Re: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4 By: vrallbrothers Date: พ.ย. 09, 2009, 08:00 PM
salam
แล้วมุสลิมแถบอเมริกา แถบยุโรป แถบญี่ปุ่น เกาหลีฯ อยู่ในแนวทางไหนหรอครับ? ใครบอกจะทราบบ้างเอ่ย...

Re: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4 By: ILHAM Date: พ.ย. 09, 2009, 08:55 PM
^
เขาก็คงจะอ้างตัวเองว่าซุนนัฮทุกคนแหละ เราอย่าไปตัดสินใครเขาเลย
Re: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4 By: vrallbrothers Date: พ.ย. 09, 2009, 08:59 PM
^
วันนี้ ILHAM มาแนวซอฟท์ๆ แฮะ... สงสัยกินอะไรผิดมาแหง ๆ

Re: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4 By: little cat Date: พ.ย. 09, 2009, 09:03 PM
ขึ้นๆลงๆ 
Re: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4 By: subson Date: พ.ย. 09, 2009, 10:44 PM
เขากล่าวว่า "การละหมาด 11 ร๊อกอัตนั้นนบีทำ และ 20 ร๊อกอัตนั้นนบีไม่ได้ทำ"
เขาพูดผิดตรงหนัย (ไม่เข้าใจ)
แต่เป็นที่น่ารังเกียจ ที่พวกเขากลับอ้าง ถึงท่านนบี โดยตรง
เป็นความคิดเห็นส่วนตัว
อันเนื่องมาจาก เขานั้นไม่เคยเจอนบี เขานั้นไม่เคยเจอซอฮาบะ ไม่เคยเจอตาบีอีน ไม่เคยเจอตาบีอิตตาอีน เหมือนอย่าง 4 มัซฮับใหญ่ด้วยซ้ำ จึงหมายถึงคำสอนของเขานั้นไม่ครบถ้วนตามการสืบสายแต่อย่างใด
แต่เรามีฮาดิษที่รายงานเป็นสายๆจนถึงท่านนบี ถ้าจะพูดยังงี้ ก็ต้องพูดต่อว่า อาชาอีรอฮปัจจุบัน ก็ไม่เคยเจอ อีหม่ามฮานาฟี มาลีกี ชาฟีอี ฮัมบาลี เช่นกัน แล้วจึงหมายถึงคำสอนของเขานั้นไม่ครบถ้วนตามการสืบสายแต่อย่างใด ด้วยหรือไม่
แต่สุนัตที่ครบถ้วนสมบูรณ์คือ 20 ร๊อกอัต และประเสริฐกว่า ละหมาด 8 ร๊อกอัต แน่นอน
(ฟันธง แต่ไม่ยอมใส่เงื่อนไข) ผมกลับบ้านนราผมก็ละหมาด20 สังเกตุเห็น เร็วเอามากๆ อ่านฟาตีเฮาะฮฺ ไม่ทัน สมาธิไม่มี ความสมบูรณ์ขาดหายไป ผมละหมาดที่ภูเก็ตละหมาด11 อ่านซุรอฮยาวๆ ได้สมาธิ บางคนที่รู้อาหรับเขาจะซึ้งถึงน้ำตาไหลก็ยังมี แล้วอย่างไดดีกว่ากัน
เช่น หากเราละหมาดในดุนยา เมื่อเราตายไปเราก็ละหมาดไม่ได้อีก
ตกลงว่าคนตายละหมาดในกูโบรไม่ได้แล้วใช่ป่ะ
ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง การที่เรากล่าวว่า ถ้าการขอดุอาให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้วนั้นทำไม่ได้ เราก็คงไม่มีการซอละวาตนบี ต่างๆ จนถึงนบีมูฮัมหมัด ซอลลัลลอฮฺอะลัยฮวะซัลลัม
เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะการซอลาวาตมีฮาดิษรองรับ มีผลบุญระบุดังฮาดิษที่ว่า"ซาลาวาตท่านนบี1ครั้ง อัลลอฮ..........เรา10....." (การขอดูอาของลูกๆ เห็นตรงกัน ไม่จำเป็นต้องมาถก)
หรือการที่เราทำบุญอุทิศส่วนกุศลนั้น จะไม่ถึงได้อย่างไรหากว่า การกระทำเหล่านั้นจะไม่ถึง เราก็ยังไม่จำเป็นต้อง กล่าวซอละวาตนบีก่อนขอดุอา อันเป็นเรื่องบทนำ ( มารยาท ) ในการขอดุอาด้วยส่วนนึง
เหมือนเดิม+แค่ความคิดเห็น
