เมื่อตอนละหมาดซุบฮฺได้ไปร่วมละหมาดที่มัสยิดที่วะฮะบีเป็นอีหม่ามและชุมชนที่นั่นส่วนมากก็ถูกล้างสมองเป็นวะฮะบีเกือบ100%พอละหมาดซุบฮฺเสร็จอีหม่ามก็กล่าวว่า ...วันนี้จะนำเสนอเรื่องการทำความสะอาดรอยหมาและหมู...การทำความสะอาดถ้วยจานที่ถูกหมาเลียนั้น ต้องล้าง7ครั้ง และ1ใน7นั้นต้องมีน้ำดินด้วย (เราก็คิด เออ ยังพอฟังได้) อีหม่ามก็พูดต่อ ส่วนการล้างรอยที่เกิดจากหมูเลียนั้น ให้ล้างเพียง3ครั้ง (อ้าว)
เพราะในกุรอ่านและหะดิษ ไม่ได้มีบอกไว้ว่าให้ชำระล้างเหมือนกับการชำระล้างรอยหมา (อ้าว..เลอะกันแล้ว)
ผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ ว่าการชำระล้างน่ายิสมุฆ้อลล่ะเด๊าะห์ ต้องทำอย่างไร?
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้็...? By: al-azhary Date: ม.ค. 08, 2012, 08:49 AM
ตามหลักการดังกล่าวของพวกเขาคือ ขี้สุนัขที่เปื้อนเสื้อผ้าและภาชนะ ก็ไม่จำเป็นต้องล้างเจ็ดน้ำ เพราะในอัลกุรอานและอัลหะดีษไม่ได้บอกระบุว่าให้ชำระล้างรอยขี้สุนัข แต่มีอัลหะดีษระบุให้ล้างเพียงแค่รอยน้ำลายเท่านั้น ส่วนแนวทางของเราต้องล้างรอยขี้สุนัขเจ็ดน้ำด้วย ถึงแม้ว่าไม่มีตัวบทหะดีษระบุเจาะจงสั่งไว้ก็ตาม เพราะใช้หลักกิยาสเอาลาวีย์ การเทียบเคียงที่เหนือกว่า คือขี้สุนัขสกปรกยิ่งกว่าน้ำลายสุนัข ดังนั้นการล้างร้อยเปื้อนขี้สุนัข จำเป็นยิ่งกว่าที่จะล้างเจ็ดน้ำ เรื่องสุกรนั้นมัซฮับชาฟิอีย์ก็ใช้กิยาสเอาลาวีย์เหมือนกัน คืออัลกุรอานห้ามให้รับประทานเนื้อสุกรเป็นการเฉพาะพร้อมทั้งสุกรนั้นน่ารังเกียจยิ่งกว่าสุนัข ดังนั้นสุกรจึงสมควรยิ่งกว่าที่จะล้างเจ็ดน้ำ
ส่วนแนวทางของเขา จะล้างกี่น้ำ ก็เป็นทัศนะของเขาไป ส่วนทัศนะของเรา ก็ล้างเจ็ดน้ำครับ
วัลลอฮุอะลัม
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้็...? By: taufik Date: ม.ค. 08, 2012, 09:05 AM
คำตอบชัดเลยครับ อาจารย์ แถมได้ความรู้ใหม่ หลักกิยาสเอาลาวีย์ การเทียบเคียงที่เหนือกว่า
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้็...? By: nuree Date: ม.ค. 08, 2012, 10:14 AM
คีลาฟในเชิงฟิกผมคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา นะครับเพราะมันมีมาตั้งแต่ริเริ่มของซอฮาบัตและของการมีมัซฮับ
ฮานาฟี-มาลิก-ซาฟีอี-อะห์หมัด มีหลายๆอย่างที่มีความเห็นไม่ตรงกัน
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้็...? By: sufriyan Date: ม.ค. 08, 2012, 10:20 AM
อือครับ วะฮะบี ว่าอย่างนี้็...?
