เสวนา..."แก่นแท้ในการอ้างอิงหลักฐานตามหลักนิติศาตร์อิสลาม" By: al-firdaus~* Date: ต.ค. 15, 2011, 11:19 PM
ตามหลักฐานที่ท่านนำมานัุ้น.เป็นเพียงแค่แนวความคิด..ของนักวิชาการ..และไม่ได้หมายความว่าเป็นนักวิชาการส่วนมาก...เพราะ...หลักฐานจากนักวิชาการ...สิ่งที่สมควรอย่างยิ่ง..ที่จะต้องนำมาเป็นหลักฐานคือมาจาก..ฮาดิษและอัลกรุอ่านเพื่อนำมาสนัีบสนุนทัศนะของตัวเอง...
แต่สิ่งที่ท่านนำทัศนะหรือแนวความคิดของนักวิชาการ..บางท่านนัุ้้่้น..น่าจะเป็นเพียงแค่้.แนวความคิดของแต่ละคนหรือแต่ละทัศนะมากกว่า....เพราะ..การนำเสนอ..ด้านทัศนะที่ถูกต้องและที่ดีงามนั้น...น่าจะมีอายะห์กรุอ่านหรือว่าหลักฐานจากอัลฮาดิษควบคู่ไปด้วย....
เพราะ..นักวิชาการบางท่าน...มักพยายามที่จะแสวงหาเอา..หลักฐานต่างๆเข้ามาหาในสิ่งที่ตัวเองกระทำให้ได้...และไม่ยอมรับเอาการดำเนินตัวเองเข้าไปหาหลักการของศาสนา...
เพราะถ้าหลักการของศาสนาา..มาอยู่ในความคิดของมนุษย์แล้ว...ย่อมมีการเปลียนแปลงเกิดขึ้นแน่นอน..ไม่มากก็น้อย..
ดังนัุ้้น..การจะยึดเอาหลักฐานหรือทัศนะหนึ่งทัศนะใดๆนั้น...น่าจะมีการนำเอาหลักการทางด้าน...กรุอ่านและอัลฮาดิษ..มาสนับสนุนด้วย..เพื่อ...ไม่ให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน....เพราะความคิดของมนุษย์ย่อมเปลียนแปลงไปตามกาลสมัย..
แต่อัลกรุอ่านและอัลฮาดิษของท่านรอซูล(ซ.ล.)ไำม่ไำด้เปลียนแปลงตามกาลเวลา.....
ตามแนวทางของนักวิชาการที่ถูกต้อง..ต้องมีการนำเสนอทัศนะต่างๆ..และ..ต้องชี้ชัดว่าทัศนะไหนเป็นทัศนะที่ถูกยอมรับ..
เพราะถ้าจะว่ากัน..ทัศนะเป็นเพียงแค่แนวความคิด...เพื่อมาทำให้เรากระจ่าง..ในหลักการคำสอน..ของอิสลาม..แต่ถ้าทัศนะหนึ่งทัศนะใดๆ..หรือหลายๆทัศนะ...ไม่มีสนับสนุนจากอัลกรุอ่านหรือ.ฮาดิษของท่านรอซูล(ซ.ล.) เห็นควรว่า..เราจะยึดมั่นหรือยึดถือเอ าตามทัศนะนั้นๆ..ยังไม่ได้เลย...
อยากถามท่านผู้รู้...ว่า..จากหลักฐานของท่านอีัหม่ามซาฟีอี..กับหลักฐานที่มาจาก..ท่านรอซูล.และบักทึกในศอเฮียะห์มุสลิม หลักฐานไหนที่เราควรจะยึด..ถือตามและให้ความน่าเชื่อถือมากกว่ากันครับ..
ตรงนี้อยากถามคุณ anakin กลับนะคะว่า...
กฎการวิฉัยของอุลามาอฺ มีอะไรบ้าง? ทำตามอำเพอใจได้มั้ย ?
Re: เสวนา...แก่นแท้ในการอ้างอิงหลักฐาน By: al-azhary Date: ต.ค. 16, 2011, 10:43 AM
อยากถามท่านผู้รู้...ว่า..จากหลักฐานของท่านอีัหม่ามซาฟีอี..กับหลักฐานที่มาจาก..ท่านรอซูล.และบักทึกในศอเฮียะห์มุสลิม หลักฐานไหนที่เราควรจะยึด..ถือตามและให้ความน่าเชื่อถือมากกว่ากันครับ..