หากเราแก้ต่างว่า เพราะนั่นคือนบี เราก็จะขอตอบว่า นบีก็คือมนุษย์ และพระองค์นั้นทรงยุติธรรม ดังนั้นการที่เราดุอาให้กับท่านนบีได้นั้น ก็ย่อมหมายถึงการดุอาให้กับผู้อื่นนั้นก็ได้เช่นกัน
หากจะแย้งมั่วๆกับคำกล่าวนี้ ก้คงจะเป็นเรื่อง ฮาดิษที่ว่าท่านนบีปักกิ่งอินทผาลัม เพื่อให้คนในหลุมได้ทุเลาจากการลงโทษจนกว่าใบอิทผาลัมจะแห้ง เราจะกล่าวว่า "หากเราแก้ต่างว่า เพราะนั่นคือนบี เราก็จะขอตอบว่า นบีก็คือมนุษย์ และพระองค์นั้นทรงยุติธรรม" ได้ด้วยหรือไม่ โดยเราจะทำแบบนี้บ้างกับพี่น้องของเรา เพื่อให้พี่น้องเราได้ทุเลาจากการลงโทษ (รึปล่าว)
Re: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4 By: ILHAM Date: พ.ย. 09, 2009, 10:50 PM
กระทู้เก่าๆจะมีไว้ทำซากอะไรถ้าไม่ขุดมาอ่าน
Re: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4 By: wahaba Date: พ.ย. 10, 2009, 06:30 AM
ขุดขึ้นมาแฉ วะฮาบี กินแผ่นดิน

Re: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4 By: Goddut Date: พ.ย. 10, 2009, 11:15 AM
จะตอบที่คุณสับสน วิจารณ์มาให้ ว่า คุณสับสน เข้าใจคลาดเคลื่อนอย่างไร
ตามลำดับ ย่อหน้า
1. เขาเข้าใจผิด เพราะ ละหมาดวิเตร ของมัซฮับทั้ง 4 โดยทั่วไป คือ 11 ร๊อกอัต ไม่ใช่ แบ่งเป็น ละหมาด ตอรอเวียะ 8 กับ วิเตร 3
เพราะ คำกล่าวที่ว่า "ทั้งใน และนอกเดือนรอมฎอน" ก็หมายถึง ละหมาด 11 นั้นมีอยู่ทั้งปี ไม่ใช่เฉพาะในเดือนรอมฎอน
จึงกล่าวได้ว่า การละหมาดนั้น ( 11 ร๊อกอัต ) เป็นวิเตรทั้งหมด ไม่ใช่แบ่งเป็น ละหมาด 11 ร๊อกอัต เป็นวิเตรเดือนธรรมดา และ ละหมาด 8 ร๊อกอัตเป็นตอรอเวียะ และ วิเตร 3 ในรอมฎอน
ความเห็นของ สายวะฮะบี กล่าวว่า ละหมาด ตอรอเวียะ คือ ละหมาด ตะฮัดยุต ดังนั้น วิเตร และตะฮัดยุด ก็ไม่เหมือนกัน
แล้วจะบอกได้อย่างไรว่า ละหมาดเดือนอื่น วิเตร 11 ร๊อกอัต แล้ว รอมฎอน วิเตร 3 ร๊อกอัต ไม่มีมัซฮับไหนฟัตวาแบบนี้
อันเนื่องมาจาก มีฮะดิสรายงานว่า ละหมาดวิเตรนั้น ทำได้ 11 ร๊อกอัต แล้วจะกล่าวว่า ถ้ามีแค่ 11 ร๊อกอัตจริงแล้ว ตะฮัดยุต จะเอาไปไว้ไหน ?
2. ไม่ใช่ความคิดเห็นส่วนตัว แต่ถือเป็นที่น่ารังเกียจ ที่จะอ้างถึงนบี เพราะเขาไม่เคยอยู่ในยุคที่ท่านนบีรับรอง และแน่นอนว่า ผู้นำมัซฮับ ทั้ง 4 นั้น อยู่ในยุคที่ประเสริฐกว่า
3. ฮะดิสรายงานเป็นสายถึงท่านนบีนั้น ผ่านตาผู้นำมัซฮับ อย่างนั้นต้องผ่านมาแล้ว 1 ท่าน 1 มัซฮับ ไปดูได้ว่า พวกท่านนั้นยกหลักฐานฮะดิสบทเดียวกับสายวะฮะบี
แต่สายวะฮะบีนั้น ตีความให้แตกต่างกับพวกท่านทั้ง 4 มัซฮับ ดูแล้วเหมือนคิดว่าตัวเองนั้นมีความรู้กว่าผู้นำมัซฮับทั้ง 4 ก็ไม่ปาน ทั้งๆ ที่นบีกล่าวว่า ยุคที่ประเสริฐที่สุดนั้นอยู่ในช่วง 3 ยุค จนถึงตาบีอิตตาบีอีน เท่านั้น
จะบอกว่า 4 มัซฮับ ใหญ่ สอนไม่ครบถ้วน ขาดสายรายงานได้อย่างไร เพราะ ท่านทั้ง 4 นั้น อยู่ในยุคที่นบีรับรอง ไม่เคยเจอนบี ก็เคยเจอซอฮาบะ ไม่เคยเจอซอฮาบะ ก็เคยเจอตาบีอีน เพราะท่านเป็นตาบีอิตตาบีอีน แล้ว
ตามฮะดิสที่รายงานไว้ ว่าท่านนบีรับรองพวกเขาแล้ว แล้วสายวะฮะบี กล้าอ้างถึงนบีได้อย่างไร ทั้งๆ ที่นบีไม่ได้รับรอง ?
