กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ มุมตะเซาวุฟอิสลาม
Pages: 123456
Re: หนังสือ "โอ้ลูกรัก" ของอิมามอัลฆอซาลี (ขอให้พี่น้องช่วยกันแปลครับ) By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ก.ค. 26, 2007, 12:20 PM
أيهـا الولــد:

إني أنصحك بثمانية أشياء ، اقبلها مني لئلا يكون علمك خصمك يوم القيامة ، تعمل منها أربعة ، وتدع منها أربعة:
أما اللواتي تدع:
فأحدها: ألا تناظر أحدا في مسألة ما استطعت لأن فيها آفات كثيرة ، فإثمها أكبر من نفعها ، إذ هي منبع كل خلق ذميم كالرياء والحسد والكبر والحقد والعداوة والمباهاة وغيرها.
نعم ، لو وقع مسألة بينك وبين شخص أو أقوام ، وكانت إرادتك فيها أن تظهر الحق ولا يضيع ، جاز البحث ، لكن لتلك الإرادة علامتان:
إحداهما: ألا تفرّق بين أن ينكشف الحق على لسانك أو على لسان غيرك.
والثانية: أن يكون البحث في الخلاء أحبّ إليك من أن يكون في الملأ.

โอ้ลูกรัก

ฉันขอเตือนเจ้า 8 ประการ  เจ้าจงตอบรับมันจากฉัน  เพื่อไม่ให้ความรู้ของเจ้าเป็นคู่ปรับของเจ้าในวันกิยามะฮ์  ดังนั้น  ท่านจงปฏิบัติ 4 อย่าง  และจงละทิ้ง 4 อย่าง

สำหรับบรรดสิ่งที่ท่านต้องทิ้งนั้น  คือ

ประการที่หนึ่ง  เจ้าอย่าทำการโต้แย้งกับคนๆ หนึ่ง ที่เกี่ยวกับประเด็นปัญหาหนึ่งเท่าที่สามารถจะกระทำได้  เพราะว่าการโต้เถียงกันนั้นมีโรคมากมาย  บาปของมันมีมากกว่าผลประโยชน์  เนื่องจากมันเป็นบ่อเกิดของทุกๆ จรรยามารยาทที่เลว  เช่น  โอ้อวด  อิจฉา  ยะโสโอหัง  ริษยา  เป็นศัตรูกัน  โอดดีกันและกัน  และอื่นๆ 

แต่ทว่า  หากมีประเด็นปัญหาหนึ่งเกิดขึ้นระหว่างเขากับบุคคลหนึ่งหรือกับกลุ่มชนหนึ่ง  โดยที่เจตนาของเจ้านั้นเพื่อให้ปรากฏซึ่งสัจจะธรรมความจริงและไม่ต้องการให้สัจจะธรรมถูกริดรอน  ก็อนุญาตให้ทำการวิเคราะห์กันได้

แต่เจตนาดังกล่าวนั้นมีอยู่ 2 เครื่องหมาย
เครื่องหมายแรก  คือ  เจ้าอย่างแบ่งแยกระหว่างสัจธรรมที่ประจักษ์ชัดอยู่บนลิ้นของเจ้าหรือบนลิ้นของผู้อื่นจากท่าน (หมายถึงยอมรับซึ่งกันและกันหากเป็นสัจจะธรรม)
เครื่องหมายที่สอง  คือ  การวิเคราะห์กันเพียงลำพัง  ต้องเป็นที่รักยิ่งไปยังเจ้า มากกว่าการวิเคราะห์กันต่อหน้าฝูงชน   
 
Re: หนังสือ "โอ้ลูกรัก" ของอิมามอัลฆอซาลี (ขอให้พี่น้องช่วยกันแปลครับ) By: al-azhary Date: ก.ค. 26, 2007, 08:24 PM
واسمع أني أذكر ههنا فائدة ، واعلم أن السؤال عن المشكلات عرض مرض القلب إلى الطبيب ، والجواب له سعي لإصلاح مرضه.
واعلم أن الجاهليين: المرضى قلوبهم ، والعلماء: الأطباء.
والعالم الناقص لا يحسن المعالجة ، والعالم الكامل لا يعالج كل مريض ، بل يعالج من يرجو فيه قبول المعالجة والصلاح ، فإذا كانت العلة مزمنة أو عقيما لا تقبل العلاج ، فحذاقة الطبيب فيه أن يقول: هذا لا يقبل العلاج ، فلا تشغل فيه بمداواته لأن فيه تضييع العمر.

