salam
ขนมหวานถั่วเขียวมะพร้าวอ่อน
ถั่วเขียว
มะพร้าวอ่อนขูดเอาแต่เนื้อมะพร้าว ส่วนน้ำใส่ในเหยือกแช่ตู้เย็นเอาไว้กินเย็นๆ
น้ำตาลแว่น
กะทิ
เกลือ
ใบเตย
วิธีทำ
แช่ถั่วเขียวประมาณ ครึ่ง-1ชั่วโมง แล้วล้างซาวน้ำหลายๆรอบ
เนื้อมะพร้าวอ่อน ล้างให้สะอาด ถ้ากลัวว่าจะทำให้ขนมหวานเสียง่าย ก็นำไปต้มซักหนึ่งน้ำเทน้ำทิ้งเอาแต่เนื้อมะพร้าว
ต้มน้ำครึ่งหม้อให้เดือด (ใส่ใบเตยด้วยนะคะ แต่วันนี้ลืมใส่ค่ะ หาไม่เจอ
)
ต้มถั่วเขียวให้นิ่ม หมั่นคนถั่วเขียวในหม้อนะคะ (อย่าให้เปื่อยนะคะ ไม่อร่อย)
เมื่อถั่วเขียวสุกแล้ว ใส่กะทิค่ะ ตามด้วยน้ำตาลแว่น เกลือนิดหน่อย ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนตามลงไป
รอให้เดือด ปิดไฟยกลงจากเตาได้
ขนมหวานถั่วเขียวมะพร้าวอ่อน
ถั่วเขียว
มะพร้าวอ่อนขูดเอาแต่เนื้อมะพร้าว ส่วนน้ำใส่ในเหยือกแช่ตู้เย็นเอาไว้กินเย็นๆ
น้ำตาลแว่น
กะทิ
เกลือ
ใบเตย
วิธีทำ
แช่ถั่วเขียวประมาณ ครึ่ง-1ชั่วโมง แล้วล้างซาวน้ำหลายๆรอบ
เนื้อมะพร้าวอ่อน ล้างให้สะอาด ถ้ากลัวว่าจะทำให้ขนมหวานเสียง่าย ก็นำไปต้มซักหนึ่งน้ำเทน้ำทิ้งเอาแต่เนื้อมะพร้าว
ต้มน้ำครึ่งหม้อให้เดือด (ใส่ใบเตยด้วยนะคะ แต่วันนี้ลืมใส่ค่ะ หาไม่เจอ
)ต้มถั่วเขียวให้นิ่ม หมั่นคนถั่วเขียวในหม้อนะคะ (อย่าให้เปื่อยนะคะ ไม่อร่อย)
เมื่อถั่วเขียวสุกแล้ว ใส่กะทิค่ะ ตามด้วยน้ำตาลแว่น เกลือนิดหน่อย ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนตามลงไป
รอให้เดือด ปิดไฟยกลงจากเตาได้
Re: ครัวมุสลิมะฮ์ By: nada-yoru Date: ธ.ค. 29, 2009, 09:37 PM
salam
ขอบคุณค่ะ...ชอบแกงส้มมากเรยค่ะก๊ะ...
ถั่วเขียวต้มด้วยค่ะ...^^
วัสลามค่ะ
Re: ครัวมุสลิมะฮ์ By: ILHAM Date: ธ.ค. 29, 2009, 09:49 PM
ถั่วเขียวต้มเขาว่าเพิ่มพลัง
Re: ครัวมุสลิมะฮ์ By: al-firdaus~* Date: ม.ค. 07, 2010, 06:23 PM
salam
เมนูบำรุงโลหิตที่จาง หากว่าทรัพย์จาง เมนูนี้คงช่วยอะไรมิได้
(ไม่รู้ทำไมชอบกินนักนะ พวกแกงกะทิ)
แกงกะหรี่ตับวัว
ตับวัว หั่นบางๆ พอคำ ล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำไว้
กระทิคั้นเองค่ะ (ยังดีว่า ไม่ต้องขูดมะพร้าวเอง)
เตรียมหอมแดงซอย กระเทียมซอย ขิงซอย ตั้งไว้
ผสมกับผงกะหรี่ ใส่กะปิซักหน่อยนะคะ ผสมน้ำร้อนแล้วผสมให้เข้ากัน
ตั้งกระทะแล้วเจียวหอมกระเทียม ผัดเครื่องแกง ให้แตกมัน จากนั้นผัดตับค่ะ ให้งวด
เทน้ำกระทิ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ
เมื่อสุกได้ที่ ใส่ถั่วฝักยาว เดือดแล้ว ใส่พริกชี้ฟ้าแดง เป็นอันเสร็จค่ะ
ง่ายมากมายก่ายกอง...