4. ละหมาด 20 ร๊อกอัต ตอรอเวียะดีกว่า 8 เพราะ ไม่มีหลักฐานการละหมาด 8 ร๊อกอัตเลย เพียงแต่สายวะฮะบี ใช้การกิยาส เทียบเคียง ว่า ละหมาด 8 นั้นมาจากการละหมาด วิเตร 3 ส่วนข้างหน้าเป็น ตอรอเวียะ
ดังนั้น เราจึงกล้ากล่าวว่า ละหมาด 20 ร๊อกอัตนั้นประเสริฐกว่า เพราะ อุมัรทำ(แม้จะดออีฟ) แต่ก็ได้ฮะดิสของ อิบนุอุมัรทำ ซึ่งเป็นซอเหียะ แน่นอนว่า 20 ร๊อกอัต และขอย้ำว่า 8 ร๊อกอัตนั้น ไม่มีฮะดิสบทใดกล่าวเช่นนั้น !!!
ส่วนคำว่าประเสริฐ นั้นหมายถึง จำนวนร๊อกอัต อย่าเอาการอ่านเป็นที่ตั้ง ถามว่าการอ่านเร็วดีไหม ตอบเลยว่า มักโระห์ อ่านให้ถูกต้องไม่เร็วมาก ไม่ช้ามาก อ่านแต่พอดี นั้นดีเลิศกว่า
ทีนี้ถ้าจะตัดสินกันตรงการกระทำ ก็เอานัฟซูมาตัดสิน แต่ถ้าจะตัดสินทางหลักฐาน ก็เอาปัญญามาตัดสิน
เกี่ยวอะไรกับ คนละหมาด 20 ร๊อกอัต แล้วอ่านเร็ว หลักการว่าไว้ 20 ร๊อกอัตดีกว่า ไม่ได้หมายความว่า ดีกว่าเพราะอ่านเร็ว แต่หมายถึงจำนวนของมัน
เช่นเดียวกัน หากละหมาด 8 มันอ่านเร็วเหมือนละหมาด 20 ร๊อกอัต ทีนี้ก็จะเห็นชัดขึ้นเอง
อย่าเอาคนละเรื่องมาตัดสิน และอย่าเอาการกระทำของมนุษย์ มาแก้ไขปัญหาศาสนา นอูซุบิลลา...
5. อ่านให้ดีๆ เราละหมาดในดุนยา เราก็ละหมาดไม่ได้อีก
บอกว่าในดุนยา แล้ว อลัมบัรซัก มันเป็นดุนยา หรืออย่างไร ? โลก มีทั้งหมด 4 โลก
คิดอะไรอยู่ เอาเรื่องในกุโบร มาเทียบกับ ดุนยา คนละเรื่องเลย
6. เรื่อง อุทิศส่วนกุศล มีนำเสนอแล้ว ให้กลับไปอ่าน ที่นำมาคร่าวๆ บอกแล้วว่า 1 ใน 100
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ คุณสับสน อย่าเพิ่งมาวิจารณ์ มันมีอัลกรุอาน มีฮะดิส เยอะกว่านี้ มาก แล้วจะเข้าใจเองว่ามันสนับสนุนเกื้อกูลกัน
ไม่ใช่แนวทางของวะฮะบี ที่กล้า ตราหน้าพี่น้องมุสลิมของตัวเอง ตกนรก ทั้งๆ ที่ใช้ ฮะดิสเพียงบทเดียว
หาดูเลยครับ การอุทิศส่วนกุศล ในเวปไซต์นี้แหละ
แล้วค่อยถามมาจะดีกว่า ส่วนผมจะรอ
อินชาอัลลอฮฺ
วัสลาม...
