Re: เหมาะสมไหม หากถามคนในนี้ว่า มัซฮับ อะไร By: BiOuH Date: ต.ค. 02, 2009, 10:18 PM
อัสลามมูอาลัยกุม
การเข้าสวรรค์
มิใช่ ด้วยความสามารถ ของตัวเราเอง
เพราะตัวเราเอง เป็นเพียง สิ่งถูกสร้าง มัคลู๊ค
การเข้าสวรรค์ หรือ เข้าสู่นรก นั้น
เป็น ความริฎอ พอพระทัยของอัลลอฮฺเพียงผู้เดียว
เราเข้าสวรรค์ ได้ ด้วย ความเมตตา แห่งอัลลอฮฺ
มัรฟูอฺหะดิษบทหนึ่ง
" หากผู้ศรัทธา รู้ถึงการลงโทษที่มี ณ อัลลอฮฺแล้ว เขาจะไม่โลภ ถึงสวนสวรรค์ของพระองค์เลย
หากผู้ปฏิเสธ รู้ถึง
ความเมตตาที่มี ณ อัลลอฮฺแล้ว เขาจะไม่สิ้นหวัง จากสวนสวรรค์ของพระองค์เลย "
(อินชาอัลลอฮฺ จะเอาหะดิษ บทเต็ม มาให้ พร้อมสายรายงาน อินชาอัลลอฮฺ)
ถูกต้อง ครับ พระองค์จะไม่อธรรม ต่อชีวิตหนึ่ง ชีวิตใด เลยแม้แต่น้อย
และ พระองค์ ก็ทรงไม่บิดพริ้ว สัญญา ต่าง ๆ ที่ อยู่ในอัล กุรอาน
ที่ปรากฎ ในรูป หะดิษ อีก เช่นกัน
วัลลอฮูอาลัม
วัสลามมูอาลัยกุม
Re: เหมาะสมไหม หากถามคนในนี้ว่า มัซฮับ อะไร By: ILHAM Date: ต.ค. 03, 2009, 12:11 AM
แล้วที่ผมบอกไปถูกหรือเปล่า
Re: เหมาะสมไหม หากถามคนในนี้ว่า มัซฮับ อะไร By: nuree Date: ต.ค. 03, 2009, 10:33 AM
salam
อ้างถึ่ง
คุณสับสน หากคุณศึกษาศาสนาตามแนวทางวะฮาบีย์ แล้วรู้สึกว่าจิตใจของคุณนั้นมีอันหนึ่งอันใดจากทั้ง 3 ข้อนี้คือ
1. มีความรู้สึกคิดว่าตนเองดีแล้ว...
2. ยึดตัวการปฏิบัติอะมัลมาเป็นปัจจัยได้เข้าสวรรค์และพ้นจากนรก...
3. รู้สึกว่าผู้อื่นที่ปฏิบัติหรือมีทัศนะต่างจากตนมีความต่ำต้อย...
คุณต้องรีบออกมาจากแนวทางวะฮาบีด่วน เพราะนั่นหมายถึงอัลลอฮ์ไม่ทรงตอบรับในเรื่องศาสนาของคุณ.
-------------------------------------------------------------
คุณ got ว่าไงครับ
คุณรู้จัก วาฮาบี หลายกลุ่ม คุณเห็นว่า พวกเขาเป็นอย่างที่เขาว่าหรือเปล่าครับ
salam
Re: เหมาะสมไหม หากถามคนในนี้ว่า มัซฮับ อะไร By: Goddut Date: ต.ค. 03, 2009, 12:06 PM
อัลกรุอาน อ่าน คำแปล อย่างเดียว อธิบายเองไม่ได้
นี่เป็นตัวอย่างหนึ่ง ของเรื่อง การกำหนดสภวะจากอัลลอฮฺ ซึ่งคุณสับสน เข้าใจผิด ผมบอกเลยว่า มันเป็นเหมือนลูกหาบวะฮะบียะ คนหนึ่งซึ่งยกอัลกรุอานผิด เพราะอ่านแค่คำแปล
ลองดูที่คุณยกมา
พระองค์ให้ใครหลงผิดก็ไม่มีใครทำให้เขาอยู่ในทางนำ
ในตรงกันข้ามหากพระองค์ประสงค์ให้ใครได้รับทางนำ ก็ไม่มีใครสามารถทำให้เขาหลงผิด(ได้เลย)
อันนี้แหละ คุณเข้าใจผิด คุณคิดหรือว่า อัลลอฮฺทำให้คนหลงผิด
คุณจะบอกว่า ลุงนบีนั้น ถูกอัลลอฮฺดลใจให้หลงผิด หรือ ?
คุณจะบอกว่า คนชั่วที่เป็นชาวกุเรซสมัยนบี ถูกอัลลอฮฺดลใจให้หลงผิด ทำร้ายนบีหรือ ?
คุณจะบอกว่า คนชั่วที่ลอบสังหาร เหล่าบรรดาคอลีฟะ ทั้งหลาย หรือในขณะ ที่มีท่านอะลีเฝ้าอยู่ อย่างท่านอุษมาน คนเหล่านั้น ถูกอัลลอฮฺดลใจ หรือ ?
