กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
Pages: 123
ดุอากุนูต By: truth1979 Date: มิ.ย. 27, 2007, 07:43 PM
ในเล่มที่ 7 ของฟัตวาคณะกรรมการถาวรเพื่อการวิฉัยวิชาการและตอบปัญหาศาสนา ของประเทศซาอุดีย์ หมายเลข 2452 ระบุว่า

لم يصح عن النبي صلى الله عليه وسلم أنه خص الصبح بالقنوت، ولا أنه داوم عليه في صلاة الصبح، وإنما الذي ثبت عنه صلى الله عليه وسلم أنه قنت في النوازل بما يناسبها، فقنت في صلاة الصبح وغيرها من الصلوات يدعو على رعل وذكوان وعُصَيَّة لقتلهم القراء الذين أرسلهم النبي صلى الله عليه وسلم إليهم ليعلموهم دينهم، وثبت في صلاة الصبح وغيرها يدعو للمستضعفين من المؤمنين أن ينجيهم الله من عدوهم، ولم يداوم على ذلك، وسار على ذلك الخلفاء الراشدون من بعده، فخير للإمام ) أن يقتصر على القنوت في النوازل اقتداءً برسول الله صلى الله عليه وسلم فيما ثبت عن أبي مالك الأشجعي قال : قلت لأبي : يا أبت قد صليت خلف رسول الله صلى الله عليه وسلم وخلف أبي بكر وعمر وعثمان وعلي رضي الله عنهم أفكانوا يقنتون في الفجر ؟ فقال : (أي بنيّ مُحدَث) رواه الخمسة إلا أبا داود ( وصححه الألباني في الإرواء 435) ، وإن خير الهدي هدي محمد صلى الله عليه وسلم .
وبالله التوفيق وصلى الله على نبينا محمد وآله وصحبه وسلم
ไม่มีรายงานที่เศาะเฮียะจากท่านนบี  ว่าท่านได้เจาะจงละหมาดศุบฮิด้วยการอ่านกุนูต และไม่มี(รายงานที่เศาะเฮียะ)ว่า ท่านนบีได้อ่านเป็นประจำในละหมาดศุบฮิ และความจริง ที่มีรายงานยืนยันจากท่านนบี  นั้น คือ ท่านได้อ่านกุนูต ในภาวะที่ประสบกับเคราห์กรรม ด้วยสิ่งที่เหมาะสมกับมันเท่านั้น แล้วท่านนบีเคยอ่านกุนูตในละหมาดศุบฮิและละหมาดอื่นจากนั้น จากบรรดาละหมาดฟัรดูห้าเวลา โดยขอดุอาสาปแช่งพวกริอฺล ,พวกซักวานและพวกอุศียยะฮ ที่พวกเขาได้ฆ่า บรรดาผู้มีความรู้ในอัลกุรอ่าน ที่ท่านนบี  ส่งไปยังพวกเขา เพื่อสอนศาสนาให้แก่พวกเขา และได้มีรายงานยืนยันว่า ท่านนบี  ได้ขอดุอาให้แก่บรรดามุอฺมีนผู้อ่อนแอ ให้อัลลอฮทรงให้เขาปลอดภัยจากศัตรูของพวกเขา ในละหมาดศุบฮิ โดยที่ท่านไม่ได้ทำดังกล่าวนั้นเป็นประจำ และบรรดาเคาะลิฟะฮอัรรอชิดีน หลังจากท่านก็ได้ดำเนินตามนั้น ดังนั้นทางเลือกสำหรับผู้เป็นอิหม่ามคือ การให้จำกัดเฉพาะกุนูตนาซิละฮ(กุนูตในยามที่มุสลิมประสบกับเคราะห์กรรม) เพื่อเป็นการปฏิบัติตามท่านรซูลุ้ลลอฮ  ตามที่ปรากฏรายงานยืนยันจากอบีมาลิก อัลอัชญะอีย์ กล่าวว่า
قلت لأبي : يا أبت قد صليت خلف رسول الله صلى الله عليه وسلم وخلف أبي بكر وعمر وعثمان وعلي رضي الله عنهم أفكانوا يقنتون في الفجر ؟ فقال : (أي بنيّ مُحدَث
ข้าพเจ้าได้กล่าวแก่บิดาของข้าพเจ้าว่า "โอ้บิดาของฉัน แท้จริงท่านเคยละหมาดตามหลังท่านรซูลุ้ลลอฮ  ,อบูบักร,อุมัร,อุษมานและ อาลี ขออัลลอฮโปรดประทานความโปรดปรานแก่พวกเขา ,พวกเขาอ่านกุนูตในละหมาดฟัจญริ(ละหมาดศุบฮิ )หรือเปล่าครับ? เขาจึงตอบว่า "โอ้ลูกของพ่อ มันคือ สิ่งที่ถูกประดิษขึ้นใหม่"- รายงานโดยนักรายงานห้าท่านยกเว้น อบูดาวูด(อัลบานีย์ระบุในอัล-อิรวาอ์ หะดิษหมายเลข 435 ว่าเป็นหะดิษเศาะเฮียะ ) และแท้จริงทางนำที่ดี คือ ทางนำของท่านนบีมุหัมหมัด 
وبالله التوفيق وصلى الله على نبينا محمد وآله وصحبه وسلم




