Re: การละหมาดญุมุอะฮ์ของ นศ.มหาลัย "เศาะหฺ" ไหม? By: Andalus Date: ธ.ค. 17, 2009, 01:10 AM
อินชา อล ผมก็จะทำหน้าที่ให้ดีทีสุด
อย่างว่าและผู้นำไมอยู่ ทุกๆๆอย่างก็ดูขัดๆๆ
แต่ก็คงเป็นบททดสอบอย่างหนึ่ง
ดี ๆ สู้ต่อไปปัญหามีไว้ให้เราแก้ครับ

[/quote]
รบกวนอย่าใช้คำย่อสำหรับพระนามของอัลลอฮฺ ขอความกรุณาให้พิมพ์คำเต็มสำหรับพระนามของอัลลอฮฺด้วยครับ - วัสสลามุอลัยกุม
[/quote]
ยาซากัลลอฮฺฮุค๊อยรอน แก้เรียบร้อย
Re: การละหมาดญุมุอะฮ์ของ นศ.มหาลัย "เศาะหฺ" ไหม? By: Al Fatoni Date: ธ.ค. 17, 2009, 04:40 PM
بسم الله الرحمن الرحيم
เมื่อกล่าวถึงเรื่องอิบาดะฮ์แล้ว อาจกล่าวได้ว่า อิบาดะฮ์แทบจะทุกประเภทนั้น จะมีเงื่อนไขของมันอยู่ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการกำหนดรูปแบบของอิบาดะฮ์นั้นให้ตรงตามเจตนารมณ์ตามที่มันถูกกำหนดมา และเงื่อนไขต่างๆ เหล่านั้น ก็ล้วนแต่กรองมาจากแหล่งที่มาทางกฎหมายอิสลามสองอันดับแรกเป็นสำคัญทั้งนั้น นั่นก็คือ อัลกุรฺอานและอัสสุนนะฮ์
เราจะเห็นได้ว่า เงื่อนไขใดก็ตามที่บรรดาอุละมาอ์มีความเห็นตรงกัน โดบปกติแล้ว เงื่อนไขนั้นจะถูกกำหนดให้เห็นเป็นลายลักษณ์อักษร หรือมีตัวบทกำหนดชัดเจนอยู่แล้วจากอัลกุรฺอานและอัสสุนนะฮ์
ส่วนเงื่อนไขใดที่บรรดาอุละมาอ์มีความขัดแย้งกัน โดยปกติเช่นกัน ก็จะเป็นเงื่อนไขที่ถูกกำหนดขึ้นมาจากการมองเห็นเจตนารมณ์ที่ซ้อนอยู่ของการกำหนดอิบาดะฮ์นั้นๆ ขึ้นมา ว่ามันถูกกำหนดมาเพื่อจุดประสงค์อันใด ดังนั้น ตรงนี้เองที่ทำให้บางอุละมาอ์ได้กำหนดเงื่อนไขสำหรับบางอิบาดะฮ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกทัศนะที่อุละมาอ์ส่วนใหญ่เห็นด้วย ก็เป็นสิ่งที่ดีกว่าที่เราจะเลือกปฏิบัติตาม แต่ก็ไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป
และเงื่อนไขที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ก็จะถูกแบ่งออกเป็น ๒ ประเภทอีก นั่นก็คือ เงื่อนไขที่ทำให้นิติบุคคล (มุกัลลัฟ) คนหนึ่งจำเป็นต้องกระทำอิบาดะฮ์นั้นเมื่อพบว่าตนครบเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้สำหรับอิบาดะฮ์นั้นๆ เงื่อนไขประเภทนี้เราเรียกว่า
"เงื่อนไขวาญิบ" และอีกประเภทหนึ่งก็คือ เงื่อนไขที่กำหนดขึ้น เพื่อเป็นตัวควบคุมให้รูปแบบอิบาดะฮ์ดำเนินไปตามเจตนารมณ์และรูปแบบที่ถูกกำหนดจากกิตาบุลลอฮฺ หรืออัสสุนนะฮ์ เงื่อนไขประเภทนี้เราเรียกว่า "เงื่อนไขศ็อหฺ" หมายถึง เงื่อนไขที่จะทำให้อิบาดะฮ์นั้นๆ มีผลใช้ได้ทางกฎหมายอิสลาม หากเมื่อปฏิบัติครบตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้เท่านั้น
