ถ้าผู้หญิงกับผู้ขายไปนิกะกันกันโดยพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ทราบ เงลาผ่านไป 4-5ปี ฝ่ายชายไปขอฝ่ายหญิงและไม่ต้องการใหที่บ้านฝ่ายหญิงทราบว่าทั้งสองนิกะมาก่อนแล้ว และต้องการนิกะใหม่สามารถทำได้หรือไม่ ใครที่รู้ช่วยบอกหน่อย ขอบคุณมาก
Re: การนิกะห์ใหม่ By: hiddenmin Date: ต.ค. 07, 2011, 11:35 AM
...
Re: การนิกะห์ใหม่ By: taufik Date: ต.ค. 07, 2011, 11:50 PM
ครั้งแรกนิกะฮ์แล้ว(แต่ไม่ได้บอกพ่อแม่ฝ่ายหญิง ทำไมล่ะ)
ต่อมาจะนิกะฮ์เป็นครั้งที่สองโดยไม่อยากบอกแก่ฝ่ายหญิงว่านิกะฮ์มาก่อนแล้ว (ทำไมล่ะ จะเจตนาปกปิดเพื่อให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงรู้ว่ายังไม่ได้แต่งงาน หรือคิดว่าการนิกะฮ์ครั้งแรกนั้นไม่เซาะฮครับเลยอยากทำเป็นครั้งที่สอง )
ยังไงก็ต้องรอผู้รู้มาตอบแล้วกัน ผมเพียงอยากรู้เจตนาเท่านั้นเอง
Re: การนิกะห์ใหม่ By: sara Date: ต.ค. 08, 2011, 12:46 AM
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนที่ทั้งสองคนเป็นแฟนทั้งสองกำลังเรียนอยู่แล้วเรียนที่เดียวกัน พ่อแม่ฝ่ายชายทราบว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน ท่านคิดว่าอาจเกิดการซิน่าได้ จึงให้ทั้งสองนิกะกันก่อนเพื่อป้องกันการซิน่าที่จะเกิดตามมา แต่ฝ่ายหญิงไม่ต้องการให้ที่บ้านทราบเพราะต้องการเรียนให้จบก่อน แต่ก้อต้องการทำให้ถูกต้อง พอเรียนจบฝ่ายชายไปขอตามประเพณีแล้วต้องการจะนิกะใหม่ได้หรือไม่ (ที่ต้องการปกปิดพ่อแม่ทางฝ่ายหญิงว่านิกะแล้วเพราะฝ่ายหญิงไม่อยากทำให้พ่อแม่เสียใจและมีเหตุผลที่ไม่สามารถพูดออกมาได้)
Re: การนิกะห์ใหม่ By: مرونة الشريعة Date: ต.ค. 10, 2011, 03:32 PM
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนที่ทั้งสองคนเป็นแฟนทั้งสองกำลังเรียนอยู่แล้วเรียนที่เดียวกัน พ่อแม่ฝ่ายชายทราบว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน ท่านคิดว่าอาจเกิดการซิน่าได้ จึงให้ทั้งสองนิกะกันก่อนเพื่อป้องกันการซิน่าที่จะเกิดตามมา แต่ฝ่ายหญิงไม่ต้องการให้ที่บ้านทราบเพราะต้องการเรียนให้จบก่อน แต่ก้อต้องการทำให้ถูกต้อง พอเรียนจบฝ่ายชายไปขอตามประเพณีแล้วต้องการจะนิกะใหม่ได้หรือไม่ (ที่ต้องการปกปิดพ่อแม่ทางฝ่ายหญิงว่านิกะแล้วเพราะฝ่ายหญิงไม่อยากทำให้พ่อแม่เสียใจและมีเหตุผลที่ไม่สามารถพูดออกมาได้)
