คุณ laliklalee ช่วยอธิบายหน่อย By: almadany Date: พ.ค. 29, 2010, 08:05 AM
1- พอได้ยิน คุณเอาเลยไปเปรียบเทียบกับ มัคลูก = เข้าข่าย تمثيل เปรียบพระองค์กับมัคลูก
2- สมองคุณเห็นว่า ไม่ได้ เปรียบเทียบกับมัคลูกไม่ได้ ฉะนั้น ต้องปฎิเสธเรื่องนี้ = เข้าข่าย تعطيل คุณปฏิเสธศิฟัตของอัลลอฮ์
3- เมื่อเป็นความหมายตรงไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนเป็นความหมายโดยนัยแทน คุณจึงตีความว่าต้องมีความหมายอย่างอื่น = เข้าข่าย تحريف คุณบิดเบือนความหมายของศิฟัต
ทั้งสามอย่างนี้สลัฟเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก
ขอรายละเอียดหน่อยครับ เพราะคุณเขียนมาเยอะมากครับ
1. ขอความเข้าใจเกี่ยวกับการแบ่งแยกระหว่าง تشبيه กับ تمثيل หน่อยว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร
2. คำนิยาม تعطيل คือะไร และำคำนิยาม تحريف หมายถึงอะไร และการตีความ(ตะวีล) เข้าข่าย تعطيل และ تحريف เสมอไปหรือไม่?
3. เป็นที่ทราบดีว่า ยะดุน (แปลว่ามือ) แต่ความหมายแท้ตามหลักภาษาอัลกุรอาน(ภาษาอาหรับ)หมายถึงอะไรและความหมายโดยนัยมีอะไรบ้าง
ขอบคุณครับ
ใจเย็นๆครับ เอาทีละเรื่องดีกว่า ผมเสนอเงื่อนไขไปตั้งหลายเรื่องท่านข้ามหมดเลย แล้วที่ผมถามท่านไปตอบคำถามก่อนสิครับ ถ้ามีแต่คนถนัดถามไม่ถนัดตอบจะเรียกเสวนาได้อย่างไร?
Re: คุณ laliklalee ช่วยอธิบายหน่อย By: al-azhary Date: มิ.ย. 06, 2010, 04:31 PM
salam
ผมก็เข้ามารอคำชี้แจงของคุณ laliklalee เช่นกันครับ
Re: คุณ laliklalee ช่วยอธิบายหน่อย By: rayes Date: ส.ค. 18, 2010, 04:51 PM
salam
Re: คุณ laliklalee ช่วยอธิบายหน่อย By: As-Zaleek Date: ส.ค. 20, 2010, 04:42 AM
salam
คุณ laliklalee ครับ ใหนลองตอบคำถามของบังอัซฮะรีหน่อยครับ เห็นไปโพสต์ไว้ในเว็บอื่น ไม่เห็นเสวนาต่อไปเว็บนี้เลย
Re: คุณ laliklalee ช่วยอธิบายหน่อย By: ILHAM Date: ส.ค. 20, 2010, 05:10 AM
เว็บไหนมั่ง
Re: คุณ laliklalee ช่วยอธิบายหน่อย By: rayes Date: ส.ค. 20, 2010, 05:46 PM
PANTIP
Re: คุณ laliklalee ช่วยอธิบายหน่อย By: laliklalee Date: ส.ค. 22, 2010, 12:25 PM
salam
เพราะเวบนี้ เท่าที่เห็นส่วนใหญ่มีแต่บรรดาผู้ที่น้ำเต็มแก้วแล้วงัยครับ...