เป็นคำถามที่อธรรมต่ออิหม่ามอัชชาฟิอีย์(และอิหม่ามอะหฺหมัด)มาก โดยทำให้คิดไปว่า อิหม่ามชาฟิอีย์(และอิหม่ามอะหฺมัด)นั้นขัดกับนะบีย์และขัดกับฮะดีษศอฮิห์มุสลิม ทั้งที่จริงๆ แล้วมิใช่เป็นเช่นนั้นเลย ดังนั้นคำถามนี้ถือว่าไม่ถูกต้องครับเนื่องจากแยกแยะประเด็นไม่ถูกต้อง
ได้กล่าวระบุไว้ใน อัลฟะตาวา อัลฮินดียะฮ์ ว่า “เมื่อมัยยิดถูกฝังเรียบร้อยแล้ว สุนัตให้บรรดามุสลิมทำการนั่งที่กุโบรสักช่วงเวลาหนึ่งหลังจากฝังเสร็จ ด้วยขนาดเวลาที่อูฐถูกเชือดและเนื้อของมันได้แจกจ่ายไป โดยให้พวกเขาทำการอ่านอัลกุรอานและขอดุอาอ์ให้แก่มัยยิด...”ได้ยึดเอาทัศนะคำกล่าวของเขา" ดู เล่ม 1/166
ดังนั้นหลักฐานจากฮะดีษของนะบีย์ที่บันทึกในศอฮิห์มุสลิมให้มุสลิมนั่งที่กุบโรสักช่วงเวลาหนึ่ง(ประมาณหนึ่งชั่วโมง)นั้น ทัศนะที่อ่านอัลกุรอานที่กุบูรให้แก่มัยยิดได้นั้น เขาก็ทำเช่นนั้นกันอยู่แล้ว ไม่ได้ขัดกับซุนนะฮ์นะบีย์เลย
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า “ให้บรรดามุสลิมทำการนั่งที่กุบูรสักช่วงเวลาหนึ่งหลังจากฝังเสร็จตามขนาดเวลาที่อูฐถูกเชือดและเนื้อของมันได้แจกจ่ายไป” ซึ่งดังกล่าวใช้เวลาเป็นชั่วโมง เพราะไหนจะต้องเชือดอูฐตัวใหญ่ ต้องแล่เนื้อให้หมดทั้งตัว และแจกจ่าย กว่าจะเสร็จเป็นชั่วโมง แต่บางที บางกลุ่มฝังเสร็จก็รีบออกไปเลย ซึ่งไม่ตรงกับตัวบทในฮะดีษมุสลิม
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เมื่อนั่งอยู่ที่กุบูรในช่วงเวลาเชือดอูฐเสร็จ แล่เนื้อ แล้วนำไปแจกจ่ายนั้น จะนั่งเฉยๆ หรือว่านั่งอ่านอัลกุรอานแล้วขอดุอาให้มัยยิด แต่การอ่านอัลกุรอานแล้วดุอาให้มัยยิด ย่อมดีกว่า อยู่เฉยๆ แค่สิบนาทีแล้วรีบไป เพราะไม่ตรงกับตัวบทบันทึกของมุสลิม
Re: เสวนา...แก่นแท้ในการอ้างอิงหลักฐาน By: anakin Date: ต.ค. 16, 2011, 04:18 PM
ตามหลักฐานที่ท่านนำมานัุ้น.เป็นเพียงแค่แนวความคิด..ของนักวิชาการ..และไม่ได้หมายความว่าเป็นนักวิชาการส่วนมาก...เพราะ...หลักฐานจากนักวิชาการ...สิ่งที่สมควรอย่างยิ่ง..ที่จะต้องนำมาเป็นหลักฐานคือมาจาก..ฮาดิษและอัลกรุอ่านเพื่อนำมาสนัีบสนุนทัศนะของตัวเอง...
แต่สิ่งที่ท่านนำทัศนะหรือแนวความคิดของนักวิชาการ..บางท่านนัุ้้่้น..น่าจะเป็นเพียงแค่้.แนวความคิดของแต่ละคนหรือแต่ละทัศนะมากกว่า....เพราะ..การนำเสนอ..ด้านทัศนะที่ถูกต้องและที่ดีงามนั้น...น่าจะมีอายะห์กรุอ่านหรือว่าหลักฐานจากอัลฮาดิษควบคู่ไปด้วย....
