Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: nada-yoru Date: ธ.ค. 05, 2009, 09:52 PM
คิดไปคิดมา กลัวท่านอัญมณีกับอิลฮามจะน้อยใจ...
ข้าน้อยมีรางวัลเล็กๆน้อยๆให้ท่่านทั้งสองด้วยนะคะ

มันคือ...แต่น แตน แต๊น
มงกุฎทองและมงกุฎเพชรของแท้เลยค่ะ(มาเป็นต้นๆ)
พร้อมด้วยสาย(สะ)พานอย่างดี
ปล.อย่าลืมรดน้ำพรวนดินให้มงกุฎเพชรมงกุฎทองด้วยนะคะ...

ปล.2 อย่่าลืมคาดสาย(สะ)พานเวลาไปไหนมาไหนด้วยนะคะ...

ปล.3 หวังว่าท่านอัญมณีกับอิลฮามคงดีใจที่ได้รางวัลจากคนถามอย่างข้าน้อย...

วัสลามค่ะ
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: nada-yoru Date: ธ.ค. 05, 2009, 09:58 PM
ตายละ... 
ต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย อื้อซ่าเรยนะเนี่ย
แหม๊ๆ อยากได้เงินสดอะคะ ไม่อยากเสียภาษี 
ค่าภาษีไม่เท่าไหร่เลยค่ะ...แค่2ล้านเอง...
ก๊ะสู้ไหวอยู่แว้วววววว...หรือถ้าไม่ไหวจะใช้บัตตาเลียนเบอร์2ของก๊ะ
ไถหัวใครแถวๆนั้นให้ได้สักสองคน...คงครบสองล้านพอดีค่ะ...

Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: nada-yoru Date: ธ.ค. 15, 2009, 06:00 AM
salam
รู้ไหมว่า...ทำไมไก่ถึงขันตอนเช้า
^__________________________^
สลามค่ะ
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: Bangmud Date: ธ.ค. 15, 2009, 06:25 AM
salam
สงสัยจะมีใครไปเล่าเรื่องตลกให้ไก่ฟังมั้ง
มาตั้งคำถามไว้กระทู้นี้ แล้วไปเฉลยในอีกกระทู้หนึ่ง
ท่านนะบียฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เคยสอนว่า
لاتصب الديك فـإنّه يوقظ للصّلاة "เจ้าจงอย่าด่าไก่ เพราะ(มันขัน)ปลุกให้มาละหมาด"
والسلام
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: Bangmud Date: ธ.ค. 15, 2009, 08:48 AM
salam
(มาตอบต่อ) เมื่อเช้าตอบที่บ้าน ตอนนี้มาใช้เครื่องที่ทำงาน
เมื่อเด็ก ๆ พอถึงฤดูปิดเทอม แม่จะพากลับไปเยี่ยมโต๊ะกีที่บ้านในชนบท
ตอนกลางคืนชอบมาก เพราะไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องตามตะเกียงดวงเล็ก ๆ ไว้
ได้ยินเสียงไก่ขันเป็นระยะ ๆ ทุก ๆ 3 ชั่วโมง เสียงไก่จะมีลักษณะเฉพาะตัว
บางตัวเสียงใหญ่ บางตัวเสียงแหลม บางตัวลูกคอยาวยังกับใส่มัดวาญิบ
เสียงไก่ขันจะรับกันเป็นทอด ๆ ตัวนั้นที ตัวนี้ที ต้องถือว่าเป็นการปลุกให้ละหมาดจริง ๆ
ได้เวลามัฆริบก็ปลุก เวลาอิชาอุ์ก็ปลุก เวลาตะฮัจญุดก็ปลุก เวลาฟัจญริ ก็ปลุก
แต่ขอบอกอย่างเขิน ๆ ว่า ตอนนั้น นอนฟังเสียงไก่อย่างเดียว ไม่ได้ลุกมาละหมาด
สัก 2 ปีมานี้ ที่บ้านเลี้ยงไก้แจ้สีขาวไว้ฝูงเล็ก ๆ นอนฟังเสียงเพลิน เพราะเสียงไก่แจ้จะแหลม เพราะมาก ๆ
พอดีไข้หวัดนกระบาด ตายยกเล้า ไม่ได้แจ้งทางการ จับฝังเองหมด กลัวเขาจะเอายามาพ่นที่บ้าน
ตอนนี้ยังไม่กล้านำมาเลี้ยงอีก เดี๋ยวไก่จะอด ๆ อยาก ๆ ไม่ได้แบ่งเวลาดูแล จะบาปเสียเปล่า ๆ
والسلام
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: ILHAM Date: ธ.ค. 15, 2009, 09:35 AM
น่าจะชิงเชือดก่อนมันตาย
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: nada-yoru Date: ธ.ค. 15, 2009, 10:20 AM
salam
สงสัยจะมีใครไปเล่าเรื่องตลกให้ไก่ฟังมั้ง
มาตั้งคำถามไว้กระทู้นี้ แล้วไปเฉลยในอีกกระทู้หนึ่ง
ท่านนะบียฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เคยสอนว่า
??
?? 
? 
?
"เจ้าจงอย่าด่าไก่ เพราะ(มันขัน)ปลุกให้มาละหมาด"

