Re: อันตรายจาก มูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ By: anthoposclay Date: ต.ค. 09, 2010, 03:21 PM
ถ้าอัลลอฮฺนั่งอยู่บนบัลลังก์แล้ว ก่อนที่จะมีบัลลังล่ะ.??
ในเมื่อบัลลังก์นั้นเป็นญาดีด และอัลลอฮฺนั้นกอดีม
เราอย่าใช้ความรู้มัคมัคลูกไปตีความเรื่องของอัลลอฮสิ
Re: อันตรายจาก มูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ By: whb Date: ต.ค. 09, 2010, 05:17 PM
สุนนะห์ ที่แท้จริง พิสูจน์ได้จากฮะดิษที่แท้จริง!
Re: อันตรายจาก มูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ By: ILHAM Date: ต.ค. 09, 2010, 05:30 PM
สุนนะห์ ที่แท้จริง พิสูจน์ได้จากฮะดิษที่แท้จริง!
อะไรเป็นเกณฑ์พิสูจน์ว่าเป็นฮาเดสที่แท้จริง
Re: อันตรายจาก มูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ By: ILHAM Date: ต.ค. 09, 2010, 05:30 PM
ถ้าอัลลอฮฺนั่งอยู่บนบัลลังก์แล้ว ก่อนที่จะมีบัลลังล่ะ.??
ในเมื่อบัลลังก์นั้นเป็นญาดีด และอัลลอฮฺนั้นกอดีม
เราอย่าใช้ความรู้มัคมัคลูกไปตีความเรื่องของอัลลอฮสิ
สงสัยสิ้นสุดทางตัน ไปไม่ได้แล้วสาว่า
Re: อันตรายจาก มูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ By: As-Zaleek Date: ต.ค. 09, 2010, 05:48 PM
สุนนะห์ ที่แท้จริง พิสูจน์ได้จากฮะดิษที่แท้จริง!
ฮะดีษแท้ แต่เข้าใจฮะดีษเบี่ยงเบน แล้วมันจะไปแท้ได้อย่างไร
Re: อันตรายจาก มูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ By: hiddenmin Date: ต.ค. 09, 2010, 09:38 PM
ดูเหมือนว่า
"(การขึ้นสูงเหนือบัลลังค์)"
จะเป็นการเติมขึ้นมาเอง
Re: อันตรายจาก มูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ By: anti-bid'ah Date: ธ.ค. 15, 2010, 05:14 PM

เรื่องประวัติ มุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวาฮาบ
นี้นั้นน่าจะมีการอ้างตำราที่กล่าวถึงเค้าด้วยสิครับ เพราะตอนนี้มีบางกลุ่มยกย่องสรรเสริญเค้าว่าเป็นผู้ขจัดอธรรม หาใช่ผุ้นำบิดอะฮฺ เผื่อว่าผู้ต้องการศึกษาจะได้ตรวจสอบตำราดังกล่าวด้วยว่าอุลามาอฺคิดเหนอย่างไรกับเค้า
Re: อันตรายจาก มูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ By: amad 254 Date: ธ.ค. 15, 2010, 11:50 PM
อัลกรุอาน ฮาดีสแท้ ซอฮาบะ ชาวซาลาฟ300ปีแรกที่ได้รับการยอมรับในสมัยนั้นและไม่ขัดกับที่ กล่าวมาแล้วข้างต้น และตาบีอีที่ได้รับการยอมรับและไม่ขัดกับที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
แล้วของคุณเหมือนกับของผมหรือเปล่าครับ? ถ้าไม่เหมือนก็ช่วยตอบด้วยผมอยากรุ้เหมือนกันว่ามันไปต่างกันที่จุดไหน
