Re: หากมีคำถามว่าพระองค์อัลลอฮ.อยู่ที่ไหน? By: ILHAM Date: พ.ย. 02, 2008, 02:34 AM
^
^
^
บางครั้งก็เคยจินตนาการเหตุการณ์ในวันนั้นนะครับ ไม่ได้ตั้งใจ แต่รูปมันมาเอง
Re: หากมีคำถามว่าพระองค์อัลลอฮ.อยู่ที่ไหน? By: shabab00 Date: พ.ย. 02, 2008, 04:10 AM
อาจารย์ อัซอารีครับ ตกลงอัลลอฮอยู่ที่ไหนครับ อยากรู้ครับ
Re: หากมีคำถามว่าพระองค์อัลลอฮ.อยู่ที่ไหน? By: al-azhary Date: พ.ย. 02, 2008, 08:00 AM
salam
วะฮาบีย์เป็นกลุ่มชนที่ชอบถามที่สุดว่า อัลเลาะฮ์อยู่ใหนเพื่อทดสอบอะกีดะฮ์ที่เขาเชื่อว่าอัลเลาะฮ์มีสถานที่นั่งสถิตอยู่ แต่จิตใจของเราเชื่อมั่นแต่ว่า อัลเลาะฮ์มีฐานันดรสูงส่ง มิใช่มีสถานที่สถิตนั่งอยู่แบบสูงๆ (ตามหลักความเชื่อของวะฮาบีย์) และเราเองก็แค่มนุษย์เดินดิน พอวะฮาบีย์มาถามว่าอัลเลาะฮ์อยู่ที่ใหน ก็นึกถึงมะลาอิกะฮ์ผู้ทำหน้าที่แบกอะรัชซึ่งยังไม่รู้เลยว่าอัลเลาะฮ์อยู่ใหน?
รายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะฮ์(ร.ฏ.) ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ (ซ.ล.) กล่าวว่า
أُذِنَ لِىْ أَنْ أُحَدِّثَ عَنْ مَلَكٍ قَدْ مَرَقَتْ رِجْلاَهُ فِى الأَرْضِ السَّابِعَةِ ، وَالْعَرْشُ عَلىَ مَنْكِبِهِ ، وَهُوَ يَقُوْلُ سَبْحَانَكَ أَيْنَ كُنْتَ وَأَيْنَ تَكُوْنُ
"ฉันได้รับอนุญาตให้เล่าจากเรื่องมะลาอิกะฮ์ท่านหนึ่ง ซึ่งทั้งสองเท้าของเขาผ่านเข้ามาในแผ่นดินชั้นที่ 7 โดยที่อารัช(บัลลังก์)อยู่บนบ่าของเขา และมะลาอิกะฮ์(ผู้แบกบัลลังก์)ก็กล่าวว่า มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ท่าน พระองค์ท่านทรงอยู่ใหนและพระองค์กำลังอยู่ใหน" หะดิษนี้ ซอฮิหฺ
ท่านอะบียะอฺลาได้รายงานฮะดิษไว้ใน มุสนัดของท่าน เล่ม 11 หน้า 496 หะดิษที่ 6619 , ท่านอัลหาฟิซฺ อิบนุหะญัร ได้ตัดสินซอฮิหฺไว้ในหนังสือ อัลมะฏอลิบ อัลอาลิยะฮ์ บิซะวาอิด อัษษะมานียะฮ์ เล่ม 3 หน้า 267 ซึ่งท่านอิบนุหะญัรกล่าวว่า (ให้กับฮะดิษของอบียะอฺลา นั้น หะดิษซอฮิหฺ) , และท่านอัลหาฟิซฺ อัลฮัยษะมีย์ ได้กล่าวยืนยันไว้ในหนังสือ มัจญฺมะอ์ อัซซะวาอิด เล่ม 1 หน้า 80 โดยท่าน อัลฮัยษะมีย์กล่าวว่า (รายงานโดยอบูยะอฺลา และบรรดานักรายงานหะดิษนี้ เป็นนักรายงานที่ซอฮิหฺ) , ท่านอิมามอัศศะยูฏีย์ได้รายงานไว้ในหนังสืออัลญาเมี๊ยะอฺอัศศ่อฆีร ฮะดิษลำดับที่ (906) , และฮะดิษนี้ได้รับการสนับสนุนจากจากฮะดิษท่านญาบิร บิน อับดิลลาฮ์ ด้วยสองรายงาน ซึ่งรายงานโดยท่านอะบูดาวูด ฮะดิษลำดับที่ (4727) และอัลบานีย์เอง ก็ตัดสินว่าเป็นฮะดิษซอฮิห์ ไว้ในหนังสือ มุตตะซ็อรสุนันอะบีดาวูด (4727) , และอัลบานีย์ยังตัดสินเป็นฮะดิษซอฮิห์ไว้ในหนังสือ ญาเมี๊ยะอฺอัศศ่อฮิห์ (854)
คุณ shabab00 ครับ คุณเชื่ออัลกุรอานและฮะดิษทั้งหมดแล้วแปลตามตัวโดยไม่ตีความใช่ไหมครับ งั้นผมขออยากถามหน่อยว่า เมื่อบรรดาตัวบทอัลกุรอานและฮะดิษที่ซอฮิห์ได้ระบุว่า อัลเลาะฮ์อยู่ในฟ้า , อัลเลาะฮ์อยู่ใกล้ชิดเรายิ่งกว่าเส้นเอ็นที่ต้นคอ , พระองค์อยู่กับเราไม่ว่าเราจะอยู่ใหน , พระองค์อยู่ระหว่างเรากับกิบลัต , พระองค์อยู่เหนือบัลลังก์ , และมะลาอิกะฮ์ผู้แบกบัลลังก์ยังไม่รู้ว่าอัลเลาะฮ์อยู่ที่ใหน , แต่กลับมีฮะดิษซอฮฺห์บอกว่าเลาฮิลมะห์ฟูซฺอยู่บนบัลลังก์ , ซึ่งประมวลหลักฐานทั้งหมดโดยที่เราไม่ปฏิเสธหลักฐานใดหลักฐานหนึ่ง แล้วทำการรวมหลักฐานทั้งหมด แล้วคุณ shabab00 จะบอกว่าอัลเลาะฮ์อยู่ใหนดีโดยที่ไม่ปฏิเสธความหมายโดยตรงสักตัวบทเดียวเลย หรือว่า "พวกเจ้าจะศรัทธาคำภีร์เพียงบางส่วนและปฏิเสธมันเพียงบางส่วนกระนั้นหรือ?" อัลบะกอเราะฮ์ 85อาจารย์ อัซอารีครับ ตกลงอัลลอฮอยู่ที่ไหนครับ อยากรู้ครับ
ผมขอตอบด้วยอายะฮ์อัลกุรอานที่ว่า : "...แท้จริง(อัลเลาะฮ์)ข้าเป็นผู้ใกล้ชิด (กับพวกเจ้า) ข้าคอยสนองตอบคำวอนของผู้วอนขอ เมื่อเขาได้วอนขอต่อข้า" ตัฟซีรอิบนุกะษีร อายะฮ์ที่ 186 ซูเราะฮ์อัลบะกอเราะฮ์
ท่านอิมาม อิบนุ ญะรีร อัฏเฏาะบะรีย์ อุลามาอ์สะลัฟและอิมามแห่งปราชญ์นักตัฟซีร ได้กล่าวอธิบายเชิงสนับสนุนยอมรับอีกว่า
يَعْنِي تَعَالَى ذِكْره بِذَلِكَ : وَإِذَا سَأَلَك يَا مُحَمَّد عِبَادِي عَنِّي أَيْنَ أَنَا ؟ فَإِنِّي قَرِيب مِنْهُمْ أَسْمَع دُعَاءَهُمْ , وَأُجِيب دَعْوَة الدَّاعِي مِنْهُمْ
ความหมายของอัลเลาะฮ์ตะอาลา ด้วยกับอายะฮ์ดังกล่าวนั้น คือ "โอ้ มุฮัมมัด เมื่อบรรดาปวงบ่าวของข้าได้ถามเจ้าถึงข้าว่า ข้าอยู่ที่ใหน? ดังนั้น (เจ้าจงตอบว่า) แท้จริงข้าใกล้ชิดพวกเขา ข้าได้ยินการวอนขอของพวกเขา และข้าจะตอบรับการวอนขอของผู้วอนขอจากพวกเขา" ตัฟซีรอัฏฏ็อบรีย์ อายะฮ์ที่ 186 ซูเราะฮ์อัลบะกอเราะฮ์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
วัลลอฮุอะลัม
Re: หากมีคำถามว่าพระองค์อัลลอฮ.อยู่ที่ไหน? By: al-azhary Date: พ.ย. 02, 2008, 08:25 AM
^
^
^
บางครั้งก็เคยจินตนาการเหตุการณ์ในวันนั้นนะครับ ไม่ได้ตั้งใจ แต่รูปมันมาเอง
จินตนาการที่ผุดเข้ามานั้น ชัยฏอนมันกำลังทำงาน เราต้องกล่าวว่า "อะอูซุบิลลาฮิมินัชชัยฏอนิรร่อญีม" (ข้าฯขอความคุ้มครองต่ออัลเลาะฮ์จากชัยฏอนที่สาปแช่ง)
Re: หากมีคำถามว่าพระองค์อัลลอฮ.อยู่ที่ไหน? By: Al Fatoni Date: พ.ย. 03, 2008, 02:52 PM
นอูฑุบิลลาฮิมินัชชัยฏอนิรฺร็ญีม - อามีน ยาร็อบบีย์
Re: หากมีคำถามว่าพระองค์อัลลอฮ.อยู่ที่ไหน? By: คะลัคคะลุย Date: ธ.ค. 13, 2008, 05:53 PM
หากมีคำถามว่าพระองค์อัลลอฮ.อยู่ที่ไหน? จงตอบเถิดว่า พระองค์อยู่บนฟ้า คำตอบนี้เราได้มาจากตัวบทหลักฐานจากฮาดิษ ซอเฮียะห์ดังนี้
