ท่านร่อซูลลุลลอฮ์อยู่ในหมู่พวกท่านเสมอ

เดือนร่อบีอุลเอาวัลในยุคก่อนอิสลามนั้น  เป็นเดือนที่ไม่มีความพิเศษใดๆ  แต่การที่อัลเลาะฮ์ตะอาลาให้ท่านนบีมุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ประสูติในวันจันทร์เดือนร่อบิอุลเอาวัล เดือนและวันดังกล่าวนี้จึงมีความโดดเด่นขึ้นมา

 ดังนั้นท่านนะบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  จึงรำลึกวันเกิดของท่านในทุกสัปดาห์ของวันจันทร์ด้วยการถือศีลอด

ดังที่ท่านอะบีก่อตาดะฮ์ อัลอันซอรีย์  ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ   ได้รายงานว่า
وَسُئِلَ عَنْ صَوْمِ يَوْمِ الِاثْنَيْنِ قَالَ ذَاكَ يَوْمٌ وُلِدْتُ فِيهِ وَيَوْمٌ بُعِثْتُ

“ท่านนะบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ถูกถามถึงการถือศีลอดในวันจันทร์  ท่านกล่าวว่า  วันจันทร์นั้นเป็นวันที่ฉันได้เกิดและเป็นวันที่ถูกแต่งตั้งเป็นนบี” รายงานโดยมุสลิม (197)
ดังนั้นหลังจากที่เราได้ทำการถือศีลอดในวันจันทร์เพราะเป็นตามซุนนะฮ์นบีและเป็นวันเกิดของท่าน  เมื่อเดือนร่อบิอุลเอาวัลมาถึง  บรรยากาศความรู้สึกรักและคะนึงหาในหัวใจของเราที่มีต่อท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้หวนกลับมาเป็นพิเศษอีกครั้ง  
 
แต่ผู้เขียนอยากจะบอกท่านผู้อ่านทั้งหลายว่า  แท้จริงแล้วการดำเนินชีวิตของเราไม่เคยห่างไกลจากของท่านร่อซูลุลลอฮ์ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมเลย  แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านมาหลายศตวรรษแล้วก็ตาม  เราก็ไม่เคยถูกปิดกั้นจากท่านร่อซูลุลลอฮ์ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  เพราะท่านร่อซูลุลลอฮ์มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้นยังคงอยู่ในหมู่พวกเราเสมอ  ซึ่งผู้เขียนไม่ได้บอกว่าท่านร่อซูลุลลอฮ์ทรงอยู่พร้อมกับพวกเรา  แต่ทว่าท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีชีวิตอยู่ในจิตสำนึกความรู้สึกของเราเสมอ  ท่านมีชีวิตอยู่ในหัวใจของเรา  ดังกล่าวนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องจินตนาการหรือคิดขึ้นมาเอง  แต่เป็นคำตรัสของอัลเลาะฮ์  ที่พระองค์ได้ทรงตรัสแก่พวกเราว่า
وَاعْلَمُوا أَنَّ فِيكُمْ رَسُولَ اللَّهِ

“พวกเจ้าจงรู้เถิดว่า  แท้จริงในหมู่พวกเจ้านั้น มีร่อซูลุลลอฮ์” [อัลหุญะร็อต: 7]
อายะฮ์นี้  อัลเลาะฮ์มิได้สนทนากับบรรดาซอฮาบะฮ์ในสมัยท่านร่อซูลุลลอฮ์ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมเท่านั้น  แต่พระองค์ยังทรงสนทนากับทุกคนที่ท่านร่อซูลถูกส่งมายังพวกเขา  และพวกเขาก็ทำการศรัทธาและดำเนินตามแบบฉบับของท่าน
 
แต่สำหรับซอฮาบะฮ์นั้น  ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้อยู่ในหมู่พวกเขาด้วยเรือนร่างและวิญญาณ  พวกเขาได้นั่งร่วมกับท่านร่อซู้ล  ได้สดับฟังคำพูดของท่าน  และดวงตาของพวกเขาได้ถูกประดับประดาไปด้วยการมองท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  
 
แต่สำหรับเรานั้น  ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้อยู่ในหมู่พวกเราแต่มิได้อยู่พร้อมกับร่างกายและวิญญาณ  แต่ท่านคงอยู่ด้วยความรักห่วงและคะนึงหาอุมมะฮ์ของท่าน  อยู่พร้อมกับการขอดุอาต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลาให้แก่อุมมะฮ์ของท่านที่ศรัทธาและปฏิบัติตามแบบฉบับของท่าน
 
ท่านมุสลิมได้รายงานฮะดีษถึง อับดุลเลาะฮ์ บิน อัมร์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ความว่า “ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ทำการอ่านอายะฮ์ที่ถ่ายทอดคำกล่าวของท่านนะบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสลาม ที่ว่า
رَبِّ إِنَّهُنَّ أَضْلَلْنَ كَثِيراً مِنَ النَّاسِ فَمَنْ تَبِعَنِي فَإِنَّهُ مِنِّي وَمَنْ عَصَانِي فَإِنَّكَ غَفُورٌ رَحِيمٌ

