Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง) By: ILHAM Date: ธ.ค. 28, 2009, 02:09 AM
แมวไม่เอา โคลงเคลงต้องแบกต่อ
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง) By: nada-yoru Date: ธ.ค. 30, 2009, 12:37 AM
^
^
^
คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนสบาย...
ดังนั้น...อย่าแย่งกันแบกเลยน่อ อิอิ...
ของดีๆอย่างนี้ต้องแบ่งสรรปันส่วนกัน
พี่ขอยกสิทธิคานและลิขสิทธิ์หัวใจเหี่ยวๆ
ให้ทั้งสามผู้โชคดี ณ บัดนาวววววววว 5555

ชะเอิ่งเอยยยยยยยยยยยย

Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง) By: little cat Date: ธ.ค. 30, 2009, 12:54 AM
อามีน ก๊ะแมวน้อย อิลฮัม
ผู้ใหญ่ให้ไว้ก้อรับๆไปซะ
ปฏิเสธน้ำใจผู้เฒ่าผู้แก่ไม่ดีนะ
เด่วท่านจะน้อยใจเอา

เอ...สาว่า โคลงเคลงด้วยนา เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับก๊ะ คนไม่มีคู่ทีควรพิจารณาตัวเองด่วน 555 
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง) By: ILHAM Date: ธ.ค. 30, 2009, 01:09 AM
ให้พี่โด่โด่มันแบกต่อไปดีแล้ว เป็นร่มเงาให้ลูกให้หลานได้พักพิง
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง) By: nada-yoru Date: ธ.ค. 30, 2009, 03:16 PM
^
^
เพื่อลูกหลานไง พี่ถึงต้องยกคานให้น้องๆ เหอๆ
ขืนแบกต่อ...ลูกหลานจะมาจากไหนล่ะน่อ...เหอๆๆๆ
เจ้า(อิลฮาม)คือทายาท...คนต่อไป...

Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง) By: ILHAM Date: ธ.ค. 30, 2009, 05:53 PM
เหมือนเพลงละคร ทายาทอสูร ช่อง7เลย
เพิ่งรู้นะว่าละครก็บ่งบอกอายุได้เหมือนกัน
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง) By: nada-yoru Date: ม.ค. 04, 2010, 07:23 PM
salam
ค่ำคืนนี้ขอนำนิทานเกี่ยวกับรองเท้ามาให้อ่านกันสองเรื่องค่ะ...
คิดว่าน่าจะให้แง่คิดดีๆอยู่ไม่น้อย...

