
อาลัยร่อมะฎอน เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับพี่น้องมุสลิมมากมาย นั่นก็เพราะว่าพวกเขาได้ตระหนักถึงคุณค่าอันยิ่งใหญ่ของเดือนร่อมะฎอน แต่เมื่อร่อมะฎอนผ่านไป ผู้เขียนก็นึกถึงพระดำรัสของอัลเลาะฮ์ตะอาลาที่ว่า
فَإِذَا فَرَغْتَ فَانْصَبْ
“เมื่อเจ้าเสร็จสิ้น (จากภารกิจแล้ว) เจ้าจงบากบั่นต่อไปเถิด”[อัลอินชิรอหฺ: 7]
ดังนั้นเมื่อร่อมะฎอนได้ผ่านพ้นไป และอัลเลาะฮ์ตะอาลาก็ทรงประทานความเมตตาและความโปรดปรานให้เราถือศีลอดอย่างลุล่วงไปด้วยดีนั้น เราก็จงบากบั่นปฏิบัติอิบาดะฮ์ต่อไปเพื่อชุกูร (ขอบคุณ) อัลเลาะฮ์ต่อเนี๊ยะอฺมัตอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ได้ทรงประทานให้ และหนึ่งในอิบาดะฮ์หลังจากร่อมะฎอนนั้น คือซุนนะฮ์ให้ทำการถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาลนั่นเอง
ผู้ใดจะได้เข้าประตูสวรรค์อัรร็อยยาน
ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
إِنَّ فِي الْجَنَّةِ بَابًا يُقَالُ لَهُ الرَّيَّانُ يَدْخُلُ مِنْهُ الصَّائِمُونَ يَوْمَ الْقِيَامَةِ لَا يَدْخُلُ مِنْهُ أَحَدٌ غَيْرُهُمْ يُقَالُ أَيْنَ الصَّائِمُونَ فَيَقُومُونَ لَا يَدْخُلُ مِنْهُ أَحَدٌ غَيْرُهُمْ فَإِذَا دَخَلُوا أُغْلِقَ فَلَمْ يَدْخُلْ مِنْهُ أَحَدٌ
“แท้จริงในสวรรค์นั้นมีประตูหนึ่ง ถูกเรียกว่า อัรร็อยยาน ซึ่งบรรดาผู้ถือศีลอดนั้นจะได้เข้าจากประตูนั้นในวันกิยามะฮ์ โดยไม่มีผู้ใดสามารถเข้าจากประตูนั้นได้นอกจากพวกเขาเหล่านั้น (ในวันกิยามะฮ์นั้น) จะถูกกล่าวขึ้นว่า บรรดาผู้ถือศีลอดอยู่ใหน? แล้วพวกเขาก็ยืนขึ้น โดยไม่มีผู้ใดสามารถเข้าจากประตูนั้นได้นอกจากพวกเขาเท่านั้น ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้เข้าไปแล้ว ประตูก็ถูกปิด แล้วไม่มีผู้ใดเข้าไปได้อีกเลย” รายงานโดยอัลบุคอรีย์, ฮะดีษเลขที่ 1896, และมุสลิม, ฮะดีษเลขที่ 1152.