เพือว่ายังมีอะไรที่ผมยังไม่รู้อีกบ้างครับ คำตอบคือผมเชื่อว่า "อัลลอฮทรงอิสตีวะเหนื่อบัลลัง"
อัสสลามุอลัยกุมครับ ผมอยากรู้ว่า การอิสตวาเหนือบังลัง
ของอุลามาร์สลัฟเขาว่าอย่าง อธิบายได้ใหมครับคุณ anthoposclay แล้วคอลัฟเขาต่างยังไง ขอบคุณล่วงหน้าครับ วัสลาม
Re: อันตรายจาก มูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ By: dabdulla1 Date: มี.ค. 08, 2012, 03:43 PM
ผมไล่อ่านตั้งแต่หน้าแรก ยันหน้าท้าย ผมคิดว่าข้อความของคุณ Anthoprosclay เข้าใจ
ถ้าคิดว่าความรู้ผมยังน้อย ขอความกรุณาแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้องในเวปนี้ ในเรื่องนี้ให้ด้วยครับ
ส่วนคำว่าขึ้นสูงเหนือบังลังค์ อาจจะมีคนพยายามถาม
แต่มันคือการให้ความหมายที่สุดทาง ที่จะทำให้รู้ว่า แท้จริงเราไม่มีความรู้ในเรื่องความหมายแท้จริง
“มันคือสิ่งที่จำเป็นต่อการยืนยันถึงศิฟัตอิสติวะอฺ (การขึ้นสูงเหนือบัลลังค์) โดยปราศจากการตีความ(เป็นความหมายอย่างอื่น) และแท้จริงแล้วพระองค์อัลลอฮฺทรงขึ้นอิสติวะอฺเหนือบัลลังค์ของพระองค์โดยอิสติวะอฺด้วยกับ “ซาต” (อาตมัน) ของพระองค์เหนือบัลลังค์ ซึ่งอิสติวะอฺไม่ได้แปลว่า กออู๊ด (นั่ง) หรือไม่ได้แปลว่าการสัมผัส ดังที่พวกมุญัสสิมะฮฺและกะรอมียะฮฺได้กล่าวไว้ และมันก็ไม่ได้หมายความว่า อุลูวว์ (ความสูงส่ง) ดังที่พวกอัชอะรียะฮฺ(อะชะอิเราะฮฺ)ได้กล่าวไว้ และมันก็ไม่ได้แปลว่า อิสติลาอ์ (การพิชิต) หรือ ฆอลาบะฮฺ (การสถาปนาอำนาจ) ดังที่พวกมุอฺตะสิละฮฺได้กล่าวแต่อย่างใด ตัวบททางศาสนาไม่ได้บอกกล่าวถึงความหมายใดๆเหล่านี้ไว้ แล้วก็ไม่ปรากฏการรายงานจากบรรดาซอฮาบะฮฺหรือจากบรรดาตะบีอีนจากยุคสลัฟหรือจากบรรดานักวิชาการหะดีษถึงการตีความในแบบเหล่านี้เลย”
ขออัลลอฮได้ทรงชี้นำข้าพระองค์ และรวมข้าพระองค์ไว้เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาชาวสวรรค์ชั้นฟิรเดาส์
Re: อันตรายจาก มูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ By: suhaimi Date: เม.ย. 21, 2012, 10:46 PM
ยาวจังไหวป่าวเนี้ยเรา...อิ
Re: อันตรายจาก มูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ By: al-ciddix Date: เม.ย. 23, 2012, 02:37 PM
ผมไล่อ่านตั้งแต่หน้าแรก ยันหน้าท้าย ผมคิดว่าข้อความของคุณ Anthoprosclay เข้าใจ
ถ้าคิดว่าความรู้ผมยังน้อย ขอความกรุณาแนบลิงค์ที่เกี่ยวข้องในเวปนี้ ในเรื่องนี้ให้ด้วยครับ
ส่วนคำว่าขึ้นสูงเหนือบังลังค์ อาจจะมีคนพยายามถาม
แต่มันคือการให้ความหมายที่สุดทาง ที่จะทำให้รู้ว่า แท้จริงเราไม่มีความรู้ในเรื่องความหมายแท้จริง
