แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - นายส้มปาก

หน้า: [1]
1
ขอโทษนะครับคุณ al-azhary คือผมต้องการความชัดเจนน่ะครับ
ไม่ทราบว่าไอ้ที่คุณเรียกว่ากลุ่มวะฮาบีย์ 
ถ้าในสามจังหวัดนี้ใช่กลุ่มของ ดร.อิสมาแอลลุฎฟี   ดร.อับดุลฮาลิมไซซิง    รึเปล่าครับ
เพื่อความชัดเจนครับผมจะได้หาข้อมูลถูก.......
....แต่ถ้าเป็นสถาบันของผมน่ะครับ  เขาไม่เคยเอาหนังสือของ มูฮัมหมัดบินอับดุลวาฮับ  มาสอนเลยน่ะครับ
แต่เขาก็ยังเรียกว่าวะฮาบีย์...

...............ขอเสริมนิดครับ...ผมกาเป็นคนใต้ครับ อยู่แถวๆนั้นแหละ...

ดร.ที่คุณ อ้างถึงนั้นใครๆเขาก้รุ้ว่า เขาอยู่ในผู้เดินตามทัศนะของเชค ที่อยู่ในซาอุ และเชคเหล่านั้นปฏิเสธการมีมัสหับและทัศนะของอุลามะทั้ง4 ซึ่งตรงนี้แหละที่มีแนวคิดแบบเดียวกับท่านมุฮำมัด บินอับดุลวะฮาบ   แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขา จะตามหลักฐานที่ผู้รู้ที่อยู่ในทัศนะ ..
 ในเรื่อง  ปัญหาต่างๆที่เป็นคีลาฟระหว่างทัศนะของอุลามะทั้ง4นั้นเป็นที่รู้ว่า เชคหรือครูที่ซาอุฯรวมทั้งบุคคลที่คุณกล่าวถึงนั้นล้วเป็นผู้ที่อยู่ในเเนวคิดของ ท่านมุฮำมัดทั้งนั้น  คือจะไม่ยอมรับทัศนะของอุลามะ แต่จะตามในสิ่งที่ผู้รู้ในแนวงทางของตนชี้นำไว้  ...

....อีกอย่างเพื่อให้คุณเองได้รู้และไหวตัวทัน ...โดยเฉพาะเรื่อง อะกีดะนั้น พวกเขาจะมีความเชื่อในเรื่องนี้ไม่เหมือนกับคนยุคก่อนในอดีต(สลัฟ) .วาฮาบีย์จะไม่ตีความใดๆในเรื่องตัวอักษร แต่จะปล่อยในเรื่องรูบแบบความเข้าใจ ทั้งๆที่สลัฟยุคก่อนไม่ได้เป็นเช่นนี้ และเป็นที่รู้ว่า ข้อความอัลกรุอ่านนั้นมีทั้งแบบตรง และแบบนัยยะ   ดังนั้นความหมายนั้นย่อมต้องอาศัยผู้รู้   แต่วาฮาบีย์อ้างว่า ใครที่ตะวีลความหมายนั้นจะตกมุรตัด   ..

ส่วนเรื่องหนังสือตำราเรียนนั้น  คุณเองสังเกตุได้เลยว่า...วาฮาบีย์นั้นแบ่งเตาฮีดิออกเป็น 3ประเภท  และมีความเชื่อมั่นว่าอัลลอฮ์ อาศัยบนฟากฟ้า....ของ

2
สำหรับ คณะใหม่หรือกมมุดอแถวบ้านผมนั้น เขาถือว่า สิ่งใดที่ท่านบีไม่ทำประจำ สิ่งนั้นเป็นบิดอะครับ

ฉนั้น..กมมูดอนั้นละหมาดเส็จบางคนเขาก็ออกไป ..บางคนก็ขอดุอาโดยทำปากมุบมิบแต่ ไม่ยกมือ  และก็ไม่มีซอลาวาตใดๆ.

แต่สำหรับคณะเก่านั้นมีการขอเป็นวงและเป้นกลุ่ม อีหม่ามจะนำการขอและจะกล่าวดังๆให้มะมูมได้ยิน และกล่าวพร้อมๆกันวา อามีน..ยาอัลลอฮ์

ซึ่งขอเส็ดก็มีการวอลาวาตนะบี  เพราะท่านรอซุ้ลกล่าวว่าดุอาที่ถูกตอบรับนั้นคือดุอามที่ซอลาวาตต่อ นบีของท่าน..

ก็ไม่รู้ว่า กมมูดอมีหลักฐานอย่างไรที่ห้ามยกมือ..

