กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ชี้แจงแนวทางอะฮฺลิสสุนนะฮ์ฯ
Pages: 1234
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: nuree Date: ม.ค. 10, 2012, 08:36 PM
 :salam:
ระดับมุจญตะฮิดมุฏลัก ไม่ใช่มะซูม
 :salam:
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: hiddenmin Date: ม.ค. 10, 2012, 08:49 PM
:salam:
ระดับมุจญตะฮิดมุฏลัก ไม่ใช่มะซูม
 :salam:

วอลัยกุมุสสลาม

หลงประเด็นอะไรอยู่รึเปล่าครับ

:salam:
ถามว่า ทำไม อีหมาม ซาฟีอี ไม่เลือกทางที่เหมือนกับ อีหมามมาลิก จะได้ไม่ต้องมีหลายทาง


เพราะท่านอยู่ในระดับมุจญตะฮิดมุฏลัก

Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: Deeneeyah Date: ม.ค. 11, 2012, 12:51 AM
:salam:

ตามหลักการดังกล่าวของพวกเขาคือ  ขี้สุนัขที่เปื้อนเสื้อผ้าและภาชนะ  ก็ไม่จำเป็นต้องล้างเจ็ดน้ำ  เพราะในอัลกุรอานและอัลหะดีษไม่ได้บอกระบุว่าให้ชำระล้างรอยขี้สุนัข  แต่มีอัลหะดีษระบุให้ล้างเพียงแค่รอยน้ำลายเท่านั้น  ส่วนแนวทางของเราต้องล้างรอยขี้สุนัขเจ็ดน้ำด้วย  ถึงแม้ว่าไม่มีตัวบทหะดีษระบุเจาะจงสั่งไว้ก็ตาม  เพราะใช้หลักกิยาสเอาลาวีย์  การเทียบเคียงที่เหนือกว่า  คือขี้สุนัขสกปรกยิ่งกว่าน้ำลายสุนัข  ดังนั้นการล้างร้อยเปื้อนขี้สุนัข  จำเป็นยิ่งกว่าที่จะล้างเจ็ดน้ำ   เรื่องสุกรนั้นมัซฮับชาฟิอีย์ก็ใช้กิยาสเอาลาวีย์เหมือนกัน  คืออัลกุรอานห้ามให้รับประทานเนื้อสุกรเป็นการเฉพาะพร้อมทั้งสุกรนั้นน่ารังเกียจยิ่งกว่าสุนัข  ดังนั้นสุกรจึงสมควรยิ่งกว่าที่จะล้างเจ็ดน้ำ

ส่วนแนวทางของเขา  จะล้างกี่น้ำ  ก็เป็นทัศนะของเขาไป  ส่วนทัศนะของเรา  ก็ล้างเจ็ดน้ำครับ

วัลลอฮุอะลัม
   


ผมเคยเจอเขาบอกว่า "เฉพาะภาชนะเท่านั้นที่ต้องล้างน้ำเจ็ดครั้ง หนึ่งในนั้นด้วยน้ำดิน" ---ถ้าน้ำลายสุนัขเปื้อนที่อื่นที่ไม่ใช่ภาชนะ ก็ไม่ต้องล้างน้ำดิน---

คิดว่าแบบนี้ก็คงมีอุละมาในอดีตไว้แล้วมั่งครับ
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: Muftee Date: ม.ค. 11, 2012, 08:07 AM

ที่บัง Deeneeyah พูดก็มีเหตุผลเหมือนกัน  ในหะดีษระบุว่า นบีให้ล้าง 7 น้ำ เมื่อสุนัขเลียภาชนะเท่านั้น  แล้วถ้าสุนัขเลียขา หรือ เลียเบาะที่นั่ง หรือเลียเสื้อผ้า ละ.. จะทำไง ต้องล้างเจ็ดน้ำด้วยป่าว ?? แล้วถ้าเราไปล้างเจ็ดน้ำจะเป็นบิดอะฮฺที่หลงผิดหรือเปล่า ?? เพราะนบี (ซ.ล.) ไม่ได้ทำ แล้วก็ไม่ได้สั่ง !!!
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: nuree Date: ม.ค. 11, 2012, 08:22 AM
 :salam:
 แล้วถ้าเราไปล้างเจ็ดน้ำจะเป็นบิดอะฮฺที่หลงผิดหรือเปล่า ??
---------------------------------------------
แนวทางของอิสลาม จะเจริญได้อยาก
 :salam:

Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: Muftee Date: ม.ค. 11, 2012, 08:30 AM
:salam:
 แล้วถ้าเราไปล้างเจ็ดน้ำจะเป็นบิดอะฮฺที่หลงผิดหรือเปล่า ??
---------------------------------------------
แนวทางของอิสลาม จะเจริญได้อยาก
 :salam:


เพราะมีวะฮาบีย์เยอะนะครับ จากที่เจริญยาก เลยกลายเป็นล่มจมสะเลยทีเดียว  สังเกตได้จากการล่มสลายของเคาะลีฟะฮฺ ราชวงศ์อุษมานียะฮฺครับ ส่วนหนึ่งก็มาจากฝีมือของวะฮาบีย์ที่คอยทำลายระบบเคาะลีฟะฮฺ ของราชวงศ์อุษมานียะฮฺครับ
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: nuree Date: ม.ค. 11, 2012, 09:08 AM
 :salam:การล่มสลายของเคาะลีฟะฮฺ ราชวงศ์อุษมานียะฮฺ
เท่าที่ผมทราบ อับดุลวาฮาบเข้ามาปลายๆยุคของอุษมานียะห์ เพื่อเรียกร้องให้กลับมาสู่ซุนนะห์
ส่วนการล่มสลายของระบบคอลีฟะห์นั้น เกิดขึ้นกับ กามาล อาตาตุกที่ไปทำสัญญากับอังกฤษ
 :salam:
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: sufriyan Date: ม.ค. 11, 2012, 09:36 AM
:salam:การล่มสลายของเคาะลีฟะฮฺ ราชวงศ์อุษมานียะฮฺ
เท่าที่ผมทราบ อับดุลวาฮาบเข้ามาปลายๆยุคของอุษมานียะห์ เพื่อเรียกร้องให้กลับมาสู่ซุนนะห์
ส่วนการล่มสลายของระบบคอลีฟะห์นั้น เกิดขึ้นกับ กามาล อาตาตุกที่ไปทำสัญญากับอังกฤษ
 :salam:

ในปี พ.ศ. 2455 กลุ่มผู้เคร่งตามแบบของวะฮาบีย์ได้ปฏิรูปขบวนการอัลอิควาน (ภราดร) ขึ้น ขบวนการนี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีเป้าหมายสนับสนุนอับดุลอะซีซ ปีต่อมา กองทัพภราดร จำนวน 1,500 คนนำโดยอับดุลอะซีซเอง ได้เข้าโจมตีกองทัพของอาณาจักรอุษมานยะหฺ ซึ่งมีจำนวน 1,000 คน ที่ ฮูฟูฟ เมืองหลวงของฮะซาอ์ จนกระทั่งสามารถยึดเมืองหลวงนี้ได้ ตั้งแต่นั้นมาขบวนการอัลอิควานก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นมากมายหลายเท่า อับดุลอะซีซได้ออกกฎหมายให้ประชาชนในเขตการปกครองของตน จ่ายซะกาตแก่รัฐ

การติดต่อกับเซอร์ เพอร์ซี คอกซ์ (Sir Percy Cox) ที่ อัลอูเกร เดือนพฤศจิกายน 2459 ยังผลให้ อับดุลอะซีซได้เซ็นสัญญาสัมพันธไมตรีกับอังกฤษ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2549 อังกฤษยอมรับอับดุลอะซีซว่าเป็นสุลต่านแห่งนะญัด เทียมเท่าสุลต่านแห่งอุษมานียะหฺ พร้อมให้ทรัพย์สนับสนุนรายเดือนเป็นทองคำหนัก 5,000 ปอนด์ในแต่ละเดือน พร้อมด้วยอาวุธสงคราม อับดุลอะซีซและวะฮาบีย์กลายเป็นที่เกรงขามของผู้คนในภูมิภาค อังกฤษได้ส่ง จอห์น ฟิลบี (John Philby) ข้าราชการดูแลอาณานิคมอินเดีย ไปยุยงอับดุลอะซีซ ให้โจมตีเพื่อยึดเมืองฮาอิล ในปี 2461 - 2462 อับดุลอะซีซพยายามโจมตีแต่ไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตามอังกฤษได้จ่ายค่าตอบแทนภารกิจครั้งนี้ด้วยการให้เงินเดือน ๆ ละ 75,000 รูปี
                                                     