เมนูบำรุงโลหิตที่จาง หากว่าทรัพย์จาง เมนูนี้คงช่วยอะไรมิได้
(ไม่รู้ทำไมชอบกินนักนะ พวกแกงกะทิ)
แกงกะหรี่ตับวัว
ตับวัว หั่นบางๆ พอคำ ล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำไว้
กระทิคั้นเองค่ะ (ยังดีว่า ไม่ต้องขูดมะพร้าวเอง
)เตรียมหอมแดงซอย กระเทียมซอย ขิงซอย ตั้งไว้
ผสมกับผงกะหรี่ ใส่กะปิซักหน่อยนะคะ ผสมน้ำร้อนแล้วผสมให้เข้ากัน
ตั้งกระทะแล้วเจียวหอมกระเทียม ผัดเครื่องแกง ให้แตกมัน จากนั้นผัดตับค่ะ ให้งวด
เทน้ำกระทิ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ
เมื่อสุกได้ที่ ใส่ถั่วฝักยาว เดือดแล้ว ใส่พริกชี้ฟ้าแดง เป็นอันเสร็จค่ะ
ง่ายมากมายก่ายกอง...
Re: ครัวมุสลิมะฮ์ By: AMN Date: ม.ค. 07, 2010, 07:04 PM
salam
อร่อยอีกแล้ว...
Re: ครัวมุสลิมะฮ์ By: Bangmud Date: ม.ค. 07, 2010, 08:02 PM
salam
ใครเป็นโรคเกาท์ กินเครื่องในมากไม่ดีนะจ๊ะ
เหลือเอาไว้ เดี๋ยวผมจัดการเอง ผมไม่เป็นโรคเกาท์
จริง ๆ ไม่ได้โม้
Re: ครัวมุสลิมะฮ์ By: hiddenmin Date: ม.ค. 07, 2010, 08:06 PM
เมื่อวานไปกินก๋วยเตี๋ยวกัน 4 คนที่ร้านใกล้ๆ บ้าน
กินไปซักพักแม่ครัวก็ยกชุปเครื่องในมา
แรกๆ ก็ไม่มีใครกิน พากันปฏเสธ
เผลอแป๊บเดี๋ยวหมดไปครึ่งถ้วยละ
เราเลยร่วมแจมมั่ง
Re: ครัวมุสลิมะฮ์ By: ILHAM Date: ม.ค. 07, 2010, 08:57 PM
นั่นแหละนิสัยคนมลายูล่ะ
Re: ครัวมุสลิมะฮ์ By: Bangmud Date: ม.ค. 08, 2010, 12:35 AM
อ้างถึง
อยากได้สูตรอาหารเหนือ อาหารอีสาน
รอแชหากิ๊กเป็นคนอีสานหรือคนเหนือได้ก่อน จะถามมาให้ กลัวแต่จะกินไม่ไหวเท่านั้น
ส่วน ผบ.ทบ. มีเชื้อสายอินโดฯ ถ้าอยากได้สูตรนำจิ้มสะเต๊ะ อินโดแท้ ส่งซิกมาเลยครับ
อีสานแท้ต้องใส่ปลาร้าทุกรายการ หรือของไม่ค่อยสุก ใส่เลือด และนัฟซูพวกเราจะยอมรับจิ้งหรีดทอด หรือ รัง/ไข่มดแดงหรือไม่
ท่านฟิรเดาส์หาสูตร บ๊ะจ่าง มานำเสนอดีว่า
วัสสลาม
Re: ครัวมุสลิมะฮ์ By: ILHAM Date: ม.ค. 08, 2010, 12:52 AM
เคยกินไข่แลนมั้ยน้อง <<-- เพลงใครไม่รู้ ลืมแล้ว
Re: ครัวมุสลิมะฮ์ By: Bangmud Date: ม.ค. 08, 2010, 06:10 AM
salam
ไข่แลน = ไข่เหี้ย เป็นขนมชนิดหนึ่ง ปัจจุบันเรียกว่าไข่หงส์
หากินได้ที่นี่ http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=5322.15
ส่วนไข่แลนตามธรรมชาติ ไม่รู้จะหาที่ไหน แถว ๆ รัฐสภาคงพอมี เพราะตัวแม่/ตัวพ่อ ออกมาโชว์ตัวบ่อย ๆ