การที่พ่อแม่ฝ่ายชายให้แต่งก่อนเพราะกลัวว่าทั้ง 2 คนจะทำซีนากันนั้นถือว่าเป็นสิ่งดี เพราะการไปไหนมาไหน 2 คน นั้นแน่นอนซัยฏอนมันจะคอยยุให้ทั้ง2คนนั้นทำในสิ่งที่ผิดต่อหลักการของศาสนาแน่นอน ดังนั้นการแต่งงานที่กลัวจากการเกิดซีนานั้นถือเป็นวาญิบ
(แต่การแต่งงานครั้งแรกนั้นต้องแต่งในระยะทางที่ไกลกว่า 2 มัรฮาละห์ คือ 83 กิโลขึ้นไปจึงจะใช้ได้ในมัสฮับซาฟีอีเพราะวาลีฝ่ายหญิงไม่ได้อนุญาติให้ทำการแต่ง ส่วนฮานาฟีถือว่าไม่เป็นไรในการแต่งงานที่ปราศจากวาลีถึงแม้ระยะทางจะใกล้ก็ตาม)
ข้อต่อมา เมื่อเราแต่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วใช้ชีวิตได้ 4-5 ปี เรียนจบพอดีเลยอยากแต่งงานใหม่นั้นแปลว่าในช่วงที่อยู่ด้วยกันนั้นมีการป้องกันการตั้งครรณ์เป็นอย่างดีเพราะไม่มีการท้องตลอด 4-5ปีที่ผ่านมา จีงอยากแต่งครั้งที่ 2 โดยให้พ่อแม่ได้รับทราบถือว่าแต่งได้ครับและก็เป็นการดีด้วยซ้ำไปที่เราทำให้พ่อแม่เรานั้นสบายใจมีความสุขในการแต่งงานครั้งนี้
(ขอเตือนพี่ๆน้องที่เคารพว่า ให้รอเวลาที่เมาะสมด้วยกันทั้ง 2 ฝ่ายก่อนแล้วเราจะได้มีความสุขได้อย่างเต็มที่ทั้งพ่อแม่เราและพ่อแม่แฟนเราด้วย สุดท้ายขอให้ท่านทั้ง2มีความสุขในการแต่งงานครั้งนี้) วัสลาม...
Re: การนิกะห์ใหม่ By: hiddenmin Date: ต.ค. 10, 2011, 04:04 PM
ตามท้องเรื่องแล้ว ไม่มีการไปขอแต่งงานจากฝ่ายวลีหญิงแล้วถูกปฏิเสธ ดังนั้นที่บอกว่าระยะทางเกิน 2 มัรฮาละฮจึงใช้ไม่ได้สำหรับกรณีนี้
วัลลอฮุอะลัม
Re: การนิกะห์ใหม่ By: คนรู้น้อย Date: ต.ค. 10, 2011, 09:53 PM
คือง่ายๆ คือไม่อยากทำซินาแต่กลัวผิดบาปแต่ก็มีความรักซึ่งกันและกัน(น่าจะสุภาพหน่อย)
แต่เกรงว่าถ้านิกะห์แล้วพ่อแม่ฝ่ายหญิงคงไม่ยอมแน่
รอผู้รู้มาช่วยตอบดีกว่านะครับแต่ถ้าให้ผมตอบนะ ผมรอนิกะห์รอบเดียวดีกว่านะให้พ่อแม่ทั้ง 2 ฝ่ายรู้มันน่าจะดีกว่านะครับ คิดถึงหัวอกพ่อแม่ด้วยกว่าท่านจะเลี้ยงเราโตยิ่งลูกสาวด้วย
เป็นผมถ้าให้นิกะห์แล้วปรากฏ ผู้ชายทิ้งลูกสาวผมนี่หรือมุนาฟิกกลับกลอก มันจะเป็นปัญหาใหญ่กว่านิกะห์ทีเดียวอีกนะ
Re: การนิกะห์ใหม่ By: Muftee Date: ต.ค. 11, 2011, 05:58 AM
