กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ หลักการยึดมั่น ( อัล-อะกีดะห์ )
Pages: 12
อิสรออฺและเมี๊ยะอฺร๊อจญ์ (เล่าสู่กันฟัง) เพื่อปลุกอีหม่าน By: al-azhary Date: ก.ค. 27, 2007, 09:11 AM
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

พี่น้องไม่นำเสนอเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับ  อิสรออฺและเมี๊ยะอฺรอจญ์  กันบ้างหรือครับ  เพื่อปลุกอีหม่านของเราได้อีกแง่มุมหนึ่ง   ใครมีข้อมูลโปรดนำเสนอกันมาได้เลยนะครับ

والسلام
Re: อิสรออฺและเมี๊ยะอฺร๊อจญ์ (เล่าสู่กันฟัง) เพื่อปลุกอีหม่าน By: al-firdaus~* Date: ก.ค. 27, 2007, 09:38 AM
รอฟัง...... ;D ;D ;D

ช่วงนี้อีหม่านอ่อนแอ........

ต้องชาร์จกันหน่อย ;D ;D ;D


Re: อิสรออฺและเมี๊ยะอฺร๊อจญ์ (เล่าสู่กันฟัง) เพื่อปลุกอีหม่าน By: musalmarn Date: ก.ค. 27, 2007, 12:00 PM
รออ่าน ...

 ;D

ญาซากูมุลลอฮ ฮุ ค็อยร็อนล่วงหน้าครับ ^^
Re: อิสรออฺและเมี๊ยะอฺร๊อจญ์ (เล่าสู่กันฟัง) เพื่อปลุกอีหม่าน By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ก.ค. 27, 2007, 03:44 PM
อัสลามุอะลัยกุ้มท่านพี่น้อง

ไม่รู้ว่าจะเริ่มอะไรก่อนเพื่อเป็นเชื้อไว้ให้ต่อยอดกับพี่น้องคนอื่นๆ น่ะ  งั้นขอเริ่มก่อนล่ะกัน  ;D

       อิสรออฺ  หมายถึง  เหตุการณ์หนึ่งที่ได้เกิดขึ้นกับท่านร่อซูลุลอฮ์(ซ.ล.) ในคืนอิสรออฺ  จากการที่ท่านญิบรีลได้มาหาท่านพร้อมกับอัลบุร๊อก  หลังจากนั้นท่านญิบรีลก็ทำการผ่าทรวงอกและนำหัวใจออกมาทำการล้างด้วยน้ำซัมซัมและได้บรรจุวิทยปัญญาและอีหม่านเข้าไปในหัวใจนั้น  และท่านนบี(ซ.ล.)ก็ได้เดินทางจากมัสยิดหะรอมไปยังบัยตุลมักดิสและทำการละหมาดที่นั่น  หลังจากนั้นท่านญิบรีล(อ.)ได้นำสองภาชนะมาให้แก่ท่านร่อซูลุลลอฮ์(ซ.ล.) ซึ่งมีเหล้าและนม  ดังนั้นท่านนบี(ซ.ล.)จึงเลือกนม  แล้วท่านก็ทำการขึ้นสู่ฟากฟ้า.....

       เมี๊ยะอฺร๊อจญ์  หมายถึง  การขึ้นสู่ฟากฟ้าหลังจากที่เดินทางยามค่ำคืนจากบัยตุลลอฮ์สู่บัยตุลมักดิส  โดยขึ้นไปยังชั้นฟ้าชั้นที่หนึ่ง  ชั้นที่สอง....จนกระทั่งถึงขึ้นที่เจ็ด  ซึ่งได้พบบรรดานบีและร่อซูล  หลังจากนั้นท่านก็ได้ขึ้นไปยังเขตซิดร่อตุลมุนตะฮา ได้เห็นแม่น้ำทั้งสี่  และรับบัญญัติเกี่ยวกับละหมาดฟัรดูต่อท่านและประชาชาติของท่าน  และก็มีเหตุการณ์ขอผ่อนจำนวนเวลาของละหมาดด้วย..... 