เพราะ..นักวิชาการบางท่าน...มักพยายามที่จะแสวงหาเอา..หลักฐานต่างๆเข้ามาหาในสิ่งที่ตัวเองกระทำให้ได้...และไม่ยอมรับเอาการดำเนินตัวเองเข้าไปหาหลักการของศาสนา...
เพราะถ้าหลักการของศาสนาา..มาอยู่ในความคิดของมนุษย์แล้ว...ย่อมมีการเปลียนแปลงเกิดขึ้นแน่นอน..ไม่มากก็น้อย..
ดังนัุ้้น..การจะยึดเอาหลักฐานหรือทัศนะหนึ่งทัศนะใดๆนั้น...น่าจะมีการนำเอาหลักการทางด้าน...กรุอ่านและอัลฮาดิษ..มาสนับสนุนด้วย..เพื่อ...ไม่ให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน....เพราะความคิดของมนุษย์ย่อมเปลียนแปลงไปตามกาลสมัย..
แต่อัลกรุอ่านและอัลฮาดิษของท่านรอซูล(ซ.ล.)ไำม่ไำด้เปลียนแปลงตามกาลเวลา.....
ตามแนวทางของนักวิชาการที่ถูกต้อง..ต้องมีการนำเสนอทัศนะต่างๆ..และ..ต้องชี้ชัดว่าทัศนะไหนเป็นทัศนะที่ถูกยอมรับ..
เพราะถ้าจะว่ากัน..ทัศนะเป็นเพียงแค่แนวความคิด...เพื่อมาทำให้เรากระจ่าง..ในหลักการคำสอน..ของอิสลาม..แต่ถ้าทัศนะหนึ่งทัศนะใดๆ..หรือหลายๆทัศนะ...ไม่มีสนับสนุนจากอัลกรุอ่านหรือ.ฮาดิษของท่านรอซูล(ซ.ล.) เห็นควรว่า..เราจะยึดมั่นหรือยึดถือเอ าตามทัศนะนั้นๆ..ยังไม่ได้เลย...
อยากถามท่านผู้รู้...ว่า..จากหลักฐานของท่านอีัหม่ามซาฟีอี..กับหลักฐานที่มาจาก..ท่านรอซูล.และบักทึกในศอเฮียะห์มุสลิม หลักฐานไหนที่เราควรจะยึด..ถือตามและให้ความน่าเชื่อถือมากกว่ากันครับ..
ตรงนี้อยากถามคุณ anakin กลับนะคะว่า...
กฎการวิฉัยของอุลามาอฺ มีอะไรบ้าง? ทำตามอำเพอใจได้มั้ย ?
ขอบคุณในการสนทนาครับ...ก่อนที่จะถามคำถามเรื่อง...กฏของการวินิจฉัย..ผมขอใคร่ควร..ถาม..ท่าน.ก่อนว่า...مصادرالاسلام คืออะไร....เพราะ..ก่อนที่จะคุยเรื่อง..วินิจฉัยของอุลมาฮ...เรามาทำความเข้าใจเ้กีั่ยวกับ..เรื่องแก่นแท้ของอิสลามในการอ้างหลักฐานกันก่อนดีไหมครับ
Re: เสวนา...แก่นแท้ในการอ้างอิงหลักฐาน By: anakin Date: ต.ค. 16, 2011, 04:42 PM
อยากถามท่านผู้รู้...ว่า..จากหลักฐานของท่านอีัหม่ามซาฟีอี..กับหลักฐานที่มาจาก..ท่านรอซูล.และบักทึกในศอเฮียะห์มุสลิม หลักฐานไหนที่เราควรจะยึด..ถือตามและให้ความน่าเชื่อถือมากกว่ากันครับ..
