
ท่านอิหม่ามอิบนุอะฏออิลลาฮ์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือฮิกัมของท่านว่า:
مَا اسْتُوْدِعَ فِي غَيْبِ السَّراَئِرِ ظَهَرَ فِي شَهَادَةِ الظَّوَاهِرِ
“สิ่งที่ถูกบรรจุไว้ในจิตใจที่มองไม่เห็น (ด้วยตา) มันจะปรากฏให้เห็นทางภายนอก”
ฮิกัมนี้วางอยู่บนพื้นฐานของคำกล่าวของท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จากฮะดีษที่ซอฮิห์ความว่า
أَلاَ وَإِنَّ فِي الْجَسَدِ مُضْغَةً إِذَا صَلَحَتْ صَلَحَ الْجَسَدُ كُلُّهُ وَإِذَا فَسَدَتْ فَسَدَ الْجَسَدُ كُلُّهُ أَلاَ وَهِيَ الْقَلْبُ
“พึงทราบเถิด แท้จริงในร่างกายนั้น มีก้อนเนื้อก้อนหนึ่ง เมื่อมันดี ร่างกายทั้งหมดก็จะดีด้วย และเมื่อมันไม่ดี ร่างกายทั้งหมดก็จะไม่ดีด้วย พึงทราบเถิด มันคือหัวใจ” รายงานโดยบุคอรีย์, ฮะดีษเลขที่ 52, ดู ซอฮิห์อัลบุคอรีย์, หน้า 25 - 26 .
ความหมายของฮะดีษคือ สิ่งที่ชักนำให้มนุษย์มีพฤติกรรมหรือผลักดันให้เขาเลือกปฏิบัติสิ่งต่างๆ คือความรู้สึกภายในที่มันได้สะท้อนออกมาจากหัวใจ ในทำนองเดียวกันกับความคิดและการรับรู้เป็นผลที่ได้สะท้อนออกมาจากสมอง แต่ส่วนมากแล้วพฤติกรรมทั้งหลายของมนุษย์จะเป็นผลสะท้อนออกมาจากหัวใจ
ดังนั้นสิ่งที่แสดงออกมาจากมนุษย์ ไม่ว่าจะมาจากลิ้นหรืออวัยวะร่างกายต่างๆ การเคลื่อนไหวหรือการหยุดนิ่งของเขา ล้วนแต่รับคำบัญชาจากหัวใจ ฉะนั้นหากหัวใจของมนุษย์บริสุทธิ์จากความมัวหมอง อีกทั้งมีชีวิตชีวาด้วยความตักวาต่ออัลลอฮ์ตะอาลา พฤติกรรมก็จะถูกแสดงให้เห็นทางภายนอกเช่นกัน ด้วยการปฏิบัติตามคำบัญชาใช้ของอัลลอฮ์และการมีจรรยามารยาทที่ดีงาม
แต่ถ้าหากหัวใจของเขามีแต่การหลอกลวง กลับกลอก ไม่มีความบริสุทธิ์ใจ สิ่งดังกล่าวก็ย่อมเผยให้เห็นทางภายนอก การคบค้าสมาคมกับผู้อื่นก็จะเผยคุณลักษณะเช่นนี้ออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้นเช่นกัน บุคคลที่มีหัวใจประเภทที่สองนี้มีความพยายามที่จะปกปิดอุปนิสัยหน้าไหว้หลังหลอก จิตใจยโสโอหังรู้สึกว่าตนเองดีกว่าคนอื่น พยายามที่จะปกปิดความชั่วร้ายที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในหัวใจไม่ให้ใครเห็น แต่ทว่าความพยายามเช่นนี้จะประสบความสำเร็จน้อยเหลือเกิน เพราะความดีงามที่ถูกแสดงออกมาทางภายนอกนั้น หากไม่มีการเชื่อมต่อความดีงามที่ฝังลึกอยู่ภายในจิตใจแล้ว มันย่อมไม่มีชีวิตชีวา และพฤติกรรมที่แสดงออกมาให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ ก็จะไร้ความน่าเชื่อถือ เพราะเป็นผลสืบเนื่องมาจากความหมองมัวของหัวใจที่อยู่ภายในนั่นเอง
บางท่านอาจจะตั้งคำถามว่า ยังมีผู้คนที่จิตใจของเขาไม่บริสุทธิ์ มีความเบี่ยงเบนออกจากสัจธรรม และตกอยู่ในการฝ่าฝืนที่ซ่อนเร้นจากสายตาของผู้คนทั้งหลาย และสิ่งดังกล่าวนั้นก็ไม่ถูกแสดงให้เห็นออกมาทางพฤติกรรมภายนอกของพวกเขา ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังคงได้รับการปกป้องจากอัลลอฮ์ ด้วยการที่พระองค์ได้ทรงปกปิดความไม่บริสุทธิ์ใจของเขามิให้เปิดเผยแก่สายตาของผู้คนทั้งหลาย ซึ่งดังกล่าวนี้ถือว่าค้านกับคำพูดของท่านอิบนุอะฏออิลลาฮ์หรือไม่?
