ สมถะ เป็นคนดี
2. ในกรณีเพื่อแสดงถึงความเอ็นดู เมตตา เช่นการจูบลูกหลาน ญาติพี่น้อง และอนุญาตให้ทำได้ในขณะร่ำลาจะเดินทาง หรือเพิ่งเดินทางมาถึง และเป็นที่น่ารังเกียจที่จะจูบในกรณีที่ผู้นั้นมีคุณสมบัติทางดุนยา เช่น จูบมือคนรวย ผู้มือชื่อเสียง ผู้มีอำนาจ บางอุลามอ์บอกว่าเป็นหะรอมในกรณีนี้ด้วยซ้ำ..."

อัฏฏอห์ฏอวีย์ กล่าวว่า "จากภาพรวมที่เราได้ยกหลักฐานมาให้นั้นบ่งบอกว่าอนุมัติ(มุบาห์)ให้มีการจูบที่มือ เท้า สะเอว หัว หน้าผาก ริมฝีปาก ระหว่างสองตา แต่ทั้งหมดนั้นต้องเป็นในลักษณะของการให้เกียรติ แต่ถ้าเป็นไปเพราะมีอารมณ์นั้นไม่อนุญาติ เว้นแต่ในกรณีคนเป็นสามีภรรยากันเท่านั้น"

ส่วนมัซฮับอิมามมาลิกนั้นรังเกียจการจูบมือ กระทั่งอัลกุรฏุบีย์กล่าวไว้ว่า "การจูบมือถือเป็นการสุญูดย่อยๆ" ที่เดียว เพราะนำมาซึ่งการตะกับบุร เหลิงในตัวเอง ดังนั้นการจูบที่เท้าย่อมหุกมเดียวกันหรือน่ารังเกียจยิ่งกว่า

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าการจูบเท้านั้นเป็นที่อนุญาตในทุกอิริยาบทของผู้ถูกจูบ แต่หากมันนำมาซึ่งฟิตนะฮ์ในสายตาของผู้ไม่รู้นั้นก็น่าจะละไว้จะดีกว่า แต่หากปราศจากฟิตนะฮ์นั้นก็อนุมัติตามทรรศนะอุลามาอ์ทั่วไป

อัซซัยยิด อัลฆุมารีย์ มีงานเขียนเล่มหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องการจูบโดยเฉพาะ ชื่อ "เอียอ์ลามุนนะบีล บิญะวาซิตตักบีล" สามารถศึกษามัสอะละฮ์เกี่ยวกับการจูบได้

วัลลอฮุอะอ์ลัม
วัสสลาม



Re: หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดา By: asha-ira Date: ก.ย. 24, 2007, 09:51 AM
สลามุลลอฮิอะลัยกุ้ม

การปฏิบัติดีต่อพ่อแม่หลังจากทั้งสองเสียชีวิตแล้ว

เหมือนที่จำเป็นต่อมนุษย์ผู้มีคุณธรรมให้ปฏิบัติดีต่อสองบิดามารดาในขณะที่มีชีวิต  ก็จำเป็นสำหรับเขาให้ปฏิบัติดีต่อทั้งสองหลังจากเสียชีวิตไปแล้ว  ดังกล่าวก็คือ  การขอดุอาอ์และอิสติฆฟารให้กับทั้งสอง  ทำการบริจาคทานให้กับทั้งสอง  ชดใช้หนี้สินให้กับทั้งสอง  ดำเนินการตามคำสั่งเสียของทั้งสอง  ทำการเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีบรรดาเครือญาติทั้งสอง  ปฏิบัติดีต่อเพื่อนมิตรสหายของทั้งสอง  ดังนั้นสิ่งดังกล่าวย่อมเป็นการปฏิบัติดีต่อบิดามารดาอย่างสมบูรณ์แล้ว  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขอดุดาอ์  การอิสติฆฟาร  และการบริจาคทานให้แก่ผู้เสียชีวิตไปแล้วนั้น  มีประโยชน์อย่างมหาศาล   ดังนั้นบิดามารดาจึงเหมาะสมยิ่งที่จะได้รับสิ่งดังกล่าวครับ

Re: หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดา By: pineapple Date: ธ.ค. 06, 2007, 02:01 PM
สลามคะ เข้ามาอ่านคะ ญะชากัลลอฮฺฮู่คอยรอน นะคะ

Re: หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดา By: nada-yoru Date: ก.ย. 19, 2009, 01:42 PM
 salam

ขอบคุณค่ะ

อ่านแล้วคิดถึง...ได้ยินแต่เสียงแต่ไม่เห็นหน้า... cool2:
ยิ่งใกล้วันสำคัญแบบนี้ ถ้าได้กอดสักทีสองทีคงอุ่นใจไม่น้อยเลยค่ะ
สงสัยคงต้องกอดตู้เย็นตอนกินกับหมอนข้างตอนนอนแทนซะแว้ว...hehe

