สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: ก.พ. 26, 2007, 06:31 AM
6. ห้ามขอดุอาอ์ให้ประสบความวิบัติแก่บุตรหลานรายงานท่านญาบิร บิน อับดิลลาฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ เขากล่าวว่า ท่านร่อซูลุเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"พวกท่านอย่าขอดุอาอ์ให้ประสบความหายนะแก่ตัวของพวกท่าน และพวกท่านอย่าขอดุอาอ์ให้ประสบความหายนะแก่บรรดาบุตรของพวกท่าน และพวกท่านอย่าขอดุอาอ์ให้ประสบความหายนะแก่ทรัพย์สมบัติของพวกท่าน โดยที่พวกท่านอย่าขอดุอาอ์จากให้ตรงกับเวลาหนึ่งจากอัลเลาะฮ์ ที่การมอบให้(ขอพระองค์)ได้ถูกขอให้เวลานั้น แล้วพระองค์ก็จะทรงตอบรับให้กับพวกท่าน" รายงานโดย มุสลิม
หะดิษอันมีเกียรตินี้ได้อธิบายแก่เราว่า มีช่วงเวลาหนึ่งที่มีเกียรติซึ่งดุอาอ์จะถูกตอบรับ ดังนั้น เราจึงถูกห้ามจากการขอดุอาอ์ให้ประสบความวิบัติแก่เรา , บรรดาบุตรของเรา , และบรรดาทรัพย์สินของเรา , เพื่อดุอาอ์ดังกล่าวของเราจะไม่ไปตรงกับช่วงเวลาที่ถูกตอบรับ ดังนั้น เมื่อดุอาอ์ดังกล่าวของเราถูกตอบรับ ความวิบัติก็จะมาประสบแก่เราด้วยเหตุดังกล่าว
อาจจะมีมารดาบางท่านอาจจะว่ากล่าวในเชิงขอดุอาอ์แก่บรรดาลูก ๆ ของนาง โดยที่นางอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะให้เกิดความหายนะแก่บรรดาลูก ๆ ของนาง แต่ลิ้นมันพลาดไปเท่านั้น และกรณีเช่นนี้ นักปราชญ์กล่าวว่า มันเป็นคำแก้ตัวที่น่ารังเกียจมากกว่าทำ 1 บาปเสียอีก เพราะว่ามีหะดิษห้ามจากการขอดุอาอ์ให้ตกแก่บรรดาลูก ๆ ดังนั้น จึงจำเป็นแก่ผู้เป็นมารดาอย่ากล่าวถ้อยคำที่อยู่ในเชิงขอดุอาอ์ให้ประสบแก่บุตรชายและหญิงของนาง ไม่ว่านางจะมีเจตนาที่ไม่ดีหรือดีก็ตาม
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: salamah Date: ก.พ. 26, 2007, 11:37 AM
6. ห้ามขอดุอาอ์ให้ประสบความวิบัติแก่บุตรหลาน
รายงานท่านญาบิร บิน อับดิลลาฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ เขากล่าวว่า ท่านร่อซูลุเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"พวกท่านอย่าขอดุอาอ์ให้ประสบความหายนะแก่ตัวของพวกท่าน และพวกท่านอย่าขอดุอาอ์ให้ประสบความหายนะแก่บรรดาบุตรของพวกท่าน และพวกท่านอย่าขอดุอาอ์ให้ประสบความหายนะแก่ทรัพย์สมบัติของพวกท่าน โดยที่พวกท่านอย่าขอดุอาอ์จากให้ตรงกับเวลาหนึ่งจากอัลเลาะฮ์ ที่การมอบให้(ขอพระองค์)ได้ถูกขอให้เวลานั้น แล้วพระองค์ก็จะทรงตอบรับให้กับพวกท่าน" รายงานโดย มุสลิม