ครั้งหนึ่ง มูอาวียะห์ บุตร อัลฮากัม อัสซูลามี ท่านต้องการที่จะให้อิสรภาพกับ ญารียะห์ทาสของท่าน มูอาวียะห์ได้นำตัวญารียะห์ไปหาท่านรอซูล ซ.ล ท่านรอซูลได้ถามญารียะห์ว่า พระองค์อัลลอฮ.อยู่ที่ไหน? เธอตอบว่า พระองค์อัลลอฮอยู่บนฟ้า ท่านรอซูลได้ถามต่อไปว่า แล้วฉันเป็นใคร? เขาก็ตอบว่าท่านคือศาสนทูตของพระองค์ หลังจากนั้นท่านรอซูลได้กล่าวกับมูอาวียะห์ว่า ปล่อยเธอให้เป็นอิสระเถิด เพราะแท้จริงเธอคือผู้ศรัทธา ฮาดิษนี้บันทึกโดยนักบันทึกฮาดิษหลายท่าน เช่น อิหม่ามมาลิก
ความจริงแล้วพระองค์อัลลอฮ.ทรงสถิตอยู่บนบัลลังค์ของพระองค์ดังที่พระองค์ได้ทรงกล่าวไว้ถึงความเหมาะสมความมีเกียรติและความเกรียงไกรของพระองค์ ดังหลักฐานต่อไปนี้
ฮะดิษนี้ท่านอิมามอันนะวาวีย์ ได้อธิบายจุดยืนหลักอะกีดะฮ์ของ อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ความว่า
هذا الحديث من أحاديث الصفات , وفيها مذهبان تقدم ذكرهما مرات في كتاب الإيمان . أحدهما : الإيمان به من غير خوض في معناه , مع اعتقاد أن الله تعالى ليس كمثله شيء وتنزيهه عن سمات المخلوقات . والثاني تأويله بما يليق به , فمن قال بهذا قال : كان المراد امتحانها , هل هي موحدة تقر بأن الخالق المدبر الفعال هو الله وحده , وهو الذي إذا دعاه الداعي استقبل السماء كما إذا صلى المصلي استقبل الكعبة ؟ وليس ذلك ; لأنه منحصر في السماء كما أنه ليس منحصرا في جهة الكعبة , بل ذلك لأن السماء قبلة الداعين , كما أن الكعبة قبلة المصلين , أو هي من عبدة الأوثان العابدين للأوثان التي بين أيديهم , فلما قالت : في السماء , علم أنها موحدة وليست عابدة للأوثان
ًًฮะดิษนี้ เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาฮะดิษซีฟาต และเกี่ยวกับบรรดาฮะดิษซีฟาตนั้น มี 2 แนวทาง (ซึ่งทั้ง 2 แนวทางก็คือแนวทางของอัลอะชาอิเราะฮ์) ตามที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วในกิตาบอัลอีหม่าน ก็คือ
(1) ให้ศรัทธาด้วยกับฮะดิษนี้ โดยไม่เข้าใจยุ่งเกี่ยวในความหมายของมัน พร้อมกับเชื่อว่าอัลเลาะฮ์ตะอาลานั้นไม่มีสิ่งใดคล้ายเหมือนกับพระองค์ และพระองค์ทรงบริสุทธิ์จากสัญลักษณ์ของบรรดามัคโลค (คือแนวทางสะละฟุศศอลิห์โดยรวม)
(2) ให้ทำการตีความ(ตะวีล) ฮะดิษนี้ด้วยสิ่งที่เหมาะสมต่อพระองค์ (คือแนวทางของค่อลัฟโดยรวม)
ดัง นั้น ผู้ที่ได้กล่าวด้วยกับการตีความนี้ เขาก็จะกล่าวว่า จุดมุ่งหมายก็คือ การทดสอบตัวนาง(ทาสหญิงผิวดำที่เป็นเด็ก) ว่านางนั้นเป็นผู้ที่เชื่อในอัลเลาะฮ์องค์เดียวหรือไม่ ยอมรับว่าผู้ทรงสร้าง เป็นผู้ทรงบริหาร ผู้ทรงกระทำ(ตามที่พระองค์ทรงประสงค์) คืออัลเลาะฮ์องค์เดียวหรือไม่? และพระองค์คือผู้ที่ผู้วอนขอต่อพระองค์ได้ทำการผินไปยังท้องฟ้าเหมือนกับที่ ผู้ทำการละหมาดได้ผินไปทางกิบลัตหรือไม่? ซึ่งดังกล่าวนั้น ไม่ใช่เพราะพระองค์ทรงจำกัดอยู่ในฟ้ากฟ้าเฉกที่พระองค์ก็ไม่ได้จำกัดอยู่ใน ทิศกะบะฮ์ แต่ทว่าสิ่งดังกล่าวเพราะท้องฟ้าเป็นกิบลัต(ทิศ)ของผู้ที่วอนขอดุอา เหมือนกับ กะบะฮ์เป็นกิบลัต(ทิศ)ของผู้ที่ทำการละหมาด หรือว่า(เพื่อสอบว่า)นางเป็นส่วนหนึ่งจากผู้ที่กราบไว้รูปปั้นที่อยู่ในมือ ของพวกเขาหรือไม่? ดังนั้นในขณะที่นางได้กล่าวว่า อยู่ในฟ้า ก็รู้เลยว่านางเป็นผู้ที่นับถือพระองค์เพียงองค์เดียวไม่ใช่เป็นผู้กราบไหว้ เจว็ด" ดู ชัรหฺ ซอเฮี๊ยะหฺมุสลิม ของอิมาม อันนะวาวีย์ เล่ม 5 หน้า 24
ท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ ฮะญัร ได้กล่าวว่า
قوله " في السماء " ظاهره غير مراد ، إذ الله منزه عن الحلول في المكان لكن لما كانت جهة العلو أشرف من غيرها أضافها إليه إشارة إلى علو الذات والصفات
"(ท่านอัลกิรมานีย์กล่าวว่า) คำตรัสที่ว่า فِي السَّمَاءِ "ในฟ้า" นั้น ความหมายผิวเผินของมัน ไม่ใช่จุดมุ่งหมาย เนื่องจากอัลเลาะฮ์ทรงบริสุทธิ์ปราศจากการเข้าไปอยู่ในสถานที่ แต่เมื่อทิศสูงมีเกียรติยิ่งกว่าทิศอื่น พระองค์จึงพาดพิงทิศสูงไปยังพระองค์เอง เพื่อชี้ถึงว่าซาตและคุณลักษณะของพระองค์นั้นสูงส่ง(ในเชิงนามธรรมมิใช่มีสถานที่อยู่บนที่สูงในเชิงรูปธรรม)" ฟัตฮุลบานีย์ : 13/412
ส่วนวะฮาบีย์นั้น กลับเชื่อว่าอัลเลาะฮ์ทรงมีรูปร่างสถิตนั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยซาตของพระองค์ในความเชิงรูปธรรม ซึ่งมิใช่อะกีดะฮ์สะละฟุศศอลิห์ ไม่ใช่เป็นอะกีดะฮ์ของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ แต่เป็นอะกีดะฮ์ของพวกอัลกัรรอมียะฮ์
วัลลอฮุอะลัม
ได้ไปอ่านที่มุสลิมไทย มีพี่น้องอะฮ์ลิสซุนนะฮ์ไปชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องอัลเลาะฮ์อยู่ใหน ซึ่งถือว่ามีประโยชน์จึงขอนำเสนอไว้ในบอร์ดนี้เพราะเขาก็อ้างอิงจากเว็บบนี้
อัสลามูอาลัยกุม
ถามคุณ honda 500 ว่า "อัลลอฮอยู่ที่ไหนครับ" อ้อ...แต่อย่าเอามันสมองของตัวท่านเองมาตอบนะ ผมอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านยกมาก็ได้อ่ะ เลยต้องถามท่านเพื่อเป็นบทสรุปครับ เพราะผมมองว่าท่านเป็นอุลมาร์ด้านนี้อ่ะนะ
วัสสลาม
อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ตอบว่า
วะอะลัยกุมุสลามวะเราะฮ์มะตุลลอฮ์
คุณชะบาบถามว่า อัลเลาะฮ์อยู่ใหน ซึ่งคำตอบนั้นมีหลายคำตอบที่ไม่ได้บ่งชี้ถึงการอัลเลาะฮ์ไม่ทรงอยู่ในสถานที่ ดังนั้นผมขอเลือกตอบด้วยฮะดิษนบีที่ว่าที่ระบุว่าแม้แต่มะลาอิกะฮ์ที่ได้ ชื่อว่า มะลาอิกะตุลมุก็อรร่อบีน (มะลาอิกะฮ์ผู้มีฐานะใกล้ชิดอัลเลาะฮ์) ยังไม่รู้เลยว่า อัลเลาะฮ์อยู่ที่ใหน รายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะฮ์(ร.ฏ.) ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ (ซ.ล.) กล่าวว่า