ถ้าผู้หญิงกับผู้ขายไปนิกะกันกันโดยพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ทราบ เงลาผ่านไป 4-5ปี ฝ่ายชายไปขอฝ่ายหญิงและไม่ต้องการใหที่บ้านฝ่ายหญิงทราบว่าทั้งสองนิกะมาก่อนแล้ว และต้องการนิกะใหม่สามารถทำได้หรือไม่ ใครที่รู้ช่วยบอกหน่อย ขอบคุณมาก
คือ ต้องดูการนิกะฮฺครั้งแรกก่อนว่า มีเงื่อนไขครบตามที่ศาสนากำหนดหรือเปล่า .. คือ มีคำเสนอ(ขอแต่งงาน) ,มีคำสนอง(รับการแต่งงาน) ,มีคู่สมรส(เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวหรือตัวแทนจากทั้งสอง) ,มีสินสอด ,มีพยานอย่างน้อย 2 คน ขึ้นไป ,มีวลีของฝ่ายหญิง (ผู้ปกครองของฝ่ายหญิง)
หากว่ามีครบทั้งหมดนี้ การนิกะฮฺครั้งแรกก็ถือว่าใช้ได้แล้ว .. ส่วนการมาขอนางอีกครั้งนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องนิกะฮฺใหม่แล้ว แค่จัดงานเชิญแขกเข้าร่วมงานก็ได้แล้ว..
แต่จากเหตุการที่บอกกล่าวมานั้น คือ ผู้ปกครองฝ่ายหญิงยังไม่ได้รับรู้ ดังนั้น แสดงว่าไม่มีวะลีย์หรือผู้ปกครองจากฝ่ายหญิงมายินยอมให้แต่งงานกัน หากเป็นเช่นนี้ก็แสดงว่า การนิกะฮฺครั้งแรกถือว่าไม่เซาะฮฺ ต้องนิกะฮฺใหม่ เพราะไม่มีวะลีย์หรือผู้ปกครองของฝ่ายหญิงมายินยอมให้แต่ง
แต่ทว่าต้องพิจารณาอีกว่า การแต่งงานครั้งนี้ไปแต่งงานกันที่ไหน ไกลเกิน 85 กิโลเมตร (โดยประมาณ) หรือเปล่า .. หากว่าคู่บ่าว-สาว คู่นี้ไปนิกะฮฺในอีกสถานที่หนึ่งที่มีระยะทางไกลเกินกว่า 85 กิโล เป็นอย่างต่ำ .. แล้วตั้งวะลีย์กลางขึ้นมา (ผู้รับหน้าที่แทนผู้ปกครองฝ่ายหญิง) ขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่เป็นวะลีย์ (ผู้ปกครองชั่วราว) ให้แก่เจ้าสาว .. การนิกะฮฺครั้งแรกก็ถือว่า ใช้ได้ตามมัซฮับชาฟิอีย์ ไม่ต้องนิกะฮฺใหม่อีก
แต่หากไปไกลไม่ถึง 85 กิโลเมตร (โดยประมาณ) ก็ไม่อนุญาตให้ตั้งวะลีย์หรือผู้ปกครองกลางให้แก่เจ้าสาวครับ..
ถ้าหากการนิกะฮฺครั้งแรกสมบูรณ์แล้ว ครบทุกองค์ประกอบ .. แล้วมานิกะฮฺอีกครั้ง ก็ไม่มีผลอะไรครับ .. เพราะทั้งสองเป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว และยังไม่เคยหย่าร้างกันแต่ประการใด .. แต่ทว่าการนิกะฮฺครั้งที่สองนี้ ถือว่าเป็นการกระทำบาปครับ เนื่องจากทำไปเพื่อหลอกลวงต่อบิดา-มารดา ผู้ให้กำเนิด และเป็นบิดอะฮฺที่น่าตำหนิ อีกทั้งเป็นการนำเรื่องศาสนามาปกปิดบังหน้าความบกพร่องของตนเองครับ !!