ผมเคยบอกแล้วว่าจะไม่คุยลงลึกในประเด็นอื่นจนกว่าท่านเจ้าของบ้าน จะกลัดกระดุมเม็ดแรกให้ตรงกันเสียก่อน เพราะพิสูจน์แล้วในเรื่องการทักท้วงคำว่า " วาฮาบีย์ " ที่ท่านอัชอารีย์ให้คำนิยามไว้ ว่าผิดพลาดทางตรรกะอย่างมากมาย ( ตามกระทู้
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=5972.0 ) และไม่เป็นการยุติธรรม หากท่านได้ติดตามอ่านด้วยใจที่เป็นธรรม จะเห็นได้ว่า ข้อผิดพลาดดังกล่าว ไม่ได้รับการยอมรับ หรือ ตอบสนองจากผู้มีสติปัญญาในเวบนี้แต่อย่างใด ยังคงมีการกล่าวหา ตั้งฉายาแก่มุสลิมที่เข้ามาเรียกร้องการพิสูจน์หลักอากีดะฮ์ที่แท้จริง ตามหลักฐานเท่าที่มีจากชนยุคแรกเข้าใจเท่านั้น ว่าเป็น ผู้ยึดแนวทาง "วาฮาบีย์" อยู่นั่นเอง เรียกว่า มีพฤติกรรมตีขลุม เหมารวมอย่างไร ก็ยังตีขลุม เหมารวมเช่นเดิม
ผมจึงเห็นว่าการไปหมกมุ่นยึดติดกับการตีความคำศัพท์ ปรัชญา หรือ ยึดสำนักคิด มากไปกว่า "หลักฐาน" ความเข้าใจตามขอบเขตที่ศาสดา และยุคสลัฟทิ้งไว้เป็นมรดกอันล้ำค่านั้นเป็นการเสียเวลาอย่างแท้จริง เพราะผิดถูกอย่างไร ท่านก็ไม่ได้ยึดเอากิตาบุลลอฮ์ และซุนนะฮ์มาตัดสิน อยู่ดี และที่สำคัญดูจากศักยภาพในการใช้เหตุผล และตรรกะที่บกพร่องตามกระทู้
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=5972.0 ที่เห็นได้ชัดเจนก็ยังบ่งบอกถึงคุณลักษณะของกลุ่มผู้นิยมการตีความได้เป็นอย่างดี
การที่เข้าไปในเวบพันทิพย์ และเผยแผ่ศาสนาอิสลาม ที่เป็นเรื่องง่าย โดยไม่ไปพยายามอธิบายในเรื่องพ้นญานวิสัย น่าจะเป็นประโยขน์แก่ผู้แสวงหาสัจธรรมมากกว่าการเข้ามาแสดงความสามารถทางภาษา นิยามคำนั่น คำนี่ แล้วตีความ เพราะเข้าข่ายการแสวงหาความวุ่นวาย โดยสติปัญญาอันจำกัดจำเขี่ย ในเรื่องอัลลอฮ์ ตามที่พระองค์ทรงกล่าวเตือนไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังโองการต่อไปนี้
"พระองค์คือผู้ทรงประทานคัมภีร์ลงมาแก่เจ้า โดยที่ส่วนหนึ่งจากคัมภีร์นั้นมีบรรดาโองการที่มีข้อความรัดกุมชัดเจน (เมื่อทุกคนได้อ่านหรือได้ฟังแล้วจะเข้าใจเหมือนๆกันโดยไม่ต้องตีความ) ซึ่งโองการเหล่านั้นคือรากฐานของคัมภีร์ (เป็นหลักสำคัญของคัมภีร์ที่มุ่งหมายให้เป็นความรู้ทั้งในหลักการศัทธาและในข้อปฏิบัติของมนุษย์และยังเป็นหลักยึดถือในการตีความโองการที่เป็นนัยอีกด้วย) และมีโองการอื่นๆอีกที่มีข้อความเป็นนัย (มีข้อความเป็นเชิงเปรียบเทียบ อาจเข้าใจได้หลายทาง ผู้ที่มีความรู้ในศาสนาของพระองค์อย่างกว้างขวางเท่านั้นที่จะเข้าใจในทางที่ถูกต้องได้) ส่วนบรรดาผู้ที่ในหัวใจของพวกเขามีความเอนเอียงออกจากความจริงนั้น เขาจะติดตามโองการที่มีข้อความเป็นนัยจากคัมภีร์ ทั้งนี้ เพื่อแสวงหาความวุ่นวาย (เพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวายในหมู่ศรัทธาด้วยการตีความโองการที่เป็นนัยให้เฉออกไปจากความเป็นจริงที่พวกเขาเคยได้รับมาก่อน) และเพื่อการแสวงหาการตีความในโองการเท่านั้น (คือเพื่อแสวงหาการตีความไปตามเป้าหมายที่เขาต้องการ โดยไม่คำนึงว่าจะขัดต่อความหมายของอายะฮที่ข้อความชัดเจนหรือไม่) และไม่มีใครรู้ในการตีความโองการนั้นได้นอกจากอัลลอฮ์ และบรรดาผู้ที่มั่นคงในความรู้เท่านั้น (มีพื้นฐานความรู้อย่างมั่นคง เกี่ยวกับคุณลักษณะต่างๆของพระองค์ (ศิฟาต) และความมุ่งหมายในบทบัญญัติของพระองค์ตลอดจนมีความรู้เกี่ยวกับหลักภาษาที่เป็นโองกา
ร ของพระองค์อย่างกว้างขวางด้วย) โดยที่พวกเขาจะกล่าวว่า พวกเราศรัทธาต่อโองการนั่น ทั้งหมดนั้นมาจากที่ที่พระผู้เป็นเจ้าของเราทั้งสิ้น และไม่มีใครที่จะได้รับคำตักเตือนนอกจากบรรดาผู้ที่มีสติปัญญาเท่านั้น" ( 3 : 7 )
และเช่นเดียวกับการที่เคยมีผู้ออกมายืนยันตอบโต้ข้อกล่าวหาจากท่านนับครั้งไม่ถ้วน “พื้นฐานความรู้เรื่องศีฟาตของอัลลอฮ์อย่างมั่นคง (112 : 4)ไม่เคยสร้างความสับสน งุนงง หรือ กระหายใคร่รู้เพิ่มเติม แก่ผู้ศรัทธา กับการที่ประสบพบเจอกับคำว่า "มือ" "เท้า" หรือ อวัยวะ หรือ คุณลักษณะใดๆที่มีศัพท์ตรงกับมัคลูก ที่พระองค์ได้ตรัสไว้แก่ตัวพระองค์เอง” น่าเสียดายที่คนกลุ่มนี้กลับถูกตราหน้าว่าเป็นเยี่ยงกลุ่มชนหนึ่งที่แปลกแยกออกไปจากผู้ศรัทธาอย่างแท้จริง และลดระดับตั้งฉายาให้เป็นกลุมชนที่ตามแนวทางของอูลามาอ์ในอดีตท่านหนึ่งเท่านั้นเอง
ในความเป็นจริง มัคลูกของพระองค์ก็มีพลัง อำนาจ และกรรมสิทธิ์ มีความเมตตา มีความร่ำรวย มีชีวิต มีการมีอยู่ มีมือ มีเท้า มีการได้ยิน มีการมอง มีการลงมือ มีการเดิน มีการวิ่ง ฯลฯ แต่มีในขอบเขตตามที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงอนุมัติให้มี และแตกต่างกันออกไปตามรูปแบบของมัคลูกแต่ละประเภท แต่ละชนิด แต่มนุษย์สามารถเข้าใจได้ นึกภาพได้ การที่พวกคุณจะพยายามตีความพระดำรัสของพระองค์ให้คับแคบเพียงว่า ถ้าพระองค์ทรงมีคุณลักษณะต่างๆข้างต้น พวกคุณต้องเข้าใจได้ เห็นภาพได้ หรือก็ต้องเหมือน หรืออยู่ในระดับเดียวกับมัคลูก แล้วก็ตีความเป็นความหมายเชิงนามธรรม ก็แน่นอนว่าคุณลักษณะที่เป็นเชิงนามธรรมทุกประการดังกล่าวมาข้างต้นก็ย่อมหนีไม่พ้นคุณลักษณะเชิงนามธรรมที่มีอยู่ของมนุษย์ตามที่พวกคุณกำลังนึกคิด และจินตนาการ ได้ด้วยเช่นกัน จะชี้แจงได้อย่างไร? พลัง หรือ อำนาจ มนุษย์ก็มีเช่นกัน? แต่มีอย่างไรผู้ที่รู้จักแยกแยะย่อมเข้าใจได้มิใช่หรือ??? พลังอำนาจ หรือมือ ที่พระองค์ทรงมีย่อมแตกต่างกันอย่างเทียบไม่ได้กับที่มนุษย์มีอย่างแน่นอน