เรื่องของรองเท้า ?
รองเท้าไม้ลืมตาดูโลกในร้านของช่างทำรองเท้าคนหนึ่ง
ขณะที่มันเกิด ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าสดใส
แสงแดดอันอบอุ่นของแสงสีทองสาดส่องลงมา
และชายหนุ่มช่างทำรองเท้าก็ฮัมเพลงอย่างเป็นสุขใจ
ขณะเคลือบผิวรองเท้าให้มันวาวด้วยแลกเกอร์
เดิมทีชายหนุ่มคิดจะแต่งแต้มสีสันรองเท้าไม้ให้มีสีเหลืองเฉกเช่นดอกทานตะวัน
หรือไม่ก็สีครามเหมือนดั่งผืนทะเล หรือบางทีอาจเป็นสีเขียวประดุจใบหญ้า
ครั้นแล้วเขาก็ลงมือทาสีให้แก่รองเท้าไม้คู่นั้น
แต่ปรากฏว่าไม่มีสีใดเลยที่จะทำให้รองเท้าไม้คู่นั้นสวยงามได้
เท่าสีของเนื้อไม้ที่ธรรมชาติได้สรรสร้าง
เขาจึงลบสีเหล่านั้นออกด้วยกระดาษทราย
และปล่อยให้รองเท้าไม้เป็นสีของเนื้อไม้อย่างที่มันเป็นมาตั้งแต่ต้น
รองเท้าไม้สีเนื้อไม้ถูกนำมาวางขายในตู้กระจกหน้าร้าน
ผู้คนผ่านไปมา ต่างหยุดเพื่อชื่นชมความสวยงามของมัน
หนึ่งในบรรดาผู้คนเหล่านั้น มีเด็กหญิงคนหนึ่งรวมอยู่ด้วย
เธอเป็นลูกสาวของชาวสวนคู่หนึ่ง
ซึ่งปลูกผักบนผืนดินแปลงน้อยให้แก่พ่อค้าในเมือง
เด็กหญิงอยากได้รองเท้าไม้คู่นั้น แต่เธอรู้ว่าพ่อแม่ของเธอ
ไม่มีเงินทองเหลือพอที่จะซื้อรองเท้าคู่นั้นให้เธอได้หรอก
รองเท้าที่เธอสวมอยู่นั้นก็เป็นของพี่สาวของเธอซึ่งก็ได้รับตกทอด
มาจากพี่สาวคนโตอีกที
เธอจึงได้แต่เฝ้ามองอยู่หน้าร้านของช่างทำรองเท้าทุกครั้งที่เธอผ่าน
รองเท้าไม้คู่นั้นอยู่ในร้านของช่างทำรองเท้าไม่นาน
ก็มีชายชราผู้หนึ่งมาซื้อไป
รองเท้าไม้แสนสวยเช่นนี้แหละที่ฉันตามหามานาน
ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงดังกังวาน
เขาถือรองเท้าไม้ออกจากร้านไปยังบ้านของเขา
ตลอดระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก รองเท้านึกแปลกใจและสงสัย
ที่ชายชราผู้นี้ไม่ลองสวมเธอก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรเล่า ว่าจะสวมฉันได้พอดีหรือไม่
ดูสิ ช่างเป็นรองเท้าไม้ที่สวยงามจริงๆ
ผู้คนที่อยู่ในบ้านของชายชราร้องบอกต่อๆ กัน
ขณะที่ชายชราเข้าไปในบ้านของเขา
เขานำเธอไปจัดวางอย่างสวยงามไว้บนโต๊ะมุมหนึ่ง
ซึ่งมีแสงไฟสีอำพันสาดส่องลงมาทำให้รองเท้าไม้แลดูสวยสง่ากว่าเดิมยิ่งนัก
มันหันมองดูรอบๆ ตัว บ้านของชายชราเต็มไปด้วยของประดับ