       อัลลอฮ์ทรงตรัสว่า "มหาบริสุทธิ์แด่องค์ซึ่งทำให้เดินทางยามค่ำคืนกับบ่าวของพระองค์จากมัสยิดอัลหะรอมไปสู่มัสยิดอัลอักซอซึ่งเราได้ให้ความสิริมงคลรอบๆ มัน  เพื่อเราให้เขาได้เห็นบรรดาสัญลักษณ์ต่างๆ ของเรา  แท้จริงพระองค์ทรงได้ยินยิ่งและทรงเห็นยิ่ง" อิสรออฺ อายะฮฺ 1
Re: อิสรออฺและเมี๊ยะอฺร๊อจญ์ (เล่าสู่กันฟัง) เพื่อปลุกอีหม่าน By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ก.ค. 27, 2007, 04:18 PM
ได้เขียนคำนิยามและบทนำแบบพอสังเขปไว้แล้วเรียบร้อยแล้ว  พี่น้องคนอื่นๆ  นำเสนอต่อได้เลยครับ  ;D
Re: อิสรออฺและเมี๊ยะอฺร๊อจญ์ (เล่าสู่กันฟัง) เพื่อปลุกอีหม่าน By: al-azhary Date: ส.ค. 10, 2007, 06:02 PM
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

พอนึกถึงการเล่าเรื่องอิสรออฺเมี๊ยะอฺรอจญ์นั้น  ก็จะนึกถึงคุณปู่เสมอ  เพราะท่านได้เล่าน่าฟังมาก  มีหลักดาราศาสตร์และแผนภูมิเกี่ยวกับชั้นฟ้าฉายสไลท์ให้เราดูกันด้วย 

แต่ขณะนี้ผมขอเล่าในทางเวปไซท์แบบพอสังเขปล่ะกันครับ  อินชาอัลเลาะฮ์  ;D

والسلام
Re: อิสรออฺและเมี๊ยะอฺร๊อจญ์ (เล่าสู่กันฟัง) เพื่อปลุกอีหม่าน By: al-azhary Date: ส.ค. 10, 2007, 06:12 PM
بسم الله الرحمن الرحيم

ก่อนที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยวะซัลลัม ทำการอพยพ 18 เดือน อัลเลาะฮ์ตาอาลา  ทรงประทานเกียรติแด่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ด้วยการอิสรออฺและเมี๊ยะอฺรอจญ์  การอิสรออฺ  หมายถึง  การเดินทางในเวลากลางคืน ซึ่งหมายถึงการเดินทางจากมัสยิดหรอมนครมักกะฮ์ไปยังมัสยิดอัลอักซอในเยรูซาลิมปาเลสไตน์  ซึ่งอยู่ไกลออกไปจากนครมักกะฮ์โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 เดือน  แต่การเดินทางของท่านใช้เวลาเพียงแค่คืนเดียวเท่านั้น  ส่วนเมี๊ยะอฺรอจญ์ หมายถึง การขึ้นไปสู่บรรดาชั้นฟ้าของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  เพื่อได้แลเห็นสัญลักษณ์ต่าง ๆ ของอัลเลาะฮ์ อีกทั้งเยี่ยมสวรรค์และนรก  ซึ่งเหตุการณ์อิสรออฺเมี๊ยะอฺรอจญ์นี้  ได้ถูกระบุไว้ในอัลกุรอาน อันมีความว่า

سُبْحَانَ الَّذِي أَسْرَى بِعَبْدِهِ لَيْلاً مِّنَ الْمَسْجِدِ الْحَرَامِ إِلَى الْمَسْجِدِ الأَقْصَى الَّذِي بَارَكْنَا حَوْلَهُ لِنُرِيَهُ مِنْ آيَاتِنَا إِنَّهُ هُوَ السَّمِيعُ البَصِيرُ

