กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ข่าวสารและสังคมมุสลิม
Pages: 12345678910111213
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: little cat Date: พ.ย. 08, 2009, 04:31 PM
อ๋อ  party:

Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: JawhaR Date: พ.ย. 08, 2009, 04:57 PM
ถ้าคนออกลูกได้เป็นร้อย คงสนุกน่าดู  hihi:
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: little cat Date: พ.ย. 08, 2009, 05:04 PM
ถ้าคนออกลูกได้เป็นร้อย คงสนุกน่าดู  hihi:

 natural:
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: nada-yoru Date: พ.ย. 08, 2009, 06:40 PM
ถ้าคนออกลูกได้เป็นร้อย คงสนุกน่าดู  hihi:

ซึ่งคงต้องช่วยกันคลอดเหมือนพ่อม้าน้ำด้วยแล้วล่ะค่ะ...เหอๆ...

 boulay:
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: ILHAM Date: พ.ย. 08, 2009, 06:42 PM
แบ่งไข่ให้เท่ากันด้วยล่ะ
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: nada-yoru Date: พ.ย. 08, 2009, 06:49 PM

^
^

พี่เคยอ่านข่าวว่าผู้ชายเกาหลีท้องได้ ตอนนั้นฮือฮามากกกกกกก
ว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง ดูภาพข่าวแล้วตกใจ ผู้ชายจริงๆด้วย
แต่พอสืบไปสืบมา พ่อเจ้าประคุณเคยเป็นหญิงมาก่อน...เหอๆ

ตึ๊ก ตึ๊ก วาววววววว

จบข่าวเลย...มนุษย์หนอมนุษย์....ไม่เข้าใจเลยยยยยเจงๆ natural:  no:


Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: Bangmud Date: พ.ย. 09, 2009, 03:48 PM
 salam
ลองคำถามจากผู้อาวุโสบ้าง
 ทำไมบ้างท้องถิ่นจึงเรียก กล้วยทอด ว่า กล้วยแขก

Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: JawhaR Date: พ.ย. 09, 2009, 04:05 PM
salam
ลองคำถามจากผู้อาวุโสบ้าง
 ทำไมบ้างท้องถิ่นจึงเรียก กล้วยทอด ว่า กล้วยแขก


เพราะว่า คนขายกล้วยทอด ส่วนมากเป็นคนอิสลาม
 " กล้วยทอด คนแขกขาย "

นานๆ เข้า เลยกลายเป็น  กล้วยแขก

แฮ่ๆๆ   
ผม มั่วอะคับแช   
hehe
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: nada-yoru Date: พ.ย. 09, 2009, 04:44 PM
^
^

ขอ สส มั่วด้วยคนนะคะแช...

คือว่า...แถวบ้านข้าน้อยกล้วยทอดกับกล้วยแขกนั้นคนละอย่างกันค่ะ

กล้วยแขกนั้นจะใส่มะพร้าวขูดลงไปในแป้งด้วย
ส่วนกล้วยทอดไม่ใส่มะพร้าวขูดค่ะ...
เวลาสั่งแม่ค้า ก็ต้องบอกว่า จะเอาแขกหรือทอดค่ะ...
เพราะถ้าบอกว่าเอากล้วยทอด ก็คงอดกินกล้วยแขก(ที่ใส่มะพร้าวขูด)
ด้วยค่ะแช...งิงิ...

ปล.แอบคิดเหมือนท่านอัญมณีเหมือนกันค่ะ...แต่ต่างกันนิดนึง
ข้าน้อยคิดว่าที่มาของคำว่ากล้วยแขก
เพราะว่าทำไว้ให้แขกกิน...ส่วนเจ้าบ้านอด(เพราะแขกกินหมดไม่เหลือ)...เหอๆ

ด้วยความเจ็บใจแถมไม่ได้กิน คนทำ(เจ้าของบ้าน)
ก็เลยตั้งชื่อให้ว่ากล้วยแขกด้วยประการละฉะนี้ค่ะแช
(ดำผุดดำว่ายนี้ถนัดนักแล...แต่อย่่าเพิ่งกดหัวตอนนี้นะคะ...
กลัวจะดำไม่ขาว เอ๊ยดำไม่ผุด)  hehe


Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: al-firdaus~* Date: พ.ย. 09, 2009, 05:01 PM
salam
ลองคำถามจากผู้อาวุโสบ้าง
 ทำไมบ้างท้องถิ่นจึงเรียก กล้วยทอด ว่า กล้วยแขก


“กล้วยแขก” เศร้าและไม่เข้าใจจริงๆว่า    ทำไม “กล้วยแขก”ต้องทำผิดกฏหมาย ???

