Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: whb Date: ต.ค. 10, 2010, 05:41 PM
มันมีสิ่งที่เร้นลับ และเราควรศรัทธา
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: al-azhary Date: ต.ค. 10, 2010, 05:44 PM
ผมเข้าใจในคำว่า สถิต ประทับ เหนือบัลลังค์หรือบนบัลลังค์
ที่ไม่ได้แปลว่า การนั่งลงบนเก้าอี้บัลลังค์ เพราะนั่นเกินขอบเขต
ผมเข้าใจในเชิงภาษาเท่านั้น ว่าคือ การสถิตหรือประทับ แต่ไมได้ล่วงรู้ในวิธีการ
คุณไม่ต้องมาเค้นผมหรอก อัลกุรอานที่แปลความหมายมาจากศูนย์อาหรับเขาก็แปล สถิต ประทับ
..
ผมศรัทธาว่าทรงสถิตเหนือบัลลังค์ หรือ ทรงประทับบนบัลลังค์
ผมยึดความหมาย สูงส่งเหนือบัลลังก์ เพราะการให้ความหมายประทับนั่ง สถิตนั้น เหมือนกับอะกีดะฮ์พวกยิวครับ ผมจึงไม่เลือกแปลความหมายนั้น แม้ว่าศูนย์นักนักเรียนเก่าอาหรับจะแปลก็ตาม เนื่องจากผมยึดสะลัฟ ไม่ใช่ศูนย์นักเรียนเก่าอาหรับครับ
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: whb Date: ต.ค. 10, 2010, 05:51 PM
แต่การแปลตามตัว และไม่ไถ่ถามถึงเรื่องนั้นมันก็ไม่ผิด
และผมก็มั่นใจว่า ผมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับหลักอะกีดะห์ของยิว
เมื่อพระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวถึงเรื่องมือ เท้า ตา การประทับของพระองค์บนบัลลังก์ หรือกล่าวถึงความกริ้ว การขว้าง ของพระองค์ .. หรือในหะดีษใดมีการกล่าวถึงการหัวเราะ การเสด็จลงมาของพระองค์ เป็นต้น ชาวสะลัฟจึงมีความเชื่อและศรัทธาตามนั้นทุกประการโดยไม่มีการเบี่ยงเบนความหมายใดๆ เพียงแต่กล่าวว่าลักษณะต่างๆดังกล่าวของพระองค์ จะไม่เหมือนลักษณะต่างๆของมนุษย์ และมนุษย์ก็ไม่อาจจะล่วงรู้ถึง “วิธีการ” การประทับ การขว้าง การฆ่า ความกริ้ว หรือการหัวเราะของพระองค์ได้ว่าเป็นอย่างไรเท่านั้น แม้ทางมโนภาพก็ตาม ...
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: Rachyds Date: ต.ค. 11, 2010, 02:07 AM

ด้วยความเคารพ ประมวลจากสถานการณ์ปัจจุบัน โดยส่วนมากชาววาฮาบีและสายเก่า ต่างโจมมีอคติต่อกัน โดยส่วนมากแล้วจะมีนักวิชาการรุ่นใหม่ไฟแรง อย่างท่าน.....