ท่านจงฟังเถิด ณ ที่นี้ ฉันจะกล่าวประโยชน์หนึ่งได้ฟัง  และท่านจงรู้เถิดว่า  การถามถึงปัญหาต่าง ๆ นั้น  คือการนำเสนอของคนเป็นโรคหัวใจไปยังนายแพทย์  และการตอบคำถามให้กับเขานั้น  คือการพยายามเพื่อเยียวยาโรคของเขา

และท่านจงรู้ไว้เถิดว่า แท้จริงบรรดาคนโง่เขลานั้น  คือคนป่วยโรคหัวใจ  ส่วนบรรดาอุลามาอ์คือนายแพทย์  และผู้รู้ที่บกพร่องย่อมไม่สามารถเยียวยาผู้ป่วยให้ดีได้  และผู้รู้ที่สมบูรณ์ก็ไม่สามารถเยียวยาผู้ป่วยได้ทุกคน  แต่ทว่าเขาได้ทำการเยียวยาผู้ที่หวังว่าเขาจะตอบรับการเยียวยาและรับการปรับปรุง  ดังนั้นเมื่อโรคได้เรื้อรังที่ไม่รับการเยียวแล้วนั้น   ก็ให้แพทย์ใช้ความฉลาดโดยกล่าวว่า  คนนี้ไม่สามารถรับการเยียวยาได้แล้ว  ฉะนั้นท่านก็อย่าให้ความสนใจที่จะเยียวเขาเลย  เพราะมันทำให้เสียเวลา
Re: หนังสือ "โอ้ลูกรัก" ของอิมามอัลฆอซาลี (ขอให้พี่น้องช่วยกันแปลครับ) By: al-azhary Date: ก.ค. 26, 2007, 10:36 PM
ثم اعلم أن مرض الجهل على أربعة أنواع : أحدها يقبل العلاج ، والباقي لا يقبل.
- أما الذي لا يقبل:
فأحدهما: من كان سؤاله واعتراضه عن حسد وبغض ، فكلما تجيبه بأحسن الجواب وأفصحه ، فلا يزيد له ذلك إلا بغضا عداوة وحسدا ، فالطريق ألا تشتغل بجوابه ، فقد قيل:

كل العداوة قد ترجى أزالتها ... إلا عداوة من عاداك عن حسد

فينبغي أن تعرض عنه ، وتتركه مع مرضه؛ قال الله تعالى:{فأعرض عن من تولى عن ذكرنا ولم يرد إلا الحياة الدنيا}.
والحسود بكل ما يقول ويفعل يوقد النار في زرع علمه: (الحسد يأكل الحسنات كما تأكل النار الحطب)

والثاني: أن تكون علته من الحماقة ، وهو أيضا لا يقبل العلاج كما قال عيسى عليه السلام: إني ما عجزت عن إحياء الموتى ، وقد عجزت عن معالجة الأحمق.
وذلك رجل يشتغل بطلب العلم زمنا قليلا ويتعلم شيئا قليلا من علوم العقل والشرع ، فيسأل ، ويعترض من حماقته على العالم الكبير ، الذي أمضى عمره في العلوم: العقلي والشرعي ، وهذا الأحمق لا يعلم ، ويظن أن ما أشكل عليه هو أيضا مشكل للعالم الكبير ، فإذا لم يعلم هذا القدر يكون سؤاله من الحماقة ، فينبغي ألا يشتغل بجوابه.

หลังจากนั้น  ท่านจงรู้ไว้เถิดว่า  โรคของความโง่เขลานั้น  มีสี่ประเภท   หนึ่งนั้นคือโรคโง่เขลาที่รับการเยียวยา  และส่วนที่เหลือไม่รับการเยียวยา
สำหรับสิ่งที่ไม่รับการเยียวยา  คือ  :

1. ผู้ที่ถามและการคัดค้านของเขามาจากความอิจฉาและความโกรธเคือง  ดังนั้นทุกครั้งที่ท่านได้ตอบเขาด้วยคำตอบที่ดีและชัดเจนที่สุดนั้น  ก็จะไม่เพิ่มอันใดแก่เขานอกจากความโกรธเคือง  ความเป็นศรัตรู  และความอิจฉาริษยา  ฉะนั้นวิธีก็คือท่านอย่างสนใจที่จะตอบเขาเลย
ได้ถูกกล่าวบทกวีความว่า
ทุกการเป็นศัตรูนั้นจะถูกหวังให้เลือนหายไป     นอกจากความเป็นศัตรูของผู้ที่เป็นศัตรูกับท่านจากความริษยา

ดังนั้นจึงสมควรที่ท่านต้องหลีกห่างจากเขา  ทิ้งเขาให้อยู่พร้อมกับความป่วยของเขาเอง  อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "ดังนั้นเจ้าจงหันออกจากบุคคลที่หันเหจากคำเตือนของเราเถิด  และเขามิได้มุ่งหมายสิ่งใดทั้งสิ้น  นอกจากชีวิตทางโลกนี้เท่านั้น" อันนัจมุ 29

