Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: ILHAM Date: มิ.ย. 21, 2009, 11:28 AM
ผมคิดว่า น้ำไม่ไหลผ่านนะ คงจะล้างรอบสุดท้ายแบบรวมๆกัน ไม่ได้ล้างน้ำผ่านทิ้งหรอก
แต่ถ้าไหลผ่านจริง ก็ใช้ละหมาดได้ ติดตรงที่ว่ามือเขาเคยสัมผัสหมูมาก่อน ไม่ได้ซาเมาะ
จากนาญิสมูตาวัสซีเตาะห์ธรรมดาๆ มิวเทชั่นเปลี่ยนเป็นมูฆอลลาเซาะห์ทันที 5555
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: Al Fatoni Date: มิ.ย. 21, 2009, 11:35 AM
ผมว่าซักเองจะดีกว่านะ ออกกำลังกายไปด้วย จิตใจปลอดโปร่งเพราะไม่ต้องกังวลว่าล้างน้ำผ่านหรือเปล่า เสื้อผ้าที่ซักร่วมกับของเรา มีเสื้อหาที่เปื้อนหมูหมากาไก่หรือเปล่า ก็ซักเองดีกว่า จะได้หายห่วง

- วัสสลามุอลัยกุม
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: ILHAM Date: มิ.ย. 21, 2009, 11:36 AM
ผมว่าซักเองจะดีกว่านะ ออกกำลังกายไปด้วย จิตใจปลอดโปร่งเพราะไม่ต้องกังวลว่าล้างน้ำผ่านหรือเปล่า เสื้อผ้าที่ซักร่วมกับของเรา มีเสื้อหาที่เปื้อนหมูหมากาไก่หรือเปล่า ก็ซักเองดีกว่า จะได้หายห่วง
- วัสสลามุอลัยกุม
อันนูรเขาเป็นราชกุลธิดา ซักเองไม่เป๊นนนไม่เป็น ต้องส่งซักลูกเดียว 55555
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: al-firdaus~* Date: มิ.ย. 21, 2009, 11:44 AM
แยกผ้าสี ผ้าขาว สกปรกมาก สกปรกน้อย เปื้อนนายิสก็ไปล้างน้ำให้นายิสออกเสียก่อน
จากนั้น...........
โยนโครมเข้าเครื่องซักผ้า กดปุ่มเดียว แล้วไปทำกับข้าว
ทำกับข้าวเสร็จ เสื้อปั่นเสร็จพอดี
สบาย หายห่วง เพราะใช้ไตรลอน ห้าห่วงมุงหลังคาบ้าน

Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: ILHAM Date: มิ.ย. 21, 2009, 11:45 AM
เครื่องใต้หอไม่ต้องกดซักปุ่ม แต่ใส่5บาท3เหรียญมันก็ทำงานให้เลย
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: Al Fatoni Date: มิ.ย. 21, 2009, 11:49 AM
หากขี้เกียจซักด้วยมือ ผมขอเสนอให้ซักแบบนี้ ซื้อโอ่งมาอันหนึ่ง (โอ่งซีเมนส์อะ ที่เขาใช้ทำบ่อ นั่นแหละ) แล้วหาไม้ใหญ่มา ทำเหมือนตอนที่เขาตอกรวงข้าว แยกข้าวเปลือกกับข้าวออกอะ เวลาซักก็ขึ้นไปยืนบนที่เหยียบ แล้วก็เหยียบเหมือนตอกรวงข้าว อินชาอัลลอฮิ สะอาดแน่ครับ ถือเป็นการออกกำลังกาย และไม่ต้องใช้มือซัก แต่ใช้เท้าแทน ไอเดียบันเจิดไหมครับพี่น้อง

- วัสสลามุอลัยกุม
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: ส้มโชกุน Date: มิ.ย. 21, 2009, 02:46 PM
แล้วถ้าส่งซักให้กับคนไทยพุทธ แต่ว่าเค้าก็เอาไปซักกับเครื่อง