รีดและบรรดาอาเล็มต่างๆ ออกมาโจมตีฝั่งสายเก่าซะมากว่า จะเป็นด้วยกระแสต้องการการตอบรับจากมวลชน หรือ แรงเชียร์อย่างใดมิทราบ เห็นท่านขึ้นเวทีเมื่อใหร่ ท่านก็ฟัตวาโจมตีพี่น้องมุสลิมด้วยกันอย่างรุนแรง หรือเสียๆหาย ซึ่งทางที่ดีท่านควรที่จะพูดในเชิงที่สร้างสรรค์หรือสร้างความสามัคคีให้แก่พี่น้องมุสลิมจะดีกว่า เรื่องคิลาฟิยะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ตราบใดที่เขาปฏิบัติโดยไม่ขัดกับหลักศาสนา ท่านก็อย่าโจมตีอย่างเสียๆหายๆ อย่าลืมครับว่าก่อนที่ท่านจะโด่งดัง พี่น้องมุสลิมก็มีความสงบอยู่ระดับนึง ประมาณว่าแนวทางใครก็แนวทางมัน ที่สำคัญคือกราบใหว้อัลลอฮ(ซ.บ)ด้วยกัน
กระผมไม่มีความถนัดทางด้านประวัติศาสตร์เลยมิอาจนำบทความทางด้านวิชาการมาสนับสนุน แต่จะขอเสวนาจากเหตุการณ์ปัจจุบันซะมากกว่า จรรยามารยาทของคนที่ได้ชื่อว่า ดาอี นั้นต้องมีความรับผิดชอบต่อเบื้องบนนั้นสูง ยิ่งกล่าวหาต่อพี่น้องมุสลิมลิมด้วยกันฟิตนะมันจะเกิด ท่านอยากเห็นหรือครับว่าพี่น้องคลานตามกันมา แต่ขัแย้งในเรื่องสายเก่าสายใหม่จนเวลาตายก็ไม่ไปร่วมพิธีฝัง เพียงเพราะว่าต่างยึดมั่นในหลักการของตน คุณจะยกมือหรือไม่ยกเวลาขอดุอาว์ก็แล้วแต่ความความถนัดและความรู้ของคุณ แต่ขออย่ามาก้าวก่ายว่าไม่ทำแบบคุณแล้วผิด
ถ้าจะพูดกันในทางสายกลางคุณก็อยู่ส่วนคุณ และเลิกหยุดที่จะโจมตีให้อีกฝ่ายซะ อย่าลืมครับว่าเดี๋ยวนี้มีนักวิชาการที่เดินอยู่ในสายกลางและไม่สุดโต่งโจมตีชาวบ้าน รุ่นใหม่ๆจบกันมาก็เยอะ ถ้าคุณว่าฝ่ายใหนดีคุณก็ปรึกษาท่านเหล่านั้นซะ
เรื่องซีฟัตของอัลลอฮ บอกตรงๆบ่าวคนนี้ไม่ขอเข้าไปยุ่งในกระทู้เพราะเกินความสามารถและสติปัญญาที่จะเสวนาในประเด็นเหล่านั้น
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: Muftee Date: ต.ค. 11, 2010, 05:19 AM
ผมเข้าใจในคำว่า สถิต ประทับ เหนือบัลลังค์หรือบนบัลลังค์
ที่ไม่ได้แปลว่า การนั่งลงบนเก้าอี้บัลลังค์ เพราะนั่นเกินขอบเขต
ผมเข้าใจในเชิงภาษาเท่านั้น ว่าคือ การสถิตหรือประทับ แต่ไมได้ล่วงรู้ในวิธีการ
คุณไม่ต้องมาเค้นผมหรอก อัลกุรอานที่แปลความหมายมาจากศูนย์อาหรับเขาก็แปล สถิต ประทับ
..
ผมศรัทธาว่าทรงสถิตเหนือบัลลังค์ หรือ ทรงประทับบนบัลลังค์
คุณบอกว่า
"คุณเข้าใจในคำว่า สถิต ประทับ เหนือบัลลังค์หรือบนบัลลังค์
ที่ไม่ได้แปลว่า การนั่งลงบนเก้าอี้บัลลังค์" แล้วถ้าไม่เข้าใจแบบนั้นแล้วเข้าใจแบบไหนละครับ ลองอธิบายมาสิ !!
คำว่า
"ประทับ" ตามพจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เค้าแปลว่า "อยู่กับที่ ,นั่ง ,แนบอยู่ ,แนบชิด ไปเปิดดูสิคับ...