ตกแต่งมากมายหลายรูปแบบจากทั่วทุกมุมโลก
นี่คงเป็นคำตอบของสิ่งที่รองเท้าไม้สงสัยมาตลอดทางก็เป็นได้
นอกจากนี้บ้านของชายชรายังมีโต๊ะและเก้าอี้จำนวนมาก
มีผู้คนมากหน้าหลายตาเข้ามาในบ้านของเขา
บ้างก็มาเป็นคู่ - - ชายหนุ่มและหญิงสาว บ้างก็มากันเป็นกลุ่ม
บ้างก็มาเพียงคนเดียว
ผู้คนเหล่านั้นเข้ามารับประทานอาหารในบ้านของชายชรา
เมื่ออิ่มท้องก็จากไป
วันหนึ่งรองเท้าไม้เห็นเศรษฐีคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งเข้ามาคุยกับชายชรา
เศรษฐีชี้มือมาที่มัน มันเห็นชายชราส่ายหน้า
และโบกไม้โบกมือเหมือนว่ากำลังปฏิเสธบางสิ่งบางอย่างอย่าง
เศรษฐีควักเงินออกมาให้ชายชรา แต่เขาก็ยังคงปฏิเสธเช่นเดิม
รองเท้าไม้เริ่มสงสัยว่าบางทีเศรษฐีอาจมาขอซื้อตัวมันจากชายชราก็เป็นได้
มันเห็นเศรษฐีควักเงินออกมาเรื่อยๆ
จนในทีสุดชายชราก็พายแพ้ให้กับอำนาจของเงินและกิเลสในตนเอง
เขายอมรับเงินจากเศรษฐีและเข้าไปหยิบรองเท้าไม้มามอบให้เศรษฐี
รองเท้าไม้คิดอยู่ในใจว่า ต่อไปนี้คงจะมีใครซักคนมาสวมใส่มัน
เหมือนเช่นรองเท้าคู่อื่นๆ
มันถูกบรรจุลงในกล่องของขวัญผูกโบว์สีแดง
เศรษฐีตั้งใจจะนำของขวัญชิ้นนี้ไปให้กับลูกสาวของตน
ลูกสาวของเศรษฐีเปิดกล่องของขวัญออกดูด้วยความตื่นเต้น
เธอมองดูรองเท้าไม้ด้วยความยินดีและชื่นชนมันไม่ขาดปาก
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยคิดที่จะนำมันมาสวมใส่เลย
รองเท้าไม้ถูกเก็บให้อยู่ในกล่องของขวัญใบเดิม
เวลาผ่านไปลูกสาวของเศรษฐีเติบโตเป็นสาวแรกรุ่น
เธอลืมรองเท้าไม้ที่อยู่ในกล่องไปเสียแล้ว
กล่องใบนั้นกลายเป็นเพียงของชิ้นหนึ่งซึ่งไม่มีค่าและถูกทิ้งไปในที่สุด
นั่นเป็นครั้งแรกของรองเท้าไม้ที่ถูกขว้างทิ้งอย่างไม่ใยดี
แต่มันกลับดีใจเสียอีกที่ได้ออกมาจากกล่องอันแสนเหม็นอับและอุดอู้ใบนั้น
และมันยังคงหวังว่าจะมีใครซักคนมาสวมใส่มัน
ให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็นรองเท้า
ก่อนที่มันจะกลายเป็นเพียงซากไม้ที่ไร้ค่า
วันเวลาล่วงเลยผันผ่านไป กี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี ไม่มีใครจดจำ
รองเท้าไม้ถูกทิ้งให้นอนจมอยู่ในกองโคลนข้างถังขยะ
มันนอนตากแดดกล้าอันร้อนแรง ตากพายุฝนกระหน่ำ