ไม่ได้ซักด้วยมือ จะสัมผัสกับเสือ้ผ้าเราตอนตากกับรีด
แล้วมันจะเหมือนกับที่เราซักเครื่องเองมั้ยค่ะ
แล้วใช้ได้มั้ยค่ะ
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: ILHAM Date: มิ.ย. 21, 2009, 05:47 PM
ตอนรีดไม่เป็นไร เพราะมันแห้ง
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: Al Fatoni Date: มิ.ย. 22, 2009, 01:38 PM
อัลหัมดุลิลลาฮฺ, วันนี้เจอหนังสือ อัลบิดายะฮ์ วันนิฮายะฮ์ ฉบับภาษาอินโดนีเซีย สุดยอดมากครับ 40 เมกกว่า โหลดเรียบร้อยแล้ว เตรียมอ่าน จะได้รู้สักทีว่าหนังสือเล่มนี้เขาว่าไรกัน 55+ หน่ำใจจริงๆ อ้อ อีกเล่ม โหลด ฟัตหุลบารีย์ เล่ม 1 ฉบับภาษาอินโดนีเซียมาด้วย เล่มแรกก็ปาไป 448 หน้า ส่วนอัลบิดายะฮ์ โดย 559 หน้า อินชาอัลลอฮ หากไม่มีใครคิดจะแปลเป็นไทย ผมจะลองแปลดูนะพี่น้อง ถึงจะลองแต่ก็เอาจริงนะ - วัสสลามุอลัยกุม
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: as-satuly Date: มิ.ย. 23, 2009, 10:42 AM
salam
วันนี้...ว่างๆเลยมานั่งหน้าคอมพิวเตอร์ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย และได้ทำการค้นคว้าหาความรู้ไปเรื่อยๆตามภาษาคนทั่วไป แต่ว่าวันนี้นั้น ผมรู้สึกตัวเองว่า รู้สึกเมื่อยล้าจากการนั้นอยู่ยนเก้าอี้ ณ ห้องสมุด แต่เผอิญผมเองนึกได้ว่า ประมาณ 2-3 วันก่อนหน้านี้ ผมอดหลับอดนอน(แต่ไม่ใช่ ไม่หลับไม่นอน) เพราะติดภาระกิจสำคัญ และธุระส่วนตัว และโครงการของชมรมฯที่เล็กก็จริงแต่ภาระที่ต้องรับ(แบก)มีเยอะเกินกว่าเหตุ แต่เพื่อความสมานฉันท์และความสามัคคีระหว่างกัน ก็ต้องย่อมเหนื่อยบ้างเป็นธรรมดาและบางครั้งบางคราว และถึงแมั้ต้องอดหลับอดนอนบ้างและอาจจะได้นอนไม่เต็มตื่นบ้าง(แต่ไม่ใช่ไม่เต็มบาทน่ะครับ) แต่สิ่งที่ผมได้รับนั้น มีมากจนทำให้ผมดีใจ และร้องไห้กับความสำเร็จของการงานนั้นๆในบางครั้ง กล่าวคือ มันก็คือความรู้ต่างๆและประสบการณ์ต่างๆที่ผมได้รับ จาการทำงานของตัวผมเองกับเพื่อนๆและคนอื่นๆ และสุดท้ายของ ณ เวลานี้ ผมเองรู้สึกว่า หายง่วงนอนแล้วอ่ะครับ แต่(ลึกๆของจิตใจ)ก็อยากบอกว่า แต่มันก็ง่วงอยู่ดีนี่แหละคร้าบ....วัสสลาม
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: Al Fatoni Date: มิ.ย. 23, 2009, 01:22 PM
เรามองภาพนี้ เรานึกถึงอะไรบ้าง...?
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: khata Date: มิ.ย. 23, 2009, 04:44 PM
salam
วันนี้ทำงาน....แบบว่าง่วงจัง......ใครมีเรื่องขำ ๆ มาเล่วให้ตื่นหน่อยดิ......... 