"พระองค์ผู้ทรงมหาบริสุทธิ์ยิ่งนัก  พระองค์ผู้ทรงนำบ่าวของพระองค์(มุฮัมมัด) ให้เดินทางในยามค่ำคืนจากมัสยิดอัลฮะรอมสู่มัสยิดอัลอักซอ  ซึ่งเราได้ให้ความสิริมงคลแก่รอบ ๆ ของมัน  ทั้งนี้เพื่อเราจะให้เขามองเห็นบางส่วนแห่งสัญลักษณ์ของเรา  แท้จริงพระองค์ทรงเป็นผู้ได้ยินยิ่ง  อีกทั้งทรงมองเห็นยิ่ง" อัลอัสรออฺ 1
Re: อิสรออฺและเมี๊ยะอฺร๊อจญ์ (เล่าสู่กันฟัง) เพื่อปลุกอีหม่าน By: colidlayla Date: ส.ค. 10, 2007, 06:18 PM
ใน ชีวิต ได้ ฟังจากปู่ ของ น้อง อัล ได้เดินทางมาที่ ปากลัด มาบรรยาย ในคำคืน อิสรอฮ 2 ครั้ง ถ้าจำไม่ผิด หรือ 3
ตอนนั้นก็ ยังเด็ก ซะด้วย
Re: อิสรออฺและเมี๊ยะอฺร๊อจญ์ (เล่าสู่กันฟัง) เพื่อปลุกอีหม่าน By: al-azhary Date: ส.ค. 10, 2007, 06:21 PM
ใน ชีวิต ได้ ฟังจากปู่ ของ น้อง อัล ได้เดินทางมาที่ ปากลัด มาบรรยาย ในคำคืน อิสรอฮ 2 ครั้ง ถ้าจำไม่ผิด หรือ 3
ตอนนั้นก็ ยังเด็ก ซะด้วย

แสดงว่าบัง colidlayla  ได้ฟังมากกว่าผมอีกน่ะครับ โชคดีจัง   ;D
Re: อิสรออฺและเมี๊ยะอฺร๊อจญ์ (เล่าสู่กันฟัง) เพื่อปลุกอีหม่าน By: al-azhary Date: ส.ค. 10, 2007, 06:23 PM
ท่านอิมามบุคอรีย์และมุสลิมได้รายงานเรื่องราวดังกล่าวจากท่านอะนัส ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  ซึ่งมีเนื้อความว่า "ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ฉันได้เดินทางโดยบุร๊อก  ซึ่งบุร๊อกมีลักษณะคล้ายมากกว่าลาแต่ก็ไม่ถึงกับคล้ายล่อ  ซึ่งมันสามารถเดินเพียงก้าวเดียวก็ไปสุดลิบตา  ฉันได้ขี่มันจนไปถึงบัยตุลมักดิส คือ มัสยิดอัลอักซอ ฉันได้เข้าไปในมัสยิดและทำการละหมาดสองรอกะอัต  และฉันก็ออกมาจากมัสยิด  ดังนั้นญิบรีลได้มาหาฉันโโยนำภาชนะที่มีเหล้า และก็อีกภาชนะหนึ่งเป็นน้ำนม  และฉันก็เลือกดื่มน้ำนม  ญิบรีลกล่าวว่า "ท่านได้เลือกความบริสุทธิ์ (ซึ่งชี้ให้เห็นว่าศาสนาอิสลามเป็นศาสนาแห่งความบริสุทธิ์นั่นเอง)
Re: อิสรออฺและเมี๊ยะอฺร๊อจญ์ (เล่าสู่กันฟัง) เพื่อปลุกอีหม่าน By: al-azhary Date: ส.ค. 10, 2007, 06:29 PM
หลังจากนั้นท่านญิบรีลนำฉันขึ้นไปยังชั้นฟ้าที่ 1  ท่านญิบรีลจึงขออนุญาตเพื่อให้เปิดประตูชั้นฟ้าชั้นแรก  จึงเสียงกล่าวขึ้นว่า "ท่านเป็นใคร?" ญิบรีลตอบว่า "ฉันคือญิบรีล" และมีเสียงกล่าวขึ้นอีกว่า "ใครมาพร้อมกับท่านหรือ?" ญิบรีลตอบว่า "เขาคือมุฮัมมัด" และมีเสียงกล่าวอีกว่า "เขาถูกส่งมาที่นี้หรือ?" ญิบรีลตอบว่า "ใช่แล้ว เขาถูกส่งมาที่นี้"  ดังนั้นท้องฟ้าชั้นแรกจึงถูกเปิดให้แก่เรา  ทันใดนั้น  ฉันจึงพบกับนบีอาดำ  เขาได้ต้อนรับฉันและขอพรให้แก่ฉัน 

