Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: บาชีร Date: พ.ย. 28, 2008, 11:45 PM
วะยัมนะอูนัลมาอูล
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-firdaus~* Date: พ.ย. 30, 2008, 02:10 PM
สตรีนั้นมีพลังที่น่าฉงน
นั่นคือ สามารถเปลี่ยนแปลงบ้านให้กลายเป็นสวรรค์อันยิ่งใหญ่
หรือ นรกที่ลุกโพลง...
ได้ในพริบตาเดียว...
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: ILHAM Date: พ.ย. 30, 2008, 05:50 PM
มีพลังที่น่ากลัวจริงๆ
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-firdaus~* Date: ม.ค. 03, 2009, 03:53 PM
ผู้หญิงถูกสร้างมาจากซี่โครงผู้ชาย
ไม่ใช่ศีรษะของเขา...เพื่อที่จะเหนือกว่า
ไม่ใช่เท้าของเขา...เพื่อจะถูกเหยียบย่ำ
แต่มาจากด้านข้างเขา...เพื่อที่จะเท่าเทียม
ใกล้แขนของเขา...เพื่อจะถูกปกป้อง
และชิดใจของเขา...เพื่อที่จะถูกรัก 
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: บาชีร Date: ม.ค. 03, 2009, 06:30 PM
และชิดใจของเขาเพื่อที่จะถูกรัก

หวานจัง
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: JawhaR Date: ม.ค. 05, 2009, 02:55 PM

ผู้หญิงถูกสร้างมาจากซี่โครงผู้ชาย
ไม่ใช่ศีรษะของเขา...เพื่อที่จะเหนือกว่า
ไม่ใช่เท้าของเขา...เพื่อจะถูกเหยียบย่ำ
แต่มาจากด้านข้างเขา...เพื่อที่จะเท่าเทียม
ใกล้แขนของเขา...เพื่อจะถูกปกป้อง
และชิดใจของเขา...เพื่อที่จะถูกรัก


Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: Assaf Date: ม.ค. 06, 2009, 07:33 PM
คนที่อยากชิดใจ...เพื่อจะถูกรัก...
ไม่รู้ไปอยู่ไหน...หายากจริง
แต่กลอนเพราะจัง
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: binti-adnan Date: ม.ค. 08, 2009, 10:21 AM
salam
17. ห้ามมุสลิมโกรธกันเกินสามวัน
อิสลามเป็นศาสนาแห่งความรัก เอื้ออาทร เกลื้อกูล ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ดังนั้นมุสลิมีนที่อยู่ในความรักอาทรและเมตตาต่อกันนั้นประหนึ่งเรือนร่างเดียวกัน เมื่ออวัยวะส่วนหนึ่งเจ็บป่วย อวัยวะส่วนอื่น ๆ ก็จะคอยไม่สบายและมีความทุกข์ใจไปด้วย
ด้วยเหตุนี้อิสลามจึงห้ามการโกรธต่อกัน อิจฉาริษยาต่อกัน หันหลังให้กัน และตัดขาดสัมพันธ์ต่อกัน และยังห้ามให้โกรธต่อพี่น้องของเขาเกินสามวัน
รายงานจากท่านอะบี อัยยูบ อัลอันซอรีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ว่า แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า "ไม่อนุญาตให้มุสลิมห่างเหิน(โกรธ)พี่น้องของเขาเกินกว่าสามวัน ครั้งทั้งสองได้จบเจอกัน แล้วคนนี้ผินหน้าไปอื่น และอีกคนนี้ก็ผินหน้าไปทางอื่น ผู้ที่ดีเลิศจากทั้งสองนั้นคือผู้ที่เริ่มให้สลาม" รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม
แต่ทว่าอัลเลาะฮ์ทรงเข้มงวดในการบาดหมางระหว่างพี่น้องมุสลิม ด้วยการล่าช้าการให้อภัยโทษบรรดาบาปของผู้ที่ทะเลาะและบาดหมางต่อกันขณะที่บรรดาอะมัลได้ถูกนำเสนอในทุกวันจันท์และพฤหัสบดี
รายงานจากท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า "บรรดาอะมัลของถูกนำเสนอในทุก ๆ วันจันทร์และวันพฤหัสบดี ดังนั้นอัลเลาะฮ์จักทรงอภัยโทษแก่ผู้ที่ไม่กระทำสิ่งใดที่ตั้งภาคีเลยต่อพระองค์ นอกจากบุคคลหนึ่งที่ระหว่างเขาและพี่น้องของเขามีความเกลียดชังต่อกัน พระองค์ก็จะทรงตรัสว่า พวกท่านจงละทิ้งทั้งสองคนนี้ก่อนจนกว่าทั้งสองจะทำการประณีประนอมต่อกัน" รายงานโดยมุสลิม
ดังนั้นการหมางเมินต่อกันระหว่างสตรีนั้นเหตุใดถึงมีมากอย่างนี้! และสาเหตุที่ทำให้ต้องหมางเมินต่อกันระหว่างพวกนางช่างเป็นเรื่องเล็กน้อยเหลือเกิน!