?
วะอะลัยกุมมุสลามค่ะ
แหะๆ...แชรู้ทัน...

จริงๆไก่ไม่ได้ขันแต่เฉพาะตอนเช้าหรอกค่ะ
มันขันได้ตลอดทั้งวัน
มีผู้ศึกษาพบว่า ไก่จะขันเมื่ออุณหภูมิหรืออากาศเปลี่ยนเเปลง
หรือเวลาที่มีเสียงดัง
ที่เราคิดว่าไก่ขันเฉพาะตอนเช้า คงเป็นเพราะตอนเช้าเป็นเวลาที่เงียบ
จึงได้ยินเสียงไก่ขันชัดเจน
ส่วนใหญ่พบว่าเสียงขันเป็นเสียงของไก่ตัวผู้
ไม่ค่อยมีใครได้เห็นไก่ตัวเมียขันเลยข้าน้อยสะกิดใจมานานแล้วค่ะ...ว่าทำไมไก่ตัวเมียหรือแม่ไก่ที่เลี้ยง
ไม่เห็นขันปลุกชาวบ้านแต่เป็นไก่ตัวผู้หรือพ่อไก่ทุกที...
เช้านี้เลยลองเข้าไปขันดูในอีกกระทู้ที่แชบอกว่าข้าน้อยไปแอบเฉลยมา
จริงๆเข้าไปเฉลยก่อนจะเข้ามาถามในนี้นะคะแช...