ตรรกะ แบบนี้ เอามาใช้กับอัลกรุอาน ไม่ได้
ถ้าอ่านแปลกันได้เอง ไม่ต้องมีคนสอนตัฟซรี แล้วล่ะครับอัลกรุอานน่ะ
หาอาจารย์ดีๆ สอนให้เป็นหลักเป็นแหล่งจะดีกว่า ผมว่าไม่นานคุณผ่านเรื่อยๆ เด๋วจะพลานไปอ่านฮะดิส
แล้วก็จะเข้าใจผิด สับสน ตามชื่อคุณเอง จนกลายเป็น วะฮะบียะ ที่เข้าใจทั้งอัลกรุอาน และฮะดิสผิด
เรื่องกำหนดจากอัลลอฮฺ อัลลอฮฺ ไม่ได้ดลใจให้คนหลงผิด จำไว้นะครับ
เขาหมายถึงอัลลอฮฺให้ใครจะห้าม อัลลอฮฺห้ามใครก็ให้ไม่ได้
แต่ไม่ได้หมายความว่า อัลลอฮฺทำให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้
นอูซุบิลลามินซาลิก
วัสลาม...
Re: เหมาะสมไหม หากถามคนในนี้ว่า มัซฮับ อะไร By: Goddut Date: ต.ค. 03, 2009, 12:25 PM
ตอบคุณ นูรี วะฮะบี มีหลายกลุ่ม บางกลุ่มเรียกตัวเองว่า วะฮะบี บางกลุ่มเรียกตัวเองว่า มัซฮับ ฮัมบาลี บางกลุ่ม กลัวการเรียกชื่อนี้ ( เพราะเป็นแค่วะฮะบียะ )
กับ 3 ข้อที่กล่าวมา
1. มีความรู้สึกคิดว่าตนเองดีแล้ว...
2. ยึดตัวการปฏิบัติอะมัลมาเป็นปัจจัยได้เข้าสวรรค์และพ้นจากนรก...
3. รู้สึกว่าผู้อื่นที่ปฏิบัติหรือมีทัศนะต่างจากตนมีความต่ำต้อย.
ส่วนใหญ่ทุกกลุ่ม จะเชื่อ ข้อ 2 คือ ทำแล้วได้เข้าสวรรค์ และพ้นนรก
แต่ จะมีกลุ่มหนึ่ง ที่จะเพิ่ม 2 ข้อ คือ มีความรู้สึกคิดว่าตนเองดีแล้ว และ รู้สึกว่าผู้อื่นที่ปฏิบัติหรือมีทัศนะต่างจากตนมีความต่ำต้อย
แต่ในข้อสอง การยึดอามาลเป็นปัจจัย คือ เขาจะชอบดูรูปแบบการกระทำ โดยไม่คิดว่า คนทำนั้น เหนียตอะไร จิตใจเป็นเช่นไร
เขาลืมนึกว่า การงานทุกอย่างนั้นอยู่ที่เจตนา แต่เขาชอบนึกว่า การงานทุกอย่างคือตอบแทนเหมือนที่ทำ มันจึงเกิดเรื่อง
เช่น เห็นบางคน อาบน้ำละหมาด 4 รอบ ก็ไปต่อว่า ว่าเขาทำบิดอะ ซึ่งบางที รอบแรกคนอาบน้ำละหมาด เขาอาจจะไม่เซาะใจก็ได้
เห็นบางคน เดินควง ช-ญ ก็เข้าไปชกเขา หรือต่อว่าเขา ซึ่งบางที เขาอาจจะเป็นสามี ภรรยา หรือ พี่น้องท้องเดียวกันก็ได้
เห็นบางคน พูดแสดงตัวอักษร มามากมายในกระดานกระทู้ ก็กล่าวหาว่า เขาโกรธ มีอารมณ์ หรือ พยายามหาเรื่อง เหมือนที่ผมโดนคนอื่นกล่าวหาในอดีต และโดนคุณสับสน มากล่าวหาว่า ผมชอบมีฮอร์โมน หลั่ง ( ซุบฮานัลลอฮฺ ) คิดได้ไง ?
ผมเคยถามวะฮะบี คนนึงว่า ถ้าให้เขาตาย เขาอยากตายไหม เขากล่าวว่า "ผมอยากตาย เพราะผมพร้อมแล้ว" ( หมายถึงเขาคิดว่าดีแล้ว สำหรับอัลลอฮฺ )
เขาพูดเหมือนเขา เป็นซอฮาบะท่านนบี ที่ท่านถามว่า ( นบีถามตอบจากที่เขาพูด ) "แล้วท่านจะเอาอะไรกลับไป ?" ซอฮาบะท่านนั้นตอบว่า "อัลลอฮฺและร่อซู้ล" ท่านนบีจึงกล่าวว่า "งั้นท่านก็จะได้อยู่กับสิ่งที่ท่านรัก"
แต่นี่ไม่ใช่ซอฮาบะ เขากำลังเปรียบเปรยตัวเองว่า อีหม่าน และ อามาล ของเขานั้น สูงพอที่จะตายได้ตลอดเวลา กระนั้นหรือ ?
