Re: ฮิกมะฮ์และปรัชญาแห่งบทบัญญัติอิสลาม By: al-azhary Date: ก.พ. 24, 2008, 08:25 AM
ฮิกมะฮ์การห้ามดอกเบี้ย
1. เป็นการทำลายเกียรติทรัพย์สินของมุสลิมด้วยการเอาเงินเพิ่มโดยมิได้มาด้วยการแลกเปลี่ยน
2. สร้างความเดือนร้อนแก่คนยากจน เพราะส่วนมากผู้ให้กู้ยืมจะร่ำรวย ส่วนผู้ขอกู้เป็นคนจน เมื่อคนรวยเอาเงินมากกว่าสิ่งที่ให้กู้ไป ก็จะสร้างความเดือดร้อนแก่คนจน
3. ไร้ความดีงามและความเห็นอกเห็นใจในเรื่องการกู้ยืมซึ่งกันและกัน
Re: ฮิกมะฮ์และปรัชญาแห่งบทบัญญัติอิสลาม By: al-azhary Date: ก.พ. 24, 2008, 08:44 AM
ฮิกมะฮ์ผู้อ่านคุฏบะฮ์ถือไม้เท้าด้วยมือซ้าย
สุนัตให้ผู้ทำการอ่านคุฏบะฮ์ยืนค้ำด้วยดาบ หรือไม้เท้า หรืออื่น ๆ เช่น คันธนู เพราะมีฮะดิษรายงานโดยอบูดาวูด ด้วยสายรายงานที่ฮะซัน ความว่า
"ในช่วงวันเหล่านั้นเราได้ทำการละหมาดญุมุอะฮ์พร้อมกับท่านร่อซูลุลลอฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ดังนั้น ท่านจึงยืน(คุฏบะฮ์) โดยยืนค้ำบนไม้เท้าหรือคันธนู" (1098)
"ฮิกมะฮ์ในสิ่งดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่า ศาสนาอิสลามดำรงอยู่ด้วยการต่อสู้ ด้วยเหตุนี้ สุนัตให้ไม้เท้าหรือคันธนูอยู่มือซ้าย ซึ่งเหมือนกับธรรมเนียมปฏิบัติของผู้ที่ต้องการทำการญิฮาด (คือถือดาบมือซ้ายและชัดดาบมือขวาหรือถือคันธนูมือซ้ายยิงดอกธนูมือขวา) ส่วนมือขวานั้น ก็ให้จับขอบมิมบัร ดังนั้น หากผู้ทำการคุฏบะฮ์ไม่พบสิ่งใดเลย(คือไม่มีไม้เท้า เป็นต้น) ก็ให้มือทั้งสองข้างนิ่งอย่างนอบน้อม โดยทำให้มือขาวอยู่บนมือซ้ายหรือปล่อยมือทั้งสอง" ดู หนังสือ มุฆนิลมั๊วะตาจญ์ 1/529 ของท่าน อิมาม คอฏีบ อัชชัรบีนีย์
Re: ฮิกมะฮ์และปรัชญาแห่งบทบัญญัติอิสลาม By: al-azhary Date: ก.พ. 24, 2008, 08:52 AM
อะไรคือฮิกมะฮ์ที่อิสลามมีบทในเรื่องอัฏเฏาะฮาเราะฮ์(ความสะอาด)?