วัลลอฮุอะลัม
แล้วถ้าเราเกลียดชังเพราะความชั่วชนิดร้ายแรงของเขา
เช่น ซินา ชิริก หน้าไหว้หลังหลอก ใส่ร้ายป้ายสี
อย่างนี้ เกลียดได้มั้ย เพราะรับไม่ได้จริงๆ
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: ม.ค. 08, 2009, 10:38 AM
แล้วถ้าเราเกลียดชังเพราะความชั่วชนิดร้ายแรงของเขา
เช่น ซินา ชิริก หน้าไหว้หลังหลอก ใส่ร้ายป้ายสี
อย่างนี้ เกลียดได้มั้ย เพราะรับไม่ได้จริงๆ
เกลียดในสิ่งที่เขากระทำความผิดที่ชัดเจนไม่ใช่ข้อขัดแย้ง โดยไม่เกลียดในตัวเขาที่เป็นมุสลิม
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: binti-adnan Date: ม.ค. 08, 2009, 10:54 AM
ขอบคุณ บัง อัลฯ
ที่ช่วยแนะนำ
อ่านแล้วก็พอเข้าใจ
แต่ก็ยังงงๆ ว่า ยังงัยค่ะ
ใช่ค่ะ เกลียดในความชั่ว
แต่จะไม่เกลียดตัวเขาได้ยังงัย
ก็ในเมื่อเขาทำชั่วอ่ะ
ช่วยอธิบายให้คนเข้าใจยากหน่อยนะคะ
ขออัลลอฮ์ทรงตอบแทนค่ะ
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: ม.ค. 08, 2009, 11:20 AM
ขอบคุณ บัง อัลฯ
ที่ช่วยแนะนำ
อ่านแล้วก็พอเข้าใจ
แต่ก็ยังงงๆ ว่า ยังงัยค่ะ
ใช่ค่ะ เกลียดในความชั่ว
แต่จะไม่เกลียดตัวเขาได้ยังงัย
ก็ในเมื่อเขาทำชั่วอ่ะ
ช่วยอธิบายให้คนเข้าใจยากหน่อยนะคะ
ขออัลลอฮ์ทรงตอบแทนค่ะ
คือถ้าเขาเป็นคนทำซินา เราก็ต้องเกลียดพฤติกรรมของเขาและไม่พอใจในสิ่งที่เขาได้กระทำ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยังเป็นมุสลิมอยู่ซึ่งอัลกุรอานบอกไว้แล้วว่า "แท้จริงบรรดามุสลิมเป็นพี่น้องกัน" ดังนั้นเมื่อเราอีหม่านอ่อนแอจะไปตักเตือนด้วยกำลังก็ไม่ได้ ด้วยคำพูดก็ไม่ได้(ส่วนการด่าไม่ใช่การตักเตือนแบบอิสลามและยังขัดกับซุนนะฮ์นบี) ก็ให้กระทำด้วยจิตใจ(คือรังเกียจสิ่งที่เขากระทำ) ซึ่งหากไปรังเกียจในตัวเขาทั้งที่เป็นมุสลิมอยู่ก็จะไปขัดกับอายะฮ์อัลกุรอาน ส่วนการที่เราหลีกห่างไม่ไปยุ่งกับเขาเพราะเกรงว่าเขาอาจจะชักนำไปสู่ทำการซินาด้วย อันนี้เราหลีกห่างไม่ไปยุ่งเพราะเกรงว่าเขาจะนำเราไปสู่ความเสียหาย ไม่ใช่เพราะเกลียดเขา
ดังนั้น หากเราเกลียดการกระทำของเขา พร้อมเขาพูดกับเรา เราก็ต้องพูดกับเขาน่ะ แต่พูดเท่าที่จำเป็น เขาก็จะรู้สึกแล้วว่าเราไม่ชอบพฤติกรรมของเขานั่นเอง
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: binti-adnan Date: ม.ค. 08, 2009, 11:56 AM
ขอบคุรบัง อัล-อัซฮารี อีกครั้ง
