Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ By: ILHAM Date: ธ.ค. 22, 2009, 03:49 AM
น่าจะแหย่หูเข้าไปนะ จะได้เป็นแมวหูขาดเหมือนโดเรม่อน
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ By: little cat Date: ธ.ค. 22, 2009, 04:20 AM
น่าจะแหย่หูเข้าไปนะ จะได้เป็นแมวหูขาดเหมือนโดเรม่อน
หนูแฮมเตอร์กัดหูขาดได้ก็ให้มันรู้ไป อิลฮามลองหน่อยมั้ย 
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ By: ILHAM Date: ธ.ค. 22, 2009, 06:13 AM
ใครจะไปรู้ ขนาดปลวกยังทำบ้านพังได้เลย
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ By: nada-yoru Date: ธ.ค. 22, 2009, 06:53 AM
อยากถามว่า ถ้ากินน้ำผึ้งมากๆจะเป็นเบาหวานมั้ย
แบบว่า ซื้อขนมปังปอนด์แผ่นไม่รู้จะกินกับอะไรเลยเอาน้ำผึ้งเทขวดราดซะเลย แผ่นนึงประมาณ1ช้อนโต๊ะน่าจะได้ หรืออาจจะมากกว่า วันนึงก็กินหลานแผ่นนะ แบบว่าทำแล้วติดใจเลยทำอีก อร่อยดีนิ
แชหมัดชอบบอกว่าอะไรที่กินแล้วไม่ตายทันทีก็กินไปเถอะ เบาหวานมันไม่ตายทันทีหรอก ไม่ได้กลัวตาย แต่กลัวจะเป็นเบาหวาน เลยมาถาม 555
ประโยชน์ของน้ำผึ้ง1. ช่วยคลายความเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลียจากการตรากตรำทำงานหนัก
เล่นกีฬา อดนอน หรือดื่มสุรา
2. ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แก่ผู้สูงอายุผู้ป่วยระยะพักฟื้น
3. บำรุงประสาทและสมองให้สดชื่นแจ่มใส
4. ช่วยระงับประสาท อาการหงุดหงิด นอนไม่หลับ แก้ตะคริว
5. บรรเทาอาการไอและหวัด
6. ลดกรดในกระเพาะ ช่วยให้อาหารย่อยดีขึ้น ท้องไม่ผูก
เนื่องจากน้ำผึ้งถูกดูดซึมได้ทันที เมื่อสัมผัสลำไส้
ต่างจากน้ำตาลชนิดอื่นที่คงค้างอยู่และถูกเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์หรือกรด
7. แก้เด็กปัสสาวะรดที่นอน เนื่องจากน้ำผึ้งมีน้ำตาลฟรุกโตส
ซึ่งมีคุณสมบัติดูดความชื้นได้ดีกว่าน้ำตาลชนิดอื่น
จึงสามารถดูดน้ำกลับและอุ้มน้ำไว้ ทำให้เด็กไม่ปัสสาวะรดที่นอน
8. แก้โรคโลหิตจาง เนื่องจากน้ำผึ้งมีธาตุเหล็กซึ่งเป็นองค์ประกอบ
ของฮีโมโกลบิน ช่วยเพิ่มเม็ดเลือดแดง
9. แก้ความดันโลหิตสูง
การตรวจสอบน้ำผึ้งการชิม - น้ำผึ้งแท้จะมีรสชาติหอมหวานตามธรรมชาติของดอกไม้
เมื่อดื่มน้ำตามความหวานจะหายไปและไม่มีรสเปรี้ยวติดลิ้น
ทดสอบ - โดยนำก้านไม้ขีดไฟมาจุ่มน้ำผึ้งจากนั้นนำไปจุดไฟที่กลักไม้ขีด
ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้จะติดไฟ แต่ถ้าเป็นน้ำผึ้งปลอมจะจุดไฟไม่ติด
- เอาน้ำผึ้งเทลงในแก้วน้ำ น้ำผึ้งจะไหลเป็นสายลงไปกองตัวที่ก้นแก้ว