  “กล้วยแขก”  น้อยใจในชีวิตของตัวเองเหลือเกิน
ตั้งแต่เกิดมา จำความได้ก็โดนล้อเลียนมาตลอดว่า  เป็นลูกต่างด้าว บ้าง   เป็นลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ บ้าง

 “กล้วยแขก” ไม่รู้จริงๆว่า พ่อแม่เป็นใคร?  อยู่ที่ไหน?
 รู้แต่ว่าเกิดมาเป็นตัวเป็นตน  ทุกคนเขาก็เรียกตนเองว่ากล้วยแขกแล้ว   
ลุงถนัดข้างบ้านบอกว่าพ่อแม่กล้วยแขกเป็นแขกอินโดนีเซีย   ส่วนน้าหมึกบอกว่าเป็นแขกมาเลย์ติดๆกับไทยนี่เอง 
แต่ป้ายิ่งบอกว่าน่าจะเป็นแขกอินเดียซะมากกว่า

ถึงจะบอกไม่ตรงกัน  แต่สรุปความแล้ว “กล้วยแขก”นั้น  เป็นแขกแน่นอน !!!
แค่ชื่อ “กล้วยแขก” ก็บอกอยู่โทนโท่
แต่กล้วยแขกคิดว่ากล้วยแขกเป็นไทย   กล้วยแขกไม่อยากเป็นแขก

ชีวิต “กล้วยแขก” ช่างอาภัพยิ่งนัก
วนเวียน  ซ้ำซากเป็นวัฏจักรน่าเบื่อหน่าย  เกิดมาโดยไม่รู้จักพ่อแม่ก็หนักหนาแล้ว  ซ้ำร้าย  ให้มาพลัดพรากจากพี่จากน้องอีก   
๓-๔  ชีวิตที่เคยเป็นหนึ่งเดียวต้องมาแยกจาก  ประดุจโดนคมมีดกรีดฝานตามแนวยาว  !!!
                     
วันๆชีวิต “กล้วยแขก” ต้องทำงานคลุกแป้งมอมแมม  แถมต้องผจญกับน้ำมันอันร้อนระอุ  เจอกันซ้ำแล้วซ้ำอีก  จนเอียนหน้ากันทั้งคู่
ชุดเก่งของ “กล้วยแขก” มีอยู่ชุดเดียว  เป็นชุดไวท์ออนไวท์  ก็ชุดประแป้งขาววอก  แถมผสมขาวมะพร้าวขูดเข้าไปอีก  ทำให้ขาวไปทั้งตัว   
เมื่อก่อนกล้วยแขกมักจะเหยาะน้ำปูนใสใส่เหมือนกับคนใส่น้ำหอมเพื่อความดึงดูดใจ 
แต่กล้วยแขกคิดคำเองแทนดึงดูดว่าเพื่อความ “กรอบ”   ใครถามว่าใส่ทำไม  “กล้วยแขก”ก็จะตอบว่า “มันกรอบดี” 
แต่เพื่อนๆ “กล้วยแขก”เขาว่าน้ำปูนใสมันเชย  จะทันสมัยเขาใส่ผงฟูกัน  นัยว่า “ มันฟูดี”
และวันไหนอารมณ์ดีๆ “กล้วยแขก”จะประดับอาภรณ์ด้วยงาขาวให้มันเท่ขึ้นไปอีก
แต่อนิจจาชุดเก่งของ “กล้วยแขก” ก็ขาวอยู่ได้ประเดี๋ยวเดียว
ก็งานของ “กล้วยแขก” ต้องลงไปผจญกับน้ำมันซ้ำซาก  จากชุดไวท์ออนไวท์ก็กลายเป็นสีน้ำตาลบนน้ำตาลไปในบัดดล
       
ที่อยู่ของ “กล้วยแขก” นี่ก็เป็นเรื่องอาภัพอีกเรื่องหนึ่ง
เพื่อนๆ “กล้วยแขก” เขามีที่อยู่  ดูดี  มีฐานะ
“กล้วยบวชชี”  “กล้วยเชื่อม” เขาระดับ เครื่องแก้ว  กระเบื้องเคลือบ  ระดับสังคโลก
แม้แต่เพื่อนรัก “กล้วยปิ้ง” เขายังอยู่แบบโมเดิร์น  ระดับคลาสสิค เอ๊ย พลาสติค
                                 