ดังนั้น การละหมาดญุมุอะฮ์ ก็เป็นอิบาดะฮ์หนึ่งที่ได้มีเงื่อนไขทั้งสองประเภทกำหนดอยู่ นั่นก็คือ มีทั้งเงื่อนไขวาญิบและเงื่อนไขศ็อหฺ ฉะนั้น จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งสำหรับนิติบุคคลทั้งหลาย ที่จะต้องศึกษาและทำความเข้าใจเงื่อนไขทั้งสองประเภทสำหรับแต่ละอิบาดะฮ์ให้ดี ทั้งนี้ ก็เพื่อไม่ให้การประกอบอิบาดะฮ์ของเราเกิดความสูญเปล่าอันเนื่องเพราะกระทำไม่ครบตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอลัยกุม[/size]
Re: การละหมาดญุมุอะฮ์ของ นศ.มหาลัย "เศาะหฺ" ไหม? By: Andalus Date: ธ.ค. 18, 2009, 12:42 PM
ถ้าญุมอะนั้นเกินสี่สิบคน โดยส่วนมาก
ที่มาละหมาดนั้นเป็นเด็กหอ
และส่วนผมมาอยู่หอ
แต่วันเสาร์ อาทิตกับบ้าน
ผมต้องละหมาดญุมอะหรือซุฮริ
เพราะตอนที่มัธยมไปที่มัสยิสเลยไม่มีปัญหาอะไร
Re: การละหมาดญุมุอะฮ์ของ นศ.มหาลัย "เศาะหฺ" ไหม? By: ILHAM Date: ธ.ค. 18, 2009, 12:54 PM
แบฟาตอนีแห่งรังสิตบอกชัดเจนแล้วนั้น
Re: การละหมาดญุมุอะฮ์ของ นศ.มหาลัย "เศาะหฺ" ไหม? By: Andalus Date: ธ.ค. 18, 2009, 01:54 PM
พอดีไปดูเว็บของอ อาลี เสือสมิง
คำถามเดี่ยวกัน การละหมาดญุมุอะฮ์ของ นศ.มหาลัย "เศาะหฺ" ไหม?
อ ตอบไว้ว่า
ตามมัซฮับอัชชาฟิอีย์ ผู้ที่จำเป็นต้องละหมาดวันศุกร์นั้นมีเงื่อนไขอยู่หลายประการ ส่วนหนึ่งคือ การพำนักอยู่กับที่ (อิกอมะฮฺ) กล่าวคือ ไม่ได้เดินทาง และส่วนหนึ่งจากเงื่อนไขในการใช้ได้ (เซาะฮฺ) ในการละหมาดวันศุกร์ก็คือต้องมีจำนวนผู้ร่วมละหมาด 40 คนที่มีคุณสมบัติเป็นอะฮฺลุ้ลญุมอะฮฺ (أَهْلُ الجمعَة) คือ ผู้ชายที่เป็นเสรีชน , บรรลุภาวะและมีสติสัมปัชชัญญะและเป็นผู้มีหลักแหล่งอาศัยอยู่ในสถานที่ของการทำละหมาดวันศุกร์ (มุสเตาติน) โดยไม่มีการเดินทางออกนอกสถานที่ในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนยกเว้นกรณีมีความจำเป็น (บินญัยริมี่ย์ ; เล่มที่ 2 หน้า 169-170) หากถือตามนี้ บรรดานักศึกษาในมหาวิทยาลัยย่อมขาดคุณสมบัติของความเป็นอะฮฺลุ้ลญุมอะฮฺ หากมีการละหมาดวันศุกร์ในมหาวิทยาลัยก็ถือว่าใช้ไม่ได้
อย่างไรก็ตามหากเราถือตาม (ตักลีด) ทัศนะของนักวิชาการที่ไม่พิจารณาเงื่อนไขต่าง ๆ ดังที่กล่าวมาก็สามารถจัดการละหมาดญุมอะฮฺได้โดยเฉพาะในกรณีของเงื่อนไขของจำนวนผู้ร่วมละหมาดนั้น นักวิชาการเห็นพ้องว่าการละหมาดวันศุกร์แบบญะมาอะฮฺเป็นเงื่อนไขหลักที่การละหมาดนั้นจะใช้ได้ ส่วนจำนวนของผู้ร่วมละหมาดวันศุกร์นั้นไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนในการกำหนดจำนวนที่แน่นอน ชัยค์ อะฏียะฮฺ ซ็อกฺร์ ได้มีความเห็นในฟัตวาของท่านว่า การละหมาดวันศุกร์ใช้ได้ด้วยจำนวนใดก็ได้ที่มี ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาพิธีกรรมอันเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาเอาไว้ (อะฮฺซะนุ้ลกะลาม ฟิลฟะตาวา วัลอะฮฺกาม เล่มที่ 28 หน้า 366)
