ไม่ได้อ่านหนังสือ เพราะวิชานี้มีแต่แล็กเชอร์ ไม่มีหนังสือให้อ่าน อ่านแต่สมุด 5555
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: ... Date: มี.ค. 10, 2010, 03:03 PM
ยังไม่ปิดเทอมอีกเหรอ
แชจังฮู้
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: ILHAM Date: มี.ค. 10, 2010, 03:07 PM
เฮียบๆต๊ะ หล็อบๆเรินไปตะเตินนั้น
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: nada-yoru Date: มี.ค. 10, 2010, 03:25 PM
เมื่อกี้มีค้างคาวตัวนึง มันบินเข้ามาในห้อง บินชนผนังห้อง
มันบินไปบินมาชนผนังห้องไม่รู้กี่รอบ
เฉี่ยวหัวอีกต่างหาก
กลัวก้อกลัว ต้องเอาหมอนมาปิดหัว เพราะกลัวมันบินชน 5555
เพราะมันบินน่ากลัวมากกก ตัวใหญ่ด้วย ไม่เคยเหนค้างคาวบินเข้าห้องมาก่อนเลยเนี่ย
งงเหมือนกัน ทำไมต้องกลัวมันด้วยเนี่ย เหอๆๆๆ
เหนมันยังไม่มีวี่แววออกจากห้อง เลยออกนอกห้องตัวเองซะเลย หรือเพราะว่ามันมีแสงสว่างจากหลอดไฟ ทำให้มันบนชนผนังอยุ่นั่นแหละ
หาทางออกไม่เจอ ประตู หน้าต่างก้อเปิดอยู่ ไอเราเลยออกนอกห้องซะเลยแล้วปิดไฟ ซักพักมันก้อบินหายไปเอง
หรือว่าสายตาค้างคาวจะใช้การไม่ได้ตอนที่มีแสงสว่างรึไงกัน
หรือค้างคาวตัวนั้นจะเป็นพี่ค้างแปลงร่างมานิ
ค้างคาวอยู่ในถ้ำ พอตอนค่ำๆก็บินออกมา
บินไปบินมาในสวย มากินกล้วยกวนกับกล้วยน้ำว้า 55555
ที่เคยเรียนมา ค้างคาวมันใช้คลื่นความถี่ที่เรียกว่า โซน่า
ในการหาแหล่งอาหาร พี่ก็ไม่รุ้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงออกหาอาหาร
ตอนกลางคืน แต่ที่รู้คือ เจ้าค้างคาวที่ตามันโตๆ มันจะเห็นอะไร
ได้ชัดๆในตอนกลางคืน
ไอเราก็ไม่ใช่นักสัตวศาสตร์เสียด้วย ซ้ำยังไม่ใช่ค้างคาว
คงตอบยากอ่ะ... อิอิอิ
หรือว่า...เราแอบเอากล้วยกวนและกล้วยน้ำว้าไปซ่อนไว้ในห้อง
ค้างคาวได้กลิ่นก็เลยบินเข้าไปหาอ่ะโคลงเคลง 55555
หรือว่า...จริงๆแล้วมันคือ โคลงเคลงค้างคาวน้อย
ที่เมากล้วยกวน 555555
แต่ไม่ใช่พี่ค้างแน่นอน เพราะเรื่องแบบนี้...พี่ค้างไม่สามารถ
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: nada-yoru Date: มี.ค. 10, 2010, 04:44 PM
55555555555
SONAR NOT SANAR
BUT SANA IS SANAR
AND KLONGKLENG VAMPIRE NOISE
555555555555
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: nada-yoru Date: มี.ค. 10, 2010, 05:01 PM
２人の秘密の基地の中
secret base
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: คนเดินดิน Date: มี.ค. 10, 2010, 05:52 PM
salam