หมายถึง บรรดาผู้ที่ถือศีลอดสุนัตมากๆ และเป็นประจำ ไม่ใช่หมายถึงบรรดาผู้ถือศีลอดที่เป็นฟัรฎู เพราะการถือศีลอดฟัรดูนั้น มุสลิมทั้งหลายต่างมีความเท่าเทียมกัน. (ดู อิบนุอัลลาล, ดะลีลุลฟาลิฮีน, เล่ม 4 หน้า 23) ดังนั้นผู้ที่ชอบถือศีลอดสุนัตอย่างสม่ำเสมอหลังจากทำฟัรฎูเรียบร้อยแล้วนั้น เขาจะถูกเรียกให้เข้าสวรรค์ทางประตูที่ชื่อว่า “อัรร็อยยาน” ซึ่งหมายถึง “ประตูแห่งความสดชื่น” ซึ่งผู้ที่ใดที่เข้าไปแล้วจะไม่มีความหิวกระหายตลอดไปเนื่องจากเขาได้เคยอดทนหิวกระหายในการถือศีลอดเพื่ออัลเลาะฮ์ในโลกดุนยานั่นเอง
ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
مَنْ صَامَ رَمَضَانَ ثُمَّ أَتْبَعَهُ سِتًّا مِنْ شَوَّالٍ كَانَ كَصِيَامِ الدَّهْرِ
“ผู้ใดถือศีลอดร่อมะฎอนแล้ว หลังจากนั้นเขาได้ถือศีลอดต่อจากเดือนร่อมะฎอนอีก 6 วันจากเดือนเชาวาล แน่นอนเหมือนว่าเขาได้ถือศีลอดตลอดทั้งปี” รายงานโดยมุสลิม, ฮะดีษเลขที่ 1164.
หมายถึง การถือศีลอดเดือนร่อมะฎอนนั้นมี 30 วัน ซึ่งการถือศีลอด 1 วันนั้นอย่างน้อยได้ผลบุญเท่ากับถือศลอด 10 วัน เพราะทำ 1 ความดีจะได้ผลการตอบแทนถึง 10 เท่าเป็นอย่างน้อย ดังนั้นการถือศีลอด 30 วันก็เท่ากับ 300 วันเป็นอย่างน้อย และถ้าหากทำการถือศีลอดอีก 6 วันในเดือนเชาวาลหลังร่อมะฎอนก็เท่ากับว่าเขาได้ถือศีลอดอีก 60 วัน เพราะได้กล่าวมาข้างต้นแล้วว่า การถือศีลอด 1 วันนั้นอย่างน้อยได้ผลบุญ 10 เท่า เพราะฉะนั้นการถือศีลอดเดือนร่อมะฎอนและติดตามอีก 6 วันของเดือนเชาวาล ก็เท่ากับเขาได้ถือศีลอด 360 วัน ซึ่ง 360 วันก็คือหนึ่งปีตามการนับเดือนของอิสลามนั่นเอง
การถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาลอย่างไรที่ดีเลิศที่สุด?
ท่านอิหม่ามอันนะวาวีย์ได้กล่าวว่า
قَالَ أَصْحَابُنَا : وَالْأَفْضَل أَنْ تُصَامَ السِّتَّةُ مُتَوَالِيَةً عَقِبَ يَوْم الْفِطْرِ ، فَإِنْ فَرَّقَهَا أَوْ أَخَّرَهَا عَنْ أَوَائِلِ شَوَّالٍ إِلَى أَوَاخِرِهِ حَصَلَتْ فَضِيلَةُ الْمُتَابَعَةِ ؛ لِأَنَّهُ يَصْدُقُ أَنَّهُ أَتْبَعَهُ سِتًّا مِنْ شَوَّالٍ
“ปราชญ์แห่งเรา กล่าวว่า ที่ดีเลิศนั้น คือหลังวันอีดฟิตริให้ถือศีลอด 6 วันติดต่อกัน แต่ถ้าหากถือศีลอด 6 วันแบบแยกวัน หรือถือศีลอด 6 วันแบบล่าช้าไปถึงช่วงท้ายของเดือนเชาวาล ก็ถือว่าตามซุนนะฮ์ของท่านนบี ศ็อลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เช่นกัน เพราะได้ยืนยันแล้วว่า เขาได้ถือศีลอด 6 วันจากเดือนเชาวาลต่อจากร่อมะฎอนแล้ว” ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม, เล่ม 4 หน้า 313.
ท่านอัลลามะฮ์ ซัยนุดดีน อัลฟะนานีย์ ได้กล่าวว่า
وَإِتِّصَالُهَا بِيَوْمِ الْعِيْدِ أَفْضَلُ مُبَادَرَةً لِلْعِبَادَةِ
“การถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาลติดต่อหลังจากวันอีดนั้น ประเสริฐยิ่งกว่า เนื่องจากเป็นการรีบทำอิบาดะฮ์” อิอานะฮ์ อัฏฏอลิบีน, เล่ม 2 หน้า 420.