ตากลมหนาวที่พัดผ่าน ไม่มีผู้คนสนใจมันอีกต่อไป
ไม่มีใครจำได้ว่ามันคือรองเท้าแสนสวยงาม
ซึ่งครั้งหนึ่งเคยอวดโฉมอยู่ในร้านของช่างทำรองเท้า
ไม่มีใครจำได้ว่ามันคือรองเท้าแสนสวยงาม
ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีแสงไฟสาดส่องในร้านอาหารของชายชรา
และไม่มีใครจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยให้
หรือเคยได้รับรองเท้าไม้แสนสวยคู่นี้เป็นของขวัญ
จนกระทั่งวันหนึ่งมีฝนตกลงมาชั่วครู่
สายฝนได้ชำระล้างคราบโคลนสกปรกออกจากรองเท้าไม้คู่นั้น
เผยให้เห็นความสวยงามที่แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
ของรองเท้าไม้อีกครั้งหนึ่ง
แม้ว่าจะไม่สวยงามเท่ากับตอนที่มันอยู่ในร้านของช่างทำรองเท้าก็ตามที
วันนั้นเองที่เด็กสาวเดินผ่านมาเห็นมันเข้า
เด็กสาวซึ่งครั้งหนึ่งเคยเฝ้ามองรองเท้าไม้อยู่หน้าร้าน
ของช่างทำรองเท้าทุกครั้งที่เธอเดินผ่าน
เธอนำรองเท้าไม้คู่นั้นกลับไปยังบ้านของเธอ
และซ่อมแซมทำความสะอาดมันเท่าที่มืออันอ่อนนุ่มของเธอจะทำได้
จนมันกลับมาสวยงามอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อครั้งที่เธอยังเป็นเด็ก เธอเคยวาดฝันไว้ว่าหากเธอได้รองเท้าไม้คู่นี้มา
เธอจะสวมใส่มันเดินชมดอกไม้ในสวนทุกๆ วัน
บัดนี้ฝันของเธอได้กลายเป็นจริงขึ้นมาแล้ว
เธอค่อยๆ บรรจงสวมรองเท้าไม้ และเดินท่องไปในสวน
ไออุ่นจากฝ่าเท้าที่กำลังสวมใส่มันอยู่
ทำให้รองเท้าไม้ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
โลกยังคงสวยงามเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไปจากตอนที่มันเกิด
ท้องฟ้ายังคงเป็นสีฟ้าสดใส
ลำแสงสีทองอันอบอุ่นลอดผ่านหมู่เมฆสาดส่องลงมาบนพื้นหญ้าเขียวขจี
หมู่นกต่างส่งเสียงร้องขับขาน
ผีเสื้อบินล้อกับดอกไม้ ท่ามกลางสายลมพัดเอื่อย
ในขณะที่รองเท้าไม้กำลังจะกลายเป็นเพียงซากไม้ที่ไร้ค่าอยู่ใต้โคลนตม
ก็มีมืออันอ่อนโยนมาช่วยไว้ได้อย่างทันท่วงที
วันนี้รองเท้าไม้ได้เป็นในสิ่งที่มันปรารถนาอยากที่จะเป็นมานานแสนนาน
ตราบใดที่เด็กสาวยังคงสวมมันอยู่ มันก็จะเป็นรองเท้าอย่างแท้จริง
ที่มา: พันทิปดอทคอม
ปล.ทุกสิ่งทุกอย่างมีค่ามากกว่่าการมีไว้เพียงแค่เชยชม
หากว่ามันได้ทำหน้าที่ของมันจริงๆ...

Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง) By: nada-yoru Date: ม.ค. 04, 2010, 07:35 PM
salam
"เด็กหญิงความรัก กับ นายรองเท้า
ท่ามกลางเมืองที่แสนจะกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อ เด็กหญิงความรัก
ทุกวันๆเด็กหญิงความรักจะเดินทางไปในที่ต่างๆตามลำพัง
ด้วยสองเท้าที่เปลือยเปล่า
โดยไม่สนใจว่าพื้นที่เธอเหยียบย่ำจะสกปรก หรือสะอาด จะร้อนระอุ
..หรือชื้นแฉะ
..หรืออาจจะเต็มไปด้วยกิ่งไม้
..หรือเศษแก้วต่างๆที่อาจจะทิ่มแทงเท้าอันบอบบางของเธอ
เด็กหญิงความรักยังคงมีความสุขกับการเดินทางด้วยเท้าเปล่า
เธอยังคงเดิน เดิน และเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆอย่างเดียวดาย
.
แต่แล้ววันหนึ่งระหว่างการเดินทางตามปกติของเด็กหญิงความรัก
เธอเริ่มรู้สึกเจ็บปวดบริเวณเท้าทั้งสองข้างจนไม่อยากเดินทางต่อไป
ความรู้สึกเหงาและว้าเหว่ก็เข้ามาหาหาเธอในทันที
ทันใดนั้นเองเด็กหญิงความรักได้พบกับ นายรองเท้า
ซึ่งเป็นเพียงรองเท้าเก่าๆคู่หนึ่งที่ไม่ได้สะดุดตาอะไร
นายรองเท้าทักทายเด็กหญิงความรักอย่างเป็นมิตร
เท้าเธอคงจะเจ็บมาก ถ้าเธอไม่รังเกียจ
ให้ฉันเดินทางไปพร้อมๆกับเธอได้มั้ย
ฉันสัญญาว่าจะปกป้องเธอเอง
เด็กหญิงความรักได้ยินเพียงแค่นั้น ความรู้สึกอ้างว้างเดียวดายที่เคย
มีก็มลายหายไปในทันที
เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินทางต่อไปในทุกๆที่พร้อมๆกับ นายรองเท้า
แต่ต่อมาไม่นานเด็กหญิงความรักก็ได้พบกับรองเท้าคู่ใหม่โดยบังเอิญ
รองเท้าคู่นี้แตกต่างจากนายรองเท้ามากมายนัก
เพราะเขาทั้งใหม่ ทั้งสะอาด
และสะดุดตาทุกคนที่พบเห็นด้วยสีสันและดีไซน์ที่นำสมัย
อีกทั้งยังเป็นรองเท้าแบรนด์เนมที่มีราคาแพงอีกด้วย
เด็กหญิงความรักจึงตัดสินใจที่จะทิ้ง นายรองเท้า
แม้ว่าเขาจะสวมใส่สบาย และพร้อมที่จะก้าวเดินไปกับเธอในทุกๆที่ก็ตาม
เด็กหญิงความรักได้ตัดสินใจสวมใส่รองเท้าคู่ใหม่ ที่สุดแสนจะ (perfect)
ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่พอดีกับเท้าของเธอ
เพียงเพื่อต้องการให้ตนเองดูดีขึ้นในสายตาของผู้อื่น
เด็กหญิงความรักถึงกับยอมให้รองท้ากัด จนเท้าของเธอเจ็บปวดทรมานมาก
แต่เธอก็ยังอดทน และพยายามที่จะเดินไปข้างหน้าต่อไป
ทั้งที่ในใจเธอนั้นไม่มีความสุขเลย
เพียงไม่กี่วัน เด็กหญิงความรักก็รู้ดีว่า
เธอกับรองเท้าคู่ใหม่นั้นเข้ากันไม่ได้เลย
เพราะหลายครั้งที่เขาทำให้เธอเสียใจ
เขาไม่พร้อมที่จะเดินทางไปกับเธอในทุกๆที่
เขากลัวการลำบาก เขากลัวถูกแปดเปื้อนจากดิน จากโคลนที่สกปรก
เด็กหญิงความรักกลับมานั่งทบทวนดูเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา
เธอจึงพบว่าระหว่างเธอกับรองเท้าคู่ใหม่นั้นยังขาด ความเข้าใจ
ทำให้ตลอดระยะเวลาการเดินทางทั้งคู่ต้องพบกับปัญหา
และอุปสรรคอยู่เสมอ
ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาใครๆต่างพากันอิจฉาเด็กหญิงความรัก
ที่เธอได้ครอบครองรองเท้าคู่ใหม่ผู้เพียบพร้อม
แต่เธอก็เลือกที่จะถอดรองเท้าคู่นั้นออก และกลับมาเดินเท้าเปล่าดังเดิม
มันอาจจะเจ็บเท้าบ้างในบางครั้ง แต่เธอก็สบายใจ
เพราะเธอสามารถเดินทางไปได้ในทุกๆที่ที่เธอต้องการ
เด็กหญิงความรักเดินทางตามลำพังมาเป็นเวลานานพอสมควร
เธอเริ่มรู้สึกกลัว รู้สึกเหงา และโดดเดี่ยว
เธออยากจะมีเพื่อนสักคนที่เข้าใจเธอ
และพร้อมที่จะเดินทางไปกับเธอในทุกๆที่
ทันใดนั้นเองเธอก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยตะโกนถามเธอว่า
"อยากจะมีเพื่อนร่วมทางสักคนมั้ยครับ
ใช่แล้ว! มันเป็นเสียงของเขา
. นายรองเท้า
เด็กหญิงความรักดีใจมากจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้
เพราะเธอคิดว่าเธอคงไม่มีโอกาสเจอเขาอีกเลย
หลังจากที่เธอตัดสินใจทิ้งเขาไป
นายรองเท้ายังคงพูดประโยคเดิมๆกับเธออีกครั้งว่า
..
"ถ้าเธอไม่รังเกียจ ให้ฉันเดินทางไปพร้อมๆกับเธอได้มั้ย
ฉันสัญญาว่าจะปกป้องเธอเอง"
เด็กหญิงความรักยิ้มและตอบกลับไปว่า
"ขอบคุณนะ
ฉันสัญญาว่าเราจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป
"เธอไม่จำเป็นต้องสัญญาหรอก เพราะถ้าเมื่อใดที่เธอรู้สึกเบื่อ
และอยากเป็นอิสระจากฉัน ฉันก็พร้อมที่จะให้เธอไป
นายรองเท้าตอบกลับมาอย่างอ่อนโยน
เด็กหญิงความรักรู้ในทันทีว่านี่แหละ คือ ความเข้าใจ
ที่เธอรอคอยมานานแสนนาน
แต่วันนี้เธอเจอแล้ว และเธอจะเก็บดูแลรักษามันไว้อย่างดี
ถึงแม้ว่านายรองเท้าจะเป็นเพียงแค่รองเท้าธรรมดาๆคู่หนึ่ง
ไม่ได้น่าชื่นชมในสายตาของคนอื่นๆ
แต่สำหรับเด็กหญิงความรักแล้ว เขาสำคัญต่อเธอมาก
เขาเข้าใจและห่วงใยเธอ
ส่วนเธอก็รู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับเขา
แค่นี้มันก็มากเพียงพอแล้วสำหรับเธอ
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
เด็กหญิงความรักและนายรองเท้าก็อยู่เคียงข้างกันตลอดไป
ในบางครั้งเราอาจจะเห็นเด็กหญิงความรักไม่ได้ใส่รองเท้า
แต่อย่าเพิ่งตกใจ!!!
ลองมองดูในมือเธอสิ! นายรองเท้าอาจจะอยู่ในมือของเธอก็ได้
เขาอาจจะต้องการให้เท้าของเธอได้เป็นอิสระจากการผูกมัดบ้าง
หรือเธออาจจะซักนายรองเท้า แล้วแห้งไม่ทันก็ได้
..อย่าคิดมาก!!!
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
..1. คนที่ดีอาจไม่ใช่ และคนที่ใช่อาจไม่ดี
2. คนที่ใช่สำหรับคนอื่นอาจจะไม่ใช่สำหรับเรา
ส่วนคนที่ใช่สำหรับเราอาจจะไม่ใช่สำหรับคนอื่น
3. รักแท้มักจะมาถูกที่ ถูกเวลาเสมอ
4. ความรักไม่ใช่การผูกมัด เพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
5. สิ่งที่ความรักต้องการมากที่สุด คือ ความเข้าใจที่มา: FWmail
เห็นเรื่องนี้กับเรื่องข้างบนก่อนหน้านี้เป็นเรื่องของรองเท้า
ที่เข้าคู่กันเหมือนรองเท้า เลยนำมาโพสคืนเดียวกันเสียเลยค่ะ