วัลลอฮุ ตะอาลา อะลา วะอะลัม.
Re: การนิกะห์ใหม่ By: مرونة الشريعة Date: ต.ค. 11, 2011, 10:59 AM
ตามท้องเรื่องแล้ว ไม่มีการไปขอแต่งงานจากฝ่ายวลีหญิงแล้วถูกปฏิเสธ ดังนั้นที่บอกว่าระยะทางเกิน 2 มัรฮาละฮจึงใช้ไม่ได้สำหรับกรณีนี้
วัลลอฮุอะลัม
สลามครับ..
การไม่ไปขอวลีของฝ่ายหญิง กับ ไปขอแต่วลีฝ่ายหญิงไม่ยินยอมต่างกันอย่างไรครับ?
(ดังนั้นที่บอกว่าระยะทางเกิน 2 มัรฮาละฮจึงใช้ไม่ได้สำหรับกรณีนี้)
เพราะอะไรจึงใช้ไม่ได้ครับ?
Re: การนิกะห์ใหม่ By: مرونة الشريعة Date: ต.ค. 11, 2011, 11:14 AM
เรียนถามอีกเรื่องครับ..
ถ้าคุณเป็น ฮาเก่ม หรือ เป็น กอฏี แล้วได้มีชายหญิงคู่หนึ่งมาหาท่านบอกให้ท่านแต่งงานให้หน่อยถ้าไม่แต่งเราทั้ง 2 คนจะอยู่ด้วยกันเลย (แปลว่าต้องเกิดการซีนาแน่)และฝ่ายหญิงก็ไม่ให้คุณนั้นได้พูดกับบิดาของเธอเพราะเธอกลัวจะโดนว่าไม่อยากให้ที่บ้านรู้ แล้วท่านก็สอบสวนชายหญิงคู่นี้ว่าบ้านฝ่ายหญิงอยู่ไหนไกลกว่าระยะทางที่ศาสนาได้กำหนดหรือไม่และอื่นๆที่คุณนั้นต้องถามต้องรู้ด้วยด้วย ต่อมาคุณรับทราบว่าฝ่ายหญิงนั้นหนีมาแต่งโดยไม่ถึงระยะทางที่ศาสนากำหนดไว้ คือ 83-85 ขึ้นไปแล้วแต่หนังสือที่ได้บอกเอาไว้เกี่ยวกับระยะทาง ..อยากทราบว่าคุณจะทำอย่างไรเกี่ยวกับกรณีนี้... ขอบคุณครับ วัสลาม..
Re: การนิกะห์ใหม่ By: hiddenmin Date: ต.ค. 11, 2011, 11:33 AM
ตามท้องเรื่องแล้ว ไม่มีการไปขอแต่งงานจากฝ่ายวลีหญิงแล้วถูกปฏิเสธ ดังนั้นที่บอกว่าระยะทางเกิน 2 มัรฮาละฮจึงใช้ไม่ได้สำหรับกรณีนี้
วัลลอฮุอะลัม
สลามครับ..
การไม่ไปขอวลีของฝ่ายหญิง กับ ไปขอแต่วลีฝ่ายหญิงไม่ยินยอมต่างกันอย่างไรครับ?
(ดังนั้นที่บอกว่าระยะทางเกิน 2 มัรฮาละฮจึงใช้ไม่ได้สำหรับกรณีนี้)
เพราะอะไรจึงใช้ไม่ได้ครับ?