และผู้ที่อิจฉาริษยาด้วยกับทุก ๆ สิ่งที่เขาได้พูดและกระทำนั้น  เขากำลังจุดไฟในสิ่งเพาะปลูกแห่งคามรู้ของเขา "ความอิจฉานั้นได้กัดกินบรรดาความดีงามเหมือนกับไฟกินฟืน"

2. โรคของเขามาจากความโง่เขลา  ดังนั้นเขาเช่นกันที่ไม่สามารถรับการเยียวยาได้  เหมือนกับที่ท่านนบีอีซา อะลัยฮิสลาม  กล่าวว่า  ฉันสามารถทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้  แต่ฉันไม่สามารถเยียวคนโง่เขลาได้"  ดังกล่าวนั้น  ก็คือ  บุคคลหนึ่งที่ทำการสนใจแสวงหาความรู้เพียงเวลาเล็กน้อย  ทำการศึกษาเพียงเล็กน้อยจากวิชาการต่าง ๆ ทางด้านสติปัญญาและทางด้านศาสนา  และจากความโง่เขลาของเขานั้น  ก็จะทำการคัดค้านผู้มีความรู้อาวุโส  ที่อายุของเขานั้นหมดไปกับเรื่องวิทยาการต่าง ๆ  ทั้งวิทยาการทางสติปัญญาหรือศาสนา  โดยที่คนโง่เขลานี้ไม่รู้อะไรเลย  และคิดว่าสิ่งสงสัยที่มีต่อเขานั้น  เป็นสิ่งที่สงสัยสำหรับผู้มีความรู้ที่อาวุโสเช่นกัน  ดังนั้น  เมื่อเขาไม่รู้ถึงเกียรติอันนี้  คำถามของเขาจึงมาจากความโง่เขลา ฉะนั้น  เขาสมควรอย่าสนใจให้กับการตอบกับเขา
Re: หนังสือ "โอ้ลูกรัก" ของอิมามอัลฆอซาลี (ขอให้พี่น้องช่วยกันแปลครับ) By: al-azhary Date: ก.ค. 27, 2007, 08:04 AM
والثالث: أن يكون مسترشدا ، وكل ما لا يفهم من كلام الأكابر يحمل على قصور فهمه ، وكان سؤاله للاستفادة ، لكن لكونه بليدا لا يدرك الحقائق ، فلا ينبغي الاشتغال بجوابه أيضا ، كما قال رسول الله صلى الله عليه وسلم: (نحن معاشر الأنبياء أمرنا أن نكلم الناس على قدر عقوله)

وأما المرض الذي يقبل العلاج ، فهو أن يكون مسترشدا عاقلا فهما لا يكون مغلوب الحسد والغضب وحب الشهوة والجاه والمال. ويكون طالب طريق المستقيم ، ولم يكن سؤاله واعتراضه عن حسد ، وتعنّت وامتحان ، وهذا يقبل العلاج ، فيجوز أن تشتغل بجواب سؤاله بل يجب عليك إجابته.

3. เขาต้องเป็นคนที่ขอคำชี้แนะ  และสิ่งที่เขาไม่เข้าใจจากคำพูดของปราชญ์ผู้อาวุโสนั้น  ถูกตีความว่าเขามีความเข้าใจที่บกพร่องและคำถามของเขาเพื่อให้ได้รับประโยชน์  แต่เพราะเขาเป็นคนโง่เขลา  จึงทำให้ไม่รู้ข้อเท็จจริงต่าง ๆ  ดังนั้น  จึงไม่สมควรที่จะให้ความสนใจในการตอบเช่นกัน  เสมือนที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า "เราเป็นบรรดานบีที่ถูกใช้ให้พูดกับบรรดามนุษย์ตามขนาดที่สติปัญญาเขารับได้"

สำหรับการป่วยที่สามารถรับการเยียวยาได้  คือเขาต้องเป็นผู้ที่ขอคำชี้แนะ  มีสติปัญญา  มีความเข้าใจ  ที่ไม่ถูกความอิจฉาริษยา  ความโกรธ  รักกิเลส  รักเกียรติยศ  และทรัพย์สิน  มาครอบงำ  และเขาต้องเป็นผู้แสวงหาหนทางที่เที่ยงตรง  โดยที่การถามและการคัดค้านของเขานั้นไม่ใช่มาจากความอิจฉาริษยา  ดื้อดึง และลองภูมิ  ซึ่งเขาคนนี้สามารถรับการเยียวยาได้  ดังนั้นจึงอนุญาตให้เขาสนใจที่จะตอบคำถามของเขา  ยิ่งว่านั้น  จำเป็นบนท่านต้องทำการตอบให้กับเขา 
Re: หนังสือ "โอ้ลูกรัก" ของอิมามอัลฆอซาลี (ขอให้พี่น้องช่วยกันแปลครับ) By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ก.ค. 27, 2007, 05:05 PM
والثاني مما تدع: وهو أن تحذر وتحترز من أن تكون واعظا ومذكرا؛ لأن آفته كثيرة إلا أن تعمل بما تقول أولا ، ثم تعظ به الناس ، فتفكر فيما قيل لعيسى عليه السلام: (يا ابن مريم عظ نفسك ، فإن اتعظت فعظ الناس ، وإلا فاستح من ربك).
وإن ابتليت بهذا العمل فاحترز عن خصلتين:

الأولى: عن التكلف في الكلام بالعبارات والإشارات والطامات والأبيات والأشعار؛ لأن الله تعالى يبغض المتكلفين ، والمتكلف المتجاوز عن الحد ، يدل على خراب الباطن وغفلة القلب.