การพยายามให้ความชัดเจนแก่สติปัญญาในรูปร่าง หรือลักษณะของพระองค์อัลลอฮ์นั้น แน่นอนว่าเป็นการหลงผิดในระดับอากีดะฮ์ที่เป็นรากฐานของศาสนาอย่างชัดแจ้ง อิสลามนั้นง่าย เพียงยอมรับว่าพระองค์ทรงมีในแบบของพระองค์ และทรงเป็นตามที่พระองค์ทรงแจ้งให้รู้ มนุษย์ก็มีหน้าที่เพียงเข้าใจว่าพระองค์ทรงมีในรูปแบบเฉพาะของพระองค์ ที่ไม่สามารถจินตนาการเปรียบเทียบกับมัคลูกใดๆตามความเข้าใจของตนเองได้ และเข้าใจตามที่หลักฐานที่กุรอาน และฮาดีษที่เชื่อถือได้มายืนยันขอบเขตความเข้าใจไว้แล้ว ก็เท่านั้นเอง เพราะอิสลามนั้นง่าย และง่ายกับมักง่ายนั้นย่อมแตกต่างกันอย่างแน่นอน
วัลลอฮูอะลัม
Re: คุณ laliklalee ช่วยอธิบายหน่อย By: laliklalee Date: ส.ค. 22, 2010, 12:55 PM
<<ตอบความเห็น As-Zaleek ที่ได้ถูกลบไปแล้วโดยไม่ทราบสาเหตุ>>
ต้องมาตีความคำว่า "รูปแบบ" กันอีกไหมครับนี่??? ผิดหรือครับที่พระองค์จะทรงมีรูปแบบเฉพาะของพระองค์เองที่พ้นญานวิสัยของมนุษย์ เช่นเดียวกับที่พระองค์จะมีคุณลักษณะของพระองค์เองที่พ้นญานวิสัยของมนุษย์? หรือว่าใช้คำว่า"รูปแบบ" แล้วเป็นบิดอะฮ์ ต้องใช้คำว่า "คุณลักษณะ" ผมก็ไม่ทราบว่าพอพูดถึงคำว่า"รูปแบบ" แล้วท่านจินตนาการไปถึงไหน?
Re: คุณ laliklalee ช่วยอธิบายหน่อย By: As-Zaleek Date: ส.ค. 22, 2010, 12:59 PM
ต้องมาตีความคำว่า "รูปแบบ" กันอีกไหมครับนี่???
คุณจะมาตีความอะไรกันอีก เมื่อมันชัดเจน ตีความเพื่ออะไร เพื่อให้เข้าทางอะกีดะฮ์คุณ ทั้งที่สะลัฟไม่รู้เรื่องกระนั้นหรือ? หากจะตีความก็เอาสะลัฟมาอธิบายตีความซิ
หนังสือ อะกีดะฮ์ อัฏฏะฮาวียะฮ์ คงเพียงพอในการนำเสนอ แนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์นะครับ ท่านอิมามอัฏฏ่อหาวีย์ อุลามาอ์มัซฮับหะนะฟีย์ กล่าวว่า
والرؤية حق لأهل الجنة بغير إحاطة ولا كيفية كما نطق به كتاب ربنا ( وجوه يومئذ ناضرة إلى ربها ناظرة) وتفسيره على ما أراده الله تعالى وعلمه
"การเห็นอัลเลาะฮ์ เป็นสัจจริง สำหรับชาวสวรรค์ โดยไม่สามารถครอบคลุมได้และไม่มีรูปแบบวิธีการ เสมือนที่คำภีร์ของผู้อธิบาลของเราได้กล่าวว่า "ในวันนั้นหลายใบหน้ามีแต่ความชื่นบาน เขามองไปยังผู้อภิบาลของเขา" และการอธิบายมันนั้น ตามที่อัลเลาะฮ์ ตามจุดประสงค์ของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา และความรู้ของพระองค์"
สะลัฟเขาพูดกันอย่างนี้ ซีฟัตของอัลลอฮ์ไม่มีรูปแบบวิธีการ ซึ่งชัดเจน แต่วะฮาบีย์มัวแต่มาตีความและอธิบายมาสนุนแนวทางอะกีดะฮ์มักง่ายของตนเองกระนั้นหรือ?...
