Re: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น By: nada-yoru Date: ม.ค. 22, 2010, 10:52 AM
Re: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น By: nada-yoru Date: ม.ค. 22, 2010, 11:03 AM
Re: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น By: nada-yoru Date: ม.ค. 22, 2010, 08:47 PM
salam
วันนี้ไปทำธุระที่เมืองโกเบ ซึ่งนั่งรถไฟฟ้าข้ามจังหวัดจากเกียวโต
ไปโกเบใช้เวลาราวๆเกือบชั่วโมง ผ่านโอซาก้า
และได้แวะซื้อวัสดุทำผลงานที่ Tokyu Hand ตึกนี้ขายของแทบทุกอย่าง
ขายวัสดุสำหรับผลิตผลงานมากมาย หลังจากนั้นก็แวะมัสยิด...
ได้แต่มองอยู่ข้างนอก เข้าไปไม่ได้ เพราะไม่สะดวกที่จะเข้าไป...
และแวะร้านขายของฮาลาลหน้ามัสยิดโกเบ
ได้ไก่แช่แข็งมา 2 ตัว พริกสดแช่แข็ง บะหมี่ (ตั้งแต่ได้อ่านจากบทความ
เรื่องบะหมี่จากน้องอีโน ไม่กล้าแตะบะหมี่เลยหลังจากนั้น วันนี้เลยฉกบะหมี่
ที่มีตราฮาลาลมาพร้อมด้วยเส้นหมี่มาอีกด้วย)
และยังซื้อขนุนอ่อนแช่ในน้ำกระป๋อง กะจะเอามาแกงกับไก่
(เพิ่งรู้ว่าขนุนในภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Jack Fruit)

และได้เครื่องแกงเผ็ดของไทยเรามาด้วย ที่ร้านนั้นมีสินค้าไทยขายด้วย
ทุกอย่างล้วนมีตราฮาลาล...พริกสดที่ว่าก็นำเข้ามาจากไทย...
น้ำกะทิสดและกะทิผงก็จากบ้านเรา...
และที่สำคัญ ได้ลูกอินทผาลัมมาด้วยหนึ่งกล่อง เอาไว้กินตอนเปิดบวช
(แต่ตอนนี้ฟาดไปหลายลูกแล้ว ชอบบบบบ) อิอิ
เจ้าของร้านน่ารักและใจดี เพราะตอนที่บอกว่ามาไกลค่ะ
ขอให้แพ้คลงถุงที่แข็งแรงให้ เพราะกลัวว่าจะขาดกลางทาง
ปรากฏว่าเจ้าของร้านยกถุงผ้าให้พร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ
แถมยังให้ชิมลูกอินทผาลัม และยังแถมขนมมาให้อีก
นานๆจะพบไมตรีและรู้สึกอบอุ่นใจแบบนี้...
ปกติคนญี่ปุ่นก็ไม่ได้ใจร้ายนะคะ เพราะป้าๆที่ทำงานที่คอมพินี
หรือร้านสะดวกซื้อใกล้ๆหอ ก็แจกลูกอมให้บ่อยอยู่เหมือนกัน
เวลาไปซื้อของที่นั่น แต่ที่ต่างจากเจ้าของร้านฮาลาลคือรอยยิ้มพิมพ์ใจ
และความห่วงใย เพราะเขาแพ้คลงกระเป๋าผ้าให้อย่่างดี
กลัวว่าเราถือไปจะหนาว (เนื่องจากไก่แช่แข็ง)
เขาก็เลยซ้อนกระดาษกันหนาวกันเย็นมาให้ด้วย เราเองยังคิดไปไม่ถึง
แต่เขาละเอียดจนอดประทับใจไม่ได้...
พอเห็นเราถือของพะรุงพะรัง(เหมือนยับป้าหอบฟาง)
ก็รีบวิ่งมาช่วยเปิดประตูให้ และกล่าวสลามตบท้าย
เลยทำให้นึกถึงบรรยากาศที่บ้านเกิดขึ้นมา...
ของที่ว่าหนักก็เบาไปเลย เพราะเดินยิ้มมาตลอดทาง
ข้างๆร้านขายของฮาลาลมีร้านอาหารตุรกีด้วยค่ะ
อยากเข้าไปลองชิมรสชาติอาหารดูเหมือนกัน แต่บังเอิญว่าไปคนเดียว
ก็เลยตัดใจ เพราะว่ายังไม่เคยกินอาหารตุรกีดูเลยสักครั้ง
ไม่รู้ว่าเผ็ดรึเปล่า...

เลยรู้สึกว่าวันนี้คุ้ม ได้หลายอย่าง อย่างน้อยๆคือได้เจอพี่น้องมุสลิม
ได้ยินเสียงกล่าวสลาม มีโอกาสได้รับสลาม
และมีโอกาสได้เห็นน้ำใจ แม้จะเป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆ
แต่บางครั้ง รอยยิ้มที่จริงใจ สายตาห่วงใย และความเอื้ออาทรเหล่านั้น
มันซึมซับเข้าสู่หัวใจได้ไม่ยากเลย เขาว่าอนุภาคเล็กๆสามารถซึมผ่าน
ร่างกายได้เร็วกว่าอนุภาคใหญ่ๆ เชื่อแล้วว่ามันใช่เลย...
เพราะอนุภาคเล็กก็จริง แต่มันมีพลัง ผ่านเข้าสู่หัวใจได้เร็ว
ทำให้ลืมหนาว ลืมหนักไปเลยค่ะ...
(เพราะวันนี้อากาศหนาว ป้าคนญี่ปุ่นที่บ้านอยู่ข้างหอพักยังบอก
ตอนเดินสวนทางกันว่าวันนี้หนาวสุดๆ ให้ระวังๆก่อนออกเดินทาง...
/คนญี่ปุ่นหลายๆคนที่เจอใจดีมากค่ะ...)

ปล.เจ้าของร้านขายของฮาลาลเป็นผู้หญิงค่ะ
(เดี๋ยวจะมีคนที่เข้ามาอ่านคิดเป็นอื่นไป) อิอิ
ดังนั้น อย่าว่าแต่ผู้ชายที่ชอบรอยยิ้มของผู้หญิงเลยค่ะ...
ผู้หญิงด้วยกันก็ชอบ และคิดว่าใครๆก็ชอบรอยยิ้มกันทั้งนั้น....
รอยยิ้มมันมีหลายแบบ แต่ที่ชื่นใจที่สุดและชอบที่สุด
คือรอยยิ้มจริงใจค่ะ...

อีกอย่างตอนไปเดินซื้อสีทาเหล็กและอุปกรณ์สำหรับทำฐาน
ของงานนิทรรศการที่ Tokyu Hand...
และได้เผลอเดินผ่านไปตรงมุมของเล่นเด็ก มีแต่ของน่ารักๆค่ะ
ตอนนั้นเครียดๆ เพราะว่าหาของที่ต้องการไม่เจอสักที
เด็กน้อยคนนึงที่กำลังเกาะขาแม่กระโดดเหยงๆอยู่
อยู่ๆก็โผล่หน้ามาจ๊ะเอ๋ซะเฉยๆ แถมยิ้มได้น่ารักส่งมาให้อีก
จากที่ว่าเครียดๆ หน้ายุ่งๆเพราะหาของที่ต้องการไม่เจออยู่
ก็หายไปเลย พอยิ้มส่งกลับไปให้ เด็กก็กระโดดดีใจ แม่เด็กก็ส่งยิ้มมาให้ด้วยค่ะ...
เสียงหัวเราะครื้นเครงเลยทีนี้
นอกจากลูกสาวสองคนของเพื่อนที่มหาลัยแล้ว นานๆทีจะได้เจอเด็กญี่ปุ่นน่ารักๆ
และกล้าส่งยิ้มให้ชาวต่างชาติอย่างเรา...
คิดถึงหลานที่บ้านเลย...

เลยรู้ว่า รอยยิ้มนี่ มีพลังได้อย่างน่ามหัศจรรย์จริงๆ
พอเข้ามาในรถไฟตอนขากลับ เจอเด็กที่ไม่แน่ใจว่าประถามหรือมัธยม
กำลังนั่งทำข้อสอบภาษาอังกฤษอย่างตั้งหน้าตั้งตาอยู่ในรถไฟฟ้า
พอเงยหน้ามาเจอกะเหรี่ยงต่างด้าวอย่างเราแอบอ่่านข้อสอบของเขาอยู่
เด็กนั้นมือไม้สั่นไม่กล้ากากบาทข้อสอบซะงั้น

ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะละลาบละล้วงดูนะคะ แต่ตามันไปปะทะเอง...ฮ่าาา...
อีกอย่างรถไฟมันแน่น ยืนเบียดกับสาวสวยทั้งซ้ายขวา
ไม่อยากจะลงสนามแข่งความงามกับเขา
แล้วข้อสอบเด็กก็อยู่ระดับสายตาตอนก้มหน้าลงไปพอดี...
พอเด็กจับได้ว่าเราแอบอ่านข้อสอบของเขา ทำเอาเก้อไปเลยค่ะ...
เสหน้ามองตึกนอกรถไฟไปงั้นค่ะ ไม่รู้ไม่ชี้...แหะๆ...
สรุปวันนี้ไม่รู้เป็นไง เจอแต่เด็กหน้าตาดี

วัสลามค่ะ
Re: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น By: ILHAM Date: ม.ค. 22, 2010, 09:24 PM
1วันของพี่มี24ชั่วโมงเท่ากันหรือเปล่านิ ทำไมรู้สึกว่าของพี่มันยาวนานนัก เล่ามาเป็นพืดเลย
Re: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น By: nada-yoru Date: ม.ค. 22, 2010, 09:34 PM
^
^
ใครว่า 1 วันล่ะ ที่พี่เล่าไปทั้งหมดข้างบนนั้นแค่ 6 ชั่วโมงเอง แหะๆ

นอนอีก 4-6 ชั่วโมง เข้าๆออกๆเว็บโน้นเว็บนี้
กับทำงานส่งอาจารย์ไปพลางๆอีก 12 ชั่วโมง
รวมเป็น 24 ชั่วโมงเท่ากันนิ...5555
วันไหนงานเยอะหรือติดบอร์ดหน่อยก็ไม่ต้องนอนมัน เหอๆ
อยากได้เวลาเพิ่มเป็นวันละ 32 ชั่วโมงอยู่นิ...