คำตอบก็คือ สภาวะของหัวใจและสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิตใจที่มาจากเจตนา ความรู้สึก และความปรารถนานั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเผยออกมาให้เห็นทางภายนอก
แต่การฝ่าฝืนที่บุคคลหนึ่งได้กระทำในสถานที่ลับและซ่อนเร้นจากผู้คนทั้งหลายนั้น จริงๆ แล้วเป็นการกระทำที่แสดงออกมาภายนอกแต่อัลลอฮ์ตะอาลาทรงปกปิดมันไว้ไม่ให้ผู้อื่นเห็น นับเป็นความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่มีต่อบ่าว ในการที่พระองค์ได้ให้แต่สิ่งดีงามของพวกเขาปรากฏแก่สายตาของผู้คนทั่วไปแม้ว่ามันจะเป็นความดีงามที่เล็กน้อยก็ตาม และพระองค์ได้ทรงปกปิดสิ่งที่น่ารังเกียจจากสายตาผู้คนทั้งหลาย แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ตาม
ดังนั้นตราบใดที่การฝ่าฝืนทั้งหลายที่มนุษย์ทำขึ้นอย่างลับๆ โดยที่การฝ่าฝืนเหล่านั้นมิได้ออกมาจากเบื้องลึกของจิตใจที่มีความดันทุรัง ดื้อดึง โอ้อวด ลำพองตน และยโสโอหัง แต่ออกมาจากจิตใจที่มีความอ่อนแอ พ่ายแพ้ต่ออารมณ์ใฝ่ต่ำ และรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อย ซึ่งตามวิถีของอัลลอฮ์แล้ว พระองค์จะทำให้การฝ่าฝืนที่ได้กระทำนั้นเป็นความลับระหว่างบ่าวกับพระองค์ และหวังว่าเขาจะทำการเตาบะฮ์ก่อนความตายจะมาถึง แล้วพระองค์ก็จะทรงอภัยโทษให้ในวันกิยามะฮ์
สำหรับผู้ที่กระทำการฝ่าฝืน อันเป็นผลลัพธ์มาจากเจตนาที่เลวร้ายหรือเป็นผลมาจากความดันทุรัง ความยโสโอหัง และคิดว่าตัวเองดีกว่าผู้อื่น แน่นอนกลิ่นอายที่โสมมในจิตใจก็จะฟุ้งออกมาทางพฤติกรรมให้เห็นในหมู่ผู้คนทั้งหลาย เนื่องจากการฝ่าฝืนที่มาจากเบื้องลึกของจิตใจที่มัวหมองไม่บริสุทธิ์นั้น เป็นเสมือนควันของไฟที่เผาไหม้อยู่ภายในจิตใจ เมื่อใดที่จิตใจลุกโชนด้วยไฟของอารมณ์ใฝ่ต่ำตามนัยยะดังกล่าว ย่อมต้องมีควันปรากฏออกมาให้เห็นต่อสายของผู้คนทั้งหลาย
ดังนั้นหากเรากลับมาพิจารณาเหตุการณ์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเผยแพร่ศาสนาตามทัศนะที่ตนเองเชื่อถือ หรือเรื่องยศตำแหน่งในสังคม ก็จะเห็นพฤติกรรมที่แสดงออกมาทางภายนอก ไม่ว่าจะเป็นคำพูดที่มีการด่าทอและหยาบคาย มีพฤติกรรมที่ยโสและดันทุรัง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นกลิ่นอายที่ออกมาจากจิตใจอันเลวร้ายนั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ ท่านอิบนุอะฏออิลลาฮ์ ได้กล่าวว่า “หรือท่านจะปรับปรุงภายนอกของท่านให้ดูดีแต่กลับสร้างความเสื่อมเสียภายในจิตใจของท่าน ดังนั้นอุปมาตัวท่านเสมือนกับผู้ที่เป็นโรคเรื้อนที่สวมใส่เสื้อตัวใหม่ แล้วน้ำเหลืองน้ำหนองที่อยู่ข้างในก็จะไหลออกจากเสื้อนั้น เพราะฉะนั้นท่านจะปรับปรุงให้ดูดีในสิ่งที่มนุษย์เห็นโดยไม่ปรับปรุงหัวใจของท่านที่อัลเลาะฮ์ทรงเห็นดอกหรือ? ” อิบนุอะฏออิลลาฮ์, ตาญูลอุรูช, หน้า 467 .
ดาวน์โหลด
tags:
แสดงความคิดเห็น