Re: ดุอากุนูต By: musalmarn Date: มิ.ย. 27, 2007, 07:50 PM
ศานติฯ จงมีแด่ผู้อ่าน

แนะนำอ่านบทความนี้น่ะครับ กุนูตละหมาดซุบฮ์

^^
Re: ดุอากุนูต By: intifad Date: มิ.ย. 27, 2007, 08:11 PM
อ่านก่อนแล้วมาคุยต่อนะครับ  ;D
Re: ดุอากุนูต By: truth1979 Date: มิ.ย. 28, 2007, 02:04 PM
ฟัตวาของเช็คอิบนุอุษัยมีน
ما حكم دعاء القنوت في الركعة الأخيرة بعد الرفع من الركوع؛ في صلاة الفجر؟
جــ: القنوت في صلاة الفجر لا ينبغي إلا إذا كان هنـاك سبب، مثل أن ينزل بالمسلمين نازلة من نوازل الدهـر، فإنه لا بأس أن يقنت الإمام ويدعو الله برفع هذه النازلة في صلاة الفجر وغيرها، وأما بدون سبب فإنه لا يقنت، وهذا هو القول الصحيح، ولكن لو صلى الإنسان مع إمام يقنت فإنه يتابعه، ويؤمن على دعائه، كما نص على ذلك الإمام أحمد رحمه الله
*فتاوى منار الإسلام ج1 ص193
การอ่านดุอากุนูตในเราะกะอัตสุดท้ายหลังจากขึ้นจากรุกัวะในละหมาดฟัจญัร(ศุบฮิ)นั้น มีข้อชี้ขาดว่าอย่างไร?
ตอบ
การอ่านกุนูตในละหมาดฟัจญัรนั้น ไม่สมควร นอกจากเมื่อปรากฏว่า มีสาเหตุ ณ ที่นั้น เช่น มีเคราะห์ร้ายประสบกับบรรดามุสลิม ก็ไม่เป็นไรที่อิหม่ามอ่านกุนูตขอดุอา ต่ออัลลอฮให้ยกเคราะห์ร้ายนี้ออกไป ในละหมาดฟัจญร์และละหมาดอื่นจากนั้น และสำหรับในกรณีที่ไม่มีสาเหตุนั้น ไม่ต้องอ่านกุนูต และนี้คือทัศนะที่ถูกต้อง แต่ว่า หากละหมาดตามหลังอิหม่ามที่อ่านกุนูต ก็ให้ปฎิบัติตามเขาและให้กล่าวอามีน ต่อดุอาของเขา ดังที่อิหม่ามอะหมัด ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน ได้บอกเอาไว้ - ฟะตะวา มะนัรอัลอิสลาม เล่ม 1 หน้า 193
Re: ดุอากุนูต By: intifad Date: มิ.ย. 28, 2007, 02:15 PM
สงสัยไม่ได้อ่าน  ???
มาอีกแล้ว คนมีโลกส่วนตัว  :'(

