Re: ประโยคนี้มีความหมาย By: คนเดินดิน Date: มิ.ย. 28, 2007, 10:35 AM
;) ;) ;)
แต่หากจะมองในแง่ลบ(ไม่จำเป็นก็อย่ามอง)
ก็น่าจะบ่งบอกถึงความคับแคบของน้ำจิตน้ำใจคน
ที่นับวันยิ่งหายาก
ทำอะไรก้อมักจะหวังผลตอบแทนเสมอ
อย่าง เสียไปให้ใคร สามบาทเนี่ย
ก้อน่าจะได้ดินสอหรือปากกามาแลกเปลี่ยนกันอะไรประมาณเนี้ยค่ะพี่น้อง

หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง
Re: ประโยคนี้มีความหมาย By: คนเดินดิน Date: ก.ค. 06, 2007, 10:25 AM
;) ;) ;)
วันนี้เต็มใจนำเสนอประโยคนี้มาก ๆ ค่ะ
ที่เต็มใจนำเสนอก็เพราะว่า
ประโยคนี้หน่ะเป็นประโยคที่พ่อใช้สอนลูก ๆ และญาติพี่น้อง
ในวันตรุษอีฎิลฟิตรีปีที่ผ่านมา
พ่ออธิบายว่าที่สอนอย่างนั้นเพราะพ่อต้องการสื่อให้ลูก ๆ และญาติพี่น้องได้รู้ว่า
นิสัยของมือหน่ะ เมื่อไหร่ที่ประสาทสัมผัสรับทราบว่ามีอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
กำลังต้องการความช่วยเหลือ
อย่างเช่นว่าถ้ารู้สึกคัน
มือก็จะช่วยเกา
ถ้ารู้สึกปวด
มือก็จะช่วยลูบ
ถ้ารู้สึกเมื่อย
มือก็จะช่วยบีบ นวด
ถ้ามีสิ่งสกปรกติดตามร่างกาย
มือก็จะช่วยปัด
ในขณะที่นิสัยของดวงตานั้น
เมื่อมีอะไรก็ตามเกิดขึ้นกับร่างกายแล้ว
มันก็ทำได้มากที่สุดเพียงแค่มองดูเท่านั้น
พ่อบอกว่าเป็นพี่น้องมีอะไรต้องช่วยเหลือกัน
ใครทุกข์ใครร้อนมา
คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงถ้าเราจะช่วยเท่าที่กำลังเราสามารถช่วยได้หรอก
อย่าทำเป็นนิ่งเฉยกับปัญหา
หรือความทุกข์ร้อนของพี่น้องของเรา
ตามที่พ่อสอนนั้น
คนเดินดินพอจะสรุปได้ว่า
พ่อคงไม่อยากให้ใครก็ตามมีนิสัย เห็นกว่าตัว
มีอะไรพ่อคงอยากให้พวกเราช่วยเหลือกันและกัน
มากกว่าการวางเฉยหรือซ้ำเติมในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ทำให้คนเดินดินประทับใจกับประโยคนี้มาก
ก็เลยเต็มใจนำเสนออย่างยิ่งค่ะพี่น้อง
;) ;) ;)
หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง
Re: ประโยคนี้มีความหมาย By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ก.ค. 06, 2007, 10:54 AM
อืม...ได้ข้อคิดที่ดีมากครับ ญะซากัลลอฮ์ค๊อรร๊อน