แต่ “กล้วยแขก” นี่สิ  ต้องอยู่กับกระดาษเปื้อนหมึก  !!!
จะมีก็แต่ “ข้าวเม่าทอด” เพื่อนสนิทเท่านั้นแหละที่ชะตาชีวิตไม่ต่างกัน  โดนลอยแพ  แต่ข้าวเม่าทอดยังดี ยังได้อยู่เคียงข้างน้องๆพี่ๆ
วันๆ “กล้วยแขก”  ต้องทนอยู่กับกระดาษสีน้ำตาลเก่าๆ  แถมสีหมึกเอย  กลิ่นหมึกเอย  อีกต่างหาก 
โชคมาวาสนาดีจริงๆ “กล้วยแขก” ถึงจะได้อยู่กระดาษเปล่าๆ
แต่มันก็ยังเป็น กระดาษเก่าๆ อยู่ดี !
                           
 “กล้วยแขก” เคยมีความฝันนึกอยาก โกอินเตอร์  !!!
อย่าง กล้วยทอด (ที่ไม่ใช่กล้วยทอดเล่นหุ้น)ญาติกันแท้ๆ แค่มีเพื่อนเป็น ไอซ์ซิ่ง เป็น ไอศครีม  เขาก็ได้ขึ้นเหลา  ขึ้นเรสตัวรองต์   
หรือคนบ้านใกล้เรือนเคียงกัน  เจ้ามันฝรั่ง พอเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามเป็น  French fried เท่านั้นแหละ
มันก็ โกอินเตอร์ ไปซะแล้ว   ทั้ง ผู้ใหญ่  ผู้เด็ก  วัยรุ่น  วัยเล็ก  ชอบมันหมด

เอ ! หรือว่า “กล้วยแขก”จะเปลี่ยนชื่อดีไหม  ?
จะเขียนชื่อ “กล้วยแขก” เป็นภาษาอังกฤษ  ไอ้คำว่า “กล้วยแขก”เนี่ยเขียนเป็นภาษาอังกฤษมันช่างยากเย็นซะเหลือเกิน 
แถมเผลอๆอาจอ่านผิดก็อาจเป็นได้

หรือจะเป็น Indian banana ก็ออกยาวไปหน่อย
จะ  banana guest  ก็ดูทะแม่งๆ ยังไงชอบกล
คิดแค่ชื่อ  วาสนา “กล้วยแขก” เห็นทีจะไม่รุ่งเป็นแน่

โอว์ “กล้วยแขก”ไม่นึกเลยว่าชะตาชีวิตจะตกต่ำถึงเพียงนี้
ตอนนี้อย่าว่าจะโกอินเตอร์เลย  เอาแค่ให้รอดจากคุกจากตารางก็แทบจะไม่ไหวแล้ว                                   
ก็จะอะไรอีกเล่า   เดิมที “กล้วยแขก” เป็นต่างด้าวใครๆเขาก็ว่าอย่างนั้น  แต่ก็ยังดีที่พอมีงาน  มีที่อยู่พอประทังชีวิตไปวันๆ
แต่มาตอนนี้  “กล้วยแขก” ต้องกลายเป็นคนเถื่อน  ทำผิดกฏหมาย !!!
โดนเจ้านายทั้งบีบทั้งบังคับให้ทำผิดกฏหมาย   
กล้วยแขกต้องออกหากินตามท้องถนน   

ใครๆก็รู้กันดีอยู่ว่า  ถนน เขามีให้รถวิ่ง  ที่สาธารณะเขาห้ามไม่ให้ค้าขาย  แล้วมันอะไรกันล่ะเนี่ย 
อนาคต “กล้วยแขก” จะเป็นอย่างไรกัน
“กล้วยแขก” ที่ชะตาชีวิตตกต่ำจนต้องทำผิดกฏหมาย
เร่ขายตัว (เอง)  ตามสี่แยก   mycry


ชีวิตกล้วยแขก โดย...สถาปนิกต่างดาว
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: nada-yoru Date: พ.ย. 09, 2009, 05:12 PM
^
^

ได้ใจไปเลยค่ะก๊ะ

 myGreat:

แล้วของแชล่ะคะ... ::)
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: itoursab Date: พ.ย. 09, 2009, 07:00 PM

“กล้วยแขก” เศร้าและไม่เข้าใจจริงๆว่า    ทำไม “กล้วยแขก”ต้องทำผิดกฏหมาย ???
....
...............
เร่ขายตัว (เอง)  ตามสี่แยก   mycry