อิสลามได้วางบทบัญญัติเรื่องความสะอาด เพราะมีฮิกมะฮ์หลายประการ อาธิ เช่น
1. ความสะอาด เป็นสิ่งที่ธรรมชาติบริสุทธิ์เรียกหา มนุษย์จะโอนเอียงเข้าหาความสะอาดโดยธรรมชาติ และจะมีตีตัวออกห่างจากความสกปรกโสมม และเมื่ออิสลามเป็นศาสนาธรรมชาติ จึงเป็นเรื่องปกติที่อิสลามจะต้องบัญชาให้ทำความสะอาด และรักษาความสะอาด
2. เป็นการรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของมุสลิม มนุษย์โดยทั่วไปมีนิสัยชอบคนที่สะอาด และประสงค์จะคบหากับคนที่สะอาด และนั่งร่วมวงกับคนที่สะอาด มนุษย์โดยทั่วไปจะเกลียดความสกปรก ดูหมิ่น ตีตัวออกห่าง และไม่ประสงค์นั่งร่วมวงกับคนที่สกปรก และเมื่ออิสลามมีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะให้มุสลิมเป็นคนมีเกียรติและมีศักดิ์ศรีจึงได้บัญชาให้มุสลิมเป็นคนสะอาด เพื่อที่จะได้อยู่ท่ามกลางผู้คนอย่างมีเกียรติและสมศักดิ์ศรี
3. รักษาสุขภาพอนามัย ความสะอาดเป็นสาเหตุสำคัญท่จะทำให้มนุษย์ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บเนื่องจากโรคภัยไข้เจ็บส่วนใหญ่ ที่แพร่กระจายไปในหมู่ผู้คนนั้น ก็เนื่องจากความสกปรกเป็นต้นเหตุ ดังนั้นการทำความสะอาดร่างกาย ด้วยการล้างหน้า มือทั้งสองข้าง จมูก เท้าทั้งสองข้าง ทุกวัน ๆ ละหลายครั้ง ย่อมทำให้ร่างกายปราศจากโรคต่าง ๆ
4. หยุดอยู่ต่อหน้าองค์อภิบาลด้วยความสะอาด ขณะที่มนุษย์ทำละหมาดนั้น เขากำลังโต้ตอบและกระซิบกระซาบอยู่กับองค์อภิบาลของเขาอย่างใกล้ชิด เขาย่อมต้องระมัดระวังในความสะอาดทั้งภายนอกและภายใน คือ สะอาดทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะอัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงโปรดผู้ที่กลับตัว และทรงโปรดผู้ที่สะอาด
Re: ฮิกมะฮ์และปรัชญาแห่งบทบัญญัติอิสลาม By: al-azhary Date: ก.พ. 24, 2008, 09:24 AM
ฮิกมะฮ์การจ่ายซะกาต
ฮิกมะฮ์การจ่ายซะกาตและผลประโยชน์ของมันนั้น จะสะท้อนกลับไปสู่ผู้ให้และผู้รับ และก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งส่วนบุคคลและส่วนรวม ดังจะกล่าวต่อไปนี้
1. ซะกาตทำให้ผู้จ่ายเคยชินกับความเสียสละและบริจาค และช่วยความขจัดความตระหนี่เหนียวแน่นออกไปจากจิตใจของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้ประสบกับผลที่เกิดขึ้นของมันด้วยตนเอง และเขาจะรำลึกอยู่เสมอว่า ซะกาตจะทำให้ทรัพย์สินเพิ่มพูนขึ้นยิ่งกว่าจะทำให้ลดน้อยลง ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "การบริจาคจะไม่ทำให้ทรัพย์ลดน้อยลง" รายงานโดยมุสลิม (2588) ดังนั้นทรัพย์สินจะลดน้อยได้อย่างไร? ในเมื่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา จะเพิ่มพูนให้เพราะการบริจาคด้วยการไม่ให้เขาและครอบครัวต้องประสบกับโรคภัยไข้เจ็บ ไม่ให้มีใครปองร้ายเขาและทรัพย์ของเขา และอัลเลาะฮ์จะเอื้ออำนวยให้เขาพบลู่ทางที่จะทำให้ทรัพย์สินของเขางอกเงยขึ้นอย่างง่ายดาย ทั้งนี้นอกเหนือจากผลบุญอันยิ่งใหญ่ที่เขาจะได้รับตอบแทนจากพระองค์
2.ทำให้สายสัมพันธ์แห่งความเป็นพี่น้องและความรักระหว่างผู้ให้กับผู้รับมั่นคงเหนียวแน่นและถ้าหากรุกุ่นอิสลามข้อนี้ถูกยกขึ้นมาปฏิบัติอย่างแพร่หลายในสังคม และมุสลิมทุกคนที่ครอบครองซะกาตได้จ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิ์ได้รับอย่างครบถ้วน เราก็จะเห็นภาพความสนิทสนมซึ่งสายใยของมันอย่างสอดประสานสังคมมุสลิมให้แน่นอนแฟ้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างชัดเจนที่สุด และถ้าหากปราศจากความสนิทสนมนี้ สังคมก็จะเกิดความอคติต่อกันได้ ซึ่งโดยหน้าที่ของมันแล้วจะต้องก่อติดและยึดกันแน่นดุจดังอาคารและมีความอาทร มีความรักต่อกันดุจร่างเดียวกัน
3. ซากาตจะช่วยให้สมาชิกในสังคมสามารถพึ่งพาตนเองได้ ไม่ว่าจะมีเหตุใดเกิดขึ้นอันจะนำไปสู่ความแตกต่างทางสังคมหรือทำให้เกิดความยากจนขัดสนขึ้นในสังคม ซะกาต ถือได้ว่าเป็นกลไกเพียงอย่างเดียว ที่จะช่วยค้ำประกันและรักษาสังคมให้พ้นจากความแตกต่างทางชนชั้น และให้พ้นจากความยากจนและความขัดสนที่ได้ผลที่สุด
4. ซากาตจะช่วยขจัดปัจจัยและสาเหตุของการว่างงานให้หมดไป เพราะสาเหตุสำคัญของการว่างงาน ก็คือการไม่มีเงินทุนที่จะนำไปใช้ในกิจการของตน และเมื่อบัญญัติเรื่องซะกาตถูกนำมาปฏิบัติคนจนก็จะได้รับซะกาตไปเป็นทุนเพื่อดำเนินกิจการที่เหมาะสมกับความชำนาญและความสามารถของตน
5. ซะกาตเป็นแนวทางเดียวเท่านั้นที่จะชำระจิตใจให้สะอาด จากความอาฆาตมาดร้ายและจากความอิจฉาริษยา ซึ่งเป็นสนิมร้ายที่เกาะกินสังคมในยามที่ความเมตตาสงสาร ความช่วยเหลือ และเอื้ออาทรต่อกันหายเหือดหายไป และสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่จะแสดงออกได้โดยทางคำพูด แต่ต้องอาศัยการกระทำ ผลของมันก็จะปรากฏออกมา อัลเลาะฮ์ตาอาลา ทรงตรัสยืนยันไว้ว่า "ท่านจงเก็บเอาส่วนหนึ่งจากทรัพย์สินของพวกเขาเป็นซะกาต ซึ่งมันจะชำระพวกเขาให้สะอาด และท่านจะใช้มันขัดเกลาพวกเขาให้บริสุทธิ์ผุดผ่อง" อัตเตาบะห์ 103 ( อัลฟิกห์ 41 - 42)
Re: ฮิกมะฮ์และปรัชญาแห่งบทบัญญัติอิสลาม By: - ครูจริงใจ- Date: ก.พ. 24, 2008, 09:34 AM
ฮิกมะห์ในการบัญญัติเรื่องอุดฮียะห์ ( สัตว์กุรบาน