หะดิษอันมีเกียรตินี้ได้อธิบายแก่เราว่า มีช่วงเวลาหนึ่งที่มีเกียรติซึ่งดุอาอ์จะถูกตอบรับ ดังนั้น เราจึงถูกห้ามจากการขอดุอาอ์ให้ประสบความวิบัติแก่เรา , บรรดาบุตรของเรา , และบรรดาทรัพย์สินของเรา , เพื่อดุอาอ์ดังกล่าวของเราจะไม่ไปตรงกับช่วงเวลาที่ถูกตอบรับ ดังนั้น เมื่อดุอาอ์ดังกล่าวของเราถูกตอบรับ ความวิบัติก็จะมาประสบแก่เราด้วยเหตุดังกล่าว
อาจจะมีมารดาบางท่านอาจจะว่ากล่าวในเชิงขอดุอาอ์แก่บรรดาลูก ๆ ของนาง โดยที่นางอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะให้เกิดความหายนะแก่บรรดาลูก ๆ ของนาง แต่ลิ้นมันพลาดไปเท่านั้น และกรณีเช่นนี้ นักปราชญ์กล่าวว่า มันเป็นคำแก้ตัวที่น่ารังเกียจมากกว่าทำ 1 บาปเสียอีก เพราะว่ามีหะดิษห้ามจากการขอดุอาอ์ให้ตกแก่บรรดาลูก ๆ ดังนั้น จึงจำเป็นแก่ผู้เป็นมารดาอย่ากล่าวถ้อยคำที่อยู่ในเชิงขอดุอาอ์ให้ประสบแก่บุตรชายและหญิงของนาง ไม่ว่านางจะมีเจตนาที่ไม่ดีหรือดีก็ตาม
การขอดุอาอ์ในแต่ละครั้ง เราก็ควรที่จะระวังสักนิด............เพราะถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เจตนาที่จะไม่ให้เกิดสิ่งไม่ดีใดๆก็ตาม เราก้อควรคิดอยู่เสมอว่าขณะที่เราขอดุอาฮ์เราควรคิดถึงแต่สิ่งดีๆ ในช่วงเวลานั้น แน่นอนเหลือเกิน.......พระองค์อัลเลาะฮ์ก็จะตอบรับและให้สิ่งดีๆนั้นกลับมาหาเราอย่างแน่นอน อินชาอัลลอฮ์
สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: ก.พ. 26, 2007, 04:32 PM
เวลาเกิดความโมโหหรือไม่พอใจ ผมมักสังเกตเห็นว่า อาหรับปัจจุบันเขาจะว่ากล่าวในเชิงดุอาอ์ น่ะ
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: قطوف من أزاهير النور Date: ก.พ. 26, 2007, 04:38 PM
แล้วถ้าขอว่า
หากให้เรารวยด้วยริสกีที่ไม่ฮาลาล ก็อย่าให้รวยเลย
งี้ผิดไหมอ่ะคะ
สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: ก.พ. 26, 2007, 04:59 PM
แล้วถ้าขอว่า
หากให้เรารวยด้วยริสกีที่ไม่ฮาลาล ก็อย่าให้รวยเลย
งี้ผิดไหมอ่ะคะ
ไม่ผิดครับ ยิ่งกว่านั้น ย่อมเป็นการขอที่ดี

Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: قطوف من أزاهير النور Date: ก.พ. 26, 2007, 05:50 PM
ยะซากัลลอฮฺ

สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: ก.พ. 26, 2007, 05:55 PM
การขอให้รวยเนี่ย มันเป็นบะลอ เหมือนกันน่ะ แต่สมควรขอให้มีริศกีดี ๆ กว้างขวาง จะดีกว่า

Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: salamah Date: ก.พ. 27, 2007, 12:01 AM
เวลาเกิดความโมโหหรือไม่พอใจ ผมมักสังเกตเห็นว่า อาหรับปัจจุบันเขาจะว่ากล่าวในเชิงดุอาอ์ น่ะ
ทำไม?ถึงเป็นอย่างนั้นล่ะปู่อัลฯ............อธิบายหลานๆหน่อยนะ.....

สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: ก.พ. 27, 2007, 09:11 PM
เวลาเกิดความโมโหหรือไม่พอใจ ผมมักสังเกตเห็นว่า อาหรับปัจจุบันเขาจะว่ากล่าวในเชิงดุอาอ์ น่ะ
ทำไม?ถึงเป็นอย่างนั้นล่ะปู่อัลฯ............อธิบายหลานๆหน่อยนะ.....

มันเป็นนิสัยและเป็นคำพูดที่พวกเขาบางคนชอบพูดติดปากนะครับ เช่น อาหรับเขาจะกล่าว ยามไม่พอใจว่า يا خرب بيتك "ยาค๊อรร่อบัยตัก" หมายถึง " ขออัลเลาะฮ์ ให้บ้านมึงพัง" ซึ่งเป็นสำนวนบ่งถึงว่า "ขอให้ฉิบหายนั้นเอง" พ่อแม่บางคนจะกล่าวอย่างนี้กับลูกตอนไม่พอใจ หากคำกล่าวนี้ไปตรงกับช่วงเวลาที่อัลเลาะฮ์ทรงรับล่ะก็ ลูก ๆ ก็คงวิบัติด้วยกับดุอาอ์ที่ผู้เป็นแม่เผลอหลุดปากไปนี่แหละครับ วัลอิยาซุบิลลาฮ์!
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: salamah Date: ก.พ. 27, 2007, 10:05 PM
เวลาเกิดความโมโหหรือไม่พอใจ ผมมักสังเกตเห็นว่า อาหรับปัจจุบันเขาจะว่ากล่าวในเชิงดุอาอ์ น่ะ
ทำไม?ถึงเป็นอย่างนั้นล่ะปู่อัลฯ............อธิบายหลานๆหน่อยนะ.....

มันเป็นนิสัยและเป็นคำพูดที่พวกเขาบางคนชอบพูดติดปากนะครับ เช่น อาหรับเขาจะกล่าว ยามไม่พอใจว่า يا خرب بيتك "ยาค๊อรร่อบัยตัก" หมายถึง " ขออัลเลาะฮ์ ให้บ้านมึงพัง" ซึ่งเป็นสำนวนบ่งถึงว่า "ขอให้ฉิบหายนั้นเอง" พ่อแม่บางคนจะกล่าวอย่างนี้กับลูกตอนไม่พอใจ หากคำกล่าวนี้ไปตรงกับช่วงเวลาที่อัลเลาะฮ์ทรงรับล่ะก็ ลูก ๆ ก็คงวิบัติด้วยกับดุอาอ์ที่ผู้เป็นแม่เผลอหลุดปากไปนี่แหละครับ วัลอิยาซุบิลลาฮ์!