أُذِنَ لِىْ أَنْ أُحَدِّثَ عَنْ مَلَكٍ قَدْ مَرَقَتْ رِجْلاَهُ فِى الأَرْضِ السَّابِعَةِ ، وَالْعَرْشُ عَلىَ مَنْكِبِهِ ، وَهُوَ يَقُوْلُ سَبْحَانَكَ أَيْنَ كُنْتَ وَأَيْنَ تَكُوْنُ
" ฉันได้รับอนุญาตให้เล่าจากเรื่องมะลาอิกะฮ์ท่านหนึ่ง ซึ่งทั้งสองเท้าของเขาผ่านเข้ามาในแผ่นดินชั้นที่ 7 โดยที่อารัช(บัลลังก์)อยู่บนบ่าของเขา และมะลาอิกะฮ์(ผู้แบกบัลลังก์)ก็กล่าวว่า มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ท่าน พระองค์ท่านทรงอยู่ใหนและพระองค์กำลังอยู่ใหน" หะดิษนี้ ซอฮิหฺ
ท่าน อะบียะอฺลาได้รายงานฮะดิษไว้ใน มุสนัดของท่าน เล่ม 11 หน้า 496 หะดิษที่ 6619 , ท่านอัลหาฟิซฺ อิบนุหะญัร ได้ตัดสินซอฮิหฺไว้ในหนังสือ อัลมะฏอลิบ อัลอาลิยะฮ์ บิซะวาอิด อัษษะมานียะฮ์ เล่ม 3 หน้า 267 ซึ่งท่านอิบนุหะญัรกล่าวว่า (ให้กับฮะดิษของอบียะอฺลา นั้น หะดิษซอฮิหฺ) , และท่านอัลหาฟิซฺ อัลฮัยษะมีย์ ได้กล่าวยืนยันไว้ในหนังสือ มัจญฺมะอ์ อัซซะวาอิด เล่ม 1 หน้า 80 โดยท่าน อัลฮัยษะมีย์กล่าวว่า (รายงานโดยอบูยะอฺลา และบรรดานักรายงานหะดิษนี้ เป็นนักรายงานที่ซอฮิหฺ) , ท่านอิมามอัศศะยูฏีย์ได้รายงานไว้ในหนังสืออัลญาเมี๊ยะอฺอัศศ่อฆีร ฮะดิษลำดับที่ (906) , และฮะดิษนี้ได้รับการสนับสนุนจากจากฮะดิษท่านญาบิร บิน อับดิลลาฮ์ ด้วยสองรายงาน ซึ่งรายงานโดยท่านอะบูดาวูด ฮะดิษลำดับที่ (4727) และอัลบานีย์เอง ก็ตัดสินว่าเป็นฮะดิษซอฮิห์ ไว้ในหนังสือ มุตตะซ็อรสุนันอะบีดาวูด (4727) , และอัลบานีย์ยังตัดสินเป็นฮะดิษซอฮิห์ไว้ในหนังสือ ญาเมี๊ยะอฺอัศศ่อฮิห์ (854)
ท่านเป็นอิมามของมัชฮับหะนาฟีย์ ซึ่งเป็นอุลามาอฺซะลัฟ ท่านกล่าวว่า
قلت: أرأيت لو قيل أين الله تعالى؟ فقال : يقال له كان الله تعالى ولا مكان قبل أن يخلق الخلق، وكان الله تعالى ولم يكن أين ولا خلق ولا شىء، وهو خالق كل شىء
"ฉันขอกล่าวว่า ท่านจะบอกว่าอย่างไร หากถูกกล่าว(แก่ท่าน)ว่า อัลเลาะฮฺอยู่ใหน ? ดังนั้น เขา(อบูหะนีฟะฮฺ)กล่าวว่า ก็กล่าวตอบแก่เขาว่า "อัลเลาะฮฺทรงมีมาแล้ว โดยที่ไม่อาศัยสถานที่อยู่ก่อนที่พระองค์จะสร้างมัคโลก และอัลเลาะฮฺทรงมีมาแล้ว โดยที่ไม่มีคำว่า ที่ใหน (ให้กับพระองค์) ไม่มีมัคโลก และไม่มีสิ่งใด(พร้อมกับพระองค์) โดยที่พระองค์นั้นทรงสร้างทุกๆ สิ่ง" ชัรหฺ อัลฟิกหฺ อัลอักบัร ของท่าน มุลลา อะลีย์ อัลกอรีย์ หน้า 138
ดังนั้น มุสลิมทุกคนต้องเชื่อในสองกะลิเมาะฮ์ชะฮาดะฮ์และยอมรับการมีของพระองค์เท่านั้นก็เพียงพอแล้วโดยอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับซาตของอัลเลาะฮ์ว่าจะอยู่อย่างไรพระองค์นั่งหรือเปล่าสถิตอยู่ในสถานที่หรือเปล่านั้น ไม่บังควรที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะท่านนบีได้ส่งบรรดาซอฮาบะฮ์ไปเผยแผ่ศาสนาอิสลามนั้นมิใช่ใช้ให้ไปถามผู้คนทั้งหลายว่าอัลเลาะฮ์อยู่ใน แต่ให้พวกเขากล่าวสองกะลิเมาะฮ์ชะฮาดะฮ์ต่างหากซึ่งมีหลักฐานที่เด็ดขาดแน่นอนว่าให้กระทำเช่นนั้น แล้วเขาก็เป็นมุสลิมโดยสมบูรณ์
ท่านอิมามมาลิกได้รายงานฮะดิษหนึ่งไว้ในหนังสืออัลมุวัฏเฏาะของท่านว่า
أَنَّ رَجُلًا مِنْ الْأَنْصَارِ جَاءَ إِلَى رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بِجَارِيَةٍ لَهُ سَوْدَاءَ فَقَالَ يَا رَسُولَ اللَّهِ إِنَّ عَلَيَّ رَقَبَةً مُؤْمِنَةً فَإِنْ كُنْتَ تَرَاهَا مُؤْمِنَةً أُعْتِقُهَا فَقَالَ لَهَا رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَتَشْهَدِينَ أَنْ لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ قَالَتْ نَعَمْ قَالَ أَتَشْهَدِينَ أَنَّ مُحَمَّدًا رَسُولُ اللَّهِ قَالَتْ نَعَمْ قَالَ أَتُوقِنِينَ بِالْبَعْثِ بَعْدَ الْمَوْتِ قَالَتْ نَعَمْ فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَعْتِقْهَا
ท่านอิมามมาลิกได้รายงานจากอุบัยดิลลาฮ์ บิน อับดิลลาฮ์ บิน อุตบะฮ์ บิน มัสอูด ว่า"มีชายคนหนึ่งจากชาวอันซอรได้มาหาท่านร่อซูลุลลอฮ(ซ.ล.)พร้อมกับเด็กทาส หญิงผิวดำ แล้วเขากล่าวว่า โอ้ท่านศาสนทูตของอัลเลาะฮ์ บนฉันนั้นต้องปล่อยทาสมีศรัทธาหนึ่งคน หากท่านเห็นว่าท่านเป็นผู้ศรัทธาก็จงปล่อยนางเถิด ดังนั้นท่านนบีจึงกล่าวแก่นางว่า เธอจะกล่าวปฏิญาณว่า "ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะฮ์" หรือไม่? นางตอบว่า "จ้ะ" (ฉันขอปฏิญาณ) ท่านนบีกล่าวอีกว่า แล้วเธอจะปฏิญาณว่า "แท้จริงนบีมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลเลาะฮ์" หรือไม่? นางตอบว่า "จ้ะ" (ฉันขอปฏิญาณ) ท่านนบีถามอีกว่า "เธอเชื่อในการพื้นคืนชีพหลังจากความตายหรือไม่" นางตอบว่า "จ้ะ" ดังนั้นท่านร่อซูลุลลอฮ์(ซ.ล.) จึงกล่าวว่า ท่านจะปล่อยนางเถิด"
ท่านอันนะซาอีย์ได้รายงานไว้ในหนังสือสุนันของท่านว่า
أَتَيْتُ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقُلْتُ إِنَّ أُمِّي أَوْصَتْ أَنْ تُعْتَقَ عَنْهَا رَقَبَةٌ وَإِنَّ عِنْدِي جَارِيَةً نُوبِيَّةً أَفَيُجْزِئُ عَنِّي أَنْ أُعْتِقَهَا عَنْهَا قَالَ ائْتِنِي بِهَا فَأَتَيْتُهُ بِهَا فَقَالَ لَهَا النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ مَنْ رَبُّكِ قَالَتْ اللَّهُ قَالَ مَنْ أَنَا قَالَتْ أَنْتَ رَسُولُ اللَّهِ قَالَ فَأَعْتِقْهَا فَإِنَّهَا مُؤْمِنَةٌ