)
สิ่งที่ควรทราบก็คือ อุดฮียะห์นั้นเป็นอิบาดะห์ และนอกจากการเชื่อดอุดฮียะห์ จะเป็นการยอมจำนนต่อคำบัญชาต่ออัลลอฮฺ ตาอาลาในความหมายของความเป็น บ่าว แล้วในอุดฮียะห์ก็ยังมีฮิกมะห์และประโยชน์อื่นๆ อีก
ความหมายที่ชัดเจนและยิ่งใหญ่ที่สุดเกี่ยวข้องกับอุดฮียะห์ ก็คือ เป็นการฟื้นฟูความหมายของการเสียสละอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่ท่านนบี อิบรอฮีม ( อ.ล. ) ได้กระทำไว้ขณะที่อัลลอฮฺ ตาอาลาได้ทรงทดสอบนบีอิบรอฮีม โดยการบัญชาให้เชือดบุตรชายของตน ( นบีอิสมาอีล ) และต่อมาอัลลอฮฺได้ไถตัวบุตรชายของเขาด้วยแกะที่พระองค์ประทานลงมา และมีคำสั่งให้เชือดแกะตัวนั้นแทนบุตรชาย หลังจากนบีอิบรอฮีมและบุตรชายได้พยายามบฏิบัติตามคำบัญชาของพระองค์ให้เป็นความจริงอย่างถึงที่สุดแล้ว
และที่เกินไปกว่านั้น ก็คือ เป็นความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่คนยากไร้และคนที่ขัดสน และทำให้คนในครอบครัวมีความดีใจและปิติยินดีในวันอีด และเป็นการเสริมสร้างความผูกพันธ์ระหว่างสมาชิกในสังคมมุสลิมให้เกิดความมั่นคงเหนียวแน่น
Re: ฮิกมะฮ์และปรัชญาแห่งบทบัญญัติอิสลาม By: قطوف من أزاهير النور Date: ก.พ. 24, 2008, 09:46 AM
ฮิกมะฮฺ เรื่องความลับของโลกแห่งความตาย
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่ว่ายุคไหนก็ตาม สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ เทคโนโลยี มนุษย์มีความปลาบปลื้มกับวิทยาการที่เขาคิดค้นขึ้น มนุษย์ดีอกดีใจที่สามารถพัฒนาในศาสตร์บางอย่างโดยเรียกสิ่งนั้นว่า "การเอาชนะธรรมชาติ"
มนุษย์เย่อหยิ่งเกินกว่าจะยอมรับว่าความรู้ของตนเองเป็นเศษเสี้ยวของจักรวาล
และทั้งหมดของความรู้อันน้อยนิดของมนุษย์มาจากพระเจ้าทั้งหมดเสียด้วย
ความตาย และความเร้นลับหลังความตายเป็นหนึ่งในความรู้ที่พระเจ้าเก็บไว้เพื่อให้มนุษย์รับรู้ถึงความอ่อนแอของตัวเอง และหันไปหาพระเจ้าในที่สุด
แต่ส่วนมากของมนุษย์ไม่รู้ .. ว่าเขาไม่รู้ ..
Re: ฮิกมะฮ์และปรัชญาแห่งบทบัญญัติอิสลาม By: al-azhary Date: ก.พ. 24, 2008, 10:00 AM
ฮิกมะฮ์การห้ามปล่อยเล็บยาว
การตัดเล็บเป็นส่วนหนึ่งจากซุนนะฮ์ของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งท่านได้กล่าวว่า "ซุนนะฮ์นั้นมี 5 อย่าง คือ การคิตาน การโกนขนลับ การขลิบหนวด และการตัดเล็บ" รายงานโดยมุสลิม ดังนั้นผู้ใดที่ไม่ตัดเล็บ เขาย่อมขัดกับซุนนะฮ์ที่บริสุทธิ์ และฮิกมะฮ์ในการตัดเล็บก็เพื่อความสะอาดจากสิ่งสกปรกที่อยู่ภายใต้เล็บ และเพื่อจะเลี่ยงจากการไปคล้ายกับพวกกุฟฟารที่ปล่อยเล็บ และคล้ายคลึงกับสัตว์ที่มีเขี้ยวเล็บ ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "พวกท่านจงตัดเล็บเพราะชัยฏอนนั้นมันจะนั่งอยู่ภายใต้เล็บที่ยาว" ปัจจุบันสามารถส่งกล้องจุลทัศน์ใต้เล็บที่ยาวปรากฏว่าพบเชื้อโรคมากมาย ซึ่งจะแพร่ไปสู่ปากและภายในร่างกายของเราทางด้านการกินการดื่ม ดังนั้นการที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ใช้คำว่า "ชัยฏอน" ก็ย่อมหมายถึง สิ่งสกปรก เชื้อโรค ด้วยเช่นกัน
Re: ฮิกมะฮ์และปรัชญาแห่งบทบัญญัติอิสลาม By: - ครูจริงใจ- Date: ก.พ. 24, 2008, 10:09 AM
ฮิกมะห์ในการห้ามอาบน้ำวายิบในน้ำนิ่ง
ฮาดิษที่มุสลิม ( 283 ) และผู้อื่นได้รายงาน
จากท่านอบีฮูร็อยเราะห์ ( ร.ด.) ว่าท่านนบี ( ซ.ล. ) ได้กล่าวว่า คนใดในหมู่พวกท่านอย่าอาบน้ำในน้ำนิ่งในสภาพที่เขามียูนุบ พวกเขาถามว่า : อบีฮูร็อยเราะห์เอ๋ย แล้วเขาจะทำอย่างไร ? อบีฮูรอยเราะห์ตอบว่า : ให้เขาตักขึ้นอาบ โดยใช้มือวัก หรือใช้ภาชนะเล็กๆ ตัก และให้เขาตั้งเจตนาวักน้ำ ถ้าหากน้ำนั้นมีน้อย เพื่อไม่ให้น้ำนั้นกลายเป็นน้ำ มุสตะอฺมั้ล โดยการสัมผัสกับส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย หรื่อให้วักน้ำมาเล็กน้อย จากภาชนะใส่น้ำก่อนเนียตยกฮาดัษญูนุบ จากนั้นให้เนียต และใช้น้ำนั้นล้างมือของเขา แล้วจึงใช้มือวักน้ำได้
ฮิกมะห์ของการห้ามดังกล่าว คือ : อารมณ์ของมนุษย์ มักมีความรังเกียจที่จะใช้ประโยชน์จากน้ำที่ใช้ประโยชน์แล้ว ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด , และอีกประการหนึ่งก็ คือ เป็นการทำให้สูญเสียน้ำไปโดยไร้ประโยชน์ โดยทำให้น้ำนั้นไม่สามารถนำไปใช้ทำความสะอาดได้ ถ้าหากน้ำนั้นมีน้อยกว่า 2 กุลละห์ เพราะน้ำนั้นจะกลายเป็นน้ำมุสตะอฺมั้ล โดยเพียงแต่ลงไปอาบเท่านั้น ในขณะที่คนส่วนใหญ่ต้องการจะใช้ประโยชน์จากน้ำนิ่ง ดังนั้นจึงห้ามลงไปอาบน้ำในน้ำนั้น
Re: บรรดาฮิกมะฮ์และปรัชญาต่าง ๆ แห่งบทบัญญัติอิสลาม By: Muftee Date: ก.พ. 24, 2008, 10:14 AM
โอ้โห....ทำไมฮิกมะฮฺ เยอะแยะขนาดนี้...
ฉุดยอดเรยนิ......เอาอีก จะอ่านอีก.....
Re: บรรดาฮิกมะฮ์และปรัชญาต่าง ๆ แห่งบทบัญญัติอิสลาม By: philosophy Date: ก.พ. 24, 2008, 11:02 AM
salam
جزاك الله خيرا الجزاء

Re: ฮิกมะฮ์และปรัชญาแห่งบทบัญญัติอิสลาม By: al-azhary Date: ก.พ. 24, 2008, 06:18 PM
ฮิกมะฮ์การจ่ายซะกาตฟิต์ิ