ที่ผมรู้คือ
กรณีที่ 1 (การไม่ไปขอวลีของฝ่ายหญิง) คือพาหนีไปก่อนไม่ทันได้ขอ
กรณีที่ 2 (ไปขอแต่วลีฝ่ายหญิงไม่ยินยอม) ไปขอแล้วแ่ต่วลีเขาไม่ยอมแต่งให้ (ขอ 3 ครั้ง) ก็เลยพาหนีกันไปไกล 2 มัรฮาละฮ
ในกรณีที่ 1 นั้นการแต่งนั้นใช้ไม่ได้ แต่กรณีที่ 2 นั้นใช้ได้
ผิดพลาดตรงไหนช่วยชี้แจงด้วยครับ
Re: การนิกะห์ใหม่ By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: ต.ค. 12, 2011, 09:05 AM
บอกความจริง แล้วจัดงานวะลีมะฮฺอย่างเดียว
คงไม่คิดว่าจะโกหกพ่อกับแม่ไปจนวันตายหรอกน่ะ บอกถึงสาเหตุให้ท่านเข้าใจไม่มีพ่อแม่คนไหนโกรธลูกหรอก
Re: การนิกะห์ใหม่ By: กูปีเยาะฮฺสะอื้น Date: ต.ค. 12, 2011, 09:07 AM
คุยเรื่องวะลีฟาซิกกันอยู่หรอ
Re: การนิกะห์ใหม่ By: مرونة الشريعة Date: ต.ค. 12, 2011, 02:12 PM
ตามท้องเรื่องแล้ว ไม่มีการไปขอแต่งงานจากฝ่ายวลีหญิงแล้วถูกปฏิเสธ ดังนั้นที่บอกว่าระยะทางเกิน 2 มัรฮาละฮจึงใช้ไม่ได้สำหรับกรณีนี้
วัลลอฮุอะลัม
สลามครับ..
การไม่ไปขอวลีของฝ่ายหญิง กับ ไปขอแต่วลีฝ่ายหญิงไม่ยินยอมต่างกันอย่างไรครับ?
(ดังนั้นที่บอกว่าระยะทางเกิน 2 มัรฮาละฮจึงใช้ไม่ได้สำหรับกรณีนี้)
เพราะอะไรจึงใช้ไม่ได้ครับ?
ที่ผมรู้คือ
กรณีที่ 1 (การไม่ไปขอวลีของฝ่ายหญิง) คือพาหนีไปก่อนไม่ทันได้ขอ
กรณีที่ 2 (ไปขอแต่วลีฝ่ายหญิงไม่ยินยอม) ไปขอแล้วแ่ต่วลีเขาไม่ยอมแต่งให้ (ขอ 3 ครั้ง) ก็เลยพาหนีกันไปไกล 2 มัรฮาละฮ
ในกรณีที่ 1 นั้นการแต่งนั้นใช้ไม่ได้ แต่กรณีที่ 2 นั้นใช้ได้
ผิดพลาดตรงไหนช่วยชี้แจงด้วยครับ
สลามครับ..
ในกรณีที่ 1 นั้นการแต่งนั้นใช้ไม่ได้
ใช้ไม่ได้หรอครับ? เพราะอะไรครับ?
การที่ชายหญิงพากันหนีไปแต่งไกลเกินกว่า 2 มัรฮาละห์โดยที่ไม่ได้ขอจากวลีฝ่ายหญิงไม่เซาะห์ยังไงครับ? คนพากันไปแต่งโดยไม่ให้พ่อแม่ทราบเยอะแยะเลยครับ แล้วจะว่าไงดีครับ?
ส่วนคำถามด้านบนผมถามทุกๆคนรวมถึงท่านด้วย ว่าถ้าเหตการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นเราจะทำอย่างไร?
วัสลามครับ..
Re: การนิกะห์ใหม่ By: hiddenmin Date: ต.ค. 12, 2011, 08:06 PM
วอลัยกุมุสลาม
ไม่มีหนังสืออ้างอะ ครูพักลักจำอย่างเดียว
ตกประเด็นนึงไป ถ้ากลัวซินานั้นอนุญาตให้แต่งงานได้
วัลลอฮุอะลัม