กระดานเสวนานักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ มุมมุสลิมะฮ์
Pages: 1234567891011121314151617
สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: ก.พ. 17, 2007, 04:31 PM
1. ห้ามสตรีออกจากบ้านโดยใส่ของหอม

ไม่ใส่น้ำหอมในขณะออกจากบ้าน  แต่ทว่า  เมื่อนางกลับถึงบ้าน  ก็อนุญาตให้ใส่น้ำหอมได้ตามที่ต้องการ  โดยมีเงื่อนไขว่า  ต้องไม่ให้ชายอื่นได้กลิ่นหอมนั้น 

วัลลอฮุอะลัม

ชายที่ "ไม่อื่น" อันนี้ เข้าใจ..

แต่ชาย"อื่น" ที่ว่า  ถ้าชายนั้นเป็นน้องชาย เป็นลูกชาย เป็นญาติพี่น้องชาย ที่อยู่ในบ้านล่ะ  ทำไง?

คำถามนี้ปัญญาอ่อนไปป่ะ? ไม่หรอกนะ



เป็นคำถามที่ดีมาก ๆ ครับ  คำว่า "ชายอื่น" นั้น  หมายถึง  ชายที่สามารถแต่งงานกับเราได้  แต่สำหรับพี่ชาย  น้องชาย หรือบรรดาผู้ชายที่แต่งงานกับเราไม่ได้นั้น  ย่อมไม่เป็น  หากจะให้ดียิ่ง  คือ  สำหรับสามี  ก็เป็นการสมควรอย่างยิ่งที่จะใส่น้ำหอมหรือของหอม  วัลลอฮุอะลัม

อนึ่ง  การนำเสนอแต่ละข้อนั้น  เราอยากจะให้มีการเสวนาถามหรือช่วยกันบอกความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นนั้น ๆ ด้วยนะครับ  เพราะพี่น้องเราจะได้ความรู้กันมากขึ้น 
สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: ก.พ. 17, 2007, 07:03 PM
2. ห้ามภรรยาปฏิเสธการร่วมหลับนอนกับสามี เมื่อเขาร้องขอ

บทนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ  ซึ่งสตรีส่วนมากต้องเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว  จนกระทั่งทำให้พวกนางต้องได้รับการสาปแช่งจากมะลาอิกะฮ์  ด้วยสาเหตุที่สามีมีความโกรธกับนาง

รายงานจาก อบู ฮุรอยเราะฮ์  ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า "เมื่อสามีได้เรียกร้องให้ภรรยาของเขาไปยังที่หลับนอน  แล้วนางให้การปฏิเสธ  โดยค่ำคืนนั้นสามีความโกรธต่อนาง  ดังนั้น บรรดามะลาอิกะฮ์จะทำการสาปแช่งนางจนกระทั่งถึงยามเช้า"  รายงานโดย บุคคอรีย์และมุสลิม

หะดิษนี้  ชี้แนะแก่เราว่า  ภรรยานั้นต้องมีสิทธิพึงปฏิบัติต่อผู้เป็นสามี  และส่วนหนึ่งจากบรรดาสิทธิต่าง ๆ  ก็คือ  สิทธิ์ในการแสวงหาความสุขจากนาง  และถือเป็นสิ่งต้องห้ามแก่ภรรยาที่ให้การปฏิเสธสิทธิดังกล่าวที่มีต่อสามี  ถ้าหากไม่เช่นนั้น  นางก็จะได้รับการสาปแช่งจากมวลมะลาอิกะฮ์ด้วยสาเหตุดังกล่าว  และการสาปแช่งนั้น  หมายถึง  บรรดามะลาอิกะฮ์ได้วอนขอดุอาอ์ให้นางห่างไกลจากความเมตตาของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา  ดังนั้น  นางเป็นรู้สึกอย่างไรเล่า  ที่บรรดามะลาอิกะฮ์ได้ทำการขอดุอาอ์ให้นางห่างไกลจากความเมตตาของอัลเลาะฮ์  และต่อไปจะเป็นเช่นไร  ในขณะที่นางได้อยู่เบื้อหน้าอัลเลาะฮ์ ตะอาลา  (หมายถึง รอรับการสอบสวน) และการปฏิบัติต่าง ๆ ของนางนั้นได้ถูกนำเสนอ  ซึ่งส่วนหนึ่งในนั้น  มีการประพฤติที่ชั่ว  จนเป็นเหตุให้นางต้องได้รับการลงโทษด้วยสาเหตุของบาปนั้น