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้็...? By: nuree Date: ม.ค. 08, 2012, 10:28 AM
มันอยู่ที่ว่าน่ารังเกียจรือไม่ ..เราอยู่มาในชุมชนที่เป็นมุสลิมและถูกสั่งถูกสอนตั้งแต่อ้อนแตออดว่ามันเป็นสิ่งที่รังเกียจเราก็เลยเห็นว่ามันขยะแขยง แต่สำหรับมุสลิมที่อยู่ในชุมชนที่มีแต่ หมู หมาอยู่ร้อมลอบตั้งแต่เล็กจนโตก็ยากที่จะห่างจากการที่จะถูกกระทบมัน ทางเดียวที่จะห่างจากมันก็คือ อพยพ ซึ่งมันก็ไม่ง่ายเหมือนกันสำหรับบางคน แต่ถ้าเรามาคิดว่าจะทำอย่างไรในเมื่อพระเจ้าสร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาและให้เราอยู่กับมัน
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้็...? By: sufriyan Date: ม.ค. 08, 2012, 10:37 AM
มันอยู่ที่ว่าน่ารังเกียจรือไม่ ..เราอยู่มาในชุมชนที่เป็นมุสลิมและถูกสั่งถูกสอนตั้งแต่อ้อนแตออดว่ามันเป็นสิ่งที่รังเกียจเราก็เลยเห็นว่ามันขยะแขยง แต่สำหรับมุสลิมที่อยู่ในชุมชนที่มีแต่ หมู หมาอยู่ร้อมลอบตั้งแต่เล็กจนโตก็ยากที่จะห่างจากการที่จะถูกกระทบมัน ทางเดียวที่จะห่างจากมันก็คือ อพยพ ซึ่งมันก็ไม่ง่ายเหมือนกันสำหรับบางคน แต่ถ้าเรามาคิดว่าจะทำอย่างไรในเมื่อพระเจ้าสร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาและให้เราอยู่กับมัน
จะสื่อว่าอย่างไรกับหัวข้อครับ
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้็...? By: al-firdaus~* Date: ม.ค. 08, 2012, 10:57 AM
ตอนซื้อบ้าน เจ้าของเดิมเป็นคนพุทธ เลี้ยงหมาด้วย เราก็ล้างน้ำดินทั้งหลังค่ะ แล้วตามด้วยน้ำรวมเป็นเจ็ด บ้านสะอาด ไม่มีกลิ่น สบายใจด้วย
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้็...? By: GeT Date: ม.ค. 08, 2012, 11:41 AM
พอละหมาดซุบฮฺเสร็จอีหม่ามก็กล่าวว่า ...วันนี้จะนำเสนอเรื่องการทำความสะอาดรอยหมาและหมู...การทำความสะอาดถ้วยจานที่ถูกหมาเลียนั้น ต้องล้าง7ครั้ง และ1ใน7นั้นต้องมีน้ำดินด้วย (เราก็คิด เออ ยังพอฟังได้) อีหม่ามก็พูดต่อ ส่วนการล้างรอยที่เกิดจากหมูเลียนั้น ให้ล้างเพียง3ครั้ง (อ้าว)
เพราะในกุรอ่านและหะดิษ ไม่ได้มีบอกไว้ว่าให้ชำระล้างเหมือนกับการชำระล้างรอยหมา (อ้าว..เลอะกันแล้ว)
ผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ ว่าการชำระล้างน่ายิสมุฆ้อลล่ะเด๊าะห์ ต้องทำอย่างไร?
มันไม่ใช่ทัศนะของพวกวะฮาบีย์คนเดียวหรอกนะ ลองทบทวนคำพุดของอิมามอัน-นะวะวีย์ในชัรหฺเศาะฮีหฺมุสลิมต่อไปนี้สิ
وَأَمَّا الْخِنْزِيرُ فَحُكْمُهُ حُكْمُ الْكَلْبِ فِي هَذَا كُلِّهِ هَذَا مَذْهَبُنَا وَذَهَبَ أَكْثَرُ الْعُلَمَاءِ إِلَى أَنَّ الْخِنْزِيرَ لَا يَفْتَقِرُ إِلَى غَسْلِهِ سَبْعًا وَهُوَ قَوْلُ الشَّافِعِيِّ وَهُوَ قَوِيٌّ فِي الدَّلِيلِ
