
ปัจจุบันคนมีความรู้ศาสนาแต่ขาดมารยาทนั้น มีให้เห็นกันเกลื่อนตามสื่อต่างๆ ในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือคนหนุ่มไฟแรงที่ชอบศึกษาข้อมูลเรื่องคิลาฟและพยายามปกป้องแก้ต่างแนวทางของตน พวกเขาจะเข้าไปศึกษาเรื่องคิลาฟียะฮ์ก่อนการศึกษาเรื่องมารยาทตามแบบฉบับของซุนนะฮ์ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และสะละฟุศศอลิห์ จนเป็นเหตุให้อัลกุรอานและซุนนะฮ์อยู่เพียงแค่บนลิ้นโดยไม่เข้าไปสู่หัวใจของพวกเขาเลย
ท่านอัลบัรซะฮ์ อัลอัสละมีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า
قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَا مَعْشَرَ مَنْ آمَنَ بِلِسَانِهِ وَلَمْ يَدْخُلْ الْإِيمَانُ قَلْبَهُ لَا تَغْتَابُوا الْمُسْلِمِينَ وَلَا تَتَّبِعُوا عَوْرَاتِهِمْ فَإِنَّهُ مَنْ اتَّبَعَ عَوْرَاتِهِمْ يَتَّبِعُ اللَّهُ عَوْرَتَهُ وَمَنْ يَتَّبِعْ اللَّهُ عَوْرَتَهُ يَفْضَحْهُ فِي بَيْتِهِ
“ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า โอ้บรรดาผู้ศรัทธาด้วยลิ้น โดยอีหม่านไม่เข้าไปสู่หัวใจเขาเลยนั้น พวกท่านอย่านินทาบรรดามุสลิม และแสวงหาข้อตำหนิของพวกเขา เพราะผู้ใดที่ชอบแสวงหาข้อตำหนิของพวกเขา แน่นอนอัลเลาะฮ์ก็จะติดตามข้อตำหนิของเขาเช่นกัน และผู้ใดที่อัลเลาะฮ์ทรงติดตามข้อตำหนิของเขา พระองค์ก็จะทรงเปิดเผย(ความชั่ว)ของเขาหากแม้ว่าเขาจะซ่อนอยู่ในบ้านของเขาก็ตาม” ฮะดีษซอฮิห์, รายงานโดยอิหม่ามอะห์มัด ฮะดีษที่ 19791, อะบูดาวูด ฮะดีษที่ 4880.
ดังนั้นบรรดาปราชญ์สะลัฟศอลิห์ ได้ทำให้อีหม่านของพวกเขามีความหนักแน่นด้วยการศึกษามารยาทก่อนศึกษาวิชาความรู้
ท่านอิบนุก็อยยิม กล่าวว่า
يَقُوْلُ بَعْضُ السَّلَفِ: نَحْنُ إِلَى قَلِيْلٍ مِنَ الأَدَبِ أَحْوَجُ مِنَّا إِلَى كَثِيْرٍ مِنَ الْعَلْمِ
“สะลัฟบางส่วน (คือท่านมิคลัด ได้กล่าวกับท่านอับดุลเลาะฮ์ อิบนุ มุบาร็อก) ว่า มารยาทเพียงเล็กน้อยเป็นที่ต้องการสำหรับเรายิ่งกว่าความรู้ที่มาก” หนังสือมะดารุจญฺ อัสสาลิกีน เล่ม 2 หน้า 376.
ท่านมูซา บิน หัมมาด ได้กล่าวว่า หลายครั้งมากที่ฉันได้ยินท่าน ลัยษ์ บิน สะอัด ได้กล่าวกับบรรดานักหะดีษว่า
تَعَلَّمُوْا الْحِلْمَ قَبْلَ الْعِلْمِ
“พวกท่านจงมีจิตที่สุขุมก่อนมีความรู้” หนังสือ ญามิอฺ บะยาน อัลอิลมิ เล่ม 1 หน้า 509.
ท่านอิบนุวะฮ์บิน ได้กล่าวว่า
مَا تَعَلَّمْنَا مِنْ أَدَبِ مَالِكٍ أَكْثَرُ مِمَّا تَعَلَّمْنَا مِنْ عِلْمِهِ
“เราได้ร่ำเรียนมารยาทของท่านอิหม่ามมาลิกมากกว่าร่ำเรียนจากความรู้ของท่าน” หนังสือซิยัร อะลาม อันนุบะลาอฺ เล่ม 8 หน้า 113.
ท่านอิบนุ อัลมุบาร็อก กล่าวว่า
طَلَبْتُ الأَدَبَ ثَلاَثِيْنَ سَنَةً, وَطَلَبْتُ الْعِلْمَ عِشْرِيْنَ سَنَةً, وَكَانُوْا يَطْلُبُوْنَ الأَدَبَ قَبْلَ الْعِلْمِ
“ฉันได้ศึกษาเรื่องมารยาท 30 ปี และศึกษาความรู้ 20 ปี และพวกเขาเหล่านั้น (ปราชญ์สะลัฟ) จะทำการศึกษามารยาทก่อนศึกษาวิชาความรู้” หนังสือฆอยุลนิฮายะฮ์ ฟี เฏาะบะก็อต อัลกุรรออฺ เล่ม 1 หน้า 198.
และท่านอิบนุ อัลมุบาร็อก กล่าวเช่นกันว่า
كَادَ الأَدَبُ يَكُوْنُ ثُلُثَيِ الْعِلْمِ
“เรื่องมารยาทนั้นเกือบเท่ากับสองจากสามส่วนของวิชาความรู้” หนังสือศิฟะตุศศ็อฟวะฮ์ เล่ม 4 หน้า 145.
ดังนั้นการศึกษาความรู้โดยไม่ศึกษาหรือไม่มารยาทนั้น จะชักนำให้เขาหลงตนเอง คิดสำคัญกับตนเอง ยกย่องตนเอง มีความลำพองตน มีความตะกั๊บบุร โอ้อวด ด่าทอ ตะอัศศุบ ต้องการชื่อเสียง มีความอาฆาต และแสดงความรังเกียจต่อมุสลิม จนกระทั่งสิ่งดังกล่าวชักนำเขาไปสู่ไฟนรกในที่สุด วัลอิยาซุบิลลาฮ์
ด้วยเหตุนี้ ท่านอะบูลหะซัน อัชชาซุลลีย์ กล่าวว่า
مَنْ لَمْ يَتَغَلْغَلْ فِيْ عِلْمِنَا هَذَا مَاتَ مُصِرّاً عَلَى الْكَبَائِرِ وَهُوَ لاَ يَشْعُرُ
“ผู้ใดไม่เข้าไปอยู่ในวิชาของเรานี้ (คือวิชาตะเซาวุฟที่ว่าด้วยเรื่องมารยาท) เขาจะตายโดยยังคงมีบรรดาบาปใหญ่โดยไม่รู้ตัว” อิบนุอะญีบะฮ์, อีกอซุลฮิม ฟีชัรหฺ อัลหิกัม หน้า 7.
tags:
แสดงความคิดเห็น