Re: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4 By: vrallbrothers Date: พ.ย. 10, 2009, 12:05 PM
salam
Goddut vs. สับสน

--> เพื่อความสมานฉันท์

Re: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4 By: subson Date: พ.ย. 10, 2009, 01:01 PM
ไม่ใช่ความคิดเห็นส่วนตัว แต่ถือเป็นที่น่ารังเกียจ ที่จะอ้างถึงนบี เพราะเขาไม่เคยอยู่ในยุคที่ท่านนบีรับรอง และแน่นอนว่า ผู้นำมัซฮับ ทั้ง 4 นั้น อยู่ในยุคที่ประเสริฐกว่า
ตัวบทมันถุก แต่การเอาตัวบทมายืนยันเรื่องนี้คงจะไม่สมควรเท่าไหร่ หากจะถามแบบกวนๆ อบูลาฮับ ก็อยู่ในยุคซอฮาบะฮฺ อยู่ในยุค300ปีที่ท่านนบีรับรอง ได้เห็นท่านนบี ในขณะที่อีหม่ามชาฟีอีไม่เคยเห็น แล้วจะอธิบายอย่างไร
ฮะดิสรายงานเป็นสายถึงท่านนบีนั้น ผ่านตาผู้นำมัซฮับ อย่างนั้นต้องผ่านมาแล้ว 1 ท่าน 1 มัซฮับ ไปดูได้ว่า พวกท่านนั้นยกหลักฐานฮะดิสบทเดียวกับสายวะฮะบี
แต่สายวะฮะบีนั้น ตีความให้แตกต่างกับพวกท่านทั้ง 4 มัซฮับ ดูแล้วเหมือนคิดว่าตัวเองนั้นมีความรู้กว่าผู้นำมัซฮับทั้ง 4 ก็ไม่ปาน ทั้งๆ ที่นบีกล่าวว่า ยุคที่ประเสริฐที่สุดนั้นอยู่ในช่วง 3 ยุค จนถึงตาบีอิตตาบีอีน เท่านั้น
อย่าว่าแต่วาฮาบีเลยอีหม่ามชาฟีอียังตีความฮาดิษ บทเดียวกันไม่เหมือนกับอีหม่ามฮานาฟี แล้วเราจะกล่าวว่า อีหม่ามชาฟีอีคิดว่าตัวเองนั้นมีความรู้กว่าอีหม่ามฮานาฟีด้วยกระนั้นหรือ อีหม่ามฮานาฟีทันกับตาบีอีน อีหม่ามชาฟีอีไม่ทัน แต่ไปทันกับตาบีอิตตาบีอีนอีกที มิใช่หรือ (ลืมๆไปบ้างแล้ว)
ดังนั้น เราจึงกล้ากล่าวว่า ละหมาด 20 ร๊อกอัตนั้นประเสริฐกว่า เพราะ อุมัรทำ(แม้จะดออีฟ) แต่ก็ได้ฮะดิสของ อิบนุอุมัรทำ ซึ่งเป็นซอเหียะ แน่นอนว่า 20 ร๊อกอัต และขอย้ำว่า 8 ร๊อกอัตนั้น ไม่มีฮะดิสบทใดกล่าวเช่นนั้น !!!