ส่วนคำว่า
"สถิต" ตามพจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เค้าแปลว่า "ตั้งอยู่ ,ยืนอยู่" (ข้อมูลนี้ทั้งหมดไปเปิดดูได้เลยครับ ในพจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน)
ทั้งหมดทุกความหมายเหล่านี้ ถ้าตามภาษาไทยแล้ว ล้วนแล้วแต่ให้ความหมายว่า อัลลอฮฺนั่งอยู่ ,อัลลอฮฺตั้งอยู่ ,อัลลอฮฺยืนอยู่ ,อัลลอฮฺแนบอยู่ ,อัลลอฮฺติดอยู่ กับบัลลังก์ทั้งสิ้น
แล้วไม่ทราบว่าคนที่แปลอัล-กุรอาน เขาไม่เข้าใจภาษาไทยกระนั้นหรือคับ ว่าคำว่า "สถิตหรือประทับ" เนี๊ยะ ความหมายของมันคืออะไร ?? หากว่าเขาไม่รู้ความหมายภาษาไทยดีพอ เขาก็ไม่สมควรมาแปลอัล-กุรอาน แต่หากว่าเขารู้ความหมายอยู่แล้วละ ว่าแปลแล้ว จะได้ความหมายแบบนั้น แต่ก็ยังแปลไปอีก ก็แสดงว่าเขามีเจตนาเพื่อให้คนอ่านมีอะกีดะฮฺที่ตัชบีฮฺ (ทำให้อัลลอฮฺคล้ายคลึงกับมัคลูก) วัลอียาซุบิลละฮฺ.
คุณ Hafiz-dm ยึดแต่การแปลอัล-กุรอาน ตามแนวทางของสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ซึ่งเป็นการแปลที่ทำให้อัลลอฮฺมีคุณลักษณะตัชบีฮฺ (ทำให้อัลลอฮฺคล้ายคลึงกับมัคลูก) ผมแนะนำให้คุณ Hafiz-dm อ่านตำราแปลอัล-กุรอาน ของท่านอดีตจุฬาฯ ต่วน สุวรรณศาสน์ ครับ...ท่านแปลได้ดีมากและที่สำคัญ คือ ท่านไม่แปลความหมายของอัล-กุรอาน ไปในทางที่ทำให้อัลลอฮฺมีคุณลักษณะที่คล้ายคลึงกับมัคลูกครับ..
คุณ Hafiz-dm คับ...อย่าดันทุรังให้ความหมายต่อคุณลักษณะของอัลลอฮฺ ในลักษณะแบบนี้ต่อไปอีกเลย เพราะหากว่าอะกีดะฮฺของคุณเอนเอียน เรื่องอะมัลอิบาดะฮฺของคุณก็จะพลอยเสียหายไปด้วย.
ก็เหมือนกับว่า
"หากเสาบ้านได้เอนเอียงไปแล้ว ซึ่งก็แน่นอนว่า มันย่อมทำให้ส่วนอื่นของบ้านเอนเอียงไปด้วย"
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: whb Date: ต.ค. 11, 2010, 06:02 AM
ผมเชื่อและศรัทธาตามอายะห์นั้นๆโดยไม่อาจตีความไปเป็นอย่างอื่นได้
การประทับหรือสถิตบนบัลลังก์ของพระองค์ ผมไม่อาจตีความเกินจากนี้ แบบที่...บางคนได้ตีความไปว่าทรงยึด ทรงเหนือจากอำนาจทุกอย่าง(บัลลังก์)โดยการแปลคำว่าบัลลังก์หมายถึงอำนาจ? ทั้งๆที่ในสมัยท่านนบี ท่านนบีก็อ่านบรรดาโองการหรืออายะห์เกี่ยวข้องกันนี้ให้กับศอหาบะห์ท่านฟัง แต่ไม่มีใครหรอกที่ทักท้วงว่าและให้ความหมายในเชิงอื่นๆมากกว่าสิ่งที่ถูกประทานลงมาอย่างชัดแจ้งแล้ว บนบัลลังก์คือบนบัลลังก์ไม่ใช่เหนืออำนาจทุกอย่าง และปฎิเสธการประทับบนบัลลังก์ของพระองค์
การประทับบัลลังก์ของอัลลอฮ แสดงให้เห็นว่าทรงอยู่เบื้องสูง แต่จะอยู่อย่างไร รูปแบบใหนนั้น เป็นความเร้นลับที่ไม่ได้ทรงเปิดเผยให้เรารู้ เพราะฉะนั้นเราเชื่อตามที่ทรงบอกให้รู้ เท่านั้น เพราะการถามจากนั้นว่าทรงอยู่ประทับอย่างไร เหมือนมนุษย์หรือเปล่า มันเป็น บิดอะห์ และทุกๆบิดอะห์คือการหลงผิด
กรุณาอย่าเค้นถามผมเรื่องนี้อีก...เพราะผมไม่อาจหาญกล้าตอบให้ละเอียดได้ว่า พระองค์ทรงประทับอย่างไรในลักษณะใด
ดังที่ท่านอิมามมาลิกได้ตอบเมื่อครั้งที่ท่านถูกถามเกี่ยวกับวิธีการประทับของอัลลอฮฺบนบัลลังก์ว่า
"การประทับเป็นที่รู้กัน ส่วนวิธีการไม่เป็นที่ทราบ การศรัทธาต่อมัน(การประทับบนบัลลังก์)เป็นความจำเป็น การถามเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นสิ่งอุตริ"ทัศนะของ อบูหะซัน อัลอัชอะรียฺ เช่น ศิฟัต(คุณลักษณะ)ของอัลลอฮฺมียี่สิบ นอกเหนือนั้นให้ตีความ(ตะอฺวีล) เช่น
อัลลอฮฺทรงประทับบนบัลลังของพระองค์หมายถึง
อัลลอฮฺทรงครองอำนาจ ซึ่งทำให้คุณลักษณะของอัลลอฮฺถูกเปลี่ยน
การตีความแบบนี้มิได้มาจากอัลกุรอานแต่เป็นทัศนะ ท่านนบีก็ไม่ได้สอนให้ตีความแบบนี้ บรรดาเศาะฮาบะฮฺ รวมทั้งอิหม่ามชาฟิอียฺก็ไม่ได้สอน การตีความแบบนี้เริ่มตั้งแต่ศตวรรษที่สี่ สมัยของ อบูหะซัน อัลอัชอารียฺ เพราะในยุคนั้นนักปรัชญาศาสนาอื่นตำหนิว่าคุณลักษณะของอัลลอฮฺ เช่น ทรงประทับบนบัลลังก์ ก็เหมือนคนทั่วไปจะเป็นพระเจ้าได้อย่างไร จึงเริ่มมีการตีความ ซึ่งเป็นความคลาดเคลื่อนจากอะกีดะฮฺที่ถูกต้องซึ่งต้องมาจากอัลกุรอาน เป็นเรื่องที่ต้องศึกษา อิสตะวาอะลัลอัรชฺ – อัลลอฮฺทรงประทับบนบัลลังก์ จะเชื่ออย่างไรจึงจะถูกต้อง
อีกอย่าง พวกคุณเองที่จินตนาการไปเองว่า การประทับของอัลลอฮเหมือนการนั่งของมนุษย์?..
ทั้งๆที่ผมไม่เคยพูดทำนองนั้นมาก่อน
ผมศรัทธาต่ออายะห์อัลกุรอานนั้นๆ จบ! ไม่ตีความอย่างอื่น จบ! ไม่จินตนาการอย่างอื่น จบ! ไม่ให้ความหมายในเชิงอื่นๆ จบ!
ไม่อาจก้าวก่ายเป็นนักปรัชญาที่ไปให้ความหมายเชิงปรัชญาที่เอนเอียงไปนอกลู่จากอายะห์นั้นๆ จบ!
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: บาชีร Date: ต.ค. 11, 2010, 06:26 AM
ในอายะห์นี้ผมเชื่อในแบบตะวีล.
ผมเชื่อและศรัทธาตามอายะห์นั้นๆโดยไม่อาจตีความไปเป็นอย่างอื่นได้
ผมศรัทธาต่ออายะห์อัลกุรอานนั้นๆ จบ! ไม่ตีความอย่างอื่น จบ! ไม่จินตนาการอย่างอื่น จบ! ไม่ให้ความหมายในเชิงอื่นๆ จบ!
ไม่อาจก้าวก่ายเป็นนักปรัชญาที่ไปให้ความหมายเชิงปรัชญาที่เอนเอียงไปนอกลู่จากอายะห์นั้นๆ จบ!
อายะฮฺนึงฮาฟิซบอกว่าเชื่อแบบตะวีล(ตีความ
อีกอายะไม่ให้ตีความ
สรุปว่าค้านกันเองแล้วฮาฟิซ
อีกอย่างหาฟิซบอกว่าซอฮะบัตไม่ได้สอนให้ตีความ
แต่ฮาฟิซไม่รู้ไงครับ ว่าอิบนุอับบาสก็ตีความ ซึ่งเป็นซอฮาบัตด้วย
เพราะฮาฟิซทำตามๆ เชื่อตามๆมาโดยไม่รู้ว่า สิ่งที่เชื่ออยู่มันไม่ถูกครับ
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: As-Zaleek Date: ต.ค. 11, 2010, 06:36 AM
วะฮาบีนาม Hafiz-dm เป็นพวกทำตามอารมณ์ เดี๋ยวตรงนี้ตีความ แต่อีกที่ไม่ตีความ หลักการไม่คงที่คงวาเหมือนหลักปักอยู่บนขี้โคลน
การให้ความหมายประทับ นั่ง ก็ถือว่าจบแล้ว จะอ้างว่าเป็นอะฮ์ลิสซุนนะฮ์ก็อ้างไปอ้างคนเดียวก็แล้วกัน พี่น้องในเว็ปนี้เขารู้กันหมดแล้ว
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: As-Zaleek Date: ต.ค. 11, 2010, 06:50 AM
แค่จับจุดวะฮาบีให้ได้ ก็จบครับ ไม่ต้องไปฟังคำสาธยายอะไรให้มากมาย
เชื่อแบบตะวีล เมื่อมีอายะห์อื่นที่สนับสนุนให้ต้องเชื่อ
แล้วมีอายะฮ์ใหนบ้างล่ะ มาสนับนุนว่า อัลลอฮ์นั่ง ประทับ สถิต บนบัลลังก์ มีแต่อายะฮ์ที่มาสนับสนุนว่า อัลเลาะฮ์ทรงสูงส่งและทรงอำนาจปกครอง
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็ By: whb Date: ต.ค. 11, 2010, 06:50 AM
เชื่อแบบตะวีล เมื่อมีอายะห์อื่นที่สนับสนุนให้ต้องเชื่อ
อย่างอายะห์นั้น บอกว่า
"พระองค์คืออัลลอฮผู้ทรงอยู่ในฟากฟ้าและอยู่ในแผ่นดิน"
แล้วถ้าหากผมเชื่อในแบบความหมายตรง มันก็จะขัดกับ อายะห์ที่กล่าวว่า พระองค์ทรงประทับบนบัลลังก์
ซึ่งอายะห์ดังกล่าวก็มีฮะดิษที่เกี่ยวข้องกันนี้ในเรื่องนี้..
เพราะผมศรัทธาว่า พระองค์ทรงประทับอยู่เหนือบัลลังก์ ชั้นสูงส่ง และผมไม่ได้ศรัทธาตามใคร
ผมศรัทธาตามสิ่งที่พระองค์บอก
ผมศรัทธา และ ผมบอกแล้วว่าจะเค้นถามในเรื่องเร้นลับของพระองค์ทำไม..
มัคลูคอย่างผมตอบอะไรไมได้นอกจากศรัทธาและเชื่อ แต่ไม่อาจล่วงรู้ถึงการอยู่
เช่น ฮะดิษ
“อัลลอฮฺจะทรงกำโลกไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ในวันกิยามะฮฺ และจะทรงม้วนแผ่นฟ้าไว้ทางด้านพระหัตถ์ขวาของพระองค์ ต่อจากนั้นก็กล่าวว่า ข้านี่แหล่ะคือกษัตริย์ และไหนเล่าบรรดากษัตริย์ทั้งหลายที่เคยครองแผ่นดิน” (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หมายเลขหะดีษ 7382, มุสลิม หมายเลขหะดีษ 2787)
ผมก็เชื่อว่า พระองค์เป็นเช่นนั้น และจะทำเช่นนั้น แต่ไม่สามารถบอกอะไรต่อได้ว่าเป็นอย่างไร ทำอย่างไรในลักษณะใด ?
อีกฮะดิษหนึ่ง
หะดีษจากการบันทึกของท่านบุคอรีย์ หะดีษที่ 2826 โดยรายงานมาจากท่านอบูฮุร็อยเราะฮ์ ร.ฎ., จากท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมที่ว่า ...
يَضْحَكُ اللهُ إِلَى رَجُلَيْنِ، يَقْتُلُ أَحَدُهُمَا اْلآخَرَ يَدْخُلاَنِ الْجَنَّةَ، يُقَاتِلُ هَذَا فِىْ سَبِيْلِ اللهِ فَيُقْتَلُ، ثُمَّ يَتُوْبُ اللهُ عَلَى الْقَاتِلِ فَيُسْتَشْهَدُ
“พระองค์อัลลอฮ์ทรงหัวเราะต่อชายสองคน โดยที่คนหนึ่งได้ฆ่าอีกคนหนึ่ง แล้วทั้งสองก็ได้เข้าสวรรค์, (นั่นคือ)บุคคลผู้หนึ่งได้ทำสงครามสะบีลิ้ลลาฮ์แล้วเขาก็ถูกฆ่าตาย(ตายชะฮีด), ต่อมาพระองค์อัลลอฮ์ก็ทรงลุกะโทษต่อผู้ที่ฆ่าเขา แล้วเขาก็ตายชะฮีด(คือตายในสงครามสะบีลิ้ลลาฮ์)เช่นเดียวกัน” ...
และอีกบทหนึ่งอันเป็นหะดีษที่มีข้อความยืดยาวจากการบันทึกของท่านบุคอรีย์ (หะดีษที่ 7437
ผมก็ศรัทธาว่าทรงหัวเราะ แต่ไม่ทราบได้ว่าในลักษณะใด? อย่างไร? และไม่กล้าถาม!! ไม่กล้าคิด!!
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: whb Date: ต.ค. 11, 2010, 06:52 AM
เมื่อบทเหล่านี้ล่ะ
แท้จริงพระผู้อภิบาลของพวกเจ้านั้น คืออัลลอฮฺผู้ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผนดินภายในหกวันแล้วทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์..................[1]
แท้จริงพระผู้อภิบาลของพวกเจ้าคืออัลลอฮ.ผู้ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผนดินในเวลาหกวันแล้วพระองค์ทรงประทับอยู่บนบัลลังก์ ทรงบริหารกิจการไม่มีผู้ใดให้ความช่วยเหลือใดๆเว้นแต่ต้องได้รับอนุมัติจากพระองค์นั้นคืออัลลอฮ.พระผู้อภิบาลของพวกเจ้า พวกเจ้าจงเคารพภักดีต่อพระองค์เถิด พวกเจ้าไม่ได้ใคร่ครวญดอกหรือ?[3]
เชค ซอแหละอับดุลลอฮฺ เฟาซานได้อรรถาธิบายโองการนี้ในหนังสือเตาฮีดของท่าน จำเป็นที่เราจะต้องยึดมันในพระนามของพระองค์ตามที่พระองค์ได้กำหนด และใครก็ตามที่ได้ปฏิเสธ พระนามเหล่านั้นเท่ากับว่าเขากำลังปฏิเสธในสิ่งที่พระองค์นำมา แท้จริงพระองค์ทรงโกรธกริ้วบุคคลที่พวกเขาได้เปลี่ยนพระนามต่างๆของพระองค์และพวกเขาจะได้รับการลงโทษในความผิดที่ได้ก่อขึ้น เชคซอแหละอับดุลลอฮฺเฟาซานได้กล่าวอีกว่า โองการอัลกุรอาน ที่มีคำว่า อิสตาวะ ประกฎในรูปคำและประโยคก็ดีที่เหมือนกัน เป็นการบ่งบอกว่าโองการดังกล่าวมีความหมายตามที่ประกฎโดยไม่ต้องการการตะวิล[8]...................................