เป็นคำถามที่อธรรมต่ออิหม่ามอัชชาฟิอีย์(และอิหม่ามอะหฺหมัด)มาก โดยทำให้คิดไปว่า อิหม่ามชาฟิอีย์(และอิหม่ามอะหฺมัด)นั้นขัดกับนะบีย์และขัดกับฮะดีษศอฮิห์มุสลิม ทั้งที่จริงๆ แล้วมิใช่เป็นเช่นนั้นเลย ดังนั้นคำถามนี้ถือว่าไม่ถูกต้องครับเนื่องจากแยกแยะประเด็นไม่ถูกต้อง
ได้กล่าวระบุไว้ใน อัลฟะตาวา อัลฮินดียะฮ์ ว่า “เมื่อมัยยิดถูกฝังเรียบร้อยแล้ว สุนัตให้บรรดามุสลิมทำการนั่งที่กุโบรสักช่วงเวลาหนึ่งหลังจากฝังเสร็จ ด้วยขนาดเวลาที่อูฐถูกเชือดและเนื้อของมันได้แจกจ่ายไป โดยให้พวกเขาทำการอ่านอัลกุรอานและขอดุอาอ์ให้แก่มัยยิด...”ได้ยึดเอาทัศนะคำกล่าวของเขา" ดู เล่ม 1/166
ดังนั้นหลักฐานจากฮะดีษของนะบีย์ที่บันทึกในศอฮิห์มุสลิมให้มุสลิมนั่งที่กุบโรสักช่วงเวลาหนึ่ง(ประมาณหนึ่งชั่วโมง)นั้น ทัศนะที่อ่านอัลกุรอานที่กุบูรให้แก่มัยยิดได้นั้น เขาก็ทำเช่นนั้นกันอยู่แล้ว ไม่ได้ขัดกับซุนนะฮ์นะบีย์เลย
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า “ให้บรรดามุสลิมทำการนั่งที่กุบูรสักช่วงเวลาหนึ่งหลังจากฝังเสร็จตามขนาดเวลาที่อูฐถูกเชือดและเนื้อของมันได้แจกจ่ายไป” ซึ่งดังกล่าวใช้เวลาเป็นชั่วโมง เพราะไหนจะต้องเชือดอูฐตัวใหญ่ ต้องแล่เนื้อให้หมดทั้งตัว และแจกจ่าย กว่าจะเสร็จเป็นชั่วโมง แต่บางที บางกลุ่มฝังเสร็จก็รีบออกไปเลย ซึ่งไม่ตรงกับตัวบทในฮะดีษมุสลิม
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เมื่อนั่งอยู่ที่กุบูรในช่วงเวลาเชือดอูฐเสร็จ แล่เนื้อ แล้วนำไปแจกจ่ายนั้น จะนั่งเฉยๆ หรือว่านั่งอ่านอัลกุรอานแล้วขอดุอาให้มัยยิด แต่การอ่านอัลกุรอานแล้วดุอาให้มัยยิด ย่อมดีกว่า อยู่เฉยๆ แค่สิบนาทีแล้วรีบไป เพราะไม่ตรงกับตัวบทบันทึกของมุสลิม
...............
ลองขึ้นไปอ่านไหมนะครับว่า..ผมไม่ได้มีเจตนากล่าวหาว่า..การยึดถือในทัศนะนักวิชาการนั้นไม่ได้...แต่..ในทางกลับกัน.ผมกลับส่งเสริมให้ยึดถือตามทัศนะ..อุลมาหรือมัซฮับต่างๆมากกว่านะครับ..ถ้ามัซฮับต่างๆเหล่านั้น..มีหลักฐานการสนับสนุนจากอัลกรุอ่านและอัลฮาดิีษ...
เท่าที่ผม..อ่านความคิดของท่านดูนะครับ...คืออย่างนี้..บางสิ่ง..ท่านอย่าเพิ่งเอาความคิดของตัวเองเข้าไปตัดสินหรือว่า.ตีความ...ในสิ่งที่เราจะเอา..ถามว่าการอ่านกรุอ่านดีไหม...ไม่มีมุสลิมหรือผู้ศรัทธาคนไหนหรอกครับที่บอกว่าการอ่านกรุอ่านไม่ดี..จริงไ-หมครับ..แต่..ว่าสถานที่..ที่จะอ่านนั้น..มันมีจำกัดของมัน..เช่น..การอ่านกรุอ่านในห้องน้ำ..ไม่สามารถอ่านได้ใช่ไหมครับ...แล้วอีำกอย่าง...คือ..ที่ท่านรอซูลส่งเสริมแบบนี้.เพื่อที่ให้มุสลิมนั้นได้ยืนขอดุอาร์ให้กับผุ้ที่ล่วงลับไปแล้ว..
ไม่ได้คุณเอามาทำการเปรียบเทียบ..ให้ทำอย่างอื่นในสิงที่ท่านรอซูลไม่ได้กระทำมาก่อน....เพราะ..ถ้าแบบอย่างหรือตัวบทมี..เราจะต้องทิ้งแนวความคิดของเรา..และใ่้ห้เรานั้นยึดถือตามตัวบท..ถ้าเราตีความกันตามความคิด...ผมว่า..ไม่จบหรอกครับ..เพราะความคิดของทุกคนนั้น..ย่อมแตกต่างและแตกแยก...แต่เนื้อหาตัวบทมีบ่งบอกไว้ถึงการกระทำของท่านรอซูล..อย่างชัดเจน..เราคงไม่อาจหาญไปตีความสิ่งอื่นนอกเหนือจาก..สิ่งที่ท่านรอซูลทำ..