แสดงว่าฮาดิษที่รายงานโดยติรมีซีนั้นอ่อนในทรรศนะของคุณหรือปล่าว ในยุคแรกๆของท่านอุมัร ละหมาดกันเป็นกลุ่ม มี2อีหม่ามบ้าง 3บ้าง ไม่มีจำนวนรอ๊กอัตชัดเจน แต่ปัจจุบันไม่เคยเห็นมัสยิดหนัยทำอย่างนั้นเลย จะหมายความอย่างไรดี ก่อนหน้านั้นโมฆะ หรือ ประเสริฐน้อยกว่า
ไม่ใช่แนวทางของวะฮะบี ที่กล้า ตราหน้าพี่น้องมุสลิมของตัวเอง ตกนรก ทั้งๆ ที่ใช้ ฮะดิสเพียงบทเดียว
หากการตราหน้าเป็นชาวนรกต่างกันกับตราหน้าเป็นยิว แสดงว่ายิวได้เข้าสวรรค์(รึปล่าว ถามกวนๆ)
หาดูเลยครับ การอุทิศส่วนกุศล ในเวปไซต์นี้แหละ
แล้วค่อยถามมาจะดีกว่า ส่วนผมจะรอ
อาจาร al-azhary โต้กับอาจารปราโมท ศรีอุทัย คุนอ่านจบเมื่อไหร่ คุนได้คำตอบ หากอ่านไม่จบ คุ่นย่ำอยู่กับที่ในเรื่องนี้
Re: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4 By: al-firdaus~* Date: พ.ย. 10, 2009, 02:18 PM
ไม่ใช่ความคิดเห็นส่วนตัว แต่ถือเป็นที่น่ารังเกียจ ที่จะอ้างถึงนบี เพราะเขาไม่เคยอยู่ในยุคที่ท่านนบีรับรอง และแน่นอนว่า ผู้นำมัซฮับ ทั้ง 4 นั้น อยู่ในยุคที่ประเสริฐกว่า
ตัวบทมันถุก แต่การเอาตัวบทมายืนยันเรื่องนี้คงจะไม่สมควรเท่าไหร่ หากจะถามแบบกวนๆ อบูลาฮับ ก็อยู่ในยุคซอฮาบะฮฺ อยู่ในยุค300ปีที่ท่านนบีรับรอง ได้เห็นท่านนบี ในขณะที่อีหม่ามชาฟีอีไม่เคยเห็น แล้วจะอธิบายอย่างไร
ถามคุณสับสนว่า อบูละฮับ คือใคร ถึงจะอยู่ในยุคซอฮาบะฮ์ก็จริง แต่อย่าลืมว่า
ซอฮาบะฮฺ คือผู้ที่ได้พบกับท่านนบีพร้อมกับเชื่อมั่นศรัทธาและอีหม่านต่อท่านและเสียชีวิตในขณะที่อยู่ในอิสลาม
คุณสับสนมักง่ายในการเปรียบเทียบ ในการใช้ตรรกะ
ยังกล่าวหาอิหม่ามชาฟิอีย์โดยนัยอีกด้วย...
Re: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4 By: sufriyan Date: พ.ย. 11, 2009, 12:06 AM
salam
ไม่ต้องสงสัยหรอกครับ เค้าสับสนจริงๆ
วัสลาม
Re: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4 By: subson Date: พ.ย. 11, 2009, 01:04 AM
ยุคซอฮาบะฮฺ กับคำว่าศอฮาบะฮฺ มันคนละความหมายกัน อธิบายเพื่อ??? จะเอาอาไร ไม่เข่าใจ
มักง่ายในการเปรียบเทียบ ก็ยังร้ายแรงน้อยกว่ามักง่ายในการคิดค้นเรื่องศาสนา
ตกลงว่ายังคิดแทนในสิ่งที่ยังไม่ทันคิด เหมือนเดิม
Re: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4 By: wahaba Date: พ.ย. 11, 2009, 06:34 AM
ผมดูๆแล้วคุณสับสนก็ คล้ายแลนนะครับ

Re: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4 By: anti-bid'ah Date: พ.ย. 11, 2009, 07:01 AM
ผมดูๆแล้วคุณสับสนก็ คล้ายแลนนะครับ 
คำว่า แลน ที่ คุนวาหาบ้า เขียน ณ จุดนี้ มีความหมายถึงศัตว์ชนิดหนึ่งซึ่งเป็นคำที่ใช้ดุด่า ว่ากล่าว ถากถาง ดูหมิ่น ที่ คนใต้(ภาคอื่นผมมิทราบ)เข้าใจได้เลยว่ามันหมายถึงคำที่หยาบคายสุดๆ หากคุนว่าหาบ้า กระทำ หรือและมีเหตุจูงใจ เจตนาที่จะทำเช่นนั้น แสดงว่าคุนกำาลัง ด่าคนๆหนึ่งอย่างหยาบคาย ผ่านเวบนี้
ซึ่งมัน(การกระทำ)จะส่งผลในแง่ต่างต่ออิสลามเมื่อมีผู้พบเห็น
ดั่งเช่น ดร ยาสีร ฟาซากา นักวิชาการมุสลิมอเมริกา คนหนึ่งเคยกล่าวในทำนองที่ การกระทำของมุสลิม อาจสะท้อนภาพพจน์ให้คนอื่นเกลียดอิสลาม
หรือดั่ง อ อาลี เสือสมิง เคย เล่าประวัติของคนๆหนึ่งที่ไปฝรั่งเศสแล้วบอกว่าฝรั่งเศสเป็นประเทศมุสลิมที่ไม่ค่อยมีมุสลิม แต่อียิปต์เป็นประเทศมุสลิมที่ไม่ค่อยมีอิสลาม
ดังนั้นผมคิดว่าการพูดคุยไม่ว่าในกรณีใดพยายามให้มากทีจะต้องรักษามรรยาทไว้ อย่าให้เป็นเหมือนบางกลุ่มที่พูดกระโชกโฮกฮาก