ومعنى التذكير: أن يذكر العبد نار الآخرة ، وتقصير نفسه في خدمة الخالق ويتفكر في عمره الماضي الذي أفناه فيما لا يعنيه ويتفكر فيما بين يديه من العقبات من عدم سلامة الإيمان في الخاتمة ، وكيفية حاله في قبض ملك الموت ، وهل يقدر على جواب منكر ونكير؟
ويهتم بحاله في القيامة ومواقفها ، وهل يعبلا عن الصراط سالما أم يقع في الهاوية؟

สอง   จากสิ่งที่เจ้าต้องละทิ้ง  คือ  ท่านจงระหว่งจากการเป็นผู้ตักเตือน  เพราะโรคของผู้ตักเตือนนั้นมีมากมายนอกจากเสียว่าเจ้าได้ปฏิบัติในสิ่งที่เจ้าพูดเป็นอันดับแรก  หลังจากนั้นท่านก็ทำการตักเตือนผู้คนด้วยกับสิ่งที่ทำพูด  แล้วเจ้าจงคิดพิจารณาในสิ่งที่ถูกกล่าวกับ อีซา อะลัยฮิสลาม ว่า "โอ้ บุตรมัรยัม  ท่านจงตักเตือนตัวท่านเอง  ดังนั้นหากท่านน้องรับการตักเตือนนั้นแล้ว  ก็จงตักเตือนบรรดามนุษย์ทั้งหลาย และหากไม่เป็นเช่นนั้น  ท่านก็จงละอายพระผู้อภิบาลของเจ้าเถิด"

และหากเจ้าถูกทดสอบด้วยกับการทำภาระกิจนี้  ดังนั้น  เจ้าระวังจากสองประการ

ประการแรก  ระวังจากการทำให้มีความเข้าใจยากลำบากในพูด  ไม่ว่าจะด้วยบรรดาสำนวน   ข้อบ่งชี้ความนัย   ความวิบัติต่าง ๆ และบรรดาบทกวี  เพราะอัลเลาะฮ์ทรงไม่พอพระทัยบรรดาผู้ทำให้มีความยาก  และผู้ที่ทำให้มีความยากเกินเลยขอบเขต  ย่อมชี้ถึงว่าภายในของเขาพังเสียหายและหัวใจมีความหลงลืม

และความหมายของการตักเตือนให้รำลีกนั้น   คือบ่าวคนหนึ่งได้รำลึกถึงไฟนรกในวันอาคิเราะฮ์    รำลึกถึงความบกพร่องของตนเองในการสนองรับใช้อัลเลาะฮ์ผู้ทรงสร้าง  ให้เขาคิดพิจารณาถึงอายุไขของเขาที่ผ่านมาซึ่งเขาได้ใช้อายุไขของเขาหมดไปกับสิ่งที่ไม่มีประโยชน์  และให้เขาทำการพิจารณาใคร่ควรญในสิ่งที่อยู่ต่อหน้าเขาจากบรรดาผลที่ได้รับจากความไม่ปลอดภัยในอีหม่านในช่วงวาระสุดท้าย  และให้เขาพิจารณาถึงสภาพของเขาในช่วงที่มะลาอิกะฮ์แห่งความตายได้มาถอดวิญญาน  พิจารณาว่าเขาจะมีความสามารถที่จะตอบคำถามของมุงกัรและนะกีรได้หรือไม่?  ให้เขาให้ความสำคัญกับสภาพและท่าทีต่าง ๆ ของเขาในวันกิยามะฮ์  และเขาสามารถที่จะผ่านสะพานสิร๊อฏอย่างปลอดภัยหรือว่าต้องตกลงหุบเหวนรก