น้ำผึ้งละลายตัวช้า ถ้าเป็นน้ำผึ้งปลอมน้ำผึ้งจะไหล่แผ่กระจายในน้ำ
และที่ก้นแก้ว น้ำผึ้งจะละลายตัวเร็ว
- หยดน้ำผึ้ง 1 2 หยดลงบนกระดาษชำระ
ถ้าเป็นน้ำผึ้งเข้าจะซึมผ่านกระดาษชำระช้า
แต่ถ้าเป็นน้ำผึ้งปลอมจะซึ่มผ่านกระดาษชำระได้เร็ว
- ทดลองโดยการใช้ไม่จิ้มน้ำผึ้งขึ้นมาถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้จะหยดไหลเป็นสายบาง ๆ
ไม่ขาดสายและจะพับกองเป็นชิ้น ๆ ก่อนที่จะรวมเป็นเนื้อเดียวกัน
การรับประทานน้ำผึ้งเป็นประจำจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
ส่งผลให้เป็นโรคเบาหวานหรือไม่ น้ำผึ้ง 100 กรัม ให้พลังงาน 303 แคลอรี่
คนที่ไม่เป็นเบาหวาน เมื่อรับประทานน้ำผึ้งจะไม่ทำให้เป็นเบาหวาน
แต่ถ้าคนเป็นเบาหวาน ถ้ารับประทานน้ำผึ้งจะทำให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้นได้
ที่มา:http://srivichaihospital.ob.tc/-View.php?N=18
ปล.1...พี่อ่านเจอมาว่าการลดน้ำตาลในเลือด
ให้ใช้หญ้าคาทั้งต้น ราก ใบ โดยล้างให้สะอาดนำไปต้มดื่ม
เพราะหญ้าคาจะลดน้ำตาลในเลือด และการทานหญ้าปักกิ่งด้วย...
มีคนบอกว่าได้ผลมาแล้ว...ว่าจะโทรไปบอกสว.ที่บ้านอยู่เหมือนกันค่ะ...
โทรไปทีไรลืมบอกตลอด...

ปล.2...พี่เองก็ชอบทานน้ำผึ้งนะอิลฮาม...โดยเฉพาะเวลาเครียดๆ
ทำให้รู้สึกสดชื่น สมองโล่งดี...เลยชอบดื่มเช่นกันแต่ไม่บ่อยนัก...
จะดื่มเฉพาะตอนที่รู้สึกว่่าอยากหรือรู้สึกว่่าร่างกายต้องการน่ะจ่ะ...
รอคุณหมอมายืนยันและเสริมต่อเนาะ...

วัสลามค่ะ
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ By: Bangmud Date: ธ.ค. 22, 2009, 09:06 AM
salam
บรรดานักศึกษาทั้งหลาย อย่าเพิ่งมาถกเรื่องสุขภาพในตอนนี้ ใครที่ยังสอบไม่เสร็จให้ไปเตรียมสอบ ใครที่ senior project ยังไม่สุดยอดก็รีบปรับปรุงด่วน
เรื่องน้ำผึ้งเอาไว้ว่ากันทีหลัง แต่ขอให้รู้ไว้ว่า น้ำผึ้งมีประโยชน์มากมายแน่นอน คนที่ไม่ได้เป็นเบาหวานกินแล้วไม่เป็นไร ทาขนมปังกินก็อร่อยดี เติมลงในกาแฟก็ได้
สับปะรด จิ้มน้ำผึ้ง กินแก้ไอ แต่ถ้ากินบ่อย ๆ โดยไม่กินอย่างอื่นเลย ระวังขาดสารอาหารประเภทโปรตีน (Protein calory malnutrition)
ส่วนสมุนไพรลดน้ำตาลสำหรับโรคเบาหวานนั้น ตอนนี้ที่ อินเทรนด์ที่สุดต้อง
"มะรุม พืชมหัศจรรย์" ยังไม่รับรองผลนะจ๊ะ
เพิ่งไปซื้อมาเมื่อวันก่อน เป็นชาซอง ยังไม่ได้ลองกิน ถ้ากินแล้วน้ำตาลลดดีจะแจ้งให้ทราบ
ต้องลองกินสัก 2 สัปดาห์จึงจะพอบอกผลได้ ส่วนเรื่องน้ำผึ้ง อิลฮามหาอ่านได้จาก การแพทย์ของท่านนะบียฺ ที่มีอยู่ได้เลย ข้อมูลเพียบ
