คลิปวิดีโอ (ที่ถ่ายคนทำซินา) นั้น ใช้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดคนทำซินาได้ไหม By: kamal Date: พ.ค. 18, 2011, 01:15 AM

คลิปวิดีโอหรือรูปถ่าย (ที่ถ่ายคนทำซินา) นั้น ใช้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดคนทำซินาได้ไหม
นักวิชาการมีทัศนะที่เเตกต่างกันมั้ย อย่างไรบ้าง เเล้วถ้าคนๆหนึ่งจะใช้วิธีนี้เพื่อประจานผู้ทำซินา เขาจะมีความผิดไหม
ช่วยตอบด่วน ก่อนจะสายไป
ญะซากัลลอฮุค็อยร็อน ล่วงหน้านะคับ
Re: คลิปวิดีโอ (ที่ถ่ายคนทำซินา) นั้น ใช้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดคนทำซินาได้ไหม By: บาชีร Date: พ.ค. 18, 2011, 01:44 AM
ใช้เป็นหลักฐานเอาผิดคนทำซินาไม่ได้ครับ ตามมัสฮับชาฟิอี
และการใช้วิธิการนี้เพื่อประจานแล้วกล่าวหาว่าเขาทำซินาจะโดนเฆี่ยนแปดสิบที หากหาพยานยืนยันมาไม่ได้ครบสี่คน หรือเจ้าตัวยืนยันว่าทำซินา
เรียกว่า ฮัดดุล กอซัฟ حد القذف
Re: คลิปวิดีโอ (ที่ถ่ายคนทำซินา) นั้น ใช้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดคนทำซินาได้ไหม By: anti-bid'ah Date: พ.ค. 18, 2011, 06:33 AM

คำถามนี้เคยมีคนถาม อาจารย์ท่านหนึ่งที่จบด้านหะดิษจาก ม อัซฮัร
ท่านตอบว่า วัลลอฮูอะอฺลัม ไม่ทราบเหมือนกัน
แต่หลักฐานที่ชัดเจนคือการเอาพยานที่เป็นคนมายืนยันอันนี้หลักฐานชัดเจน
แต่หากเป็นกล้องวงจรปิดหรือวิดิโอที่ไม่มีพยานยืนยันหรือพยานไม่ครบตามเวื่อนไข
นั้นตน(อาจารย์)ไม่ทราบเหมือนกันว่าฮุกมจะว่าอย่างไร

Modern Technology i.e. Video recordings, DNA testing etc. cannot be used as evidence for the crime of Zina. (There is always the possibility they may be edited etc.)
เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การบันทึกจากวิดีทัศน์ การทอสอบทาง DNA เป็นต้น ไม่อาจนำมาใช้เป็นหลักฐานในคดีอาญาเรื่องการผิด
ประเวณี (เพราะมีความเป็นไปได้ที่หลักฐานดังกล่าวอาจถูกแก้ไข บิดเบือน -แปลโดยผู้โพส)
ที่มา
http://idawah.com/refutations/adultery_punishment.html
Re: คลิปวิดีโอ (ที่ถ่ายคนทำซินา) นั้น ใช้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดคนทำซินาได้ไหม By: a d n a n Date: พ.ค. 20, 2011, 06:27 PM
ผมก็ไม่รู้นะ วัลลอฮอะลัม
แต่เห็นฮิกมะฮอย่างนึงของการมีพยานควบคู่
เพราะบางที คลิปวิดีโอ อาจเกิดจากการจัดฉาก ตัดต่อ แต่งเติมเสริมแต่ง มุมกล้อง หรือใช้ตัวแสดงแทนกันได้
ต่อไปอาจจะมีเทคนิคที่ทำอะไรได้มากกว่านี้อีกมั้ง
Re: คลิปวิดีโอ (ที่ถ่ายคนทำซินา) นั้น ใช้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดคนทำซินาได้ไหม By: บาชีร Date: พ.ค. 20, 2011, 08:04 PM
ใช้ได้กับบุช แต่ใช้กับมุสลิมไม่ได้นะสิ
Re: คลิปวิดีโอ (ที่ถ่ายคนทำซินา) นั้น ใช้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดคนทำซินาได้ไหม By: hiddenmin Date: พ.ค. 20, 2011, 08:12 PM
แล้วกับบิล คลินตั้นละ
