
พวกที่ละหมาด 8 ก็โชว์ประเด็นว่าละหมาดนาน...สุยูดกันหน้าผากดำ...ส่วนพวกที่ละหมาด 20 ละหมาดเร็ว..
ดังนั้นการถือศีลอดจึงเป็นอิบาดะฮ์ที่มีความแตกต่างจากอิบาดะฮ์อื่นๆ อย่างมาก เนื่องจากการปฏิบัติอิบาดะฮ์ที่แสดงออกมาทางภายนอก เช่น การละหมาด การจ่ายซะกาต การทำฮัจญ์ การทำซิกรุลลอฮ์ และการทำหน้าที่เป็นนักการศาสนาเรียกร้องให้ผู้อื่นทำดีและละทิ้งจากความ ชั่ว ซึ่งเป็นอิบาดะฮ์ที่แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนต่อสายตาของมนุษย์ เพราะฉะนั้นไม่ว่าในขณะที่ท่านทำการละหมาด ทำการยืน โค้งรู่กั๊วะ ก้มลงสุญูด, ทำการออกซะกาตให้กับผู้มีสิทธิ์ได้รับ, ทำฮัจญ์ เดินสะแอ ฏ่อวาฟ ค้างแรมที่มีนา เป็นต้น
การกระทำเหล่านี้ย่อมเปิดโอกาสให้มีการริยาอฺ (โอ้อวด) เข้ามามีบทบาทอย่างกว้างขวาง ซึ่งเป็นเรื่องง่ายเหลือเกินที่บุคคลหนึ่งทำการละหมาดเพื่อให้มนุษย์เห็นและ หวังผลการยกย่องชมเชยและการให้เกียรติจากพวกเขาเหล่านั้น ทำฮัจญ์และอุมเราะฮ์ทุกปีเพื่อให้คนอื่นเห็น ทำการอ่านอัลกุรอานเพื่อให้มนุษย์เห็นว่าเป็นคนดีมีคุณธรรมและมีความตักวา เป็นอาจารย์ที่คอยเรียกร้องผู้อื่นให้กระทำความดีเพื่อให้มนุษย์ยกย่องและ นับหน้าถือตาว่าเป็นผู้เชิดชูอัลกุรอานและซุนนะฮ์ตามที่ได้วาดฝันเอาไว้ แต่การถือศีลอดนั้น มิใช่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากการถือศีลอดนั้นจะอยู่ในรูปแบบงดการกระทำ เช่น งดการกิน งดการดื่ม งดการร่วมหลับนอนกับภรรยา และงดสิ่งต่างๆ ที่ทำให้เสียศีลอด ซึ่งผู้ที่ทำการถือศีลอดตามองค์ประกอบและเงื่อนไขนั้น ความโอ้อวดก็จะไม่สามารถเข้ามาแซรกซึมในหัวใจของเขาได้เลย
ส่วนการละหมาดและอิบาดะฮ์อื่นๆ นั้น หากว่าได้กระทำครบสมบูรณ์ตามองค์ประกอบและเงื่อนไขก็จริง แต่ความโอ้อวดก็สามารถเข้ามาแซรกซึมในจิตใจของเขาได้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการปฏิบัติอิบาดะฮ์เช่นนี้ อาจจะเพื่อตัวของเขาเองมิใช่เพื่ออัลเลาะฮ์
ความอิคลาศคุณลักษณะพิเศษของการถือศีลอด