เคยไปดูที่เวปมุรีด  เห็นคุณไออาเอฟและลุกศิษย์ของอ.มุรีด   บอกว่าสิ่งไหนที่นบีไม่ทำประจำห้ามกระทำ และมันเป้นบิดอะ  ผมดูแล้วก็งงครับ เวปกมมูดอเวปนี้..

3
<a href="http://" target="_blank" class="new_win">http://</a>ว้าว  คุณอัลอัชฮารีย์  พอสาวๆเข้าร้านแล้วทำเป็นใจกว้างเลยนะครับแฮๆๆๆๆ

ถ้าเป็นผู้ชาย โยนให้  บังคนอยากรู้คุณอัล-อุมคุณซุฟรียานรับแทน  อย่างนี้ ก็เสียหน้า นะซิครับ  แหมกันท่าจังแฮกๆๆๆไม่น่าบอกสเตตัสกันเลยน๊อ.. ;D.

4
อัสลามมุอาลัยกุ้มทุกคน  แหมะนั่งกันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยนะ .เพิ่งมาถึงครับ ผ่านมาหาไหรกินที่ร้านน้ำชา สักหีดครับ

พันพรือ....ทุกคนบายดีนะครับ   แฮกๆๆ

กาปีซอ    ชาเย็นแก้วครับ(ใส่โคมหรือกะลามังมาก็ได้..แสบคอหมดแล้ว...ซีดๆๆๆ(ชาดได้ได้แรงอ่อกอึ)

5
บังนูรุลอิสลามครับ..ถ้างั้นซีฟัตวายิบสำหรับอัลลอฮ์นั้น มันจึงมีความจำเป็นสำหรับเราๆท่านๆและเยาวชนเด็กเล้กต่อไปใช่ไหมครับ


และที่โรงเรียนอนุบาลของกมมูดอที่จำหน่ายหนังสือและรูปภาพว่า อัลลออ์อยุ่บนฟ้านั้นก็เป้นสิ่งไม่ถูกต้องช่ายม้ายครับ..

เตาฮีดที่กมมุดอ(วะฮาบีย์แบ่งเป็น3ประเภทละครับ)ตรงนี้บังพอจะอธิบายให้ผมได้ไหมว่า ทำไมวะฮาบีญจึงไม่ยอมให้ลุกหลานของเขาเข้าเรียนโรงเรียนฟัรดูอีน และไม่ให้รู้จักกับวีฟัตวายิบและซีฟัตมุสตาฮีลครับ..

6
สนทนาศาสนธรรม / Re: ยุทธจักรท้าฟัน
« เมื่อ: ม.ค. 13, 2007, 11:03 AM »
ผมขอเป็นแนวร่วมด้วยคนครับ

 พอดีผมก็อยู่แถวชายแดนด้วยครับ  แต่ได้ข่าวว่าแถวนั้นมีระเบิดวางแนวตะเข็บเพียบครับฮ้า...แล้วใครเป็นหัวหน้ากองครับ...

7
ว่างๆเดี๋ยวผมจะค้นประวัติวะฮาบีย์มาให้ครับ

8
พี่น้องทั้งหลายครับ  เท่าที่ผมนั่งดูการสนทนาระหวางพี่น้องซุนนะวะฮาบีย์กับพี่น้องอะลิสซนนะ4มัสหับ(อาชาอีเราะ)ที่ผ่านมานั้นผมนำบทสรุปบางส่วนของคุณอัลอัชฮารีย์ที่ผมกอ็บเก็บไว้และจากความรู้อันน้อยนิดของผม  ก็พอสรุปได้คราวๆว่า..

จากการสนทนาที่ผ่านมาระหว่างพี่น้องวะฮาบีย์กับอัลอะชาอิเราะฮ์นั้น เราพอจะสรุปเรื่องการมอบหมาย(ตัฟวีฏ) ระหว่าง แนวทางวะฮาบีย์กับแนวทางอัลอะชาอิเราะฮได้ดังนี้

1. อัลอะชาอิเราะฮ์ กล่าวว่า บรรดาซีฟาตที่มุตะชาบิฮาตสำหรับเรานั้น ก็ให้ทำการมอบหมายความหมายและวิธีการ

2. วะฮาบีย์ กล่าวว่า บรรดาซีฟาตที่มุตะชาบิฮาตสำหรับนั้น พวกเขารู้ความหมายของมัน แต่ไม่รู้วิธีการ (ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของพวกอัลมุญัสสิมะฮ์  ไม่ใช่สะละฟุศศอลิหฺ)

เป็นที่ทราบดีว่า แนวทางที่ถูกต้องนั้น คือ การทำการมอบหมายกับความหมายและวิธีการให้กับอัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) แต่หากวะฮาบีย์บอกว่า ความหมาย คำว่า يد และอื่นๆ นั้น มีความหมายที่รู้กัน อันนี้เราก็ขอตอบว่า ใช่ครับว่า สะลัฟเขาก็รู้และเราเองก็รู้เช่นกันว่า ความหมายฮะกีกัตตามทัศนะของที่มนุษย์เข้าใจกันนั้น มันคืออะไร
ดังนั้น ไม่ใช่ว่าสะลัฟจะไม่รู้ความหมายเหล่านั้น แต่สะลัฟนั้น พวกเขาย่อมตระหนักดีว่า บรรดาอายะฮ์มุตะชาบิฮาตนั้น มันมีความหมายฮะกีกัตอื่นอีกที่อยู่เบื้องหลังที่นอกเหนือจากการรับรู้ของมนุษย์ในเชิงภาษาที่พวกเขาเข้าใจกัน และความหมายฮะกีกัตอันนี้ อัลเลาะฮ์คือผู้ทรงรู้ดียิ่ง และสะลัฟนั้นก็มั่นใจอย่างเด็ดขาดในขณะเดียวกันนั้นว่า มนุษย์ย่อมมีความอ่อนแอจากการรับรู้ความหมายฮะกีกัตจริงๆ ของบรรดาซีฟัตที่ถูกซ่อนเร้นอยู่ เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเขา(สะลัฟ)จึงไม่ทำการทุ่มเทในการรับรู้ความหมายหรืออธิบายความหมายเลย และพวกเขาก็ทำการมอบหมายความหมายฮะกีกัตที่ถูกซ่อนเร้นจากเรานั้น ไปยังอัลเลาะฮ์(ซ.บ.)

พี่น้องครับวะฮาบีย์มีความเชื่อดังนี้..พวกเขามีหลักการที่ว่า มนุษย์ย่อมเข้าใจความหมายฮะกีกัตซีฟาตของอัลเลาะฮ์ในเชิงภาษาที่มนุษย์เข้าใจกัน แล้วก็ทำการพาดพิงความหมายดังกล่าวไปยังซีฟาตของอัลเลาะฮ์ หลังจากนั้น วะฮาบีย์ก็กล่าวว่า "วิธีการนั้นไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร" และนี่ก็คือข้อเท็จจริงของแนวทางวะฮาบีย์

ชนสะลัฟที่แท้จริงตามแนวทางของอัลอะชาอิเราะฮ์นั้น พวกเขาจะไม่ทำการจำกัดความหมายของซีฟาตอัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) เนื่องจากว่า พวกเขาไม่ทราบถึงเป้าหมายตามทัศนะของอัลเลาะฮ์(ซ.บ.)
لكنهم يعتقدون أن وراءها صفات ومعانى أستأثر الله تعالى بعلم مراده منها ، فأمنوا بها ، لا على مقتضى افهامهم اللغوية أو العقلية لها ، بل على مقتضى مراد الله تعالى منها ، وفى هذا تمام التسليم ، وكمال الانقياد

"แต่พวกเขา(สะลัฟ) เชื่อว่า แท้จิรง เบื้องหลังของมันนั้น มีบรรดซีฟาตและบรรดาความหมายที่อัลเลาะฮ์ทรงรอบรู้จุดมุ่งหมายจากมัน ดังนั้น พวกเขาจึงทำการศรัทธากับมัน โดยไม่ได้อยู่ตามนัยยะของความเข้าใจของพวกเขาตามหลักภาษาหรือสติปัญญา แต่ทว่า (เข้าใจความหมาย)อยู่บนนัยยะความหมายที่พระองค์ทรงประสงค์ และในการนี้ ก็คือการสมบูรณ์ในการมอบหมายและสมบูรณ์ในการปฏิบัติตาม" ดู หนังสือซัมมฺ อัตตะวีล ของท่านอิบนุ กุดามะฮ์ หน้า 41

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า การที่สะลัฟทำการมอบหมายกับความหมาย โดยไม่เจาะจงความหมายนั้น เพราะพวกเขาทำการให้เกียรติและถือว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่สำหรับเกียรติของความเป็นพระเจ้า จากการที่จะเข้าไปทำการให้ความหมายในเชิงภาษาที่มนุษย์เข้าใจกัน ซึ่ง(ความเข้าใจของมนุษย์ตามทัศนะของมนุษย์นั้น)มันย่อมมีความบกพร่อง ถึงแม้เราจะกล่าวว่า "วิธีการไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร" สักพันๆครั้งก็ตาม

ท่านอิมามอะหฺมัดจึงกล่าวว่า

هذه الأحاديت نؤمن بها ونصدق ، لا كيف ولا معنى ، ولا نصف الله تعالى بأكثر مما وصف به نفسه