เหอะๆๆ
Re: คลิปวิดีโอ (ที่ถ่ายคนทำซินา) นั้น ใช้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดคนทำซินาได้ไหม By: supportsunnah Date: พ.ค. 20, 2011, 08:35 PM
ช่วยตอบหน่อย
๑) ฮุกมจะว่าอย่างไร ถ้าวิดีทัศน์ หรือ รูปถ่ายที่จะใช้เป็นหลักฐานนั้นเป็นของจริง (อาจโดยการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญในการพิสูจน์
แล้วหรือพูดง่ายๆว่ามันเป็นของจริง) เพราะบางทีหลักฐานที่ว่านั้นน่าเชื่อถือกว่าพยานซะอีก (อย่างนี้แหละที่หลักกฎหมายสากลยึดอยู๋ จะ
จะเชื่อหลักฐานจากวิดีทัศน์ หรือรูปถ่ายหรือกล้องวงจรผิด มากกว่าตัวบุคคลพยาน)
๒) หากว่าการตัดสินของฮากิมหรือกอดี ได้ตัดสินถึงที่สุดแล้วว่า นาง ก และนาย ก ทำผิดประเวณีจริง โดยยึดหลักฐานตัวบุคคล
พยาน ๕ คน ทั้งๆที่นาง ก และนาย ก ปฏิเสธ ข้อกล่าวหานี้ และมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด(ของจริง) ว่า ๒ คนนี้มิได้ทำ
ซินา
คำตัดสินให้ขวางทั้ง ๒ จนถึงแก่ความตาย แต่หลังจากนั้น ๑ เดือน พยานทั้งหมดเปลี่ยนคำให้การว่า จริงๆแล้วพวกตน
โกหกต่อกอดีหรือฮากิม(ด้วยเหตุผลใดก้อไม่ทราบ) ลักษณะอย่างนี้ใครจะรับผิดชอบต่อการตายของทั้ง ๒ อย่างไร
(เผลอกอดีหรือฮากิมนั่งคิดว่า "ถ้ากูเชื่อตามกล้องวงจรปิดก็ดี ผู้บริสุทธจะได้ไม่ตายฟรี")
Re: คลิปวิดีโอ (ที่ถ่ายคนทำซินา) นั้น ใช้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดคนทำซินาได้ไหม By: noi Date: พ.ค. 21, 2011, 06:37 AM
พยานต้องรับผิดชอบ กฎหมายอิสลามไม่มีข้อบกพร่อง
Re: คลิปวิดีโอ (ที่ถ่ายคนทำซินา) นั้น ใช้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดคนทำซินาได้ไหม By: colidlayla Date: พ.ค. 23, 2011, 04:30 PM
ใช้เป็นหลักฐานเอาผิดคนทำซินาไม่ได้ครับ ตามมัสฮับชาฟิอี
และการใช้วิธิการนี้เพื่อประจานแล้วกล่าวหาว่าเขาทำซินาจะโดนเฆี่ยนแปดสิบที หากหาพยานยืนยันมาไม่ได้ครบสี่คน หรือเจ้าตัวยืนยันว่าทำซินา
เรียกว่า ฮัดดุล กอซัฟ حد القذف
ผมก็เรียนมาตามทัศนะนี้เลยครับ วีดีโอหรือ รูปถ่าย สามารถทำขึ้นมาได้ ถึงแม้ว่าจะจริงก็ตามถ้าไม่มีพยาน ครบถ้วน
อนึ่งกฎหมายอิสลามนั้นจะมีเรื่องอีหม่านเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เกียวกับเรื่องพยานและสาบานเท็จ
เช่น นาย ก. ได้เอาของของนาย ข. ด้วยวิธีใหนก็ตามเช่นนำไปฝากแล้วถูกยึดไป นาย ข. เมื่อไปฟ้องร้องแต่ไม่สามารถหาพยานได้
กอดีจึงต้องให้นาย ก. ทำการสาบานต่อพระเจ้าเมื่อสาบานแล้วของก็ต้องตกเป็นของนาย ก. โดยปริยายซึ่งเป็นการสาบานเท็จ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไปตอบแทนกันโลกหน้า
Re: คลิปวิดีโอ (ที่ถ่ายคนทำซินา) นั้น ใช้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดคนทำซินาได้ไหม By: Al Fatoni Date: พ.ค. 23, 2011, 08:47 PM