และในสังคมทุกวันนี้...ได้นำเอาอัลกรุอ่านแล้ว.ประกอบขึ้นเป็นพิธีกรรมทางศาสนา...ในรูปแบบของอาจารย์เชิงพานิชย์ผมสนับสนุนให้มีการอ่านกรุอ่านถ้าหากว่าเป็นทาญาติของผู้เสียชีวิต..หลังละหมาดหรือก่อนละหมาด.หรือในสถานที่ที่อนุญาติให้อ่านกรุอ่านได้...โดยไม่มีการคลุมเคลือในสถานที่นั้นๆ..และพิธีกรรมต่างๆที่เกิดขึ้น..ถึงแม้ว่าจะมีตัวบทอัลกรุอ่านในพิธีกรรมนั้นๆ...ผมว่าไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง.เพราะเป็นสิงที่.คลุมเคลือ...ไม่สอดคล้องกับการกระทำของท่านรอซูล(ซ.ล)
สิ่งที่ผมขอสนับสนุนอย่างแท้จริงคือให้ลูกนั้น..หมั่นขอดุอาร์ให้พ่อกัีบแม่้..และหมั่นอ่านกรุอ่านเพื่อผลกุศล..ในการอ่านนั้นจะส่งผลถึงบิดาหรือมารดาที่ล่วงลับไปแล้ว..ผมเคยถามคำถามหนึ่ง..กับ..ผู้สูงอายุคนหนึ่ง..ในการทำ..สิ่งที่ยังไม่มีหลักฐานในการกระทำนั้นๆอย่างชัดแจ้ง...เขาตอบกลับมาว่า..ทำแล้วมันเกิดความสบายใจ..ทำแล้ว..รู้สึกสบายใจ....ถ้าคนบางคนหรือว่าบางกลุ่้ม..คิดเพียงแค่ว่า..ทำในสิ่งที่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด..มาเป็นสิ่งยืนยัน.ทำให้พวกเขาสบายใจ..ถ้าอย่างนั้น..ศาสนาอิสลาม..เป็นศาสนาที่พิจรณาตามอารมณ์อย่างนัุ้้นหรือ....

..ทั้งที่หลักการและหลักคำสอนของศาสนาอิสลามชัดแจ้ง..ตลอดกาลสมัย.....
Re: เสวนา...แก่นแท้ในการอ้างอิงหลักฐาน By: sufriyan Date: ต.ค. 16, 2011, 06:38 PM
ลองขึ้นไปอ่านไหมนะครับว่า..ผมไม่ได้มีเจตนากล่าวหาว่า..การยึดถือในทัศนะนักวิชาการนั้นไม่ได้...แต่..ในทางกลับกัน.ผมกลับส่งเสริมให้ยึดถือตามทัศนะ..อุลมาหรือมัซฮับต่างๆมากกว่านะครับ..ถ้ามัซฮับต่างๆเหล่านั้น..มีหลักฐานการสนับสนุนจากอัลกรุอ่านและอัลฮาดิีษ...
ขอหลักฐาน ว่าเรื่องไหน ที่ทัศนะ..อุลามาหรือมัซฮับต่างๆ ไม่มีหลักฐานการสนับสนุนจากอัลกรุอ่านและอัลฮาดิีษ ด้วยครับ ขอเป็นเรื่องๆมาถกกันดีกว่าครับ
ขอเชิญประเด็นแรกเลยครับ
Re: เสวนา...แก่นแท้ในการอ้างอิงหลักฐาน By: anakin Date: ต.ค. 16, 2011, 07:48 PM
[/color]
ลองขึ้นไปอ่านไหมนะครับว่า..ผมไม่ได้มีเจตนากล่าวหาว่า..การยึดถือในทัศนะนักวิชาการนั้นไม่ได้...แต่..ในทางกลับกัน.ผมกลับส่งเสริมให้ยึดถือตามทัศนะ..อุลมาหรือมัซฮับต่างๆมากกว่านะครับ..ถ้ามัซฮับต่างๆเหล่านั้น..มีหลักฐานการสนับสนุนจากอัลกรุอ่านและอัลฮาดิีษ...