อีกประการ การดูถูกผู้อื่น เช่นกรณีที่ผมเคยถูกกระทำ พี่น้องผมถูกกระทำ เพื่อนฝูงผมถูกกระทำ อย่างไร ?
1. เดินผ่านกันไม่ให้สลาม หรือเราให้สลาม เขาจะเดินหนี
2. ผู้ญ เจอกัน ถ้าไม่ปิดหน้า จะมองตั้งแต่หัวจรดเท้า
3. เจอหน้ากัน จะแกล้งพูดอาหรับ รัวๆ ให้ตั้งตัวไม่ติด ( เสร็จแล้วหัวเราะ )
4. ทำอย่างอื่นไม่ใช่ซุนนะ ขัดหลักซุนนะ ทำแบบตัวเองถึงจะเรียกว่าซุนนะ
5. บอกว่า ตะอัศศุบ ตักลีด ตามใครไม่ได้ ยกเว้นอาจารย์ตัวเอง
6. มีคนสอนอย่างนึง ไม่ชอบเชื่อชอบกลับไปถามอาจารย์ตัวเอง ( ผลก็เหมือนกัน )
7. เวลามีคนมาสอนให้ความรู้ ชอบถาม จะเอาความรู้ที่ตัวเองอยากได้
8. ขี้เกียจเขียนละ เป็นตัวอย่างพอ................................ เพราะเยอะมาก
นี่แหละ แบบฉบับของคนกลุ่มนี้... ที่อื่นไม่เป็นนะ วะฮะบี ที่ผมจะเล่าให้ฟัง ขอเอ่ยนามอาจารย์แต่ละท่านพอสังเขป ที่เป็นสายวะฮะบี
1. เชคอาลี อีซา มาละหมาดคุณปู่ผม ซึ่งเป็นแนวทางซุนนะดั้งเดิม
2. อาจารย์ซาฟีอี นภากรณ์ ทำเมาลิดกลาง อ่านดุอาเวลาเปิด ปิดงาน
3. อาจารย์อาลี กองเป็ง การกระทำคิลาฟนั้น ท่านยกเว้น เช่นละหมาดซุบฮฺกุนูตได้
4. อาจารย์ยะยา ทองทา และ อาจารย์ยูซุฟ ทองทา ช่วยเหลือเรื่องต่างๆ และลูกสอนลูกศิษย์ของเขา ไม่ให้โจมตีซุนนะเก่า ( เพราะโรงเรียนอยู่ติดกับท่าอิฐศึกษา (ปอเนาะ) )
5. ดร. อิสมาแอล จะปะกียะ ( ลุซฟี ) เข้ารอมฎอน ออกรอมฎอน ตามสำนักจุฬา
6. คุณสมาน มาลีพันธ์ อยู่ในสำนักจุฬา
7. อาจารย์มุสตอฟา อยู่เป็นสุข ท่านนี้ก็ไปงานเมาลิด
8. บุคคลผู้นี้ ให้ใช้นามแฝง เพราะเขามีเวปไซต์ ของเขา นั่นคือ อัลอัค และอดีตที่ปวดร้าวกับกลุ่มหนึ่ง
9. และอีกหลายๆ คนที่ไม่ได้เอ่ยนาม
แทบทั้งหมดที่กล่าวมา ก็มักจะถูกโจมตีโดยคนกลุ่มหนึ่งเสมอ
และยกเว้น คนกลุ่มหนึ่ง นั้นแหละ ที่ ชอบหยิบยกปัญหาคิลาฟ มาเป็นประเด็นให้ตัวเองนั้นมีชื่อเสียง จะด้วยวิธีใดก็ตาม
คนจบที่เดียวจากเขาหลายๆ คนไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้ หรือหากเราจะกล่าวแม้พวกเขาจะเรียนมาเหมือนกัน บางครั้งแนวทางเดียวกัน
แต่พวกเขาทั้งหมด ล้วนไม่มีแนวทาง ด่าทอ ตำหนิ พี่น้องของตัวเองแต่ประการใด
ใครจะรู้ได้ว่าแนวทางใดนั้น ตรงกับซุนนะที่สุด ปัญหาเหล่านี้คงต้องอยู่ที่จิตใจของเรา และตัดสินด้วยพระองค์เท่านั้น
วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...