Re: หนังสือ "โอ้ลูกรัก" ของอิมามอัลฆอซาลี (ขอให้พี่น้องช่วยกันแปลครับ) By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ก.ค. 29, 2007, 11:02 AM
ويستمر ذكر هذه الأشياء في قلبه ، فيزعجه عن قراره ، فغليان هذه النيران ، وتوجه هذه المصائب يسمّى تذكيرا ، وإعلام الخلق واطلاعهم على هذه الأشياء ، وتنبيههم على تقصيرهم وتفريطهم ، وتبصيرهم بعيوب أنفسهم لتمسّ حرارة هذه النيران أهل المجلس ، وتجزعهم تلك المصائب ليتداركوا العمر الماضي بقدر الطاقة ، ويتحسّروا على الأيام الخالية في غير طاعة لله تعالى.
هذه الجملة على هذا الطريق تسمى وعظا ، كما لو رأيت أن السيل قد هجم على دار أحد ، وكان هو وأهله فيها فتقول: الحذر الحذر فروا من السيل!! وهل يشتهي قلبك في هذه الحالة أن تخبر صاحب الدار خبرك بتكلف العبارات ، والنكت والإشارات؟ فلا يشتهي البتة؛ فكذلك حال الواعظ فينبغي أن يجتنبها.

และให้การรำลึกสิ่งดังกล่าวยังคงอยู่ในหัวใจของเขา  ดังนั้นมันก็จะเข้ามาเป็นความทุกข์โศรกจากความสงบของหัวใจ  แล้วความเร้าร้อนก็พวยพุ่ง  และเขาเผชิญหน้ากับบททดสอบเช่นนี้  ถูกเรียกว่า การเตือนให้รำลึก   เป็นการประกาศให้บรรดามัคโลครู้ถึงประการต่างๆ เหล่านี้   ย้ำเตือนพวกเขาให้ตระหนักถึงความบกพร่องและการละเลยของพวกเขา  และทำให้พวกเขารู้แจ้งถึงข้อตำหนิต่าง ๆ ของตัวพวกเขาเอง  เพื่อให้ความเร้าร้อนของไฟอันโชติช่วงนี้ได้สัมผัสกับผู้ที่พำนัก  ทำให้พวกเขาเกรงกลัวถึงบททอดสอบดังกล่าว  เพื่อพวกเขาได้รับรู้ว่าถึงช่วงอายุไขที่ผ่านมาล่วงมาเท่าที่สามารถ  และพวกเขาจะได้เศร้าโศรกต่อวันเวลาที่ว่างเปล่าโดยไม่ทำการตออัตต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา 

บทสุรปบนหนทางนี้ถูกเรียกว่าข้อเตือนใจ   เช่นหากว่าท่านได้เห็นว่า  สายน้ำหลากได้จู่โจมบ้านของบุคคลหนึ่ง  โดยที่เขาและครอบครัวได้อยู่ในบ้านหลังนั้น  ดังนั้น  ท่านก็จะกล่าวว่า  จงระวัง  จงระวัง  พวกท่านจงหนีจากน้ำที่ไหลหลากนี้เถิด!!  และหัวใจของท่านชอบในสถานะการณ์เช่นนี้ กับการที่ท่านได้บอกกับเจ้าของบ้าน ด้วยคำบอกกล่าวของท่านที่มีสำนวนเข้าใจยาก  มีจุดที่ใช้ความเข้าใจ  และมีข้อบ่งชี้เป็นนัยหรือไม่?  ดังนั้น แน่นอนว่าเข้าของบ้านคงไม่ชอบอย่างเด็ดขาด  ฉะนั้น  ผู้ที่ทำหน้าที่ตักเตือนก็มีสภาพเฉกเช่นดังกล่าวนั่นแหละ   ดังนั้นเขาสมควรห่างไกลมัน(จากการบอกด้วยสำนวนที่เข้าใจยาก)   

Re: หนังสือ "โอ้ลูกรัก" ของอิมามอัลฆอซาลี (ขอให้พี่น้องช่วยกันแปลครับ) By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ส.ค. 01, 2007, 01:27 PM
الخصلة الثانية: ألا تكون همّتك في وعظك أن ينفر الخلق في مجلسك ويظهروا الوجد ، ويشقوا الثياب ، ليقال: نعم المجلس هذا؛ لأن كله ميل للدنيا والرياء ، وهو يتولد من الغفلة ، بل ينبغي أن يكون عزمك وهمّتك أن تدعو الناس من الدنيا إلى الآخرة ، ومن المعصية إلى الطاعة ، ومن الحرص إلى الزهد ، ومن البخل إلى السخاء ، ومن الغرور إلى التقوى ، وتحبب إليهم الآخرة ، وتبغّض إليهم الدنيا ، وتعلمهم علم العبادة والزهد؛ لأن الغالب على طباعهم الزيغ عن نهج الشرع ، والسعي فيما لا يرضى الله تعالى به ، والاشتغال بالأخلاق الرّدية ، فألق في قلوبهم الرعب ، وروّعهم ، وحذرهم عما يستقبلون من المخاوف؛ لعل صفات باطنهم تتغير ، ومعاملة ظاهرهم تتبدل ، ويظهروا الحرص والرغبة في الطاعة والرجوع عن المعصية ، وهذا طريق الوعظ والنصيحة ، وكل وعظ لا يكون هكذا فهو وبال على من قال ويسمع ، بل قيل: إنه غول وشيطان ، يذهب بالخلق عن الطريق ويهلكهم ، فيجب عليهم أن يفروا منه؛ لأن ما يفسد هذا القائل من دينهم ، لا يستطيع بمثله الشيطان ، ومن كان له يد وقدرة يجب عليه أن ينزله عن منابر المسلمين ويمنعه عما باشر ، فإنه من جملة الأمر بالمعروف والنهي عن المنكر.