ขอหลักฐาน ว่าเรื่องไหน ที่ทัศนะ..อุลามาหรือมัซฮับต่างๆ ไม่มีหลักฐานการสนับสนุนจากอัลกรุอ่านและอัลฮาดิีษ ด้วยครับ ขอเป็นเรื่องๆมาถกกันดีกว่าครับ
ขอเชิญประเด็นแรกเลยครับ
คุณกำลังเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ..ผมพูดว่าหากว่าหลักฐานไหนที่อุลมาส่วนใหญ่นำเอาหลักฐานจากกรุอ่านและอัลฮาดิษมาสนับสนุน..ผมพร้อมที่จะรับฟังและปฏิบัติตามโดยไม่มีเงื่อนไข...
ไม่ว่าคุณหรือใครก็ตามที..จะพร้อมจะนำเสนอหลัำกทางเชิงวิชาการ..ที่ไม่ขัดต่อแนวทางปฏิบัติของท่านรอซูล.(ซ.ล) ผมก็พร้อมจะรับฟัง..แต่ในทางกลับกัน..หากว่าแนวทางใดที่ยังไม่มีการสนับสนุน..จากกรุอ่านและฮาดิษอย่างชัดเจน..เกรงว่าการนำเสนอ..ในที่แห่งนี้...มันคงไม่เหมาะ..เพราะว่า.ถ้าจะคุยเรื่องปัญหาคีลาฟียะห์..ไม่มีจบหรอกครับ....
เพียงแต่ผมอยากให้พี่น้อง..หลายๆท่านได้ทราบว่า..
เราจะเชื่อนบี..หรือเราจะภัคดีกับอาจารย์...ตรงนี้มากกว่า..เพราะ..อาจารย์เชิงพานิชย์หลายๆท่าน..มักนำเสนอ..ในสิ่งที่..ปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง..งมากกว่าส่วนรวม..ในสังคมปัจจุบัน..
Re: เสวนา...แก่นแท้ในการอ้างอิงหลักฐาน By: sufriyan Date: ต.ค. 16, 2011, 07:59 PM

พอดีผมยังไม่พบว่ามีครับ เพราะเรียนมาน้อย และ จากประโยคข้างต้น ความหมายของมันคือมี เลยอยากได้ความรู้เพิ่มเติมตรงนี้ครับ
ส่วนประโยค
พียงแต่ผมอยากให้พี่น้อง..หลายๆท่านได้ทราบว่า..เราจะเชื่อนบี..หรือเราจะภัคดีกับอาจารย์...ตรงนี้มากกว่า..เพราะ..อาจารย์เชิงพานิชย์หลายๆท่าน..มักนำเสนอ..ในสิ่งที่..ปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง..งมากกว่าส่วนรวม..ในสังคมปัจจุบัน..
ผมว่ามองคนระดับอาจารย์ในแง่ร้ายจังเลยนะครับ คิดดีหน่อยครับ สบายใจ
วัสลาม
Re: เสวนา...แก่นแท้ในการอ้างอิงหลักฐาน By: sufriyan Date: ต.ค. 16, 2011, 08:03 PM

.แต่..ในทางกลับกัน.ผมกลับส่งเสริมให้ยึดถือตามทัศนะ..อุลมาหรือมัซฮับต่างๆมากกว่านะครับ..ถ้ามัซฮับต่างๆเหล่านั้น..มีหลักฐานการสนับสนุนจากอัลกรุอ่านและอัลฮาดิีษ...
อีกอย่างครับ ถ้าไม่สะดวกนำเสนอเรื่องดังกล่าวกรุณาลบข้อความกล่าวหานั้นด้วยครับ เพราะไม่อย่างนั้น
.เกรงว่าการนำเสนอ..ในที่แห่งนี้...มันคงไม่เหมาะ..เพราะว่า.ถ้าจะคุยเรื่องปัญหาคีลาฟียะห์..ไม่มีจบหรอกครับ..