Re: คุณ laliklalee ช่วยอธิบายหน่อย By: laliklalee Date: ส.ค. 22, 2010, 01:03 PM
ผมว่าคุณอย่าชวนผมไปตีความเรื่องอื่นใดเลยครับ ที่ผมเขียนไปคุณยังตีความว่าผมชวนให้คุณตีความคำว่า "รูปแบบ" อยู่เลย???
สงสัยเห็นเครื่องหมาย question mark (?) รึปล่าว? ผมแค่รู้สึกฉงนเท่านั้นเองครับ
Re: คุณ laliklalee ช่วยอธิบายหน่อย By: As-Zaleek Date: ส.ค. 22, 2010, 01:05 PM
ผมว่าคุณอย่าชวนผมไปตีความเรื่องอื่นใดเลยครับ ที่ผมเขียนไปคุณยังตีความว่าผมชวนให้คุณตีความคำว่า "รูปแบบ" อยู่เลย???
สงสัยเห็นเครื่องหมาย question mark (?) รึปล่าว? ผมแค่รู้สึกฉงนเท่านั้นเองครับ
มาเกริ่นแบบสวยหรูว่าอิสลามง่าย เพื่อให้พี่น้องท่านอื่นๆ เชื่อหลักอะกีดะฮ์มักง่ายของคุณ ที่ยืนยันรูปแบบวิธีการให้กับซีฟัตอัลลอฮ์ ที่บิดอะฮ์ ทั้งที่สะละฟุศศอและห์มิใช่เป็นเช่นนั้น
ทั้งที่ความจริงแล้ว ไม่ยืนยันเรื่องรูปแบบวิธีการ จะง่ายยิ่งกว่าเสียอีก
Re: คุณ laliklalee ช่วยอธิบายหน่อย By: laliklalee Date: ส.ค. 22, 2010, 01:08 PM
อย่าร้อนรนสิครับ ทีละเรื่อง อิสลามนั้นง่ายจริงๆครับ และไม่ได้สวยหรูอย่างที่ท่านสร้างภาพ ง่าย และเรียบง่าย ตรงกันข้ามกับสวยหรู คือสมถะต่างหาก อากีดะฮ์ที่ผมกล่าวมาไม่ตรงตามสะละฟุศศอและห์อย่างไร ก็ช่วยชี้ชัดด้วย เอาทีละประเด็นครับ อย่าเหมารวม
Re: คุณ laliklalee ช่วยอธิบายหน่อย By: laliklalee Date: ส.ค. 22, 2010, 01:12 PM
...
"การเห็นอัลเลาะฮ์ เป็นสัจจริง สำหรับชาวสวรรค์ โดยไม่สามารถครอบคลุมได้และไม่มีรูปแบบวิธีการ เสมือนที่คำภีร์ของผู้อธิบาลของเราได้กล่าวว่า "ในวันนั้นหลายใบหน้ามีแต่ความชื่นบาน เขามองไปยังผู้อภิบาลของเขา" และการอธิบายมันนั้น ตามที่อัลเลาะฮ์ ตามจุดประสงค์ของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา และความรู้ของพระองค์"
สะลัฟเขาพูดกันอย่างนี้ ซีฟัตของอัลลอฮ์ไม่มีรูปแบบวิธีการ ซึ่งชัดเจน แต่วะฮาบีย์มัวแต่มาตีความและอธิบายมาสนุนแนวทางอะกีดะฮ์มักง่ายของตนเองกระนั้นหรือ?...[/size]
อย่างนี้ตรรกะเข้าเรียกว่าอ้างถูกแต่สรุปผิด สลัฟกำลังพูดถึง"การเห็นของชาวสวรรค์" ครับ การเห็นนั้นไม่มีรูปแบบหรือวิธีการ ไม่ได้กำลังพูดถึงซีฟัต หรือพระองค์ที่ถูกเห็น คำว่า"รูปแบบ"กินความหมายกว้างครับ อย่างเพิ่งไปด่วนสรุปชี้นำ
Re: คุณ laliklalee ช่วยอธิบายหน่อย By: As-Zaleek Date: ส.ค. 22, 2010, 01:18 PM