...อัลฮัมดุลิลลาฮฺ...
ได้ความรู้จากแชพร้อมหลักฐาน
จากคำสอนของท่านนบี ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม...
เพราะหากว่าเราเลี้ยงไก่แล้วอยู่ในชนบทห่างไกลเสียงดังจากรถรา
เราจะรู้เลยค่ะว่า...ไก่จะขันปลุกเราละหมาด ทุกๆเวลา
และขอสารภาพด้วยคนค่ะว่า...เมื่อก่อนก็ปล่อยให้ไก่ขันปลุกจนคอแหบคอแห้ง
คนฟังอย่างข้าน้อยไม่สะทกสะท้าน รู้ทั้งรู้นะคะนั่น...อัตตัฆฟิรรุลลอฮฺ....
และที่สำคัญนะคะ...มีไก่ตัวนึง ตอนนั้นจำได้แม่นเลยค่ะว่า
กำลังเรียนมัธยมปลาย มีทั้งงานและการบ้านจากโรงเรียนกลับมาให้ทำตลอด
ซึ่งปกติจะทำการบ้านจนดึกดื่น นอนหลังเพื่อนแทบทุกคืน
และจะมีไก่ตัวนึงที่เลี้ยง(พ่อไก่)ร้องขันตอนหลังเที่ยงคืนโดยประมาณประจำ
ซึ่งในแต่ละคืนจะขันห่างกันไม่เกินสิบนาทีค่ะ บางช่วงตรงกันด้วยซ้ำค่ะ
พ่อตัวนี้ขัน อีกตัวนึงของชาวบ้านจะร้องรับมาจากแดนไกลด้วยค่ะ
คือเป็นบ้านที่อยู่ห่างออกไปหน่อย...เวลาซุบฮฺก็ขันด้วยค่ะ...
เวลาอื่นก็ขัน...ตอนนั้นเราขำไก่ตัวนั้นกันว่่า ขันผิดเวลา
ด้วยไม่รู้เรื่องอะไร จนมารู้ในภายหลังว่า...
มันคงจะขันปลุกเราละหมาดตะฮัจยุดหรือละหมาดกลางคืน
เสียงมันดังกังวานก้องมากค่ะ...
ราวกับจงใจปลุกอย่างไรอย่างนั้น...อัลฮัมดุลิลลาฮฺ...
ข้าน้อยที่นั่งทำงานก็หันมองหน้าปัดนาฬิกาแล้วยิ้มตลอด...
พอนานๆเข้าก็เลยไม่ต้องมองนาฬิกาก็รู้ว่ามันเที่ยงคืนแล้ว...
ตอนนั้นรู้สึกดีใจแค่ว่า...มีไก่มาร้องขันเป็นเพื่อนในยามเงียบๆ...
และเตือนว่า...นอนได้แล้ว(ซะงั้นค่ะ)

เลยทำให้รู้ว่า...ไก่มีหน้าที่อะซานเหมือนกันค่ะ...
แต่เป็นไก่ตัวผู้หรือพ่อไก่ค่ะ ไม่ใช่ไก่ตัวเมีย...
เพราะเท่าที่เห็น ไก่ตัวเมียหรือแม่ไก่จะเป็นผู้ดูแลพาลูกไปหาข้าวกิน....
มันคงเป็นชีวิตก.ไก่
ปัจจุบันไม่รู้ว่าไก่ยังขันปลุกคนที่บ้านให้ละหมาดอยู่อีกหรือเปล่า...
ไม่ได้ยินเสียงนานแล้วค่ะ...ญี่ปุ่นไม่มีไก่ขันปลุกเสียด้วย
(มีแค่ครอบครัวไก่ที่มหาลัยเท่านั้นที่ขยันขันให้ได้ยินใกล้ๆตึกวิจัยค่ะ)...
เสียงอะซานจากมัสยิดก็ไม่ได้ยินค่ะ...
แต่ได้ยินเสียงหัวใจแทน...ต่างจากแต่ก่อนที่แม้จะมีทั้งเสียงไก่และเสียงคน
เรียกร้องปลุกให้ละหมาด กลับไม่ทำ...อัลฮัมดุลิลลาฮฺ...
ส่วนในอนาคตนั้น จะเป็นอย่างไร...อินชาอัลลอฮฺ
วัสลามค่ะ

Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: a d n a n Date: ธ.ค. 15, 2009, 10:24 AM
Waalaikummusalam
::เพิ่มเติม::
ไก่จะขัน เวลาเห็น มลาอิกัต
ดุอาอฺ ที่มุสตะญาบ จึงมีตอนที่ขอเวลาไก่ขันด้วย
และในการที่มันขันในช่วงเช้าตรู่มากเป็นพิเศษ
เพราะ -> ในช่วงนั้น จะมี มลาอิกัตแห่งเราะมัต ลงมามากกว่าช่วงเวลาอื่น ๆ - วัลลอฮฺอะลัม
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: hiddenmin Date: ธ.ค. 15, 2009, 03:25 PM
ทำไมบังหมัดไม่อยากให้เจ้าหน้าที่มาพ่นยาละ??
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: Bangmud Date: ธ.ค. 15, 2009, 05:44 PM
น่าจะชิงเชือดก่อนมันตาย
มันมีอาการป่วยแล้ว ในกระแสเลือดจะมีไวรัสไข้หวัดนกอยู่จำนวนมาก ถ้าเชือดแล้วเอาไปทำให้สุกไวรัสตาย กินได้ก็จริง
แต่ถ้าเลือดเปื้อนระหว่างเชือดแล้วทำความสะอาดไม่ดี คนเชือดอาจติดเชื้อได้ ยังไม่อยากตาย เพิ่งเคยนิกาห์หนเดียว
ไข้หวัดนกน่ากลัวกว่าหวัด 2009 มาก
ทำไมบังหมัดไม่อยากให้เจ้าหน้าที่มาพ่นยาละ??
๑. ไวรัสไข้หวัดนกเป็น RNA Virus ตายง่ายถ้าอยู่ในบรรยากาศ ไม่ได้อยู่ในสิ่งมีชีวิต ๒-๘ ชั่วโมงก็ตาย
ยิ่งฝังดินแล้วโรยปูนขาว เชื้อไปไม่รอด
๒. ยาพ่นมันเหม็น และแรงเกิน จิ้งจกยังตกมาตาย
โรคทั้งหลายมันน่ากลัวก็จริง แต่ถ้าเรารู้วิธีป้องกัน และ ย่าเก่น ในความรู้นั้น อินชาอัลลอฮฺ มันก็ทำอะไรเราไม่ได้
๓. ถ้าเราเป็นกุ๊ก ทำอาหารกินแล้วท้องเสีย ใครเขาจะมากินอาหารร้านเรา (มันเกี่ยวกันหรือเปล่าหว่า)
والسلام
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: ILHAM Date: ธ.ค. 15, 2009, 06:26 PM
อะไรที่กินแล้วไม่ตายทันทีก็กินไปเถอะแช
555
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: nada-yoru Date: ม.ค. 04, 2010, 06:42 PM
salam
รู้ไหมว่าทำไม...
"สุนัขและแมวที่หลงทางสามารถกลับบ้านเองได้" 
วัสลามค่ะ
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: nada-yoru Date: ม.ค. 04, 2010, 07:55 PM

^
^
เป็นอะไรนิ
(มันแปลว่า Fighting!! จ่ะโคลงเคลง
วัยรุ่นใช่มั้ยล่ะพี่ เหอๆๆๆ)
แล้วเกี่ยวกับอันนี้มั้ย
V
V
V
เคยได้ยินมาว่าถ้าจะให้แมวติดบ้านต้องตัดหนวดมัน
แต่ถ้าตัดแล้วเอาไปปล่อยที่อื่น มันจะกลับบ้านไม่ได้
สงสารจริงๆ 
แสดงว่าที่มันกลับบ้านถูกก้อเพราะหนวดมันอย่างงั้นหรือ
อันนี้น่าจะเกี่ยว(มั้ง) 555555
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: nada-yoru Date: ม.ค. 13, 2010, 10:26 PM
salam
รู้ไหมว่าทำไม...
"สุนัขและแมวที่หลงทางสามารถกลับบ้านเองได้"

วัสลามค่ะ
นี่ถ้าไม่ได้บังเอิญเข้าไปเจอกระทู้ สุนัขกับแมว ที่คุณครูจริงใจนำเสนอ
คงจะลืมว่าได้ถามอะไรชาวบ้านไป แล้วไม่ได้เฉลย
ชาวบ้านเองก็ไม่มีใครมาช่วยตอบกันเลย...
งั้นเฉลยเท่าที่อ่านเจอมาคนเดียวก็แล้วกันนะคะ...