ปล.ตกลงมันยาว หรือว่ามันยืด หรือว่ามันทั้งยืดทั้งยาวหาาาาาา

Re: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น By: ILHAM Date: ม.ค. 23, 2010, 12:24 AM
ยืด แล้วยาว จนยาน
Re: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น By: nada-yoru Date: ม.ค. 23, 2010, 10:29 AM
salam
เล่าเรื่องราวในดินแดนปลาดิบมาแล้วหลายหน้า
เผื่อว่าจะมีคนสนใจอยากมาเยือนดินแดนอาทิตย์อุทัย
จึงขอนำเสนอเรื่อง
"การเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นและการพำนักอาศัยในญี่ปุ่นมีกฎระเบียบอย่างไร"การเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น ?ตามกฎหมายว่าด้วยการตรวจคนเข้าเมือง
ชาวต่างชาติที่ประสงค์เดินทางเข้า ประเทศญี่ปุ่น
ต้องมีหนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน
หรือขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ที่ประเทศของตนเอง
และยื่นขอรับการตรวจลงตราเข้าประเทศญี่ปุ่น (วีซ่า)
ที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศนั้นๆ
ก่อนเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
?เมื่อเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ประจำสนามบิน
และ ท่าเรือ มีอำนาจตรวจสอบคุณสมบัติของหนังสือเดินทาง
อายุหนังสือเดินทาง ระยะเวลาของวีซ่า จุดประสงค์ในการเข้าประเทศญี่ปุ่น
ระยะเวลาในการพำนัก เมื่อเงื่อนไขตรงตามที่กฎหมายกำหนด
จึงอนุญาตให้เข้าประเทศญี่ปุ่นได้
ดังนั้น การมีวีซ่าไม่ได้หมายความว่าจะได้รับอนุญาต
ให้เข้าประเทศญี่ปุ่นได้เสมอไป
นอกจากนี้ ชาวต่างชาติต้องตระหนักถึงระยะเวลาในการพำนักในญี่ปุ่นด้วย
ถ้าอยู่เกินกำหนดระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต ชาวต่างชาติจะถูกจับ
ถูกลงโทษและถูกเนรเทศกลับประเทศ
ในกรณีประสงค์จะอยู่เกินกำหนดวีซ่า ต้องยื่นขออนุญาตอยู่ต่อ
วีซ่าและระยะเวลาการพำนักอาศัย วีซ่าและระยะเวลาการพำนักอาศัย1. วีซ่ามีทั้งหมด 7 ประเภท 27 ชนิด
โดยกองตรวจคนเข้าเมืองจะพิจารณาจากจุดประสงค์
ของการเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งจะสามารถทำงาน
หรือกิจกรรมต่างๆ ได้ตามขอบเขตกำหนดของวีซ่าประเภทนั้นๆ
2. ระยะเวลาพำนักอาศัย ขึ้นอยู่กับประเภทของวีซ่า
ซึ่งได้กำหนดไว้และไม่สามารถอยู่เกินกำหนดที่ได้รับอนุญาต
3. การขอเปลี่ยนประเภทวีซ่า สามารถยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายกรณี
4. การขอต่ออายุวีซ่า กรณีที่ไม่สามารถบรรลุจุดมุ่งหมายของการพำนัก
ในช่วงเวลาที่วีซ่ากำหนดต้องยื่นคำร้องขอต่ออายุวีซ่า
ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
5. การขออนุญาตทำกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
ระบุไว้ในวีซ่าจะต้องยื่นคำร้องขออนุญาตก่อน
6. การขออนุญาตกลับเข้าประเทศใหม่ ชาวต่างชาติที่ประสงค์เดินทาง
ออกนอกประเทศญี่ปุ่นเป็นการชั่วคราวในช่วงระยะเวลาที่วีซ่ากำหนด
จำเป็นต้องยื่น คำร้องขออนุญาตกลับเข้าประเทศใหม่
ก่อนเดินทางออกนอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีให้เลือกสองประเภทคือ
หนึ่งแบบใช้เพียงครั้งเดียว สองแบบใช้ได้หลายครั้ง
หมายเหตุ การยื่นคำร้องขอวีซ่า เปลี่ยนแปลง ต่ออายุ
ขออนุญาตทำกิจกรรม อื่นๆ ขออนุญาตกลับเข้าประเทศใหม่