“โอ้ผู้อภิบาลของฉัน  แท้จริงพวกมัน(เจว็ด)ทำให้มนุษย์มากมายหลงทาง  ดังนั้นผู้ใดที่ปฏิบัติตามฉัน  แท้จริงเขาเป็นพวกของฉัน  และผู้ใดที่ฝ่าฝืนฉัน  แท้จริงพระองค์ทรงอภัยโทษยิ่ง  ผู้ทรงเมตตายิ่ง” [อิบรอฮีม: 36]
และอ่านอายะฮ์ที่ถ่ายทอดคำพูดของท่านนะบีอีซา อะลัยฮิสลาม ที่ว่า
إِنْ تُعَذِّبْهُمْ فَإِنَّهُمْ عِبَادُكَ وَإِنْ تَغْفِرْ لَهُمْ فَإِنَّكَ أَنْتَ الْعَزِيزُ الْحَكِيمُ

“หากพระองค์จะทรงลงโทษพวกเขา  แท้จริงพวกเขาคือบ่าวของพระองค์  และถ้าหากพระองค์ทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขา  แท้จริงพระองค์คือผู้ที่เดชานุภาพ  ผู้ทรงปรีชาญาณ” [อัลมาอิดะฮ์: 118]
แล้วท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ยกมือทั้งสองขึ้นและกล่าวว่า โอ้อัลเลาะฮ์  (อุมะตี อุมมะตี)ประชาชาติของฉัน ประชาชาติของฉัน  แล้วท่านนบี ก็ร้องไห้  ดังนั้นอัลเลาะฮ์ตะอาลาจึงสั่งให้ญิบรีลไปหาท่านนบีมุฮัมมัด  แล้วถามเขาว่า “อะไรที่ทำให้เจ้าร้องไห้” (ทั้งที่อัลเลาะฮ์ทรงรู้ดียิ่ง) เมื่อท่านญิบรีลรับทราบ  อัลเลาะฮ์ก็ทรงให้ญิบรีลไปบอกกับท่านนบีมุฮัมมัดว่า  ต่อไปเราจะไม่ทำให้เจ้าเสียใจเกี่ยวกับประชาชาติของเจ้า” รายงานโดยมุสลิม (346)
 
มีฮะดีษซอฮิห์ได้รายงานโดยท่านอิหม่ามมาลิกในหนังสืออัลมุวัฏเฏาะอฺของท่านความว่า
“ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ไปเยี่ยมกุบูรบะเกี๊ยะอฺก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต  แล้วกล่าวส ลามแก่ชาวกุบูรเหล่านั้น  และท่านร่อซูลุลลอฮ์ก็กล่าวว่า  ฉันปรารถนาเหลือเกินที่จะได้เห็นพี่น้องของเรา  ซอฮาบะฮ์ท่านหนึ่งกล่าวขึ้นว่า  พวกเรามิใช่เป็นพี่น้องของท่านดอกหรือ?  ท่านนะบีตอบว่า  (เป็นซิ) แต่ยิ่งกว่านั้นพวกท่านคือมิตรสหายของฉัน  ส่วนพี่น้องของฉันนั้นพวกเขายังไม่ (กำเนิด) มา  และต่อไปฉันจะนำหน้าไปที่บ่อน้ำ (ในวันกิยามะฮ์) ฉันจะคอยต้อนรับพวกเขาเหล่านั้น  แล้วซอฮาบะฮ์ก็ถามว่า  ท่านจะรู้จักพวกเขาได้อย่างไร?  ท่านนะบีตอบว่า  ฉันจะรู้จักพวกเขาในลักษณะที่ใบหน้ามีรัศมีอันเนื่องจากร่องรอยของการอาบน้ำละหมาด” ดู มุวัฏเฏาะอฺ อิหม่ามมาลิก เล่ม 1 หน้า 38-39
ดังกล่าวคือ  ความเป็นห่วงของท่านร่อซูลุลลอฮ์ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมที่คะนึงหาจะพบกับพวกเราผู้ศรัทธาทั้งหลายอยู่เสมอ  แล้วหัวใจของพวกเราเคยแสดงความรัก  มีความรู้สึกคะนึงหาท่านร่อซูลบ้างไหม?  เราเคยเรียนชีวประวัติของท่านแล้วหรือยัง?  ชอบที่จะเรียนฮะดีษของท่านไหม?  แล้วปฏิบัติตามซุนนะฮ์อิตติฟากียะฮ์(ซุนนะฮ์ที่ทุกฝ่ายเห็นพร้อง)สมบูรณ์แล้วหรือยัง?  ด้วยการละหมาดสุนัตก่อนซุบฮ์,  ทำการซิกรุลลอฮ์ตอนเช้า,  ละหมาดฎุฮายามสาย, ละหมาดสุนัตก่อนหลังฟัรดู, ซิกรุลลอฮ์ตอนเย็น, ละหมาดตะฮัจญุด, ละหมาดวิตริ, ถือศีลอดวันจันทร์และวันพฤหัสบดี, ทำศ่อดะเกาะฮ์, มีความอิคลาศบริสุทธิ์ใจ, ไม่รู้สึกว่าตนเองดีกว่าคนอื่น, ไม่มีความตะกับบูร, ไม่อิจฉาริษยา, ไม่นินทา, ไม่ลำพองตน, ไม่หลงดุนยา, หัวใจซิกรุลลอฮ์ในทุกขณะ และอื่นๆ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะได้รับการต้อนรับจากท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ณ บ่อน้ำอัลเกาษัรนั่นเอง

แสดงความคิดเห็น

ติดตามได้ทาง