Re: ครัวมุสลิมะฮ์ By: ILHAM Date: ม.ค. 08, 2010, 06:31 AM
แต่ไข่แลนที่ว่านี้ดูท่าจะเป็นของธรรมชาตินะ เพราะมันร้องว่า
เคยกินไข่แลนมั้ยน้อง เคยกินไข่แลนมั้ยน้อง ถ้าไม่เคยให้น้องบอกพี่ พี่รู้ที่อยู่มันดี ..... (จำไม่ได้แล้ว) สาธยายถึงไข่แลนยาวเลย
Re: ครัวมุสลิมะฮ์ By: as-satuly Date: ม.ค. 09, 2010, 01:58 AM
รอแม่ครัวมือใหม่และมือเก่า แต่ไม่เอาเก๋า มาทำกับข้าวมื้อเช้า(เฏาะอามฟุฏูรฺ)ให้เหล่าเราท่านทั้งหลายได้รับประทานกัน หิวข้าวๆๆ...วัสสลามุอะลัยกุม
Re: ครัวมุสลิมะฮ์ By: nada-yoru Date: ม.ค. 09, 2010, 05:49 PM
อยากให้นำเสนอ การทำอาหารญี่ปุ่นมั่งอะ
หากจำเป็นต้องกินอาหารญี่ปุ่น
ควรเลือกกิน อะไร ที่ปลอดภัยที่สุดครับ
งานเข้า
หากมีโอกาส อินชาอัลลอฮฺ...
อยากนำเสนอการทำข้าวปั้นหรือโอนิกิริ(สูตรเพื่อนญี่ปุ่นสอน)
salam
มาตามสัญญาค่ะ
"วันนี้ nada-yoru ขอนำเสนอ การทำโอเบนโตะง่ายๆ(สูตรดัดแปลงเองค่ะ)
เอาไปทานที่โรงเรียนหรือที่ทำงานค่ะ"
ทั้งหมดมี 19 ขั้นตอน 19 ภาพประกอบ
(นี่ก็พยายามตัดตอนภาพมาแล้วนะคะ แต่ก็ยังยาวววว
)1.หุงข้าวโดยใส่เครื่องแกงเผ็ดไปด้วย
จะใส่มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าใครจะชอบเผ็ดมากหรือเผ็ดน้อยค่ะ
หน้าตาตอนหุงเสร็จแล้วจะออกมาอย่างนี้ค่ะ
2.ต้มไข่ 2 ฟอง (ล้างไข่ให้สะอาดก่อนต้มนะคะ)
พร้อมกับผัก ของข้าน้อยต้มบลอกโกรี่กับหน่อไม้ฝรั่ง(เอาไว้ใส่ในข้าวปั้นค่ะ)
3.หั่นผักที่จะทำสลัดค่ะ (ผักอะไรก็ได้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนค่ะ)
มะเขือเทศสีดาลูกเล็กๆกับข้าวโพดต้มเสร็จแล้วนี่ขาดไม่ได้ค่ะ (ชอบ;D)
และก็เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อม ดังภาพค่ะ
4.นำข้าวเครืื่องแกงเผ็ดที่หุงเตรียมไว้ตักวางลงบนสาหร่าย ดังภาพค่ะ
5.แล้วจึงคลึงด้วยไม้กระบอง คลึงไปมาจนได้หน้าตาออกมาดังภาพ
6.นำหน่อไม้ฝรั่งที่ต้มเอาไว้แล้วมาวางเอาไว้ตรงขอบดังภาพค่ะ
7.แล้วก็ม้วนสาหร่ายไปจนสุดอีกขอบนึง หน้าตาจะออกมาดังภาพค่ะ
8.แล้วใช้มีดตัดให้เป็นแว่นๆ ดังภาพค่ะ
(ตอนตัดต้องตัดให้ขาดในครั้งเดียวนะคะ ไม่อย่างนั้นจะไม่สวย
)
(จริงๆตัดออกมาได้เจ็ดแว่น แต่มือไวเลยแอบชิมไปอันนึง อร่อย!!(สาว่า)
)และแล้วเราก็เดินทางมาได้ครึ่งทางแล้ว เหลืออีกครึ่งทาง (10 ขั้นตอน)
เดี๋ยวมาต่อค่ะ
Re: ครัวมุสลิมะฮ์ By: nada-yoru Date: ม.ค. 09, 2010, 06:34 PM