อัรชี ( عرش ) ในภาษาอาหรับหมายถึงบัลลังก์ของกษัตริย์ แต่อัรชี ( عرش ) ที่ประกฏในกุรอานนั้นหมายถึงบัลลังก์ของพระองค์อัลลอฮฺที่มีบรรดามลาอิกะห์แบกอยู่และเสมือนหลังคาที่ให้รมเงาแก่สิ่งถูกสร้าง
พระองค์ตรัสว่า
และมะลักก์จะประกฎอยู่บนเวหาและ(มะลาอีกะฮฺ)จำนวนแปดท่านจะทูนบัลลังก์ของพระผู้อภิบาลของเจ้าไว้ในวันนั้น [9]
พระองค์ตรัสว่า
บรรดาผู้แบกบัลลังก์และผู้ที่อยู่รอบๆบัลลังก์ต่างก็แซ่ซ้องด้วยการสดุดีสรรเสริญพระผู้อภิบาลของพวกเขาและศรัทธาต่อพระองค์และขออภัยโทษให้แก่บรรดาผู้ศรัทธา โอ้พระผู้อภิบาลของเราพระองค์ท่านทรงแผ่ความเมตตาและความรู้ไปทั่วทุกสิ่ง ขอพระองค์โปรดอภัยแก่บรรดาผู้ขอลุแก่โทษและดำเนินตามแนวทางของพระองค์ท่าน และทรงคุ้มครองพวกเขาให้พ้นจากการลงโทษแห่งไฟนรกด้วยเถิด [10]
ฉนั้นเป็นการเหมาะสมแล้วสำหรับผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรอย่างพระองค์ที่สถิตอยู่บนบัลลังก์ เราไม่ทราบวิธีการและคุณลักษณะอื่นๆในการสถิตย์อยู่บนบัลลังของพระองค์ แต่ทว่าเรายึดมันในสิ่งสอดคล้องและเราเขาใจตามความหมายในภาษาอาหรับ เหมือนคุณลักษณะอื่นๆของพระองค์ที่ประกฎในกุรอานที่ถูกประทานมาด้วยภาษาอาหรับ
[1] อัล อะรอฟ :54
[3] ยูนุส :3
[8] เปลี่ยนจากความหมายเดิมไปสู่อีกความหมายหนึ่ง ผู้แปล
[9] อัล ฮากอฮฺ : 17
[10] อัล ฆอฟัร :7
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: As-Zaleek Date: ต.ค. 11, 2010, 06:53 AM
แค่จับจุดวะฮาบีให้ได้ ก็จบครับ ไม่ต้องไปฟังคำสาธยายอะไรให้มากมาย เพราะเราไม่ได้ขัดแย้งกันในเรื่องอายะฮ์อัลกุรอานและฮะดีษ
แต่เราขัดแย้งกับวะฮาบีในเรื่องการเลือกความหมายที่เหมาะสมสำหรับอัลเลาะฮ์
เชื่อแบบตะวีล เมื่อมีอายะห์อื่นที่สนับสนุนให้ต้องเชื่อ
แล้วมีอายะฮ์ใหนบ้างล่ะ มาสนับนุนว่า อัลลอฮ์นั่ง ประทับ สถิต บนบัลลังก์ มีแต่อายะฮ์ที่มาสนับสนุนว่า อัลเลาะฮ์ทรงสูงส่งและทรงอำนาจปกครอง
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: whb Date: ต.ค. 11, 2010, 06:56 AM
มีเยอะน่ะ!
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: Muftee Date: ต.ค. 11, 2010, 07:05 AM
ไม่ว่ายังไงวะฮาบีย์ก็พยายามแปลคำว่า استواء ให้มีความหมายว่า "นั่ง" หรือ "ประทับ" หรือ "สถิต" อยู่ดี การแปลคำว่า استواء ในความหมายข้างต้น ไม่ถูกต้องคับ
Re: นำเสนอประวัติจุดกำเนิดวะฮาบีย์ที่เป็นธรรม By: As-Zaleek Date: ต.ค. 11, 2010, 07:15 AM
จะยกอะไรมาก็แล้วแต่ โดยการให้ความหมายและเชื่อว่าอัลเลาะฮ์นั่งประทับ สถิต บนบัลลังก์ ถือว่าเป็นบิดอะฮ์ไม่ใช่อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
ส่วนการยกคำพูดของอุลามาอฺมาเกี่ยวกับเรื่องอิสติวาอฺ แล้วให้ความหมายเป็นไทยว่า ประทับนั่ง สถิต ถือว่าเป็นการโกหกใส่ร้ายอุลามาอฺ ซึ่งแม้ว่าการโกหกในเชิงนี้จะเป็นที่อนุญาตของวะฮาบีก็ตาม แต่พวกเราชาวอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ไม่ยอมตกเป็นเหยื่อทางอะกีดะฮ์บิดอะฮ์ที่วะฮาบีพยายามนำเสนอความหมายที่เกี่ยวกับซีฟัตของอัลเลาะฮ์ได้หรอก