วัสลามค่ะ

Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง) By: กอ-กล้วย Date: ม.ค. 04, 2010, 09:10 PM
salam
แวะมาอ่านนิทานก่อนเข้านอนคะ

ว่าแต่ว่า น้องนาดา เคยเจอ "นินจาฮาโตริ" หรือไม่ก็ "เฮนเบะกับร่มวิเศษ" บ้างมั้ยคะ
ถ้าเจอฝากขอเคล็ดลับวิชาแยกร่างจากฮาโตริ และขอร่มวิเศษจากเฮนเบะให้หน่อยซิคะ

วัสสลามุอะลัยกุม

Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง) By: ILHAM Date: ม.ค. 04, 2010, 09:31 PM
สงสัยก๊ะกอกล้วยมีกิ๊กเยอะเกิน จนไม่มีเวลาให้เลยต้องแยกร่างแทน 5555
เคล็ดวิชานี้คงไม่เหมาะสำหรับผู้อยู่ ณ ที่สูง(ของบ้าน)
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง) By: nada-yoru Date: ม.ค. 05, 2010, 12:04 AM
salam
แวะมาอ่านนิทานก่อนเข้านอนคะ 
ว่าแต่ว่า น้องนาดา เคยเจอ "นินจาฮาโตริ" หรือไม่ก็ "เฮนเบะกับร่มวิเศษ" บ้างมั้ยคะ
ถ้าเจอฝากขอเคล็ดลับวิชาแยกร่างจากฮาโตริ และขอร่มวิเศษจากเฮนเบะให้หน่อยซิคะ 
วัสสลามุอะลัยกุม 
วะอะลัยกุมมุสลามค่ะ
มีแต่ร่มสีสันบาดทรวงน่ะสิคะพี่กอ-กล้วย...
ร่มที่ทำให้เจ้าของขายหน้ามาแล้ว

จริงๆเจ้าของมันเซ่อซ่าเองค่ะ...กางร่มไม่ดูที่
เดินกางร่มเข้าสถานีรถไฟเฉย ไม่ยอมหุบร่มที่กางอยู่
คนมองก็ยังเข้าข้างตัวเองต่ออีก อิอิ...
ถ้าพี่กอ-กล้วยสนใจ อินชาอัลลอฮฺ...จะลองสักคันมั้ยคะ...
สีเจ็บๆนั้นพอมีค่ะ...ดีเสียอีก ร่มจะได้เด่นกว่าคน
ใครๆจะได้มองร่ม ไม่ต้องมองเรา 5555
ส่วนเคล็ดลับวิชาแยกร่าง ไม่ต้องขอจากนินจาฮาโตริหรอกค่ะ...
เอาไว้เจอกัน แล้วจะบอกนะคะ (ไม่ได้โม้)
ทั้งแยกร่างทั้งล่องหน ทั้งพรางตัว เหอๆๆๆ
(แต่ว่าเรื่องพรางตัวเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะคนจริงๆค่ะ...อิอิ)
ว่าแต่พี่กอ-กล้วยจะเอาเคล็ดลับแยกร่างไปทำอะไรหรือคะ...
หรือว่า อยากมีกอ-กล้วย1 ,2 ,3 เอาไว้ช่วยทำงานบ้านใช่มั้ยคะ...

ล้างจาน หุงข้าว ซักผ้า ถูส้วมอะไรแบบนี้หรือเปล่าคะ

หรือว่า เร่ืองเรียนยุ่ง ก็เลยต้องการผู้ช่วยเพิ่ม

วัสลามค่ะ
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง) By: nada-yoru Date: ม.ค. 05, 2010, 12:14 AM
เคล็ดวิชานี้คงไม่เหมาะสำหรับผู้อยู่ ณ ที่สูง(ของบ้าน)
งั้นลองอ่่านกลอนดัดแปลงจากบทละครเรื่องท้าวแสนปมดูมั้ยจ๊ะ...