หรือถ้าดูหนังสือและทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จแล้ว จะปรึกษา บังกูเกิ้ล ไปพลาง ๆ ก็ได้
ส่วนแชจะลองหาอ่านการทดลองเก่า ๆ ที่มีผู้ทำไว้เกี่ยวกับน้ำผึ้งมานำเสนอ อินชาอัลลอฮฺ
วัสสลาม
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ By: nada-yoru Date: ม.ค. 20, 2010, 06:28 PM
salam
บรรดานักศึกษาทั้งหลาย อย่าเพิ่งมาถกเรื่องสุขภาพในตอนนี้ ใครที่ยังสอบไม่เสร็จให้ไปเตรียมสอบ ใครที่ senior project ยังไม่สุดยอดก็รีบปรับปรุงด่วน
โดนเต็มๆค่ะ 
เรื่องน้ำผึ้งเอาไว้ว่ากันทีหลัง แต่ขอให้รู้ไว้ว่า น้ำผึ้งมีประโยชน์มากมายแน่นอน
คนที่ไม่ได้เป็นเบาหวานกินแล้วไม่เป็นไร ทาขนมปังกินก็อร่อยดี
เติมลงในกาแฟก็ได้
สับปะรด จิ้มน้ำผึ้ง กินแก้ไอ แต่ถ้ากินบ่อย ๆ โดยไม่กินอย่างอื่นเลย
ระวังขาดสารอาหารประเภทโปรตีน (Protein calory malnutrition)
ที่บ้านส่งมาให้แล้วค่ะ...ทั้งกินบำรุงเครื่องในและบำรุงผิวหน้าเลยค่ะ 
แถมเพื่อนอยากลองของ มาขอถึงที่ เพราะว่าเครียดเรื่องเรียน
จนสิวเรียงหน้ากันมาทักทาย ปรากฏว่าได้ผลค่ะ...
มหัศจรรย์น้ำผึ้งจริงๆ แต่ขอบอกว่าตอนทาหน้าอยู่นั้น
อย่ายิ้มหรือหัวเราะให้มากนะคะ
จากที่อยากให้หน้าตึง อาจจะมีรอยเพิ่มได้ค่ะ 
เพราะตอนเอาน้ำผึ้งทาหน้านั้น น้ำผึ้งจะเกาะตัวจนทำให้รู้สึกได้ว่า
หน้ามันตึงค่ะ รอจนกระทั่งน้ำผึ้งที่เคยเหนียวติดมือแห้งสนิท
จนเอามือไปแตะก็ไม่เหนียวติดมือ แล้วจึงค่อยล้างด้วยน้ำอุ่นๆค่ะ
หรือถ้าไม่มีน้ำอุ่น ก็น้ำธรรมดาก็ได้ค่ะ...
แต่น้ำอุ่นดีกว่า (สาว่า) เพราะลองมันมาทั้งสองน้ำแล้วค่ะ
น้ำอุ่นทำให้รู้สึกว่าดีกว่ายังไงไม่รู้สิคะ 
สิวจะไม่ค่อยออกมาทักทายมากนัก(เท่าที่สังเกตน่ะค่ะ)
หากรู้สึกว่าหน้าเราไปโดนแดดหรือทำงานมาหนักๆจนรู้สึกหนักหน้า
หน้าหมองๆ จนพานทำให้หนักใจไปด้วย...
ลองนำมะขามเปียกผสมกับน้ำผึ้งแล้วทาหน้าดูนะคะ
รอจนกระทั่งมันแห้งสนิทไม่ติดมือแล้วจึงค่อยล้างออก
ไม่ต้องใช้โฟมหรือสบู่ล้างทับนะคะ หน้าที่หนักๆ จะเบาลงยังไงไม่รู้สิคะ 
และที่สำคัญ ทำให้รุ้สึกว่าหน้าสว่างขึ้นด้วยค่ะ...
สูตรใครสูตรมันค่ะ ลองดูได้นะคะ หากทำไปไม่เข้ากับสภาพหน้า
หรือทำให้อะไรๆแย่ลง ก็เลิกไปเลยนะคะ...
ส่วนสมุนไพรลดน้ำตาลสำหรับโรคเบาหวานนั้น ตอนนี้ที่ อินเทรนด์ที่สุดต้อง "มะรุม พืชมหัศจรรย์" ยังไม่รับรองผลนะจ๊ะ
เพิ่งไปซื้อมาเมื่อวันก่อน เป็นชาซอง ยังไม่ได้ลองกิน
ถ้ากินแล้วน้ำตาลลดดีจะแจ้งให้ทราบ
ต้องลองกินสัก 2 สัปดาห์จึงจะพอบอกผลได้
ผลปรากฏว่ายังไงคะแช...ได้ผลมั้ยคะ...