                                                           วันที่ 10 ตุลาคม 2463 กองทัพวะฮาบีย์โจมตีและยึดเมืองอัลญะหฺเราะหฺในคูเวตได้
                                                     
                                                           ปี พ.ศ. 2467 กองทัพวะฮาบีย์ได้บุกเข้าทำลายสิ่งประดับสุสานอิมามฮุเซนที่กัรบะลาอ์ในอิรักอีกครั้ง ในปีเดียวกัน กองทัพวะฮาบีย์ได้บุกเข้าคว้นฮิญาซอีกครั้ง และทำให้เกิดคนล้มตายไปอีก
                                                     
                                                           ต่อมาในปี พ.ศ. 2468 กองทัพวะฮาบีย์บุกโจมตีมหานครมะดีนะหฺ วันพุธ ที่ 21 เมษายน 2468 อับดุลอะซีซ บินสะอูด มีคำสั่งให้ทำลายสิ่งก่อสร้างและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ไปจนหมดสิ้น รวมทั้งมัสยิดของท่านนบีมุฮัมมัด นอกจากนี้ยังได้ทำลายสิ่งประดับสุสานของฮัมซะหฺ น้าท่านนบีมุฮัมมัด ที่อยู่ที่สนามรบอุฮุด รวมทั้งสุสานสาวกท่านอื่น ๆ ที่เสียชีวิตที่นั่น ปีเดียวกันนั้น บ้านอันเป็นที่เกิดของท่านนบีมุฮัมมัด ก็ถูกทำลาย พร้อม ๆ กับการทำลายสิ่งประดับสุสานมุอัลลา อันเป็นสุสานบุคคลสำคัญในอิสลาม ในมหานครมักกะหฺ ในนั้นมีสุสานมารดา ภรรยา และปู่ และบรรบุรุษของท่านศาสนทูต
                                                     
                                                           ในปี 2469 อับดุลอะซีซ สถาปนาตนเองในมัสยิดอัลฮะรอม มักกะหฺ เป็นกษัตริย์ของฮิญาซ และความขัดแย้งภายในก็เริ่มบานปลาย ฟัยศอล อัดดุเวช และสุลฏอน บินบีญาด ผู้นำขบวนการอัลอิควานเคยหวังว่าตนจะได้เป็นเจ้าเมืองมักกะหฺและมะดีนะหฺ อันเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติยิ่ง หลังจากที่ได้ช่วยเหลืออับดุลอะซีซขยายอาณาเขต และยึดเมืองต่าง ๆ โดยเฉพาะฮิญาซ ซึ่งเมืองทั้งสองก็อยู่ในแคว้นนี้ ทั้งสองได้รวมตัวกับ ซีดาน บินฮิษลีน ก่อกบฏต่อต้านอับดุลอะซีซ วันที่ 30 มีนาคม 2472 อับดุลอะซีซได้นำพลทหาร 40,000 คนเอาชนะกองกำลังของพวกอัลอิควานที่สะบาละหฺจนล้มตายมากมายภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง

http://muslimchiangmai.net/index.php?topic=2407.0

Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: Muftee Date: ม.ค. 11, 2012, 09:52 AM
:salam:การล่มสลายของเคาะลีฟะฮฺ ราชวงศ์อุษมานียะฮฺ
เท่าที่ผมทราบ อับดุลวาฮาบเข้ามาปลายๆยุคของอุษมานียะห์ เพื่อเรียกร้องให้กลับมาสู่ซุนนะห์
ส่วนการล่มสลายของระบบคอลีฟะห์นั้น เกิดขึ้นกับ กามาล อาตาตุกที่ไปทำสัญญากับอังกฤษ
 :salam:

ในเมื่อทราบมาแค่นี้ ก็ไปหาอ่านเพิ่มสะนะครับ ในเวปไซด์มีมากมายเลยครับ
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: nuree Date: ม.ค. 11, 2012, 10:21 AM
 :salam:ในเมื่อทราบมาแค่นี้ ก็ไปหาอ่านเพิ่มสะนะครับ ในเวปไซด์มีมากมายเลยครับ...........
------------------
ผมพอจะเดาออกว่าคุณจะพาประเด็นไปไหน และจะไม่จบจนกว่าจะตายไปข้าง ซึ่งนี่แหละคือปัญหา
เสียเวลาไปตั้งมากมาย สุดท้ายก็กลับมาที่เดิม
ผมไม่ทะเลาะด้วยนะครับ
 :salam:

Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: iqwan Date: ม.ค. 11, 2012, 01:35 PM
:salam:ในเมื่อทราบมาแค่นี้ ก็ไปหาอ่านเพิ่มสะนะครับ ในเวปไซด์มีมากมายเลยครับ...........
------------------
ผมพอจะเดาออกว่าคุณจะพาประเด็นไปไหน และจะไม่จบจนกว่าจะตายไปข้าง ซึ่งนี่แหละคือปัญหา
เสียเวลาไปตั้งมากมาย สุดท้ายก็กลับมาที่เดิม
ผมไม่ทะเลาะด้วยนะครับ
 :salam:

:salam: นี่แหละ แบบนี้เลย เหมือนกันเป๊ะเลย? พอมีหลักฐานมาอ้างอิงก็ไม่ยอมฟังไม่ยอมอ่านไม่อยากค้นคว้า สุดท้ายก็บอกว่า
ผมไม่ทะเลาะด้วยนะครับแหม!!!มาจากเบ้าเดียวกันจริงๆ
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: pajupong Date: ม.ค. 14, 2012, 10:03 AM
อัลฮัมดุลิลละห อ่านจบกระทู้พอดีเลย 

        จริงๆ ประเด็นเรื่องนี้ ไม่น่าจะเป็นประเด็นยาวเลยน่ะครับ   มันเป็นทัศนะ ทางฟิกฮ์ที่มีคีลาฟ เราต่างก็ให้เกียรติในทัศนะที่ต่างกัน ดังเว็บไซต์นี้ให้เกียรติกับทัศนะมัซฮับ ทั้ง 4         
       ข้อมูล ที่คุณ Get ยกมาก็เป็นข้อมูลที่น่าสนใจมาก
 อีกอย่าง เราจะเหมารวมว่าวะฮาบีย์มีทัศนะอย่างเจ้าของกระทู้บอกนั้น มันก็ไม่ถูก วะฮาบีย์คือกลุ่มที่แนวคิดด้านอากีดะห์ที่ต่างจากพี่น้องในเว็บนั้นใช่น่ะครับ แต่ทัศนะทางฟิกฮ์ของพี่น้องวะฮาบีย์นั้นในบ้านเราย้ำบ้านเรา ก็ไม่ได้มีทัศนะทางฟิกฮ์ที่เหมือนกันทุกเรื่อง ผมได้เรียนกับอาจารย์วะฮาบีย์หลายท่านในเรื่องฟิกฮ์ ต่างก็ให้ทัศนะคนละอย่าง  จะเหมารวมไม่ได้น่ะครับ
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: pajupong Date: ม.ค. 14, 2012, 10:09 AM
อัสลามมูอาลัยกุมครับพี่น้อง
คือสงสัยครับว่า...คนวะฮ์บีตามอุลามาห์ด้วยหรือครับ... เพราะที่เจอๆมาจะผมมักจะได้ยินประโยคนี้

...เรามีกีตาบุลเลาะฮฺ เรามีสุนนะห์  อัลเลาะห์ให้ปัญญากับเรา เราวินิจฉัยเองได้ อุลามาห์อาจมีถูกมีผิด ....

ไม่น่าจะเป็นคำถามเลยน่ะครับ
อ้างถึง
.. เพราะที่เจอๆมาจะผมมักจะได้ยินประโยคนี้
   
ก็เพราะที่เจอมา ไม่ได้ไปเจอหรือถามผู้รู้วะฮะบีย์นะสิครับ   
ไม่มีผู้รู้สายใดหรอกครับ ที่สอนโดยไม่ได้ ดูชะเราะห์หะดิษ  ไม่ได้ดูตัฟซีร   

ถ้าคุณอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับ มหาลัยแห่งหนึ่ง คุณไม่อาจจะไปถามข้อมูลจากคนขายลูกชิ้น หรือแม้แต่ยามหน้ามหาลัยได้หรอกครับ  คุณต้องทราบข้อมูลจากที่ที่ถูกต้องครับ
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: pajupong Date: ม.ค. 14, 2012, 10:16 AM
ยังมีประเด็นอีกมากมาย ที่พี่น้องเราทำ แต่ไม่ได้มีแบบอย่างจากร่องรอยของสะลัฟ หรือบนเส้นทางคีลาฟของอุลามาอ แม้แต่น้อย  เป็นประเด็นที่เราน่าจะตั้งกระทู้เพื่อช่วยกัน สอบถามวิชาการเพื่อนำไปบอกต่อกับพี่น้องเรา จำนวนมากทียังไม่รู้อะไรเลย หรือรู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นได้ผลบุญแต่จริงๆแล้วหาใช่เลย    สิ่งที่น่ากลัวและสงสารมากคือ     ไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้         
Re: วะฮะบี ว่าอย่างนี้...? By: hiddenmin Date: ม.ค. 14, 2012, 05:07 PM
ตั้งกระทู้เลยครับ