Re: เหมาะสมไหม หากถามคนในนี้ว่า มัซฮับ อะไร By: hiddenmin Date: ต.ค. 03, 2009, 01:00 PM
8. บุคคลผู้นี้ ให้ใช้นามแฝง เพราะเขามีเวปไซต์ ของเขา นั่นคือ อัลอัค และอดีตที่ปวดร้าวกับกลุ่มหนึ่ง
บัง Goddut รู้ลึกขนาดนั้นเลย

Re: เหมาะสมไหม หากถามคนในนี้ว่า มัซฮับ อะไร By: subson Date: ต.ค. 03, 2009, 01:15 PM
ในเมื่อคนเรามีหลายๆอย่างที่ไม่เหมือนกัน แล้วในกลุ่มที่มีหลายๆคน จะเหมือนกันได้อย่างไรกัน
สิ่งที่เห็นนั้นอาจจะใช่กับบางคน แต่ไม่ใช่กับอีกคน (รับรู้ไว้ไม่เสียหาย)
ทั้งหมดที่กล่าวมามีข้อเดียวคือ เชื่อว่าอาม๊าลเป็นปัจจัยที่ได้เข้าสวรรค์(แต่ไม่เชื่อว่าอาม๊าลทำให้คนเราได้เข้าสวรรค์)
เรื่องอัลกุรอานนั้น มันเป็นประโยคคำพูดของผมที่สรุปใจความจากความจำมา เมื่อเปิดดูใหม่ ใจความจะเป็นดังนี้
22. ซูเราะฮฺ อัลฮัจยฺ (Al-Hajj)
54. และเพื่อบรรดาผู้รู้จะตระหนักว่า แท้จริงอัลกุรอาน นั้นคือสัจธรรมจากพระเจ้าของเจ้า เพื่อพวกเขาจะได้ศรัทธาต่อมัน (อัลกุรอาน) แล้วจิตใจของพวกเขาจะได้นอบน้อมต่อมัน (อัลกุรอาน) และแท้จริง
อัลลอฮ์ทรงเเป็นผู้ชี้แนะบรรดาผู้ศรัทธา
สู่แนวทางอันเที่ยงตรง 35. ซูเราะฮฺ ฟาฏิร (Fatir)
2.
สิ่งใดที่อัลลอฮฺทรงประทานให้จากความเมตตาแก่มนุษย์ชาติ ไม่มีผู้ยับยั้งมันได้ (*1*) และสิ่งใดที่พระองค์ทรงยับยั้งไว้ ก็ไม่มีผู้ใดให้มันได้หลังจาก (การยับยั้ง) ของพระองค์และพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ
(1) สิ่งที่อัลลอฮฺทรงประทานให้เช่น ความเมตตา ความโปรดปราน การมีสุขภาพสมบูรณ์ ความปลอดภัย วิชาความรู้ ฮิกมะฮฺ ปัจจัยยังชีพ การส่งบรรดาร่อซูลมาเพื่อชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องแก่มวลมนุษย์และอื่นจากนั้น ในรูปแบบและชนิดต่าง ๆ ของความโปรดปรานอย่างเหลือคณานับ ไม่มีผู้ใดสามารถที่จะยับยั้งมันและห้ามปรามการสร้างของอัลลอฮฺได้ ดังนั้น พระองค์คือผู้ทรงกรรมสิทธิ์ พระผู้ทรงประทานให้ ซึ่งไม่มีผู้ใดยับยั้งในสิ่งที่พระองค์ทรงประทานให้ และไม่มีผู้ให้ในสิ่งที่พระองค์ทรงยับยั้ง
39. ซูเราะฮฺ อัซซุมัร (Az-Zumar)
37.
และผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงชี้นำทาง ดังนั้นก็ไม่มีผู้ใดจะทำให้เขาหลงทางได้ อัลลอฮฺมิใช่เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงตอบโต้อย่างเด็ดขาดดอกหรือ (*1*)
(1) เพราะพระองค์เป็นผู้ทรงพิชิตมิใช่ถูกพิชิต ทรงแก้แค้นแก่ปวงศัตรูของพระองค์ ในอายะฮฺนี้เป็นสัญญาร้ายแก่พวกมุชริกีน และเป็นสัญญาดีแก่บรรดามุอฺมินผู้ศรัทธา
42. ซูเราะฮฺ อัซซูรอ (Ash-shura)
44. และผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงให้เขาหลงทาง ดังนั้นสำหรับเขาจะไม่มีผู้คุ้มครองภายหลังจากพระองค์และเจ้าจะเห็นบรรดาผู้อธรรมเมื่อพวกเขามองเห็นการลงโทษ พวกเขาจะกล่าวว่า มีทางบ้างไหมที่จะกลับไป (ยังโลกดุนยา) (*1*)
(1) และผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงให้เขาหลงทางก็จะไม่มีผู้ช่วยเหลือหรือผู้ชี้แนะไปสู่แนวทางที่ถูกต้อง และเจ้าจะเห็นพวกปฏิเสธศรัทธาขณะที่พวกเขามองเห็นการลงโทษในนรกญะฮันนัม พวกเขาจะขอร้องให้นำกลับไปยังโลกดุนยาเพื่อกระทำความดีด้วยการจงรักภักดีต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา
Re: เหมาะสมไหม หากถามคนในนี้ว่า มัซฮับ อะไร By: ILHAM Date: ต.ค. 03, 2009, 01:40 PM
สับสนนี้หรือคืออัลอัค ที่ชอบเขียนบทความออกมาเรื่อยๆเหมือนชาบาป
Re: เหมาะสมไหม หากถามคนในนี้ว่า มัซฮับ อะไร By: wahaba Date: ต.ค. 03, 2009, 01:41 PM
คุณ ก๊อดดัร คือ กูรู วะฮาบีคนนึง ทำให้รูว่าวะฮาบีมีหลายคนเหมือนกัน แต่ที่สร้างความแตกแยก มีไม่กี่คน
Re: เหมาะสมไหม หากถามคนในนี้ว่า มัซฮับ อะไร By: Goddut Date: ต.ค. 03, 2009, 03:24 PM
คุณสับสน ไม่ใช่ อัลอัค ครับ ไม่รู้อิลฮาม เข้าใจว่าอย่างไร
และผมคิดว่า อัลอัค คือผู้รู้ที่มีความรู้มากๆ คนหนึ่ง และแน่นอน เขาเป็นกลางทางทรรศนะอย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้เขาจะใช้แนวทางแบบซุนนะใหม่ ก็ตาม
ส่วนผมไม่ใช่กูรูสายวะฮะบี ครับ
ส่วนคุณสับสน คุณคงเห็นแล้วว่า ความเข้าใจของคุณนั้น เป็นความเข้าใจผิด ( อย่างน้อยก็นำเสนอผิด )
อัลลอฮฺกล่าวเช่นนั้น ตามที่ผมได้นำเสนอไปแล้ว ที่เขาเรียกว่า อัลลอฮฺให้ใครจะห้าม อัลลอฮฺห้ามใครก็ให้ไม่ได้
จากที่นำเสนอมา จึงกล่าวได้ว่า ที่พระองค์ทรงให้หลงทาง ในที่นี้คือ มิได้ทรงดลใจให้พบกับแสงสว่าง หรืออีกนัยก็คือ พระองค์มิได้ทรงช่วยเหลือ
อย่างไร ? ก็จะอายะ อัลกรุอานที่ว่า "เมื่อสูเจ้าเชื่อในสิ่งใด พระองค์ก็จะให้สิ่งนั้น" ซึ่งสัมพันธ์กับ ฮะดิสความว่า "การกระทำนั้นขึ้นอยู่ที่การตั้งเจตนา"
เมื่อเป็นเช่นนี้ หากคนนึง มั่นใจว่า ต้นไม้นี้ศักดิ์สิทธิ์แล้วเขาขอหวยจากมัน พระองค์ก็จะทรงให้มันนั้นได้บังเกิดขึ้น ( เปรียบเปรย )
มันจึงไม่น่าแปลกใจที่ คนกาเฟรนั้น บางคน ถูกหวย ถูกพนัน จากสิ่งเล้นรับ จากสิ่งที่ไม่ใช้การขอจากอัลลอฮฺ
และพวกเขาได้สิ่งเหล่านั้นอย่างไร ? ก็ได้มาจากพระองค์นั้นแหละ เนื่องจาก พระองค์ทรงให้พวกเขาได้เช่นนั้น
เราจะบอกว่า พวกเขาถูกหวยเอง แบบฟลุคๆ นั้นไม่ได้ แต่พวกเขาถูกในสิ่งที่พวกเขาได้เชื่อ
แต่ความเชื่อของพวกเขา อัลลอฮฺนั้นมิทรงช่วยเหลือ แต่ประการใด พระองค์ทรงช่วยให้เขาได้ตามที่เชื่อในดุนยาเท่านั้น หาได้ถึงอาคิเราะไม่
ดังอายะอัลกรุอาน ว่า "ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตาปราณีเสมอ" ซึ่งหมายถึง เมตตาทุกสรรพสิ่งในดุนยานี้ อย่างยุติธรรม และทั่วถึง
สำหรับ การกระทำเฉพาะบุคคลนั้น นอกเหนือจากการถูกควบคุมจากพระองค์
เรื่องนี้ คุณต้องกลับไปศึกษาใหม่ เพราะกอดอกอดัร นั้น ถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 คำ ซึ่งผมเองเคยเขียนอธิบายไว้แล้ว
เช่นนี้ มันจึงกล่าวได้ว่า ความเมตตาของอัลลอฮฺนั้น มีมากมายกับคนที่มาและจากในสภาพดังต่อไปนี้
1. เกิดมาเป็นมุสลิม และจากไปในสภาพมุสลิม
2. เกิดมาเป็นกาเฟร และจากไปในสภาพมุสลิม
ตรงนี้ ผมกำลังหมายถึง ใครก็ตาม ที่มีชีวิต ก่อนตายจากดุนยาในสภาพมุสลิมที่ดี นั้นแหละคือผู้ได้รับทางนำ
แต่ใครก็ตาม ที่มาในสภาพอะไรก็ตามอีก แต่ก่อนตายจากดุนยาอยู่ในสภาพกาเฟร นั้นแหละคือบุคคลที่หลงทาง ไม่ได้รับทางนำ
คุณกล่าวว่า คุณไม่ใช่มุสลิมที่ดี และเพิ่งมากลับใจ ผมขอกล่าวว่า นี้แหละคือเมตตาของอัลลอฮฺ