แต่ก็ยินดีต้อนรับนะครับ  ;D
Re: ดุอากุนูต By: อัล-อุม Date: มิ.ย. 28, 2007, 03:33 PM
 :D ผมขอฟันธงเลยครับ..ว่า...คุณtruth1979  ไม่ได้อ่านบทความที่ intif<ad>min แนะนำแนเลย ด้วยมุ่งมาเพื่อจะ..นำบทความที่ตนตักลีดแบบตาบอดมาคัดค้านนะครับ :-*
Re: ดุอากุนูต By: al-azhary Date: มิ.ย. 28, 2007, 07:48 PM
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

การอ่านกุนูตนั้นซุบฮินั้น  เป็นสุนัตตามทัศนะของมัซฮับอิมามชาฟิอีย์และอิมามมาลิก   และไม่เป็นสุนัตตามมัซฮับของอิมามอบูหะนีฟะฮ์และอิมามอะห์มัด  และกุนูตเป็นบิดอะฮ์และหากผู้ใดกระทำก็หมายความว่ากระทำอุตริกรรมอันลุ่มหลงตกนรก  ตามทัศนะของวะฮาบีย์

เราจะพบว่าสี่มัซฮับนั้น  เมื่อมีความประเด็นหนึ่งที่แตกกต่างกัน   พวกเขาก็จะอิกรอมให้เกียรติซึ่งกันและกัน    หากทัศนะของฉันทำ  ฉันก็จะไม่ไปกล่าวหามัซฮับอื่น   เพราะเรื่องกุนูตนี้ทุกมัซฮับก็ปฏิบัติโดยดำรงอยู่บนหลักฐานตามที่เราได้นำเสนอรายละเอียดเอาไว้แล้วข้างต้น 

แต่วะฮาบีย์จะมีพฤติกรรมที่ต่างกับมัซฮับทั้งสี่   พวกเขาคิดว่าทัศนะของพวกเขาเท่านั้นที่ถูกต้อง  ส่วนทัศนะอื่นผิด  จำเป็นต้องมาตามทัศนะของพวกเขา     ซึ่งสังเกตุได้จากพฤติกรรมที่พวกเขาไม่เคยรับฟังผู้ใด   เขาจะโพสต์ในสิ่งที่เขาต้องการเท่านั้น   ข้อมูลและรายละเอียดของทัศนะอื่น  เขาไม่สนใจและไม่มีค่าอันใดเลยแม้แต่น้อย

อันเนื่องจากวะฮาบีย์ปัจจุบันมีความสนเทห์ลำพองคิดว่าความเห็นของตนดีเลิศกว่าใคร ๆ  จนมักมีการละเมิดฮุกุ่มบิดอะฮ์ต่อผู้อื่นอย่างที่เราได้เห็นกันจนชิน  และความลำพองในทัศนะของตนนั้น   จะมีผลตามมาก็คือ  เขาจะพยายามทุกวิธีทางเพื่อที่จะให้ผู้อื่นมาตามทัศนะของตนเท่านั้น  หากไม่ตามก็ต้องมีฮุกุ่มบิดอะฮ์ตามมา

ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า

"สามประการที่มีความวิบัติ  คือความตระหนี่ที่ถูกภักดี  ,  อารมณ์ใฝ่ต่ำที่ถูกตาม , และความลำพองในความเห็น(ทัศนะ)ของตน"

والسلام
Re: ดุอากุนูต By: al-azhary Date: มิ.ย. 28, 2007, 07:56 PM
นานครั้งที่จะมีชีอะฮ์และพี่น้องวะฮาบีย์เข้าร่วมเสวนา  พวกเขามักจะเข้ามาเสวนาแบบแปลก ๆ   ชีอะฮ์จะเข้ามาโพสต์สิ่งที่ตนต้องการแล้วก็ไป  พี่วะฮาบีย์ก็เช่นกัน  ใครจะว่าอย่างไรฉันไม่สน  ขอให้ได้โพสต์สิ่งที่ตนต้องการถือว่าพอแล้วโดยทีไม่ต้องการเสวนาแต่ประการใด   ดังนั้นผู้ที่มีลักษณะเช่นนี้  ต้องย้ำเตือนด้วยกฏแห่งการเสวนา   