ซะกาตฟิตร์ถูกตราเป็นบัญญัติในปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่สอง เช่นเดียวกับการถือศีลอดในเดือนรอมะดอน และจากฮะดิษที่ว่า "ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กำหนดซะกาตฟิตร์ เพื่อชำระผู้ถือศีลอดให้สะอาดจากคำพูดที่ไร้สาระ และหยาบคาย และเพื่อเป็นอาหารแก่คนยากจน" รายงานโดยอบูดาวูด ซึ่งเป็นฮะดิษที่ชี้ชัดว่าเคล็ดลับในการกำหนดซะกาตฟิตร์ ก็คือสนองความต้องการของผู้ยากไร้และขัดสน ให้ได้มีอาหารไว้รับประทานอย่างสมบูรณ์ และเพื่อสร้างความปิติยินดีแก่พวกเขา จนไม่เกิดความรู้สึกขมขื่นและโดดเดี่ยวในความยากจนและขัดสน ในช่วงเวลาที่มุสลิมทุกคนต่างก็แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม มีอาหารการเกินอย่างอิ่มหนำสำราญเนื่องในการฉลองวันอีด ซึ่งก็อยู่ในความหมายของการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และอาทรต่อกันของมวลมุสลิมนั่นเอง และการจ่ายซะกาตฟิตร์ ก็ยังเป็นการนำตนให้เข้าใกล้ชิดอัลเลาะฮ์ ตาอาลา อีกด้วย และเป็นการขจัดความผิดต่าง ๆ ที่ผู้ถือศีลอดอาจกระทำขึ้นขณะถือศีลอด เพราะผลของความนั้นย่อมลบล่างบาปความชั่วออกไปได้
ท่านวะเกียะอฺได้กล่าวว่า : ซะกาตฟิตร์สำหรับรอมาดอน ก็เหมือนกับสุหยูดซะวีย์ในละหมาด ซะกาตฟิตร์จะชดเชยความบกพร่องของการถือศีลอด เช่นเีดียวกับสุหยูดซะฮ์วีชดเชยความบกพร่องของละหมาด
ท่านร่อซูุลุลลอฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "ท่านจงทำความดีติดตามความชั่วเถิด เพราะความดีสามารถลบล้างความชั่วได้" รายงานโดยอะห์มัดและติรมีซีย์(อัลฟิกห์ 2/83)
บรรดาฮิกมะฮ์และปรัชญาต่าง ๆ แห่งบทบัญญัติอิสลาม By: al-azhary Date: ก.พ. 24, 2008, 06:46 PM
อะไรคือฮิกมะฮ์ต้องรอกั๊วะในละหมาดหนึ่งครั้งและสุหยูดสองครั้ง?ฺ
อัลเลาะฮ์ตาอาลาทรงบัญญัติละหมาดเหนือปวงบ่าว ให้ทำการรอกั๊วะหนึ่งครั้งและสุยูดสองครั้งในทุก ๆ รอกะอัต ดังนั้นท่านญิบรีลจึงได้นำมาสอนท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ได้กล่าวว่า "พวกท่านจงละหมาดเหมือนพวกท่านเห็นฉันละหมาดเถิด" รายงานโดยบุคอรีย์ ส่วนฮิกมะฮ์ในการสุหยูดสองครั้งในทุก ๆ ระกออัตนั้น เพราะสุหยูดมีความนอบน้อมย่อมตนลึกล้ำยิ่งกว่า เพราะผู้ละหมาดนั้น ขณะเขาได้นมัสการต่ออัลเลาะฮ์ด้วยการยืน รอกั๊วะ และสุยูด เขาย่อมแสดงถึงความเป็นข้ารับใช้อย่างที่สุด หลังจากนั้นพระองค์ก็อนุญาตให้ทำการนั่งเพื่อแสดงความเป็นข้ารับใช้เยี่ยงผู้เป็นบ่าว แล้วทำการสุหยูดสองครั้งเพื่อเป็นการชุโกรและขจัดการหลอกลวงจากชัยฏอนที่มีต่อปวงบ่าวของอัลเลาะฮ์ผู้ทรงเมตตา
Re: บรรดาฮิกมะฮ์และปรัชญาต่าง ๆ แห่งบทบัญญัติอิสลาม By: al-azhary Date: ก.พ. 24, 2008, 07:57 PM
ฮิกมะฮ์ของการละหมาด
เคล็ดลับหรือฮิกมะฮ์ของการละหมาดมีมากมายหลายประการ ซึ่งสรุปได้ดังนี้ :
1. เป็นการเตือนให้มนุษย์รู้จักตนเองว่าเป็นบ่าวของอัลเลาะฮ์ผุ้ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกรเพื่อระลึกไว้ตลอดไป โดยที่กิจการงานในทางโลกและความสัมพันธ์กับผุ้อื่นอาจทำให้มนุษย์หลงลืมตนเอง แต่เมื่อถึงเวลาละหมาดมันจะทำให้เขานึกขึ้นได้อีกครั้งหนึ่งว่าตนเป็นบ่าวของอัลเลาะฮ์ผู้ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกร
2. เพื่อให้ฝังแน่นอยู่ในจิตใจของมนุษย์ว่าไม่มีผู้ที่จะให้ความช่วยเหลือและให้ความสุขที่แท้จริงนอกจากอัลเลาะฮ์ ผู้ทรงเกรียงไกรเท่านั้น แม้เขาจะพบเห็นในโลกนี้ว่ามีสื่อและสาเหตุมากมายที่ดูเพียงผิวเผินแล้ว ช่วยเหลือและให้ความสุข แต่แท้ที่จริงแล้วอัลเลาะฮ์ตะอาลาได้ให้สิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงเครื่องอำนวยความสะดวกสบายแก่มนุษย์เท่านั้น ทุกครั้งที่มนุษย์หลงลืมและปล่อยตัวไปกับสื่อต่าง ๆ ที่เป็นเพียงผิวเผิน การละหมาดจะเป็นสิ่งคอยเตือนเขาว่าที่แท้จริงนั้นมาจากอัลเลาะฮ์ตะอาลาเพียงองค์เดียว พระองค์ทรงช่วยเหลือ ทรงให้ความสุข ทรงให้โทษ ทรงให้คุณ ทรงให้เป็น และทรงให้ตาย
3. มนุษย์จะได้ใช้ละหมาดเป็นช่วงเวลาของการสำนึกผิด จากความผิดต่าง ๆ ที่เขาได้ก่อขึ้นเนื่องจากในช่วงวันหนึ่งกับคืนหนึ่งนั้น มนุษย์ต้องเผชิญกับบาปและความผิดต่าง ๆ มากมาย ทังที่เขารู้ตัวและอาจไม่รู้ตัว ดังนั้นการละหมาดระหว่างเวลาหนึ่ง จะช่วยขัดเกลาเขาให้สะอาดบริสุทธิ์จากบาปและความผิดต่าง ๆ ได้ ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวอธิบายเรื่องดังกล่าวไว้ในฮะดิษซึ่งรายงานโดยมุสลิม (668) จากท่านญาบิร บุตร อับดิ้ลลาห์ ได้กล่าวว่า "เปรียบละหมาดห้าเวลาเหมือนแม่น้ำที่มีน้ำมากไหลผ่านประตูบ้านคนใดคนหนึ่งในพวกท่าน โดยที่เขาอาบน้ำจากแม่นั้นทุกวัน ๆ ละห้าครั้ง" ญาบิรได้กล่าวว่า "ฮะซันได้กล่าวว่า : การกระทำดังกล่าวจะทำให้มีสิ่งสกปรกใดเหลืออยู่อีกไหม?" (หมายความว่า "สิ่งสกปรก" ในที่นี้หมายถึงบาปต่าง ๆ ซึ่งตามรายงานของอะบีฮุรอยเราะฮ์ (ร.ด.) ที่มุสลิม (667) ได้บ่างชี้เช่นนั้น คือ "นั่นก็เหมือนกับละหมาดหน้าเวลาที่อัลเลาะฮ์จะทรงใช้มันลบล้างบาปต่าง ๆ"