จากนั้นญิบรีลได้นำฉันไปสู่ท้องฟ้าชั้นที่ 2 และขอเปิดชั้นฟ้าที่ 2 จึงมีเสียพูดอย่างเดิมเหมือนกับชั้นฟ้าชั้นแรก  แล้วทอ้งก็ถูกเปิดให้แก่เรา  ทันใดนั้นฉันจึงพบกับท่านนบียะห์ยาและนบีอีซา บุตร มัรยัม  ซึ่งทั้งสองได้ต้อนรับฉันและขอพรให้แก่ฉัน
Re: อิสรออฺและเมี๊ยะอฺร๊อจญ์ (เล่าสู่กันฟัง) เพื่อปลุกอีหม่าน By: al-azhary Date: ส.ค. 10, 2007, 06:38 PM
หลังจากนั้นท่านญิบรีลจึงนำฉันไปสู่ท้องฟ้าชั้น 3  และขอเปิดท้องฟ้าชั้นที่  3  และมีเสียงพูดอย่างเดิมเหมือนชั้นแรก  และท้องฟ้าก็ถูกเปิดให้แก่ฉัน  และฉันได้พบกับนบียูซุฟ  เขาได้ให้การต้อนรับและขอพรให้แก่ฉัน  จากนั้นเราขึ้นไปสู่ชั้นฟ้าชั้นที่ 4 ฉันจึงได้พบกับนบีอิดรีส  ดังนั้นเขาได้ต้อนรับฉันและขอพรให้แก่ฉัน  อัลเลาะฮ์ทรงตรัสไว้ในซูเราะฮ์มัรยัมความว่า "เราได้ยกเขา(คือนบีอิดรีส)สู่ที่พำนักอันสูงส่ง"  คือชั้นฟ้าชั้นที่ 4 นั่นเอง
 