แต่หากว่า  ภรรยาอยู่ในสภาวะที่ป่วย  มีประจำเดือน  และถือศีลอดในเดือนรอมะฏอน  ก็อนุญาตให้นางปฏิเสธในสิ่งดังกล่าวได้ 

วัลลอฮุอะลัม
สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: ก.พ. 17, 2007, 07:16 PM
ข้อที่ 2. สำหรับสตรีผู้ที่แต่งงานแล้วและสำหรับสตรีผู้ที่จะเป็นภรรยาในอนาคต  ;D



Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: Bahebak Date: ก.พ. 17, 2007, 07:21 PM
ญะซากัลลอฮฺ......

จะจำไว้....


Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: บุคคลธรรมดา Date: ก.พ. 17, 2007, 09:57 PM
ญะซากั้ลลอฮ์ ค่ะ

ข้อนี้ ตอนนี้ ยังไม่ได้คิด 8)
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: قطوف من أزاهير النور Date: ก.พ. 17, 2007, 10:05 PM


อ้างถึง
แต่หากว่า  ภรรยาอยู่ในสภาวะที่ป่วย  มีประจำเดือน  และถือศีลอดในเดือนรอมะฏอน  ก็อนุญาตให้นางปฏิเสธในสิ่งดังกล่าวได้ 



อ้าววว  สุนัตเดือนอื่น  หรือกอฎอของรอมฎอนล่ะ  ???
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: salamah Date: ก.พ. 17, 2007, 10:51 PM
ญะซากั้ลลอฮ์ ค่ะ

ข้อนี้ ตอนนี้ ยังไม่ได้คิด 8)

ขออ้างอิงนิดนึงนะคะน้อง i'm  somebody  :  เช่นกันค่ะ   ตอนนี้ยังไม่ได้คิด
สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: ก.พ. 17, 2007, 11:12 PM


อ้างถึง
แต่หากว่า  ภรรยาอยู่ในสภาวะที่ป่วย  มีประจำเดือน  และถือศีลอดในเดือนรอมะฏอน  ก็อนุญาตให้นางปฏิเสธในสิ่งดังกล่าวได้ 



อ้าววว  สุนัตเดือนอื่น  หรือกอฎอของรอมฎอนล่ะ  ???

หากถือศีลอดสุนัต  ก็ให้ละศีลอดได้  หากสามีปรารถนา  แม้กระทั่งการถือศีลอดสุนัต ก็ต้องขออนุญาตจากสามี  ส่วนการถือศีลอดที่เป็นวายิบ ไม่ว่าจะถือศีลอดเดือนรอมาฏอนหรือกอฏอศีลอดร่อมะฏอน  ก็ไม่จำเป็นต้องตามความต้องการของสามี   วัลลอฮุอะลัม
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: salamah Date: ก.พ. 18, 2007, 01:14 PM


อ้างถึง
แต่หากว่า  ภรรยาอยู่ในสภาวะที่ป่วย  มีประจำเดือน  และถือศีลอดในเดือนรอมะฏอน  ก็อนุญาตให้นางปฏิเสธในสิ่งดังกล่าวได้ 



อ้าววว  สุนัตเดือนอื่น  หรือกอฎอของรอมฎอนล่ะ  ???