ดังนั้นการถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาลที่ดีเลิศที่สุดนั้น คือถือศีลอดติดต่อหลังจากวันอีดเลย เพื่อเป็นการรีบทำอิบาดะฮ์ให้เสร็จล่วงไป เพราะการล่าช้านั้นอาจจะทำให้พลาดโอกาสในการถือศีลอดสุนัตนี้ เนื่องจากไม่รู้ว่าต่อไปข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นแก่เรานั่นเอง
มีศีลอดที่ต้องชดใช้จะทำการถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาลได้หรือไม่?
ประเด็นการถือศีลอดชดใช้ร่อมะฎอนนั้นมี 2 กรณีด้วยกัน กล่าวคือ:
1. กรณีขาดศีลอดร่อมะฎอนอันเนื่องจากมีอุปสรรค เช่น มีประจำเดือน เจ็บป่วย และเดินทาง เป็นต้น ก็สุนัตให้ทำการถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาลติดต่อหลังจากวันอีดเลยได้ และหลังจากนั้นก็ชดใช้ศีลอดร่อมะฎอนที่ขาดไป แล้วผลบุญการถือศีลอดทั้งปีก็จะเกิดขึ้นตามที่ตัวบทฮะดีษได้ระบุไว้
ท่านอิมามอิบนุฮะญัร อัลฮัยตะมีย์ ได้กล่าวว่า
وَقَضِيَّةُ الْمَتْنِ نَدْبُهَا حَتَّى لِمَنْ أَفْطَرَ رَمَضَانَ وَهُوَ كَذَلِكَ إلَّا فِيمَنْ تَعَدَّى بِفِطْرِهِ ؛ لِأَنَّهُ يَلْزَمُهُ الْقَضَاءُ فَوْرًا
“ประเด็นคำพูดของอิมามอันนะวาวีย์นั้น คือซุนนะฮ์ให้ทำการถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาลแม้กระทั่งผู้ที่เคยแก้ศีลอด (เนื่อจากมีอุปสรรค) ในเดือนร่อมะฎอนก็ตาม นอกจากผู้ที่ละเมิดในการแก้ศีลอด (เช่น เจตนาในการทำให้เสียศีลอด ก็ถือว่าฮะรอมทำการถือศีลอด 6 วันเดือนเชาวาล) เพราะจำเป็นบนเขาจะต้องทำการชดใช้ (ศีลอดร่อมะฏอน) อย่างรีบด่วน (และหลังจากชดใช้แล้วค่อยถือศีล 6 วันของเดือนเชาวาล) ” ตั๊วะห์ฟะตุลมั๊วะห์ตาจญ์ เล่ม 3 หน้า 457.
2. กรณีขาดศีลอดร่อมะฎอนโดยไม่มีอุปสรรคอันใด เช่น เจตนากินและดื่มในขณะถือศีอลดร่อมะฎอน เป็นต้น ก็ถือว่าฮะรอมถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาล และจำเป็นบนเขาต้องรีบทำการชดใช้ศีลอดร่อมะฎอนที่ติดค้างก่อน แล้วหลังจากนั้นก็ทำการถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาล
ท่านชัยคุลอิสลาม อับดุลลอฮ์ อัชชัรกอวีย์ ได้กล่าวว่า
إِنْ أَفْطَرَهُ تَعَدِّياً حَرُمَ عَلَيْهِ صَوْمُهَا لِمَا فِيْهِ مِنْ تَأْخِيْرِ الْقَضاَءِ الْفَوْرِيِّ
“ถ้าหากเขาแก้ศีลอดร่อมะฎอนโดยละเมิด (มิชอบตามหลักการ) ก็ถือว่าฮะรอมบนเขาทำการถือศีลอด 6 วันเดือนเชาวาล เนื่องจากการถือศีลอด 6 วันเดือนเชาวาลนั้นเป็นการทำให้ล่าช้าในการชดใช้ศีลอดร่อมะฎอนที่ต้องรีบกระทำ” ฮาชียะฮ์ อัชชัรกอวีย์, เล่ม 2 หน้า 322.