"ประการที่สอง   อย่าให้ความตั้งใจของเจ้าในการตักเตือนนั้น  เพื่อให้ผู้คนทั้งหลายเข้ามาในสำหนักของท่าน  เพื่อให้พวกเขาสร้างสร้างอารมณ์ให้ดีใจหนือโศรกเศร้า  และพวกเขาก็ฉีกเสื้อของตนเอง(เพราะความโศกเศร้าอย่างจับใจป  เพื่อให้ถูกกว่าว่า  "ใช่แล้ว  สำนักนี้แหละ(ดี)"  เพราะแท้จริงทั้งหมดนั้น  เป็นการโน้นเอียงเพื่อดุนยาและการโอ้อวด  ซึ่งมันทำให้เกิดการหลงลืมต่ออัลเลาะฮ์  แต่เจ้าสมควรตั้งใจทำการดะวะฮ์เรียกร้องมนุษย์ทั้งหลายจากดุนยาไปสู่โลกหน้า  จากการฝ่าฝืนไปสู่การตออัตภักดี  จากการโลภไปสู่ความสมถะ  จากความตระหนี่ไปสู่ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่  จากความหลอกลวงไปสู่ความยำเกรง   และเจ้าจงทำให้พวกเขารักต่ออาคิเราะฮ์   เจ้าจงทำให้พวกเขาโกรธต่อดุนยา   สอนให้พวกเขารู้ถึงเรื่องอิบาดะฮ์และความสมถะ  เพราะส่วนมากแล้ว  ธรรมชาติของพวกเขาจะเบี่ยงเบนจากแนวทางของศาสนา   เพียรพยายามในสิ่งที่อัลเลาะฮ์ไม่ทรงพึงพอพระทัยและสนใจกับจรรยามารยาทที่เลว  ดังนั้นเจ้าจงทำให้หัวใจของเขารู้สึกหวาดกลัว  เดือนให้พวกเขาระวังจากบรรดาสิ่งที่น่ากลับที่พวกเขาจะได้เผชิญในอนาคต  ซึ่งบางทีบรรดาคุณลักษณะภายในของพวกเขานั้นจะเปลี่ยนแปลง   การปฏิบัติต่อกันภายนอกจะเปลี่ยนไป  และพวกเขาก็จะเผยถึงความปรารถนาต้องการในการตออัตและละเลิกจากการฝ่าฝืน  และนี้ก็คือวิธีของการตักเตือน

และทุกๆการตักเตือนไม่ใช่เป็นเฉกเช่นนี้เสมอไป   เพราะมันอาจเเป็นความเลวร้ายต่อผู้พูดและผู้ฟัง  ยิ่งกว่านั้น  ถูกกล่าวว่ามันอาจเป็นความหายนะและชัยฏอน  ที่ทำให้บรรดาผู้คนออกห่างจากแนวทางและมาทำลายพวกเขา  ดังนั้นจึงจำเป็นบนพวกเขาต้องหลีกห่างมัน  เพราะสิ่งที่ทำให้ผู้พูดเสียหายนี้ก็มาจากเรื่องศาสนาของพวกเขา  ที่ชัยฏอนเองก็ไม่สามารถทำเหมือนกับเขาได้  และผู้ใดที่มีอำนาจ  ก็จำเป็นบนเขาให้ทำการนำเขาผู้นั้นลงมาจากมิมบัรของบรรดามุสลิมีนและหักห้ามสิ่งที่เขากำลังกระทำ  เพราะดังกล่าวนั้นถือเรื่องของการใช้ให้กระทำความดีและหักห้ามจากความชั่ว"

Re: หนังสือ "โอ้ลูกรัก" ของอิมามอัลฆอซาลี (ขอให้พี่น้องช่วยกันแปลครับ) By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ส.ค. 04, 2007, 02:40 AM
والثالث مما تدع: أنه لا تخالط الأمراء والسلاطين ولا ترهم ، لأن رؤيتهم ومجالستهم ومخالطتهم آفة عظيمة ، ولو ابتليت بها دع عنك مدحهم وثناءهم ، لأن الله تعالى يغضب إذا مدح الفاسق والظالم ، ومن دعا لطول بقائهم فقد أحبّ أن يعصى الله في أرضه.