รายงานจาก อัชชะรีด บิน ซุวัยด์ อัษษะก่อฟีย์ เขากล่าวว่า "ฉันได้ไปหาท่านร่อซูลุลลอฮ์(ซ.ล.) แล้วฉันกล่าวว่า แท้จริงมารดาของฉันสั่งเสียว่านางจะทำการปล่อยทาสหนึ่งคน และที่ฉันมีทาสหญิงผิวดำหนึ่งคน ดังนั้นถือว่าใช้ได้แก่ฉันไหมที่ฉันจะทำการปล่อยนาง ดังนั้นท่านนบีจึงกล่าวว่า ท่านนำทาสมาที่ฉันซิ แล้วท่านนบีก็กล่าวกับทาสหญิงนั้นว่า "ใครคือพระเจ้าของเธอ" นางตอบว่า "อัลเลาะฮ์" ท่านนบีถามว่า "ฉันคือใคร" นางตอบว่า "ท่านคือศาสนทูตของอัลเลาะฮ์" ท่านนบีจึงกล่าวว่า ท่านจงปล่อยนางให้เป็นอิสระเถิด เพราะนางเป็นผู้ศรัทธาแล้ว"
ท่านอิมามอะห์มัดได้รายงานว่า
قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أُمِرْتُ أَنْ أُقَاتِلَ النَّاسَ حَتَّى يَقُولُوا لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ فَإِذَا قَالُوهَا عَصَمُوا مِنِّي دِمَاءَهُمْ وَأَمْوَالَهُمْ إِلَّا بِحَقِّهَا وَحِسَابُهُمْ عَلَى اللَّهِ
จากอะบูฮุรอยเราะฮ์ เขากล่าวว่า "ท่านร่อซูลุลลอฮ์(ซ.ล.) กล่าวว่า ฉันถูกใช้ให้ต่อสู้กับมนุษย์จนกระทั่งพวกเขากล่าวว่า ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ ดังนั้นเมื่อพวกเขากล่าวว่า เลือด(ชีวิต)และทรัพย์สินของพวกเขาจะได้รับการปกป้องจากฉัน นอกจากด้วยสิทธิ์อันชอบธรรม และการสอบสวนพวกเขานั้นอยู่ที่อัลเละฮ์"
ชัดเจนครับว่ามุสลิมที่สมบูรณ์นั้น เพียงแค่เชื่อว่า อัลเลาะฮ์ทรงมี อัลเลาะฮ์ทรงเป็นพระเจ้า กล่าวและเชื่อในสองกะลีเมาะฮ์ชะฮาดะฮ์ ก็ถือว่าเป็นมุสลิมแล้ว และท่านนบี(ซ.ล.)เองก็ไม่เคยส่งบรรดาซอฮาบะฮ์ไปเผยแผ่ศาสนาในเมืองต่างๆ โดยสั่งใช้ให้บรรดาซอฮาบะฮ์ไปถามผู้คนทั้งหลายว่า อัลเลาะฮ์อยู่ใหน? เลย แต่กลับใช้ให้พวกเขาไปสอนสองกะลีเมาะฮ์ชะฮาดะฮ์
ผมขอเสริมว่า
ท่านอิมามอันนะซาอีย์รายงานไว้ว่า
قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لِمُعَاذٍ حِينَ بَعَثَهُ إِلَى الْيَمَنِ إِنَّكَ تَأْتِي قَوْمًا أَهْلَ كِتَابٍ فَإِذَا جِئْتَهُمْ فَادْعُهُمْ إِلَى أَنْ يَشْهَدُوا أَنْ لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ وَأَنَّ مُحَمَّدًا رَسُولُ اللَّهِ فَإِنْ هُمْ أَطَاعُوكَ بِذَلِكَ فَأَخْبِرْهُمْ أَنَّ اللَّهَ عَزَّ وَجَلَّ فَرَضَ عَلَيْهِمْ خَمْسَ صَلَوَاتٍ فِي يَوْمٍ وَلَيْلَةٍ فَإِنْ هُمْ يَعْنِي أَطَاعُوكَ بِذَلِكَ فَأَخْبِرْهُمْ أَنَّ اللَّهَ عَزَّ وَجَلَّ فَرَضَ عَلَيْهِمْ صَدَقَةً تُؤْخَذُ مِنْ أَغْنِيَائِهِمْ فَتُرَدُّ عَلَى فُقَرَائِهِمْ فَإِنْ هُمْ أَطَاعُوكَ بِذَلِكَ فَاتَّقِ دَعْوَةَ الْمَظْلُومِ
"ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ซ็อลลลอฮุอะลัยฮฯ ได้กล่าวแก่ท่านมุอาซฺ ในขณะที่ท่านร่อซูลได้ส่งเขาไปเยเมนว่า แท้จริงท่านกำลังจะไปที่กลุ่มหนึ่งที่เป็นชาวคำภีร์ ดังนั้นเมื่อท่านไปถึงพวกเขาแล้ว ก็จงเรียกร้องพวกเขาให้ปฏิญาณว่า ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ มุฮัมมะดุรร่อซูลุลอฮ์ (ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะฮ์และมุฮัมมัดเป็นร่อซูลของอัลเลาะฮ์) ดังนั้นพวกเขาได้ภักดีต่อท่านด้วย(สองคำปฏิญาณ)ดังกล่าว ท่านก็จะบอกพวกเขาว่า แท้จริงอัลเลาะฮ์ทรงกำหนดละหมาด 5 เวลาแก่พวกเขาในหนึ่งวันและหนึ่งคืน ดังนั้นหากพวกเขาเชื่อฟังท่าน ก็จงบอกพวกเขาอีกว่า แท้จริงอัลเลาะฮ์ทรงกำหนดเรื่องทานบังคับซึ่งจะถูกเอามาจากบรรดาผู้ร่ำรวยจากพวกเขา แล้วนำไปให้แก่บรรดาคนจนของพวกเขา และหากพวเขาเชื่อฟังท่าน ดังนั้นท่านจงกลัวดุอาของคนที่ถูกอธรรม"
ดังนั้นเมื่อท่านร่อซูลุลลอฮ์ได้ให้ซอฮาบะฮ์ของท่านเผยแผ่อิสลาม ท่านนบีไม่เคยใช้ให้ซอฮาบะฮ์ไปเรียกร้องถามว่า อัลเลาะฮ์อยู่ใหน? แต่เรียกร้องพวกเขาไปสู่สองคำปฏิญาณ คือ ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ มุฮัมมะดุรร่อซูลุลลอฮ์
Re: หากมีคำถามว่าพระองค์อัลลอฮ.อยู่ที่ไหน? By: Al Fatoni Date: ธ.ค. 13, 2008, 11:11 PM
แล้วถ้าหากว่ามีคนถามว่า ตอนนี้อัลลอฮฺทรงทำอะไรอยู่ เราจะตอบว่าอย่างไรครับ? - วัสสลาม
Re: หากมีคำถามว่าพระองค์อัลลอฮ.อยู่ที่ไหน? By: คะลัคคะลุย Date: ธ.ค. 14, 2008, 12:15 AM
ได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บมุสลิมไทยมาอีกครับ
อัสลามุอาลัยกุมคุณ honda ครับ
ท่านตอบจากคำถามที่ว่า
อัลเลาะฮ์อยู่ใหน ซึ่งคำตอบนั้นมีหลายคำตอบที่ไม่ได้บ่งชี้ถึงการอัลเลาะฮ์ไม่ทรงอยู่ในสถานที่ ดังนั้นผมขอเลือกตอบด้วยฮะดิษนบีที่ว่าที่ระบุว่าแม้แต่มะลาอิกะฮ์ที่ได้ชื่อว่า มะลาอิกะตุลมุก็อรร่อบีน (มะลาอิกะฮ์ผู้มีฐานะใกล้ชิดอัลเลาะฮ์) ยังไม่รู้เลยว่า อัลเลาะฮ์อยู่ที่ใหน
แล้วความข้างต้นที่ตามกระทู้ที่ 9 ตอบกระทู้โดย : honda500 ว่า
ซึ่งประมวลหลักฐานทั้งหมดโดยที่เราไม่ปฏิเสธหลักฐานใดหลักฐานหนึ่ง แล้วทำการรวมหลักฐานทั้งหมด แล้วคุณ shabab00 จะบอกว่าอัลเลาะฮ์อยู่ใหนดีโดยที่ไม่ปฏิเสธความหมายโดยตรงสักตัวบทเดียวเลย หรือว่า "พวกเจ้าจะศรัทธาคำภีร์เพียงบางส่วนและปฏิเสธมันเพียงบาง ผมขอตอบด้วยอายะฮ์อัลกุรอานที่ว่า : "...แท้จริง(อัลเลาะฮ์)ข้าเป็นผู้ใกล้ชิด (กับพวกเจ้า) ข้าคอยสนองตอบคำวอนของผู้วอนขอ เมื่อเขาได้วอนขอต่อข้า" ตัฟซีรอิบนุกะษีร อายะฮ์ที่ 186 ซูเราะฮ์อัลบะกอเราะฮ์ ท่านอิมาม อิบนุ ญะรีร อัฏเฏาะบะรีย์ อุลามาอ์สะลัฟและอิมามแห่งปราชญ์นักตัฟซีร ได้กล่าวอธิบายเชิงสนับสนุนยอมรับอีกว่า يَعْنِي تَعَالَى ذِكْره بِذَلِكَ : وَإِذَا سَأَلَك يَا مُحَمَّد عِبَادِي عَنِّي أَيْنَ أَنَا ؟ فَإِنِّي قَرِيب مِنْهُمْ أَسْمَع دُعَاءَهُمْ , وَأُجِيب دَعْوَة الدَّاعِي مِنْهُمْ ความหมายของอัลเลาะฮ์ตะอาลา ด้วยกับอายะฮ์ดังกล่าวนั้น คือ "โอ้ มุฮัมมัด เมื่อบรรดาปวงบ่าวของข้าได้ถามเจ้าถึงข้าว่า ข้าอยู่ที่ใหน? ดังนั้น (เจ้าจงตอบว่า) แท้จริงข้าใกล้ชิดพวกเขา ข้าได้ยินการวอนขอของพวกเขา และข้าจะตอบรับการวอนขอของผู้วอนขอจากพวกเขา"