ตอนที่ผมเรียนนั้น มี นศ.คนหนึ่งถาม อ.ด้วยคำถามเีดียวกันนี้ อ.ก็ตอบว่า "จะใ้ช้คลิปเพื่อเอาผิดคนฐานผิดประเวณีไม่ได้", นศ.ก็แย้งว่า "ในเมื่อมันชัดเจนทั้งภาพและเสียง ทำไมยังไม่ไ้ด้ละครับ อ." อ.ก็ตอบว่า "เพราะการที่จะเอาผิดฐานนี้ได้ ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน ไม่คลุมเครือ หรือตีความหลักฐานนั้นเป็นอื่นได้ ฉะนั้น สำหรับคลิปดังกล่าว ยังถือว่ามีความคลุมเครือในแง่ที่ว่า เรายังสามารถคาดความเป็นไปได้ที่นอกเหนือจากความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายว่า อาจเป็นการตัดต่อ หรือมีการบังคับให้กระทำ หรืออื่นๆ ก็ได้ ฉะนั้น คลิปจึงเอามาเป็นหลักฐาน "หลัก" ในการเอาผิดในความผิดฐานผิดประเวณีไม่ได้ แต่อาจใช้เป็นหลักฐาน "รอง" ได้" (สรุปจากคำบรรยายของ อ. อีกที) - วัลลอฮุอะอ์ลัม
Re: คลิปวิดีโอ (ที่ถ่ายคนทำซินา) นั้น ใช้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดคนทำซินาได้ไหม By: insanevideo420 Date: ก.พ. 20, 2013, 03:19 PM
ได้ความรู้เยอะมากเลยครับ
Re: คลิปวิดีโอ (ที่ถ่ายคนทำซินา) นั้น ใช้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดคนทำซินาได้ไหม By: BasemDeen Date: ก.พ. 21, 2013, 02:14 PM
ความรู้เพ

Re: คลิปวิดีโอ (ที่ถ่ายคนทำซินา) นั้น ใช้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดคนทำซินาได้ไหม By: nada-yoru Date: ก.พ. 22, 2013, 11:05 AM
ผมก็ไม่รู้นะ วัลลอฮอะลัม
แต่เห็นฮิกมะฮอย่างนึงของการมีพยานควบคู่
เพราะบางที คลิปวิดีโอ อาจเกิดจากการจัดฉาก ตัดต่อ แต่งเติมเสริมแต่ง มุมกล้อง หรือใช้ตัวแสดงแทนกันได้
ต่อไปอาจจะมีเทคนิคที่ทำอะไรได้มากกว่านี้อีกมั้ง
เห็นด้วยค่ะ...เพราะว่า ภาพถ่ายหรือวิดิโอนั้น
อาจเกิดมาจากหลายๆองค์ประกอบ...
ที่สำคัญ เดี๋ยวนี้มีเทคนิคต่างๆที่ทำอะไรได้มากกว่า
ที่เราคนทั่วไปคาดคิดกันน่ะค่ะ....
การตัดต่อที่แสนจะแนบเนียนนั้นมีอยู่จริง...
ดังนั้น...ข้าน้อยเชื่อว่า...
การจะเอาผิดใครนั้น เราจะยึดแค่เพียงวัตถุอย่างเดียว
เห็นจะหาความยุติธรรมไม่ได้...
มันต้องมีองค์ประกอบอื่นเสริมด้วย...เช่นตัวบุคคล
พยานแวดล้อม ซึ่งผู้ที่จะเป็นพยานนั้นต้องมีคุณธรรม
จำได้ตอนสมัยที่เรียนกฏหมายอิสลาม(ฟิกฮฺ)
โต๊ะครูบอกว่า...ศาสนาอิสลามเน้นตัวพยานบุคคล
ที่ดำรงไว้ซึ่งคุณธรรม...และมีการกล่าวสาบานตน
ต่ออัลลอฮฺว่าสิ่งที่พูดไปทั้งหมดนั้นล้วนเป็นความจริง...
ทำไมต้องเป็นเช่นนั้น...เนื่องจาก...
หากพยานได้ทำการกล่าวคำเท็จ
ซึ่งความจริงทั้งหมดนั้น พระเจ้าทรงรับรู้
จึงหมายความว่าพยานดังกล่าวกำลังอธรรมทั้งต่อตนเอง
และต่อผู้อื่น...
บางที...อัลลอฮฺอาจไม่รอพิพากษาพยานคนนั้น
ในโลกหน้าก็ได้ โลกนี้เขาก็อาจจะถูกลงทัณฑ์จากพระองค์
ตามแต่พระองค์ทรงประสงค์...
ดังนั้น...ผู้ที่จะเป็นพยานในคดีใดๆ ควรระลึกเอาไว้ให้มั่นว่า
การลงโทษจากมนุษย์หาได้น่ากลัวเท่าการลงโทษ
จากอัลลอฮฺ ผู้ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรมที่แท้จริง...
และผู้ใดที่กระทำความผิดแล้วรอดไปได้...
ก็จงขออภัยโทษจากพระเจ้าให้จงหนัก...