และท่านชัยค์ยังได้ระบุว่า การละหมาดวันศุกร์ในค่ายทหารและองค์กรต่าง ๆ ที่ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าไปนอกจากบรรดาพนักงานขององค์กรถือว่าใช้ได้ (อ้างแล้ว เล่มที่ 31 หน้า 764) ซึ่งมหาวิทยาลัยก็น่าจะเข้าข่ายกรณีดังกล่าว ดังนั้นถ้าหากเราตักลีด (ถือตาม) ทัศนะที่ระบุมานี้ก็ถือว่าการละหมาดวันศุกร์ในมหาวิทยาลัยของนักศึกษาย่อมใช้ได้والله أعلم بالصواب
มาสับสนตรงนี้และ ไม่รุจะยังงัยดี
Re: การละหมาดญุมุอะฮ์ของ นศ.มหาลัย "เศาะหฺ" ไหม? By: ILHAM Date: ธ.ค. 18, 2009, 02:07 PM
ตามใจนะ ถ้าไม่มีเรียนก็รวมๆกันขึ้นแท็กซี่มาแก้วนิมิตจะเป็นการดีกว่า ถ้ามีเรียนก็ ไม่รู้สิ แล้วแต่
Re: การละหมาดญุมุอะฮ์ของ นศ.มหาลัย "เศาะหฺ" ไหม? By: hiddenmin Date: ธ.ค. 18, 2009, 02:15 PM
ทำไปตามสะดวก
อย่างน้อยก็มีอูลามะมารองรับ
Re: การละหมาดญุมุอะฮ์ของ นศ.มหาลัย "เศาะหฺ" ไหม? By: Al Fatoni Date: ธ.ค. 18, 2009, 03:00 PM
สิ่งที่ผมถามแต่แรกนั้น ก็คือ เรื่องเงื่อนไขมุสเตาฏิน (ผู้อาศัยถาวรของสถานที่นั้นๆ) เพราะเงื่อนไขนี้ ถือเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ทำให้การละหมาดญุมุอะฮ์ใช้ได้ ผมไม่ได้รู้สึกค้านกับทัศนะที่กล่าวว่าคนมุสาฟิร หรือไม่ใช่มุสเตาฏินนั้นสามารถรวมตัวทำญุมุอะฮ์กันเองได้ ไม่ว่าจะมีจำนวนเท่าใดก็ตาม เพราะถือเป็นทัศนะที่อุละมาอ์แต่ละท่านต่างก็มีหลักฐานของตัวเองทั้งสิ้น
ฉะนั้น สาเหตุที่ผมคงต้องถามในประเด็นเดิมก็คือ หลักฐานของพวกเขาที่ว่า
"คนมุสาฟิร หรือไม่ใช่มุสเตาฏินนั้นสามารถรวมตัวทำญุมุอะฮ์กันเองได้" ยึดมาจากหะดีษบทไหนครับ ผมต้องการทราบเพียงเท่านี้ เพราะเท่าที่ดูแล้วนั้น บุคคลที่อนุญาตเรื่องญุมุอะฮ์ตามข้อความที่เน้นตัวหนานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลที่กล่าวว่า ทุกเรื่องในศาสนาต้องมีหลักฐานจากกิตาบุลลอฮฺและสุนนะฮ์เท่านั้น ยิ่งเป็นเรื่องอิบาดะฮ์ เราต้องตามเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลฯ จะตามอุละมาอ์ไม่ได้
ดังนั้น ผมเพียงแค่อยากให้ท่านยกหลักฐานในเรื่องนี้จากหะดีษโดยตรงครับ ไม่ใช่เพียงแค่อ้างทัศนะของอุละมาอ์ ซึ่งท่านเองก็ไม่ได้พิศมัยกับการอ้างเช่นนี้ และไม่ใช่อ้างเรื่องหลักการมุศละหะฮ์มุรสะละฮ์อย่างเดียว แค่นี้แหละครับ - วัสสลามุอลัยกุม