ขออนุญาตนำไปเผยแพร่นะคะ

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

^____________^


Re: หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดา By: AUZULODEEN Date: ม.ค. 21, 2010, 11:45 PM
 salam
ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆๆครับ
Re: หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดา By: al-firdaus~* Date: มิ.ย. 20, 2010, 04:50 PM

13.  อย่าเข้าไปหากท่านทั้งสองโดยไม่ได้รับอนุญาต  โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่ทั้งสองกำลังนอนและทำการพักผ่อน



ชายคนหนึ่งได้ถามท่านรอซูล ซ็อลลัลลอฮ์อะลัยฮิวะซัลลัม ว่า :
โอ้ ท่านรอซูลุลลอฮ์ ขณะที่ฉันจะเข้าไปหาแม่ของฉันในบ้าน  ฉันต้องขออนุญาตก่อนหรือไม่?
ท่านรอซูล ซ็อลลัลลอฮ์อะลัยฮิวะซัลลัม ตอบว่า :
ใช่  ชายคนนั้นได้กล่าวว่า  แท้จริงฉันอยู่กับแม่ในบ้านหลังนั้น  ท่านกล่าวว่า :
เจ้าจงขออนุญาตก่อนเข้าไป  ชายคนนั้นได้กล่าวอีกว่า  : ฉันคนเดียวที่คอยดูแลนาง ท่านได้กล่าวว่า :
เจ้าจงขออนุญาตก่อนเข้าไป เจ้าชอบกระนั้นหรือที่จะเห็นแม่ของเจ้าอยู่ในสภาพที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย?
ชายคนนั้นตอบว่า  ไม่ชอบ  ท่านรอซูล ซ็อลลัลลอฮ์อะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า :
ดังนั้น เจ้าจงขออนุญาตก่อนที่จะเข้าไปหานาง  (รายงานโดยมุวัฎฎออ์อิหม่ามมาลิก)

Re: หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดา By: rayes Date: มิ.ย. 20, 2010, 05:01 PM
 salam
«وَقَضَى رَبُّكَ أَلَّا تَعْبُدُوا إِلَّا إِيَّاهُ وَبِالْوَالِدَيْنِ إِحْسَانًا إِمَّا يَبْلُغَنَّ عِنْدَكَ الْكِبَرَ أَحَدُهُمَا أَوْ كِلَاهُمَا فَلَا تَقُلْ لَهُمَا أُفٍّ وَلَا تَنْهَرْهُمَا وَقُلْ لـَّهُمَا قَوْلًا كَرِيمًا، وَاخْفِضْ لَهُمَا جَنَاحَ الذُّلِّ مِنَ الرَّحْمَةِ وَقُلْ رَبِّ ارْحَمْهُمَا كَمَا رَبَّيَانِي صَغِيرًا» [الإسراء/23، 24]

ความว่า “และพระผู้อภิบาลของเจ้าได้บัญชาว่า สูเจ้าทั้งหลายอย่าได้เคารพภักดีผู้ใดนอกจากอัลลอฮฺเพียงผู้เดียวและจงทำดี ต่อพ่อแม่ แม้นว่าผู้ใดผู้หนึ่งหรือทั้งสองบรรลุวัยชราอยู่กับเจ้าแล้ว อย่าได้กล่าวแก่ทั้งสองว่า “อุฟ” (หรือคำว่าที่แสดงอาการไม่พอใจ) และอย่าได้ขู่เข็ญทั้งสอง และจงพูดกับทั้งสองด้วยถ้อยคำที่อ่อนโยน, และจงนอบน้อมถ่อมตนกับทั้งสองด้วยความเมตตา และจงกล่าว(ขอพรให้กับทั้งสอง)ว่า ข้าแต่พระผู้อภิบาลของฉัน ได้โปรดประทานความเมตตาแก่ทั้งสองดังเช่นที่ทั้งสองได้เลี้ยงดูแลฉันเมื่อ ครั้งเยาว์วัย” 