(คนบนคานจัดให้)
ในลักษณ์นั้นว่าประหลาด---------> คนบนคานนั้นว่าน่าประหลาด
เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า-------->เป็นเชื้อชาตินักรักผู้หาญกล้า
เหตุไฉนย่อท้อรอรา---------->เหตุไฉนย่อท้อรอเวลา
ฤาจะกล้าแต่เพียงวาที-------------->ฤาไม่กล้าบอกรักใครสักที
เห็นแก้วแวววับที่ดับจิต-------------> เห็นคานแก้วแวววับสดับจิต
ใยไม่คิดอาจเอื้อมให้ถึงที่----------> ใยไม่คิดปีนไปให้ถึงที่
เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี--------> อย่ามัวรอจงขึ้นมาเร็วรี่
อันมณีฤาจะโลดไปถึงมือ----------> บนคานนี้มีรักให้ฝึกปรือ
อันของสูงแม้ปองต้องจิต------------> คานเราสูงไม่เป็นรองของใครอื่น
ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้ฤา------------> อย่าได้ขืนลงไปให้เสียชื่อ
มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ-------------> มิใช่ทองตามตลาดที่อาจซื้อ
ฤาแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม--------> เพราะเราถือความพอใจค่อยลงไป
ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง------> ไม่คิดสอยมัวคอยให้คานทับ
คงชวดดวงบุปผาชาติสะอาดหอม--->รอให้ดับคาคานหรืออย่างไร
ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม-------------->ฤาต้องคอยรักแท้จนแก่ใช่ไหม
จึงได้ออมอบกลิ่นสุมาลี-------------->เกาะคานน้อยคอยรักต่อไป
..........จนกว่าจะเจอคนที่ใช่
ใช่ไหมคาน
ชะเอิ่งเอยยยยยยยยย
5555555555555555555555555555555555555555555555
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง) By: ILHAM Date: ม.ค. 05, 2010, 12:35 AM
พี่โด่โด่ไปว่ากอกล้วยเขาทำไม
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง) By: a d n a n Date: ม.ค. 05, 2010, 10:09 AM
ในลักษณ์นั้นว่าประหลาด---------> คนบนคานนั้นว่าน่าประหลาด
เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า-------->เป็นเชื้อชาตินักรักผู้หาญกล้า
เหตุไฉนย่อท้อรอรา---------->เหตุไฉนย่อท้อรอเวลา
ฤาจะกล้าแต่เพียงวาที-------------->ฤาไม่กล้าบอกรักใครสักที
เห็นแก้วแวววับที่ดับจิต-------------> เห็นคานแก้วแวววับสดับจิต
ใยไม่คิดอาจเอื้อมให้ถึงที่----------> ใยไม่คิดปีนไปให้ถึงที่
เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี--------> อย่ามัวรอจงขึ้นมาเร็วรี่
อันมณีฤาจะโลดไปถึงมือ----------> บนคานนี้มีรักให้ฝึกปรือ
อันของสูงแม้ปองต้องจิต------------> คานเราสูงไม่เป็นรองของใครอื่น
ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้ฤา------------> อย่าได้ขืนลงไปให้เสียชื่อ
มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ-------------> มิใช่ทองตามตลาดที่อาจซื้อ
ฤาแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม--------> เพราะเราถือความพอใจค่อยลงไป
ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง------> ไม่คิดสอยมัวคอยให้คานทับ
คงชวดดวงบุปผาชาติสะอาดหอม--->รอให้ดับคาคานหรืออย่างไร
ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม-------------->ฤาต้องคอยรักแท้จนแก่ใช่ไหม
จึงได้ออมอบกลิ่นสุมาลี-------------->เกาะคานน้อยคอยรักต่อไป
…………………..........จนกว่าจะเจอคนที่ใช่…ใช่ไหมคาน………………
ชะเอิ่งเอยยยยยยยยย
ประสบการณ์จริง จาก คนบนคาน
ที่สามารถเรียงร้อยได้เป็นบทกวี
ถ่ายทอดอรรถรส ส่งผ่านน้ำเสียงอันอ่อนไหว ( สังเกตได้จาก ชะเอิ่งเอยยยยยยยยย )
แล้วมโนภาพตาม.............
ว่าผู้แต่งกำลังอยู่บนคาน กำลังเฝ้ามองคนเบื้องล่าง
ช่างน่าประทับใจอะไรเยี่ยงนี้
ผมขอ Vote ให้เป็น สุดยอด บทกลอนประจำปีครับ 
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง) By: hiddenmin Date: ม.ค. 05, 2010, 10:11 AM
คารวะอาวุโสแห่งบอร์ด