หนูจะได้แนะนำให้สว.ที่บ้านลองซื้อมาดื่มดูน่ะค่ะ
ส่วนเรื่องน้ำผึ้ง อิลฮามหาอ่านได้จาก การแพทย์ของท่านนะบียฺ
ที่มีอยู่ได้เลย ข้อมูลเพียบ
หรือถ้าดูหนังสือและทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จแล้ว
จะปรึกษา บังกูเกิ้ล ไปพลาง ๆ ก็ได้
ส่วนแชจะลองหาอ่านการทดลองเก่า ๆ ที่มีผู้ทำไว้
เกี่ยวกับน้ำผึ้งมานำเสนอ อินชาอัลลอฮฺ
วัสสลาม
จะรออ่านนะคะ... 
ขอบคุณย้อนหลังค่ะแช
วัสลามุอะลัยกุมค่ะ
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ By: เหรียญ 2 ด้าน Date: ม.ค. 20, 2010, 07:45 PM
salam
โรคอ้วนลมพุง มฤตยูร้ายทำลายสุขภาพ
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ By: Bangmud Date: ม.ค. 20, 2010, 11:06 PM
salam
อ้วนลม ไม่เป็นไร กินยาขับลมก็หาย อย่าอ้วนไขมันก็แล้วกันกระทรวงสาธารณสุขบอกว่า ชายไทยที่มีเส้นรอบสะดีอมากกว่า 36 นิ้ว มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็น
โรคหัวใจ เบาหวาน ไขมันสูง ลองวัดของตัวเองดูแล้ว ขนาดแขม่วแทบแย่ ยังวัดได้ 37.5 นิ้ว
แต่ไม่เป็นไร ไม่ต้องเสี่ยงอย่างที่กระทรวงว่า เนื่องจากเป็นอยู่แล้วทุกโรค
หมายเหตุ เส้นรอบสะดือของสาวต้องไม่ให้เกิน 32 นิ้ว นะจ๊ะ
วัสสลาม
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ By: ILHAM Date: ม.ค. 21, 2010, 12:47 AM
หมายเหตุ เส้นรอบสะดือของสาวต้องไม่ให้เกิน 32 นิ้ว นะจ๊ะ
มากไปแล้วนั้น 25พอ
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ By: nada-yoru Date: ม.ค. 21, 2010, 12:56 AM
^
^
ขนาด 37.5นิ้ว ยังไม่พรื่อที...
บางทีที่เราเห็นๆคนโน้นคนนี้ลงพุง
เขาอาจแค่อ้วนลมก็ได้ กินยาขับลมก็หาย คุณหมอบอกมา
เฮะๆๆๆๆ
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ By: ILHAM Date: ม.ค. 21, 2010, 01:03 AM
สงสัยชอบกินลม
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ By: ... Date: ม.ค. 21, 2010, 02:47 AM
วันหลังก้อแบ่งหนมปังทาน้ำผึ้งไห้พี่โด่โด๋เค้ากินมั่งจิ......หุหุ
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ By: ILHAM Date: ม.ค. 21, 2010, 03:02 AM
ทำเอาเองก็ได้นิ น้ำผึ้งนั้นก็ซื้อในงานโอท็อปของพวกเชียงใหม่ที่มาจัดแสดงทั่วประเทศในกรุงเทพปีก่อน
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ By: ... Date: ม.ค. 21, 2010, 01:44 PM
อัสลามุอาลัยกุมค่ะ
วันนี้ขอมีสาระกะเค้าบ้างค่ะ หลังจากที่ไร้สาระมานาน แฮ่ๆๆ
เลยหยิบเรื่องนี้มาฝากกันค่ะ ไม่รุว่าเคยมีคนนำเสนอหรือยัง
เข้าเรื่องเลยละกันค่ะ อารัมภบทไม่เก่งเหมือนพี่โดโด๋เค้าน่ะค่ะ
ต้องเรียนรู้อีกเยอะ ยังไงก้อรับไว้เปนศิดด้วยคนนะค่ะพี่โด่โด่ (อิอิ)