"ส่วนสุกรนั้น หุก่มของมันคือ (เหมือนกับ) หุก่มของสุนัขทุกอย่าง นี่คือทัศนะของมัซฮับเรา (มัซฮับชาฟิอีย์) และอุละมาอ์ส่วนใหญ่มีทัศนะว่า สุกรนั้นไม่จำเป็นต้องล้างเจ็ดครั้ง ซึ่งเป็นทัศนะของอิมามอัชชาฟิอีย์ และทัศนะนี้เป็นทัศนะที่เข้มแข็งในด้านของหลักฐาน" วัลลอฮุอะอฺลัม
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้็...? By: GeT Date: ม.ค. 08, 2012, 12:07 PM
และลองทบทวนการคัดค้านของอิมามอัน-นะวะวีย์ต่ออิมามอัช-ชีรอซีย์ ใน อัล-มัจญ์มูอฺ
[وأما الخنزير فنجس لانه اسوأ حالا من الكلب ]
อัช-ชีรอซีย์กล่าวว่า "ส่วนสุกรนั้นเป็นสัตว์ที่นะญิส เพราะมันเป็นสัตว์ที่มีสภาพ (รูปร่าง) ที่เลว (น่ารังเกียจ) กว่าสุนัข"
نَقَلَ ابْنُ الْمُنْذِرِ فِي كِتَابِ الْإِجْمَاعِ إجْمَاعَ الْعُلَمَاءِ عَلَى نَجَاسَةِ الْخِنْزِيرِ وَهُوَ أَوْلَى مَا يُحْتَجُّ بِهِ لَوْ ثَبَتَ الْإِجْمَاعُ وَلَكِنَّ مذهب مالك طهارة الخنزير مادام حَيًّا وَأَمَّا مَا احْتَجَّ بِهِ الْمُصَنِّفُ فَكَذَا احْتَجَّ بِهِ غَيْرُهُ وَلَا دَلَالَةَ فِيهِ وَلَيْسَ لَنَا دَلِيلٌ وَاضِحٌ عَلَى نَجَاسَةِ الْخِنْزِيرِ فِي حَيَاتِهِ
อัน-นะวะวีย์กล่าวค้านว่า "อิบนุ อัลมุนซิรได้อ้างมติเห็นพ้องของปวงปราชญ์ (อิจญ์มาอฺ) ว่าสุกรเป็นสิ่งที่นะญิส ซึ่งเป็นการอ้างหลักฐานที่ดีที่สุด ถ้าหากว่ามีมติเห็นพ้องจริง แต่ทว่าทัศนะของอิมามมาลิกถือว่าสุกรเป็นสิ่งที่สะอาดตราบใดที่มันยังมีชีวิตอยู่ ส่วนหลักฐานที่ผู้เขียน (หมายถึงชีรอซีย์) กล่าวอ้าง (ที่ว่าสุกรเป็นสัตว์ที่น่ารังเกียจกว่าสุนัข) และเช่นเดียวกับคนอื่นๆนั้ัน ไม่ได้บ่งชี้เลยแม้แต่นิดเดียวว่าสุกรนั้นเป็นนะญิส และเราไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนแม้แต่หลักฐานเดียวว่าสุกรนั้นเป็นสิ่งที่นะญิสในช่วงที่มันมีชีวิตอยู่"Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้็...? By: Sherazi Date: ม.ค. 08, 2012, 12:34 PM
อยากทราบมัสอะละห์เพิ่มเติมอ่ะครับพี่ๆ
1.สุนัขถ้าเดินเหยียบพื้นโดยที่ตัวของมันนั้นแห้ง เราต้องจำเป็นต้องล้างพื้นส่วนนั้นอีกไหมครับ?
2.เสื้อผ้ามือสองที่เราซื้อมานั้น จะต้องซักก่อนไหมครับ? เคยได้ยินมาว่าต้องซัก เลยอยากทราบข้อเท็จจริง
3.ถ้ารอยน่ายิสหมูอยู่บนดินอยู่แล้ว แล้วต้องใช้ดินในการล้างอีกไหมครับ?
ญาซากัลลอฮุค๊อยร็อนคร๊าบบบบบบบ
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้็...? By: iqwan Date: ม.ค. 08, 2012, 02:10 PM
(ด้วยความอยากรู้การล้างรอยหมูเลียถ้วยจานในทัษนะของ วะฮะบี)วันนี้เลยกลับไปละหมาดที่เดิมอีกครั้งพออีหม่ามให้สล่ามเสร็จละหมาดดุฮฺริ ผมก็ถามเรื่องการล้างรอยหมูเลียถ้วยจานอีกครั้ง?คำตอบที่ได้เหมือนเดิม
คือให้ล้าง3ครั้งเท่านั้น ผมก็เลยถามต่อไปว่า "ถ้าคุณคิดว่าในกุรอ่านและในหะดิษรวมทั้งบรรดาซอฮาบัตและบรรดาอุละมา
ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องการชำระล้างรอยหมูเลียถ้วยจานว่ากี่ครั้ง ที่จริงคุณก็ไม่น่าจะล้างรอยหมูเลียถ้วยจานนั้นๆ?