หากถือศีลอดสุนัต  ก็ให้ละศีลอดได้  หากสามีปรารถนา  แม้กระทั่งการถือศีลอดสุนัต ก็ต้องขออนุญาตจากสามี  ส่วนการถือศีลอดที่เป็นวายิบ ไม่ว่าจะถือศีลอดเดือนรอมาฏอนหรือกอฏอศีลอดร่อมะฏอน  ก็ไม่จำเป็นต้องตามความต้องการของสามี   วัลลอฮุอะลัม

ขอบคุณค่ะ    สำหรับคำตอบที่ชัดเจนและการให้ความรู้บรรดาน้องๆทุกๆคนนะคะ
สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: ก.พ. 18, 2007, 04:18 PM
ข้อ 3 . ห้ามสตรีพรรณาหญิงอื่นให้สามีของนางรับฟัง

รายงานจากท่านอิบนุ มัสอูด ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  เขากล่าวว่า  ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า "ผู้หญิงคนหนึ่งอย่าทำการสัมผัสกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง  แล้วนางทำการพรรณาคุณลักษณะแก่สามีของนาง  ประหนึ่งเขาได้มองเห็นหญิงคนนั้น"  รายงานโดย อัลบุคอรีย์

ท่านอิมาม อิบนุ อัลเญาซีย์ กล่าวว่า "ถูกห้ามจากสิ่งดังกล่าวนี้  เพราะผู้ชายคนหนึ่ง  เมื่อได้ยินคุณลักษณะของสตรี ปณิธานของเขาจะสั่นไหว (คือให้ความสนใจ) และหัวใจของเขาจะมุ่งปรารถนา  จิตใจจะคอยแสวงหาคุณลักษณะที่สวยงาม (ที่มีเหมือนกับสตรีคนนั้น) ดังนั้น  บางครั้งการพรรณาคุณลักษณะ จะเรียกร้องไปสู่ความต้องการคุณลักษณะที่สวยงามนั้น  และบางครั้ง  การให้ความสนใจแสวงหาสิ่งดังกล่าวนั้น  ทำให้เกิดความคะนึงหา(สตรีคนนั้น)"  ดู  อะหฺกาม อันนะซาอ์ หน้า 63


สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: ก.พ. 18, 2007, 04:19 PM
การห้ามให้ภรรยาพรรณาคุณลักษณะของสตรีอื่นนั้น  ไม่ถึงขั้นหะรอมแต่อยู่ในระดับมักโระฮ์  คือไม่ควรกระทำเท่านั้นเอง  เพราะการพรรณาหญิงอื่นให้สามีฟัง อาจจะทำให้สามีนอกใจ  ผลเสียก็อาจจะกลับมาสู่ตัวของภรรยาเอง  ;D
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: ๐๐εΐз๐๐Pr!nCeEsS Of FLoWeRs๐๐εΐз๐๐ Date: ก.พ. 18, 2007, 07:40 PM
การห้ามให้ภรรยาพรรณาคุณลักษณะของสตรีอื่นนั้น  ไม่ถึงขั้นหะรอมแต่อยู่ในระดับมักโระฮ์  คือไม่ควรกระทำเท่านั้นเอง  เพราะการพรรณาหญิงอื่นให้สามีฟัง อาจจะทำให้สามีนอกใจ  ผลเสียก็อาจจะกลับมาสู่ตัวของภรรยาเอง  ;D

หรอค่ะ...ปู่อัลฯ ชมสาวอื่นก็ไม่ได้ด้วยหรอ... :o


Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: salamah Date: ก.พ. 18, 2007, 08:39 PM
การห้ามให้ภรรยาพรรณาคุณลักษณะของสตรีอื่นนั้น  ไม่ถึงขั้นหะรอมแต่อยู่ในระดับมักโระฮ์  คือไม่ควรกระทำเท่านั้นเอง  เพราะการพรรณาหญิงอื่นให้สามีฟัง อาจจะทำให้สามีนอกใจ  ผลเสียก็อาจจะกลับมาสู่ตัวของภรรยาเอง  ;D