มันยังไงครับคุณ honda ช่วยอธิบายให้กระจ่างหน่อยนะ ผมไม่เข้าใจ จงถามผู้รุ้ในสิ่งที่สูเจ้าไม่รุ้อ่ะ และผมเองก็เชื่อว่าท่านคงจะไม่ได้ก๊อปมาแล้วโพสอย่างเดียวอ่ะนะ
วัสลาม
พี่น้องอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ตอบว่า
วะอะลัยกุมุสลามวะเราะห์มะตุลลอฮ์ครับคุณ shabab jihad
คืออย่างนี้นะครับ สิ่งที่ผมได้อ้างอิงมาจากเว็บซุนนะฮ์สติวเด้นนั้น ชัดเจนและมีคำตอบให้คุณอยู่แล้ว
กล่าวคือคำว่า บรรดาตัวบทอัลกุรอานและฮะดิษที่ซอฮิห์ได้ระบุการมีอยู่ของอัลเลาะฮ์นั้นมีตัวบทที่บ่งชี้หลายนัยยะเหลือเกิน เช่นตัวบทที่บ่งชี้ว่า อัลเลาะฮ์อยู่ในฟ้า , อัลเลาะฮ์อยู่ใกล้ชิดเรายิ่งกว่าเส้นเอ็นที่ต้นคอ , พระองค์อยู่กับเราไม่ว่าเราจะอยู่ใหน , พระองค์อยู่ระหว่างเรากับกิบลัต , พระองค์อยู่เหนือบัลลังก์ , และมะลาอิกะฮ์ผู้แบกบัลลังก์ยังไม่รู้ว่าอัลเลาะฮ์อยู่ที่ใหน , แต่กลับมีฮะดิษซอฮฺห์บอกว่าเลาฮิลมะห์ฟูซฺอยู่บนบัลลังก์ , ดังนั้นถ้าหากคุณยึดตัวบทตรงๆ โดยไม่ตีความใดๆ ก็เท่ากับว่าอัลเลาะฮ์อยู่หลายสถานที่ ซึ่งสติปัญญาไม่เชื่อเช่นนั้นหรอก ฉะนั้นถ้าหากคุณบอกว่าอัลเลาะฮ์อยู่บนฟ้า แต่ตัวบทบอกว่าอยู่ “ในฟ้า” แล้วคุณจะยึดคำตรงๆ เช่นนั้นหรือเปล่า? และยังมีตัวบทฮะดิษที่ซอเฮี๊ยะห์บอกว่าอัลเลาะฮ์อยู่ระหว่างเรากับกิบลัตเล่า หากคุณยึดตัวบทตรงๆ ก็แสดงว่าอัลเลาะฮ์ไม่ได้อยู่บนฟ้าอย่างเดียว แต่อยู่ระหว่างเรากับกิบลัตด้วย และหากคุณบอกว่าอัลเลาะฮ์อยู่บนบัลลังก์ แต่มีฮะดิษซอเฮี๊ยะห์อีกบทบอกว่าเลาฮิลมะห์ฟูซฺอยู่บนบัลลังก์เช่นกันแล้วคุณจะว่าอย่างไร? และมีฮะดิษซอเฮี๊ยะห์อีกบทหนึ่งบอกว่ามะลาอิกะฮ์ผู้แบกบัลลังก์เองก็ยังไม่รู้ว่าอัลเลาะฮ์อยู่ใหน แล้วคุณจะปฏิเสธฮะดิษซอเฮี๊ยะห์บทนี้หรือเปล่า? และมีตัวบทอัลกุรอานบอกว่าอัลเลาะฮ์ทรงอยู่ใกล้ชิดเรายิ่งกว่าเส้นเอ็นที่ต้นคอ แล้วคุณจะยึดตัวบทนี้ตรงๆหรือจะตีความ แต่ถ้าหากคุณตีความโดยใช้สติปัญญามาคิดว่า มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่อัลเลาะฮ์จะอยู่กับเรา แสดงว่าคุณได้ทำการตะวีลตีความเสียแล้ว ดังนั้นเมื่อคุณตีความ ทำไมตัวบทอื่นๆ ไม่ตีความด้วย แต่ถ้าหากคุณไม่ยอมตีความโดยยึดข้อบ่งชี้แบบคำตรง แน่นอนว่าบรรดาตัวบทต่าง ๆ เหล่านั้นต้องคัดกันเองเหตุจากความเข้าใจคำตรงเช่นนี้ นี่แหละที่ผมเข้าใจจากคำพูดที่ว่า “ซึ่งประมวลหลักฐานทั้งหมดโดยที่เราไม่ปฏิเสธหลักฐานใดหลักฐานหนึ่ง แล้วทำการรวมหลักฐานทั้งหมด” เมื่อรวมหลักฐานทั้งหมดแล้วเข้าใจแบบคำตรง มันจะค้านกัน ก็ต้องตีความให้เหมาะสมกับความยิ่งใหญ่ของอัลเลาะฮ์หรือมอบหมายในถ้อยความหมายไปยังพระองค์พร้อมปฏิเสธความคล้ายคลึงในคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์ที่มีต่อมัคโลคโดยไม่มีรูปแบบวิธีการ
แต่ผมจะอธิบายเพิ่มเติมว่า เวลาสะลัฟซอและฮ์เขาถูกถามว่า อัลเลาะฮ์อยู่ใหนหรืออัลเลาะฮ์มีสถานะภาพการเป็นอยู่ระหว่างพระองค์กับเราอย่างไรนั้น พวกเขาจะตอบแบบในนามธรรม คืออัลเลาะฮ์ทรงมี อัลเลาะฮ์ทรงสูงส่ง อัลเลาะฮ์ทรงใกล้ชิดกับเราแบบในเชิงนามธรรม หมายถึง อัลเลาะฮ์ทรงสูงส่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่ปกครองเหนือเรา เป็นผู้ใกล้ชิดกับเราด้วยการทรงรู้ ทรงเห็น ทรงเมตตาเอ็นดู คอยตอบรับการวอนขอดุอาเรา
ท่านอิบนุ อะลี ยะลา ปราชญ์มัซฮับฮัมบาลีย์ได้
حْمَدُ بْنُ الصَّبَّاحِ الْكِنْدِيُّ نَقَلَ عَنْ إِمَامِنَا أَشْيَاءَ : مِنْهَا مَا نَقَلْتُهُ مِنْ كِتَابِ السُّنَّةِ لِلخَلَّالِ فَقَال أَخْبَرَنِيْ اَحْمَدُ بْنُ الصَّبَّاحِ الكِنْدِي بِالْقَلْزَمِ قَالَ سَأَلْتُ أَحْمَدَ بْنَ حَنْبَلَ كَمْ بَيْنَنَا وَبَيْنَ عَرْشِ رَبِّنَا قَالَ دَعْوَةُ مُسْلِمٍ يُجِيْبُ اللهُ دَعْوَتَهُ
"อะห์มัด บิน อัศศ็อบบาห์ อันกินดีย์ ได้ถ่ายทอดจากอิมามของเรา(คืออิมามอะห์มัด)ถึงประการต่าง ๆ ส่วนหนึ่งก็คือ สิ่งที่ฉันได้ถ่ายทอดมาจากหนังสืออัซซุนนะฮ์ของท่านอัลค็อลล้าล ซึ่งเขากล่าวว่า ได้เล่าให้ฉันทราบโดยอะห์มัด บิน อัศศ็อบบาห์ อัลกินดีย์ ณ ที่อัลก็อลซัม เขากล่าวว่า ฉันได้ฉันท่านอะห์มัด บิน ฮัมบัล กล่าวว่า ระหว่างเรากับบัลลังก์ของผู้อภิบาลแห่งเรานั้น(ระยะทาง)เท่าไหร่ ท่านอิมามอะห์มัดตอบว่า "การวอนขอดุอาของมุสลิมที่อัลเลาะฮ์จะทรงตอบรับการวอนดุอาของเขา" หนังสือเฏาะบะก็อต อัลฮะนาบิละฮ์ 1/50
หมายถึงอัลเลาะฮ์ทรงอยู่ใกล้พวกเรา ใกล้ด้วยการรอบรู้ ดูแลคุ้มครองเรา ซึ่งเป็นนัยที่ชี้ว่าท่านอะห์มัดไม่ได้มีทัศนะแบบอะกีดะฮ์วะฮาบีที่ว่า อัลเลาะฮ์อยู่ไกลโพ้นจากเราแบบมีระยะทางในเชิงรูปธรรมที่ห่างไกลแบบเรากับนก บินฟ้าแต่อัลเลาะฮ์ห่างไกลยิ่งกว่าเท่านั้นเอง นี่คืออะกีดะฮ์วะฮาบี และเป็นที่ทราบดีว่าอิมามทั้ง 4 จากสะละฟุศศอลิห์นั้นไม่เคยนำฮะดิษที่มีถ้อยคำสับสนเรื่องทาสหญิงผิวดำที่ เป็นเด็ก มาอ้างเกี่ยวกับเรื่องอะกีดะฮ์เลยหรือนำมาอ้างเกี่ยวกับการตอบคำถามเรื่อง อะกีดะฮ์ว่าอัลเลาะฮ์อยู่ใหน แต่ฮะดิษเด็กทาสหญิงผิวดำนี้ กลุ่มแรกที่นำมาอ้างเรื่องอะกีดะฮ์คือกลุ่มบิดอะฮ์
ท่านอิมาม อิบนุ ญะรีร อัฏเฏาะบะรีย์ อุลามาอ์สะลัฟและอิมามแห่งปราชญ์นักตัฟซีร ได้กล่าวอธิบายเชิงสนับสนุนยอมอีกว่า