หรือเอาเป็นว่า
ทัศนะ..อุลามาหรือมัซฮับต่างๆ ที่ไม่มีหลักฐานที่มาจากอัลกรุอ่านและอัลฮาดิีษขอความรู้ก็ได้ครับ ไม่ต้องถกกับผม เพราะผมไม่ใช่ผู้รู้
วัสลาม
Re: เสวนา...แก่นแท้ในการอ้างอิงหลักฐาน By: anakin Date: ต.ค. 16, 2011, 08:36 PM

พอดีผมยังไม่พบว่ามีครับ เพราะเรียนมาน้อย และ จากประโยคข้างต้น ความหมายของมันคือมี เลยอยากได้ความรู้เพิ่มเติมตรงนี้ครับ
ส่วนประโยค
พียงแต่ผมอยากให้พี่น้อง..หลายๆท่านได้ทราบว่า..เราจะเชื่อนบี..หรือเราจะภัคดีกับอาจารย์...ตรงนี้มากกว่า..เพราะ..อาจารย์เชิงพานิชย์หลายๆท่าน..มักนำเสนอ..ในสิ่งที่..ปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง..งมากกว่าส่วนรวม..ในสังคมปัจจุบัน..
ผมว่ามองคนระดับอาจารย์ในแง่ร้ายจังเลยนะครับ คิดดีหน่อยครับ สบายใจ
วัสลาม
ตลอดเวลาที่ผ่านมา..ผมเองก็ไม่ใช่เป็นผู้ืที่รู้มาก..แต่อยากแสวงหาแนวทางแห่งความรู้นะครับ...คุณบอกว่าผมมองอาจารย์ในแง่ร้าย...เปล่าเลยครับ.ผมกลับยกย่องอาจารย์เสียมากกว่า..ที่อาจารย์บางท่าน..ได้สวมวิญญาณของผุ้นำอิสลามที่แท้จริง...แต่ในทางกลับกัน...อาจารย์บางคน..มักเอาเรื่องราวศาสนามาหากิน..หรือ..นักวิชาการเชิงพานิยช์..(ขอโทษผมชอบใช้คำนี้ครับ..ผมว่ามันโดนดีนะครับ@^_^@ ผมไม่เคยมองอาจารย์บางคนในแง่ร้ายหรอกครับ แต่อาจารย์บางคนมักทำเรื่องราวร้าย..ภายใต้..หลักการอิสลาม...หรืออีกประโยชน์หนึ่งคือ...ปีศาจในคราบนักบุญนะละครับ....แรงวะ....@^_^@
Re: เสวนา...แก่นแท้ในการอ้างอิงหลักฐาน By: hiddenmin Date: ต.ค. 16, 2011, 08:58 PM
ตามที่ท่าน al-kudawah นำเสนอมาก็มีการอ้างอิงตำราอยู่แล้ว ถ้าอยากรู้หลักฐานก็ลองไปเปิดตำราเหล่านั้นดู
จะได้รู้ไปเลยว่าคนที่ได้ชื่อว่าทายาทของอัมบิยาเหล่านั้น...
ถ้าไม่สามารถก็...
ทราบซึ้งพอ
Re: เสวนา...แก่นแท้ในการอ้างอิงหลักฐาน By: al-firdaus~* Date: ต.ค. 16, 2011, 09:15 PM
ตรงนี้อยากถามคุณ anakin กลับนะคะว่า...
กฎการวิฉัยของอุลามาอฺ มีอะไรบ้าง? ทำตามอำเพอใจได้มั้ย ?
ขอบคุณในการสนทนาครับ...ก่อนที่จะถามคำถามเรื่อง...กฏของการวินิจฉัย..ผมขอใคร่ควร..ถาม..ท่าน.ก่อนว่า...مصادرالاسلام คืออะไร....เพราะ..ก่อนที่จะคุยเรื่อง..วินิจฉัยของอุลมาฮ...เรามาทำความเข้าใจเ้กีั่ยวกับ..เรื่องแก่นแท้ของอิสลามในการอ้างหลักฐานกันก่อนดีไหมครับ
โอเคค่ะ...ไม่ตอบคำถามก็ไม่เป็นไร
เอาเป็นว่า คุณ anakin ช่วยอธิบายหัวข้อ
แก่นแท้ของอิสลามในการอ้างหลักฐาน ให้พอเข้าใจหน่อยได้มั้ยค๊ะ
เด๋วตั้งกระทู้ให้ใหม่ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณ anakin สะดวก
Re: เสวนา...แก่นแท้ในการอ้างอิงหลักฐาน By: anakin Date: ต.ค. 16, 2011, 10:08 PM