และมันไม่ได้หมายความว่า เมตตาของอัลลอฮฺนั้น เริ่มมาจากการที่ดลใจให้คุณกลับตัวเป็นคนดี
แต่ความเมตตาของอัลลอฮฺนั้น เริ่มมาจากการที่ ทำให้คุณนั้นหลงทาง มาแต่เริ่มต้น ( อยู่ในสภาพแวดล้อม หรือสังคม ที่ไม่ดี )
หมายถึง สิ่งที่พระองค์ทรงกำหนดมาให้คุณ เกิดมาเป็นลูกพ่อแม่คนนี้ เกิดมาในสังคมนี้ เป็นสิ่งที่คุณนั้นเลือกไม่ได้ในดุนยา
อันเข้าใจได้ว่า จากคำกล่าวที่ว่า เด็กคือผ้าขาว หรือในอิสลามนั้น ได้ให้ความหมายของ ความบริสุทธิ์ ไร้มลทิน ใดๆ ทั้งสิ้น
เพราะพระองค์นั้นทรงรู้ดียิ่ง พระองค์ทรงรู้ว่าหากคุณหลงทาง มาก่อนคุณจะเป็นคนดีได้ในอนาคต และกลับไปหาพระองค์ในสภาพมุสลิมที่มีอีหม่าน ( อินชาอัลลอฮฺ )
กลับกันหากว่าคุณไม่ได้ หลงทาง คุณอาจจะอยู่ในกลุ่มซุนนะเก่า สายมุสลิมแต่ชื่อ กินเหล้าเมายา คุณอาจจะเหลือแต่ชื่อไปมุสลิมจริงๆ จน กลับไปหาพระองค์ในสภาพของกาเฟร ก็เป็นได้ ( นอูซุบิลลามินซาลิก วัลลอฮฺอะลัม )
นี่แหละคือความเมตตาของพระองค์ ซึ่งผม อยากให้คุณได้เข้าใจ
ส่วนสิ่งที่พระองค์ไม่ได้ให้ หรือห้ามปรามนั้น ไม่ได้มาจากการที่พระองค์ทรงบังคับ หรือกำหนดมา
แต่การกำหนดของพระองค์นั้น มาจากมนุษย์ซึ่งได้ประพฤติปฏิบัติตามหลักการที่พระองค์ทรงวางไว้แล้ว
จากซีฟัตหนึ่ง ( คุณลักษณะ ) ของพระองค์คือ ผู้ทรงประสงค์ และ ผู้ทรงรู้ ดังนั้นพระองค์จึงสามารถกล่าวได้ว่าใครนั้นลงนรก ใครนั้นขึ้นสวรรค์
หากแต่นั้นเป็นสิ่งบ่งชี้ในอนาคต หลังจากเขาได้ทำอามาลของเขาแล้ว มิใช่กำหนดโดยที่พระองค์นั้นทรงอธรรม
ผลสรุป ของมันก็คือ สิ่งใดที่เป็นสิ่งที่ดีนั้นล้วนมาจากพระองค์ แต่สิ่งใดที่เป็นสิ่งเลวนั้นล้วนมาจากเราเอง
เพราะหากคุณจะเข้าใจว่า การหลง หรือ เลว นั้น มาจากพระองค์ พระองค์ก็ทรงอธรรม น่ะสิ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด
เนื่องจาก อัลลอฮฺนั้น เป็นผู้ยุติธรรมยิ่งกว่าใครทั้งมวล และไม่มีสิ่งใดนั้นเสมอเทียมเท่าพระองค์
แท้จริงพระองค์นั้นทรงรู้อยู่ก่อนแล้วว่า ใครผู้ใดนั้น จะต้องถูกตอบแทนด้วยสิ่งใด และนี่คือหน้าที่ของพระองค์ "มาลิกกิเยามิดดีน"
อัลลอฮฺอักบัร
หน้าที่ของเราคืออะไร ศึกษาหาความรู้ ใช่ไหม ? เพิ่มเคารพภักดีต่อพระองค์ตามที่พระองค์ทรงวางไว้ใช่ไหม ?
ซอฮาบะมีนบีเป็นอาจารย์ เราก็ต้องมีอาจารย์ แต่ได้โปรดอย่าบอกว่าอาจารย์ของเราเป็นนบี เพราะเราไม่ได้เรียนกับท่าน.... อย่าทำเป็นข้ามขั้นไป มันจะกลายเป็น เราทำเป็นฮะดิสดออีฟ เสียเอง คือ ข้ามไปยังนบี โดยอ้างข้ามผู้รู้ท่านอื่นๆ ไป หากเป็นเช่นนั้น ทำไมผู้รายงานฮะดิส ไม่อ้างถึงนบีเลย
นั้นก็เพราะพวกเขานั้น มีผู้อื่นๆ เป็นผู้เล่าๆ ต่อๆ กันมา ฉันใด เช่นกัน เราเรียนจากอาจารย์ จากอาจารย์ จากอาจารย์ จนถึงซอฮาบะ คอลีฟะ และไปถึงนบี ฉันนั้น
หวังว่า คุณสับสน คงเข้าใจมันอีกระดับหนึ่ง และผมแนะนำให้คุณหาอาจารย์ซักคนเป็นที่ปรึกษา ในการหาความรู้จากอัลกรุอาน จะเป็นการดีที่สุด
อินชาอัลลอฮฺ
หากสนใจจะพูดคุยในประเด็นข้างต้น ( กอดอกอดัร ) ก็ต้องกระทู้ใหม่ดีกว่า เพราะผมว่ากระทู้นี้ชักกลายพันธ์
ไม่พวกเราก็ออกทะเล หาฝั่งกันไม่เจอเสียแล้ว
วัลลอฮฺอะลัมบิซาวาบ
วัสลาม...