Re: ประโยคนี้มีความหมาย By: คนเดินดิน Date: ก.ค. 19, 2007, 11:48 AM
;) ;) ;)
ประทับใจบทกลอนสอนหญิงของเพื่อนร่วมห้องคนนึง
ที่เคยเขียนไว้ให้ในเฟรนด์ชิปสมัยเรียนม.6 มั่ก มาก
ขอนำเสนอเลยแล้วกันนะคะพี่น้อง อันสตรี หน้าที่หลัก มีสามอย่าง
หน้าที่อย่าง แรกทีเดียว คือ ลูกสาวต้องคอยเฝ้า เลี้ยงดู พ่อแม่เรา
ไปจนเฒ่า จนแก่ จนสิ้นใจ เมื่อเติบใหญ่ ถึงวัย เป็น เจ้าสาว
หน้าที่เรา เพิ่มอีกอย่าง คือเมียเขา
ต้องปรนนิบัติ พัดวี สามีเรา
อยู่กับเขา ดูแลเขา ทุกเพลา
กาลเวลา หมุนเวียน ผันแปรไป
ได้เข้าใจ ว่าชีวิต นั้นมีค่า
เมื่อรู้ว่า ลูกน้อย จะเกิดมา
โอ้ลูกจ๋า หน้าที่ แม่ เกิดทันที
สามสิ่งนี้ ทุกคน ต้องประสบ
จะต้องพบ สักวันหนึ่ง ในไม่ช้านั่นคือลูก ที่ดี เมียที่งาม
จนสุดท้าย แม่ที่เลิศ ประเสริฐจริง หากทำได้ ทั้งสามสิ่ง ที่กล่าวนี้
จะสุขขี ทั้งโลกนี้ และโลกหน้า
เพราะอัลลอฮ์ จะทรงให้ ตามสัญญา
พระเมตตา พระกรุณา จากพระองค์
อินชาอัลลอฮ์นะคะพี่น้องมุสลีมะฮ์ทั้งหลาย
หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง
Re: ประโยคนี้มีความหมาย By: คนเดินดิน Date: ก.ค. 27, 2007, 06:44 PM
;) ;) ;)
เคยถูกรุ่นน้องชมรมคนนึงตั้งคำถามว่า
ก๊ะ ๆ ในความคิดของก๊ะกระจกมีกี่ด้าน
ตอนนั้นก็ตอบน้องเค้าตามความรู้สึกที่มีว่า
กระจกมีด้านเดียว
แล้วน้องเค้าก็เงียบไป
ก็เลยงงเล็กน้อยถึงทุกวันนี้ก็ยังงง ๆ อยู่
(เพราะตอนนั้นคิดว่ากระจกมีไว้สำหรับส่องตนเท่านั้น)
แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน
พบเจอผู้คนมากขึ้น
ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีความรู้เป็นส่วนใหญ่
เพราะผู้คนเหล่านี้มักจะคอยดูแล
และควบคุมความประพฤติของคนบางคนให้อยู่ในกรอบ
และขอบเขตของอัล - อิสลาม
ทำให้หวนนึกถึงคำถามของรุ่นน้องคนดังกล่าว
ว่าที่ผ่านมาทำตัวเป็นกระจกด้านเดียวนั้น
ดีพอหรือยัง
หรือควรเป็นกระจกสองด้าน
ที่ส่องเราและส่องเขาโดยการตักเตือน
เพราะที่ผ่านมามักตักเตือนด้วยจิตใจมากกว่าวาจาหรือการกระทำ
ที่ผ่านมาเพราะเราไม่อยากมีเรื่องกับใครเขา
หรือว่าเป็นเพราะอีหม่านของเรามันอ่อนแอเกินไปกันแน่น้า?
:'( :'( :'(
หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง
Re: ประโยคนี้มีความหมาย By: musalmarn Date: ก.ค. 27, 2007, 07:05 PM
^
^
^
reply#20 ของ
ก๊ะเดินดินทำให้ผมนึกถึงประโยคนึงที่ อาวุโสฯ ชอบกล่าวอยู่เนืองๆ
อิศลาฮตัวเอง ควบคู่กับ ดะอวะฮผู้อื่น ^^
Re: ประโยคนี้มีความหมาย By: นัซซอเราะฮฺ Date: ก.ค. 27, 2007, 10:32 PM
ฝ่าเท้าเอ๋ย...จงอย่ากลัวที่จะเดินไปในหนทางของอัลลอฮฺ
แม้จะไม่มีมนุษย์สักคนร่วมทาง
แต่จงกลัวที่จะเดินไปในหนทางของชัยฏอน
แม้จะมีมนุษย์ทั้งโลกร่วมทาง
...ลมหนาวกับดาวเดือน : โต๊ะศาสนา ณ พันทิป.คอม...
Re: ประโยคนี้มีความหมาย By: คนเดินดิน Date: ก.ค. 30, 2007, 10:09 AM
;) ;) ;)
เป็นอีกประโยคนึงที่ชอบมั่กมากเพราะอันนี้เป็นประสบการณ์ตรงของตัวเอง
หลาย ๆ ครั้งจะเกิดการเรียนรู้ที่นำไปสู่การพัฒนา
จากการกระทำที่ผิดพลาด
(คงไม่มีใครอยากทำอะไรที่ผิดซ้ำผิดซาก)
และนำไปเป็นเล่าสู่ให้นักเรียนฟังเพื่อเป็นบทเรียน
เวลาบอกเล่าหรือสั่งสอนความละอายก็จะได้ไม่เกิด
เพราะเป็นเรื่องจริง เกิดขึ้นจริง เจอกับตัวเองจริง ๆ
ไม่ใช่จินตนาการหรือฟังใครมาบอกต่อ
ช่วยกันหมั่นพัฒนาตนกันนะคะพี่น้อง

หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง
Re: ประโยคนี้มีความหมาย By: คนเดินดิน Date: ก.ค. 30, 2007, 07:57 PM

ยังคิดไม่ออกเลย
ขอตัวช่วยด้วยค่ะ
:'( :'( :'(
หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง
Re: ประโยคนี้มีความหมาย By: قطوف من أزاهير النور Date: ส.ค. 03, 2007, 12:01 AM
ฝ่าเท้าเอ๋ย...จงอย่ากลัวที่จะเดินไปในหนทางของอัลลอฮฺ
แม้จะไม่มีมนุษย์สักคนร่วมทาง
แต่จงกลัวที่จะเดินไปในหนทางของชัยฏอน
แม้จะมีมนุษย์ทั้งโลกร่วมทาง
...ลมหนาวกับดาวเดือน : โต๊ะศาสนา ณ พันทิป.คอม...
รู้สึกคุณลมหนาวฯ จะฝากบอกมาว่า แกก็ก๊อปมาจากที่นี่ล่ะ ^^
Re: ประโยคนี้มีความหมาย By: นัซซอเราะฮฺ Date: ส.ค. 03, 2007, 12:10 AM
ฝ่าเท้าเอ๋ย...จงอย่ากลัวที่จะเดินไปในหนทางของอัลลอฮฺ
แม้จะไม่มีมนุษย์สักคนร่วมทาง
แต่จงกลัวที่จะเดินไปในหนทางของชัยฏอน
แม้จะมีมนุษย์ทั้งโลกร่วมทาง
...ลมหนาวกับดาวเดือน : โต๊ะศาสนา ณ พันทิป.คอม...
รู้สึกคุณลมหนาวฯ จะฝากบอกมาว่า แกก็ก๊อปมาจากที่นี่ล่ะ ^^
แป่วเลย

อิอิ
หมอจะรับเย็บป่าวคะ คุณอรูชาห์
Re: ประโยคนี้มีความหมาย By: الأزاهرة Date: ส.ค. 03, 2007, 12:56 AM
ฝ่าเท้าเอ๋ย...จงอย่ากลัวที่จะเดินไปในหนทางของอัลลอฮฺ
แม้จะไม่มีมนุษย์สักคนร่วมทาง
แต่จงกลัวที่จะเดินไปในหนทางของชัยฏอน
แม้จะมีมนุษย์ทั้งโลกร่วมทาง
...ลมหนาวกับดาวเดือน : โต๊ะศาสนา ณ พันทิป.คอม...
รู้สึกคุณลมหนาวฯ จะฝากบอกมาว่า แกก็ก๊อปมาจากที่นี่ล่ะ ^^

Re: ประโยคนี้มีความหมาย By: คนเดินดิน Date: ส.ค. 03, 2007, 07:39 PM
;) ;) ;)
จงฟังให้มาก จงพูดให้น้อย
จงทำให้มาก จงพูดให้น้อย
จงใคร่ครวญให้มาก จงพูดให้น้อย
จง..........ให้มาก จง......ให้น้อย

หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง
Re: ประโยคนี้มีความหมาย By: คนเดินดิน Date: ส.ค. 03, 2007, 07:54 PM

มีอุสตาสท่านนึง(จำไม่ได้แล้วว่าใคร)เคยสอนไว้ว่า
ถ้าเป็นเรื่องของดุนยาให้เรามองคนที่มีความยากลำบากมากว่าเรา
แล้วเราจะไม่เป็นทุกข์
ถ้าเป็นเรื่องอาคีเราะห์ให้เรามองผู้ที่มีความศรัทธามากกว่าเรา
เพื่อที่จะได้เป็นแรงกระตุ้นให้เราอยากทำความดีมาก ๆ

หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง
Re: ประโยคนี้มีความหมาย By: คนเดินดิน Date: ส.ค. 07, 2007, 04:04 PM
;) ;) ;)
เป็นประโยคหนึ่งจากนวนิยายเรื่อง ชี้ค
ซึ่งกล่าวไว้ว่า
ชีวิตคนเราเหมือนเม็ดทรายเม็ดเล็ก ๆ ในทะเลทราย
สุดแต่ลมจะหอบไปทางไหน
แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็ต้องร่วงหล่น
และจมหายไปกับพื้นทรายด้วยกันทั้งสิ้น..............
แต่ถึงแม้จะถือกำเนิดจากแหล่งเดียวกัน
แต่ บางคน ก็เป็นเพียงเม็ดทรายในทะเลทรายในขณะที่ บางคน เป็นทรายที่ถูกหล่อหลอมให้เป็นเครื่องแก้วเจียระไน

หากผิดพลาดประการใดจงอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง