Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: nuree Date: ต.ค. 14, 2010, 08:49 PM

ผมขอถามว่า ระหว่าง อีหมาม อะหมัด กับ ท่านอีหมาม อัชอารี ใครมาก่อนครับ
และอีหมาม อะหมัด ใช้อิลมูกาลามตอบ พวกมุตาซีเลาะห์หรือเปล่าครับ

Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: As-Zaleek Date: ต.ค. 15, 2010, 07:55 AM

ผมขอถามว่า ระหว่าง อีหมาม อะหมัด กับ ท่านอีหมาม อัชอารี ใครมาก่อนครับ
และอีหมาม อะหมัด ใช้อิลมูกาลามตอบ พวกมุตาซีเลาะห์หรือเปล่าครับ

ท่านอิมามอะห์มัดได้ กล่าวเรื่องการถกเสวนากับพวกมั๊วะตะซิละฮ์ โดยคำสั่งจาก ค่อลีฟะฮ์อัลมั๊วะตะซิม ตอนหนึ่งความว่า (อัลมั๊วะซิม ได้กล่าวแก่อบูอับดุรเราะห์ความว่า เจ้าจงพูดเสวนากับอะห์มัด บิน ฮัมบัล เกี่ยวกับเรื่องอัลกุรอาน ท่านอิมามอะห์มัด เล่าว่า
فَقَالَ: مَا تَقُوْلُ فِي القُرْآنِ قُلْتُ: مَا تَقُوْلُ أَنْتَ فِيْ عِلْمِ اللهِ فَسَكَتَ
"แล้ว อะบูอับดุรเราะห์มาน(อุลามาอฺมั๊วะตะซิละฮ์) ได้กล่าวถาม(แก่ฉัน)ว่า ท่านจะพูดอย่างไรเกี่ยวกับอัลกุรอาน(ว่าเป็นมัคโลคหรือไม่?) ฉันกล่าวตอบไปว่า "แล้วท่านจะกล่าวอย่างไรเกี่ยวการทรงรู้ของอัลลอฮ์ล่ะ? อะบูอับดุรเราะห์มานจึงนิ่งเงียบ" ดู หนังสือซิยัร อะลามอันนุบะลาอฺ เล่ม 11 หน้า 245
ดังนั้นความเข้าใจของอิมามอะห์มัดที่มีต่ออัลกุรอานที่ เกี่ยวกับซีฟัตกะลามุลลอฮ์(การทรงตรัสของอัลลอฮ์)นั้น ก็เหมือนกับซีฟัตอิลมุ اَلْعِلْمُ (การทรงรอบรู้ของอัลลอฮ์) เพราะฉะนั้น ที่ซาตของอัลลอฮ์มีซีฟัตทรงรู้มาตั้งแต่เดิมนั้น ก็เหมือนกับซีฟัตกะลาม(การตรัส)ของอั้ลลอฮ์ที่ทรงตรัสมาตั้งแต่เดิมโดยไม่มี จุดเริ่มต้น , พระองค์ทรงรอบรู้ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต มิใช่หมายความว่าพระองค์เพิ่งมารู้ในช่วงเวลาหนึ่ง และไม่รู้อีกในช่วงเวลาหนึ่งที่เป็นอนาคต และมิใช่หมายความว่าพระองค์ต้องการจะรู้สิ่งหนึ่งที่บังเกิดขึ้นมาหลังจาก ที่ไม่รู้มาก่อน และมิใช่หมายความว่าหากสิ่งหนึ่งยังไม่เกิด พระองค์ก็ทรงยังไม่รู้ ,ซุบฮานัลลอฮิอัมมายะซิฟูน (พระองค์ทรงบริสุทธิ์จากสิ่งที่พวกตั้งภาคี-พวกตัชบีฮ์-ได้พรรณาไว้)
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php/topic,5947.0.htmlสังเกตุครับว่า อิหม่ามอะห์มัดไม่ได้ยกอัลกุรอานและฮะดีษในการโต้กับพวกมั๊วะตะซิละฮ์ แต่ให้หลักสติปัญญาในการเปรียบเทียบระหว่างซีฟัตกะลามกับซีฟัตอิลมุ
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: As-Zaleek Date: ต.ค. 15, 2010, 07:56 AM

ผมขอถามว่า ระหว่าง อีหมาม อะหมัด กับ ท่านอีหมาม อัชอารี ใครมาก่อนครับ
และอีหมาม อะหมัด ใช้อิลมูกาลามตอบ พวกมุตาซีเลาะห์หรือเปล่าครับ

بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
ท่านอิมามอัลบุฮูตีย์ปราชญ์มัซฮับฮัมบาลีย์ ได้กล่าวในบทที่ว่าด้วยเรื่อง "อัลญิฮาด" ความว่า
قوله (فَالْمُحَرَّمَةُ كَعِلْمِ الْكَلاَمِ) قَالَ ابْنُ حَمْدَانَ فِيْ آدَابِ الْمُفْتِيْ وَالْمُسْتَفْتِي: وَعِلْمُ الكَلاَمِ الْمَذْمُوْمِ هُوَ أُصُوْلُ الدِّيْنِ إِذَا تُكُلِّمَ فِيْهِ بِالْمَعْقُوْلِ الْمَحْضِ، أَوِالْمُخَالِفِ
لِلْمَنْقُوْلِ الصَّرِيْحِ الصَّحِيْحِ، فَإِنْ تُكُلِّمِ فِيْهِ بِالنَّقْلِ فَقَطْ، أَوْ بِالنَّقْلِ وَالْعَقْلِ الْمُوَافِقِ لَهُ فَهُوَ أَصْلُ الدِّيْنِ، وَطَرِيْقَةُ أَهْلِ السُّنَّةِ
"ดังนั้นบรรดาวิชาการที่ฮะรอม เช่น วิชาอัลกะลาม ซึ่งท่านอิบนุฮัมดานได้กล่าวไว้ในหนังสือ อาดาบอัลมุฟตีวัลมุสตัฟตีว่า วิชาอัลกะลามที่ถูกตำหนินั้น คือหลักศาสนาที่ถูกพูดด้วยหลักสติปัญญาเพียงอย่างเดียว หรือขัดกับตัวบทที่ชัดเจนและถูกต้อง ดังนั้นถ้าหากพูดด้วยตัวบทเท่านั้นหรือพูดด้วยตัวบทและหลักสติปัญญาที่สอดคล้องกับตัวบทด้วย แน่นอนว่ามันคือพื้นฐานของศาสนา(อุศูลุดดีน)และเป็นแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์" หนังสือฮาชียะฮ์อัลบุฮูตีย์ อะลัลอิกนาอฺ 1/459 , หนังสือกัชชาฟุลกินาอฺ อันมัตนิลอิกนาอฺ 3/34 ของอิมามอัลบุฮูตีย์
ท่านอิมามอิบนุมุฟลิห์(ปราชญ์มัซฮับฮัมบาลีย์และศิษย์ของท่านอิบนุตัยมียะฮ์) และท่านอิมามอัลบุฮูตีย์ปราชญ์มัซฮับฮัมบาลีย์ ได้กล่าวต่อไปว่า
وَوَجَدْتٌ فِيْ كِتَابٍ لِوَلَدِ وَلَدِ الْقَاضِي أَبِيْ يَعْلَى ذَكَرَ فِيْهِ خِلاَفاً فِي الْمَذْهَبِ، وَكَلَامُ الِإمَامِ أَحْمَدَ فِيْ ذَلِكَ قَالَ : إِنَّ عِلْمَ الكَلَامِ مَشْرُوْعٌ مَأْمُوْرٌ بِهِ ، وَتَجُوْزُ الْمُنَاظَرَةُ فِيْهِ، وَالْمَحَاجَّةُ لِأَهْلِ البِدَعِ ، وَوَضْعُ الْكِتَابِ فِي الرَّدِّ عَلَيْهِمْ . وَإِلَى ذَلِكَ ذَهَبَ أَئِمَّةُ التَّحْقِيْقِ الْقَاضِي وَالتَّمِيْمِيُّ فِيْ جَمَاعَةِ الْمُحَقِّقِيْنَ، وَتَمَسَّكُوْا فِيْ ذَلِكَ مَعَ اسْتِفْتَائِهِ عَنْ قَوْلٍ يُسْنَدُ إِلَيْهِ بِقَوْلِ الإِمَامِ أَحْمَدَ فِيْ رِوَايَةِ الْمَرُّوْذِيِّ : إِذَا اشْتَغَلَ بِالصَّوْمِ وَالصَّلاَةِ وَاعْتَزَلَ وَسَكَتَ عَنِ الكَلاَمِ فِيْ أَهْلِ البِدَعِ، فَالصَّوْمُ وَالصَّلاَةُ لِنَفْسِهِ ، وَإِذَا تَكَلَّمَ كاَنَ لَهُ وَلِغَيْرِهِ، يَتَكَلَّمُ أَفْضَلَ وَقَدْ أَلَّفَ أَحْمَدُ كِتَابًا فِي الرَّدِّ عَلَى الزَّنَادِقَةِ وَالْقَدْرِيَّةِ فِيْ مُتَشَابِهِ الْقُرْآنِ وَغَيْرِهِ، وَاحْتَجَّ فِيْهِ بِدَلاَئِلِ الْعُقُوْلِ . وَهَذَا الكِتَابُ رَوَاهُ ابْنُهُ عَبْدُاللهِ ، وَذَكَرَهُ الخَلَّالُ فِي كِتَابِهِ ، وَمَا تَمَسَّكَ بِهِ الأَوَّلُوْنَ مِنْ قَوْلِ أَحْمَدَ فَهُوَ مَنْسُوْخٌ
"ข้าพเจ้าได้พบในหนังสือของหลานท่านกอฏีอะบียะลา ได้กล่าวถึงการขัดแย้งในมัซฮับ(ฮัมบาลีย์)และคำพูดของอิมามอะห์มัดต่อสิ่งดังกล่าว เขากล่าวว่า แท้จริงวิชากะลามนั้นเป็นสิ่งที่ถูกสั่งใช้และถูกบัญญัติไว้ตามหลักศาสนา และอนุญาตให้ทำการวิภาษเกี่ยววิชากะลาม และทำการตอบโต้ต่อพวกบิดอะฮ์(ด้วยวิชาอัลกะลาม) และอนุญาตให้แต่งหนังสือนตอบโต้พวกเขา สิ่งดังกล่าว เป็นทัศนะของบรรดาปราชญ์ที่แน่นแฟ้นในวิชาความรู้ คือท่านอัลกอฎีและท่านอัตตะมีมีย์ ซึ่งอยู่ในกลุ่มของปราชญ์ที่แน่นแฟ้นในวิชาความรู้ ซึ่งพวกเขาได้ยึดสิ่งดังกล่าว พร้อมกับขอฟัตวาจากคำกล่าวที่พาดพิงไปยังคำกล่าวที่ถูกพาดพิงยังมัน(เกี่ยวกับเรื่องวิชาอัลกะลาม) ด้วยคำพูดของท่านอิมามอะห์มัด ซึ่งระบุไว้ในรายงานหนึ่งของอัลมัรรูซีย์ ที่ว่า เมื่อเขาได้ให้ความสนใจการถือศีลอดและการละหมาดและเขาได้ปลีกตัวและนิ่งเฉยจากการพูดเกี่ยวกับพวกบิดอะฮ์ การถือศีลอดและการละหมาดก็เป็นคุณแก่ตัวตัวเขาเองเท่านั้น แต่เมื่อเขาได้พูด(ตอบโต้เกี่ยวกับพวกบิดอะฮ์ด้วยวิชาอัลกะลาม) ก็เป็นคุณประโยชน์แก่ตัวเขาและผู้อื่นด้วย โดยที่เขาได้พูดซึ่งสิ่งที่ดีกว่านั่นเอง แท้จริงท่านอะห์มัดได้แต่งหนังสือเล่มหนึ่งในการโต้พวกนอกศาสนาและพวกก็อดรียะฮ์เกี่ยวกับอัลกุรอานและอื่น ๆ ที่มีความหมายคลุมเครือ และทำการอ้างหลักฐานด้วยหลักสติปัญญา และหนังสือเล่มนี้ บุตรของท่านอะห์มัด คืออับดุลลอฮ์ได้รายงานไว้ และท่านอัลค็อลล้าลก็ได้กล่าวไว้ในหนังสือของท่าน และสิ่งที่ปราชญ์ยุคก่อนได้ยึดจากคำพูดของท่านอะห์มัด(ที่ห้ามวิชาอัลกะลาม)นั้น ถือว่าถูกยกเลิกไปแล้ว
قَالَ أَحْمَدُ فِيْ رِوَايَةِ حَنْبَل: قَدْ كُنَّا نَأْمُرُ بِالسُّكُوْتِ فَلَمَّا دُعِيْنَا إِلَى أَمْرٍ مَا كَانَ بُدَّ لَنَا أَنْ نَدْفَعَ مِنْ ذَلِكَ وَنُبَيِّنَ مِنْ أَمْرِهِ مَا يَنْفِيْ عَنْهُ مَا قَالُوْهُ . ثُمَّ اسْتُدِلَّ لِذَلِكَ بِقَوْلِهِ تَعَالَى : (وَجَادِلْهُمْ بِالَّتِيْ هِيَ أَحْسَنُ) وَبِأَنَّهُ قَدْ ثَبَتَ عَنْ رُسُلِهِ الْجِدَالُ ، وَلِأَنَّ بَعْضَ اخْتِلاَفِهِمْ حَقٌّ وَبَعْضَهُ بَاطِلٌ، وَلاَ سَبِيْلَ إِلَى التَّمْيِيْزِ بَيْنَهُمْ إِلاَّ بِالنَّظَرِ فَعَلِمْتَ صِحَّتَهُ
ท่านอะห์มัดได้กล่าวไว้ในรายงานของฮัมบัลว่า แท้จริงเราได้ใช้ให้นิ่ง ดังนั้นเมื่อเราได้ถูกเรียกร้องยังเรื่องใดเรื่องหนึ่ง(ที่เป็นปัญหา) ก็จำเป็นแก่เราต้องทำการตอบโต้สิ่งดังกล่าวและทำการชี้แจงซึ่งสิ่งที่มาปฏิเสธคำพูดของพวกเขา หลังจากนั้นท่านอะห์มัดได้อ้างหลักฐานยืนยันให้กับสิ่งดังกล่าว ด้วยคำตรัสของอัลเลาะฮ์ตะอาลาที่ว่า "และเจ้าจงโต้เถียงกับพวกเขาด้วยสิ่งที่ดียิ่งกว่าเถิด" และได้ยืนยันจากบรรดาร่อซูลทั้งหลายว่ามีการโต้แย้ง(ด้วยเหตุผลกับกลุ่มชนที่ปฏิเสธ) และเพราะบางส่วนจากการขัดแย้งของพวกเขานั้นมีสิ่งที่เป็นสัจธรรมและบางส่วนเป็นสิ่งอธรรม(คละเคล้ากันไป) ซึ่งไม่มีหนทางใดไปสู่การแยกแยะระหว่างพวกเขาได้นอกจากด้วยการพิจารณาใคร่ครวญ แล้วท่านก็จะรู้ถึงความถูกต้อง" หนังสืออัลอาดาบ อัชชัรอียะฮ์ ของท่านอิบนุมุฟลิห์ 1/206 , หนังสือฮาชียะฮ์อัลบุฮูตีย์ อะลัลอิกนาอฺ 1/459
สิ่งที่ได้รับจากตัวบทดังกล่าว
1. อิลมุลกะลาม(วิชากะลาม)นั้นมีสองประเภท คือ 1. วิชากะลามที่ถูกตำหนิ เช่น วิชากะลามของพวกมั๊วะตะซิละฮ์ , พวกก็อดดะรียะฮ์ , และ 2. วิชากะลามที่ถูกสรรญเสริญ ที่กล่าววิเคราะห์ด้วยตัวบทและสติปัญญาที่สอดค้องกับตัวบทที่ถูกต้องชัดเจน นี่คือวิชากะลามของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
2. คำพูดของอิมามอะห์หมัดที่เคยห้ามร่ำเรียนวิชากะลามนั้น เป็นทัศนะที่ถูกยกเลิกไปแล้ว ซึ่งสานุศิษย์อิมามอะห์มัดและปราชญ์มัซฮับอิมามอะห์มัดย่อมรู้ดียิ่งกว่าแน่นอน
3. อิมามอะห์มัดได้ห้ามวิชากะลามที่ถูกตำหนิ ส่วนวิชากะลามของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์นั้นท่านได้ส่งเสริมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่มีความจำเป็น
4. อิมามอะห์มัดมิใช่เป็นอุลามาอฺมุตะกัลลิมีน(อุลามาอฺกะลาม)ตั้งแต่ต้น แต่เมื่อมีความจำเป็นต้องเข้าไปวิเคาะห์เกี่ยวกับการใช้หลักสติปัญญานั้น ก็จำต้องทำการวิเคราะห์เพื่อป้องกันฟิตนะฮ์และความคลุมเครือที่จะเกิดขึ้นในอะกีดะฮ์อิสลามและเพื่อแยกแยะสิ่งที่เป็นสัจธรรมได้
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُhttp://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=4679.0#quickreply
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: sunny Date: ต.ค. 15, 2010, 03:33 PM

ผมขอถามว่า ระหว่าง อีหมาม อะหมัด กับ ท่านอีหมาม อัชอารี ใครมาก่อนครับ
และอีหมาม อะหมัด ใช้อิลมูกาลามตอบ พวกมุตาซีเลาะห์หรือเปล่าครับ

การมาก่อนหรือหลังนั้น ไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นอยู่ที่...
อยากถามคุณ nuree ว่า อิหม่าม อะหมัด ท่านไม่ส่งเสริมก็จริง แต่.....
อยากถามท่านว่า อิหม่าม อะหมัด เคยคัดค้าน อิหม่าม อัชอารี หรือ ไม่ ....
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: nuree Date: ต.ค. 15, 2010, 04:02 PM

เท่าที่ผมทราบ ทุกอีหมาม ได้คัดค้านอิลมูกาลามที่เกี่ยวข้องกับซีฟัตของอัลเลาะห์

Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: As-Zaleek Date: ต.ค. 15, 2010, 04:38 PM
بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
ท่านอิมามอัลบุฮูตีย์ปราชญ์มัซฮับฮัมบาลีย์ ได้กล่าวในบทที่ว่าด้วยเรื่อง "อัลญิฮาด" ความว่า
قوله (فَالْمُحَرَّمَةُ كَعِلْمِ الْكَلاَمِ) قَالَ ابْنُ حَمْدَانَ فِيْ آدَابِ الْمُفْتِيْ وَالْمُسْتَفْتِي: وَعِلْمُ الكَلاَمِ الْمَذْمُوْمِ هُوَ أُصُوْلُ الدِّيْنِ إِذَا تُكُلِّمَ فِيْهِ بِالْمَعْقُوْلِ الْمَحْضِ، أَوِالْمُخَالِفِ
لِلْمَنْقُوْلِ الصَّرِيْحِ الصَّحِيْحِ، فَإِنْ تُكُلِّمِ فِيْهِ بِالنَّقْلِ فَقَطْ، أَوْ بِالنَّقْلِ وَالْعَقْلِ الْمُوَافِقِ لَهُ فَهُوَ أَصْلُ الدِّيْنِ، وَطَرِيْقَةُ أَهْلِ السُّنَّةِ
"ดังนั้นบรรดาวิชาการที่ฮะรอม เช่น วิชาอัลกะลาม ซึ่งท่านอิบนุฮัมดานได้กล่าวไว้ในหนังสือ อาดาบอัลมุฟตีวัลมุสตัฟตีว่า วิชาอัลกะลามที่ถูกตำหนินั้น คือหลักศาสนาที่ถูกพูดด้วยหลักสติปัญญาเพียงอย่างเดียว หรือขัดกับตัวบทที่ชัดเจนและถูกต้อง ดังนั้นถ้าหากพูดด้วยตัวบทเท่านั้นหรือพูดด้วยตัวบทและหลักสติปัญญาที่สอดคล้องกับตัวบทด้วย แน่นอนว่ามันคือพื้นฐานของศาสนา(อุศูลุดดีน)และเป็นแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์" หนังสือฮาชียะฮ์อัลบุฮูตีย์ อะลัลอิกนาอฺ 1/459 , หนังสือกัชชาฟุลกินาอฺ อันมัตนิลอิกนาอฺ 3/34 ของอิมามอัลบุฮูตีย์
สิ่งที่ได้รับจากตัวบทดังกล่าว
1. อิลมุลกะลาม(วิชากะลาม)นั้นมีสองประเภท คือ 1. วิชากะลามที่ถูกตำหนิ เช่น วิชากะลามของพวกมั๊วะตะซิละฮ์ , พวกก็อดดะรียะฮ์ , และ 2. วิชากะลามที่ถูกสรรญเสริญ ที่กล่าววิเคราะห์ด้วยตัวบทและสติปัญญาที่สอดค้องกับตัวบทที่ถูกต้องชัดเจน นี่คือวิชากะลามของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์

เท่าที่ผมทราบ ทุกอีหมาม ได้คัดค้านอิลมูกาลามที่เกี่ยวข้องกับซีฟัตของอัลเลาะห์

แสดงว่าคุณเรียนมาหมดแล้วซิน่ะจึงทราบได้แค่นั้น เมื่อคนอื่นทราบรายละเอียดการแยกแยะวิชาอัลกะลามอีกอย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนตน คุณก็มีท่าทีปฏิเสธซิน่ะ
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: sunny Date: ต.ค. 15, 2010, 07:18 PM

เท่าที่ผมทราบ ทุกอีหมาม ได้คัดค้านอิลมูกาลามที่เกี่ยวข้องกับซีฟัตของอัลเลาะห์

ตอบไม่ตรงคำถามอีกละ
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: nuree Date: ต.ค. 17, 2010, 06:47 PM

ผมขอถามว่า ระหว่าง อีหมาม อะหมัด กับ ท่านอีหมาม อัชอารี ใครมาก่อนครับ
และอีหมาม อะหมัด ใช้อิลมูกาลามตอบ พวกมุตาซีเลาะห์หรือเปล่าครับ

การมาก่อนหรือหลังนั้น ไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นอยู่ที่...
อยากถามคุณ nuree ว่า อิหม่าม อะหมัด ท่านไม่ส่งเสริมก็จริง แต่.....
อยากถามท่านว่า อิหม่าม อะหมัด เคยคัดค้าน อิหม่าม อัชอารี หรือ ไม่ ....