อ๋อ........ถ้าเป็นอย่างคุณปู่ว่าล่ะก็ไม่น่าเลยนะคะ ถึงว่าล่ะคำพูดน่ะสำคัญนะคะพูดออกไปแล้วก็เรียกกลับมาไม่ได้น่ะ......... :'( :'( :'(
สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: มี.ค. 02, 2007, 10:03 PM
7. ห้ามเปิดเผยความลับการร่วมสุขระหว่างสามีภรรยา
ท่านอบู สะอีด อัลคุดรีย์ ได้รายงานจาก ว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ กล่าวว่า
"ผู้ที่มีตำแหน่งชั่วช้าที่สุด ณ ที่อัลเลาะฮ์ ในวันกิยามะฮ์นั้น คือ สามีได้สัมผัส(ร่วมเสพสุข)กับภรรยาของเขา และภรรยาของเขาได้สัมผัส(ร่วมเสพสุข)กับเขา หลังจากนั้น ความลับของนางได้ถูกเปิดเผย" รายงานโดย มุสลิม
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ กล่าวว่า
"ในหะดิษนี้ ห้ามสามีเปิดเผยการเสพสุขระหว่างเขาและภรรยาและพรรณารายละเอียดดังกล่าว และห้ามเปิดเผยดังกล่าวที่เกี่ยวกับภรรยา ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การกระทำ หรืออื่น ๆ" ชัรหฺซอฮิหฺมุสลิม เล่ม 3 หน้า 610
ข้าพเจ้าขอกล่าวว่า การสัญญาลงโทษนี้ ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ผู้เป็นสามีเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงภรรยาด้วยเช่นกัน
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: salamah Date: มี.ค. 02, 2007, 10:55 PM
7. ห้ามเปิดเผยความลับการร่วมสุขระหว่างสามีภรรยา
ท่านอบู สะอีด อัลคุดรีย์ ได้รายงานจาก ว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ กล่าวว่า
"ผู้ที่มีตำแหน่งชั่วช้าที่สุด ณ ที่อัลเลาะฮ์ ในวันกิยามะฮ์นั้น คือ สามีได้สัมผัส(ร่วมเสพสุข)กับภรรยาของเขา และภรรยาของเขาได้สัมผัส(ร่วมเสพสุข)กับเขา หลังจากนั้น ความลับของนางได้ถูกเปิดเผย" รายงานโดย มุสลิม
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ กล่าวว่า
"ในหะดิษนี้ ห้ามสามีเปิดเผยการเสพสุขระหว่างเขาและภรรยาและพรรณารายละเอียดดังกล่าว และห้ามเปิดเผยดังกล่าวที่เกี่ยวกับภรรยา ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การกระทำ หรืออื่น ๆ" ชัรหฺซอฮิหฺมุสลิม เล่ม 3 หน้า 610
ข้าพเจ้าขอกล่าวว่า การสัญญาลงโทษนี้ ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ผู้เป็นสามีเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงภรรยาด้วยเช่นกัน
ขอไม่แสดงความคิดเห็นนะคะ ปู่อัลฯขอเป็นผู้อ่านที่ดี.......ดีกว่านะคะ........

Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: munir Date: มี.ค. 02, 2007, 11:00 PM
7. ห้ามเปิดเผยความลับการร่วมสุขระหว่างสามีภรรยา
ท่านอบู สะอีด อัลคุดรีย์ ได้รายงานจาก ว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ กล่าวว่า
"ผู้ที่มีตำแหน่งชั่วช้าที่สุด ณ ที่อัลเลาะฮ์ ในวันกิยามะฮ์นั้น คือ สามีได้สัมผัส(ร่วมเสพสุข)กับภรรยาของเขา และภรรยาของเขาได้สัมผัส(ร่วมเสพสุข)กับเขา หลังจากนั้น ความลับของนางได้ถูกเปิดเผย" รายงานโดย มุสลิม
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ กล่าวว่า
"ในหะดิษนี้ ห้ามสามีเปิดเผยการเสพสุขระหว่างเขาและภรรยาและพรรณารายละเอียดดังกล่าว และห้ามเปิดเผยดังกล่าวที่เกี่ยวกับภรรยา ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การกระทำ หรืออื่น ๆ" ชัรหฺซอฮิหฺมุสลิม เล่ม 3 หน้า 610