เอกสารที่แนบประกอบ จะแตกต่างกันตามประเภทของวีซ่า
ท่านสามารถสอบถามได้โดยตรงที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
หรือสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย
การยื่นคำร้องขอวีซ่าที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
หรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในประเทศญี่ปุ่น ? การขอวีซ่าเข้าญี่ปุ่นต้องทำอย่างไรบ้าง
? คนไทยที่ประสงค์เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
ต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
ก่อนเดินทางมาญี่ปุ่น ทั้งนี้ เอกสารที่ใช้แนบประกอบจะแตกต่างกัน
ตามประเภทของวีซ่า ท่านสามารถสอบถามรายละเอียด
เกี่ยวกับการยื่นคำร้องได้โดยตรงกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น
ประจำประเทศไทย ประเภทของวีซ่ามีดังนี้
1. วีซ่าประเภทพำนักระยะสั้น
กรณีขอพำนักอาศัยไม่เกินสามเดือน เช่น ท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ เยี่ยมเพื่อน
หรือคนรู้จัก ธุรกิจ เข้าร่วมกิจกรรมที่กำหนด สัมมนาหรือฝึกอบรม
ท่านสามารถยื่นคำร้องขอวีซ่า ประเภทพำนักระยะสั้น
สำหรับผู้ที่เคยพำนักในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน
และมีความประสงค์จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นโดยพำนักไม่เกิน 15 วัน
ท่านสามารถยื่นขอวีซ่า ดังกล่าวข้างต้น
โดยยกเว้นการแนบเอกสารบางประการได้
ทั้งนี้ ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดได้โดยตรง
ที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
หรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในประเทศญี่ปุ่น
2. วีซ่าประเภทพำนักระยะยาว
กรณีขอพำนักอาศัยมากกว่าสามเดือน เช่น ทำงาน ศึกษาหรือฝึกอบรม
ท่านสามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าประเภทพำนักระยะยาว
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะพำนักอาศัยตามจุดประสงค์ดังกล่าวข้างต้น
ควรติดต่อล่วงหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในประเทศญี่ปุ่น
เพื่อยื่นคำร้องขอใบสถานภาพพำนักแล้วนำไปยื่นประกอบการขอวีซ่า
ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาในการตรวจสอบ
และสามารถขอวีซ่าได้ง่ายกว่าไม่มีใบสถานภาพพำนัก
หมายเหตุ 1. ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอวีซ่า
ได้ที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
หรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในประเทศญี่ปุ่น
2. ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอใบสถานภาพ
พำนักได้ที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
หรือสำนักงานกองตรวจคนเข้าเมืองในประเทศญี่ปุ่น
หรือหาข้อมูลเพิ่มเติม ที่เว็บไซต์ดังนี้
http://www.th.emb-japan.go.jp/th/ http://www.immi-moj.go.jp/ที่มา: หนังสือคู่มือคนไทยในญี่ปุ่น
www.thaiembassy.jpวัสลามค่ะ
Re: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น By: nada-yoru Date: ก.พ. 12, 2010, 09:52 PM
salam
ลืมบอกอะไรไปอย่างนึงค่ะ...
ที่ญี่ปุ่นนั้นนอกจากจะมีโรงเรียนหญิงล้วนแล้ว
ยังมีมหาวิทยาลัยหญิงล้วน(โฉะชิไดกากุ)ด้วยค่ะ
ผู้ชายไม่สามารถสอบเข้าไปเรียนร่วมกับผู้หญิงได้ค่ะ