สรุปคือ หากเขาชดใช้ศีลอดร่อมะฎอนก่อน แล้วถือศีลอดเดือนเชาวาล ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ถ้าหากศีลอดร่อมะฎอนที่ขาดไปนั้นเนื่องจากมีอุปสรรค ก็ให้ถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาลได้พร้อมกับตั้งใจว่าจะชดใช้ศีลอดร่อมะฎอนที่ขาดไป ส่วนผู้ที่ขาดศีลอดร่อมะฎอนแบบละเมิดและทำเบาความนั้น ฮะรอมถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาล และจำเป็นบนเขาต้องชดใช้ศีลอดร่อมะฎอนอย่างรีบด่วน แล้วหลังจากนั้นค่อยถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาลนั่นเอง
การถือศีลอดชดใช้พร้อมกับถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาลจะได้หรือไม่?
การถือศีลอดชดใช้ร่อมะฎอนพร้อมกับเหนียตถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาลนั้น อนุญาตให้กระทำได้ตามทัศนะของปราชญ์ยุคหลัง และได้ซุนนะฮ์ในเชิงรูปแบบที่มีการถือศีลอดเกิดขึ้น 6 วันในเดือนเชาวาล แต่ผลบุญที่ได้รับนั้นจะไม่สมบูรณ์
ในฟัตวาของท่านอิม่ามชิฮาบุดดีน อัรรอมลีย์ ได้ระบุความว่า
سُئِلَ عَنْ شَخْصٍ عَلَيْهِ صَوْمٌ مِنْ رَمَضَانَ وَقَضَاءٌ فِي شَوَّالٍ هَلْ يَحْصُلُ لَهُ قَضَاءُ رَمَضَانَ وَثَوَابُ سِتَّةِ أَيَّامٍ مِنْ شَوَّالٍ وَهَلْ فِي ذَلِكَ نَقْلٌ؟ فَأَجَابَ بِأَنَّهُ يَحْصُلُ بِصَوْمِهِ قَضَاءُ رَمَضَانَ وَإِنْ نَوَى بِه غَيْرَهُ وَيَحْصُلُ لَهُ ثَوَابُ سِتَّةٍ مِنْ شَوَّالٍ وَقَدْ ذَكَرَ الْمَسْأَلَةَ جَمَاعَةٌ مِنْ الْمُتَأَخِّرِينَ
“ท่านอิหม่ามอัรร็อมลีย์ถูกถามเกี่ยวกับ บุคคลหนึ่งที่ติดค้างการถือศีลอดร่อมะฎอนและทำการชดใช้ในเดือนเชาวาล ดังนั้นผลบุญการก่อฎอและผลบุญ 6 วันของเชาวาลจะได้รับหรือไม่? และสิ่งดังกล่าวมีการถ่ายทอดไว้หรือไม่? ท่านอิหม่ามอัรร็อมลีย์ตอบว่า “การชดใช้ศีลอดร่อมะฎอนพร้อมกับการถือศีลอด (สุนัต) ของเขานั้นได้ผลบุญหากแม้ว่าจะเนียตการถือศีลอด (ชดใช้) พร้อมกับศีลอด (สุนัต) อื่นด้วยก็ตาม และการถือศีลอด 6 วันในเดือนเชาวาลก็ได้รับผลบุญเช่นเดียวกัน ซึ่งประเด็นปัญหานี้ปราชญ์ยุคหลังกลุ่มหนึ่งได้กล่าวเอาไว้” ดู ฟะตาวา อัรร็อมลีย์, เล่ม 2 หน้า 66.