ผู้เสวนาสมควรอ่านกฏระเบียบก่อนการเสวนา

Re: ดุอากุนูต By: truth1979 Date: มิ.ย. 29, 2007, 12:51 AM
แต่ว่า หากละหมาดตามหลังอิหม่ามที่อ่านกุนูต ก็ให้ปฎิบัติตามเขาและให้กล่าวอามีน ต่อดุอาของเขา ดังที่อิหม่ามอะหมัด ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน ได้บอกเอาไว้ - ฟะตะวา มะนัรอัลอิสลาม เล่ม 1 หน้า 193
Re: ดุอากุนูต By: al-azhary Date: มิ.ย. 29, 2007, 01:07 AM
แต่ว่า หากละหมาดตามหลังอิหม่ามที่อ่านกุนูต ก็ให้ปฎิบัติตามเขาและให้กล่าวอามีน ต่อดุอาของเขา ดังที่อิหม่ามอะหมัด ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน ได้บอกเอาไว้ - ฟะตะวา มะนัรอัลอิสลาม เล่ม 1 หน้า 193

หากคุณยึดทัศนะนี้จริง  นั่นก็แสดงให้เห็นว่าคุณไม่มีจุดยืนตามทัศนะของวะฮาบีย์บางกลุ่ม  และเป็นทัศนะที่ถูกต้องที่สุด   หมายถึง  หากอิมามกุนูตก็ให้เรากุนูตและหากอิมามไม่กุนูตเราก็ไม่ต้องกุนูต 

การอ่านกุนูตเป็นเรื่องสุนัต  หากไม่กระทำก็ไม่มีผลที่ต้องทำให้เสียละหมาดแต่อย่างใด  และที่เราได้นำเสนอวิจารณ์กุนูตและพยายามที่จะให้ผู้อื่นอ่านมันนั้น  ไม่ได้หมายความว่า  เราต้องการให้อีกฝ่ายหนึ่งมาตามเรา  แต่ทว่าเราต้องการให้เขามีจิตใจที่กว้างขวางต่อทัศนะอื่น   มีทัศนะคติที่ดีต่อกันในเรื่องขอกุนูต 

มัสยิดที่ผมไปละหมาดตอนซุบฮิ  อิมามส่วนมากที่นำละหมาดจะอยู่มัซฮับหะนะฟีย์  เขาไม่กุนูต   ผมก็ไม่อ่านกุนูตตาม   แต่บางครั้งผมไปละหมาดมัสยิดที่อ่านกุนูต  ผมก็อ่านกุนูต  และวันใดที่ไปละหมาดไม่ทันมัสยิด  ก็จะละหมาดที่บ้านซึ่งผมก็อ่านกุนูตตามมัซฮับอิมามชาฟิอีย์

วัลลอฮุอะลัม
Re: ดุอากุนูต By: musalmarn Date: มิ.ย. 29, 2007, 03:23 PM
อ้างจาก: บังอัลฯ
การอ่านกุนูตเป็นเรื่องสุนัต  หากไม่กระทำก็ไม่มีผลที่ต้องทำให้เสียละหมาดแต่อย่างใด  และที่เราได้นำเสนอวิจารณ์กุนูตและพยายามที่จะให้ผู้อื่นอ่านมันนั้น  ไม่ได้หมายความว่า  เราต้องการให้อีกฝ่ายหนึ่งมาตามเรา  แต่ทว่าเราต้องการให้เขามีจิตใจที่กว้างขวางต่อทัศนะอื่น   มีทัศนะคติที่ดีต่อกันในเรื่องขอกุนูต

ชัดเจนดีครับ ^^
Re: ดุอากุนูต By: almadany Date: มิ.ย. 30, 2007, 09:18 PM
ในประเด็นเรื่องฟิกห์นั้นทางเราใจกว้างจริงๆ ขนาดเรื่องกุนูตเราหักล้างได้ชัดเจน...แต่ก็ไม่ไปกล่าวหาว่าทางโน้นไม่ทำตามซุนนะฮ์เรื่องกุนูต...ทางโน้นใจแคบครับ...หายากที่ใจกว้างๆ
Re: ดุอากุนูต By: m_azharee Date: มิ.ย. 30, 2007, 09:52 PM
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

แต่วะฮาบีย์จะมีพฤติกรรมที่ต่างกับมัซฮับทั้งสี่   พวกเขาคิดว่าทัศนะของพวกเขาเท่านั้นที่ถูกต้อง  ส่วนทัศนะอื่นผิด  จำเป็นต้องมาตามทัศนะของพวกเขา     ซึ่งสังเกตุได้จากพฤติกรรมที่พวกเขาไม่เคยรับฟังผู้ใด   เขาจะโพสต์ในสิ่งที่เขาต้องการเท่านั้น   ข้อมูลและรายละเอียดของทัศนะอื่น  เขาไม่สนใจและไม่มีค่าอันใดเลยแม้แต่น้อย