Re: เหมาะสมไหม หากถามคนในนี้ว่า มัซฮับ อะไร By: nuree Date: ต.ค. 03, 2009, 08:22 PM
salam
อ้างถึ่ง
คุณสับสน หากคุณศึกษาศาสนาตามแนวทางวะฮาบีย์ แล้วรู้สึกว่าจิตใจของคุณนั้นมีอันหนึ่งอันใดจากทั้ง 3 ข้อนี้คือ
1. มีความรู้สึกคิดว่าตนเองดีแล้ว...
2. ยึดตัวการปฏิบัติอะมัลมาเป็นปัจจัยได้เข้าสวรรค์และพ้นจากนรก...
3. รู้สึกว่าผู้อื่นที่ปฏิบัติหรือมีทัศนะต่างจากตนมีความต่ำต้อย...
คุณต้องรีบออกมาจากแนวทางวะฮาบีด่วน เพราะนั่นหมายถึงอัลลอฮ์ไม่ทรงตอบรับในเรื่องศาสนาของคุณ.
------------------------------------
แต่ผมคิดว่า ไม่ว่า จะอยู่ในกลุ่มใหนก็ตาม ถ้ามี ความรู้สึกแบบนี้ ก็น่าจะพิจารณาตัวเองนะครับ
Re: เหมาะสมไหม หากถามคนในนี้ว่า มัซฮับ อะไร By: subson Date: ต.ค. 03, 2009, 08:39 PM
งั้น เด๋วผมตั้งกระทู้ใหม่นะครับ เพื่อไม่ให้กระทู้กลายพัน
โดยมีเงื่อนไขเบื้องต้นว่า "เป็นความคิดผมเอง อย่าโยนความผิดให้ผู้อื่น"
Re: เหมาะสมไหม หากถามคนในนี้ว่า มัซฮับ อะไร By: al-azhary Date: ต.ค. 03, 2009, 08:41 PM
salam
อ้างถึ่ง
คุณสับสน หากคุณศึกษาศาสนาตามแนวทางวะฮาบีย์ แล้วรู้สึกว่าจิตใจของคุณนั้นมีอันหนึ่งอันใดจากทั้ง 3 ข้อนี้คือ
1. มีความรู้สึกคิดว่าตนเองดีแล้ว...
2. ยึดตัวการปฏิบัติอะมัลมาเป็นปัจจัยได้เข้าสวรรค์และพ้นจากนรก...
3. รู้สึกว่าผู้อื่นที่ปฏิบัติหรือมีทัศนะต่างจากตนมีความต่ำต้อย...
คุณต้องรีบออกมาจากแนวทางวะฮาบีด่วน เพราะนั่นหมายถึงอัลลอฮ์ไม่ทรงตอบรับในเรื่องศาสนาของคุณ.
------------------------------------
แต่ผมคิดว่า ไม่ว่า จะอยู่ในกลุ่มใหนก็ตาม ถ้ามี ความรู้สึกแบบนี้ ก็น่าจะพิจารณาตัวเองนะครับ
salam
กลุ่มใด แนวทางใด มัซฮับใด ที่สอนให้บรรลุถึง 3 ประการนี้อย่างแท้จริง แนวทางนั้นแหละ อัลเลาะฮ์จะทรงตอบรับการปฏิบัติอะมัลอิบาดะอ์ของพวกเขา
ดังนั้น ในปัจจุบัน กลุ่มใดบ้าง แนวทางใดบ้าง ที่ชอบสอนให้มี 3 ประการนี้ กลุ่มเหล่านั้นอัลเลาะฮ์ไม่ทรงตอบรับอะมัลของพวกเขาครับ ตามที่เรารู้เครื่องหมายที่ส่อถึงแนวทางที่กำลังเผยแพร่กันอยู่ แม้การปฏิบัติหรือชอบพูดว่าฉันว่าตามอัลกุรอานและซุนนะฮ์ ตามอะฮ์ลิลบัยต์ ก็ตาม เพราะอัลเลาะฮ์ทรงวัดมาตรฐานที่จิตใจเป็นสำคัญด้วยเช่นกัน ดังนั้นการบ่มเพาะตนเอง เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราพ้นจาก 3 ประการที่อันตรายนี้ครับ
วัลลอฮุอะลัม
Re: เหมาะสมไหม หากถามคนในนี้ว่า มัซฮับ อะไร By: subson Date: ต.ค. 03, 2009, 09:36 PM
ดังนั้น ในปัจจุบัน กลุ่มใดบ้าง แนวทางใดบ้าง ที่ชอบสอนให้มี 3 ประการนี้ กลุ่มเหล่านั้นอัลเลาะฮ์ไม่ทรงตอบรับอะมัลของพวกเขาครับ
*********************************************************************************************************************************************
ด้วยสลามและดูอา จากข้อความของ อ. al-azhary ผมสงสัยว่า อ. หมายถึงทั้ง3ข้อนั้นไม่ถูกต้องใช่ป่ะ
แล้วกรณีที่ผมเชื่อข้อ2 ข้อเดียว ผิดด้วยหรือไม่อย่างไร ญาซากัลลอฮ