หรอค่ะ...ปู่อัลฯ ชมสาวอื่นก็ไม่ได้ด้วยหรอ... :o



ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องขึ้นอยู่กับความดีงามของภรรยา......และความดีงามของผู้หญิงคนอื่นที่ภรรยากล่าวถึงว่า........ทางสามีจะให้ความหนักแน่นและความซื่อตรงกับภรรยา  หรือว่าจะให้ความสำคัญกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตนเองหรือไม่   ดังนั้นก็คงจะต้องใช้หัวใจที่มั่นคง(หรือเปล่า)ของสามีเป็นผู้ตัดสินแล้วล่ะค่ะ   
สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: ก.พ. 18, 2007, 08:45 PM
การห้ามให้ภรรยาพรรณาคุณลักษณะของสตรีอื่นนั้น  ไม่ถึงขั้นหะรอมแต่อยู่ในระดับมักโระฮ์  คือไม่ควรกระทำเท่านั้นเอง  เพราะการพรรณาหญิงอื่นให้สามีฟัง อาจจะทำให้สามีนอกใจ  ผลเสียก็อาจจะกลับมาสู่ตัวของภรรยาเอง  ;D

หรอค่ะ...ปู่อัลฯ ชมสาวอื่นก็ไม่ได้ด้วยหรอ... :o



ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องขึ้นอยู่กับความดีงามของภรรยา......และความดีงามของผู้หญิงคนอื่นที่ภรรยากล่าวถึงว่า........ทางสามีจะให้ความหนักแน่นและความซื่อตรงกับภรรยา  หรือว่าจะให้ความสำคัญกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตนเองหรือไม่   ดังนั้นก็คงจะต้องใช้หัวใจที่มั่นคง(หรือเปล่า)ของสามีเป็นผู้ตัดสินแล้วล่ะค่ะ   

สิ่งดังกล่าว  มันเป็นการห้ามแบบมักโระฮ์น่ะ  หมายถึง ไม่สมควรกระทำ  ไม่ใช่ห้ามแบบหะรอม  เนื่องจากว่า อาจจะทำให้เกิดผลอันไม่พึงประสงค์ต่อภรรยา  และการที่ภรรยาทำความดี  เอาอกเอาใจ  ปรนนิบัติ  แต่งตัวสวย ๆ  เพื่อให้สามีพอใจนั้น  ย่อมดีกว่า  ไปเล่าเรื่องผู้หญิงคนอื่นให้สามีรับฟัง  ใช่ป่ะ  ;D
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: salamah Date: ก.พ. 18, 2007, 08:54 PM
การห้ามให้ภรรยาพรรณาคุณลักษณะของสตรีอื่นนั้น  ไม่ถึงขั้นหะรอมแต่อยู่ในระดับมักโระฮ์  คือไม่ควรกระทำเท่านั้นเอง  เพราะการพรรณาหญิงอื่นให้สามีฟัง อาจจะทำให้สามีนอกใจ  ผลเสียก็อาจจะกลับมาสู่ตัวของภรรยาเอง  ;D

หรอค่ะ...ปู่อัลฯ ชมสาวอื่นก็ไม่ได้ด้วยหรอ... :o



ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องขึ้นอยู่กับความดีงามของภรรยา......และความดีงามของผู้หญิงคนอื่นที่ภรรยากล่าวถึงว่า........ทางสามีจะให้ความหนักแน่นและความซื่อตรงกับภรรยา  หรือว่าจะให้ความสำคัญกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตนเองหรือไม่   ดังนั้นก็คงจะต้องใช้หัวใจที่มั่นคง(หรือเปล่า)ของสามีเป็นผู้ตัดสินแล้วล่ะค่ะ   

สิ่งดังกล่าว  มันเป็นการห้ามแบบมักโระฮ์น่ะ  หมายถึง ไม่สมควรกระทำ  ไม่ใช่ห้ามแบบหะรอม  เนื่องจากว่า อาจจะทำให้เกิดผลอันไม่พึงประสงค์ต่อภรรยา  และการที่ภรรยาทำความดี  เอาอกเอาใจ  ปรนนิบัติ  แต่งตัวสวย ๆ  เพื่อให้สามีพอใจนั้น  ย่อมดีกว่า  ไปเล่าเรื่องผู้หญิงคนอื่นให้สามีรับฟัง  ใช่ป่ะ  ;D

ยอมรับก็ได้ค่ะ.......เพราะทุกอย่างย่อมมีทั้งที่มาและที่ไปเสมอ.......วัสลาม