يَعْنِي تَعَالَى ذِكْره بِذَلِكَ : وَإِذَا سَأَلَك يَا مُحَمَّد عِبَادِي عَنِّي أَيْنَ أَنَا ؟ فَإِنِّي قَرِيب مِنْهُمْ أَسْمَع دُعَاءَهُمْ , وَأُجِيب دَعْوَة الدَّاعِي مِنْهُمْ
ความหมายของอัลเลาะฮ์ตะอาลา ด้วยกับอายะฮ์ดังกล่าวนั้น คือ "โอ้ มุฮัมมัด เมื่อบรรดาปวงบ่าวของข้าได้ถามเจ้าถึงข้าว่า ข้าอยู่ที่ใหน? ดังนั้น (เจ้าจงตอบว่า) แท้จริงข้าใกล้ชิดพวกเขา ข้าได้ยินการวอนขอของพวกเขา และข้าจะตอบรับการวอนขอของผู้วอนขอจากพวกเขา" ตัฟซีรอัฏฏ็อบรีย์ อายะฮ์ที่ 186 ซูเราะฮ์อัลบะกอเราะฮ์
ดังนั้นการเผยแผ่ศาสนาอิสลาม ร่อซูลุลลอฮ์(ซ.ล.)ไม่เคยสั่งให้บรรดาซอฮาบะฮ์ไปเรียกร้องและถามว่า อัลเลาะฮ์ทรงอยู่ใหน? แต่ท่านร่อซูลลอฮ์(ซ.ล.) ทรงใช้ให้เรียกร้องไปสู่สองกะลิเมาะฮ์ชะฮาดะฮ์ ซึ่งเป็นหลักฐานที่แน่นอนเด็ดขาดที่มุสลิมทุกคนต้องยึดถือ และผู้ใดที่ยึดในสองกะลีเมาะฮ์ชะฮาดะฮ์นี้แล้ว ถือว่าเขากลายเป็นผู้ศรัทธาโดยสมบูรณ์ โดยไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับซาตของอัลเลาะฮ์ว่าพระองค์อยู่ใหน นั่งบนอะไร สถิตบนอะไร ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องบังควรเลยที่มนุษย์อย่างเราจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องของอัลเลาะฮ์ ดังนั้นให้เราศรัทธาว่าอัลเลาะฮ์ทรงมี ศรัทธาในกะลีเมาะฮ์ชะฮาดะฮ์ ก็ถือว่าเป็นผู้ศรัทธาแล้วครับ โดยไม่ต้องไปรู้ว่าอัลเลาะฮ์อยู่สถานที่ตรงใหน ขนาดในตัวของเราเองมีวิญญาณ แต่เรายังไม่รู้เลยว่าวิญญาณมีอยู่ส่วนตรงใหนของร่างกายกันแน่ แล้วเราจะไปอาจเอื้อมถามหาสถานที่อยู่ของอัลเลาะฮ์ผู้ยิ่งใหญ่ทำไมกัน ปัญญาเราไปไม่ถึงหรอครับ
Re: หากมีคำถามว่าพระองค์อัลลอฮ.อยู่ที่ไหน? By: al-azhary Date: ธ.ค. 14, 2008, 12:23 AM
แล้วถ้าหากว่ามีคนถามว่า ตอนนี้อัลลอฮฺทรงทำอะไรอยู่ เราจะตอบว่าอย่างไรครับ? - วัสสลาม
ถามนอกประเด็นของกระทู้หรือเปล่าครับน้อง
ในอัลกุรอานระบุว่า
فَعَّالٌ لِمَا يُرِيْدُ
"พระองค์ทรงกระทำตามสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์" อัลบุรูจญ์ 16
และยังระบุอีกว่า
لاَ يُسْئَلُ عَمَّا يَفْعَلُ وَهُمْ يُسْئَلُوْنَ
"พระองค์จะไม่ถูกถามในสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ โดยที่พวกเขาจะถูกถาม(จากสิ่งที่พวกเขากระทำ)" อัมบิยาอฺ 23
Re: หากมีคำถามว่าพระองค์อัลลอฮ.อยู่ที่ไหน? By: As-Zaleek Date: มี.ค. 21, 2009, 04:23 AM
มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระทู้นี้ที่พี่น้องอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ของเราได้ทำการเสวนากับวะฮาบีครับ
คุณอะสันกล่าวว่า
มาดูการบิดเบือนของโต๊ะครูเว็บสะติวเด้น
หะดิษที่ท่านครูเว็บสะติวเด้นอ้างคือ
أُذِنَ لِىْ أَنْ أُحَدِّثَ عَنْ مَلَكٍ قَدْ مَرَقَتْ رِجْلاَهُ فِى الأَرْضِ السَّابِعَةِ ، وَالْعَرْشُ عَلىَ مَنْكِبِهِ ، وَهُوَ يَقُوْلُ سَبْحَانَكَ أَيْنَ كُنْتَ وَأَيْنَ تَكُوْنُ
"ฉันได้รับอนุญาตให้เล่าจากเรื่องมะลาอิกะฮ์ ท่านหนึ่ง ซึ่งทั้งสองเท้าของเขาผ่านเข้ามาในแผ่นดินชั้นที่ 7 โดยที่อารัช(บัลลังก์)อยู่บนบ่าของเขา และมะลาอิกะฮ์(ผู้แบกบัลลังก์)ก็กล่าวว่า มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ท่าน พระองค์ท่านทรงอยู่ใหนและพระองค์กำลังอยู่ใหน
วิจารณ์
เช็คอับดุลลอฮ บิน ฟะฮัด บิน เคาะลีฟะฮ อัลมุนตะฟะญีย์ (عبدالله بن فهد بن خليفة المنتفجي ) ได้วิจารณ์ไว้ในข้อเขียนของท่านชื่อ الدفاع عن حديث الجارية ว่า
والصواب أنه ضعيف لأنه من رواية معاوية بن اسحاق عن سعيد المقبري والمقبري قد اختلط قبل وفاته بأربع سنوات _ كما في تهذيب التهذيب _ ولا نعرف ان كانت رواية معاوية عن سعيد قبل الاختلاط أو بعده أما تصحيح الحافظ فمستغرب لأنه قال في معاوية بن اسحاق (( صدوق ربما وهم )) _ انظر التقريب
และที่ถูกต้อง มันคือหะดิษเฏาะอีฟ เพราะมันมาจากการรายงานของมุอาวิยะฮ บิน อิสหาก จากสะอีดอัลมักบะรีย์ โดยที่อัลมักบะรีย์นั้น มีอารมณ์สับสน ก่อนที่เขาได้เสียชีวิต 4 ปี ดังที่ปรากฏในหนังสือ ตะฮซีบุอัตตะฮซีบ และเราไม่รู้ว่า รายงานมุอาวิยะฮจากสะอีดนั้น เกิดก่อนการมีอารมณ์สับสนหรือหลังจากนั้น สำหรับการที่อัลหาฟีซ(อิบนุหะญัร)ระบุว่าเศาะเฮียะนั้น เป็นเรื่องที่ประหลาด เพราะว่าเขาได้กล่าวในกรณีของ มุอาวิยะฮ บินอิสหากว่า( เป็นผู้ที่เชื่อถือได้ แต่อาจจะเกิดความเข้าใจผิดพลาด) โปรดดูหนังสือ อัตตักรีบ
........
ส่วนที่อ้างว่า อัลบานีย์บอกว่า เศาะเฮียะนั้น เป็นการบิดเบือนแล้วอ้างว่า อัลบานีย์ยังตัดสินเป็นฮะดิษซอฮิห์ไว้ในหนังสือ ญาเมี๊ยะอฺอัศศ่อฮิห์ (854 ทั้งๆที่ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะที่เศาะเฮียะตามที่อัลบานีย์ระบุคือ หะดิษจากญาบีร คือ
จากญาบิรฺ บิน อับดุลลอฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านได้กล่าวว่า :
أذن لي أن أحدث عن ملك من ملائكة الله من حملة العرش، إن ما بين شحمة أذنه إلى عاتقه مسيرة سبعمائة عام
; ความว่า ฉันได้รับอนุญาตให้กล่าวถึงมลาอิกะฮฺท่านหนึ่งจากจำนวนบรรดามลาอิกะฮฺที่ทำ หน้าที่แบกและค้ำบัลลังก์ของอัลลอฮฺ แท้จริงมลาอิกะฮฺ(ท่านนี้)ระยะระหว่างติ่งหูจนถึงหัวไหล่ของท่านมี(ความห่าง เป็น)ระยะเวลา(การเดินทาง) 700 ปี (รายงานโดยอบู ดาวูด : 3727, เป็นหะดีษ เศาะฮีหฺ ดูใน เศาะฮีหฺ สุนัน อบี ดาวูด : 3953 และรวมหะดีษเศาะฮีหฺของอัล-อัลบานีย์ : 151)
.......
สรุป ขอยืนยันว่า อัลลอฮทรงอยู่ทิศเบื้องสูง ส่วนรูปแบบจะเป็นอย่างไรนั้น เราไม่สามารถรู้ได้..