"บรรดาหะดิษเหล่านี้ เราได้ศรัทธานั้น และเชื่อ โดยที่ไม่มีวิธีการว่าเป็นอย่างไร และไม่มีความหมาย(ที่เฉพาะ) และเราไม่พรรณากับคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์ ให้มากกว่าสิ่งที่พระองค์ทรงพรรณาไว้กับพระองค์เอง" ดู หนังสือ ลุมอะฮ์ อัลเอี๊ยะติก๊อต ของท่าน อิบนุ กุดามะฮ์ หน้า 3
أمروها كما جاءت ،وردوا علمها إلى قائلها ومعناها إلى المتكلم بها

"พวกท่านจงอ่านผ่านมันไปเสมือนที่มันได้มีระบุมา และจงกลับคือการรู้มัน(บรรดาซีฟาต)ไปยังผู้ที่กล่าวมัน และ(จงกลับคืน)กับ ความหมายของมัน ไปยังผู้ที่พูดด้วยกันมัน" ดู หนังสือ ซัมมุ อัลตะวีล ของท่านอิบนุกุดามะฮ์ หน้า 25

ท่านอิบนุกุดามะฮ์ ได้กล่าวว่า

علموا أن المتكلم به صادق لا شك فى صدقه فصدقوه ، ولم يعلموا حقيقة معناها فسكتوا عما لم يعلموه

"พวกเขา(สะลัฟ)รู้ว่า แท้จริง ผู้ที่พูดกับมันนั้น เป็นผู้สัจจริง โดยไม่ต้องสงสัยในความสัจจริงของเขา ดังนั้น พวกเขาจึงยอมรับกับมัน โดยที่พวกเขาไม่รู้กับ"ฮะกีกัตความหมายของมัน" ดังนั้น พวกเขาจึงนิ่งจากสิ่งที่พวกเขาไม่รู้" ดู หนังสือ ซัมมฺ อัตตะวีล หน้า 25

ดังนั้นพี่น้องทั้งหลายก็พอจะสรุปได้ว่า  แนวทางการมอบหมายของอัลอะชาอิเราะฮ์นั้น คือแนวทางของสะลัฟที่แท้จริง ส่วนแนวทางซุนนะวะฮาบีย์นั้นคือพวกเขามีอะกีดะที่ป็นบิดอะที่ไม่เคยพบในชนรุ่นก่อน...

หวังว่า พี่น้อง หลายๆท่านคงจะได้รับความรู้ที่ถูกต้องในสิ่งที่นักศึกษาอะกีดะที่ชนรุ่นก่อนเขาเชื่อกัน.. อิงชาอัลลอฮ์

9
แล้วคุณชิฮาอุ้ลฮัก  มีอะไรนำเสนอบ้างครับ .....ผมเห็นคูณแค่เข้ามากวนน้ำให้ขุ่นแล้วก็วกไปวนมา หลายครั้งแล้ว  ผมนั้นอยากจะสึกษาเกี่ยวกับหลักอากีดะทั้ง2ฝ่ายนะครับ
ไม่ว่าทางฝ่ายคุณฮะซันและอัลอัชฮารีและคนอื่นๆ  นี้ก็นั้งคอยตั้งแต่ตอนบ่าย3โมงแล้ว คุณฮะซันก็ยังไม่โผล่มา...เบื่อครับ  ใคก็ตามที่มาแล้วตั้งโจทย์แล้วก็หายสาบสูญ
ทำตัวแบบอีแอบแบบนี้..เซ้งๆๆๆๆครับ

10
บางมัสยิดในจังหวัดผมมีแปลกๆครับ ละหมาดอีดแต่ไม่กล้าเชือดกุรบ่าน บางแห่งเชือดกุรบ่านวันพรุ่งนี้ บางแห่งต้องรอให้ที่มักกะห์เค้าเสร็จละหมาดอีดก่อน ว่างั้นเหอะ ตกลงสรุปมั่นใจวันอีดกันบ้างไหม๊เนี่ยะ

คุณ sufriyan ครับ  มัสยิดแถวไหนครับ และเขารอยอกันวันไหนหรือครับ

เท่าที่รู้มา ท่านนบีสั่งให้เชือดกรุบานหลัง ละหมาดอิ๊ดแล้วนะครับ   แต่ที่ออกอี้ดแล้วไม่กล้าเชือดนี้  ผมเองก็งงครับ..
 

11
ครับ ผมเห็นด้วยครับ สิ่งที่คุณกอดดัรและคูณมูฮิบครับคุณอัลอัชฮารีย์   และได้ความรู้ที่ถูกต้องด้วย..ญาซากัลลออูคอยรอนทุกคนครับ อามีนยารอ็บบินอาลามีน

หน้า: [1]