ทั้งสองอีหม่าม เคยเจอกันเหรอครับ

Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: sunny Date: ต.ค. 18, 2010, 12:43 PM
อีหม่าม อัชอารี ยอมรับแนวทาง อิหม่าม อะหมัด
การเคลื่อนไหวของอบู อัล-หะสัน อัล-อัชอารียฺ ถือเป็นงานที่กระทำต่อเนื่องจากอิหม่ามอะหฺมัด บิน หัมบัล ดังปรากฏคำยืนยันของอบุล หะสัน อัล-อัชอารียฺได้กล่าวยืนยันวิธีวิทยาของตนเองเอาไว้หนังสือ
อัล-อิบานะฮฺ อัน อุศูล อัล-ดิยานะฮฺ ว่า “ทัศนะของเราที่เราจะได้กล่าว ศาสนาของเราที่เราจะประกาศ คือการยึดมั่นต่อคัมภีร์ของพระเจ้าของเรา ต่อแบบฉบับ(ซุนนะฮฺ)ของศาสนทูตของเรา และสิ่งที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรดาเศาะหาบะฮฺ ตะบิอูน และผู้นำต่าง ๆ แห่งอัล-หะดีษ ด้วยสิ่งเหล่านี้เองที่เรายึดมั่น และด้วยสิ่งที่ อบู อับดุลลอฮฺ บิน อะหฺมัด บิน มุฮัมมัด บิน หันบัล - ขออัลลอฮฺประทานความสว่างไสวแก่ดวงหน้าของเขา ยกฐานะของเขา และตอบแทนรางวัลให้แก่เขา - เราก็มีทัศนะ(เช่นเขา) และด้วยสิ่งที่ขัดแย้งกับทัศนะของเขา เราก็ขัดแย้ง(เช่นเดียวกับเขา) เพราะว่าเขาคือผู้นำ(อีหม่าม)ที่มีคุณธรรม เป็นหัวหน้าที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งอัลลอฮฺได้ทำให้สัจธรรมปรากฏชัดเจนผ่านเขา ได้ขจัดความหลงทางด้วยกับเขา ได้ทำให้วิถีทาง(มันฮัจญฺ)กระจ่างชัดด้วยกับเขา ได้ทรงทำให้อุตริกรรมของบรรดาผู้อุตริทั้งหลาย ความเบี่ยงเบนออกจากสัจธรรมของบรรดาผู้เบี่ยงเบนทั้งหลาย ความสงสัยในสัจธรรมของบรรดาผู้สงสัยทั้งหลาย แตกสลายไปด้วยกับเขา ...” [1]
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: anti-bid'ah Date: ต.ค. 18, 2010, 05:01 PM