ข้าพเจ้าขอกล่าวว่า การสัญญาลงโทษนี้ ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ผู้เป็นสามีเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงภรรยาด้วยเช่นกัน
แบบนี้อ่านเจอข่าวหน้าหนึ่งของประเทศไทยบ่อย (ไม่รู้ว่าประเทศอื่นเขาเป็นกันมั่งหรือป่าว)
อยู่ในวงเหล้าแล้วยกเรื่องนี้มาคุยอวดกัน สุดท้ายก็จบด้วยลูกตะกั่ว
เฮ้อออ...โสนาน่า
สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: al-azhary Date: มี.ค. 03, 2007, 11:38 PM
8. ห้ามสตรีทำการใช้จ่ายทรัพย์สินของสามีนอกจากได้รับการอนุญาตเสียก่อน
รายงานอบู อุมามะฮ์ (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ) ว่า ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"ฉันได้ยินท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ให้สุนทรพจน์ในปีฮัจญีอำลา กล่าวว่า สตรีจะไม่ทำการใช้จ่ายสิ่งใดจากบ้านของสามีของนาง นอกจากได้รับการอนุญาตจากสามีของนางเสียก่อน" หะดิษนี้ หะซัน รายงานโดย อบูดาวูด หะดิษที่ 3565 , และท่านอัตติรมีซีย์ หะดิษที่ 670
หะดิษนี้ชี้แนะให้เราทราบว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ภรรยาต้องขออนุญาตในการใช้จ่ายทรัพย์สินของผู้เป็นสามี และเป้าหมายของการใช้จ่ายตรงนี้ หมายถึง ใช้จ่ายทรัพย์ในหนทางที่ถูกต้องตามหลักศาสนา เช่น ซะกาต บริจาคทาน ใช้จ่ายเพื่อสนองความต้องการ ช่วยผู้ที่เดินทางผ่านมา หรือผู้ที่ขัดสน
ดังนั้น เมื่อนางได้ทำการใช้จ่ายไปตามหลักการที่ศานาส่งเสริมจากทรัพย์สินของสามีเหล่านี้ โดยได้ขออนุญาตแว แน่นอน นางก็จะได้รับผลบุญในการเฉกเช่นเดียวกันกับผู้เป็นสามี
วัลลอฮุอะลัม
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี By: salamah Date: มี.ค. 04, 2007, 07:14 AM
8. ห้ามสตรีทำการใช้จ่ายทรัพย์สินของสามีนอกจากได้รับการอนุญาตเสียก่อน
รายงานอบู อุมามะฮ์ (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ) ว่า ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"ฉันได้ยินท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ให้สุนทรพจน์ในปีฮัจญีอำลา กล่าวว่า สตรีจะไม่ทำการใช้จ่ายสิ่งใดจากบ้านของสามีของนาง นอกจากได้รับการอนุญาตจากสามีของนางเสียก่อน" หะดิษนี้ หะซัน รายงานโดย อบูดาวูด หะดิษที่ 3565 , และท่านอัตติรมีซีย์ หะดิษที่ 670
หะดิษนี้ชี้แนะให้เราทราบว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ภรรยาต้องขออนุญาตในการใช้จ่ายทรัพย์สินของผู้เป็นสามี และเป้าหมายของการใช้จ่ายตรงนี้ หมายถึง ใช้จ่ายทรัพย์ในหนทางที่ถูกต้องตามหลักศาสนา เช่น ซะกาต บริจาคทาน ใช้จ่ายเพื่อสนองความต้องการ ช่วยผู้ที่เดินทางผ่านมา หรือผู้ที่ขัดสน
ดังนั้น เมื่อนางได้ทำการใช้จ่ายไปตามหลักการที่ศานาส่งเสริมจากทรัพย์สินของสามีเหล่านี้ โดยได้ขออนุญาตแว แน่นอน นางก็จะได้รับผลบุญในการเฉกเช่นเดียวกันกับผู้เป็นสามี
วัลลอฮุอะลัม
สลามค่ะ
อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ์นะคะ..........สำหรับคำสอนดีๆจากข้อนี้..........เพราะมุสลิมะฮ์ที่ดีก่อนจะทำอะไรก็ควรจะอนุญาตสามีก่อนเป็นการดีที่สุดอยู่แล้วนะคะ
ว่ากันตามหลักศาสนาน่ะคะ ไม่ว่าทรัพย์สินนั้นจะนำไปใช้ในหนทางของพระองค์อัลเลาะฮ์หรือใช้ในทางใดก็ตาม ใช่ไหมคะ.......... ปู่อัลฯ