ขอกล่าวด้วยพระนามของพระผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงปราณีเสมอ
เรียนท่านทักษิณที่เคารพ ใบหน้าของท่านดูป่วยจัง
เห็นแล้วอยากบอกว่าเป็นห่วงไม่ใช่ด้วยเหตุอันใด เพียงแต่อยากจะบอกว่า
จากอาการที่ฟ้องบนใบหน้าของท่านเดินดินว่าท่านป่วยเป็นโฮมซิคแหงม ๆ เหลย
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: คนเดินดิน Date: มี.ค. 10, 2010, 05:58 PM
จริง ๆ โรคนี้ถ้าต้องการจะรักษาหน่ะเดินดินว่าไม่ยากเลยนะคะ
การกล่าวคำว่าขอโทษเพื่อให้ได้กลับมาอยู่บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองเนี่ย
คงไม่ได้เป็นการลดเกียรติของท่านด้วยประการทั้งปวง เนื่องจากคนที่รักท่านก็มีมาก ส่วนคนที่ไม่ชอบท่านท่านก็คิดซะว่าช่างเสียบ้างน่าจะดี ด้วยความเป็นห่วงมิได้ต้องการสั่งสอน
เพราะลูก ๆ และภรรยาของท่านเองก็คงรักและเป็นห่วงท่านเช่นกัน
ที่เสียแล้วก็เสียไปถือเสียว่ามันเป็นแค่บทเรียน ฉลาด ๆ อย่างท่านหน่ะ เชื่อว่าไม่นานท่านก็ได้กลับมา
ไม่แน่นะคะ อาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่า ท่านกล้าที่จะเปลี่ยนรึเปล่า?
มีสองทางให้เลือกเดิน ถ้าท่านกล้าที่จะยอมรับความเป็นจริงท่านจะเป็นสุข แต่ถ้าไม่กล้าใบหน้าของท่านคงจะยังเหมือนคนอมโลกเหมือนที่ผ่าน ๆ มาแน่ ๆ เลยค่ะ ด้วยรักและเป็นห่วงจริง ๆ นะคะ
ขอจบด้วยเปิรกาตออันยังมูลียอวาบิลลอฮิตเตาฟิก วัลฮีดายะห์วัสสลามูอาลัยกุมวาเราะห์มาตุลลอฮิวะบะรอกาตุฮ์
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: nada-yoru Date: มี.ค. 10, 2010, 08:10 PM
ระหว่างรออัพเดทหลังจากลง ubuntu XE 9.10.2 จากเว็บ forum.ubuntuclub.com
เลยจับภาพหน้าจอเอามาให้ดู
อันนี้ theme ที่มาแบบเดิมๆ ของ XE 9.10.2
ต่อมามีชื่อ theme ว่า XPee
สุดท้าย Macish
เมื่อวานได้คุยกับเพื่อนเรื่อง linux เป็นชั่วโมง
เห็นว่าใช้ ubuntu ก็เลยถามรายละเอียดไปเลยว่ามันเป็นเยี่ยงไร
เลยทำให้รู้ข้อดีของ linux ตรงที่ ลง os ได้ฟรี ไม่ต้องเสียตังค์ และ ฯลฯ อิอิอิ
ถ้าไม่ติดว่าคอมฯที่ใช่อยู่มันแก่ไปหน่อย จะให้เพื่อนลงให้งิ
แต่เพราะว่าตอนนี้มีแค่ แมคอย่างเดียวก็อืดเกินจะวิ่งได้คล่อง
ก็เลยว่า สงสัย หากมีตังค์ ถอยApple อีกสักเครื่อง
แล้วลงทั้งแมค ทั้งวินโดว์ และ ubuntu เรยงิ
อยากลองเล่นดู เห็นเพื่อนบอกว่า แต่ละระบบมีดีต่างกัน
ซึ่งพี่เห็นด้วย เพราะว่าใช้ทั้งวินโดว์และแมค(แต่แอบชอบแมคมากกว่า)
ส่วน ubuntu ยังไม่เคยลอง เพื่อนบอกว่าใช้ไม่ยากหรอก
หน้าตาก็สวย(เรื่องหน้าตาก็ว่ามันสวยเหมือนกัน)