“มันคือสิ่งที่จำเป็นต่อการยืนยันถึงศิฟัตอิสติวะอฺ (การขึ้นสูงเหนือบัลลังค์) โดยปราศจากการตีความ(เป็นความหมายอย่างอื่น) และแท้จริงแล้วพระองค์อัลลอฮฺทรงขึ้นอิสติวะอฺเหนือบัลลังค์ของพระองค์โดยอิสติวะอฺด้วยกับ “ซาต” (อาตมัน) ของพระองค์เหนือบัลลังค์ ซึ่งอิสติวะอฺไม่ได้แปลว่า กออู๊ด (นั่ง) หรือไม่ได้แปลว่าการสัมผัส ดังที่พวกมุญัสสิมะฮฺและกะรอมียะฮฺได้กล่าวไว้ และมันก็ไม่ได้หมายความว่า อุลูวว์ (ความสูงส่ง) ดังที่พวกอัชอะรียะฮฺ(อะชะอิเราะฮฺ)ได้กล่าวไว้ และมันก็ไม่ได้แปลว่า อิสติลาอ์ (การพิชิต) หรือ ฆอลาบะฮฺ (การสถาปนาอำนาจ) ดังที่พวกมุอฺตะสิละฮฺได้กล่าวแต่อย่างใด ตัวบททางศาสนาไม่ได้บอกกล่าวถึงความหมายใดๆเหล่านี้ไว้ แล้วก็ไม่ปรากฏการรายงานจากบรรดาซอฮาบะฮฺหรือจากบรรดาตะบีอีนจากยุคสลัฟหรือจากบรรดานักวิชาการหะดีษถึงการตีความในแบบเหล่านี้เลย”
ขออัลลอฮได้ทรงชี้นำข้าพระองค์ และรวมข้าพระองค์ไว้เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาชาวสวรรค์ชั้นฟิรเดาส์

อย่างนี้คับบัง อะกีดะฮฺของกลุ่มอะชาอิเราะฮฺกับอะกีดะฮฺอัฏ-เฏาะหาวียะฮฺนั้น จะไม่แตกต่างกัน
1. อิมามตาญุดดีน อัสสุบฺกียฺ กล่าวว่า :
وَبِالْجُمْلَةِ عقيدة الأشعري هى ما تَضَمَّنَتْهُ عقيدة أبى جعفرالطَّحاَوِيّ التى
تَلَقَّاهاعلماءالمذاهب بالقبول ورضوهاعقيدة
“กล่าวโดยสรุปคือ อะกีดะฮฺของอัล-อัชอะรียฺนั้นคือสิ่งซึ่งอะกีดะฮฺของอบีญะอฺฟัร อัฏ-เฏาะหาวียฺได้ประมวลสิ่งนั้นเอาไว้ ซึ่งบรรดานักปราชญ์ของมัซฮับต่างๆ ได้ รับเอาอะกีดะฮฺนั้นด้วยการยอมรับและพวกเขายินดีว่าอะกีดะฮฺนั้นเป็นหลักศรัทธาและความเชื่อ” (มุอีด อัน-นิอัม ว่า มุบีด อัน-นิกอม หน้า 62)
ทั้งนี้อิมาม อัฏเฏาะหาวียฺ (ร.ฮ.) ได้รวบรวมหลักความเชื่อของอะฮฺลิสสุนนะฮฺ วัล-ญะมาอะฮฺตามแนวทางของบรรดา “ฟุเกาะฮาอฺ อัล-มิลละฮฺ” คือ อิมาม อบูหะนีฟะฮฺ อัน-นุอฺมาน อิบนุ ษาบิต อัล-กูฟียฺ , อิมาม อบูยูสุฟ ยะอฺกู๊บ อิบนุ อิบรอฮีม อัล-อันศอรียฺ และอิมาม อบู อับดิลลาฮฺ มุฮัมมัด อิบนุ อัล-หะสัน อัช-ชัยบานียฺ (ริฎวานุลลอฮฺอะลัยฮิม) เอาไว้ในตำราของท่านที่ชื่อว่า “อัล-อะกีดะฮฺ อัฏ-เฏาะหาวียะฮฺ”
(อิซฮารุลอะกีดะฮฺ อัส-สุนนียะฮฺ บิชัรหิ อัล-อะกีดะฮฺ อัฏ-เฏาะหาวียะฮฺ ; ชัยคฺ อับดุลลอฮฺ อัล-ฮะเราะรียฺ หน้า 23)
บรรดาอิมามทั้ง 3 ท่านนี้เป็นอิมามของอะฮฺลิสสุนนะฮฺ วัล-ญะมาอะฮฺที่เป็นชาวสะลัฟศอลิหฺ (คืออยู่ใน 300 ปีแรก) เพราะอิมามอบูหะนีฟะฮฺ (ร.ฎ.) ท่านเสียชีวิตในปีฮ.ศ. 150 , อิมาม อบูยูสุฟ เสียชีวิตในปี ฮ.ศ. 182 และอิมามมุฮัมมัด อิบนุ อัล- หะสัน เสียชีวิตในปี ฮ.ศ. 189 (ตารีคบัฆดาด)