Re: หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดา By: Jaru_pee@16 Date: ม.ค. 06, 2011, 11:05 PM
ไม่ให้ดื้อกับพ่อแม่ เชื่่อฟังท่านในสิ่งที่ท่านสั่งสอนนั่นคือสิ่งที่ลูกทุกคนต้องทำ แต่ถ้าสิ่งนั้นมันขัดต่อความรู้สึกของเราล่ะคะ สิ่งที่ท่านห้าม แต่เราอยากทำ นั่นถือว่าเราทำผิดต่อพ่อแม่ไหม สิ่งที่เราคิดว่าดีสำหรับเรา แต่ไม่ดีสำหรับพ่อแม่ เราทำในสิ่งที่ท่านไม่ได้สอน ทำในสิ่งที่ท่านไม่ชอบเอามากๆ ถือว่าเราทำผิดต่อพ่อแม่ เป็นลูกอกตัญญูไหมคะ  mycry mycry
Re: หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดา By: Jaru_pee@16 Date: ม.ค. 07, 2011, 12:11 AM
ไม่ให้ดื้อกับพ่อแม่ เชื่่อฟังท่านในสิ่งที่ท่านสั่งสอนนั่นคือสิ่งที่ลูกทุกคนต้องทำ แต่ถ้าสิ่งนั้นมันขัดต่อความรู้สึกของเราล่ะคะ สิ่งที่ท่านห้าม แต่เราอยากทำ นั่นถือว่าเราทำผิดต่อพ่อแม่ไหม สิ่งที่เราคิดว่าดีสำหรับเรา แต่ไม่ดีสำหรับพ่อแม่ เราทำในสิ่งที่ท่านไม่ได้สอน ทำในสิ่งที่ท่านไม่ชอบเอามากๆ ถือว่าเราทำผิดต่อพ่อแม่ เป็นลูกอกตัญญูไหมคะ  mycry mycry
อยากให้ก๊ะฟิรดาวส์มาแชร์ประสบการณ์และความรู้สึกให้อ่านมากๆ..จะรออ่านอย่างใจจดใจจ่อ +_+

รออยู่เหมือนกัน
Re: หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดา By: al-firdaus~* Date: ม.ค. 07, 2011, 12:39 AM
พี่น้องท่านอื่นมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างค๊ะ?
Re: หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดา By: a d n a n Date: ม.ค. 07, 2011, 05:38 PM
ไม่ให้ดื้อกับพ่อแม่ เชื่่อฟังท่านในสิ่งที่ท่านสั่งสอนนั่นคือสิ่งที่ลูกทุกคนต้องทำ แต่ถ้าสิ่งนั้นมันขัดต่อความรู้สึกของเราล่ะคะ สิ่งที่ท่านห้าม แต่เราอยากทำ นั่นถือว่าเราทำผิดต่อพ่อแม่ไหม สิ่งที่เราคิดว่าดีสำหรับเรา แต่ไม่ดีสำหรับพ่อแม่ เราทำในสิ่งที่ท่านไม่ได้สอน ทำในสิ่งที่ท่านไม่ชอบเอามากๆ ถือว่าเราทำผิดต่อพ่อแม่ เป็นลูกอกตัญญูไหมคะ  mycry mycry

พี่น้องท่านอื่นมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างค๊ะ?


ขัดต่อความรู้สึก กับ ขัดต่อศาสนามันต่างกันนะ

ถ้าถามถึงเรื่องของความรู้สึก หากมันไม่เกี่ยวพันกับศาสนา ต่อให้เป็นเรื่องที่เรารู้สึกว่าดีแค่ไหน

ถ้ามันเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สมควรที่จะเชื่อฟังพ่อ/แม่ครับ เพราะนั่นคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า

ถ้ามันเป็นเรื่องที่ใหญ่จริง ๆ เช่น แม่สั่งให้เราเลิกเรียนกลางคันเพื่อไปประกอบอาชีพการงาน ขณะที่ยังเรียนหนังสือ เป็นต้น ก็ต้องคุยกับกับท่านดี ๆ รับฟังเหตุผลของท่าน

และอธิบายเหตุผลของเรา เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดต่อไป เพราะแต่ละบ้าน แต่ละสถาณการณ์ แต่ละปัญหา ย่อมแตกต่าง คำตอบ (ทางออก) ที่ดีที่สุดจึงแตกต่างกันไป

หากมันพัวพันกับศาสนา ก็ต้องปฏิบัติตัวให้สอดคล้องกับศาสนา (ข้อ 27) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของภาคบังคับ

้พึงระลึกไว้เสมอว่า ทุกการกระทำนั้น เราจะต้องให้เกียรติกับท่าน และอ่อนโยนกับท่านอย่างถึงที่สุด

ส่วนเรื่องที่ท่านไม่ชอบเอามาก ๆ หากจะหมายถึงการเข้ารับศาสนาอิสลามนั้น ไม่แปลกครับ

เพราะวันนี้ท่านทั้งสองนั้น ยังไม่ได้รับการเปิดใจจากพระผู้เป็นเจ้า อย่างนี้ไม่เรียกว่าอกตัญญูครับ

ขอให้อดทนต่ออุปสรรคต่อไปครับ อัลลอฮจะอยู่เคียงข้าง ผู้ที่เข้าหาพระองค์ด้วยกับความบริสุทธิ์ใจครับ

Re: หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดา By: ZikR Date: ม.ค. 07, 2011, 10:30 PM
 