สาว่าประเทศอื่นๆเหมือนจะยังไม่มี

ส่วนมหาลัยชายล้วนนี่ไม่แน่ใจว่ามีหรือเปล่า
แต่เพื่อนบอกว่า หากเข้าไปเรียนมหาลัยวิศวกรรมศาสตร์โดยตรงในญี่ปุ่นนั้น
แทบจะหาผู้หญิงไม่เจอเลยค่ะ เพราะสาวญี่ปุ่นเขาไม่ค่อยเรียนในสายนี้กัน...
ปล.แต่ข้าน้อยไม่ได้อยู่มหาลัยหญิงล้วนนะคะ เพราะว่ามีไม่กี่แห่งในญี่ปุ่น
สอบเข้ายากนิดนึง ส่วนที่เขาจะเอาเข้านั้นสอบเข้าไม่ยาก
และเป็นมหาลัยหญิงล้วนก็จริง แต่ไม่มีสาขาโดยตรงที่ตนถนัดค่ะ...
และที่สำคัญมันอยู่ในโตเกียว ตอนนั้นไม่อยากอยู่ที่นั่น เลยหนีมา...

จึงต้องสอบเข้ามหาลัยทั่วไปเอาเอง เหอะๆๆๆ
มุสลิมะฮฺที่สนใจจะมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่น แต่กังวลเรื่องการปะปนกัน
หายห่วงได้ค่ะ เพียงแต่ต้องแข่งขันเรื่องสอบเข้าหน่อย

และก็มีข้อควรระวังหากเข้าไปอยู่ที่มหาลัยหญิงล้วนบ้างนิดนึงด้วย...
มุสลิมะฮฺท่านใดอยากทราบรายละเอียด ติดต่อหลังไมค์ได้ค่ะ

เพราะว่า เรื่องมันยาว และก็เป็นเรื่องของผู้หญิงๆ 55555
วัสลามค่ะ
Re: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น By: ILHAM Date: ก.พ. 12, 2010, 09:57 PM
มีทอมดี้เยอะหรือพี่
Re: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น By: XO5--->>>SuNsHinE +_____+ Date: ก.พ. 12, 2010, 10:12 PM
ไปด้วยๆ
ซานา รอด้วย เด่วขอเก็บกระเป๋าแป๊บนึง
สนใจอยากเรียนหมาลัยหญิงล้วนที่ญี่ปุ่น

Re: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น By: nada-yoru Date: ก.พ. 12, 2010, 10:14 PM
^
^
ตัวอะไรนั้นโคลงเคลง เหอๆๆ ตลกดี...

ปล.ทอมดี้เยอะไม่เยอะไม่รู้งิอิลฮามเหอออออออ 55555
ป.ลิงอีกที...รีบเก็บกระเป๋าแล้วบินมาเลยจ้าาาาาาาา...
ใกล้วันงานของพี่แล้วงิ หาหม้ายตากล้องทีเด้ อิอิอิ
Re: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น By: ... Date: ก.พ. 12, 2010, 10:17 PM
ไปกัน ไปกัน ถ้ามั่งแหล่ะ ไปไม่บอกไม่กล่าวกันเลย สองคนนี้
แต่เราไม่เอากระเป๋าไปนะ เกะกะ ขาดอะรัย ค่อยยืมของพี่โด่โด่ใช้

Re: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น By: ILHAM Date: ก.พ. 12, 2010, 10:35 PM
ดีเลย ไปให้หมด พวกชนชั้นสูงทั้งหลายจะได้ไปรวมตัวกันสักที เฮ้ออออ
Re: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น By: nada-yoru Date: ก.พ. 13, 2010, 12:30 AM
^
^
หาหม้ายเบี้ยก็บอกมาเต๊อะอิลฮาม...พี่จะได้ส่งกระด้งไปให้สองอันเลย
เอาไว้เป็นปีกซ้ายปีกขวาเวลาจะบินไง เฮ้ออออออออ...(ขอถอนหายใจมั่ง)

สาวๆไม่ต้องสนใจคนหาหม้ายเบี้ย มาเลยจ่ะ พี่ยินดีต้อน...รับ
ไม่ต้องพกกระเป๋ามาก็ได้นะจ๊ะน้องซันไช่ น้องแพนด้า
แค่เอาเงินติดบัญชีมาเยอะๆก็พอ เดี๋ยวพี่พาซื้อเอง
และก็เอามาเผื่อซื้อให้พี่สักสองสามชุดด้วยจะดีไม่น้อย
ปล.1 ยินดีด้วยบัลกิส ที่ญี่ปุ่นต้นไผ่เยอะ ไม่มีขาดแคลน หิวเมื่อไหร่บอก
มาต่ะ...แค่ใบไผ่พี่เลี้ยงไหว

ปล.2 ป้าไก่ก็น่่ารักนะโคลงเคลง 5555 (หัวเราะแบบไม่มีลับลมคมใน
แค่กำลังกัดฟันอยู่

)
Re: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น By: ILHAM Date: ก.พ. 13, 2010, 12:39 AM
ดูมัน เรียกป้าเลย จัดการเลยพี่ เอาคานฟาดเลย