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: Al Fatoni Date: มิ.ย. 23, 2009, 05:06 PM
เรามองภาพนี้ เรานึกถึงอะไรบ้าง...?
ผมมองภาพนี้แล้ว มันเป็นเหมือนความพยายามบนสิ่งๆ หนึ่งที่ไม่ได้ดูสภาพความเป็นจริงข้างหน้า ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่จะเป็นอุปสรรค เพราะต่างคนต่างผลักดันไปข้างหน้า แต่ในขณะเดียวกันตาก็ก้มมองพื้น โดยที่ไม่ได้สังเกตว่า สิ่งที่ตนผลักและดันนั้น มันวนเวียนและอยู่ที่เดิม ท้ายที่สุด สิ่งที่อุตส่าห์ผลักดันกัน ก็สูญเปล่าเพราะมันอยู่ที่เดิม - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอลัยกุม
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: กอ-กล้วย Date: มิ.ย. 23, 2009, 06:42 PM
เรามองภาพนี้ เรานึกถึงอะไรบ้าง...?
ผมมองภาพนี้แล้ว มันเป็นเหมือนความพยายามบนสิ่งๆ หนึ่งที่ไม่ได้ดูสภาพความเป็นจริงข้างหน้า ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่จะเป็นอุปสรรค เพราะต่างคนต่างผลักดันไปข้างหน้า แต่ในขณะเดียวกันตาก็ก้มมองพื้น โดยที่ไม่ได้สังเกตว่า สิ่งที่ตนผลักและดันนั้น มันวนเวียนและอยู่ที่เดิม ท้ายที่สุด สิ่งที่อุตส่าห์ผลักดันกัน ก็สูญเปล่าเพราะมันอยู่ที่เดิม - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอลัยกุม
ก๊ะมองว่าบุคคลทั้งสี่พยายามที่จะให้เส้นตรงที่มีปลายลูกศรทั้งสองด้านมาบรรจบกันอย่างตั้งใจ ซึ่งต้องอาศัยความอุตสาหะ พากเพียร และความสามัคคีกัน
จนมันสามารถมาบรรจบกันได้ แม้อาจเป็นแค่ระยะเวลาไม่กี่วินาทีก็ตาม เพราะเส้นตรงเองก็มีแรงที่จะพยายามผลักตัวเองให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมที่มันเคยเป็น
ถ้าจะให้อธิบายตามหลักฟิสิกส์ ก็สามารถอธิบายได้ แต่ก๊ะไม่ถนัด รอคนเก่งด้านนี้มาตอบเกี่ยวกับแรงเค้น แรงต้าน อะไรประมาณนั้น
ปล. ที่เอาเรื่องแรงมาเกี่ยวเพราะวันนี้โดนอาจารย์ Force มา หุหุ

Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า... By: al-azhary Date: มิ.ย. 23, 2009, 07:00 PM
เรามองภาพนี้ เรานึกถึงอะไรบ้าง...?
ผมมองภาพนี้แล้ว มันเป็นเหมือนความพยายามบนสิ่งๆ หนึ่งที่ไม่ได้ดูสภาพความเป็นจริงข้างหน้า ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่จะเป็นอุปสรรค เพราะต่างคนต่างผลักดันไปข้างหน้า แต่ในขณะเดียวกันตาก็ก้มมองพื้น โดยที่ไม่ได้สังเกตว่า สิ่งที่ตนผลักและดันนั้น มันวนเวียนและอยู่ที่เดิม ท้ายที่สุด สิ่งที่อุตส่าห์ผลักดันกัน ก็สูญเปล่าเพราะมันอยู่ที่เดิม - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอลัยกุม
มองภาพดูต่าง สองดอกศร คือ เป้าหมาย ส่วนคนที่กำลังผลักดันนั้น ต่างก้มหน้าก้มตากระทำอย่างไม่สนใจอุปสรรค ดังนั้นเมื่อหนทางต่างกัน แต่ต่างฝ่ายก็ผลักดันไปสู่เป้าหมายเดียวกัน