4. ละหมาดเป็นเสมือนอาหารที่หล่อเลี้ยงหลักศรัทธา (อะกีดะฮ์) ที่อยู่ในจิตใจ ความเพลิดเพลินในดุนยาและการลวงล่อของชัยตอน จะทำให้มนุษย์หลงลืมหลักอะกีดะฮ์นี้ ถึงแม้จะถูกปลูกฝังอยู่ในจิตใจแล้วก็ตาม และเมื่อมนุษย์ตกอยู่ในความหลงลืม ในลักษณะเช่นนี้อย่างต่อเนื่องด้วยเหตุที่จมปลักอยู่ในอารมณ์ใฝ่ต่ำ และเพื่อนฝูงที่เลวคอยชัดนำ ความหลงลืมนี้จะเปลี่ยนเป็นการปฏิเสธและไม่ยอมรับเหมือนต้นไม้ที่ขาดน้ำล่อเลี้ยงก็จะเหี่ยวเฉาและตายไปในที่สุด และในไม่ช้าต้นไม้นั้นก็จะกลายเป็นฟืนที่ไร้ค่า แต่มุสลิมที่ยืนหยัดปฏิบัติละหมาดอย่างสม่ำเสมอ ละหมาดนั้นก็จะเป็นอาหารคอยหล่อเลี้ยงความมีศรัทธาของเขาให้สดชื่นและงอกงาม ความเพลิดเพลินในดุนยาไม่อาจทำให้ศรัทธาของเขาอ่อนแอและตายได้ (อัลฟิกห์ 1/88-89)
Re: บรรดาฮิกมะฮ์และปรัชญาต่าง ๆ แห่งบทบัญญัติอิสลาม By: al-azhary Date: ก.พ. 25, 2008, 12:16 PM
ฮิกมะฮ์ในการบัญญัติละหมาดเคาฟ์(ละหมาดในยามหวาดกลัว)
ฮิกมะฮ์จากบัญญัติ วิธีการต่าง ๆ เหล่านี้ในละหมาดก็เพื่อให้เกิดความสะดวกและกว้างขวางแก่มุกัลลัฟ เพื่อให้สามารถปฏิบัติฟัรดูนี้ได้ โดยที่เขามีความต้องการอย่างยิ่ง ที่จะติดต่อกับองค์อภิบาลของเขาผู้ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกรเพื่อขอความช่วยเหลือ และชัยชนะจากพระองค์ เขาจะสามารถข่มขวัญพวกผู้ไร้ศรัทธาได้ในสมรภูมิ หัวใจของเขาจะสงบนิ่งอยู่กับการรำลึกถึงองค์อภิบาลของเขา และจะเกิดความมั่นในชัยชนะ เขาจะสามารถยืนหยัดมั่นคงในสมรภูมิ จนกระทั่งความโป้ปดมดเท็จพินาจย่อยยับและชัยตอนตกเป็นของฝ่ายสัจจธรรม อัลเลาะฮ์ทรงสัจจะที่พระองค์ได้ตรัสว่า
"โอ้บรรดาผู้มีศรัทธา เมื่อพวกเขาพบกับพวกศัตรู พวกเจ้าจงยืนหยัดอย่างมั่นคง และรำลึกถึงอัลเลาะฮ์อย่างมากมาย แน่นอนพวกเจ้าจะชนะ" อัลอันฟาล 45
และที่สมควรกล่าวถึง ก็คือ การละหมาดในยามหวาดกลัว ด้วยวิธีการปฏิบัติต่าง ๆ ดังได้กล่าวมาแล้วนั้น ทหารมุสลิมสามารถจะดำรงละหมาดไว้ไดว้โดยไม่ยากลำบาก ไม่ว่ารูปแบบ และสื่อในการรบจะเป็นเช่นไร และไม่ว่าจะเป็นเวลาใดและในถานที่ใดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การสู้รบที่ไม่ต้องมีการเผชิญหน้ากันโดยตรงของทหาร ดังเช่นในปัจจุบัน ในการสู้รบสมัยใหม่
Re: บรรดาฮิกมะฮ์และปรัชญาต่าง ๆ แห่งบทบัญญัติอิสลาม By: al-azhary Date: ก.พ. 25, 2008, 12:18 PM
อะไรคือฮิกมะฮ์ในการอาบน้ำละหมาด?
"ความสะอาดเป็นสาเหตุสำคัญท่จะทำให้มนุษย์ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บเนื่องจากโรคภัยไข้เจ็บส่วนใหญ่ ที่แพร่กระจายไปในหมู่ผู้คนนั้น ก็เนื่องจากความสกปรกเป็นต้นเหตุ ดังนั้นการอาบน้ำละหมาด ด้วยการล้างหน้า มือทั้งสองข้าง จมูก เท้าทั้งสองข้าง ทุกวัน ๆ ละหลายครั้ง ย่อมทำให้ร่างกายปราศจากโรคต่าง ๆ