แต่ผลบุญที่ได้นั้นจะไม่สมบูรณ์ตามที่ตัวบทฮะดีษได้ระบุไว้ดังที่ท่านอัลลามะฮ์ อับดุลหะมีด อัชชัรวานีย์ ได้กล่าวอธิบายเพิ่มเติมว่า
وَلَوْ صَامَ فِي شَوَّالٍ قَضَاءً أَوْ نَذْرًا أَوْ غَيْرَهُمَا أَوْ فِي نَحْوِ يَوْمِ عَاشُورَاءَ حَصَلَ لَهُ ثَوَابُ تَطَوُّعِهَا كَمَا أَفْتَى بِهِ الْوَالِدُ رَحِمَهُ اللَّهُ تَعَالَى تَبَعًا لِلْبَارِزِيِّ وَالْأَصْفُونِيِّ وَالنَّاشِرِيِّ وَالْفَقِيهِ عَلِيِّ بْنِ صَالِحٍ الْحَضْرَمِيِّ وَغَيْرِهِمْ لَكِنْ لَا يَحْصُلُ لَهُ الثَّوَابُ الْكَامِلُ الْمُرَتَّبُ عَلَى الْمَطْلُوبِ لَا سِيَّمَا مَنْ فَاتَهُ رَمَضَانُ وَصَامَ عَنْهُ شَوَّالًا ؛ لِأَنَّهُ لَمْ يَصْدُقْ عَلَيْهِ الْمَعْنَى الْمُتَقَدِّمُ ا هـ . وَفِي الْمُغْنِي مَا يُوَافِقُهُ
“หากเขาได้ทำการถือศีลอดชดใช้หรือบนบาน หรืออื่นๆ จากทั้งสอง (เช่น ถือศีลอดกัฟฟาเราะฮ์อันเนื่องจากผิดสาบาน) ในเดือนเชาวาลหรือในวันอาชูรออฺ ก็จะได้ผลบุญการถือศีลอดสุนัตแก่เขาตามที่ท่านอิมามชิฮาบุดดีน อัรรอมลีย์ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ ได้ฟัตวาไว้ โดยตามการฟัตวาของท่านอัลบาริซีย์, ท่านอัลอัศฟูนีย์, ท่านอัลนาชิรีย์, ท่านอัลฟะกีฮ์ อะลี บิน ศอลิห์ อัลหัฎร่อมีย์, และท่านอื่นๆ แต่ทว่าเขาจะไม่ได้ผลบุญที่สมบูรณ์ตามที่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ขาดศีลอดเดือนร่อมะฎอนและมาถือศีลอดชดใช้ร่อมะฎอนควบกับถือศีลอดเชาวาล เนื่องจากความหมายที่ข้างต้น (ของฮะดีษที่ว่า ถือศีลอดร่อมะฎอนครบถ้วนและติดตามด้วยศีลอดอีก 6 วันของเดือนเชาวาล) มิได้ถูกยืนยันแก่เขา (เพราะเขายังติดค้างศีลอดร่อมะฎอนอยู่) และในหนังสือมุฆนิลมั๊วะห์ตาจญ์ มีคำพูดที่สอดคล้องกับสิ่งดังกล่าวนี้” ดู หะวาชีย์ อัชชัรวานีย์ อะลา ตั๊วะห์ฟะฮ์ อัลมั๊วะห์ตาจญ์ เล่ม 3 หน้า 407, และชัยคุลอิสลาม อับดุลลอฮ์ อัชชัรกอวีย์, ฮาชียะฮ์ อัชชัรกอวีย์, เล่ม 2 หน้า 322.