หน้าตามันคล้ายแมค แต่ดูไปดูมาก็มีส่วนคล้ายวินโดว์ ลูกครึ่งป่าวมีน 55555
ก็เลยอยากรู้ว่า มีนลง ubuntu บนแมคเป็นมั้ย
เผื่อพี่ให้เพื่อนลงให้ไม่ทัน(ถ้ามีเวลาเหลือ ก็ว่าจะให้เพื่อนลงให้อยู่งิ
ติดอยู่ว่าดันอยู่กันคนละจังหวัด) เหอๆๆๆ
ก็เห็นเพื่อนบอกว่า ใช้ linux ไม่ต้องกังวลเรื่องตำรวจมาตรวจ ถูกกฎหมาย
เพราะมันอิสระ สามารถนำไปพัฒนาต่อได้อย่างอิสระด้วยสาว่า ฮ่าๆๆๆ
ของฟรีใครๆ(พี่เอง)ก็ชอบ เนอะ
วัสลามค่ะ
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: hiddenmin Date: มี.ค. 10, 2010, 10:08 PM
เรื่องหน้าตา ubuntu ค่อนข้างจะฟรี (freedome) มากเรื่องการปรับแต่ง
แต่จะให้หน้าตาเหมือนแป๊ะๆ ไม่ได้ เพราะหน้าตานั้นเป็นลิขสิทธิของบริษัทอื่นเขา (สังเกตว่าธีมจะชื่อ XPee ไม่ใช่ XP หรือ Macish ไม่ใช่ Mac)
เนื่องมาจาก ubuntu ที่ฟรีในการปรับแต่ง ทำให้แต่ละคนก็มีหน้าตาเป็นของตัวเอง การปรับแต่งโปรแกรมก็เป็นของตัวเอง
พอมีปัญหาขึ้นมาก็หาคนร่วมแก้ยากหน่อย (ก็ดันแต่งไม่เหมือนเพื่อนเขานิ)
จนมีอยู่ครั้งนึงผู้ก่อตั้ง ubuntu สั่งล๊อกการปรับแต่งบางอย่างใน ubuntu รุ่นถัดไป (คือรุ่นปัจจุบัน 9.10)
มีผลให้ทาง community บางส่วนเกิดไม่พอใจขึ้นมา (ก็ดันมาปิดกันอิสระภาพนิ)
แล้วรุ่นถัด (รุ่นที่จะออกในช่วง 10.04) ก็ดันทำหน้าตาคล้าย mac + อะไรเพี้ยนๆ
*เปลี่ยนเป็น default wallpaper เป็นม่วงๆ แปลกๆ แทนที่จะเป็นสีออกแนวโทนสีร้อน สีน้ำตาล << แหวกแนวไปจากเดิมเยอะมาก
*เปลี่ยนปุ่ม ย่อย ขยาย ปิด โปรแกรมไปอยู่ทางซ้าย แทนที่จะอยู่ด้านขวา << community ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย แต่ไม่ต้องห่วง เพราะมัน flexibility อยู่แล้ว จะแต่งให้อยู่ตรงใหนก็ได้
*เปลี่ยน default theme เป็นโทนสีขาว กับโทนสีดำ แทนที่จะเป็นโทนสีน้ำตาล << อันนี้ดูสวยขึ้น แต่ก็ยังไม่คุ้นเคย
อาจจะเพราะรุ่น 10.04 เป็น LTS (long term support) เป็นรุ่นที่บริษัท canonical (บริษัทที่เป็นคนดูแลโครงการ ubuntu) จะให้การดูแล สนับสนุนผู้ใ้ชถึง 3 ปี แทนที่จะแค่ 1.5 ปี เหมือนรุ่นอื่นๆ ก็เลยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่ห่วยเหมือนรุ่น 8.04 LTS เป็นรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เหมือนกัน LTS แท้ๆ แต่ดันมีปัญหาเยอะมาก จนต้องออกรุ่นแก้ไขปัญหาเร็วกว่าปกติ
ubuntu ออกรุ่นใหม่ทุกๆ 6 เดือน ทำให้ผู้ใช้อย่างเรารู้สึกได้ถึงความสดใหม่ของโปรแกรมที่ใช้ แต่ต้องแลกด้วยกับความเสี่ยงที่โปรแกรมอาจจะทำงานร่วมกันได้ไม่สมบูรณ์