ถ้าเรารู้ตัวว่าเราเคยบกพร่องต่อพ่อเเม่ในบางเรื่อง เเล้วเราก็สำนึกผิดด้วยการเตาบะฮต่ออัลลอฮซุบฮานาฮูวาตาอาลาเเล้ว  เเล้วจากนั้นเราก็ปฏิบัติดีต่อท่านทั้งสอง  ไม่กลับไปทำเหมือนเดิมอีก

อยากรู้ว่า....  ถ้าเรามีลูกอ่ะ  ลูกเราจะปฏิบัติกับเราเหมือนก่อนหน้าที่เราจะเตาบะฮรึเปล่า

 ::)
Re: หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดา By: tatcha_jah ~♪ Date: ม.ค. 07, 2011, 10:45 PM
ไม่ให้ดื้อกับพ่อแม่ เชื่่อฟังท่านในสิ่งที่ท่านสั่งสอนนั่นคือสิ่งที่ลูกทุกคนต้องทำ แต่ถ้าสิ่งนั้นมันขัดต่อความรู้สึกของเราล่ะคะ สิ่งที่ท่านห้าม แต่เราอยากทำ นั่นถือว่าเราทำผิดต่อพ่อแม่ไหม สิ่งที่เราคิดว่าดีสำหรับเรา แต่ไม่ดีสำหรับพ่อแม่ เราทำในสิ่งที่ท่านไม่ได้สอน ทำในสิ่งที่ท่านไม่ชอบเอามากๆ ถือว่าเราทำผิดต่อพ่อแม่ เป็นลูกอกตัญญูไหมคะ  mycry mycry

พี่น้องท่านอื่นมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างค๊ะ?


ขัดต่อความรู้สึก กับ ขัดต่อศาสนามันต่างกันนะ

ถ้าถามถึงเรื่องของความรู้สึก หากมันไม่เกี่ยวพันกับศาสนา ต่อให้เป็นเรื่องที่เรารู้สึกว่าดีแค่ไหน

ถ้ามันเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สมควรที่จะเชื่อฟังพ่อ/แม่ครับ เพราะนั่นคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า

ถ้ามันเป็นเรื่องที่ใหญ่จริง ๆ เช่น แม่สั่งให้เราเลิกเรียนกลางคันเพื่อไปประกอบอาชีพการงาน ขณะที่ยังเรียนหนังสือ เป็นต้น ก็ต้องคุยกับกับท่านดี ๆ รับฟังเหตุผลของท่าน

และอธิบายเหตุผลของเรา เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดต่อไป เพราะแต่ละบ้าน แต่ละสถาณการณ์ แต่ละปัญหา ย่อมแตกต่าง คำตอบ (ทางออก) ที่ดีที่สุดจึงแตกต่างกันไป

หากมันพัวพันกับศาสนา ก็ต้องปฏิบัติตัวให้สอดคล้องกับศาสนา (ข้อ 27) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของภาคบังคับ

้พึงระลึกไว้เสมอว่า ทุกการกระทำนั้น เราจะต้องให้เกียรติกับท่าน และอ่อนโยนกับท่านอย่างถึงที่สุด

ส่วนเรื่องที่ท่านไม่ชอบเอามาก ๆ หากจะหมายถึงการเข้ารับศาสนาอิสลามนั้น ไม่แปลกครับ

เพราะวันนี้ท่านทั้งสองนั้น ยังไม่ได้รับการเปิดใจจากพระผู้เป็นเจ้า อย่างนี้ไม่เรียกว่าอกตัญญูครับ

ขอให้อดทนต่ออุปสรรคต่อไปครับ อัลลอฮจะอยู่เคียงข้าง ผู้ที่เข้าหาพระองค์ด้วยกับความบริสุทธิ์ใจครับ


เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ
อย่าเอาความรู้สึกของตนเองเป็นที่ตั้ง
เพราะความรู้สึกของคนเราไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป
ความรู้สึกเกิดจากสัญชาตญาณดิบ  ประสบการณ์จากสังคมที่หล่อหลอมให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น
ซึ่งสิ่งที่มาจากสัญชาตญาณหรือสิ่งที่ถูกถ่ายทอดมาจากสังคม
อาจจะมีสิ่งที่ดีหรือไม่ดีปะปนกัน
ดังนั้นเราจึงต้องปฏิบัติตามศาสนา
เพราะศาสนาคือหลักเกณฑ์ เป็นกฎแห่งความถูกต้อง
ศาสนาเป็นสิ่งที่กล่อมเกลาสัญชาตญาณดิบ
กล่อมเกลาความรู้สึกนึกคิด
กล่อมเกลาจิตใจให้เกิดการพัฒนา
เพื่อให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์

^^
สู้ๆนะน้อง