อย่าร้อนรนสิครับ ทีละเรื่อง อิสลามนั้นง่ายจริงๆครับ และไม่ได้สวยหรูอย่างที่ท่านสร้างภาพ ง่าย และเรียบง่าย ตรงกันข้ามกับสวยหรู คือสมถะต่างหาก อากีดะฮ์ที่ผมกล่าวมาไม่ตรงตามสะละฟุศศอและห์อย่างไร ก็ช่วยชี้ชัดด้วย เอาทีละประเด็นครับ อย่าเหมารวม
ก็คุณกล่าวว่าอะกีดะฮ์อันแสนง่ายของคุณว่า
salam
อิสลามนั้นง่าย เพียงยอมรับว่าพระองค์ทรงมีในแบบของพระองค์ และทรงเป็นตามที่พระองค์ทรงแจ้งให้รู้ มนุษย์ก็มีหน้าที่เพียงเข้าใจว่าพระองค์ทรงมีในรูปแบบเฉพาะของพระองค์ ที่ไม่สามารถจินตนาการเปรียบเทียบกับมัคลูกใดๆตามความเข้าใจของตนเองได้ และเข้าใจตามที่หลักฐานที่กุรอาน และฮาดีษที่เชื่อถือได้มายืนยันขอบเขตความเข้าใจไว้แล้ว ก็เท่านั้นเอง เพราะอิสลามนั้นง่าย และง่ายกับมักง่ายนั้นย่อมแตกต่างกันอย่างแน่นอน
อิสลามของคุณง่ายจนมักง่ายหรือเปล่าคร้าบ คุณบอกว่าอัลลอฮ์มีรูปแบบ (กัยฟ์) พยายามยืนยันว่าอัลลอฮ์มีรูปแบบ ทั้งที่สะละฟุศศอลิห์มิได้เชื่อเช่นนั้น
ด้วยเหตุเช่นนี้ ท่านอิมามอะหฺมัดจึงกล่าวว่า
هذه الأحاديت نؤمن بها ونصدق ، لا كيف ولا معنى ، ولا نصف الله تعالى بأكثر مما وصف به نفسه
"บรรดาหะดิษเหล่านี้ เราได้ศรัทธานั้น และเชื่อ โดยที่ไม่มีรูปแบบวิธีการ(สำหรับคุณลักษณะของพระองค์) และไม่มีความหมาย(ที่เฉพาะ) และเราไม่พรรณากับคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์ ให้มากกว่าสิ่งที่พระองค์ทรงพรรณาไว้กับพระองค์เอง" ดู หนังสือ ลุมอะฮ์ อัลเอี๊ยะติก๊อต ของท่าน อิบนุ กุดามะฮ์ หน้า 3
ดังนั้นการบอกว่าอัลเลาะฮ์ีมีรูปแบบ(แต่ไม่รู้ว่ารูปแบบอย่างไร) ก็จะเลยนำไปสู่การเชื่อ(ของวะฮาบีบางคนว่า)อัลลอฮ์มีรูปร่างแต่ไม่เหมือนกับสิ่งใด!
อะกีดะฮ์มักง่ายของวะฮาบีย์แบบนี้ บิดอะฮ์ครับ...
Re: คุณ laliklalee ช่วยอธิบายหน่อย By: laliklalee Date: ส.ค. 22, 2010, 01:20 PM
เห็นไหมครับ การเข้าใจของคนเราที่ไม่ประสงค์จะเข้าใจนั้นเป็นอย่างไร
เอาเป็นว่า ไม่มีอะไรใหม่นะครับ ถ้ามีเวลาจะเข้ามาใหม่นะครับ ถึงแม้ผมจะไม่ให้ความสลักสำคัญอะไรกับการมาแสดงความเห็นที่จะออกไปในทางโต้วาทีซะมากในเวบนี้ แต่ผมก็จะแวะเวียนมาเสมอ เพราะอินชาอัลลอฮ์ยังมีผู้ต้องการเรียนรู้อยู่ในเวบแห่งนี้ที่เป็นอามานะฮ์ ที่มุสลิมจะต้องเข้ามาปกป้องการบิดเบือนศาสนา เท่าที่ความรู้ความสามารถ และเวลาจะเอื้ออำนวย
วัสลามครับ