ต่างจาก debian ที่จะออกรุ่นใหม่ เมื่อมันพร้อมที่จะออก
ดังนั้นอย่าได้ถามว่า debian จะออกรุ่นใหม่ตอนใหน แว่วๆ มาว่าจะออกรุ่นใหม่ที่สเถียรพอที่จะใช้งานภายในเดือนนี้แหละ แต่เอาแน่นอนไม่ได้หรอก เพราะ debian นั้นเกิดจาก community เกิดจากการเสียสละส่วนตัว ไม่มีบริษัทใหนมาให้การสนับสนุนโดยตรงเหมือน ubuntu ที่มี canonical เป็นบริษัทที่จ่ายเงินแก่คนที่พัฒนา ubuntu ubuntu เดิมๆ ก็พัฒนามาจาก debian ต่อมาก็เริ่มพัฒนาในแนวทางของ ubuntu เองมากขึ้น แต่ก็ยังมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับ debian
ขนาดที่ว่าโปรแกรมจาก ubuntu สามารถรันได้บน debian และในทางกลับกัน
debian รุ่นปัจจุบันคือ debian 5 ใช้เวลาในการพัฒนาถึง 22 เดือน ทำให้โปรแกรมที่ใช้มันก็เก่านิดนึง แต่เหตุผลที่ใช้เวลานานก็เพราะว่า ต้องทดสอบและแก้ไขให้มั่นใจจริงๆ ว่าโปรแกรมใน repository ของ debian (แหล่งรวบรวมโปรแกรมสำหรับ debian) นั้นสามารถใช้งานได้โดยไม่มีปัญหา
ปกติ linux ตระกูล debian (เรียกว่าตระกูล debian เพราะมี linux หลายๆ รุ่นที่พัฒนาต่อจาก debian) มักจะลงโปรแกรมจาก repository เพราะสะดวกมากๆ เราแค่รู้โปรแกรม ก็สามารถสั่งให้โหลดแล้วก็ติดตั้งได้ทันที โดยไม่ต้องรู้ว่าจะต้องโหลดโปรแกรมจากใหน
เคยมีผู้ไม่เชี่ยวชาญ ไม่รู้จริง อาจจะไม่เคยใช้จริงๆ ได้แค่ลูบๆ คลำๆ กล่าวหาว่า ubuntu ต้องต่อเนตเวลาจะลงโปรแกรม ถ้าไม่ต่อเนตจะไม่สะดวกในการติดตั้งโปรแกรม
จริงๆ แล้ว repository ก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการติดตั้งโปรแกรม โดยที่อำนวยความสะดวกแกผู้ใช้ไม่ต้องไปหาโหลดโปรแกรมจากเว็บอื่นๆ แถมยังรับรองอีกว่าสามารถใช้งานร่วมกันได้แน่นอน
แต่ก็ยังสามารถโปรแกรมมาติดตั้งโดยไม่ใช้อินเทอร์เนต แต่เราก็ต้องไปสรรหาเอง เหมือนๆ กับ windows นั้นแหละ (สุดแสนจะทรมาน)
และบลาๆๆๆๆๆ
ปล. สงสัยคุยกับก๊ะ nada-yoru บ่อยเกิน เลยติดการโพสแบบยาวๆ
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: เหรียญ 2 ด้าน Date: มี.ค. 10, 2010, 11:16 PM
ไม่เคยลง linux น่ะครับ
อยากลงเหมือนกัน
เคลียร์งานเสร็จเมื่อไหร่
กะว่าจะลองเหมือนกัน
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: nada-yoru Date: มี.ค. 11, 2010, 09:35 AM
เคยมีผู้ไม่เชี่ยวชาญ ไม่รู้จริง อาจจะไม่เคยใช้จริงๆ ได้แค่ลูบๆ คลำๆ
กล่าวหาว่า ubuntu ต้องต่อเนตเวลาจะลงโปรแกรม
ถ้าไม่ต่อเนตจะไม่สะดวกในการติดตั้งโปรแกรม