เพื่อที่พระองค์จะทรงเมตตา เพราะอัลลอฮฺนั้นทรงเมตตายิ่ง
อีกทั้งยังทรงอภัยยิ่ง...
หากผิดพลาดประการใด แนะนำกันได้นะคะ...
ปล.ทุกวันนี้ทำงานกับการตัดต่อรูปต่างๆเป็นหลัก
จึงแน่ใจเหลือเกินว่า ถ้าจะเอาผิดใครสักคนเพียงเพราะ
ตัดสินจากรูปหรือวิดิโอเป็นหลัก โลกนี้คงถึงการณ์วิกฤติ
และการจะรักชอบใครสักคนเพียงเพราะดูรูปจากที่โพสต์
หรือที่ติดตามที่ต่างๆ ซึ่งชวนให้ลุ่มหลง...
อยากบอกตรงๆด้วยความจริงใจว่า...
ผู้ที่รักใครเพียงเพราะรูปภาพแล้วนั้น
หัวใจของเขาและชีวิตของเขา
ก็กำลังถึงการณ์วิกฤติเช่นกันค่ะ...
อยากฝากไว้ว่า...รูปกายภาพนอก หรือรูปถ่ายนั้น
เป็นแค่เงาที่สะท้อนเท่านั้น หาใช่ตัวตนที่แท้จริง
ของคนๆนั้นไม่...ไม่ใช่เลย...
จิตวิญญาณข้างในเท่านั้นค่ะคือตัวตนจริงๆ...
เพราะแม้ร่างกายดับสูญ แต่จิตวิญญาณยังคงอยู่
และรอคอยการตัดสินจากผู้ทรงความยุติธรรมที่แท้จริง...
และยิ่งรู้ยิ่งเรียน ย่ิงได้มานั่งตัดต่อภาพต่างๆ
ยิ่งทำให้ไม่อยากถ่ายรูปตัวเองขึ้นมา...
เพราะกล้องถ่ายรูป ไม่อาจถ่ายจิตวิญญาณของเงานั้นได้เลย
และมันก็ไม่สามารถเก็บรายละเอียดที่พระเจ้าได้สร้างสรรค์
สิ่งต่างๆได้หมด หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ
กล้องถ่ายรูปไม่อาจบันทึกความจริงทั้งหมดลงไปในภาพได้
ซ้ำอาจบันทึกได้จริงๆไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำไปค่ะ...
แค่จะถ่ายใบไม้สักใบโดยมีรายละเอียดทุกอย่างครบถ้วน
ทุกองค์ประกอบ ยังไม่อาจจะกระทำได้เลย...
ดังนั้นการจะสร้างใบไม้สักใบขึ้นมา...เอาแค่ใบเดียวเท่านั้น
มันจะง่ายดายได้อย่างไร...
ใบไม้ปลอมกับใบไม้จริงแตกต่างกันตรงไหน
ภาพถ่ายกับตัวเป็นๆของสิ่งต่างๆก็แตกต่างกันฉันนั้นแหล่ะค่ะ
เพราะความละเอียดคมชัดของกล้องที่ว่ามีเยอะแล้วในปัจจุบัน
แต่มันก็ยังน้อยไปเมื่อเทียบกับความละเอียดที่แท้จริง
บนสิ่งต่างๆที่พระเจ้าสร้างสรรค์มา
ก็เลยเจ็บใจทุกครั้งที่ถ่ายรูปทีไรแล้วรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่...
มันยังไม่ใช่สิ่งดังกล่าวที่เรากำลังถ่ายอยู่จริงๆ...
มองเผินๆอาจใช่ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ค่ะ...ไม่ใช่...
ภาพที่ได้มาทุกครั้ง ภาพที่ตัดต่อทุกครั้ง
มันจึงเป็นได้แค่การบันทึกเงา เราคงเห็นใช่มั้ยคะว่า
เงาที่สะท้อนบนพื้นเวลาเราเดินไปไหนมาไหนนั้น
หาใช่ตัวเราจริง...มันเลือนลาง ขาดรายละเอียดที่ควรจะเป็น
ไม่น้อยเลย...
ดังนั้น...จึงไม่แปลก ที่เราจะกล่าวว่า "อัลลอฮุอักบัรฺ"
เพราะไม่มีสิ่งใดหรือใครจะยิ่งใหญ่ไปกว่าอัลลอฮฺตาอาลา
อีกแล้วจริงๆ...พระองค์ทรงยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ใครจะ
เลียนแบบหรือลอกเลียนได้...
และพระองค์เท่านั้น...ที่มีอยู่จริง...
วัสลามค่ะ