อันเนื่องจากวะฮาบีย์ปัจจุบันมีความสนเทห์ลำพองคิดว่าความเห็นของตนดีเลิศกว่าใคร ๆ  จนมักมีการละเมิดฮุกุ่มบิดอะฮ์ต่อผู้อื่นอย่างที่เราได้เห็นกันจนชิน  และความลำพองในทัศนะของตนนั้น   จะมีผลตามมาก็คือ  เขาจะพยายามทุกวิธีทางเพื่อที่จะให้ผู้อื่นมาตามทัศนะของตนเท่านั้น  หากไม่ตามก็ต้องมีฮุกุ่มบิดอะฮ์ตามมา

والسلام

มันเป็นอามานะห์ที่บรรดาอาจารย์ต้องชี้แจงต่างหากว่าสิ่งใดเป็นทางนำที่ถูกต้องที่สุด เพราะสิ่งที่ถูกที่สุดเท่านั้นย่อมเป็นหนทางที่เราจะต้องนำมาปฏิบัติ ส่วนหนทางที่หลงนั้นมีมากมาย และเราก็รู้ว่าสิ่งที่ลุ่มหลงทั้งหมดนั้นเป็นหนทางแห่งไฟนรก จะให้อาจารย์เหล่านั้นเขาประนีประนอมหรอครับเรื่องไฟนรกหน่ะ เราจะปฏิบัติศาสนกิจด้วยความคลุมเคลือหรือครับ เวลาฉันละหมาดกับมัสหับนั้น ฉันก็ละหมาดตามเขา เวลาฉันละหมาดกับอีกมัสหับนึงฉันก็ตามเขา แต่เวลาฉันละหมาดคนเดียว ฉันก็ละหมาดตามมัสหับที่ฉันยึดถือ แล้วไหนหล่ะจุดยืนของการปฏิบัติศาสนกิจของคุณ ลองไปดูซอฮาบะห์สิ เขาไม่ปฏิบัติมั่วซั่วอย่างคุณหรอก เขายึดถือแบบอย่างที่ท่านรอซูลเป็นแบบฉบับเท่านั้น  เพราะแบบฉบับก็มีแบบฉบับเดียวคือท่านรอซูล

Re: ดุอากุนูต By: almadany Date: มิ.ย. 30, 2007, 10:09 PM
คุณ m_azharee  ดูคล้ายเหมือนกับคืออิบลีดที่มาป่วนหรือผู้ที่เคียดแค้นเชิงอุดมการณ์อะไรบางอย่าง

คุณ truth1979 นำเสนอว่า  "แต่ว่า หากละหมาดตามหลังอิหม่ามที่อ่านกุนูต ก็ให้ปฎิบัติตามเขาและให้กล่าวอามีน ต่อดุอาของเขา ดังที่อิหม่ามอะหมัด ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน ได้บอกเอาไว้" - ฟะตะวา มะนัรอัลอิสลาม เล่ม 1 หน้า 193

ผมว่าอิมามอะฮ์มัดมั่วซั่วตามทัศนะของคุณ m_azharee  อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น.....ดังนั้นท่านอิมามอะฮ์มัดคือพวกนบีแต่คุณ m_azharee คือพวกวะฮาบี...เพราะชอบกล่าวหามั่วซั่วกับคนอื่น  :D
Re: ดุอากุนูต By: almadany Date: มิ.ย. 30, 2007, 10:46 PM
ความจริงผมเองก็เคยอยู่ในสังคมแบบท่านอัซฮะรี....ละหมาดตามอิมามที่มีมัซฮับไม่อ่านกุนูต....แต่ผมก็ไม่อ่านเหมือนกัน....นั่นก็เพราะว่ากุนูตเป็นเพียงแต่สุนัตจะทำก็ไม่ได้....ไม่ทำก็ได้....ฉะนั้นเราคงจะเข้าใจถึงหลักการที่ท่านอัซฮะรีได้กระทำ