จริงๆ แล้ว repository ก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการติดตั้งโปรแกรม
โดยที่อำนวยความสะดวกแกผู้ใช้ไม่ต้องไปหาโหลดโปรแกรมจากเว็บอื่นๆ
แถมยังรับรองอีกว่าสามารถใช้งานร่วมกันได้แน่นอน
แต่ก็ยังสามารถโปรแกรมมาติดตั้งโดยไม่ใช้อินเทอร์เนต
แต่เราก็ต้องไปสรรหาเอง เหมือนๆ กับ windows นั้นแหละ (สุดแสนจะทรมาน)
และบลาๆๆๆๆๆ
ปล. สงสัยคุยกับก๊ะ nada-yoru บ่อยเกิน เลยติดการโพสแบบยาวๆ
ถ้าลงโปรแกรมโดยไม่ต้องต่อเนตได้หรือไม่ต้องไปสรรหามาเอง
แบบเครื่องมันมีระบบช่วยหาให้อะไรแบบนี้เสร็จสรรพก็ดีอ่ะสิ
ยิ่งมีรับรองว่่าใช้งานได้ไม่มีปัญหายิ่งดีใหญ่
ซึ่งแมคเองก็จะมีการอับเดตซอฟแวร์ในตัวได้เหมือนกัน
คือเหมือนจะไม่ต้องพึ่งพาเนต แต่เรื่องหาโปรแกรมมาติดตั้ง
มันก็ต้องสรรหาเอาเองอ่ะเนอะ ทรมานอย่าบอกใคร...
แต่ว่า....
พี่เจอปัญหาใหญ่เลยงิตอนนี้...เพราะsafari เวอร์ชั่นที่ใช้อยู่
คือ1.3.2(v312.6) มันเข้า hotmail และ yahoo mailไม่ได้มานานแล้วงิ
สุดแสนจะทรมาน แรกๆก็ไม่เป็นไร ใช้คอมฯที่มหาลัย(วินโดว์)เปิดดูเมล์เอา
เพราะหากเป็นแมคที่มหาลัย เวอร์ชั่นมันไม่เก่าเท่าของพี่
เลยไม่มีปัญหา ตอนนี้ไม่อยากไปมหาลัยเพราะไม่สะดวกด้วยประการทั้งปวง
ก็เลยเสริซดู ก็เห็นคนที่ใช้ panther(10.3.9) อย่างพี่ก็เจอปัญหาเดียวกัน
เพื่อนพี่เลยแนะนำให้หาโหลด firefox มาลงแทนการใช้ safari
เผื่อเข้า hotmail ได้
จริงๆเคยลองโหลดลงแล้ว แต่มันใช้ไม่ได้ เพราะว่า
นอกจาก firefox2 แล้ว panther มานไม่เอาสักอย่างอ่ะ...
ลองมาหมดแล้วงิ มันไม่รับประทานงิ...
ตอนนี้หาโหลด firefox2 for mac กันลั่นเนต ก็โหลดไม่เข้าเครื่อง
มันเป็นไฟล์เปล่่างิ สุดแสนจะทรมานจิต ทำพรื่อดีล่ะทีนี้ เหอๆๆๆ
ไม่รู้เป็นที่ hotmail หรือเป็นที่ แมคมันอยากให้พี่ซื้อเครื่องใหม่
เพราะว่าตอนนี้มันเปลี่ยนเป็น leo(สิงห์) ไปแล้ว
ของพี่มัน panther น้องของ tiger(เสือ) แล มันก็เลยโดนขย่ำจมดิน
ไม่มีอะไรให้กินเลยงิ ของใหม่มา ของเก่าก็เศร้าเป็นธรรมดา
หากิน(หาโหลด)โปรแกรมยากงิ
ไม่ค่อยมีใครทำมาให้กิน(โหลด) ทำกินเองก็ไม่ได้ เหอๆๆๆ
อยากได้บราวเซอร์ที่เล่นเนตได้บน panther(เครื่องแมคของพี่)งิ
แต่เท่าที่ดู Google chrome ก็ไม่สามารถรับประทานได้
เหลือ opera ยังไม่ได้ลองหาดู ไม่รู้มีม่่ายยยยยยยยย
เจ็บเบ็ดหัวแหม็ด 5555
ไม่รู้ว่ามันอัพรุ่นจาก panther เป็น leopard ได้มั้ยนิ
(ไม่รู้จะข้ามหน้าข้ามตาเสือ(tiger)ไปหรือเปล่า) 5555
เพราะถ้าได้ ก็จะได้ไม่ต้องเปลืองตังค์ถอยเครื่องใหม่งิ อิอิอิ...