the Hadith of the Messenger of Allah (Allah bless him & give him peace). Sayyiduna Abd Allah ibn Umar (Allah be pleased with him) narrates that the Messenger of Allah (Allah bless him & give him peace) said: “O Allah! Bless our Sham and our Yemen. They (Sahaba) said: “Our Najd as well.” The Messenger of Allah (Allah bless him & give him peace) again said: “O Allah! Bless our Sham and our Yemen. They said again, “Our Najd as well.” The Messenger of Allah (Allah bless him & give him peace) said: “There, will appear earthquakes and tribulations, and from there will rise the horn of Shaytan.” (Sahih al-Bukhari, no. 990)
นบีกล่าว : โอ้ อัลลอฮฺ โปรดประทานความจำเริญแก่เมืองชามและเยเมนนด้วยเถิด
ซอฮาบะฮฺ : ขอให้เมืองนัดจฺ (มดีนะฮฺ-ผู้แปล)เราด้วยสิขอรับ ท่านรอซูล
นบี : โอ้ อัลลอฮฺ โปรดประทานความจำเริญแก่เมืองชามและเยเมนนด้วยเถิด
ซอฮาบะฮฺ : ขอให้เมืองนัดจฺ (มดีนะฮฺ-ผู้แปล)เราด้วยสิขอรับ ท่านรอซูล
นบี : ที่นั้นจักพบกับหายนะจากแผ่นดินไหวและทุรยศโกลาหล ที่นั้นแหล่ะเป็นรังแห่งชัยตอนมารร้าย
(อัลบุคอรีย์ : ๙๙๐)
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: hiddenmin Date: ต.ค. 18, 2010, 08:02 PM
เกี่ยวไรกับวะฮะบีหว่าา
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: ILHAM Date: ต.ค. 18, 2010, 09:05 PM
ก็วัฮบีเกิดที่นัจเด็นไง ประวัติวัฮบีไม่ได้บรรจุไว้ในหลักสูตรร.ร.หรอกหรือ
(จำแม่นเลย)
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: abdmal Date: มี.ค. 02, 2012, 02:52 AM
“และพระองค์ คือ อัลลอฮ์ทรงอยู่ในฟากฟ้าและอยู่ในแผ่นดิน” (อัลอันอาม : 3)
ตกใจกับการแปลอายะห์นี้ แว๊บแรกที่มาอ่าน อึ้งเลย จึงรีบไปดู ซอฟวาตุลตาฟาซีล ความหมายไม่ได้เป็นแบบนนั้นนี่
وَهُوَ اللَّهُ فِي السَّمَاوَاتِ وَفِي الْأَرْضِ) أي هو الله المعظم المعبود في السموات والأرض قال ابن كثير : أي يعبده ويوحده ويقر له بالألوهية من في السموات والأرض ويدعونه رغبا ورهبا ويسمونه الله