ซึ่งอิมามอบูญะอฺฟัร อัฏ-เฏาะหาวียฺ (ร.ฮ.) นั้นท่านสังกัดมัซฮับอัล-หะนะฟียฺ และเสียชีวิตในปี ฮ.ศ. 321 ถึงแม้ว่าท่านจะไม่เคยพบอิมามทั้ง 3 แต่ท่านก็รับความรู้และหลักความเชื่อจากอิมามทั้ง 3 ด้วยสายรายงานที่ถูกต้อง
ส่วนอิมาม อบุล-หะสัน อัล-อัชอะรียฺ (ร.ฮ.) นั้นท่านเสียชีวิตในปี ฮ.ศ. 324 อิมาม ตาญุดดีน อัส-สุบกียฺ กล่าวว่า : จงรู้เถิดว่า แท้จริง อบุลหะสัน อัล-อัชอะรียฺ มิได้อุตริทัศนะขึ้นใหม่ และมิได้ตั้งมัซฮับขึ้นแต่อย่างใด อันที่จริงเขา (อบุลหะสัน อัล-อัชอะรียฺ) คือผู้ที่รับรองบรรดามัซฮับของชาวสะลัฟ ต่อสู้ปกป้องสิ่งที่บรรดาเศาะหาบะฮฺของท่านรสูลลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้เคยดำเนินบนสิ่งนั้น
ฉนั้น การอ้างถึงเขา (อบุลหะสัน อัล-อัชอะรียฺ) นั้นอันที่จริงคือด้วยการพิจารณาว่า เขา (อบุลหะสัน อัล-อัชอะรียฺ) ได้ผูกผ้ารัดเอว (หมายถึงเตรียมพร้อมและสะสางเรื่องนั้นให้ชัดเจน) บนแนวทางของชาวสะลัฟและยึดมั่นต่อแนวทางนั้น ตลอดจนดำรงบรรดาหลักฐานและบรรดาสิ่งที่ยืนยันถึงแนวทางนั้น จึงกลายเป็นว่าผู้ที่ถือตามเขา (อบุลหะสัน อัล-อัชอะรียฺ) ในสิ่งดังกล่าว อีกทั้งดำเนินตามวิถีของเขาในเรื่องของบรรดาหลักฐานที่บ่งชี้ทั้งหลายถูกเรียกขานว่า อัช-อะรียฺ” จบคำของอิมาม อัส-สุบกียฺ (จากเฏาะบะกอตฺ อัช-ชาฟิอียะฮฺ อัล-กุบรอ) วัลลอฮุอะลัม
Re: อันตรายจาก มูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ By: abubuk Date: เม.ย. 25, 2012, 11:24 AM
ข้อความโดย: anthoposclay
“มันคือสิ่งที่จำเป็นต่อการยืนยันถึงศิฟัตอิสติวะอฺ (การขึ้นสูงเหนือบัลลังค์) โดยปราศจากการตีความ(เป็นความหมายอย่างอื่น) และแท้จริงแล้วพระองค์อัลลอฮฺทรงขึ้นอิสติวะอฺเหนือบัลลังค์ของพระองค์โดยอิสติวะอฺด้วยกับ “ซาต” (อาตมัน) ของพระองค์เหนือบัลลังค์ ซึ่งอิสติวะอฺไม่ได้แปลว่า กออู๊ด (นั่ง) หรือไม่ได้แปลว่าการสัมผัส ดังที่พวกมุญัสสิมะฮฺและกะรอมียะฮฺได้กล่าวไว้ และมันก็ไม่ได้หมายความว่า อุลูวว์ (ความสูงส่ง) ดังที่พวกอัชอะรียะฮฺ(อะชะอิเราะฮฺ)ได้กล่าวไว้ และมันก็ไม่ได้แปลว่า อิสติลาอ์ (การพิชิต) หรือ ฆอลาบะฮฺ (การสถาปนาอำนาจ) ดังที่พวกมุอฺตะสิละฮฺได้กล่าวแต่อย่างใด ตัวบททางศาสนาไม่ได้บอกกล่าวถึงความหมายใดๆเหล่านี้ไว้ แล้วก็ไม่ปรากฏการรายงานจากบรรดาซอฮาบะฮฺหรือจากบรรดาตะบีอีนจากยุคสลัฟหรือจากบรรดานักวิชาการหะดีษถึงการตีความในแบบเหล่านี้เลย” .................................................................................