หลังจากนั้นเราได้ขึ้นสู่ชั้นฟ้าชั้นที่ 5 ซึ่งเราได้พบกับนบีฮารูณ  เขาได้กล่าวต้อนรับฉันและขอพรให้แก่ฉัน  จากนั้นเราขึ้นไปสู่ชั้นฟ้าที่ 6 ซึ่งฉันได้เจอกับนบีมูซา  เขาได้ทำการต้อนรับฉันและขอพรให้แก่ฉัน  จากนั้นเราได้ขึ้นไปสู่ฟากฟ้าชั้นที่ 7 และได้พบกับนบีอิบรอฮีม นั่งพิงอยู่  ณ  ที่บัยตุลมะอฺมูร  ซึ่งจะมีมะลาอิกะฮ์เข้าไปทุกวันถึง 70000 (เจ็ดหมื่น) ท่าน
Re: อิสรออฺและเมี๊ยะอฺร๊อจญ์ (เล่าสู่กันฟัง) เพื่อปลุกอีหม่าน By: al-azhary Date: ส.ค. 10, 2007, 07:27 PM
หลังจากนั้น  ญิบรีล นำฉันไปสู่ต้นพุทรา(ซิดร่อตุลมุนตะฮา) ซึ่งเป็นต้นไม้ในสรวงสวรรค์  ซึ่งใบของมันเหมือนใบหูของช้าง  ผลขอมันเหมือนโอ่งดินเผา  ซึ่งบางครั้งต้นซิดร่อตุลมุนตะฮา ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงบ้าง  สีเหลืองบ้าง  เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินบ้าง  สีเงินบ้าง  ซึ่งไม่มีผู้ใดที่จะสามารถพรรณาถึงความงดงามของมันได้
จากนั้นอัลเลาะฮ์ทรงวาฮีให้แก่ฉันกับการรับบทบัญญัติละหมาด 50 เวลาในหนึ่งวันกับหนึ่งคืน  ฉันจึงลงไปหาท่านนบีมูซา  เขากล่าวว่า "อะไรหรือที่พระผู้อภิบาลของท่านได้ฟัรดูเหนือประชาชาติของท่าน"  ฉันตอบว่า "ละหมาด 50 เวลา" นบีมูซากล่าวว่า "ท่านจงกลับไปขอผ่อนปรน (ไม่ใช่ต่อรอง) ต่อพระผู้อภิบาลของท่าน  เพราะอุมมะฮ์ของท่านไม่มีความสามารถในการปฏิบัติดังกล่าวเพราะฉันได้เคยทดสอบกับชาวนบีอิสรออีลมาแล้ว ท่านนบีมุฮัมมัดจึงกล่าวว่า "ฉันได้กลับไปยังพระผู้อภิบาลของฉันและกล่าวขอต่อพระองค์ว่า "โอ้พระเจ้าของฉัน  โปรดทรงผ่อนปรนให้อุมมะฮ์ของฉันด้วยเถิด  ดังนั้น พระองค์ทรงลดให้ฉันจนกระทั่งหลือ 5 เวลา"  จนกระทั่งอัลเลาะฮ์ตาอาลา ทรงตรัสกับนบีมุฮัมมัดว่า "โอ้มุฮัมมัดเอ๋ย ละหมาดนั้นมี 5 เวลา ในทุกหนึ่งวันและหนึ่งคืน  และทุกหนึ่งเวลาเท่ากับ 10 เวลาละหมาด  ดังกล่าวนั้นจึงเท่ากับ 50 เวลา  และผู้ใดที่ตั้งใจกระทำ 1 ความดี  แต่เขาไม่ได้ปฏิบัติมัน  ก็ย่อมถูกบันทึกให้แก่เขาหนึ่งความดี  และผู้ใดตั้งใจกระทำ 1 ความชั่ว แต่เขาไม่ได้ปฏิบัติมัน  ก็ไม่ถูกบันทึกบาปใด ๆ แก่เขา  และผู้ใดตั้งใจกระทำ 1 ความชั่ว  และได้กระทำมันลงไป  ก็จะถูกบันทึกให้แก่เขา 1 ความชั่วเท่านั้น