صفوة التفاسير - محمد علي الصابوني - دار الحديث القاهرة 371
กุรอ่านแปลไทยปกแดงเค้าก็แปลอย่างนี้นี่น่า
V
V
และพระองค์นั้นคือ อัลลอฮ์ ทั้งในบรรดาชั้นฟ้าและในแผ่นดิน(*1*)
(1) หมายถึงว่า อัลลอฮ์นั้นย่อมเป็นที่รู้จักกันดีทั้งในบรรดาชั้นฟ้า และในแผ่นดินว่า พระองค์นั้นคือพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงคุณลักษณะอันสมบูรณ์ทุกประการ
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: muqorrabeen Date: มี.ค. 02, 2012, 01:55 PM
“และพระองค์ คือ อัลลอฮ์ทรงอยู่ในฟากฟ้าและอยู่ในแผ่นดิน” (อัลอันอาม : 3)
ตกใจกับการแปลอายะห์นี้ แว๊บแรกที่มาอ่าน อึ้งเลย จึงรีบไปดู ซอฟวาตุลตาฟาซีล ความหมายไม่ได้เป็นแบบนนั้นนี่
وَهُوَ اللَّهُ فِي السَّمَاوَاتِ وَفِي الْأَرْضِ) أي هو الله المعظم المعبود في السموات والأرض قال ابن كثير : أي يعبده ويوحده ويقر له بالألوهية من في السموات والأرض ويدعونه رغبا ورهبا ويسمونه الله
صفوة التفاسير - محمد علي الصابوني - دار الحديث القاهرة 371
กุรอ่านแปลไทยปกแดงเค้าก็แปลอย่างนี้นี่น่า
V
V
และพระองค์นั้นคือ อัลลอฮ์ ทั้งในบรรดาชั้นฟ้าและในแผ่นดิน(*1*)
(1) หมายถึงว่า อัลลอฮ์นั้นย่อมเป็นที่รู้จักกันดีทั้งในบรรดาชั้นฟ้า และในแผ่นดินว่า พระองค์นั้นคือพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงคุณลักษณะอันสมบูรณ์ทุกประการ
ตรงนี้บ่งชี้ว่า จะแปลอัลกุรอานแบบตรงตัวเลยไม่ได้ เช่นคำตรัสที่ว่า "อัลลอฮ์ทรงอยู่ในฟากฟ้า..." ซึ่งจำเป็นต้องให้ความหมายเพิ่มเติมว่า "พระองค์ถูกให้เกียรติและถูกสักการะในฟากฟ้า..." ซึ่งหากแปลว่าอัลลอฮ์อยู่ในฟากฟ้าก็จะยิ่งกันใหญ่
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: muqorrabeen Date: มี.ค. 02, 2012, 01:55 PM

โหลดดูประวัติวะฮาบีอย่างเป็นธรรมที่ลิงค์นี้เพิ่มเติมโดยไม่ได้กล่าวหาพวกเขาเลย
http://www.mediafire.com/?4x7z69roazeuvvj