ท่านอัลลามะฮ์ อัลค่อฏีบ อัชชัรบีนีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือมุฆนีลมั๊วะห์ตาจญ์ของท่านว่า
وَلَوْ صَامَ فِي شَوَّالٍ قَضَاءً أَوْ نَذْرًا أَوْ غَيْرَ ذَلِكَ ، هَلْ تَحْصُلُ لَهُ السُّنَّةُ أَوْ لَا ؟ لَمْ أَرَ مَنْ ذَكَرَهُ ، وَالظَّاهِرُ الْحُصُولُ . لَكِنْ لَا يَحْصُلُ لَهُ هَذَا الثَّوَابُ الْمَذْكُورُ خُصُوصًا مَنْ فَاتَهُ رَمَضَانُ وَصَامَ عَنْهُ شَوَّالًا ؛ لِأَنَّهُ لَمْ يَصْدُقْ عَلَيْهِ الْمَعْنَى الْمُتَقَدِّمُ
“ถ้าเขาได้ถือศีลอดชดใช้ หรือบนบาน หรืออื่นๆ จากสิ่งดังกล่าว (เช่น ถือศีลอดกัฟฟาเราะฮ์อันเนื่องจากผิดสาบาน) ในเดือนเชาวาล, การตามซุนนะฮ์ (ในการถือศีลอด 6 วันของเชาวาล) จะเกิดขึ้นแก่เขาหรือไม่? (ท่านอัลค่อฏีบ อัชชัรบีนีย์ตอบว่า) ฉันไม่เคยเห็นว่ามีปราชญ์ท่านใดกล่าวเรื่องนี้เอาไว้เลย แต่ที่ปรากฏชัดแบบผิวเผินนั้น ถือว่าได้ซุนนะฮ์ (ในการถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาล เพราะมีการถือศีลอดเกิดขึ้นในเดือนเชาวาลนั่นเอง) แต่เขาจะไม่ได้ผลบุญที่ถูกระบุไว้ในฮะดีษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ติดค้างศีลอดเดือนร่อมะฎอน และมาถือศีลอดชดใช้ร่อมะฎอนควบกับถือศีลอดเชาวาล เนื่องจากความหมายที่ข้างต้น (ของฮะดีษที่ว่า ถือศีลอดร่อมะฎอนครบถ้วนและติดตามด้วยศีลอดอีก 6 วันของเดือนเชาวาล) มิได้ถูกยืนยันแก่เขา (เพราะเขายังติดค้างศีลอดร่อมะฎอนอยู่) ” ดู มุฆนิลมั๊วะห์ตาจญ์ เล่ม 2 หน้า 447.
ดังนั้นผู้เขียนขอสนับสนุนให้ผู้อ่านทำการถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาลในรูปแบบที่ดีเลิศที่สุด แต่ไม่ควรถือศีลอดในรูปแบบชดใช้ร่อมะฎอนพร้อมกับเหนียตศีลอดสุนัต 6 วันของเดือนเชาวาล เพราะผู้เขียนเองสำนึกในจิตใจอยู่เสมอว่า เมื่อเราถือศีลอดกันมาตลอดทั้งเดือนร่อมะฎอนแล้ว เหตุใดการถือศีลอด 6 วันของเดือนเชาวาลแบบเอกเทศน์ถึงจะทำกันไม่ได้ ร่อมะฎอนไม่ทำให้เราเข้มแข็งดอกหรือ? การถือศีลอดสุนัตนั้นได้ผลบุญมากมายอย่างคณานับไม่ได้และทำให้เราได้เข้าประตูสวรรค์ที่ชื่อว่า “อัรร็อยยาน” ดังนั้นเราไม่ต้องการจากอัลเลาะฮ์ตะอาลาเลยหรือ?
แต่ถ้าหากสุขภาพไม่ดี เป็นโรคประจำตัว เช่น โรคกระเพาะเรื้อรัง โรคเบาหวาน เป็นต้น ซึ่งจะถือศีลอดหลายวันไม่ได้ ก็เลยรีบชดใช้แล้วควบศีลอดสุนัต 6 วันของเดือนเชาวาลไปด้วย อันนี้ผู้เขียนก็ไม่คัดค้านเชิงจิตสำนึกเลยล่ะครับ แต่ทว่าอัลเลาะฮ์ทรงประทานเนี๊ยะอฺมัตแก่เราให้มีสุขภาพดี ก็ให้เราทำอิบาดะฮ์ถือศีลอดสุดความสามารถของเราเถิด เพื่อเป็นการชุกูร (ขอบคุณ) ต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลานั่นเองครับ กำไรล้วนๆ ไม่มีขาดทุน. วัลลอฮุอะลัม
แสดงความคิดเห็น