ดังนั้นฉันจึงลงจากฟากฟ้าและได้พบกับนบีมูซาและทำการเล่าให้นบีมูซาฟัง  ท่านนบีมูซากล่าวว่า "ท่านจงกลับไปขอผ่อนปรนต่ออัลเลาะฮ์อีกเถิด"  ท่านนบีมุฮัมมัดกล่าวว่า "ฉันได้กลับไปยังพระผู้อภิบาลของฉันจนกระทั่งละอายต่อพระองค์เสียแล้ว"   
Re: อิสรออฺและเมี๊ยะอฺร๊อจญ์ (เล่าสู่กันฟัง) เพื่อปลุกอีหม่าน By: al-azhary Date: ส.ค. 10, 2007, 07:46 PM
หลังจากนั้นท่านนบีจึงกลับไปยังนครมักกะฮ์ในตอนกลางคืน  เมื่อถึงตอนเช้าท่านจึงออกไปยังที่ชุมนุมชาวกุเรช  อบูญะฮัลจึงไปหาท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  และท่านนบีก็พูดกับอบูญะฮัลในเรื่องที่เกิดขึ้นกับท่านเกี่ยวกับการเดนิทางไปยังบัยตุลมักดิส  อบูญะฮัลจึงกล่าวกับชาวมักกะฮ์ว่า "โอ้ นบีกะอับ บิน ลุอัยย์  พวกท่านทั้งหลายจงมาที่นี่ซิ"  พวกกุฟฟารจึงหันไปทางอบูญะฮัล  ดังนั้นท่านนบีจึงทำการบอกสิ่งที่เกิดขึ้นกับท่านในเมื่อคืนที่ผ่านมา (คือเรื่องอิสรออฺเมี๊ยะอฺร๊อจญ์) เมื่อพวกกุฟฟารได้ยินเรื่องดังกล่าว  พวกเขาต่างพากันปรบมือ หัวเราะ (เย้ยหยัน) และเอามือวางบนศีรษะเพื่อแสดงความแปลกใจและปฏิเสธ  ดังกล่าวจึงทำให้ผู้มีอีหม่านอ่อนแอตกศาสนา  เพราะเวลาเดินทางจากมักกะฮ์สู่บัยตุลมักดิสต้องใช้เวลาเดินทาง 2 เดือน แต่ท่านนบีไปกลับแค่คืนเดียว พวกเขาเชื่อว่าท่านนบีโกหก  จากนั้นพวกกุฟฟารกุร๊อชก็ไปหาท่านอบูบักรและเล่าเรื่องอิสรออ์ให้ฟัง  แต่ท่านอบูบักรกล่าวว่า "ถ้าหากมุฮัมมัดกล่าวเช่นนั้นแล้ว เขาย่อมพูดจริง" พวกกุฟฟารกล่าวกับอบูบักรว่า "ท่านเชื่อว่าสิ่งดังกล่าวนั้นเขาพูดจริงกระนั้นหรือ?" อบูบักรกล่าวตอบว่า "แท้จริงฉันจะเชื่อเขาในเรื่องที่เหลือเชื่อกว่านี้เสียอีก" และในวันนั้นอบูบักรจึงได้รับสมญานามว่า "อัศศิดดีก" (ผู้เชื่อในสัจธรรม)   
Re: อิสรออฺและเมี๊ยะอฺร๊อจญ์ (เล่าสู่กันฟัง) เพื่อปลุกอีหม่าน By: al-azhary Date: ส.ค. 10, 2007, 08:04 PM
ต่อมาพวกกุฟฟารกุร๊อชฺทำการทดสอบท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ซึ่งพวกเขาถามท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถึงคุณลักษณะของบัยตุลมักดิส  แต่ท่านนบีไม่เคยเห็นและไม่ได้สังเกตุลักษณะของมันมาก่อนเลย  ดังนั้นอัลเลาะฮ์ตาอาลา ทรงทำให้มันปรากฏต่อสองตาของท่านนบีและท่านก็ทำการบอกพรรณาทีละประตู  ทีละสถานที่  พวกเขาจึงกล่าวว่า "สำหรับการบอกถึงลักษณะบัยตุลมักดิสนั้น  ท่านบอกได้อย่างถูกต้อง  ดังนั้นท่านจงบอกเกี่ยวกับกองคาราวานของเราซิ  ซึ่งเวลานี้พวกเขายังมาไม่ถึง  ดังนั้นท่านนบีจึงบอกพวกเขาถึงจำนวนอูฐ  และลักษณะของมัน  และท่านนบียังกล่าวอีกว่า "กองคาราวานจะเดินทางมาถึงในวันนั้น  วันนั้น  ตอนดวงอาทิตย์ขึ้น  นำขบวนโดยอูฐสีเทา" เมื่อถึงวันนั้นพวกเขาจึงออกไปรอดูที่ อัษษะนียะฮ์ (ชื่อสถานที่) คนหนึ่งจากพวกเขากล่าว "ขอสาบาน นี้ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว"  แล้วอีกคนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า "ขอสาบาน  กองคาราวานได้มุ่งหน้ามาแล้วโดยมีอูฐสีเทานำขบวน  ตามที่มุฮัมมัดเคยกล่าวเอาไว้"  แต่กระนั้นพวกเขากลับโอหังและดันทุรัง จนกระทั่งพวกเขากล่าวว่า "สิ่งนี้ย่อมเป็นมายากลอย่างชัดเจน"