ถ้าอยากกินเนื้อสัตว์ ควรกินเวลา 7.00 น. - 9.00 น. เนื่องจากกระเพาะเรามีสภาพเป็นกรดสูงมากที่สุด ดังนั้นมื้อเช้าจะจำเป็นมากๆ ถ้าอดมื้อเช้าไปนานๆ ขั้วกระเพาะเราจะเป็นปุ่ม ปม และนานเข้าๆ ก็กลายเป็นมะเร็งในกระเพาะ
อย่าลืมดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วนะ น้ำสะอาดจะช่วยล้างของเสียออกจากร่างกาย อย่าขี้เกียจลุกไปห้องน้ำเด็ดขาด
ห้ามอดหลับอดนอนตั้งแต่ ตีหนึ่ง เด็ดขาด เนื่องจากถุงน้ำดีกำลังย่อยไขมัน ถ้าอดนอนเวลานี้บ่อยๆ จะเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
ห้ามกินนมตอนเช้าแทนข้าวเช้า เนื่องจากตอนเช้ากระเพาะเป็นกรดสูงมาก นึกสภาพดูหากเราบีบน้ำมะนาวลงในนมจะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี กลายเป็นคอลลอยด์ มันไม่ย่อยนะจ๊ะ ถ้าดื่มนมตอนท้องว่างแบบนี้ติดต่อกันเป็นประจำแทนข้าวเช้า ระวังมะเร็งในไขกระดูกนะจ๊ะ แต่ถ้าเป็นช่วงหลังอาหารเช้า หรือตอนบ่ายไปแล้ว หรือตอนเย็นดื่มได้ตามปกติจ้า มื้อเย็นอาจเป็นมื้อง่ายๆ อย่างนมกับไข่ก็ไม่ว่ากัน
ถั่วต่างๆ รวมทั้งธัญพืชสารพัดอย่าง เช่น ลูกเดือย, ข้าวฟ่าง ฯลฯ มีประโยชน์ต่อลำไส้ คือ ช่วยกวาดเชื้อโรค + แบคทีเรียชนิดไม่ดีออกจากลำไส้เรา ควรกินอาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างน้อย
พืชผักสีเขียวมีคลอโรฟิว ช่วยทำให้เม็ดเลือดลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดี เซลล์แต่ละเซลล์จะแข็งแรงเมื่อมีออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง ก่อนเอาผักมากินเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารพิษ อย่าลืม แช่น้ำส้มสายชู 45 นาทีนะจ๊ะ
ขอให้ถนอมสุขภาพร่างกายของเราให้ดีกันทุกคนนะจ๊ะ ด้วยความปรารถนาดี ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐจร้า
อันนี้ขอเพิ่มให้อีกหน่อย สุขภาพจิตต้องดีด้วยนะ อย่าเครียด อย่าไปยึดติดกับะไรมาก ทุกอย่างเป็นภาพลวงตาทั้งนั้น มีแต่ความรักที่สัมผัสได้จริง..แล้ววันนี้ คุณลืมใส่ใจความรักที่คุณมีไปแล้วหรือยัง..
1. รับโทรศัพท์โดยใช้หูซ้าย
2.อย่าดื่มกาแฟ 2 ครั้งต่อวัน
3.อย่าทานยาร่วมกับน้ำเย็น
4.อย่าทานอาหารมื้อใหญ่หลัง 5 โมงเย็น
5.ลดปริมาณอาหารมัน
6.ดื่มน้ำเยอะๆตอนเช้า และดื่มน้ำน้อยๆตอนกลางคืน
7.อยู่ห่างจากเครื่องชาร์ตแบตมือถือขณะชาร์ต
8.อย่าใช้เฮดโฟนหรือเฮียโฟน
9.การนอนหลับที่ดีที่สุดคือช่วงเวลา 4 ทุ่มถึง 6 โมงเช้า
10. อย่านอนทันทีหลังจากทานยาก่อนนอน
11.เมื่อแบตเตอรี่ต่ำถึงขีดสุดท้าย อย่ารับโทรศัพท์ เพราะรังสีแรงกว่าปกติถึง 1000 เท่า
วัสลามค่ะ^^
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ By: a d n a n Date: ม.ค. 21, 2010, 02:05 PM
กินใบไผ่วันละนิด จิตแจ่มใส 