เรื่องมันมีอยู่ว่า....
เรื่องเล่าสุนัขและแมวที่หลงหาทางกลับบ้านเองได้
ทั้งที่อยู่ห่างไกลเป็นพันกิโลเมตร
คิดว่าท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินมาบ้างไม่มากก็น้อย
เรามักตั้งคำถามว่าสัตว์เหล่านนี้ทำได้อย่างไร แล้วมันทำได้จริงหรือ
ถึงแม้เรื่องเล่าเรื่องการหาทางกลับบ้านของสัตว์เหล่านี้จะถูกเล่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่ความสำเร็จของมันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด
สัตว์บางตัวอาจจะโชคดีที่ไปถูกทางที่จะไปบ้าน
เพราะทิศที่จะเดินทางกลับบ้านมีแค่ 4 ทิศ คือ
เหนือ, ไต้, ตะวันออก และตะวันตก
ถ้าโชคดีเลือกถูกทางกึงบ้าน
และบางทีแมวตัวที่กลับมาบ้านอาจไม่ใช่แมวตัวที่หายไปจริง ๆ
แล้วสุนัขและแมวมีความสามารถในการคิดแผนที่ภายใต้จิตสำนึกของมัน
นก เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่สามารถนำตัวเองไปสู่เป้าหมายที่กำหนดได้
และการศึกษาวิธีการที่นกใช้ในการนำทางกลับบ้าน
ก็มีการศึกษามาต่อเนื่องยาวนานหลายปี และคำตอบอยู่ในสมมติฐานข้างล่างนี้
ตรวจสอบภูมิประเทศโดยตรง เรียนรู้ หรือ จดจำ แผนที่ทางภูมิศาสตร์
สำรวจมุมและตำแหน่งของดวงอาทิตย์
(และบางทีอาจเป็นสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์) นำทาง
โดยอาศัยสนามแม่เหล็กโลก (โดยอาศัยความสามารถพิเศษ
ในการรับรู้คลื่นแม่เหล็กที่อ่อนมาก ๆ
โดยอาศัยตัวรับที่ผิวหนังบริเวณจะงอยปาก)
สุนัขและแมวสามารถหาทางกลับบ้านเองได้หรือไม่
คำตอบคือถ้าที่ห่างไกลนั้นเป็นที่ที่สุนัขและแมวคุ้นเคยอยู่
สัตว์หาทางกลับบ้านเองได้แน่นอน เพราะสุนัขและแมวมักไปเที่ยวไกล ๆ
แล้วกลับบ้านเอง แต่ถ้าทิ้งสัตว์ไว้ในที่ ๆ ไม่คุ้นเคยและไกลมาก ๆ
มันจะหาทางกลับบ้านเองได้หรือไม่
มีการศึกษาเรื่องการหาทางกลับบ้านของสัตว์เลี้ยง
โดยนักจิตวิทยาชาวอังกฤษ วัตถุประสงค์ในการศึกษาเพื่อค้นคว้า
ขบวนการทางจิต ที่อาจซ่อนอยู่ในการหาทางกลับบ้านของสัตว์เลี้ยง
เมื่อหลงทางไปในที่ไกล ๆ ผลการศึกษาออกมาว่า
สุนัขสามารถหาทางกลับบ้านเองได้ แต่วิธีการที่สุนัขใช้
ยังไม่สามารถอธิบายได้ เนื่องจากผลการศึกษาอาจละเว้นข้อเท็จจริงบางอย่าง
โดยไม่พูดถึงในงานวิจัย เช่น เขารู้ได้อย่างไรว่าสุนัขไม่เคยไปในจุดเริ่มต้น
ปล่อยสุนัขมาก่อน สุนัขจดจำเส้นทางได้โดยสุนัขไม่ได้ถูกปิดตา
หรือจำกัดให้อยู่ในที่ที่ไม่ สามารถมองเห็นเส้นทางได้หรือเปล่า
หรือให้สุนัขจดจำเส้นทางโดยการดมกลิ่นหรือฟังเสียง
สุนัขถูกปล่อยให้หาทางกลับโดยปล่อยจากจุดใกล้
แล้วค่อยปล่อยไกลออกไปเรื่อย ๆ หรือไม่ ฯลฯ
การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ทุกสิ่งจะต้องสามารถอธิบายได้และต้องชัดเจน
ต้องอธิบายได้ว่าสัตว์จดจำแผนที่ไว้ในสมองได้อย่างไร
สันชาติญาณป่าเป็นแรงผลักดันให้สัตว์หาทางกลับบ้านและอาหาร
สุนัขที่หลงทางหากหาทางกลับบ้านไม่ได้ก็เท่ากับสุนัขอาจต้องตาย
การหาทางกลับบ้านจึงเป็นความท้าทายของสุนัขที่ต้องหาแหล่งอาหารและที่พัก
เพื่อความอยู่รอด ยีนที่ควบคุมสันชาติญาณป่าอาจถ่ายทอดทางพันธุกรรมมา
สุนัขป่ามักหาทางไปยังแหล่งใหม่ ๆ ได้ในอาณาเขตที่มันหากินอยู่
เป็นไปได้ว่าสุนัขอาศัยสิ่งที่สังเกตได้เช่นต้นไม้สูง
หรือกลิ่นเป็นเครื่องนำทาง ซึ่งอาจไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นในบางครั้ง
สุนัขและแมวหาทางได้อย่างไร
- การหาทางอาจเหมือนนกที่อาศัยทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวในการนำทาง เช่น
- แผนที่ที่อยู่ในสมองสัตว์
- ความอยู่รอดและการสำรวจอาณาเขตหรือถิ่นที่อยู่
- ความสามารถในเรื่องการดมกลิ่น
- การได้ยิน เช่น เสียงน้ำไหล
- สนามแม่เหล็ก ซึ่งสุนัขอาจมีบางส่วนของสมอง
ที่สามารถรับสนามแม่เหล็กอ่อน ๆ ได้เหมือนนก
- ตำแหน่งของดวงอาทิตย์ แตกต่างกับของนก
เพราะสุนัขมักเดินทางกลางคืนหรือเวลาที่แสงน้อย
สี่อย่างแรกได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสุนัขและแมวเลี้ยง
มีความสามารถใช้ได้ โดยมันสามารถที่จะไปและกลับได้เอง
ในทางเดิมทางเดียวกับขาไป หรือเป็นทางใหม่คนละทางกับขาไป
แต่การที่ถูกทิ้งในระยะทางไกล ๆ สุนัขและแมวสามารถหาทางกลับได้หรือไม่
ยังน่าสงสัย เพราะเรายังไม่ทราบว่าสัตว์เลี้ยงสามารถดูตำแหน่งดวงอาทิตย์
และ อาศัยสนามแม่เหล็กเป็นเครื่องนำทางได้เช่นเดียวกับนกหรือไม่
คำตอบนี้ยังไม่สามารถตอบได้
การจะตอบคำถามได้คงต้องมีการศึกษาที่อธิบายถึงการหาทางกลับบ้าน
จากที่ไกล ๆ ของสัตว์เลี้ยงแสนรักให้ได้ สัตว์เลี้ยงที่ถูกปล่อยในที่ไม่ไกลนัก
และในสถานที่ไม่คุ้นเคยเสี่ยงต่อการ ที่จะหลงทางและตายเป็นอย่างมาก
อย่าพยายามทดลองกับสัตว์เลี้ยงของท่านดีกว่าครับ
เพราะจากประสบการณ์ของผู้แปลเองก็เคยพบว่าสัตว์เลี้ยง
โดยเฉพาะแมวที่เจ้าของไม่ได้ใส่กรงมาแล้วเกิดหลุดไป
ไม่เคยเห็นกลับบ้านได้เอง
ข้อมูลจาก : สนับสนุนบทความโดย โรงพยาบาลสัตว์ เอ็น.พี.
ปล.ข้าน้อยเองก็มีข้อมูลอยู่เพียงเท่านี้ เท็จจริงประการใด
ไม่กล้าสรุป เพราะข้าน้อยไม่ใช่แมว ก็เลยไม่รู้ว่าแมวมันทำได้ยังไงกันแน่
555
วัสลามค่ะ
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: nada-yoru Date: ม.ค. 31, 2010, 06:08 PM
salam
รู้ไหมว่าทำไม ?
หัวใจถึงเอียงซ้าย