เพราะถ้าคุณชำระล้างมัน ก็เท่ากับว่าคุณทำบิดอะห์ที่ยิ่งใหญ่แล้ว" เท่านั้นแหละโกรธผมเป็นฟืนเป็นไฟ
อั้ลเลาะฮ์ ซุบฮานะฮูว่ะตะอาลา ทรงให้สติปัญญามนุษย์ ให้คิดและใคร่ครวญ สิ่งไหนดี ไม่ดี?เรื่องนี้เปรียบเสมือน
ปู่ของคุณปลูกต้นมะม่วงไว้ข้างบ้าน และมันให้ร่มเงา พร้อมกับผลที่หวานหอมและอร่อย รุ่นพ่อคุณก็ทนุถนอมให้น้ำให้ ให้ปุ๋ยมัน แต่พอมาถึงรุ่นของคุณ คุณกลับจะโค่นต้นมันทิ้ง เหตุผลเพียงเพราะว่า กลัวมันจะล้มใส่บ้านคุณ ทั้งๆที่ต้นและกิ่งของมันอยู่ห่างจากบ้านคุณมากกว่า20เมตร. เท่านั้นแหละที่ผมอยากชี้ให้คุณเห็น ส่วนเรื่องที่ผมเปรียบเทียบถ้าคุณไม่เข้าใจ พรุ่งนี้ไปพบที่บ้านผม
แล้วผมก้กลับบ้าน
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: nuree Date: ม.ค. 08, 2012, 08:27 PM
เข้าใจหาเรื่องทะเลาะ
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้็...? By: muqorrabeen Date: ม.ค. 09, 2012, 06:34 AM
ในหนังสือนิฮายะตุลมุห์ตาจญฺ จากฟิกห์มัซฮับชาฟิอีย์ ระบุว่า
وَ الْأَظْهَرُ أَنَّ الْخِنْزِيرَ كَكَلْبٍ لِأَنَّ الْخِنْزِيرَ أَسْوَأُ حَالًا مِنْ الْكَلْبِ ، لِأَنَّ تَحْرِيمَهُ مَنْصُوصٌ عَلَيْهِ فِي الْقُرْآنِ وَمُتَّفَقٌ عَلَيْهِ ، وَتَحْرِيمُ الْكَلْبِ مُجْتَهَدٌ فِيهِ وَمُخْتَلَفٌ فِيهِ ، وَلِأَنَّهُ لَا يَحِلُّ اقْتِنَاؤُهُ بِحَالٍ بِخِلَافِ الْكَلْبِ ، وَلِأَنَّهُ يُنْدَبُ قَتْلُهُ لَا لِضَرُورَةٍ ،...وَالثَّانِي يَكْفِي غَسْلُ ذَلِكَ مَرَّةً وَاحِدَةً مِنْ غَيْرِ تُرَابٍ كَسَائِرِ النَّجَاسَاتِ لِأَنَّ الْوَارِدَ فِي الْكَلْبِ وَمَا ذُكِرَ لَا يُسَمَّى كَلْبًا
“คำพูดที่มีน้ำหนักยิ่งกว่าของอิมามชาฟิอี คือหมูนั้นเหมือนกับหมา เพราะหมูนั้นสภาพน่ารังเกียจกว่าหมา เพราะการหะรอมหมูนั้นถูกระบุไว้ในอัลกุรอานและมีมติพร้องกัน ส่วนหมาต้องใช้หลักวินิจฉัยและมีการขัดแย้งกัน และหมูนั้นไม่อนุมัติให้นำมาเลี้ยงเลยซึ่งต่างกับหมา(เลี้ยงเพื่อเฝ้าเรือกสวนได้) และหมูนั้นสุนัตให้ฆ่า ส่วนทัศนะที่สองจากคำพูดที่ดออีฟคือ เพียงพอในรอยหมูเพียงล้างหนึ่งครั้งโดยไม่ต้องใช้ดินเพราะเปรียบเทียบกับนะยิสอื่นๆ เพราะตัวบทให้ล้างด้วยดินนั้นเกี่ยวกับหมา และสิ่งที่ถูกกล่าวมานั้นไม่ถูกเรียกว่าหมา” นิฮายะตุลมุห์ตาจญฺ อิมามรอมลี
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: iqwan Date: ม.ค. 09, 2012, 06:43 AM
เข้าใจหาเรื่องทะเลาะبسم الله الر حمن الر حيم اسلا م عليكم ورحم ت الله وبركا ته
การให้ความเข้าใจกับการโต้เถียง มันใกล้เคียงกันมาก