ตอบชี้แจง
คุณอะสันนั้นเป็นคนไม่รู้ แต่ไม่รู้ว่าตนเองไม่รู้ (ยาฮีลมุร็อกกับ) นั่นเองครับ วัลอิยาซุบิลลาฮ์ หากเป็นไปได้ ผมอยากจะปลดคุณอะสันในการนำเสนอวิชาการศาสนา เพราะคุณอะสันเป็นคนไม่รู้จริง ทำตนเองหลงทีหนึ่งแล้ว ยังทำให้คนอื่นหลงอีก ยิ่งกว่านั้นยังไปกล่าวหาผู้อื่นว่าบิดเบือนอย่างไม่ละอายแก่ใจ
อนึ่งในเว็บซุนนะฮ์สติวเด้นนั้น เขาได้นำเสนอเต็ม ๆ ดังนี้
รายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะฮ์(ร.ฏ.) ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ (ซ.ล.) กล่าวว่า
أُذِنَ لِىْ أَنْ أُحَدِّثَ عَنْ مَلَكٍ قَدْ مَرَقَتْ رِجْلاَهُ فِى الأَرْضِ السَّابِعَةِ ، وَالْعَرْشُ عَلىَ مَنْكِبِهِ ، وَهُوَ يَقُوْلُ سَبْحَانَكَ أَيْنَ كُنْتَ وَأَيْنَ تَكُوْنُ
" ฉันได้รับอนุญาตให้เล่าจากเรื่องมะลาอิกะฮ์ท่านหนึ่ง ซึ่งทั้งสองเท้าของเขาผ่านเข้ามาในแผ่นดินชั้นที่ 7 โดยที่อารัช(บัลลังก์)อยู่บนบ่าของเขา และมะลาอิกะฮ์(ผู้แบกบัลลังก์)ก็กล่าวว่า มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ท่าน พระองค์ท่านทรงอยู่ใหนและพระองค์กำลังอยู่ใหน" หะดิษนี้ ซอฮิหฺ
ท่าน อะบียะอฺลาได้รายงานฮะดิษไว้ใน มุสนัดของท่าน เล่ม 11 หน้า 496 หะดิษที่ 6619 , ท่านอัลหาฟิซฺ อิบนุหะญัร ได้ตัดสินซอฮิหฺไว้ในหนังสือ อัลมะฏอลิบ อัลอาลิยะฮ์ บิซะวาอิด อัษษะมานียะฮ์ เล่ม 3 หน้า 267 ซึ่งท่านอิบนุหะญัรกล่าวว่า (ให้กับฮะดิษของอบียะอฺลา นั้น หะดิษซอฮิหฺ) , และท่านอัลหาฟิซฺ อัลฮัยษะมีย์ ได้กล่าวยืนยันไว้ในหนังสือ มัจญฺมะอ์ อัซซะวาอิด เล่ม 1 หน้า 80 โดยท่าน อัลฮัยษะมีย์กล่าวว่า (รายงานโดยอบูยะอฺลา และบรรดานักรายงานหะดิษนี้ เป็นนักรายงานที่ซอฮิหฺ) , ท่านอิมามอัศศะยูฏีย์ได้รายงานไว้ในหนังสืออัลญาเมี๊ยะอฺอัศศ่อฆีร ฮะดิษลำดับที่ (906) , และฮะดิษนี้ได้รับการสนับสนุนจากจากฮะดิษท่านญาบิร บิน อับดิลลาฮ์ ด้วยสองรายงาน ซึ่งรายงานโดยท่านอะบูดาวูด ฮะดิษลำดับที่ (4727) และอัลบานีย์เอง ก็ตัดสินว่าเป็นฮะดิษซอฮิห์ ไว้ในหนังสือ มุตตะซ็อรสุนันอะบีดาวูด (4727) , และอัลบานีย์ยังตัดสินเป็นฮะดิษซอฮิห์ไว้ในหนังสือ ญาเมี๊ยะอฺอัศศ่อฮิห์ (854)
หลักการตัครีจญฺฮะดีษข้างบนนี้ คุณอะสันไม่ยอมก็อบสิ่งที่เว็บซุนนะฮ์สติวเด้นนำมาเสนอ ผมไม่ทราบว่าคุณอะสันต้องการจะปกปิดอะไรกันลึก ๆ หรือเปล่า?
เป็นที่ทราบกันดีว่า ฮะดีษเกี่ยวกับเรื่องที่มะลาอิกะฮ์ไม่รู้ว่าอัลเลาะฮ์อยู่ที่สถานที่ใหนนั้น ได้รายงานจาก 1. ท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์ (ร.ฏ.) 2. ท่านญาบิร (ร.ฏ.) 3. ท่านอะนัน บิน มาลิก (ร.ฎ.)
ฮะดีษแรกได้รายงานจากท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์ ความว่า
รายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะฮ์(ร.ฏ.) ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ (ซ.ล.) กล่าวว่า
أُذِنَ لِىْ أَنْ أُحَدِّثَ عَنْ مَلَكٍ قَدْ مَرَقَتْ رِجْلاَهُ فِى الأَرْضِ السَّابِعَةِ ، وَالْعَرْشُ عَلىَ مَنْكِبِهِ ، وَهُوَ يَقُوْلُ سَبْحَانَكَ أَيْنَ كُنْتَ وَأَيْنَ تَكُوْنُ
" ฉันได้รับอนุญาตให้เล่าจากเรื่องมะลาอิกะฮ์ท่านหนึ่ง ซึ่งทั้งสองเท้าของเขาผ่านเข้ามาในแผ่นดินชั้นที่ 7 โดยที่อารัช(บัลลังก์)อยู่บนบ่าของเขา และมะลาอิกะฮ์(ผู้แบกบัลลังก์)ก็กล่าวว่า มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ท่าน พระองค์ท่านทรงอยู่ใหนและพระองค์กำลังอยู่ใหน" หะดิษนี้ ซอฮิหฺ
นำเสนอหลักตัดสินอัลฮะดีษ
ท่าน อะบียะอฺลาได้รายงานฮะดิษไว้ใน มุสนัดของท่าน เล่ม 11 หน้า 496 หะดิษที่ 6619 , ท่านอัลหาฟิซฺ อิบนุหะญัร ได้ตัดสินซอฮิหฺไว้ในหนังสือ อัลมะฏอลิบ อัลอาลิยะฮ์ บิซะวาอิด อัษษะมานียะฮ์ เล่ม 3 หน้า 267 ซึ่งท่านอิบนุหะญัรกล่าวว่า (ให้กับฮะดิษของอบียะอฺลา นั้น หะดิษซอฮิหฺ) , และท่านอัลหาฟิซฺ อัลฮัยษะมีย์ ได้กล่าวยืนยันไว้ในหนังสือ มัจญฺมะอ์ อัซซะวาอิด เล่ม 1 หน้า 80 โดยท่าน อัลฮัยษะมีย์กล่าวว่า (รายงานโดยอบูยะอฺลา และบรรดานักรายงานหะดิษนี้ เป็นนักรายงานที่ซอฮิหฺ) , ท่านอิมามอัศศะยูฏีย์ได้รายงานไว้ในหนังสืออัลญาเมี๊ยะอฺอัศศ่อฆีร ฮะดิษลำดับที่ (906)
แต่คุณอะสันแย้งโดยนำคำวิจารณ์ของผู้รู้วะฮาบีปัจจุบันคนหนึ่งนาม อับดุลลอฮ์ บิน ฟะฮัด บิน ค่อลีฟะฮ์ ซึ่งไม่ได้เป็นนักฮะดีษ ไม่ได้เป็นนักจำฮะดีษ ไม่รู้เป็นใคร? เขาว่าดังนี้
เช็คอับดุลลอฮ บิน ฟะฮัด บิน เคาะลีฟะฮ อัลมุนตะฟะญีย์ (عبدالله بن فهد بن خليفة المنتفجي ) ได้วิจารณ์ไว้ในข้อเขียนของท่านชื่อ الدفاع عن حديث الجارية ว่า
والصواب أنه ضعيف لأنه من رواية معاوية بن اسحاق عن سعيد المقبري والمقبري قد اختلط قبل وفاته بأربع سنوات _ كما في تهذيب التهذيب _ ولا نعرف ان كانت رواية معاوية عن سعيد قبل الاختلاط أو بعده أما تصحيح الحافظ فمستغرب لأنه قال في معاوية بن اسحاق (( صدوق ربما وهم )) _ انظر التقريب
และที่ถูกต้อง มันคือหะดิษเฏาะอีฟ เพราะมันมาจากการรายงานของมุอาวิยะฮ บิน อิสหาก จากสะอีดอัลมักบะรีย์ โดยที่อัลมักบะรีย์นั้น มีอารมณ์สับสน ก่อนที่เขาได้เสียชีวิต 4 ปี ดังที่ปรากฏในหนังสือ ตะฮซีบุอัตตะฮซีบ และเราไม่รู้ว่า รายงานมุอาวิยะฮจากสะอีดนั้น เกิดก่อนการมีอารมณ์สับสนหรือหลังจากนั้น สำหรับการที่อัลหาฟีซ(อิบนุหะญัร)ระบุว่าเศาะเฮียะนั้น เป็นเรื่องที่ประหลาด เพราะว่าเขาได้กล่าวในกรณีของ มุอาวิยะฮ บินอิสหากว่า( เป็นผู้ที่เชื่อถือได้ แต่อาจจะเกิดความเข้าใจผิดพลาด) โปรดดูหนังสือ อัตตักรีบ
ปัญหาที่วะฮาบีย์พยายามแย้งก็คือ ตัวนักรายงานที่ชื่อว่า มุอาวิยะฮ์ บิน อิสฮาก ซึ่งเขาความจำสับสนในช่วงท้ายชีวิต ซึ่งสายรายงานของท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์นั้น อุลามาอฺวะฮาบีเขาไม่รู้ว่าได้รายงานก่อนหรือหลังจากที่มีความจำสับสน ท่านอัลฮาฟิซฺเองจึงกล่าวว่า "มุอาวิยะฮ์ บิน อิสฮาก เป็นคนพูดจริง (ไม่ถูกกล่าวหาว่าโกหก) แต่บางครั้งความจำคลุมเคลือ" แต่คุณอะสันแปลว่า "เป็นผู้ที่เชื่อถือได้ แต่อาจจะเกิดความเข้าใจผิดพลาด" ซึ่งเป็นการแปลที่สะเพร่ามาก ๆ ครับ
ดังนั้นเมื่อมีนักรายงานที่ "เป็นคนพูดจริงแต่บางครั้งความจำคลุมเคลือ" แต่เหตุใดนักปราชญ์ผู้จำฮะดีษถึงตัดสินว่าเป็นฮะดีษที่ซอฮิห์ เมื่อถามอย่างนี้วะฮาบีจะเริ่มเจ็บปวดขึ้นมาทันที แต่คำตอบนั้นได้ระบุไว้ในเว็บซุนนะฮ์สติวเด้นแล้วที่ว่า
"และฮะดิษนี้ได้รับการสนับสนุนจากจากฮะดิษท่านญาบิร บิน อับดิลลาฮ์ ด้วยสองรายงาน ซึ่งรายงานโดยท่านอะบูดาวูด ฮะดิษลำดับที่ (4727) และอัลบานีย์เอง ก็ตัดสินว่าเป็นฮะดิษซอฮิห์ ไว้ในหนังสือ มุตตะซ็อรสุนันอะบีดาวูด (4727) , และอัลบานีย์ยังตัดสินเป็นฮะดิษซอฮิห์ไว้ในหนังสือ ญาเมี๊ยะอฺอัศศ่อฮิห์ (854)"
แต่คุณอะสันกล่าวโกหกต่อเว็บซุนนะฮ์สติ้วเด้นว่า "ส่วนที่อ้างว่า อัลบานีย์บอกว่า เศาะเฮียะนั้น เป็นการบิดเบือนแล้วอ้างว่า อัลบานีย์ยังตัดสินเป็นฮะดิษซอฮิห์ไว้ในหนังสือ ญาเมี๊ยะอฺอัศศ่อฮิห์ 854 ทั้งๆที่ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะที่เศาะเฮียะตามที่อัลบานีย์ระบุคือ หะดิษจากญาบีร....(รายงานโดยอบู ดาวูด : 3727, เป็นหะดีษ เศาะฮีหฺ ดูใน เศาะฮีหฺ สุนัน อบี ดาวูด : 3953 และรวมหะดีษเศาะฮีหฺของอัล-อัลบานีย์ : 151)"
เว็บซุนนะฮ์สติวเด้นไม่ใช่บิดเบือน เพราะเขาบอกว่าฮะดีษที่มาสนับสนุนคือฮะดีษของญาบิร ที่อัลบานีบอกว่าซอฮิห์ คุณอะสันต้องกลับไปอ่านให้เข้าใจก่อนซิ แล้วค่อยมาโวยวาย
แต่เมื่อเรากลับไปดูหนังสือ อัลญาเมี๊ยะอัศศ่อฮิห์ของอัลบานีนั้น เว็บซุนนะฮ์สติวเด้นได้กล่าวความจริง แต่คุณอะสันกล่าวหาโกหก เพราะอัลบานีได้กล่าวฮะดีษที่ (853) ก่อนหน้าฮะดีษที่ (854) และตัดสินว่าเป็นฮะดีษซอฮิห์ไว้ในหนัสืออัลญาเมี๊ยะอัศศ่อฮิห์เช่นกันความว่า
أذن لي أن أحدث عن ملك من حملة العرش رجلاه في الأرض السفلى و على قرنه العرش و بين شحمة أذنيه و عاتقه خفقان الطير سبعمائة عام يقول ذلك الملك سبحانك حيث كنت ( طس ) عن أنس 853 صحيح
"ฉันได้รับอนุญาตให้เล่าจากเรื่องมะลาอิกะฮ์ท่านหนึ่ง ซึ่งทั้งสองเท้าของเขาผ่านเข้ามาในแผ่นดินชั้นต่ำสุด....แล้วมะลาอิกะฮ์ดังกล่าวได้กล่าวว่า มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ท่าน พระองค์ท่านทรงอยู่ที่ใหน" รายงานโดยท่านอัฏเฏาะบะรอนี จากท่านอะนัส บิน มาลิก ฮะดีษที่ 853 (อัลบานีตัดสินว่า) ฮะดีษนี้ ซอฮิห์!!