والسنة هي المصدر الثاني من مصادر الإسلام ، وهي جميع ما روي عن النبي صلى الله عليه وسلم بسند صحيح متصل إلىالرسول - من قول أو فعل أو تقرير أووصف
ซุนนะห์คือแก่นแท้(ที่มา)ที่สองจากแก่นแท้ต่างๆ(ที่มา)ของอิสลามของอิสลาม กล่าวคือ.ทั้งหมดจากสิ่งที่ถูกรายงานจากท่านนบี(ซ.ล)ด้วยกับสายรายงานที่ถูกต้อง(สมบูรณ์)เชือมโยงไปยังรอซูล(ซ.ล.) จากคำพูดหรือ การกระทำหรือ การยอมรับ..หรือคุณลักษณะของท่านรอซูล(ซ.ล)
Re: เสวนา...แก่นแท้ในการอ้างอิงหลักฐาน By: muqorrabeen Date: ต.ค. 16, 2011, 10:22 PM
والسنة هي المصدر الثاني من مصادر الإسلام ، وهي جميع ما روي عن النبي صلى الله عليه وسلم بسند صحيح متصل إلىالرسول - من قول أو فعل أو تقرير أووصف
ซุนนะห์คือแก่นแท้(ที่มา)ที่สองจากแก่นแท้ต่างๆ(ที่มา)ของอิสลามของอิสลาม กล่าวคือ.ทั้งหมดจากสิ่งที่ถูกรายงานจากท่านนบี(ซ.ล)ด้วยกับสายรายงานที่ถูกต้อง(สมบูรณ์)เชือมโยงไปยังรอซูล(ซ.ล.) จากคำพูดหรือ การกระทำหรือ การยอมรับ..หรือคุณลักษณะของท่านรอซูล(ซ.ล)
ปราชญ์นักจำฮะดีษท่านใดให้คำนิยามของคำว่า ซุนนะฮ์นี้ โปรดอ้างอิงด้วย
Re: เสวนา...แก่นแท้ในการอ้างอิงหลักฐาน By: anakin Date: ต.ค. 16, 2011, 10:49 PM
ปราชญ์นักจำฮะดีษท่านใดให้คำนิยามของคำว่า ซุนนะฮ์นี้ โปรดอ้างอิงด้วย
....................
ใจเย็นๆครับท่านร่มๆนึดหนึ่งครับป๋ม...@^_^@ อ่านให้เข้าใจก่อนครับ...เขากำลังถามถึงเรื่องที่มาหรือแก่นแท้..ของการอ้างหลักฐานของอิสลาม..ครับ..ไม่ใช่คำนิยามว่าซุนนะห์ครับป๋ม....
ค่อยๆอ่านใจร่มๆครับ...ถ้าจะถามถึงคำนิยาม..ของคำว่าซุนนะห์ที่แท้จริง.ตามหลัก.การของศาสนาคือ..
السنةكل مااضيف الئ النبي من قول اوفعل اوتقرير او صفة
ซุนนะห์คือ..ทุกๆสิ่งที่ถูกพาดพึงไปยังท่านนบี(ซ.ล)จากคำพูด หรือการกระทำ หรือการยอมรับ หรือคุณลักษณะของท่านนบี(ซ.ล)
Re: เสวนา...แก่นแท้ในการอ้างอิงหลักฐาน By: muqorrabeen Date: ต.ค. 16, 2011, 11:01 PM
والسنة هي المصدر الثاني من مصادر الإسلام ، وهي جميع ما روي عن النبي صلى الله عليه وسلم بسند صحيح متصل إلىالرسول - من قول أو فعل أو تقرير أووصف
ซุนนะห์คือแก่นแท้(ที่มา)ที่สองจากแก่นแท้ต่างๆ(ที่มา)ของอิสลามของอิสลาม กล่าวคือ.ทั้งหมดจากสิ่งที่ถูกรายงานจากท่านนบี(ซ.ล)ด้วยกับสายรายงานที่ถูกต้อง(สมบูรณ์)เชือมโยงไปยังรอซูล(ซ.ล.) จากคำพูดหรือ การกระทำหรือ การยอมรับ..หรือคุณลักษณะของท่านรอซูล(ซ.ล)
คือที่ผมถามว่า คำนิยามนี้เอามาจากใหน เพราะมีำคำว่า "ด้วยสายสืบที่ถูกต้อง(ซอฮิหฺ)..." แสดงว่า คำนิยามที่ไปก็อบมานั้น บ่งชี้ว่า สายสืบที่หะซันไม่ใช่ซุนนะฮ์น่ะซิ แล้วมาจำกัดคำนิยามว่า ต้อง ด้วยสายสืบที่ซอฮิหฺได้อย่างไร