"ข้อสามจากสิ่งที่เจ้าต้องละทิ้ง คือ อย่าเข้าไปอยู่ร่วมกับบรรดาผู้นำและผู้ปกครองทั้งหลายและเจ้าอย่ามองพวกเขา  เพราะการมองพวกเขา  การนั่งร่วมกับพวกเขาและการอยู่ร่มกับพวกเขานั้นเป็นโรคอันยิ่งใหญ่  และหากเจ้าถูกทดสอบด้วยกับมันแล้ว  เจ้าก็จงการยกย่องและสรรเสริญพวกเขา  เพราะอัลเลาะฮ์จะทรงกริ้วเพื่อคนชั่วและคนอธรรมถูกสรรเสริญ และผู้ใดที่ขอดุอาอ์ให้พวกเขามีอายุยืนนาน  แท้จริงแล้ว เขารักที่จะให้คนชั่วฝ่าฝืนอัลเลาะฮ์ในแผ่นดินของพระองค์"

Re: หนังสือ "โอ้ลูกรัก" ของอิมามอัลฆอซาลี (ขอให้พี่น้องช่วยกันแปลครับ) By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ส.ค. 04, 2007, 11:12 AM
والرابع مما تدع: ألا تقبل شيئا من عطاء الأمراء وهداياهم وإن علمت أنها من الحلال ، لأن الطمع منهم يفسد الدين ، لأنه يتولد من المداهنة ، ومراعاة جانبهم والموافقة في ظلمهم ، وهذا كله فساد في الدين ، وأقلّ مضرّته أنك إذا قبلت عطاياهم ، وانتفعت من دنياهم أحببتهم ، ومن أحبّ أحدا يحب طول عمره ، وبقاءه بالضرورة ، وفي محبة بقاء الظالم إرادة في الظلم على عباد الله تعالى ، وإرادة خراب العالم ، فأي شيء يكون أضر من هذا على الدين والعاقبة.

"ข้อที่สี่  จากสิ่งที่เจ้าต้องละทิ้ง  คือเจ้าอย่ารับสิ่งใดจากของของกำนัลและของขวัญของพวกผู้นำ  หากแม้นเจ้าจะรู้มันเป็นสิ่งหะล้าลก็ตาม  เพราะการละโมบจากพวกเขาย่อมทำให้เสียหายกับศาสนา  เพราะมันจะทำให้เกิดการประจบประแจง  มีการฝักใฝ่ต่อวพวกเขา  และยังเป็นการเห็นด้วยในการอธรรมของพวกเขา  ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความเสื่อมเสียในศาสนา  และน้อยสุดจากโทษของมันนี้  คือเจ้าได้รับของกำนัลของพวกเขา  แล้วเจ้าก็ได้รับผลประโยชน์จากเรื่องดุนยาของพวกเขา  ซึ่งจะทำให้เจ้ามีความรักต่อพวกเขา  และผู้ใดที่รักบุคคลหนึ่ง  ก็แสดงว่าเขารักที่จะให้เขามีอายุยืนยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น  และในการรักที่จะให้คนอธรรมคงอายุยืนนานนั้น  ย่อมเป็นความต้องการให้ความอธรรมได้เกิดขึ้นแก่ปวงบ่าวของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา  และยังเป็นการทำลายโลกนี้  ดังนั้นจะมีสิ่งใดอีกเล่าที่จะเป็นโทษยิ่งไปกว่านี้ที่มีผลแต่ศาสนาและผลวาระสุดท้าย"

Re: หนังสือ "โอ้ลูกรัก" ของอิมามอัลฆอซาลี (ขอให้พี่น้องช่วยกันแปลครับ) By: قطوف من أزاهير النور Date: ส.ค. 05, 2007, 09:02 PM


ใครว่ามั่ง ว่ากระทุ้นีอ่านเข้าใจยากชะมัด  >:(
Re: หนังสือ "โอ้ลูกรัก" ของอิมามอัลฆอซาลี (ขอให้พี่น้องช่วยกันแปลครับ) By: al-azhary Date: ส.ค. 05, 2007, 09:12 PM


ใครว่ามั่ง ว่ากระทุ้นีอ่านเข้าใจยากชะมัด  >:(

บังเห็นด้วยครับ  เพราะแปลมาจากหนังสือต้นฉบับที่เขียนสั้น ๆ และยังต้องใช้การพิเคราะห์อีก  ดังนั้น   เมื่อแปลเสร็จ   ก็จะทำการเปลี่ยนสำนวนใหม่อีกครั้งโดยยังคงเนื้อหาเดิมแบบโดยรวมเอาไว้นะครับ  อินชาอัลเลาะฮ์ตาอาลา
Re: หนังสือ "โอ้ลูกรัก" ของอิมามอัลฆอซาลี (ขอให้พี่น้องช่วยกันแปลครับ) By: almadany Date: ส.ค. 06, 2007, 07:20 AM
والثالث: أن يكون مسترشدا ، وكل ما لا يفهم من كلام الأكابر يحمل على قصور فهمه ، وكان سؤاله للاستفادة ، لكن لكونه بليدا لا يدرك الحقائق ، فلا ينبغي الاشتغال بجوابه أيضا ، كما قال رسول الله صلى الله عليه وسلم: (نحن معاشر الأنبياء أمرنا أن نكلم الناس على قدر عقوله)