ดังนั้นจึงสรุปได้กล่าว เมื่อความจริงมา ความมดเท็จที่คุณอะสันกล่าวหาผู้อื่นบิดเบือนขึ้นจึงมลายไป ดังนั้นผมมั่นใจมากขึ้นไปอีกว่า "หากผมจะเลือกใครเป็นครูสักคน คุณอะสันคนแรกที่ผมจะไม่เลือก"
คุณอะสันกล่าวว่า
สรุป ขอยืนยันว่า อัลลอฮทรงอยู่ทิศเบื้องสูง ส่วนรูปแบบจะเป็นอย่างไรนั้น เราไม่สามารถรู้ได้..
ตอบชี้แจง
คุณพูดจริงหรือเปล่าคุณอะสัน เพราะเท่าที่คุณได้เคยเสวนามา คุณบอกว่า อัลเลาะฮ์อยู่บนฟ้า มีสถานที่อยู่ข้างบน โดยพระองค์นั่งอยู่บนบัลลังก์ มิใช่หรือ?!
โอ้อัลเลาะฮ์ โปรดทรงให้พวกเราพ้นจากผู้ที่ชอบโกหกตลบตะแลงด้วยเถิด ยาร็อบ
Re: หากมีคำถามว่าพระองค์อัลลอฮ.อยู่ที่ไหน? By: As-Zaleek Date: มี.ค. 21, 2009, 04:26 AM
คุณอะสันกล่าวว่า
แสดงว่า ยอมรับแล้วว่า เห็นด้วยตา.. ที่นี้ ทิศ ให้การบ้านส่งครูนะหนู
إِلىَ رَبِّهَا نَاظِرَةٌ
มองไปยังพระเจ้าพระผู้อภิบาลของเขา
ถาม
มองไปทางใหนจ้ะ หนูฮอนด้า 500
ตอบชี้แจง
อัสลามุอะลัยกุ้มน่ะครับ
คุณอะสัน หากผมจะเลือกใครมาเป็นครู คุณคนแรกที่ผมไม่เลือกมาเป็นครูครับ
เรื่องการเห็นของเราไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่จะต้องมาชี้แจงกัน แต่การเห็นที่พาดพิงเกี่ยวกับอัลเลาะฮ์น่ะซิครับ ที่จะต้องระวังและอธิบายให้พี่น้องเข้าใจในอะกีดะฮ์ที่บริสุทธิ์จากการไปคล้ายกับมัคโลค
อนึ่ง อะกีดะฮ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ของเราอยู่บนรากฐานของอัลกุรอานและซุนนะฮ์ที่ซอฮิห์เด็ดขาด
ตอบคำถามคุณอะสันดังนี้ อัลกุรอานบอกว่า "มองไปยังผู้อภิบาล" ไม่ใช่บอกว่า "มองไปทางใหน" ส่วนจะมองเห็นอย่างไรนั้น เราขอมอบหมายการรู้และเป้าหมายของอายะฮ์นี้ไปยังอัลเลาะฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเท่านั้น
ท่านอิมามอัฏฏ่อหาวีย์ ปราชญ์สะละฟุศศอลิห์ กล่าวว่า
وَالرُّؤْيَةُ حَقٌّ لِأَهْلِ الْجَنَّةِ بِغَيْرِ إِحَاطَةٍ وَلاَ كَيْفِيَّةٍ كَمَا نَطَقَ بِهِ كِتَابُ رَبِّنَا ( وُجُوْهٌ يَوْمَئِذٍ نَاضِرَةٌ إِلىَ رَبِّهَا نَاظِرَةٌ) وَتَفْسِيْرُهُ عَلىَ مَا أَرَادَهُ اللهُ تَعَالىَ وَعَلِمَهُ
" การเห็นอัลเลาะฮ์ เป็นสัจจริงสำหรับชาวสวรรค์ โดยไม่มิได้เห็นรอบด้านอย่างครอบคลุมและไม่มีรูปแบบวิธีการ เสมือนที่คำภีร์ของผู้อธิบาลแห่งเราได้กล่าวว่า "ในวันนั้นหลายใบหน้ามีแต่ความชื่นบาน เขามองไปยังผู้อภิบาลของเขา" และการอธิบายมันนั้น คือตามสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงประสงค์ และตามสิ่งที่พระองค์ทรงรู้"
ท่านอิมามอัลเฏาะฮาวีย์ได้กล่าวว่า
تعالى عن الحدود والغايات، والأركان والأعضاء والأدوات، لا تحويه الجهات الست كسائر المبتدعات
"อัลเลาะฮ์ทรงปราศจากบรรดาขอบเขตและสิ้นสุด และไม่มีส่วนองค์ประกอบต่าง ๆ ไม่มีบรรดาอวัยวะ ไม่มีบรรดาเครื่องมือ(อัลอะดะวาต) และบรรดาทิศทั้งหก(ทิศเบื้องบน , ทิศล่าง , ทิศซ้าย , ทิศขวา , ทิศหน้า , ทิศหลัง)ก็ไม่ครอบคลุมถึงพระองค์เหมือนกับบรรดาพวกบิดอะฮ์ทั้งหลาย"
ท่านอิมามอัฏเฏาะฮาวีย์ ได้กล่าวในบทนำหนังสืออะกีดะฮ์อัฏเฏาฮาวียะฮ์ของท่านว่า
هذا ذكر بيان عقيدة أهل السنة والجماعة ، على مذهب فقهاء الملة : أبي حنيفة النعمان بن ثابت الكوفي ، وأبي يوسف يعقوب بن إبراهيم الأنصاري ، وأبي عبدالله محمد بن الحسن الشيباني رضوان الله عليهم أجمعين
"นี้คือการกล่าวอธิบายถึงอะกีดะฮ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ตามมัซฮับปราชญ์นิติศาสตร์แห่งศาสนาอิสลาม คือท่านอะบูฮะนีฟะฮ์ อันนั๊วะมาน บิน ษาบิต อัลกูฟีย์ , อะบียูซุฟ ยะกูบ บิน อิบรอฮีม อัลอันซอรีย์ , อะบีอับดิลลาฮ์ มุฮัมมัด บิน อัลฮะซัน อัชชัยบานีย์ ขออัลเลาะฮ์ทรงพึงพอพระทัยพวกเขาทั้งหมดด้วยเถิด"
ดังนั้นท่านอิมามอบูหะนีฟะฮฺ ปราศสะลัฟจึงว่า
وَلِقَاءُ اللهِ تَعَالىَ لِأَهْلِ الْجَنَّةِ بِلاَ كَيْفٍ وَلاَ تَشْبِيْهٍ وَلاَ جِهَةٍ حَقٌّ
"และการที่อัลเลาะฮฺ(ตะอาลา)ทรงพบกับชาวพบสวรรค์ โดยไม่มีวิธีการ ไม่มีการคล้ายคลึง และไม่มีทิศนั้น เป็นสัจจะธรรม" ดู กิตาบ อัลวะซียะฮฺ ของอบูหะนีฟะฮฺ หน้า 4
วัลลอฮุอะลัม