Re: เหมาะสมไหม หากถามคนในนี้ว่า มัซฮับ อะไร By: al-azhary Date: ต.ค. 03, 2009, 09:55 PM
ด้วยสลามและดูอา จากข้อความของ อ. al-azhary ผมสงสัยว่า อ. หมายถึงทั้ง3ข้อนั้นไม่ถูกต้องใช่ป่ะ
แล้วกรณีที่ผมเชื่อข้อ2 ข้อเดียว ผิดด้วยหรือไม่อย่างไร ญาซากัลลอฮ
วะอะลัยกุมุสลาม
ปัจจัยที่จะทำให้เข้าสวรรค์ที่แท้จริง ไม่ใช่ด้วยตัวอะมัลอิบาดะฮ์ แต่ด้วยความโปรดปรานและความเมตตาจากอัลเลาะฮ์
เพราะมีซุนนะฮ์ของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ยืนยันสัจธรรมดังกล่าวที่ว่า :
لَنْ يُدْخِلَ أَحَداً مِنْكُمْ عَمَلُهُ الْجَنَّةَ قَالُوْا وَلاَ أَنْتَ يَا رَسُوْلَ اللهِ قَالَ وَلاَ أَنَا إِلاَّ أَنْ يَتَغَمَّدَنِيَ اللهُ مِنْهُ بِفَضْلٍ وَرَحْمَةٍ
การปฏิบัติอะมัลของบุคคลหนึ่งจากพวกท่านจะไม่ทำให้เขาได้เข้าสวรรค์หรอก ซอฮาบะฮ์กล่าวถามว่า "ท่านก็ไม่ได้เข้า (สวรรค์ด้วยอะมัล) กระนั้นหรือ โอ้ ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์? ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ตอบว่า "ไม่แม้กระทั่งฉัน นอกจากอัลเลาะฮ์ทรงปกคลุมฉันด้วยความเมตตาและความโปรดจากพระองค์" รายงานโดยบุคอรีย์ ฮะดีษลำดับที่ 646, ดู อัลบุคอรีย์, ซอฮิห์อัลบุคอรีย์, ตะห์กีก: มะห์มูด บิน อัลญะมีล, พิมพ์ครั้งที่ 1 (ไคโร: มักตะบะฮ์อัศศ่อฟา, ฮ.ศ. 1423), เล่ม 3, หน้า 239; และรายงานโดยมุสลิม ฮะดีษ ลำดับที่ 2816, ดู อันนะวาวีย์, ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม, ตะห์กีก: ริฎวาน ญาเมี๊ยะอฺ ริฎวาน, พิมพ์ครั้งที่ 1 (ไคโร: มุอัซซะซะฮ์อัลมุคตาร, ค.ศ. 2001), เล่ม 17, หน้า 155.
แต่ถ้าหากถามว่า เหตุใดเราต้องปฏิบัติอะมัลอิบาดะฮ์ คำตอบง่ายๆ คือ เพราะเราเป็นบ่าวผู้ต่ำต้อยที่ต้องทำตามสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งใช้
หากทำตามคำสั่งใช้ อัลเลาะฮ์ทรงพึงพอพระทัย ทรงเมตตา และทรงโปรดปรานได้แก่
หากไม่ทำตามคำสั่งใช้ พระองค์จะทรงพิโรจ
แค่นี้แหละครับ ที่บ่าวพึงปฏิบัติต่ออัลเลาะฮ์ พระองค์จะลงโทษหรืออภัยโทษให้แก่ผู้ใดก็ได้ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ หน้าที่เรามีแค่นี้
ส่วนนรกและสวรรค์ มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่ทำอิบาดะฮ์แล้วต้องได้สวรรค์จากอัลเลาะฮ์ แบบนี้มันเป็นค้าแลกเปลี่ยนระหว่างบ่าวกับอัลเลาะฮ์ ซึ่งเป็นไม่ได้ อีกทั้งไร้มารยาท อัลเลาะฮ์ไม่ทรงโปรดปราณ ต่อมาพระองค์ก็ไม่ทรงตอบรับอะมัลของเขาในที่สุด
ดังนั้น การทำอะมัลจึงเป็นเพียงแค่ อะลามัต (เครื่องหมาย) ที่บ่งชี้ให้มนุษย์เห็นว่าเขาเป็นคนดี แต่จิตใจล่ะ อัลเลาะฮ์ทรงตัดสิน นอกจากผู้จิตใจแข็งกระด้าง ตะกั๊บบูร ดูหมิ่นผู้อื่น ซึ่งอัลเลาะฮ์จะให้คุณลักษณะจิตใจที่น่าตำหนินี้ เผยออกมาทางพฤติกรรมให้มนุษย์ได้เห็นกันนั่นเอง แต่จิตใจของผู้ที่มีความต่ำต้อยและสำนึกว่าตนเองต่ำต้อยเสมอนั้น อัลเลาะฮ์จะทรงปกปิดเขาเอาไว้ แล้วจิตสำนึกในความต่ำต้อยของตนเองนั้น จะผลักดันให้เขาทำการเตาบะฮ์ต่อพระองค์ในที่สุด
วัลลอฮุอะลัม