ชัดเจน เคลียร์มาก
แต่มีอีกคำถามค่ะ คาใจมาหลายปีล่ะ
คือว่า มีปัญหากับครอบครัว เรื่องมีอยู่ว่า
หลังจากที่พ่อเสีย หนูได้เข้าไปพูดคุยกับยายเกี่ยวกับหนี้สินที่ยายติดค้างพ่อหนูไว้
แต่ยายไม่พอใจ แล้วไปใส่ร้ายหนู โดยเล่าให้บรรดาลูกๆของยาย ก็คือ ลุงป้าน้าอาของหนูเอง ว่า หนูไปด่ายาย
ทำให้ลุงป้าน้าอาทุกคน ต่างพากันเกลียดหนู โดยที่ไม่ได้ถามอะรัยหนูซักคำ
มีน้าคนนึงประกาศตัดน้าตัดหลานกับหนู หนูพยายามเข้าไปสลาม มะอัฟ เค้าครั้งนึง แต่เขาไม่รับสลาม
จากนั้นมาเราก็เหมือนเป็นคนไม่รู้จักกันอีกเลย
แต่ใจจริงแล้ว หนูไม่ได้คิดจะตัดญาติขาดมิตรกับใครทั้งสิ้น แต่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับพวกเขามาก
เพราะเกรงจะก่อปัญหามากขึ้นไปอีก
กรณีแบบนี้ ถือเป็นการตัดขาดญาติมิตรหรือเปล่า
แล้วหนูจะบาปมั้ยค่ะ
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: ILHAM Date: ม.ค. 08, 2009, 12:17 PM
เราพยายามของเรา เราพ้นแล้ว เขาไม่รับไม่ยอมเปิดใจ เขาต้องรับผิดชอบ
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: binti-adnan Date: ม.ค. 08, 2009, 12:31 PM
ขอบคุณ ILHAM ด้วยค่ะ
พอจะเข้าใจว่า สำหรับกรณีของน้าที่ประกาศตัดขาด นั้นเราพ้น
แล้วกับลุงป้าน้าอา คนอื่น ล่ะคะ ไม่เคยขอมาอัฟอย่างเป็นทางการ
ที่หนูไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับเขา
เพราะกลัวจะมีปัญหา เลี่ยงได้ก็เลี่ยง
อย่างนี้จะถือว่าตัดขาดญาติมิตรรึป่าวค่ะ
ขอโทษนะคะ ปํญหาเยอะไปหน่อย แต่ต้องถาม
เพราะไม่อยากบาปมากกว่าเดิม
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: ม.ค. 08, 2009, 01:05 PM
แต่ใจจริงแล้ว หนูไม่ได้คิดจะตัดญาติขาดมิตรกับใครทั้งสิ้น แต่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับพวกเขามาก
เพราะเกรงจะก่อปัญหามากขึ้นไปอีก
กรณีแบบนี้ ถือเป็นการตัดขาดญาติมิตรหรือเปล่า
แล้วหนูจะบาปมั้ยค่ะ
ไม่บาปหรอก ความรักเกียจเป็นคุณลักษณะภายในหัวใจ ดังนั้นในบางครั้งการที่เราไม่คุยกับเขา ก็มิได้หมายความว่าเรารังเกียจเขา ดังนั้นเราให้สลามเขาก่อนและพูดกับเขาก่อน ถือว่าเราประเสริฐยิ่งกว่าตามทัศนะของอัลอิสลามแล้ว และเราก็ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ส่วนการที่มีญาติหรือคนรอบข้างใส่ร้ายป้ายสีเรานั้น ก็จงอดทน และวอนขอดุอาต่ออัลเลาะฮ์ให้มาก ๆ