وأما المرض الذي يقبل العلاج ، فهو أن يكون مسترشدا عاقلا فهما لا يكون مغلوب الحسد والغضب وحب الشهوة والجاه والمال. ويكون طالب طريق المستقيم ، ولم يكن سؤاله واعتراضه عن حسد ، وتعنّت وامتحان ، وهذا يقبل العلاج ، فيجوز أن تشتغل بجواب سؤاله بل يجب عليك إجابته.

3. เขาต้องเป็นคนที่ขอคำชี้แนะ  และสิ่งที่เขาไม่เข้าใจจากคำพูดของปราชญ์ผู้อาวุโสนั้น  ถูกตีความว่าเขามีความเข้าใจที่บกพร่องและคำถามของเขาเพื่อให้ได้รับประโยชน์  แต่เพราะเขาเป็นคนโง่เขลา  จึงทำให้ไม่รู้ข้อเท็จจริงต่าง ๆ  ดังนั้น  จึงไม่สมควรที่จะให้ความสนใจในการตอบเช่นกัน  เสมือนที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า "เราเป็นบรรดานบีที่ถูกใช้ให้พูดกับบรรดามนุษย์ตามขนาดที่สติปัญญาเขารับได้"

สำหรับการป่วยที่สามารถรับการเยียวยาได้  คือเขาต้องเป็นผู้ที่ขอคำชี้แนะ  มีสติปัญญา  มีความเข้าใจ  ที่ไม่ถูกความอิจฉาริษยา  ความโกรธ  รักกิเลส  รักเกียรติยศ  และทรัพย์สิน  มาครอบงำ  และเขาต้องเป็นผู้แสวงหาหนทางที่เที่ยงตรง  โดยที่การถามและการคัดค้านของเขานั้นไม่ใช่มาจากความอิจฉาริษยา  ดื้อดึง และลองภูมิ  ซึ่งเขาคนนี้สามารถรับการเยียวยาได้  ดังนั้นจึงอนุญาตให้เขาสนใจที่จะตอบคำถามของเขา  ยิ่งว่านั้น  จำเป็นบนท่านต้องทำการตอบให้กับเขา 

คำสั่งเสียของอิมามฆอซะลีตรงนี้....มีคำสอนที่ดีครับ...คือการถามของคนหนึ่งที่มีจิตใจอคิตต่อผู้ถูกถาม...มีจิตริษยา...ดื้อดึง...อยากลองภูมิ...นั้น....ก็ไม่สมควรที่จะให้ความสนใจในการตอบคำถามของเขา...
Re: หนังสือ "โอ้ลูกรัก" ของอิมามอัลฆอซาลี (ขอให้พี่น้องช่วยกันแปลครับ) By: almadany Date: ส.ค. 07, 2007, 06:24 AM
  ท่านฮาติมกล่าวว่า  ฉันได้รับประโยชน์จากความรู้ 8 ประการ  ซึ่งเพียงพอสำหรับฉัน เพราะว่ามันเหล่านี้  ฉันหวังที่จะรอดพ้นและปลอดภัย

ท่านชะฟีกกล่าวว่า  มันคืออะไรหรือ?

อัสลามุอะไลกุ้ม....

ผมชอบในช่วงหนึ่งของหนังสือเล่มนี้นะครับ....คือประโยชน์จากความรู้ 8 ประการ...ในส่วนที่บังอัลฮะรีได้แปลไว้...ซึ่งผมขออนุญาตนำไปตั้งกระทู้ใหม่เป็นเอกเทศในหมวดตะเซาวุฟนี้....ผมคิดว่าคงไม่เป็นไรที่นำไปตั้งกระทู้ก่อนที่บังอัซฮะรีจะทำการตรวจสำนวนอีกครั้ง....ขอบคุณครับ
Re: หนังสือ "โอ้ลูกรัก" ของอิมามอัลฆอซาลี (ขอให้พี่น้องช่วยกันแปลครับ) By: นูรุ้ลอิสลาม Date: ส.ค. 07, 2007, 09:41 AM
แปลกันมาก็ใกล้จะถึงเส้นชัยแล้วววววววววววววว  ;D
Re: หนังสือ "โอ้ลูกรัก" ของอิมามอัลฆอซาลี (ขอให้พี่น้องช่วยกันแปลครับ) By: philosophy Date: ส.ค. 22, 2007, 07:36 PM
اسلام عليكم
ผมมีหนังสือที่แปลไทยแล้ว ถ้าสนใจก็สอบถามได้ครับ
والسلام