ข้างล่างนี้ อ้างจากบังอัชฮารีย์
คำว่า "อิสติวาอฺ" الإستواء นั้น
แนวทางที่หนึ่ง : คือ เชื่อในอิสติวาอ์ แต่ขอมอบความหมาย , จุดมุ่งหมายที่แท้จริง และรูปแบบวิธีการไปยังอัลเลาะฮ์ตาอาลา
แนวทางที่สอง : คือ เชื่อในอิสติวาอ์ แต่ทำการตีความ (ตะวีล)เพื่อให้มีความเข้าใจง่ายโดยสอดคล้องกับหลักภาษาอัลกุรอาน(ภาษาอาหรับ) , ตรงกับหลักของศาสนา(ไม่คัดค้านกับตัวบทที่ชัดเจนเด็ดขาดและแน่นอน) , และสอดคล้องตามหลักของสติปัญญาไปพร้อม ๆ กัน คือตีความว่า มันคือ "การปกครอง" แล้วทำการมอบหมายต่ออัลเลาะฮ์สำทับอีกครั้งหนึ่ง
แนวทางที่สาม : คือ เชื่อในอิสติวาอ์ แต่ทำการอธิบายความหมาย (ตัฟซีร) ของมันให้อยู่ในเชิงภาษาของคำแท้ตามที่มนุษย์เข้าใจกัน ซึ่งแนวทางนี้เลือกให้อยู่ในความหมายของ "การนั่ง"
ทำให้เข้าใจแบบง่าย ๆ คือ
แนวทางที่หนึ่ง : เชื่อในอิสติวาอฺ >-------------------->> แต่มอบหมายกับความหมายและรูปแบบวิธีการ
แนวทางที่สอง : เชื่อในอิสติวาอฺ >-------------------->> แต่ทำการตีความอยู่ในความหมายของการปกครอง
แนวทางที่สาม : เชื่อในอิสติวาอฺ >-------------------->> แต่อธิบายให้อยู่ในความหมายของการนั่งบนบัลลังก์
สรุป : แนวทางที่หนึ่งและสอง คือแนวทางของอัลอะชาอิเราะฮ์ ที่สอดคล้องกับ หลักของภาษาอาหรับ(ภาษาอัลกุรอาน) , สอดคล้องกับหลักของศาสนา , และสอดคล้องกับหลักสติปัญญา ทำไมผมจึงบอกว่าสอดคล้องกับหลักการของศาสนา นั่นก็เพราะว่า การมอบหมายต่ออัลเลาะฮ์เป็นสิ่งที่ศาสนาส่งเสริม และการตีความว่า "การปกครอง" นั้น มีอายะฮ์และหะดิษต่าง ๆ มากมายที่มายืนยันว่า อัลเลาะฮ์ "ทรงอำนาจปกครอง" และพระองค์ก็ทรงพระนามว่า المالك (พระองค์ทรงปกครอง)
ส่วนแนวทางที่สามนั้น อธิบายตรงกับหลักภาษาอาหรับ แต่ไม่ตรงกับหลักการของศาสนา ที่ผมกล่าวอย่างนั้น เพราะว่า ไม่มีอัลกุรอานอายะฮ์ใดและหะดิษซอฮิห์บทใด ที่สนับสนุนและระบุยืนยันว่า "อัลเลาะฮ์ทรงนั่ง" الجالس "อัลญาลิส" และอัลเลาะฮ์ก็ไม่ทรงมีพระนามว่า الجالس "อัลญาลิส" (พระองค์ทรงนั่ง) หรือ القاعد "อัลกออิด" (พระองค์ทรงนั่ง)
แต่แนวทางที่สาม (คือซุนนะฮ์วะฮาบีย) มักกล่าวหาว่า แนวทางที่สองนั้นปฏิเสธซีฟัต "อัลอิสติวาอฺ" ของอัลเลาะฮ์ ซึ่งความจริงแล้วเป็นความเข้าหลักการที่ผิดพลาด เพราะแนวทางที่สองนั้น ไม่ได้ปฏิเสธ "อิสติวาอฺ" เลยแม้แต่น้อย แต่พวกเขาปฏิเสธความหมายต่าง ๆ ที่แนวทางที่สามทำการอธิบายต่างหาก
Re: อันตรายจาก มูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ By: abufarisy Date: ธ.ค. 12, 2012, 11:46 PM

Re: อันตรายจาก มูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮฺฮาบ By: pudpong Date: มี.ค. 19, 2013, 09:37 PM
ขอบคุณครับ

المتكلمون كفار
قال الشيخ محمد بن عبد الوهاب 