นี่คือหนึ่งในข้อเสียของแมคที่พี่เจอคือ หาโปรแกรมโหลดยาก
โหลดมาก็ใช้ไม่ได้ก็มี ต้องลองเสี่ยงดวงดูหรือไม่ก็ต้องยอมเสียตังค์ซื้อ
อะไรแบบนี้...
ปรึกษาเพื่อน เพื่อนมันก็หาเรื่องให้ซื้อเครื่องใหม่ทุกที
แต่เครื่องที่ใช้อยู่ก็ยังดีๆอยู่ ก็เลยตัดใจไม่ลง อีกอย่าง ม้ายเบี้ยกัน เหอๆๆๆๆ
ปล.ไม่รู้ว่าพี่โง่เองหรือว่า แมคมันเรื่องมากอ่ะสิ 555555
อย่าให้มีตังค์นะมีน พี่จะถอยเครื่องใหม่ ลงosอื่นให้หนำใจ
เอามาย่ำใจแมคให้ดูด้วยนิ ไม่ง้อมันอย่างเดียวแล้ว... 55555
ป.ลิงอีกที...ไอที่เขียนภาษาญี่ปุ่นไม่มีอะไรงิโคลงเคลงเหอ...
มันคือฟาร์มลับไง secret base
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: little cat Date: มี.ค. 11, 2010, 11:53 AM
แง เสื้อแดงทำฤทธิ์ โดนเลื่อนสอบปลายภาคไปสิ้นเดือนเมษานุ ไหนจะวิชาวิจัยที่ครูต้องรีบไปเมกา เลยทำให้ต้องติดไอทั้งชั้นไปก่อน ไอ้ไหรเนี่ย หรอยจิง สถาบันข้า
แล้วผลสัมฤทธิ์ 24 นี้ของข้าน้อยล่ะ แล้วเรียนซัมเมอร์หล่าวอ่ะ อีเลื่อนด้วยมั้ยนิ เครียดดดดดดด
แล้วผลสัมฤทธิ์ 24 นี้ของข้าน้อยล่ะ แล้วเรียนซัมเมอร์หล่าวอ่ะ อีเลื่อนด้วยมั้ยนิ เครียดดดดดดด
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: little cat Date: มี.ค. 11, 2010, 11:54 AM
ตอนเสื้อเหลืองเราว่าหรอย แต่พอเสื้อแดง ไม่หรอยเลย อยากกลับบ้าน แง 
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: nada-yoru Date: มี.ค. 11, 2010, 12:15 PM
อย่าปิดสนามบินวันพี่หลอบเรินก้าพองิ
เจอแจคพ็อตมาหลายรอบแระทั้งขาไปและขากลับมาญี่ปุ่น...
รอบนี้ขอหลอบเรินอย่างบายใจทีเต๊อะ...
หวุดหวิดๆ เสียวๆว่าอีมีปัญหาหล่าวนิเด๊ะเหออออออ...
เบื่อจังเสียแล้ว...จะทำไหรทีต้องเช็คดินฟ้าอากาศ
ว่าจะมีแววว่าเมฆฝนจะตั้งเค้าก่อพายุอย่างเดียวไม่พอ
ต้องเช็ควันก่อม็อบกัน หากไม่พ้น ก็ซวยไป...
ไม่ไหวจะเคลียร์...ถามการบินแล้ว น่าจะบินคล่อง สภาพอากาศไม่พรื่อ
แต่เรื่องม็อบเขาบอกว่า ไม่ขอคอนเฟิร์์ม เหอๆๆๆๆ
ต่อได๊เรื่องแบบนี้จะหมดไปเสียทีงิ... งุงิงุงิ
ขอสส.(สาวสวย)บ่นหน่อยนะคะ