9.นำไส้กรอก กุ้ง และปลาจ้ิงจั้ง(เรียกชื่อตามบ้านเกิดค่ะ)
นำลงไปทอดพร้อมกันได้เลยค่ะ
(ประหยัดเวลาและไฟฟ้าแถมเรื่องรสชาติไม่มีปัญหาเลยค่ะ)
10.เมื่อสุกได้ที่แล้ว คีบวางลงบนกระดาษซับน้ำมันค่ะ
11.สับกุ้งที่ทอดเมื่อครู่ให้ละเอียดแล้วเหยาะน้ำสลัด
คลุกให้เข้ากัน
12.นำข้าวเครื่องแกงเผ็ดเมื่อครู่ที่ยังเหลืออยู่มาใส่ลงในแม่พิมพ์รูปหัวใจ
แล้วใส่ไส้ซึ่งได้จากขั้นตอนที่11 ไว้้ตรงกลาง
ดังภาพ
13.แล้วก็ประกบให้เข้ากัน พร้อมกับนำไข่ที่ต้มเอาไว้เมื่อครู่
ปอกให้เสร็จเรียบร้อยแล้ววางลงบนแม่พิมพ์ดังภาพ
14.แล้วประกบให้เข้ากันเป็นคู่ดังภาพค่ะ
ทิ้งไว้อย่างนั้นจนกว่าจะทำขั้นที่15-16 เสร็จเรียบร้อยค่ะ
15.จัดวางทุกอย่างที่ทำไว้ลงในเบนโตะหรือปิ่นโตค่ะ
ห้ามยัดๆลงไปนะคะ เดี๋ยวจะเละและออกมาไม่น่าทานตอนเปิดรับประทาน
(ภาพข้างบนคือชั้นล่างของเบนโตะหรือปิ่นโตค่ะ)
16.จัดสลัดผักและผลไม้ไว้ชั้นบนของเบนโตะหรือปิ่นโต
เพราะผักและผลไม้ช้ำง่าย อีกอย่าง ก่อนทานข้าว
เราควรทานผลไม้ก่อน เพราะผลไม้และผักย่อยเร็วกว่าข้าว
ตามหลักโภชนาการค่ะ
17.หน้าตาที่จัดออกมาได้ประมาณนี้ค่ะ
18.นำแต่ละชั้นมาวางซ้อนกันแล้วคาดด้วยสายคาดเพื่อความกระชับ
สะดวกเวลาพกพา พร้อมด้วยตะเกียบในกล่องน้อยข้างๆค่ะ
19.และแล้วเราก็เดินทางมาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ...
นั่นคือการยัดเจ้าเบนโตะหรือปิ่นโตลงถุงผ้า
สะดวกและไร้กังวลเวลาพาไปไหนค่ะ
เพราะว่าเล็กกะทัดรัด น่ารักน่าถือใช่มั้ยคะ
ฟมายเหตุ: เวลาเราถือศีลอดนั้นยิ่งสะดวกเลยค่ะ
เพราะข้าวปั้นอยู่ได้นาน ทำตอนรุ่งเช้าก็สามารถทาน
ตอนเปิดบวชได้โดยไม่มีเน่าเสียหรือบูดค่ะ
ที่สำคัญอยู่ที่เราจะเลือกทำอาหารประเภทใดด้วยค่ะ
หากไม่มีน้ำมันหรือกะทิ มักจะบูดช้ากว่าที่ทำจากน้ำมัน
เพราะบางครั้ง เราเคลียร์งานหรือมีเรียนจนเลยเวลาตะวันตกดิน
ไม่มีเวลาออกไปหาอะไรทานข้างนอกได้ทันท่วงที
กล่องข้าวน้อยสามารถช่วยเราได้ค่ะ...
เรื่องงานและเรื่องเรียนก็ไม่สะดุดด้วยค่ะ
แล้วอีกอย่่างสามารถแบ่งปันกับเพื่อนร่วมงานและเพื่อนร่วมห้องได้ด้วยค่ะ
แม้เราจะทานของเขาไม่ได้ แต่เขาทานของเราได้แน่นอนค่ะ
มิตรไมตรีและสายสัมพันธ์ระหว่างกันก็จะก่อเกิดขึ้นจากสิ่งเล็กๆน้อยๆ
แต่เกิดจากการทำบ่อยๆ
ปล.ข้าวปั้นและซูชิม้วนเครื่องแกงคงเหมาะกับบ้านเรา
แต่ไม่เหมาะกับคนญี่ปุ่น เพราะเผ็ดได้ใจค่ะ ฟันธง!!!
วัสลามค่ะ