ชีวิตกล้วยแขก โดย...สถาปนิกต่างดาว

ขออนุญาติเถอะครับ
กร้ากกกก....
แต่อยากกล้วยแขกก็เป็นไทย
เพราะที่เมืองไทยไม่มีเคยมีการบังคับกีดกันใคร
แค่บอกว่า เป็นกล้วยไทย ... ก็ได้เป็นไทยแระ
ถึงจะโดนเรียกว่าแขกแต่ชื่อก็เหอะ แง่บๆ


Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: Bangmud Date: พ.ย. 09, 2009, 07:16 PM
 salam
ขอตอบในฐานะลูกแม่ค้ากล้วยแขก
ทุกคนคงรู้จักขนุน ขนุนเนื้อ ขนุนหนัง ขนุนละมุด และขนุนจำปาดะ
ขนุนละมุดกับจำปาดะนั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก ขนุนละมุดมีบ้างทางภาคกลาง แต่จำปาดะมีมากทางภาคใต้
ที่ขึ้นหน้าขึ้นตา คือ อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล
ลักษณะสำคัญของขนุนละมุดและจำปาดะคือ กลิ่นหอมแรงและมีเส้นใยเหนียว เตี้ยวไม่ค่อยจะขาด และมีเมือกลื่น ๆ
แต่จำปาดะ จะกลิ่นหอมแรงกว่า เส้นใยมากกว่า และ เมือกมากกว่า เวลากิน เมือกและเส้นใยติดคอ กลืนลำบาก
ดังนั้นเพื่อให้กินง่าย ๆ พี่น้องเราทางภาคใต้จึงทำให้กินง่ายขึ้นด้วยการชุบแป้ง(ผสมมะพร้าวขูดและปรุงรส)
ทอดในน้ำมันมาก ๆ และร้อนจัด วิธีทอดมี 2 วิธี คือ ทอดทั้งเม็ด และเอาเม็ดออกก่อนทอด
กินได้ทั้งเนื้อและเม็ด บางท่านก็ทอดแต่พอสุก เนื้อยังนุ่มและมีเมือกอยู่บ้าง บางท่านทอดจนสุก ค่อนข้างกรอบ
จำปาดะทอดยังหากินได้ง่าย เป็นอาหารของมุสลิม(ที่ถูกเรียกว่า แขก)
คนไทยภาคกลางอยากกินของอร่อย ๆ แบบนี้บ้าง เอาขนุนเนื้อหรือขนุนหนังมาทอดเหมือนจำปาดะบ้างก็ไม่อร่อย
ในที่สุดมีคนสมองไวลองใช้กล้วยน้ำว้าที่ยังไม่สุกดี ชุบแป้งเหมือนแป้งที่ชุบจำปาดะ แล้วทอด อร่อยไปอีกแบบ
เรียกว่ากล้อยทอดแบบแขก หรือกล้วยแขก ปัจจุบันมีการใส่โน่นเติมนี่ เช่น บางคนใส่ถั่วทอดรวมไปด้วย
บางคนใช้ใบเตยหั่นทอดไปด้วย(แต่ไม่ได้กินใบเตย)
มีการดัดแปลงนำมันบ้าง เผือกบ้าง ฟักทองบ้าง ชุบแป้งทอดด้วยวิธีการเดียวกัน
แต่ไม่มีใครเรียก มันแขก เผือกแขก หรือฟักทองแขก เหมือนกล้วยแขก
จริง ๆ ไม่ได้โม้
Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: nada-yoru Date: พ.ย. 09, 2009, 11:52 PM
 salam

แชมาทำให้อยากแล้วจากไป... mycry

เลยเอามาทำให้คนอื่นอยากเหมือนเรามั่ง...hehe




จำปะดะต้นนี้ลูกดกอย่าบอกใคร...:D





เมื่อจำปะดะโดนผ่าท้อง




ชอบกินทั้งเม็ดค่ะ...กินลูกเดียวแต่คำเดียวไม่เคยพอ...
(เม็ดจำปะดะจะมีสารต้านอนุมูลอิสระมั้ยน้า...กินมาตั้งแต่เด็กค่ะ...;D )


แฮ่... boulay:



Re: รู้ไหมว่าทำไม ? By: nada-yoru Date: พ.ย. 09, 2009, 11:58 PM
^
^

ขอเอาคำขวัญเดิมของสตูลที่อดีตเคยท่องหน้าห้องเรียนว่า..

...ตะรุเตา ไก่ดำ จำปะดะ คนใจพระ งามเลิศ เชิดสตูล...

 loveit: